ผู้แต่ง : อู๋อวี้
ผู้แปล : ลดาอนัน
สำนักพิมพ์ วารา
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
จดหมายลายมือหญิงงามคือเรื่องราวความรัก 12 เรื่อง
เป็นตอนสั้นๆ เฉลี่ยเรื่องละประมาณ 40 หน้า ซึ่งมีทั้งที่สมหวังและไม่สมหวัง...
บางคนรักแต่รู้ตัวช้า บางคนก็โชคดีที่ยังหันกลับมาทัน
แต่ก็มีอีกหลายคนที่พลาดแล้วพลาดเลย เพราะไม่รู้ใจตัวเอง เพราะเข้าใจผิด
เพราะมาที่หลัง และยังมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้ต้องคลาดกัน บางคู่อ่านแล้วหน่วง
บางคู่อ่านแล้วซึ้ง บางคู่ก็ตลกฮา บางคู่ก็รู้สึกว่าสมควร(แล้ว) บางคู่ก็ได้แต่ถอนหายใจ
แต่บางคู่ก็เฮ้ย! มีหักมุมตอนจบด้วย ..
แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายกลับไปชอบท่านอาหญิงของนาง แต่พอเขาทำเรื่องผิดถูกจับขัง
นางก็แสร้งทำตัวป่วยเป็นโรคเบื่ออาหาร ไม่ยอมกินอาหารของคนอื่นนอกจากที่เขาทำ
คนที่บ้านเลยต้องปล่อยเขาออกมาเพื่อทำอาหารให้นางกิน
ทว่าแสร้งไปแสร้งมาตัวนางกลับป่วยจริง และกลายเป็นลิ้นไม่รู้รสอีกเลย
แล้ววันหนึ่งคู่หมั้นในวัยเด็กที่ย้ายบ้านไปอยู่เมืองอื่นก็กลับมา
เพื่อสู่ขอนางตามสัญญาหมั้นหมาย และก็เป็นคู่หมั้นนี่แหละที่ค้นพบความผิดปกติของลิ้นนาง และก็เป็นคนดั้นด้นหาทางรักษา ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ลิ้นนางกลับมารู้รสได้เหมือนเดิม
ต่อให้รู้ว่าใจนางมีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วก็ไม่แคร์ ในขณะที่คนผู้นั้นจนแล้วจนรอดก็ยังคงใจแข็งไม่ตอบรับความรู้สึกของนางสักกะที...
สุดท้ายฝ่ายหญิงก็ move on ปล่อยวางได้สำเร็จ
และตาคู่หมั้นที่ไม่ยอมแพ้ก็ได้ใจสาวไปครอง ..ส่วนความรู้สึกของพ่อครัวหนุ่มก็เฮ้ออออ..
ต้องลองไปอ่านเองเน้อ (แต่ก็แอบสงสารฮีเบาๆ นะ)
เป็นคู่ของคุณหนูตระกูลใหญ่กับท่านกุนซือหนุ่มที่ขาพิการเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น
นางเอกเรื่องนี้แก่นเซี้ยวเหมือนม้าดีดกระโหลก แต่เท่และเด็ดเดี่ยวมากกก
มีความสามารถในการเลียนเสียงและปลอมตัว นางหลงรักท่านกุนซือมาตั้งแต่อายุ 13
ในตอนที่ได้พบกันในงานเลี้ยงหนึ่ง ตั้งแต่นั้นนางก็คอยตามติด ตามตื้อ ขอให้เขาสอนทักษะการใช้เสียงให้ แต่พอเรียนสำเร็จนางก็ยังเกาะติดหนึบเขาเรื่อยมา
นางเอกเปิดเผยจริงใจ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ปิดบังความรู้สึกเลยสักนิด
ส่วนฝั่งท่านกุนซือแม้จะชอบแต่ก็ต้องผลักไส เพราะเขาทั้งจนและแถมยังพิการ
จะคู่ควรกับนางที่มีชาติตระกูลดีได้อย่างไร แต่ฝ่ายหญิงก็สู้ไม่ถอยเว้ยเฮ้ย ไล่ไปก็กลับมา เพราะนางคืออวี้โถว(เผือก) ส่วนเขาก็คือหยวนจื่อ(บัวลอย)ยังไงล่ะ
เหมาะสมกันจะตายย..อิอิ
พอพี่บัวลอยติดโรคระบาด ราชสำนักตัดสินใจจะเผาเมืองที่ติดโรคทิ้ง
พี่บัวลอยกำลังจะตาย แต่น้องเผือกก็ไม่เคยยอมแพ้ บุกป่าฝ่าดงไปหาหมอเทวดา
และรีบกลับมาชิงตัวพี่บัวลอยไปรักษาเลยจ้า ...สู้สุดใจจริงๆ
” ก็แค่มีปัญหาที่ขาเท่านั้น จะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว ข้าไม่สนใจเรื่องนี้
แล้วก็ไม่สนใจสายตาของคนทั้งโลกด้วย ข้ารู้แค่ว่าข้าชอบเขา ชอบมาตั้งแต่อายุสิบสามแล้ว ชอบท่าทางของเขา ชอบเสียงของเขา ชอบที่เขาเป็นเขา! ”
“ เขามีชีวิตอยู่ข้าก็เป็นเจ้าสาวของเขา เขาตายไปข้าก็เป็นภรรยาหม้ายของเขา
ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วจะอยู่กับใคร? “
ท่านกุนซือที่แอบฟังอยู่กับไอ้หนุ่มนั่นได้ฟังก็อึ้ง ทึ่ง!..เราคนอ่านก็ทึ่งแบบชอบนางอะแมนดี
พี่ชายน้องสาวคู่นี้น่ารัก นิสัยเหมือนกัน สู้ดี ไม่เคยท้อหรือลังเลเลย
เรื่องที่ 3 นางเอกเรื่องนี้เป็นเพื่อนกับนางเอกเรื่องแรก
เป็นสาวอวบที่มักจะพกกล่องอาหารติดตัวและต้องกินอยู่ตลอดเวลา
แต่นางฉลาดและทำการค้าเก่งมาก ตระกูลพ่อค้า+รวยมากๆ ส่วนฝ่ายชายเป็นอดีตลูกขุนนางต้องโทษที่ตกอับ และกลายมาเป็นอาจารย์ในเมืองที่นางอยู่
เพราะตกอับแหละ พี่แกเลยกลายเป็นคนอารมณ์ร้ายขี้โมโห
จึงทำให้ไม่ค่อยมีคนชอบ และวันหนึ่งก็ถูกไล่ออกจากงาน
นางเอกเลยวิ่งตามไปขอร้องให้มาเป็นอาจารย์ส่วนตัวที่บ้านแทน
น้องชอบพี่แกมากก เป็นคนขอแต่งงานเองด้วย
โดยยื่นขอเสนอว่าถ้าครบ 1
ปีแล้วยังทำให้พี่แกรักไม่ได้ ก็จะหย่าพร้อมให้เงินก้อนโต
ให้เอาไปไถ่ตัวนางคณิกาในดวงใจ (ที่มีชะตากรรมคล้ายๆ ตัวเอง) แต่อาจเป็นเพราะอคติมันบังตา
หรือเพราะเดิมพี่แกก็ไม่ชอบที่น้องอวบอ้วน ชอบเอาแต่กิน ไม่มีความเป็นกุลสตรีและทำการค้าเก่งเกินไป
(อดีตลูกขุนนางใหญ่ไงไม่ชอบพ่อค้า)...เพราะไม่ว่าจะทำยังไง พี่แกก็ยังเย็นชา+ชอบโมโหใส่น้องทุกที
ไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้บ้างเลย.... ทว่าพอพี่เริ่มสำนึกได้ทุกอย่างก็สายไปหมดแล้ว
อย่างที่บอกว่ามันมีทั้งที่สมหวังและไม่สมหวัง บางคู่ก็จบเศร้า
แต่บางคู่อีกฝ่ายก็
move on ไปต่อได้ หรือไม่ก็ได้เริ่มต้นใหม่ลงเอยกับอีกคน
สำหรับเราอ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน่วงหรือเศร้ามากนะ อาจเป็นเพราะเรื่องมันสั้นด้วยมั้ง
แต่ถ้าเอาไปเขียนเป็นเรื่องยาว
หรือขยายความลงรายละเอียดให้เห็นชัดกว่านี้ก็ไม่แน่ 55
ปล.แต่เท่าที่สังเกตคู่ที่สมหวังกันส่วนใหญ่ ฝ่ายหญิงมักจะมีวรยุทธ์นะ ไม่รู้ทำไม
55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น