วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566

ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 1-2

 


ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 1-2 (6 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว (九月流火)
ผู้แปล : เม่นน้อย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก หวังเหยียนชิง เป็นบุตรสาวบุญธรรมตระกูลฟู่ เพราะบิดาเคยช่วยอดีตเจิ้นหย่วนโหวหรือท่านผู้เฒ่าฟู่จนถึงแก่ชีวิต ท่านผู้เฒ่าฟู่จึงให้คนไปรับนางเอกที่ไม่เหลือคนในครอบครัวแล้วกลับมาดูแล เลี้ยงไว้ข้างกายคู่กับหลานชายตัวเองกลายเป็นคู่เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ รู้ว่าเด็กทั้งสองชอบพอกัน ก่อนตายเลยสั่งเสียไว้ว่าให้ทั้งสองคนรีบแต่งงานกัน.. แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากท่านผู้เฒ่าฟู่จากไป 'พี่รอง' ที่นางเอกเคารพรักและมอบใจให้กลับไปพยักหน้าตอบตกลงแต่งงานกับคุณหนูสูงศักดิ์ที่มารดาจัดหาให้อย่างเงียบๆ  ปล่อยให้นางเอกถูกคนในบ้านพูดจาดูถูกข่มเหงได้รับความไม่เป็นธรรม และยังบังคับให้นางต้องยอมรับฐานะอนุแบบกรายๆ นางเอกไม่คิดเป็นอนุ และผิดหวังที่พี่รองไปตกลงรับปากเรื่องการแต่งงานกับสตรีอื่นจึงคิดที่จะจากไป ...

แต่ก่อนไปนางเอกอยากเห็นหน้าสตรีที่พี่รองจะแต่งงานด้วย จึงยอมรับปากไปไหว้พระที่วัดกับคนในบ้าน(พี่รอง)ด้วย (บ้านพี่รองกับบ้านเจ้าสาวนัดกันไปไหว้พระเพื่อหมายจะให้คู่หนุ่มสาวได้เห็นหน้ากันก่อนแต่ง บ้านฝั่งเจ้าสาวรู้ว่าเจ้าบ่าวมีน้องสาวบุญธรรมคนงามที่โตมาด้วยกันความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาก็อยากเห็นหน้าไว้ก่อน เพื่อจะได้เตรียมแผนรับมือ) ...แต่ขากลับขบวนรถม้าถูกลอบโจมตี นางเอกเห็นพี่รองกำลังจะถูกลูกธนูยิงใส่จึงรีบเข้าไปช่วยจนทำให้ตัวเองพลัดตกหน้าผาได้รับบาดเจ็บ ศีรษะกระทบกระเทือนส่งผลให้ความจำเสื่อม จำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นไม่ได้ ทว่าถึงจะลืมทุกอย่างในอดีตไปหมด แต่ลึกๆ ในใจของนางเอกกลับยังจำได้ว่าตนเองมีพี่รองอยู่หนึ่งคน..

พระเอก ลู่เหิง รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร นิสัยเด็ดขาด ขี้ระแวง ไม่เคยไว้ใจใครแม้แต่คนในครอบครัวตัวเอง ได้รับตำแหน่งสูงตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นคนสนิทของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน โตมาด้วยกัน เพราะแม่พระเอกเคยเป็นแม่นมของฮ่องเต้สมัยที่อยู่ในจวนอ๋อง พระเอกกับพี่รองของนางเอกไม่ถูกกัน และก็เป็นพระเอกนี่แหละที่เป็นคนลอบโจมตีรถม้าหวังทำร้ายพี่รองนางเอก แต่ดันได้นางเอกมาแทน พระเอกรู้ว่านางเอกเป็นใคร ตอนแรกกะจะเอาคนมาไว้ใช้ต่อรองกับพระรอง แต่พอรู้ว่าคนเขาความเสื่อมก็นึกสนุกเปลี่ยนใจมาสวมรอยเป็น 'พี่รอง' นางเอกแทน ส่วนพี่รองตัวจริงก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ วิ่งวุ่นตามหาคนไปทั่ว พอมาถามพระเอก พระเอกก็แกล้งเซ่อทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่ยอมคืนคนให้ ทำให้พี่รองตัวจริงไขว้เขวหลงคิดว่านางเอกเป็นฝ่ายหนีหายไปเอง ...ปั้นน้ำเป็นตัวโกหกเก่งมาก ขนาดนางเอกที่มีสกิลในการอ่านสีหน้าคนก็ยังถูกหลอกจนหลงเชื่อ คิดว่าพระเอกคือพี่รองของตัวเองจริงๆ...

พระเอกเห็นว่านางเอกอ่านสีหน้าคนออกจับโกหกคนได้ ก็เลยขอให้นางเอกไปช่วยงานตน นางเอกไม่คิดว่าพี่รองจะไว้วางใจถึงขนาดขอให้ตัวเองไปช่วยงานด้วยก็ดีใจมาก... พระเอกให้การดูแลและใส่ใจนางเอกที่เป็นน้องสาวบุญธรรมปลอมๆ เป็นอย่างดี เช่นตอนนางเอกเข้าไปสอบปากคำ พระเอกก็ยืนรออยู่ข้างนอกท่ามกลางลมหนาวไม่จากไปไหนจนกระทั่งนางเอกออกมา พอนางเอกออกมาเห็นก็ทั้งดีใจและตกใจเพราะจิตใต้สำนึกเหมือนจะจำได้ว่าพี่รองไม่เคยรอตัวเองแบบนี้ ตอนนางเอกมีอาการปวดท้องประจำเดือน พระเอกเห็นท่าทางนางเอกตอนหลับดูไม่โอเคเลยให้คนไปตามหมอมา หมอเข้าใจผิดนึกว่าพระเอกเป็นสามีนางเอก พอตรวจเสร็จเลยต่อว่าพระเอกที่ไม่ใส่ใจดูแลภรรยา นางเอกเป็นหนักขนาดนี้ไม่รู้ได้ไง หมอก็แจกแจงต้นตอที่มาที่ไปของโรคและวิธีรักษา พระเอกถึงได้รู้ว่านางเอกดื่มยานอนหลับชนิดแรงเข้าไปเพื่อให้ตัวเองหลับจะได้ไม่ต้องทนปวดอีก และนางเอกก็ใช้วิธีนี้มาตลอดจนเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ พระเอกก็แอบด่าพี่รองตัวจริงในใจไปร้อยรอบที่ไม่เคยสนใจดูแลนางเอกเลย ทำให้นางเอกต้องทนเจ็บอยู่แบบนี้มาตั้งนาน

ความจริงพี่รองตัวจริงก็รักนางเอกแหละ แต่รักน้อยกว่าหน้าที่การงานและความความรุ่งโรจน์ ก็เลยไปรับปากตกลงแต่งงานกับคุณหนูตระกูลขุนนางที่จะทำให้อนาคตตนเองก้าวหน้าได้ คิดว่านางเอกคงเข้าใจไม่ว่าอะไร เพราะที่ผ่านมาก็เห็นรู้ความมาตลอด ตามใจตัวเองทุกอย่างไม่เคยขัดใจ ...ไม่เคยรู้เลยว่านางเอกชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ไม่เคยสนใจความรู้สึกนางเอก ปล่อยปละละเลยมาตลอด มีแต่นางเอกที่รู้ว่าพี่รองชอบหรือไม่ชอบอะไร ชอบกินอาหารแบบไหน ชอบทำอะไร แล้วนางเอกก็จะพยายามเรียนรู้ทำตามความชอบของพี่รองทุกอย่างไม่ว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ ไม่เคยปริปากบ่น อดทนมาตลอด พี่รองก็รู้ทั้งรู้ว่านอกจากท่านผู้เฒ่าหรือท่านปู่กับตัวเองแล้ว คนในบ้านที่เหลือโดยเฉพาะพวกผู้หญิงก็ล้วนแต่ไม่ชอบ+อิจฉาริษยานางเอกกันหมด พอปู่ตายก็ยิ่งได้ที นางเอกก็ได้แต่อดทนๆๆ คิดว่าถึงแม่พี่รองจะอยากให้ลูกชายแต่งงานกับผู้หญิงอื่น แต่ขอแค่ตัวพี่รองไม่ตกลงก็จบ เพราะถึงยังไงตอนนี้พี่รองก็ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแล้วใครจะกล้ามาบังคับ แต่อิพี่รองดันไปตอบตกลงนี่สิ นางเอกเลยเสียใจมากๆ แถมยังมาบังคับให้นางเอกไปเจอหน้าคนที่ตัวเองจะแต่งด้วยอีก ...โคตรเศร้า

พอคนหายไปอิพี่รองถึงได้รู้สึกตัว รู้ว่านางเอกสำคัญกับตัวเองขนาดไหน ที่ผ่านมาคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องเป็นแบบนางเอก คือไม่ต้องพูดก็เข้าใจรู้ว่าตัวเองคิด+ต้องการอะไร แต่จริงๆ มานม่ายช่ายยเน้อ เพิ่งมาเก็ตว่าบ้านตัวเองไม่น่าอยู่ขนาดไหน แล้วที่ผ่านมานางเอกทนได้ยังไง ต้องอยู่แบบถูกทุกคนเมินเหมือนไม่มีตัวตนแบบนี้ทุกวัน พอนางเอกหายตัวไปคนในบ้านพี่รองก็ดีใจ ฝั่งบ้านเจ้าสาวยิ่งโล่งใจ มีตัวเองที่ทุกข์อยู่คนเดียว...ส่วนตัวใจนึงก็แอบสงสารอิพี่รองตัวจริงนะ แต่อีกใจนึงก็ไม่อะ ถ้านางเอกต้องกลับมาอยู่ในสภาพบ้านแบบนี้ก็อย่าเลยดีกว่า ...อยู่อย่างอดทนอดกลั้นไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ต้องคอยมองสีหน้าคนอื่นตลอดเวลา ต้องพยายามเอาใจอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เขาโกรธ ส่วนความต้องการและความรู้สึกของตัวเองจะเป็นไงก็ไม่เคยมีใครมาถาม ...พอไปอยู่กับพระเอกถึงได้มีรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ ไม่ต้องฝืนทำตามใจคนอื่น เพราะพระเอกตามใจทุกอย่าง อยากให้นางเอกเผยนิสัยดั้งเดิมที่เป็นตัวตนจริงๆ ออกมา

นางเอกก็แอบตงิดๆ ว่าทำไมพี่รองดีกับตัวเองจัง แต่พระเอกแหลเก่งมากนางเอกเลยจับโกหกไม่ได้สักที เพราะเวลาสงสัยอะไรพระเอกก็แถได้หมด แถมยังกุเรื่องใส่ร้ายพี่รองตัวจริงบอกให้นางเอกอยู่ห่างๆ อย่าเข้าใกล้คนนี้ นางเอกก็พยักหน้าเชื่อเพราะไม่คิดว่าพี่รองจะหลอกตัวเอง ตอนได้เจอพี่รองตัวจริงก็เลยแทงไปหนึ่งแผล ทั้งที่ในใจลึกๆ ก็รู้สึกแปลกๆ เวลาได้ยินน้ำเสียงของพี่รองตัวจริง...แต่ทำยังไงพระเอกก็ไม่ยอมคืนคน ทำตัวเป็นนกกาเหว่ายึดรังสาริกา หลังๆ คนเริ่มลือกันว่าพระเอกซ่อนหญิงงามเอาไว้ในจวน ลือจนเรื่องไปถึงหูไทเฮา ไทเฮาเอ็นดูพระเอกเหมือนลูกหลานตัวเองเลยอยากจะเห็นหน้าหญิงงามที่ว่า พระเอกถึงได้รู้ว่าตัวเองเริ่มจะเล่นเลยเถิดเกินไปแล้ววว...


วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566

นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง เล่ม 3-5 (5 เล่มจบ)

 


นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง เล่ม 3-5 (5 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : ไป๋ลู่เฉิงซวง (Bai Lu Cheng Shuang)
ผู้แปล : พวงหยก
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ต่อจากเล่มที่แล้ว หลังจากที่น้องสาวนางเอก(คนที่มีวิญญาณทะลุมิติมาสิงร่าง) สับขาหลอกแกล้งตาย จากนั้นนางก็ไปชุบตัวใหม่เปลี่ยนชื่อแซ่เป็นนางคณิกาอยู่ในหอนางโลม วางแผนตกคนมียศถาบรรดาศักดิ์สูงๆ และสุดท้ายก็ตกรัชทายาทได้สำเร็จจนได้เป็นพระสนมของอีกฝ่าย พอมีอำนาจนางก็เริ่มกลับมาหาเรื่องนางเอกอีก ตอนมีงานเลี้ยงก็ทำเป็นชวนนางเอกออกไปเดินเล่นแต่นางเอกไม่ไป เพราะรู้ว่านางต้องมีแผนร้ายชัวร์ๆ พอนางเอกไม่ไป ลับหลังนางก็ไปฟ้องรัชทายาทหาว่านางเอกรังเกียจดูถูกที่นางมาจากหอนางโลมเลยปฏิเสธนาง..จากนั้นก็มีตอนที่ฮ่องเต้ป่วย นางกับรัชทายาทกำลังเดินเอาตัวยาหายากไปถวายให้ฮ่องเต้ที่ตำหนัก ระหว่างทางเจอนางเอกก็เลยชวนไปด้วย นางเอกปฏิเสธไม่ได้เลยต้องไป แล้วก็ตกหลุมพรางตัวร้าย(อีกแว้วววนะจ๊ะ) คราวนี้รัชทายาทเข้าใจผิดนึกว่านางเอกเป็นคนทำจริงๆ ก็เลยเริ่มมีอคติกับพระ-นาง ...

ตอนแรกพระเอกก็อยู่ฝั่งรัชทายาทนี่แหละ แต่หลังๆ พอหมดคู่แข่งรัชทายาทเริ่มนิสัยเปลี่ยน มีแววจะเป็นทรราช แถมยังหูเบาเชื่อนางร้ายอีก พระเอกที่รู้ชาติกำเนิดตัวเองมานานแล้วก็เลยเปลี่ยนใจไม่ช่วยรัชทายาทและ แต่จะเปลี่ยนตัวรัชทายาทแทนไปเลย... เล่ม 1-2 จะเป็นเรื่องในบ้านพระ-นาง พอเล่ม 3 จะเป็นเรื่องในวัง พระเอกวางแผนหลอกเหวินไทเฮา (ตระกูลของเหวินไทเฮามีอำนาจมาก แม้แต่อดีตฮ่องเต้ยังไม่กล้าหือ) ทำให้อีกฝ่ายยอมช่วยยืนยันฐานะองค์ชายของตนและผลักดันให้ตนนั่งตำแหน่งฮ่องเต้ได้สำเร็จ ...ใช่แว้ววว พระเอกก็คือลูกของฮ่องเต้ที่เกิดจากสนมรัก แต่ฮ่องเต้กลัวพระเอกจะไม่รอดเพราะอำนาจของฮองเฮาหรือเหวินไทเฮาในตอนนั้นมีมากเหลือเกิน ก็เลยส่งพระเอกไปให้เสนาบดีกู้เลี้ยง พระเอกรู้ความจริงตั้งนานแล้ว ตอนแรกก็คิดจะเป็นคุณชายสี่ของจวนเสนาบดีไปชั่วชีวิตแหละ แต่พอดีหลังๆ รัชทายาทที่ตนหนุนเริ่มออกแววไม่ดี พระเอกก็เลยตัดสินใจกลับคืนสู่ฐานะเดิม ...

แต่เพื่อให้เหวินไทเฮาคลายใจไม่ระแวงสงสัย บวกกับตอนนั้นยังไม่มีอำนาจมากพอ พระเอกจึงต้องแสร้งทำตัวเป็นฮ่องเต้ที่ลุ่มหลงในสุรานารี ไม่เอาการเอางาน ส่วนนางเอกก็ถูกส่งไปเป็นนางกำนัลของไทเฮาอีกคน เพราะเหวินไทเฮาไม่ชอบนางเอก ผูกใจเจ็บตั้งแต่ตอนที่นางเอกอยู่นอกวังแล้ว ก็เลยไม่ยอมให้นางเอกขึ้นเป็นฮองเฮาหรือแม้แต่พระสนมขั้นต่ำสุด ดังนั้นเพื่อปกป้องนางเอกและทำให้เหวินไทเฮาเชื่อใจ พระเอกก็เลยแสร้งไหลตามน้ำ แต่ก็ไม่ยอมแต่งตั้งใครเป็นฮองเฮาเช่นกัน ตกกลางคืนพอนางเอกหลับพระเอกก็จะแวบไปดู ต่อมานางเอกตรวจเจอว่าตั้งครรภ์ พระเอกเลยใช้ข้ออ้างนี้แต่งตั้งนางเอกขึ้นมาเป็นสนม... แต่ถึงจะได้เป็นสนมแล้ว(ขั้นยังไม่สูงหรอก) พระเอกก็ยังต้องทำเป็นเมิน แสดงให้คนอื่นเห็นว่าตนไม่โปรดนางเอก ไม่เคยไปเยี่ยมหรือมาหา ทั้งๆ ที่ในใจแบบคิดถึงเมียมากกก อยากเจอหน้าอยากกอดสุดๆ 55...จนมีตอนไปร่วมงานล่าสัตว์ที่นอกวัง นางเอกโกรธพระเอกก็เลยยกผ้าคาดเอวที่ตัวเองตั้งใจทำให้พระเอกให้คนอื่นแทน จริงๆ นางเอกยกให้องค์หญิงคนที่เป็นน้องสาวพระเอก แต่องค์หญิงดันไปยกให้แม่ทัพที่เป็นคนสนิทของพระเอกต่อ พอพระเอกเห็นก็รู้ทันทีว่านี่คือของที่เมียนั่งทำเพื่อจะมอบให้ตัวเอง พี่แกเลยโกรธมาก พยายามจะหาทางชิงผ้าคาดเอวคืน55

ในเล่ม 3 จะเป็นการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในราชสำนักระหว่างพระเอกกับเหวินไทเฮา ส่วนน้องสาวนางเอกหลังพระเอกได้ครองบัลลังก์ นางก็ยังได้ตามมาเป็นพระสนมกับเขาด้วยนะ(ตายยากจริงๆ) ตอนแรกก็ยังร้ายแบบโง่ๆ เหมือนเดิม แต่พอถูกลงโทษส่งเข้าตำหนักเย็นนางก็เริ่มคิดได้ พอได้ออกมาใหม่ก็เริ่มปรับปรุงตัวให้นิ่งลง ไม่ทำตัวแบบเดิม เริ่มมีชั้นเชิงมากกว่าเก่า(นิดนึง) ... ในเล่ม 4 หลังโค่นไทเฮาได้สำเร็จ พระเอกอยากจะแต่งตั้งนางเอกขึ้นเป็นฮองเฮาแต่ก็ถูกพวกขุนนาง(พรรคพวกเก่าไทเฮา) ค้านไว้ คือไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมให้นางเอกเป็นฮองเฮาโดยเด็ดขาด(จะกันที่ให้ลูกหลานตัวเอง) ส่วนน้องสาวนางเอกก็สรรหาวิธีใหม่เพื่อดึงดูดใจพระเอก คราวนี้มาแนวคนทรงแบบติดต่อกับสวรรค์เบื้องบนได้ พระเอกก็เลยซ้อนแผน เอาเรื่องที่นางกุขึ้นมาใช้ล้มล้างขุนนางพรรคพวกเก่าของไทเฮาหรือพวกที่คิดทรยศตนซะเลย 

น้องสาวนางเอกได้ใจคิดว่าพระเอกเริ่มให้ความสำคัญกับตนแล้ว คิดว่าเดี๋ยวพระเอกจะต้องมอบตำแหน่งฮองเฮาให้ตัวเองแน่ๆ ก็เลยบุกไปข่มนางเอกถึงตำหนัก แต่กลับเป็นการทำให้ตัวเองต้องเสียทรัพย์สินที่ได้มาไปเกือบหมด หนำซ้ำนางเอกยังเอาของที่ได้จากนางไปบริจาคสร้างสำนักวิชาแล้วได้รับคำชมจากราษฎรกลับมาอีกด้วย แถมสุดท้ายตัวนางก็ไม่ได้เป็นฮองเฮาอย่างที่ฝันแต่ดันได้เป็นธิดาเทพต้องออกจากวังไปอยู่อารามแทน ....แต่ๆๆๆ ยังไม่จบจ้า หลังจากนั้นนางแปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายอื่น นางเอกจากที่ว่าจะปล่อยนางก็เลยเปลี่ยนใจบอกความจริงอดีตคู่หมั้นเรื่องที่น้องสาวยังไม่ตาย และเปิดโปงนางโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง จัดการขั้นเด็ดขาดทั้งบัญชีเก่าและใหม่ครบ

พอจบเรื่องนี้ พระเอกก็ต้องเตรียมรับศึกกับคนตระกูลเหวินของเหวินไทเฮาที่กำลังจะยกทัพมาก่อกบฏ ตอนแรกพระเอกจะส่งนางเอกที่กำลังท้องไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย แต่นางเอกไม่ไปจะขออยู่ที่วังกับสามี สุดท้ายเมืองหลวงถูกตีแตก พระเอกกลับมาช่วยเมียไม่ทัน คือจะกลับไปแหละแต่เจอคนสนิทตีหัวสลบพาหนีก่อน(ไม่งั้นเดี๋ยวตายกันหมด ถ้าพระเอกตายทุกอย่างคือจบ) นางเอกก็คลอดลูกวันนั้นพอดีอีกเลยหนีไปไหนไม่ได้ พอคลอดเสร็จปุ๊บทัพกบฏก็บุกเข้ามาปั๊บ ก็เลยจับนางเอกกับลูกไว้เป็นตัวประกัน...นางเอกเลี้ยงลูกอยู่ในวังและดูแลบ้านเมืองแทนพระเอกไปจนถึงสามปี! ส่วนทัพกบฏก็มัวแต่ยกทัพไปรบกับพระเอก ปล่อยเมืองหลวงให้นางเอกดูแลเพราะคิดว่ามีคนที่ไว้ใจได้คอยคุมอยู่น่าจะไม่เป็นไร ซึ่งคนที่ไว้ใจได้ก็คือพี่ชายนางเอกนั่นแหละ ทำเป็นแกล้งสวามิภักดิ์แต่จริงๆ อยู่ฝั่งพระเอกมาตั้งแต่แรกแล้ว พอทัพกบฏถูกตีจนจนมุมคิดจะยกทัพกลับเข้าเมืองถึงได้รู้ว่าที่ผ่านมาโดนหลอกมาตลอด...

แต่พอพระเอกรบชนะได้กลับเมืองหลวงก็ดันยึกยักไม่กล้าไปหาเมียอีก ไม่กล้าสู้หน้าเกิดใจฝ่อขึ้นมาซะอย่างนั้น น้องสาวที่เป็นองค์หญิงเลยไปหาแทน พอได้เห็นสภาพนางเอกบวกกับฟังที่สาวใช้คนสนิทนางเอกเล่าเรื่องราวตลอดสามปีที่ผ่านมาให้ฟังก็เลยรีบกลับไปลากพระเอกมา ซึ่งความจริงนางเอกอะไม่เคยโกรธหรือโทษพระเอกเลย ไม่เคยตัดพ้อใดๆ เข้าใจพระเอกที่ตัดสินใจแบบนั้น ศรีภรรยาสุดๆ พร้อมเข้าใจและอยู่เคียงข้างสามีเสมอ พอพระเอกกลับมานางเอกก็ถอยไปอยู่ข้างหลังทันที ไม่ออกหน้าดูแลราชสำนักอีกเลย... ลืมบอกไปว่าขาลูกพระ-นางมีปัญหาตั้งแต่เกิดทำให้เดินไม่ได้ นางเอกพยายามตามหาหมอเก่งๆ มารักษาแต่ก็ไม่มีใครรักษาได้ บอกแต่ให้รอดูตอนโตอีกที ลูกนางเอกจะไปไหนก็ต้องนั่งรถเข็น นางเอกไม่เคยให้ลูกเห็นหรือเล่นกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ให้ลูกเข้าใจว่าเด็กอายุเท่านี้ต่างก็ยังไม่มีใครเดินได้เหมือนกัน แต่วันหนึ่งมีนางกำนัลเด็กพลัดหลงเข้ามา ลูกนางเอกเห็นเด็กคนนั้นวิ่งเดินได้เลยรู้ความจริง ก็เลยโกรธนางเอกที่ปิดบังมาตลอด ไม่ยอมมาหามาคารวะแม่ แต่สุดท้ายลูกก็ถูกพระเอกดัดนิสัย...  (พระเอกกลัวลูกจะเอาแต่ใจจนกลายเป็นฮ่องเต้ทรราช เลยต้องรีบแก้นิสัย)

ตอนแรกคิดว่าหลังล้มเหวินไทเฮากับพรรคพวก รวมถึงน้องสาวนางเอกลงได้แล้วทุกอย่างก็จะจบ คงไม่มีตัวร้ายอะไรโผล่มาอีก แต่ที่ไหนได้ยังไม่จบจ้า โอ๊ยยย...แถมรอบสุดท้ายนี้ยังเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงไม่เคยสงสัยมาก่อนเลยด้วยอะ ไม่น่าเลย ความจริงชีวิตนางในตอนนี้ก็ดีมากอยู่แล้วนะ แต่ดันทะเยอทะยานโลภมากอยากได้มากกว่านั้น บวกกับแค้นเก่าที่วางไม่ลง สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย...เฮ้ออ (แอบสงสารคนที่ต้องตายเพราะนางนะ)

อ่านจบแว้ววว อยากจะบอกว่านางเอกเรื่องนี้คือเดอะแบกของจริง ยอดภรรยา ศรีทนได้ เป็นภรรยาที่เข้าอกเข้าใจสามีสุดๆ เยือกเย็น ใจกว้าง ปลงตกเกือบทุกเรื่อง ไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่ถ้าใครมาทำร้ายคนที่นางรักนั่นก็อีกเรื่องนะ(แก้แค้นสิบปียังไม่สาย) เวลาพระเอกงอนที่นางเอกไม่หึงตัวเองด้วยการไม่มาหาแต่ไปเยือนตำหนักอื่นแทน นางเอกก็เฉย ใช้ชีวิตได้ตามปกติจนสุดท้ายพระเอกก็ต้องกลับมาเอง55 ส่วนพระเอกก็ยังมีนิสัยเด็กๆ อยู่บ้าง บางทีก็ความรู้สึกช้า ไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองบางครั้งมันก็ทำให้ผู้หญิงเขาคิดไปไกลแล้วถลำลึก แต่วางใจได้นะเพราะถึงพระเอกเรื่องนี้ถึงจะมีเมียและสนมในวังหลังเยอะ แต่พี่แกก็รักและมีอะไรกับนางเอกเพียงแค่คนเดียว กับคนอื่นคือเล่นละครหมด กับพวกหญิงคณิกาพระเอกก็เห็นเป็นเพื่อน มีแค่นางเอกคนเดียวที่พระเอกรักจริงๆ ส่วนฝ่ายตรงข้ามบรรดาตัวร้ายทั้งหลายที่คิดร้ายกับพระนางต่างก็ได้รับผลกรรมและมีจุดจบที่สาสม ...อ้อออ มีอิตาอดีตคู่หมั้นที่กลับตัวกลับใจได้ สุดท้ายก็ตัดใจจากนางเอก(ล่ะมั้ง) แต่ก็ไม่ยอมแต่งงานใหม่ ขอมุ่งเข้าทางธรรม และกลายมาเป็นหนึ่งในขุนนางที่พระ-นางไว้ใจ (เพิ่งมารู้สึกตัวว่าคนที่ตัวเองอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตก็คือนางเอก กว่าจะตัดใจได้คือเพ้อหนักมาก ถ้าเป็นเรื่องอื่นคงโดนประหารไปแล้วมั้งเนี่ย55)



วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566

1995 หวนวารวัน ฉันและนาย 3 เล่มจบ

 


1995 หวนวารวัน ฉันและนาย 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
อ้ายค่านเทียน (Ai Kan Tian)
ผู้แปล เนโกะ
สำนักพิมพ์ Lilac

ความรู้สึกหลังอ่านจบอาจมีสปอยล์

คนเขียนเดียวกับเรื่อง 1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา ในตอนพิเศษจะมีตัวละครบางตัวจากเรื่อง 1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเราออกมาแจมนิดนึง และจะมีกล่าวถึงพระ-นายในเรื่องนั้นเล็กน้อย

หลีโจว นายเอกเรื่องนี้ตายและได้ย้อนกลับมาอยู่ในร่างตัวเองเมื่อตอนอายุ 15 สมัยเด็กนายเอกถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไปและได้ผู้เฒ่าหลีช่วยเหลือเอาไว้ระหว่างทาง นายเอกที่ตอนนั้นเพิ่ง 2 ขวบยังจำบ้านและชื่อของตัวเองไม่ได้นอกจากคำว่า 'โจว' ทั้งยังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ผู้เฒ่าหลีสงสารเลยขอรับนายเอกมาเลี้ยงเองพร้อมกับจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้ นายเอกเลยไม่ต้องถูกส่งไปบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า พอนายเอกเข้ามาอยู่บ้านตระกูลหลีได้ไม่นานแม่บุญธรรมก็มีลูกชาย ทว่าถึงจะมีทายาทเป็นของตัวเอง แต่ทุกคนในตระกูลหลีก็ยังรักและเอ็นดูนายเอกเหมือนเดิมไม่ต่างจากลูกหลานแท้ๆ อะไรที่น้องชายมีนายเอกก็ต้องมี แถมน้องชายหรือพระเอก หลีเจียง ก็ยังติดนายเอกที่เป็นพี่ชายไม่แท้สุดๆ อีกด้วย แต่ชาติก่อนนายเอกถูกพ่อบุญธรรมหลอก ทำให้ห่างเหินเข้าใจผิดกับน้องชายและครอบครัวบุญธรรม แถมยังถูกอิพ่อบุญธรรมหลอกเรื่องครอบครัวแท้ๆ ทำให้นายเอกเข้าใจว่าตนถูกพ่อแม่แท้ๆ ทอดทิ้ง และคิดว่ามีแต่พ่อบุญธรรมเท่านั้นที่ดีกับตน ชาติก่อนนายเอกเลยไม่ได้ตามหาหรือกลับไปหาครอบครัวแท้ๆ ของตัวเอง ท้ายที่สุดก็ต้องกลายเป็นแพะรับบาปให้พ่อบุญธรรมและตายไป

พอได้ย้อนกลับมาอีกครั้งนายเอกเลยตั้งใจว่าคราวนี้จะกลับไปหาครอบครัวเดิม จะไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับน้องชาย จะไม่ทำตัวห่างเหินกับบ้านตระกูลหลี จะไม่เชื่อคำพูดและยอมเป็นหมากให้พ่อบุญธรรมอีกแล้ว นายเอกรู้ว่าน้องชายจะประสบอุบัติเหตุทำให้ขาเกือบพิการเดินเหินไม่สะดวกต้องใช้ไม้เท้าช่วย หลังเกิดเหตุการณ์นี้ผู้เฒ่าหลีกับแม่บุญธรรมก็เสียใจมากจนอาการป่วยทรุดลง ส่วนพระเอกก็กลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวนง่าย ขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน สองพี่น้องเริ่มห่างเหินและค่อยๆ กลายเป็นศัตรูกัน นายเอกจำได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดตอนช่วงไหนจึงคอยเฝ้าจับตาดูน้องชายอยู่ตลอด พอถึงตอนเกิดเหตุก็เลยช่วยทัน ส่วนตัวนายเอกก็ได้รับบาดเจ็บแทนเพราะปกป้องน้อง นายเอกคิดว่าอุบัติเหตุนี้น่าจะมีคนจงใจสร้างขึ้น นายเอกสงสัยพ่อบุญธรรมเลยบอกให้คนสนิทของตา(ผู้เฒ่าหลี) ไปลองสืบดู ...

นายเอกเห็นว่าชาตินี้น้องปลอดภัยแล้ว ตากับแม่ก็ยังสบายดี เลยไปบอกแม่บุญธรรมว่าจะกลับไปตามหาครอบครัวที่แท้จริง แม่บุญธรรมก็ยินดีอนุญาตให้นายเอกไปตามหา ความจริงนายเอกไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตระกูลหลี เพิ่งมารู้ตอนประมาณ 15 นี่แหละเพราะพ่อบุญธรรมจงใจทำให้รู้ เพื่อจะได้ควบคุมนายเอกและเก็บไว้เป็นเบี้ยให้ตัวเองใช้ ...ชาตินี้นายเอกไม่หลงกล ออกไปตามหาครอบครัวที่แท้จริงจนเจอ และได้รู้ว่าความจริงพ่อแม่แท้ๆ ก็ตามหาตัวเองมาตลอดสิบกว่าปีไม่เคยหยุดหาเลยสักวัน

พ่อแม่แท้ๆ นายเอกอยู่บนเกาะเป็นเจ้าของเรือ เป็นคนมีชื่อเสียงของเกาะ มีแต่คนนับถือ เพราะเป็นคนดี ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคน เลยมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ตอนเจอนายเอกครั้งแรกพ่อแท้ๆ คือจ้องนายเอกไม่วางตาเลย เพราะนายเอกหน้าเหมือนภรรยาหรือแม่มาก รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆ พ่อก็จะขอรับเป็นลูกบุญธรรม พอนายเอกกลับที่พัก พ่อก็ให้ลูกศิษย์ตามไปดูและโทรไปบอกภรรยา ภรรยาก็บอกให้ใจเย็นเพราะก่อนหน้านี้โดนหลอกมาเยอะ ให้รอตัวเองกลับไปก่อน วันรุ่งขึ้นนายเอกจะนั่งเรือออกจากเกาะเพื่อไปตัดไหมที่โรงพยาบาล แต่พ่อเข้าใจว่านายเอกจะหนีกลับบ้านเดิมที่เมืองหลวงเลยให้คนไปหิ้วตัวกลับมา55 จากนั้นก็พาไปเจอภรรยา แวบแรกที่เห็นหน้านายเอก แม่แท้ๆ คือร้องไห้เลย เพราะนายเอกเหมือนแม่มากกกจริงๆ จากนั้นก็พากันไปตรวจดีเอ็นเอ ผลออกมาก็ใช่

จากนั้นไม่นานพระเอกก็ทนคิดถึงพี่ชายไม่ไหวเลยมาหาถึงเกาะ อยู่ไม่กี่วันนายเอกก็ต้องกลับเพื่อไปทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านออกและย้ายมาเรียนที่นี่เพื่อจะได้อยู่กับพ่อแม่แท้ๆ พ่อแม่ของนายเอกคือดีมากๆๆ รักลูกมากกก พอเจอลูกก็จัดงานเลี้ยงฉลองประกาศให้ทุกคนบนเกาะรู้ว่านี่คือลูกชายฉันนะกลับมาแล้ว พยายามชดเชยให้นายเอกทุกอย่าง พ่อนายเอกคือคลั่งลูกโอ๋ลูกสุดๆ อยู่ข้างนอกคือดุดันเคร่งขรึม เป็นนายใหญ่เป็นหัวหน้ามีแต่คนเกรงใจเคารพนับถือ แต่พออยู่กับลูกเมียคืออ่อนโยนสุดๆ ยิ้มแย้มเอาอกเอาใจ เห็นอะไรดีๆ ออกใหม่ก็ต้องซื้อกลับมาให้ลูกเมีย ตอนนายเอกต้องไปโรงเรียนพ่อก็ไปซื้อบ้านหลังใกล้ๆ โรงเรียนไว้ให้ เพื่อจะได้คอยดูแลไปรับไปส่ง ลูกอยากได้อะไรก็ไม่เคยปฏิเสธ ให้มากกว่าที่ขอด้วยซ้ำ เอ็นดูพ่อมาก ขำเวลานายเอกต้องไปโรงเรียนแล้วพ่อคืองอแง ทำเป็นกินข้าวช้าดึงเวลาเพราะอยากอยู่กับลูกนานๆ ไม่อยากให้ลูกไป55 เวลานายเอกต้องไปไหนไกลๆ ก็ทำหน้าเศร้าไม่อยากห่างลูก ตาแดงก่ำจะร้องไห้ จนแม่ต้องคอยเตือนตลอด55

แต่เข้าใจนะ เพราะลูกหายไปตั้งแต่สองขวบ พ่อไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ลูกเติบโตเลย พลาดวัยเด็กของลูกไปเยอะ เลยติดลูกเป็นพิเศษ แล้วนายเอกก็เป็นเด็กดีพ่อก็ยิ่งรัก จากนั้นไม่นานพระเอกก็ก่อเรื่องที่โรงเรียนจนได้ย้ายมาเรียนบนเกาะกับนายเอก พระเอกดีใจมากให้คนไปซื้อบ้านใกล้ๆ นายเอกไว้ เวลาเลิกเรียนต้องขี่จักรยานกลับ พระเอกกลัวพี่จะกลับก่อนเลยชอบล็อกรถนายเอกไว้กับรถของตัวเอง เพื่อให้กลับพร้อมกัน แต่เรียนที่นี่ได้ไม่นานพระเอกก็ต้องกลับไป ตอนแรกพระเอกคิดว่าจะได้เรียนที่นี่จนจบ แต่จริงๆ คนสนิทและตากะให้เรียนที่นี่แค่ครึ่งปี พระเอกไม่รู้หลงดีใจ พอมารู้ความจริงก็โกรธมาก โกรธนายเอกด้วยที่รู้มาตลอดแต่ไม่เคยบอก นายเอกเลยต้องง้ออยู่นานกว่าพระเอกจะหายงอน

คุณตาของพระ-นายเริ่มสุขภาพไม่ดี ไปรักษาที่เมืองนอกมาแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ตากลัวว่าจะอยู่ได้ไม่นานเลยให้คนสนิทเร่งสอนทุกอย่างให้พระเอกเพื่อจะได้มารับช่วงต่อ พระเอกเรียนหนักมากๆ ต้องเรียนหลายอย่างเพื่อจะได้รับช่วงต่อจากตา ไม่มีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนเด็กวัยเดียวกัน อายุแค่สิบกว่าแต่ภาระบนบ่าก็หนักไม่น้อยกว่าผู้ใหญ่วัยทำงานแล้ว แถมยังต้องเตรียมตัวไว้รับมือกับพ่อแท้ๆ ที่คิดจะทำร้ายตนเองและทำลายตระกูลหลีอีกด้วย นายเอกมารู้ความจริงที่หลังว่าในชาติก่อนจริงๆ แล้วตาไม่ได้ไม่อยากเจอตัวเอง แต่เป็นเพราะอาการป่วยต่างหาก บวกกับถูกพ่อบุญธรรมขัดขวางจึงทำให้เข้าใจผิด นายเอกรู้สึกผิดมาก เข้าใจแล้วว่าตารักและห่วงใยตัวเองขนาดไหน พอรู้ว่าพระเอกต้องแบกรับอะไรบ้างเลยขอพ่อแม่แท้ๆ ย้ายมาเรียนที่เมืองเดียวกับพระเอก เพื่อจะได้ช่วยดูแลพระเอกกับตารวมถึงแม่บุญธรรมด้วย พ่อแม่แท้ๆ ก็ตามมาซื้อบ้านที่นี่ให้และค่อยๆ ย้ายตามมา

ลืมบอกไป พอนายเอกกลับมาไม่นานพ่อก็เริ่มอยากทำธุรกิจอื่นที่อยู่บนบก เพราะไม่อยากให้ลูกตากแดดตากลมลำบากอยู่กลางทะเล อยากสร้างกิจการอย่างอื่นให้ลูก นายเอกก็อาศัยความทรงจำจากชาติก่อนช่วยพ่อเลือกและตัดสินใจเรื่องธุรกิจ สุดท้ายกิจการรุ่งเรืองสุดๆ นอกจากเรือ พ่อก็มาทำโรงงานขายบะหมี่ ทำรับเหมาก่อสร้าง แล้วก็เริ่มต่อยอดไปเรื่อยๆ หลังๆ บ้านนายเอกคือรวยพอๆ กับบ้านพระเอกแล้วนะ ครอบครัวนายเอกไปมาหาสู่กับครอบครัวบุญธรรมจนสนิทสนม แม่ๆ ทั้งสองบ้านสนิทสนมกันจนเหมือนพี่น้องแท้ๆ ต่างก็รักพระ-นายเหมือนลูกของตัวเอง ชาตินี้แม่บุญธรรมอาการดีขึ้น ไม่มีเรื่องทำให้สะเทือนใจเหมือนชาติก่อนเพราะได้พระ-นายปกป้องอย่างดี ได้หย่ากับสามีอย่างเรียบร้อยสงบสุข หลังหย่าชีวิตพ่อพระเอกคือเริ่มดิ่งลงๆ เพราะพอไม่มีตระกูลหลีหนุนหลังอะไรๆ ก็ไม่ได้ง่ายสบายเหมือนแต่ก่อน แถมหลานชายที่ตัวเองรักยิ่งกว่าลูกแท้ๆ ก็ยังไม่เอาไหนดีแต่ผลาญเงิน สุดท้ายก็มีจุดจบไม่สวยทั้งคู่ ทำตัวเองทั้งนั้น ...ถ้าดีๆ รักลูกรักเมียแบบพ่อนายเอกคงไม่เป็นแบบนี้หรอก นี่อาราย เกลียดเมียเกลียดบ้านเมียไม่พอ แม้แต่ลูกแท้ๆ ตัวเองก็ยังลงมือทำร้ายได้ ...โหดร้ายเกิน

พระเอกเรื่องนี้คือติดนายเอกสุดๆ เหมือนลูกหมาตัวโตๆ อยู่กับคนอื่นคือไม่ยิ้มเคร่งขรึมเย็นชา ไม่ให้ใครเข้าใกล้ แต่พออยู่กับนายเอกคือตรงข้ามทุกอย่างจ้า ยิ้มง่ายอ่อนโยนขี้อ้อน ชอบกัดหูเขาด้วย ถ้าอยู่บ้านหลังเดียวกันพอตกกลางคืนพระเอกก็ชอบหาข้ออ้างมานอนที่ห้องนายเอกตลอด ชอบนายเอกมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอกเขา พยายามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีใครดูออก นึกว่าพี่น้องคู่นี้สนิทกันเฉยๆ แต๊ะอั๊งแบบเนียนๆ มาตลอดแต่นายเอกก็ไม่ได้คิดมาก ยังไม่เอะใจ พอเริ่มคิดก็ขอไปทำงานนอกสถานที่กับทางมหาวิทยาลัยทันทีเลยจ้า55 (แต่ผ่านไปไม่กี่วันพระเอกก็ตามมาหาอยู่ดี)

พระ-นายสนิทและใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาพระเอกทำตัวติดหนึบดูแลใกล้ชิด แกะกุ้ง ป้อนผลไม้ให้นายเอก คนในครอบครัวเลยไม่เคยคิดว่ามันแปลกเพราะเห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว พอถึงวันที่พระ-นายมาสารภาพว่าคบกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็โอเคไม่คัดค้านเลย ขอแค่ลูกๆ มีความสุขก็พอ มีแต่พูดให้กำลังใจบอกว่าเส้นทางสายนี้อาจจะลำบากแต่ขอให้ทั้งสองคนอย่ายอมแพ้หรือล้มเลิกกลางคันนะ ...ตอนพิเศษจุใจ มีเรื่องลูกของพระ-นายด้วย คนโตเหมือนนายเอก ส่วนคนเล็กเจ้าเล่ห์แสบเหมือนพระเอกเด๊ะ 

พระ-นายจากเรื่อง Back to 1988 กับเรื่องนี้มีสิ่งที่เหมือนกันคือมีครอบครัวที่รักและดีกับตัวเองมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรคนในครอบครัวก็พร้อมยืนเคียงข้างให้การสนับสนุนเสมอ สถาบันครอบครัวอบอุ่นแข็งแกร่งเป็นเกราะคุ้มกันภัยที่ดีเยี่ยมจริงๆ




วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566

นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง เล่ม 1-2

 


นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง เล่ม 1-2 (5 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : ไป๋ลู่เฉิงซวง (Bai Lu Cheng Shuang)
ผู้แปล : พวงหยก
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เสิ่นกุยเยี่ยน คุณหนูสามตระกูลเสิ่นที่เกิดจากอนุ เพราะแม่เคยเป็นอดีตสาวใช้ผู้ติดตามของภรรยาเอก แล้วต่อมาก็ได้เป็นอนุสามีเขา จึงทำให้เมียเอกพ่อไม่พอใจแม่นางเอกอย่างแรง คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งรังแกนางเอกกับแม่อยู่ตลอด แม่นางเอกก็เป็นประเภทไม่สู้คนปล่อยให้เขารังแก ส่วนนางเอกก็เคยสู้ไปที แต่ผลรับที่ได้ก็คือการที่แม่ถูกคนจับโยนลงสระน้ำเกือบตายโดยไม่อาจเอาผิดใครได้ นางเอกก็เลยเก็บงำประกายไม่ทำตัวฉลาดอีก ไม่ว่าจะถูกใครกลั่นแกล้งรังแกยังไงก็ได้แต่กัดฟันอดทน เพราะรู้ว่าไม่มีใครคอยออกหน้าช่วยปกป้องตัวเองและแม่

นางเอกเคยถูกนักพรตทำนายว่ามีชะตาเป็นเลิศและมีดวงเกื้อหนุนส่งเสริมผู้เป็นสามี จึงทำให้มีตระกูลใหญ่มากมายอยากได้นางเป็นลูกสะใภ้ แต่สุดท้ายคนที่โชคดีได้หมั้นหมายกับนางเอกก็คือบุตรชายคนโตของจวนอัครเสนาบดี หรือบัณฑิตอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ทว่าในตอนที่ใกล้จะแต่งงาน อิตาคู่หมั้นก็ดันไปตกหลุมพรางแผนการของน้องสาว(คนละแม่)ของนางเอกจนได้เสียกัน แต่อิตาคู่หมั้นก็ยังยืนกรานไม่ขอแต่งกับคนน้องจะแต่งกับคนพี่อย่างเดียว ส่วนนางเอกก็ให้อภัยคู่หมั้นและยังยินดีที่จะแต่งกับเขาเหมือนเดิม ...อิน้องโกรธที่แย่งคู่หมั้นพี่สาวไม่สำเร็จก็เลยไปกระโดดสระน้ำกะฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นก็มีวิญญาณของหญิงสาวจากยุคปัจจุบันมาอยู่ในร่างนี้แทน ...คนที่มาใหม่ก็อ่านนิยายแนวทะลุมิติมาเยอะ รู้หลักการของการทะลุมิติดีเหลือเกิน55 (เหมือนแอบแซะพวกนางเอกที่ทะลุมิติมา55) รู้ว่ายุคโบราณบุรุษเป็นใหญ่ ต้องหาบุรุษไว้พึ่งพิง นางก็เลยไปเล็งคู่หมั้นนางเอกเพราะเห็นว่าหน้าตาดีมีชาติตระกูล แล้วไหนๆ ก็เคยมีสัมพันธ์กับร่างนี้มาแล้ว ก็เลยลากอิตาคู่หมั้นของพี่สาวไปกินอีกรอบในห้องเก็บฟืน..เหอๆ

อิตาคู่หมั้นก็ถูกลีลาความใจกล้าของน้องสาว(ที่ในร่างมีวิญญาณสาวยุคปัจจุบัน) จับซะอยู่หมัด ไปไม่เป็นเลยนะจ๊ะ เลยมีสัมพันธ์กันอีกรอบและถูกจับได้ ...อะไรเนี่ย??? บัณฑิตอันดับหนึ่งของเมืองจริงอะ รอบแรกยังพอเข้าใจเพราะโดนวางยา แต่รอบสองนี่ไม่ไหวแล้วมั้งคุณพี่...แต่ๆๆ อิตาคู่หมั้นก็ยังไม่ยอมแต่งกับคนน้องอยู่ดี ขนาดได้เสียกับเขาไปแล้วสองรอบและถูกจับได้ ก็แค่ยอมรับผิดขอโทษ แต่ก็ยังยืนกรานจะแต่งกับนางเอกคนเดียวเหมือนเดิมไม่เอาคนน้อง คือไม่รับผิดชอบอะไรเลยแบบนี้ก็ได้เหรอออ แค่พาพ่อมาแล้วขอโทษก็จบเหรออ ส่วนนางเอกก็ยังยอมแต่งกับเขาตามเดิม ทั้งที่ในใจเริ่มไม่โอเค หมดความเชื่อและไม่ได้อยากแต่งแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น เพราะนางเอกอยากออกจากบ้านนี้เต็มแก่แล้ว ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อยากหาทางพาแม่ออกไปอยู่ที่อื่น และการแต่งงานก็คือหนทางเดียว ก็เลยต้องอดทนๆๆ...แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พัง เพราะน้องสาวดันท้อง แถมแม่ก็มาตายในวันแต่งงาน สุดท้ายการแต่งงานที่เฝ้าฝันว่าจะเปลี่ยนชีวิตก็ถูกแย่งชิงไปต่อหน้าต่อตา...ความอดทนม่ายล่ายช่วยอารายยยเบยยย

ต่อมา(ไม่ถึงวัน) นางเอกก็ถูกพระเอกหรือ กู้เจาเป่ย คุณชายสี่แห่งจวนอัครเสนาบดี(น้องชายอดีตคู่หมั้น) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้เสเพล ชื่อเสียงย่ำแย่ ไม่เอาการเอางานหมายตา พระเอกก็เนาะ อยากเห็นหน้านางเอกว่าสวยจริงไหมก็แทนที่จะหาวิธีที่มันดีๆ หน่อย นี่อารายย จู่ๆ ก็มาปีนเข้าห้องผู้หญิงเขาเฉย แถมยังให้คนจับได้อีก นางเอกที่ถูกทำให้ชื่อเสียงเสียหายไม่มีทางเลือกอื่นก็เลยต้องยอมแต่งงานออกเรือนกับพระเอกปายย...แต่งไปก็ไปเจอกับน้องสาวที่แต่งมาก่อน น้องสาวนี่ก็ร้ายแบบตลก ร้ายแบบโง่ๆ ไม่มีชั้นเชิงอะไรเลย คือออกแนวมโน คิดว่าคนที่ทะลุมิติมาก็ต้องเป็นนางเอกสิ ต้องเป็นศูนย์กลางมีแต่ผู้มารุมรัก ผู้ชายหล่อหรือพระเอกก็ต้องชอบฉันเป็นของฉันคนเดียว ส่วนนางเอกก็คือตัวประกอบที่มีดีแค่หน้าตาและต้องถูกกำจัด

นางก็เลยพยายามหาเรื่องใส่ร้ายนางเอกอยู่ตลอด พยายามจะโชว์ความฉลาดอยากให้คนโบราณประทับใจเหมือนนางเอกที่ทะลุมิติมาเรื่องอื่นๆ แต่ก็แป้กทุกครั้ง เช่น เอาบทกลอนที่ตัวเองรู้มาพูดโชว์ แต่ก็ไม่รู้ว่ากลอนนี้ใครแต่ง? แต่งขึ้นในสมัยไหน? แล้วปรากฏว่ากลอนบทที่นางพูดก็ดันอยู่ในยุคนั้นพอดี ทุกคนรู้จักกันหมด แต่นางก็ดันเคลมไปว่าตัวเองเป็นคนแต่งนะ สุดท้ายพอเขาเฉลยก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ แล้วก็มีเต้นโชว์ กะว่าคนต้องชอบแน่ๆ (นางเอกที่ทะลุมิติมาเต้นแล้วก็มีแต่คนชอบไม่ใช่เหรอ) แต่ทุกคนคือหน้าเหวอกันหมด คิดว่านางไม่รู้กาลเทศะมานุ่งน้อยห่มน้อยเต้นแบบนี้ได้ไง ทำตัวเหมือนพวกเต้นกินรำกิน สรุปไม่มีคนชอบ มีแต่คนดูถูกเหยียดหยาม คือนางร้ายแบบตรงๆ ทื่อๆ อะ ไม่ได้ซับซ้อนหรือมีแผนการล้ำลึกอะไรเลย เดาง่าย แต่ก็ทำให้คนเชื่อและตกหลุมพรางได้ทุกที ทำไมนะ55

ส่วนนางเอกก็คนดี แม่พระ เจ็บแล้วไม่ค่อยจำ ไหนว่าเก็บงำความฉลาดเอาไว้ไง นี่เราว่าน้องสาวนางก็ไม่ได้ฉลาดหรือมีแผนการลึกล้ำอะไรเลยนะ แต่นางเอกก็ยังตกหลุมพรางได้แทบทุกครั้ง...อารายว๊า เวลาโดนตบโดนโบยก็ไม่มีใครมาช่วยทัน เจ็บจริงตลอด พระเอกก็นิสัยเหมือนเด็ก คือเริ่มเดาออกแหละว่าชื่อเสียงแย่ๆ ทั้งหลายก็เป็นแค่สิ่งที่พระเอกจงใจสร้างขึ้นเพื่อปกปิดความสามารถและแผนการบางอย่าง ที่ไปเที่ยวหอคณิกาบ่อยๆ ก็น่าจะไปทำงานหรือหาข่าว แล้วพี่แกก็น่าจะยังไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงด้วย นางเอกน่าจะคนแรกที่พระเอกมีอะไรด้วยจริงๆ คนอื่นน่าจะแค่นัวๆ แต่ไม่ถึงขั้นนั้น ...แต่ไม่ว่าจะยังไงนางเอกก็ไม่เคยแสดงท่าทีหึงหวงหรือไม่พอใจที่พระเอกมีพฤติกรรมแบบนั้นเลย หลังวันแต่งงานพระเอกไปอยู่หอคณิกาไม่กลับบ้าน นางเอกก็ชิลๆ แถมให้คนไปส่งเงินให้ด้วย เห็นพระเอกพลอดรักกับอนุในบ้านก็เฉย พระเอกไปนอนห้องอนุก็เฉย ...

ตอนแรกที่พระเอกยังไม่ได้ชอบนางเอกก็ยังไม่คิดอะไร แต่หลังๆ พอชอบก็เริ่มไม่พอใจที่เมียเอาแต่เฉยไม่มีท่าทีหึงหวงบ้างเลย นางเอกคือใจเย็นไม่อิจฉาริษยา เข้าใจว่าผู้ชายก็ต้องมีเมียเยอะไม่ได้คาดหวังว่าพระเอกจะมีตัวเองคนเดียวอยู่แล้ว แถมพระเอกก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนแต่งด้วย ก็เลยไม่ได้คิดมาก ..นางเอกเป็นคนใจเย็น ชอบช่วยเหลือคน พอแต่งงานออกมาก็เอาเงินเก็บไปเปิดสำนักศึกษาให้เด็กๆ ลูกชาวบ้านได้เรียน เห็นผู้อพยพคนตกยากก็เปิดโรงทานช่วยแจกโจ๊ก หรือพอรู้ว่าเด็กที่เคยเรียนในสำนักศึกษาจะมาเรียนไม่ได้อีกเพราะต้องช่วยงานที่บ้าน นางเอกก็ตามไปดูจนรู้สาเหตุว่ามีขุนนางทุจริตแอบเก็บภาษีเกิน ด้วยความหวังดีก็เลยพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมให้ ทว่าถึงจะหาคนผิดช่วยชาวบ้านได้สำเร็จ แต่ก็ทำให้บางคนผูกใจเจ็บและตามมาเอาคืน..จากเรื่องดีๆ เลยกลายเป็นโศกนาฏกรรมแทน

ส่วนพระเอกหลังจากแต่งงานกับนางเอกชีวิตก็เริ่มรุ่ง จับพลัดจับผลูได้เข้าวัง ได้ช่วยอารักขาฮ่องเต้ตอนมีมือสังหารลอบเข้ามาในวัง ฮ่องเต้ก็เลยแต่งตั้งให้พระเอกเป็นรองเสนาบดีกรมอาญา จากคุณชายเสเพลไม่เอาถ่านไม่เคยสอบรับราชการจู่ๆ ก็มาแรงแซงทุกคน อดีตคู่หมั้นเก่าของนางเอกอิจฉาพระเอกหรือน้องชายตัวเองที่ได้ตำแหน่งที่ตนหมายตา เลยวางแผนคิดปองร้ายพระเอกและก็ถูกจับได้ แต่พ่อพระเอกก็ไม่เอาเรื่อง กลับโยนความผิดให้บ่าวไพร่และขอให้พระเอกเปลี่ยนไปรับตำแหน่งฝ่ายบู๊ที่ขั้นต่ำกว่าแทน ...เหอๆ

ส่วนนางร้ายหรือน้องสาวนางเอกพอเห็นว่าบุรุษที่ตนคิดพึ่งพิงไม่เป็นดังหวัง ก็เริ่มหาตัวสำรอง หาแผนอื่น เข้าไปตีสนิทกับฮูหยินคนหนึ่งที่สามีเขาเป็นญาติกับแม่ทัพที่กำลังมีอำนาจ ฮูหยินคนนั้นก็ใสซื่อนึกว่าเขาจริงใจ เล่าเรื่องในบ้านเรื่องสามีตัวเองให้เขาฟังหมด น้องสาวนางเอกเลยรู้หมดว่าสามีของฮูหยินคนนี้ชอบอะไรยังไง แล้วก็ไปแอบได้เสียกันจนเกือบถูกจับได้ (ถึงไม่เห็นกับตา แต่ทุกคนก็รู้แล้วว่านางทำอะไร) เพราะตอนที่ไปจับน้องสาวไหวตัวทัน แสร้งบีบน้ำตาเล่นละครว่ามาเพื่อหาคนช่วยเรื่องเส้นทางขุนนางของสามี อิคู่หมั้นเก่านางเอกก็เชื่อแถมยังซึ้งอีก(หลอกง่ายจริงๆ พับผ่า) คิดว่าเมียทำเพื่อเรา แต่สุดท้ายเรื่องที่นางไม่ได้ท้องจริงก็ถูกคนรู้ บวกกับข้อหาสวมหมวกเขียวให้สามีก็เลยโดนโทษโบยและหย่า ตอนแรกอิน้องสาวก็คิดว่าหย่าก็หย่า กลับบ้านก็ได้ฟะ ตังค์ก็มีธุรกิจก็กำลังไปได้สวย แต่พอถูกสาวใช้คนสนิทเตือนว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเน้อและบลาๆ อิน้องสาวก็เริ่มได้สติ เปลี่ยนแผนหาวิธีเอาตัวรอดใหม่..

อ่านจบไปสองเล่มมีแต่ความ??? เต็มไปหมด55 แบบมันได้เหรออ ทำไมหลอกง่ายจัง อย่างตอนที่น้องสาววางแผนแกล้งตาย พอสาวใช้โวยวายเสียงดังแค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจสอบหรือจับชีพจรน้องสาวดูแล้วอะ ว่าตายจริงมั้ย? ก็เชื่อตามที่สาวใช้บอกว่าตาย? แล้วน้องสาวนางเอกทั้งที่ชื่อเสียงเสียหายขนาดนั้น แต่แม่สามีก็ยังให้ดูแลจวนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน? อดีตคู่หมั้นเก่านางเอกไหนว่าบัณฑิตอันดับหนึ่งของเมืองแต่ทำไมตกหลุมพรางน้องสาวนางเอกง่ายจัง ไหนจะตอนที่พระเอกได้ทำงานสืบสวนของกรมอาญาก็เลยจะส่งนางเอกไปอยู่ที่อื่นสักพักเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย นางเอกไม่อยากไปเลยซ้อนแผนด้วยการหลบอยู่ใต้เตียง คือใต้เตียงจริงๆ นะ กินนอนอยู่ในนั้นเลย...ช่างพยายาม ศรีทนได้จริงๆ ดีที่มีเรื่องให้ต้องออกมาจากใต้เตียงก่อน ไม่งั้นไม่อยากจะคิด -_-“

นึกว่าจะเป็นแนวเจ้มจ้น แผนการซับซ้อนคาดเดายาก แต่นี่แบบ...เอาฮาใช่มั้ย 55  
เดี๋ยวรอดูเล่ม
3-5 อาจจะมีอะไรเปลี่ยนก็ได้ชิมิๆ ^0^