วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คนท่องยุทธภพ ไหนเลยไม่โดนดาบ


คนท่องยุทธภพ ไหนเลยไม่โดนดาบ 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง เอ๋อร์หย่า (耳雅 )  
ผู้แปล : ลี หลินลี่ 
สำนักพิมพ์ Siam Inter Book

คำโปรยหลังปก
เหยียนเสี่ยวเตา ตะลุยยุทธจักร
เซวียเป่ยฝาน ไล่กวดตามหลัง ... ยุทธภพปั่นป่วนยุ่งเหยิง

ล้วนกล่าวว่าคนอยู่ในยุทธภพไหนเลยไม่โดนดาบ
       แต่ที่มักโดนดาบก็เพราะตัวเองมีปัญหา
ล้วนกล่าวว่าคนอยู่ในสนามรักไหนเลยไม่โดนหลอก
       แต่ที่มักโดนหลอกก็เพราะตัวเองมีปัญหา
ล้วนกล่าวว่าคนเดินถนนไหนเลยไม่ตกหลุม
       แต่ที่มักตกหลุมก็เพราะตัวเองมีปัญหา

ยุทธภพล่อแหลมอันตราย  ดาบแจ้งดาบลับยากปัดป้องต้านทาน
สนามรักล่อแหลมอันตราย  นักต้มตุ๋นวิญญูชนจอมปลอมเกลื่อนล้นปฐพี
ที่ไหนๆ ล้วนล่อแหลมอันตราย  สันติภาพบนโลกยังอีกยาวไกล ...

      ดังนั้นคิดท่องยุทธภพโดยไม่โดนดาบ
      จักต้องอาศัยความสามารถที่แท้จริง!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
“ คนท่องยุทธภพ ไหนเลยไม่โดนดาบ “ หนึ่งในชุดบุปผาแห่งรักของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์  
ที่ตอนนี้ไม่ได้มีแต่นิยายจีนกำลังภายในแล้วเน้อ แต่เริ่มมีแนวผู้หญิงสนุกๆ มาเพิ่มบ้างแล้วน๊า  
(づ ̄ ³ ̄)づ

เหยียนเสี่ยวเตา (แต่เราชอบอ่านว่าเสี่ยวเต่าอะ55+) ทายาทจอมโจรสาวเหยียนหรูอวี้
ผู้มีวิชาตัวเบาล้ำเลิศที่สุดในยุทธภพ เพียงครั้งแรกที่เข้าสู่ยุทธภพน้องเสี่ยวเตาก็ดันดวงซวย
เพราะถูกดึงให้เข้ามาพัวพันกับพรรคเป่ยไห่ที่เป็นพรรคอันดับหนึ่งในยุทธภพเข้าเสียแล้ว  
แถมยังถูก เซวียเป่ยฝาน คุณชายรองแห่งพรรคเป่ยไห่ตามติดเกาะติดแจอีกด้วย .......

แม่สาวน้อย เหยียนเสี่ยวเตา ผู้ยึดถือปฏิบัติตามคำสั่งสอนของมารดายิ่งกว่าอะไร 
โดยเฉพาะคำสั่งสอนเรื่องผู้ชาย 55+ ...เพราะอยากได้ร่มแดงที่เป็นหนึ่งในสมบัติของพรรคเป่ยไห่  
นางจึงรับปากไปส่งของให้ตามคำขอของท่านประมุขพรรค แต่ๆ ๆ เรื่องมันไม่จบเพียงแค่นั้นน่ะสิ
เพราะตั้งแต่นั้นมานางก็ถูกเจ้าโจรราคะ
เซวียเป่ยฝาน น้องชายของท่านประมุขพรรคเป่ยไห่
ตามติดเป็นตังเม  แถมยังถูกมัดมือชกให้ออกเดินทางไปตามล่าหาสมบัติล้ำค่าด้วยกันอีก .... 
ทั้งๆ ที่นางปฏิบัติตามคำสั่งสอนของมารดาเป็นอย่างดีแล้วแท้ๆ แต่ไฉนนางถึงยังโดนดาบได้อีกเล่า  

เซวียเป่ยฝาน คุณชายรองแห่งพรรคเป่ยไห่ ที่ขึ้นชื่อว่าไม่เอาไหน ใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆ  
แต่จริงแท้เป็นเช่นไรกลับมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้  พระเอกเป็นคนไม่ค่อยจริงจังกับอะไร  
นิสัยกะล่อน ปากหวาน ดูคล้ายผู้ชายเจ้าชู้ ..ซึ่งเป็นผู้ชายแบบที่นางเอกเกลียดและรังเกียจมากที่สุด ตลอดเวลาที่เดินทางไปด้วยกัน พระเอกจะชอบกระเซ้าเย้าแหย่เหมือนหมาหยอกไก่กับนางเอกอยู่ตลอด แถมยังชอบยั่วโมโห หาเรื่องใส่ตัวให้โดนลงไม้ลงมือได้ทุกวัน 
แต่พอยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งดุก็ยิ่งชอบใจ ยังทำหน้าระรื่นเบิกบานใจเหมือนชื่นชอบความรุนแรง 55 

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับตามล่าหาสมบัติและไขคดีลึกลับ ที่ให้ข้อคิด คติสอนใจ 
บวกกับปมความลับของบ้านพระเอกและตัวพระเอกเอง ที่เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งในระหว่างที่ออกเดินทางคณะของนางเอกก็จะถูกดึงให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยุ่งๆ อยู่ตลอด เพราะเมื่อนางเอกที่แสนจะซุกซน แต่มองทะลุจิตใจคนได้อย่างชัดเจน  
แถมฝีปากยังคมคายไม่ธรรมดาต้องมาเจอกับพระเอกที่ทำตัวหลักลอย ยิ้มแย้ม 
ปากหวานแต่ลึกๆ กลับซุกซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในใจ เรื่องวุ่นๆ สนุกๆ จึงมีตามมาไม่ขาดสาย   
บางเรื่องถึงอยู่เฉยๆ แต่เรื่องก็เข้ามาหา และก็มีบางเรื่องที่อดไม่ได้จนต้องขอเข้าไปยุ่งด้วยเอง...

เรื่องนี้เราอ่านจบแล้วชอบ  ไม่เบื่อเลย  บางตอนที่เหมือนกำลังจะเครียดๆ แต่พอเปิดปากพูดออกมาเท่านั้นแหล่ะกลับฮาซะงั้น  เป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินๆ ไปจนจบ  เนื้อหา 2 เล่มก็กำลังพอดี ...  
แต่ตอนจบตัวร้าย last boss คนสุดท้ายนี่ดูเหมือนจะจัดการง่ายไปหน่อยนะ 55+ ... (-_- )    
และจะดีมากถ้ามีตอนพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกสักหน่อย (เพราะเราอยากเห็นฉากหวานๆ ของพระ-นางมากกว่านี้อ่า (=^▽^=) ) ... แต่ในเรื่องนอกจากคู่หลักแล้วก็ยังมีคู่รองที่เราลุ้นยิ่งกว่าคู่หลักอีก
ว่าจะได้ลงเอยกันมั้ย  คนที่เราเชียร์ไว้จะถูกเลือกหรือเปล่า 55+

.........................................................................................................


" ท่านอย่าบอกนะว่า  ท่านสนใจนางโจรคนนั้นเข้าแล้วจริงๆ "

" นางก็แค่เด็กสาวไร้เดียงสาคนหนึ่ง  มองนานเข้าสักวันก็ต้องเบื่อ "
เฟิงอู๋โยวแค่นหัวร่อ " ท่านคงไม่สายตาต่ำถึงขั้นนั้นกระมัง "
" ข้าสนใจนาง ? " 
" เป็นไปได้อย่างไร  " เซวียเป่ยฝานหัาร่อเย็นชา
เสี่ยวเตารู้สึกว่าไม่ใช่แค่ปวดกระเพาะ  แต่ปวดลามขึ้นมาข้างบนแล้ว  ริมฝีปากเม้มแน่น     
เจ้าเซวียเอ้อร์น่าชัง!
.........................................................................................................

เหยียนหรูอวี้ยิ้มแย้ม ลูบแก้มนาง " ความจริงสิ่งที่แม่สอนเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ "

" แต่ที่ท่านแม่สอนข้าล้วนถูกต้องทุกอย่าง " เสี่ยวเตาแย้ง  "จะหาใครที่ประเสริฐสักคนนั้นสำคัญมาก "
" แต่คนที่ประเสริฐไปหมดทุกอย่างนั้นไม่มีในโลก " เหยียนหรูอวี้เคาะศีรษะเสี่ยวเตา
" คนที่เพียบพร้อมทุกด้านไม่น่ารักสักนิด  สิ่งที่แม่สอนเจ้า เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าถูกหลอก  ไม่ได้อยากให้เจ้าไม่มีแม้แต่ความกล้าในเรื่องทั่วไป "
เสี่ยวเตากระพริบตาปริบๆ " พูดแบบนี้  หากจะท่องยุทธภพโดยไม่โดนดาบก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว "
เหยียนหรูอวี้เจิ้มหน้าผากนางเบาๆ  " โดนดาบไม่โดนดาบ  โดนอย่างคุ้มค่าหรือไม่  
ต้องรอจนสุดท้ายถึงจะรู้! "



วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วังต้องห้าม 3 เล่มจบ


วังต้องห้าม 3 เล่มจบ / ผู้แต่ง : Mo Hui / ผู้แปล : เป่าเป้ย
สำนักพิมพ์ Meedee

คำโปรยหลังปก
" ซ่งผิงอัน "
คือองครักษ์นายหนึ่ง แต่เขามิใช่องครักษ์ธรรมดา
เขาคือองครักษ์ที่คอยปกป้องประตูวัง
เพียงแต่เขาทุ่มเทปกป้องประตูวังได้อย่างเต็มที่
ทว่าไม่อาจปกป้องร่างกายของตนได้
ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้นในคืนฝนตกหนาวเย็นนั้น ...
ผ้าดำที่ปิดตา ... ร่างกายที่เร่าร้อน  พฤติกรรมที่น่าละอาย
ยามเขาได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง
บุรุษที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือ ... " คนผู้นั้น ..."

เดิมซ่งผิงอันนึกว่าแค่ครั้งสองครั้ง
แต่เขากลับไม่รู้ว่านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เขาก็ไม่อาจไม่คุ้นเคยการโอบกอดนอนหลับกับคนผู้นั้น
คุ้นเคยกับจูบของเขา  คุ้นเคยกับการถูกครอบครองจากเขา
จนถึงขนาดเปลี่ยนเป็นอาลัยอาวรณ์กับทุกสิ่งที่บุรุษผู้นั้นมอบให้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ซ่งผิงอัน  นายทหารองครักษ์เฝ้าประตูวังที่หน้าตาสุดแสนจะธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น  
วิทยายุทธ์หรือก็งั้นๆ  แต่อะไรหนอมาดลใจให้ เส้าเย่ฮว๋า ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของแผ่นดินมาถูกใจนายทหารหนุ่มผู้นี้เข้า

นายเอกเป็นทหารองครักษ์เฝ้าประตูวังที่ทำงานมาตั้งนาน แต่ก็ยังไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่งใดๆเหมือนกับใครเขาสักที แต่ซ่งผิงอันก็หาเดือดร้อนไม่ เพราะเขาพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่  
ได้เลื่อนขั้นก็ดี ไม่ได้เลื่อนขั้นก็ไม่เป็นไร เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าความสามารถของตัวเองนั้นมีอยู่แค่ไหน จึงไม่หวังสูงคิดไปไกล ขอเพียงมีข้าวให้กินอิ่ม ได้มีเงินส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ก็พอใจแล้ว ….

เส้าเย่ฮว๋า ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่มีวัยเด็กสุดแสนจะรันทด  
แม้จะโตเพียงใดแต่ทว่าทุกย่างก้าวก็ยังอยู่ในความควบคุมของสตรีสองนางที่อยู่ในวังหลังอยู่ดี  
ตั้งแต่เล็กจนโตหากพระเอกชอบอะไรสิ่งนั้นก็จะถูกทำลาย และหากเขาชอบใครคนผู้นั้นก็จะต้องตาย  ดังนั้นเมื่อเขารู้สึกดีกับคนผู้หนึ่ง เขาจึงปกปิดมันไว้ไม่บอกใคร  แต่กลับเฝ้ารอเวลาตระเตรียมทุกอย่าง เพื่อจะได้ปกป้องคนผู้นั้นให้ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและปลอดภัยแทน 

นายเอกเป็นคนซื่อๆ ไม่คิดมาก มองโลกในแง่ดี ไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไร
ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธ์หรือสติปัญญา ก็อยู่ในระดับปกติธรรมดามาก   
ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากเมื่อรู้ว่าคนที่จับตัวเองกดนั้นเป็นใคร  
และถึงอีกฝ่ายจะมีหญิงงามอยู่ข้างกายมากมายแค่ไหน แต่ในใจของนายเอกก็ยังคงราบเรียบ  
ไร้คลื่นลมใดๆ จนทำให้อีกฝ่ายนั้นแทบกระอักและทนไม่ไหวเลยทีเดียว ... 
ส่วนพระเอกนั้นตรงกันข้าม เขาเป็นฮ่องเต้ที่เฉลียวฉลาดและเหี้ยมโหด 
เพื่อให้อำนาจรวมเป็นหนึ่งเดียว มือของเขาจึงเต็มไปด้วยเลือดของผู้คนมากมาย
อารมณ์ของพระ-นายเราว่ามันคล้ายๆ กับ จางผิง+หวงฝู่เจี๋ยในเรื่ององค์ชายอัปลักษณ์อยู่นะ  
แต่พระเอกในเรื่องนี้ไม่ได้มีชีวิตในวัยเด็กรันทดมากเหมือนพระเอกในเรื่ององค์ชายอัปลักษณ์  
แถมยังเป็นฮ่องเต้ที่มีลูกเยอะ แบบแทบจะหัวปีท้ายปีได้ และยังมีพระสนมนางในตามปกติ
แต่แน่นอนว่าหนึ่งเดียวในใจของพี่แกก็คือนายเอกนั่นแหละเน้ออ 55+  ....

เนื้อเรื่องจะเล่าเหตุการณ์ในตอนปัจจุบัน สลับกับอดีตในวัยเด็กของพระเอกเป็นครั้งคราว   
ซึ่งสุดแสนจะดราม่าเพราะชีวิตในวัยเด็กของพระเอกมันรันทด    
จะเล่าถึงเหตุการณ์ตอนที่พระ-นายได้เจอกันเป็นครั้งแรก 
ซึ่งก็มีแต่พระเอกที่จำได้ และเป็นฝ่ายเฝ้ามองนายเอกอยู่เงียบๆ คนเดียวตลอดมา  
เพราะในตอนแรกแม้จะเป็นฮ่องเต้ แต่พระเอกก็ยังไม่มีอำนาจที่แท้จริง   
แถมไม่วายพอโตมาก็ยังถูกควบคุมบังคับอยู่ เพราะฉะนั้นหากไม่ได้เจอกับนายเอกมาก่อน
พี่แกก็อาจจะยอมเป็นหุ่นเชิดให้คนอื่นคอยชักใยอยู่เบื้องหลังก็ได้นะ 
แต่เป็นเพราะนายเอก พี่แกถึงได้รู้ว่าตัวเองก็มีสิ่งที่อยากจะปกป้อง   
และเพื่อไม่ให้ของที่ตัวเองรักนั้นต้องถูกทำลายเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมา   
พระเอกถึงได้ฮึดขึ้นสู้ และเริ่มวางแผนกวาดล้างยึดรวมอำนาจให้มาอยู่ในมือของตัวเอง 
แต่ไม่ว่าจะเตรียมตัวมาอย่างดีแค่ไหน วางแผนได้รัดกุมมากเท่าไร แต่สุดท้ายพระเอกก็ยังทำให้นายเอกต้องตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี 
            แต่ในท้ายที่สุดพระเอกก็ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าเขา  เส้าเย่ฮว๋า  สามารถทำอะไรได้บ้าง    
เพื่อให้คนผู้นั้นได้มีชีวิตที่สงบสุขและปลอดภัย เขาสามารถแลกกับอะไรได้บ้าง   
พระเอกที่ถูกเลี้ยงดูมาให้ไม่มีหัวใจ  ไม่ให้มีความรักความชอบในสิ่งไหน จะสามารถทำอะไรได้บ้าง
เพื่อนายทหารเฝ้าประตูวังคนหนึ่ง.....

........................................................................................................................


"  ......... ประมุขของประเทศรักใคร่โปรดปราน  หากเป็นคนธรรมดาไม่มีบุญได้รับ  

วิธีรักของฮ่องเต้มีสองแบบ   หนึ่งคือส่งออกไปเผชิญกับอันตราย  
ให้ได้ฝึกฝนประสบการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเติบโตพอที่จะเคียงข้างไปกับฮ่องเต้ของประเทศ  
อีกแบบหนึ่งคือซ่อนเขาเอาไว้  ปิดบังจากผู้อื่น ไม่ว่าผู้อื่นหรือคนที่ถูกรักคนนั้นล้วนไม่มีทางสังเกตเห็น  
ทั้งรักลึกซึ้ง  ทั้งหลีกลี้หนีหาย  ผลักเขาออกจากวังวนความปรารถนา  
ไม่ให้เขาต้องได้รับความทุกข์ทรมานแม้แต่นิดเดียว ...... ผิงอัน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นแบบใด 
....... ไม่  เจ้าไม่ใช่แบบใด ........
เขายืนอยู่ข้างหน้าเจ้า  ปกป้องเจ้าไว้เบื้องหลังเขาอย่างแน่นหนา  รอจนมีอำนาจอยู่ในมือ    
เขาจะต้องยกสิ่งที่สามารถให้เจ้าได้มอบให้เจ้าทั้งหมด ... 
ตำแหน่ง  อำนาจ  เกียรติยศชื่อเสียง  กระทั่งตำแหน่งฮองเฮา! ......." 


วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

พราวพร่างบุปผาตระการ เล่ม 3


พราวพร่างบุปผาตระการ เล่ม 3 (7 เล่มจบ)  / ผู้แต่ง : จือจือ / ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
เดินทางไกลพันลี้จากซีอานถึงจวงลั่ง
ฟู่ถิงจวิน ได้ติดตาม จ้าวหลิง มาในฐานะของคู่หมั้น
ชีวิตของทั้งสองเรียกได้ว่าสงบสุขและราบรื่น
จ้าวหลิงได้โอกาสดีในการลบล้างฐานะเดิม
สร้างความดีความชอบในการเป็นทหาร
แม้ทั้งสองจะอยู่ห่างไกลกัน  แต่ก็มักส่งสารหากันเสมอ
เมล็ดพันธุ์แห่งความรักเริ่มหยั่งรากลึกลงไปในจิตใจ

ส่วนฟู่ถิงจวิน ก็ทำหน้าที่ได้สมกับเป็นกุลสตรีที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี
อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน  รอคอยการกลับมาของจ้าวหลิงเงียบๆ
แต่ชีวิตกลับไม่ได้ราบรื่นคืนสุขอย่างที่คิดไว้  ไม่ว่านางจะแต่งกายอย่างไร
ความงามของนางก็มิอาจรอดพ้นสายตาของคนชั่วไปได้
ซ้ำร้ายมีข่าวลือเกี่ยวกับจ้าวหลิงหลุดรอดออกมาให้นางอกสั่นขวัญหาย

บุปผาดอกงามดอกนี้จะทำเช่นไรเพื่อให้หลุดพ้นจากเหล่าภมรร้ายที่หวังจะเชยชม
ทว่าท่ามกลางมรสุมร้าย  บุปผาดอกนี้ต้องผลิกลีบแย้มบานต่อไปอย่างแข็งแกร่งและงดงาม

รีวิวพราวพร่างบุปผาตระการ เล่ม 1  https://marynlinsbook.blogspot.com/2017/05/1.html

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
พราวพร่างบุปผาตระการ เห็นเนื้อเรื่องเรียบๆ เรื่อยๆ แต่พออ่านแล้วเราชอบมาก  
ชอบความสัมพันธ์ของพระ-นางที่ละมุนละไมค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากศูนย์แล้วพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ รวมถึงตัวละครตัวประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เจิ้งซาน เจิ้งซานเหนียง หรืออาเซิน 
ซึ่งต่างก็เป็นตัวละครที่เราชอบและรู้สึกว่าขาดไปไม่ได้  ตอนนี้เลยติดเรื่องนี้มากที่สุด  
แม้จะรู้ว่าหนทางยังอีกยาวไกลเพราะตั้ง 7 เล่มจบแหน่ะ  แต่เราก็สู้...เย้! 55+

เรื่องนี้พระ-นางต้องไต่เต้าและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกำลังของตัวเอง  
เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นคนธรรมดา ภูมิหลังก็ธรรมดา ยังไม่ได้มีคนใหญ่คนโตคอยเป็นแบ็คอัพ
หรือมีใครคอยหนุนหลัง ชีวิตของพระเอกที่ผ่านมาก็คล้ายกับคนเถื่อน  
ไม่ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่ง เพราะต้องออกเดินทางขึ้นเหนือลงใต้อยู่ตลอด  
แถมยังต้องปากกัดตีนถีบ คิดหาหนทางเลี้ยงดูตัวเองและพวกพ้องตั้งแต่ยังหนุ่มอีกด้วย 

แต่เมื่อโชคชะตาได้นำพาให้เขามาเจอกับนางเอก และได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน   
พระเอกจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคง     
โดยเริ่มไต่เต้าจากการเป็นทหารในหน่วยเล็กๆ และพยายามสร้างผลงานให้ถูกตาต้องใจผู้บังคับบัญชา เพื่อลบอดีตและเป็นคนใหม่  เพื่อที่วันหนึ่งข้างหน้าทั้งเขาและตัวนางเอกจะได้ไม่ต้องคอยก้มหัวหรือประจบเอาใจใคร ส่วนนางเอกก็คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน  คอยดูแลจัดการงานอยู่ในบ้าน  พร้อมทั้งผูกมิตรกับผู้คนรอบข้าง เพื่อปูทางให้พระเอก (ว่าที่สามีในอนาคต) ไปเรื่อยๆ

ตอนนี้เราหายสงสัยในเรื่องภูมิหลังและอดีตของพระเอกแล้ว  
แต่ก็มามีเรื่องหน้าที่การงาน ที่ทำให้ต้องเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับเรื่องการบ้านการเมือง 
การแย่งชิงบัลลังก์ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยแทน  
ส่วนนางเอกก็ดันมาซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างต่อเนื่อง เพราะรูปโฉมที่งดงามเลยนำมาซึ่งเหล่าผึ้งภมรที่แสนจะชั่วร้าย อาศัยช่วงที่พระเอกเงียบหายกุข่าวว่าเขาตาย เพื่อหวังให้นางเอกถอดใจและไปแต่งงานใหม่กับคนอื่น และเมื่อนางไม่ยินยอมคนเหล่านั้นก็บังคับ 
ทั้งใช้กำลังหวังจะรังแกนางที่อ่อนแอไร้ที่พึ่ง แต่โชคยังดีที่คนข้างกายนางนั้นพอมีฝีมืออยู่บ้าง 
บวกกับตัวนางเอกที่เจอะเจอเรื่องร้ายๆ มาบ่อยๆ เข้าก็เริ่มฉลาดขึ้น  
จึงวางแผนโต้กลับอย่างไม่ถอยหนี และสุดท้ายก็ได้รับชัยชนะกลับมาอย่างน่ายินดี  
แต่เมื่อพระเอกรู้เรื่องเขากลับไม่ยินดี และไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ  
เพราะการที่นางถูกรังแกและต้องระเห็จหนีไปพึ่งพิงคนอื่น สำหรับเขามันคือความอัปยศ  
หากไม่จัดการเจ้าคนผู้นั้นให้สิ้นซาก เขาก็ทนไม่ได้                                   
....ส่วนเรื่องที่นางเอกถูกใส่ร้ายปมก็ยังไม่คลาย ยังแก้ไม่ได้ จึงยังไม่สามารถคืนความบริสุทธิ์ให้กับตัวเองได้  แต่ดูๆ แล้วเบื้องหลังของเรื่องนี้คงไม่ใช่แค่การใส่ร้ายแบบปกติธรรมดาทั่วไป  
เพราะมันดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนและน่าจะร้ายแรงกว่าที่คิด แต่ยังไม่รู้หรอกว่าเป็นฝีมือใคร?  
และทำไปเพื่ออะไรกันแน่? ….

มาถึงเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ตอนนี้ก็พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้วนะจ๊า อิอิ ........
เพราะนางเอกไหน้ำส้มแตกจ้า..แตกดังเพล้งๆ !!!เลย .....
ขนาดพระเอกยังอึ้ง เพราะไม่คิดว่านางเอกที่สุขุมเรียบร้อย มีความอดทนและเก็บอารมณ์ได้ดีมาตลอด จะมาหึงหวงเป็นกับเขาด้วย....แต่พี่แกก็ไม่โกรธหรอกนะ ออกจะดีใจด้วยซ้ำ (ยิ้มหน้าบาน)  
เพราะสองเรานั้นใจตรงกัน ไม่ต้องกินแห้วแล้วจ้า 55+ .... 
ทำไงได้ถึงนางเอกจะเป็นคุณหนูที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีขนาดไหน 
แต่เนื้อแท้ข้างในนางก็ยังเป็นแค่เด็กสาวอายุ 16 ปี  แถมที่ผ่านมาก็อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน  เพราะงั้นมันก็ต้องมีหลุดกันบ้างใช่มิ  
...แต่ในที่สุดทั้งสองคนก็ได้สารภาพความในใจออกมา ไม่ต้องเดากันไปเดากันมาอีกแล้ว  
และได้วางแผนอนาคตร่วมกันสักที  แต่น่าเสียดายอยู่อย่างที่ตอนนี้ทำได้อย่างมากก็แค่กอด 55+   
...........................................................................................................

............นางชอบเขามากขนาดนั้น  ถ้าในหัวใจเขามีหญิงอื่น 

นาง ... นางทนรับไม่ได้!
เรื่องในวันนี้ยังต้องเกิดขึ้นอีกหนแล้วหนเล่า  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
          แม้คนสองคนจะรักใคร่กันสักปานใดก็ผ่านความทรมานใจอย่างไม่จบไม่สิ้นเยี่ยงนี้ไม่ไหว
เมื่อนั้นเขามีแต่จะรู้สึกชังน้ำหน้านาง  ส่วนนางจะมีแต่รู้สึกว่าเขาแล้งน้ำใจ 
แทนที่จะหันหลังเป็นศัตรู
มิสู้แยกจากกันตรงนี้เลยจะดีกว่า
          ฟู่ถิงจวินนั่งอยู่ในรถม้าอย่างเลื่อนลอย
แยกจากกันเช่นนี้ก็ดีแล้ว .. แยกจากกันในขณะที่เขายังเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาผู้กล้าหาญ
ทรงคุณธรรมในใจนางคนนั้น  
ส่วนนางยังเป็นหญิงสาวโฉมงามผู้อ่อนโยนใจกว้างคนนั้นในใจเขาเถอะ! ............


วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ลวงรัก



ลวงรัก 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : หลิงเป้าจือ / ผู้แปล : หลิงฮวา
สำนักพิมพ์ Bakerybook

คำโปรยหลังปก
หลังผ่านค่ำคืนแสนรัญจวนใจกับผู้ชายเป็นครั้งแรก
โจวอวี่เฉา  คุณชายเจ้าสำราญผู้ได้ชื่อว่าไม่สนใจเพศเดียวกัน
ก็ตามหาผู้ชายที่ทิ้งไว้เพียงชื่อ เฟิ่งเจียอวี๋
ไหนเลยจะคิดว่าการพบกันอีกครั้งจะนำมาซึ่งเรื่องเหนือคาด
ทั้งได้รู้ว่า หมินอวี้ หลานชายอีกฝ่ายที่แท้เป็นลูกชายของเขา
ทั้งถูกอีกฝ่ายจับมัดสั่งสอนจนความทระนงป่นปี้
งานนี้โจวอวี่เฉาจึงต้องทบทวนตัวเอง
ก่อนเดินหน้ารุกหนักเพื่อพิชิตใจ เฟิ่งเจียอวี๋

                    แต่เขากลับลืมไปว่า ... ความรัก
                    ก็คือเกมที่เต็มไปด้วยกลลวง

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ลวงรักอีก 1 ผลงานของหลิงเป้าจือ ผู้เขียนโรงน้ำชาเร้นรัก  แต่ต่างตรงที่เรื่องนี้อยู่ในปัจจุบันไม่ใช่ยุคโบราณ  นายเอกของเรื่อง เฟิ่งเจียอวี๋ ชายหนุ่มผู้แสนอ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย ต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวของตัวเอง เพื่อไปพบกับผู้ชายคนหนึ่งในยามค่ำคืนตามคำขอร้องของน้องสาวที่เป็นเสมือนญาติเพียงคนเดียว... โจวอวี่เฉา คุณชายเจ้าสำราญตระกูลโจว ชายหนุ่มผู้ร่ำรวย ใช้ชีวิตเสเพลไม่เคยจริงจังในความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน แต่เขากลับตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่เพิ่งพบหน้ากันเพียงครั้งแรกเท่านั้น

การพบกันในครั้งนั้นทำให้นายเอก เฟิ่งเจียอวี๋ ได้รู้รสนิยมทางเพศของตัวเองเป็นครั้งแรก และทำให้พระเอก โจวอวี่เฉา ได้รู้จักการตกหลุมรัก แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับซินเดอเรลล่าเพราะเมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา นายเอกก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง โดยที่พระเอกก็ได้แต่เข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของรองเท้าแก้วในคืนวันนั้นก็คือน้องสาวของพระเอก เฟิ่งหยวนหยวน

เมื่อได้มาพบกันอีกครั้ง คราวนี้ก็เป็นฝ่ายนายเอกที่เข้าหาพระเอกก่อนด้วยเหตุผลบางประการ  จากตอนแรกที่ตั้งใจจะทำให้เป็นความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต่างแยกย้ายกันไป  แต่พระเอกกลับดันมาติดใจ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชายมาก่อนแท้ๆ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาถึงปล่อยมือจากนายเอกไม่ได้  ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะคนทั้งคู่ต่างก็รักกันมาก  ทว่าด้วยความที่รักมากนี่แหละ จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างกลัวที่จะสูญเสีย จนพอถึงตอนที่เกิดปัญหา เกิดความสงสัย ก็เลยไม่มีใครพูด ...ไม่มีใครถาม ...ไม่บอก...ไม่เล่าให้กันฟัง และเมื่อผสมรวมกับอดีตที่อยู่ในใจ จึงทำให้สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดนั่นแหละเอยย.....

เนื้อเรื่องเหมือนจะดราม่า หน่วงๆ อยู่บ้างแต่เราว่าก็ไม่เท่าไร เพราะนายเอกเป็นคนใจอ่อนโกรธง่ายแต่หายเร็ว (ช่างขัดใจเรายิ่งนัก)...มันเลยไม่สุดอะ ส่วนสาเหตุก็มาจากพระเอกที่ชอบหวาดระแวง ไม่เชื่อใจ  เพราะตัวเองนั้นมีบาดแผลในใจ ที่เคยถูกคนรักทรยศหักหลังมาก่อน  โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงขั้นไม่คิดอยากจะรักใครอีกเลย  แถมพี่แกยังไม่ชอบสืบหาความจริง ไปฟังใครพูดมาหน่อยก็เก็บเอามาคิดเองเออเอง ฟันธงฉับๆๆ เอาความผิดพลาดในอดีตมาเป็นตัวตัดสินเปรียบเทียบกับนายเอก  แล้วสุดท้ายมันก็ทำร้ายทั้งตัวเองกับนายเอกซ้ำไปซ้ำมา ...เฮ้อ ..
แต่ด้วยความที่นายเอกก็เป็นคนหัวอ่อน แถมยังรักพระเอกมากก เพราะงั้นเดี๋ยวเขาก็คืนดีกันได้ไม่ต้องห่วง 55+  
พล็อตเรื่องเลยไม่ค่อยมีอะไร เราว่าก็เป็นแนวที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทั่วไปอะเน้อ