วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กลรักดอกท้อ


กลรักดอกท้อ 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : โม่เหยียน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
     'ต้วนฉางยวน' ประมุขแห่งปราสาทเขาชิงอวี้จะรับอนุภรรยา!
เพียงข่าวแค่นี้ก็ทำให้สตรีทั่วหล้าใจสลาย
ด้วยต้วนฉางยวนเป็นยอดบุรุษในฝัน
แต่ที่ทำให้ผู้คนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพราะอนุภรรยาที่ว่า
เป็นแม่นางอัปลักษณ์ที่บังอาจใช้ชีวิตน้องสาวท่านประมุขมาข่มขู่ขอตำแหน่ง
     แต่ใครจะก่นด่าอะไรก็ช่าง  'อวี๋เสี่ยวเถา' คร้านจะใส่ใจ
ในเมื่อนามนี้เป็นนามปลอม  ใบหน้าอัปลักษณ์นี้ก็ไม่ใช่โฉมหน้าที่แท้จริงของนาง
หากมิใช่เพราะเผชิญภัยร้ายเหมือนตายทั้งเป็น
มีหรือนางจะยอมเป็นอนุใคร!
     แต่สำหรับต้วนฉางยวน  นางเป็นใครไม่สำคัญ
ให้ยอมนิ่งเฉยถูกลูบคมเพียงฝ่ายเดียวงั้นหรือ ไม่มีวันเสียล่ะ
หากมีบุญคุณ  เขาย่อมตอบแทนด้วยชีวิต
หากคิดข่มขู่  อย่าหวังจะอยู่เป็นสุข!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
นางเอก อวี๋เป่าเอ๋อร์  สมญานาม ‘ เทพธิดาดอกเถา  
ได้รับการยกย่องว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ ทำให้เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มมากมาย และเพราะความงามเลยทำให้ทั้งถูกวางยา ถูกตามล่า จนต้องแปลงโฉมหนีเอาชีวิตรอดและหายาถอนพิษ กระทั่งต้องไปหลบอยู่ใต้ปีกของพระเอก ต้วนฉางยวน ประมุขปราสาทเขาชิงอวี้ โดยบากหน้ากัดฟันหอบรูปโฉมที่สุดแสนจะอัปลักษณ์เพราะถูกพิษ 
ไปขอให้พระเอกรับเป็นอนุ แลกกับการรักษาน้องสาวให้
นางเอกต้องการที่อยู่+อาหาร+ความปลอดภัย 
และสิ่งสำคัญคือยาแก้พิษ ( พระเอกไงจ๊ะยาแก้พิษจะใครล่ะ อิอิ~~ )
พระเอกเกลียดการถูกข่มขู่บีบบังคับ แต่เพื่อรักษาน้องเลยยอมตกลง ....... 
นางเอกถูกก่นด่าสาปแช่งที่หวังสูง คิดฉวยโอกาสเป็นอนุของพระเอก
แต่ยามนี้เพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ของตัวเอง นางจึงต้องทำหูหนวกตาบอดกัดฟันทน  
รอนางพักฟื้นหายดีเมื่อไรก็จะตีปีกจากไปทันที

นางเอกเป็นสาวงาม นิสัยน่ารักซุกซน เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ+ปรุงยา  
ที่ถูกคนวางยาตามล่าก็เพราะความงามของตัวเอง หลังจากหายดีแล้วก็เลยยังไม่เลิกแปลงโฉม เพราะไม่เชื่อใจคน เนื่องจากที่ผ่านมาเจอแต่คนที่มาทำดีด้วยเพราะรูปโฉมของตัวเอง ....
ส่วนพระเอกก็นั่นแหละ เป็นประมุขของปราสาทเขาชิงอวี้ ฉลาด เจ้าเล่ห์ ช่างวางแผน
ชอบวางกับดัก แล้วตัวเองก็ยืนดูแบบสวยๆ มือไม่เปื้อน  
แต่ก็เคยพลาดท่าถูกนางเอกวางยาสลบถึง 2 ครั้ง ...พอหลังๆ เริ่มจับทางได้ก็เลยไม่พลาดและ อิอิ 
พี่แกเริ่มสนใจนางเอกเพราะนางเอกไม่สนใจพี่แก  
นางไม่มีการประจบเอาใจหรือมีท่าทีหลงใหลได้ปลื้มเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เลย  
งั้นตกลงนางมาเป็นอนุพี่แกทำไม นางต้องการอะไร  พี่แกงงก็เลยเริ่มจับตามอง .....

เรื่องนี้มันเกิดเพราะความสวย  เกิดเป็นคนหน้าตาดีก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป โดยเฉพาะกับนางเอกเรื่องนี้ ความงามของนางนำพามาซึ่งภัยพิบัติโดยแท้   
แต่พอเจอคนจริงใจที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก พระเอกก็ดันมาแอบสกัดดาวรุ่งซะงั้น
แต่เราว่านางเอกก็ต้องลงเอยกับพระเอกนั่นแหละเนาะ เพราะถึงจะมีคนจริงใจไม่สนใจหน้าตามาชอบ แต่คนเหล่านั้นก็ความสามารถไม่ถึง ไม่อาจปกป้องนางได้หรอก  
แล้วพอเจอคนที่มีอำนาจมากพอจะปกป้องดูแลได้ แต่ก็ไม่ไหวอีกแหละ โหดเกิน 
ชอบใช้ความรุนแรง บังคับนาง สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องเป็นพระเอกนี่แหละ
แต่เนื่องจากสมัยเป็นอนุเคยทำไม่ดีกับนางเอาไว้ พี่แกเลยต้องใช้แผนวีรบุรุษช่วยหญิงงาม
ทำให้นางเอกติดกับ แล้วยินยอมอยู่ด้วยทั้งกายและใจ ทำเป็นนิ่งๆ ไม่กระโตกกระตาก
แสร้งปล่อยแล้วจับ  
พอจับได้ทีนี้ก็ไม่ให้หนีไปไหนอีกเลยชั่วชีวิต 55+    ....

หลังอ่านจบอาจจะตงิดๆ ว่าตกลงพระเอกนี่มันเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ชอบนางเอกเพราะหน้าตาหรือเปล่า  ถ้าไม่ได้แอบเห็นรูปโฉมที่แท้จริงตอนนางอาบน้ำแล้วจะเริ่มสนใจไหม?   
แต่เราว่าที่มาเริ่มสนใจจริงๆ จังๆ ก็น่าจะเป็นเพราะตอนพลาดท่าถูกวางยา
ที่นางเอกไม่ได้ลงมือสังหารตัวเอง แต่แค่แกล้งเอาหมึกมาเขียนบนตัวเฉยๆ  
พอพี่แกมารู้ทีหลังก็เลยรู้สึกถูกใจกับนิสัยแบบนี้ ประกอบกับคิดได้ว่าดวงตาของคนงามกับอนุในบ้านนั้นก็คล้ายกัน ทีนี้เลยให้ลูกน้องตามสืบและจับตาดูอย่างจริงๆ จังๆ จนแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันถึงได้รุก เพราะตามนิสัยพระเอกถ้าสวยเฉยๆ แต่นิสัยไม่โดนก็คงไม่แล       
โชคดีที่เผอิญคนงามเป็นคนเดียวกับอนุที่บ้าน ทีนี้เลยเข้าทาง วิน-วิน .... 


วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Boss & Me มื้อนี้มีรัก


Boss & Me มื้อนี้มีรัก / ผู้แต่ง : กู้ม่าน
สำนักพิมพ์ อรุณ

คำโปรยหลังปก
ทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากเลือดแท้ๆ
นึกแล้วพนักงานใหม่อย่าง 'เซวียซานซาน' ก็ได้แต่เศร้าใจ
ว่าทำไมโชคชะตาถึงลิขิต ให้เธอมีกรุ๊ปเลือดหายากกัน
เพราะหลังจากที่เธอบริจาคเลือดให้น้องสาวของ 'เฟิงเถิง' ซึ่งเป็นบอสใหญ่ของเธอแล้ว
ชีวิตของเธอก็มีเขาคอยพัวพันอยู่ทุกที่แถมยังคอยบงการส่งมื้อกลางวัน
ที่มีแต่ตับหมูให้เธอกินทุกวัน  ซานซานที่ใบหน้าใกล้จะกลายเป็นตับหมูจึงได้แต่สงสัย
ว่าเหตุใดบอสใหญ่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์  จึงตั้งอกตั้งใจขุนเธอซะขนาดนี้ 
หรือว่า ... เขาจะแอบชอบฉัน ไม่เอาน่า  ซานซาน ...
เขาแค่เห็นเธอเป็นถังเลือดสำรองเท่านั้นแหล่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  ( อาจมีสปอยล์ )
Boss&Me มื้อนี้มีรัก แค่เห็นชื่อเรื่องก็พอจะเดาได้ว่าต้องมีเรื่องอาหารมาเกี่ยวด้วยแน่ๆ  
เรื่องมันเกิดเพราะนางเอก ซานซานพนักงานบริษัทตัวน้อยๆ ที่ยังไม่ผ่านโปร
แต่ดันมีเลือดกรุ๊ปพิเศษหายาก กรุ๊ปเดียวกับน้องสาวของพระเอก
เฟิงเถิง    

เนื่องจากน้องของพระเอกนั้นเสียเลือดมากในขณะที่คลอดลูก ทำให้ต้องการเลือดเพิ่ม
ทางโรงพยาบาลเลยติดต่อนางเอกไป และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมานางเอกก็จะได้รับกล่องอาหารบำรุงเลือดกินเป็นมื้อเที่ยงทุกวันอย่างงงๆ 55+

พอบ่อยๆ เข้านางก็ชักไม่อยากได้ แต่ก็จนใจเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงท่านประธานบริษัทเชียว  
พนักงานตัวเล็กๆ อย่างนางจะกล้าไปปฏิเสธน้ำใจของเจ้านายได้อย่างไร  
แต่หลังๆ ยิ่งชักจะไปกันใหญ่ เพราะท่านประธานถึงขนาดให้นางขึ้นไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวันที่ห้องทำงาน ...ซานซานตัวน้อยมีหรือจะกล้าหือ จึงได้แต่พ่ายแพ้กลับไป  
และทนเก็บความไม่พอใจเอาไว้ ก้มหน้าก้มตาคีบกับข้าวเข้าปาก พร้อมทั้งทำตามคำสั่งของท่านประธานต่อไปแต่โดยดี   

นางเอก ซานซานนิสัยโก๊ะๆ ซื่อๆ มองโลกในแง่ดี ขอแค่ท้องอิ่มนอนหลับได้เป็นพอ 
เป็นคนความรู้สึกช้าโดยเฉพาะเรื่องความรัก ต้องให้พระเอกเอ่ยปาก ถึงได้รู้ตัวว่าถูกชอบแล้วนะจ๊ะ (จริงๆ พระเอกก็แสดงท่าทีออกไปหลายครั้งแล้วนะ แต่นางไม่รู้ ไม่เข้าใจ...
คือคนรอบข้างนี่รู้หมดแล้ว มีแต่นางนี่แหละที่ยังเอ๋อๆ อยู่ 55+ )  
ส่วนพระเอกเป็นประธานเจ้าของบริษัทที่นางเอกทำงานอยู่ หล่อ เริ่ด รวย เพอร์เฟ็กต์  
( ตามสไตล์นิยายของสาวน้อยช่างฝันที่ไม่มีทางเจอในชีวิตจริง 55+ )  
ท่านประธานจะอารมณ์ดีเวลาที่ได้แกล้งนางเอก และไม่ว่านางเอกกำลังคิดอะไร
พี่แกก็รู้ทันหมดเกือบทุกเรื่อง  หึหึ ........

เนื้อเรื่อง feel good อ่านไปยิ้มไป  ไม่มีดราม่าบีบคั้นอารมณ์..จะตลกกับความซื่อ+โก๊ะของนางเอก และความเจ้าเล่ห์ของพระเอก ที่เอามาใช้หลอกล่อนางเอกให้ติดกับตัวเอง   ....
พระเอกอยากจับกระต่ายตัวน้อยสีขาวกลืนลงท้องมาตั้งนานแล้ว
แต่ก็ต้องอดทนรอให้กระต่ายน้อยยอมเชื่อใจพี่แก 
และมีความกล้าที่จะบอกกับคนอื่นๆ ก่อนว่ากำลังคบหาดูใจกับตัวเองอยู่  
เนื่องจากทั้งคู่ต่างกันมาก นางเอกเลยไม่มั่นใจในอนาคต ไม่กล้าบอกใครว่าเป็นแฟนกับท่านประธาน  ส่วนพระเอกถึงจะไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่เร่ง ได้แต่รอให้นางเอกกล้าพูดออกมาเอง  
พอวันนั้นมาถึง ....กระต่ายน้อยก็ถูกจับกินเรียบ 55+

** ในตอนพิเศษจะมีคู่ของเซียวไน่เหอกับเวยเวยเข้ามาแจมด้วย >o< ...
พ่อเทพบุตรนี่ออกมาเพื่อเป็นคู่ปรับกับท่านประธานโดยแท้  
ว่าแล้วก็อยากอ่านเรื่องหลักของทั้งสองคนขึ้นมาทันที  
อยากรู้ว่าพ่อเทพบุตรนี้จีบเมียยังไงหนอ 55+ ...จะหวานเท่าท่านประธานไหมเนี่ย อิอิ ~~ 
.............................................................................................................

" เซวียซานซาน  ปีที่แล้วฉันให้อั่งเปาเธอหรือปล่าว "
" เปล่า! "
" แล้วของขวัญปีใหม่ล่ะ "
" ก็ไม่มีเหมือนกัน "  จะมีก็แค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวที่เขาให้เธอแต่บอกว่าแค่ให้ยืมใช้อีกต่างหาก แถมเป็นของเก่าที่เขาใช้แล้วด้วยนะ
" เพราะฉะนั้น  เมื่อปีใหม่ที่แล้วฉันไม่ได้ให้ของขวัญเธอแต่เธอจำได้หรือปล่าวว่า  
ตอนอยู่ที่สนามบินฉันบอกเธอว่าสุขสันต์วันปีใหม่ "
เฟิงเถิงมองหญิงสาว  " นี่คือสิ่งที่ฉันให้เธอ  ซานซานที่ฉันพูดนี่ไม่ใช่คำอวยพร  
แต่เป็นคำสัญญา "
................................................................................................................

ถึงแม้จะเอาสายตาชื่นชมของภรรยากลับคืนมาได้ แต่การที่สู้แล้วแพ้ติดกันถึงสามยก   
กว่าจะตีเสมอกับอีกฝ่ายได้นั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายเรื่องหนึ่งสำหรับคนที่กำชัยชนะมาตลอดอย่างเฟิงเถิงเพราะแบบนั้น..เขาเลยพิมพ์ไปอย่างหน้าตาเฉยว่า " เมื่อกี้เมียฉันเป็นคนเล่น "
ซานซานที่อยู่ข้างๆ " ..... "
และเซียวไน่เหอก็พิมพ์ตอบกลับมาอย่างไม่แสดงความรู้สึกเช่นกัน " เมื่อกี้ลูกชายฉันเป็นคนเล่น " เวยเวยที่อยู่ข้างๆ  " ........... "



วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เงาพรางใจ


เงาพรางใจ / ผู้แต่ง : คุ่นคุ่น
สำนักพิมพ์ ฝู

คำโปรยหลังปก
เพราะ 'คุณหลี่' มีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้  เสิ่นโม่ว จึงตอบตกลงที่จะเซ็นสัญญากับอีกฝ่าย
เพื่อเป็นหลักประกันว่าหลี่อันอันน้องสาวของชายหนุ่มกับโจวหยาง
ที่เป็นคนรักเก่าของเขาจะคบหากันอย่างราบรื่น  
เขายอมเป็นทั้งคู่นอนและคนรักจอมปลอมของหลี่หมิงซวน
ใช้ชีวิตร่วมกันทั้งที่หัวใจไปคนละทาง
แต่เฉื่อยชาเกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงความสัมพัรธ์อันแสนซับซ้อนนี้
ทั้งยังตระหนักดีว่าตัวเองไม่มีกำลังพอจะทำอะไรทั้งสิ้น
     ที่ผ่านมาหลี่หมิงซวนทำเหมือนไม่อินังขังขอบคนรักกำมะลออย่างเขา
ทว่าเมื่อถึงจุดเปลี่ยน  เปลือกนอกอันแข็งกระด้างของชายหนุ่มก็เริ่มกะเทาะออก
เผยให้เห็นความรู้สึกแท้จริงที่ซุกซ่อนอยู่ช้างในทีละน้อย 
กลับเป็นเสิ่นโม่วเสียเองที่เหมือนหลงทางอยู่ในม่านหมอก
ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอย่างไรกับคนคนนี้กันแน่

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
ในที่สุดก็ได้อ่านนิยายแปลเรื่องใหม่ส่งท้ายปีของฝู  ลุ้นอยู่ว่าจะได้อ่านก่อนปีใหม่ไหม
และก็ได้อ่านจริงๆ แถมออกเร็วกว่าที่บอกมา 4-5 วันด้วยน๊าจ๊า ^^
อ่านเรื่องนี้จบด้วยรอยยิ้มและแอบอิจฉานายเอกเบาๆ ว่าทำบุญมาด้วยอะไรถึงได้สามีแบบนี้ 
เรื่องนี้สัมผัสได้ตั้งแต่ตอนที่อ่านช่วงแรกๆ แล้วว่าพระเอกนั้นรักนายเอกมาก    
ในมุมมองของคนอ่านจะเห็นได้ชัดๆ แต่ในมุมของนายเอกอาจจะดูคลุมเครือหน่อย  
เพราะพระเอกไม่ค่อยพูด เป็นพวกปิดทองหลังพระ ต้องให้นายเอกมาแอบมารู้ทีหลังเอาเอง 

นายเอก เสิ่นโม่ว มีฝีมือในการวาดรูป แต่ชีวิตรันทดเพราะถูกคนทำร้าย  
จึงทำให้มือขวาที่ใช้วาดรูปใช้การไม่ได้ ในตอนที่ถูกไล่ออกจากห้องเช่าและไม่มีที่ไป
เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากพระเอก หลี่หมิงซวน  
แน่นอนว่าตามมาตรฐานพระเอกก็ต้องรูปหล่อ บ้านรวย ชาติตระกูลดี อิอิ~~   
นายเอกยินยอมรับการช่วยเหลือจากพระเอก ด้วยการทำสัญญาแลกกับการแสดงเป็นคนรักหลอกๆ แน่นอนว่าเป็นนายเอกคนเดียวที่คิดว่าทุกอย่างนี้เป็นเพียงการแสดง 
และมีแต่พระเอกเท่านั้นที่รู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ก็ไม่เคยพูด ไม่เคยอธิบายอะไร...
อ้อลืมไป!! พระเอกเรื่องนี้เค้าไม่ชอบอธิบายด้วยคำพูด แต่ชอบอธิบายด้วยร่างกายอะ 55+ 

ความรักของพระ-นายในเรื่องดูเหมือนพอถึงตอนสำคัญทีไร ก็มักจะมีเรื่องที่ทำให้ต้องคลาดกัน และเข้าใจผิดกันอยู่เรื่อย หรืออาจเป็นเพราะทั้งสองคนต่างก็เป็นพวกที่ไม่ค่อยชอบพูดชอบอธิบาย มีอะไรก็ไม่ถามออกไปตรงๆ แต่ดันมานั่งคาดเดาวิเคราะห์ความคิดของอีกฝ่ายกันเอาเอง เลยทำให้สิ่งที่เก็บอยู่ในใจมันพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ พอถึงสุดท้ายมันก็ไม่ไหว จนต้องแยกทางกัน 

...ในเรื่องไม่มีมือที่สาม จะมีก็แต่แฟนเก่าของนายเอกที่ตามกลับมายุ่งวุ่นวาย  

ซึ่งเราว่าก็ดีแล้วแหละที่นายเอกไม่ได้ลงเอยกับแฟนเก่า เพราะขานั้นเทียบกับพระเอกไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความหนักแน่น การแก้ปัญหาก็สู้พระเอกไม่ได้ เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นมารผจญของพระเอกมากกว่า เพราะคนที่พระเอกรักที่สุดต่างก็หลงรักหมอนี่หมด 55+ (แล้วจะให้ไม่ชอบขี้หน้าได้ไงเล่า) 

 .... พระเอกเรื่องนี้เค้ารักนายเอกมานานแล้วนะ มีแต่ฝั่งนายเอกนี่แหละที่ไม่รู้

ว่าตกลงรักพระเอกบ้างหรือเปล่า อาจจะเห็นว่าพี่แกดูนิ่งๆ เฉยๆ แต่จริงๆ แล้วหวานมากนะ  
ยิ่งเรื่องที่ทำให้นายเอกแต่ละเรื่องนี่ ทำเอาเราอดปลื้มปริ่มแทนไม่ได้
แต่พี่แกเล่นปิดปากเงียบไง ชอบทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  
หลายเรื่องตอนเราอ่านแล้วดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอมาเฉลยที่หลังนี่...หวานมากจ้า >o< 
..................................................................................................................................

' เสิ่นโม่ว  เธออยู่ที่ไหน? '

' เธอไปกับโจวหยางแล้วหรือ? '
' กลับมาเถอะ'
เสิ่นโม่ว  อย่าไปเลย '
' อยู่กับฉันนะ '
' ...... อยู่ข้างๆฉัน '
...................................................................................................................................

" คุณนายหลี่....... "

" ไม่มีคุณนายหลี่ที่ไหนทั้งนั้น "  หลี่หมิงซวนบอก 
" ถ้าจะมี ... ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าฉันแค่คนเดียว "
เสียงของเสิ่นโม่วจุกอยู่กลางลำคอ  ต้องใช้เวลาสักพักถึงถามออกไปได้
" ทำไมล่ะครับ? "

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ศิลาหลอมรัก


ศิลาหลอมรัก 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : หมิงเยวี่ยทิงเฟิง
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
" เนี่ยเฉิงเหยียน"  เจ้าเมืองที่ผู้คนทั่วหล้าต่างกล่าวขวัญถึง
สร้างเมืองอันดับหนึ่งแห่งการแพทย์ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยหมอมีชื่อและยาวิเศษ
ภาพของเขาคือผู้ยิ่งใหญ่ที่มีจิตใจเมตตา  เป็นที่เคารพนับถือของทุกผู้คน

หากใครเลยจะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นสามารถใช้คำสามคำมานิยาม
'แข็งกระด้าง'  'โหดเหี้ยม'  และ 'ดุดัน' โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวอย่าง "หานเซี่ยว"
บ่าวแพทย์ข้างกายที่มีชีวิตรอดอยู่ได้เพราะมีดาวนำโชคคอยค้ำจุน

คนป่วยที่ผ่านมือนางนั้นไม่เคยมีผู้ใดไม่รอดชีวิต
หากแต่ครานี้ศัตรูที่แฝงกายในเงามืดมิใช่โรคภัย
ในเมื่อผู้เป็นนายตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง
นางหรือจะยอมให้ภัยใดเข้าถึงตัวเขาได้  ถึงแม้จะต้องสละชีวิต
นางก็จะต้องปกป้องและรักษาผู้เป็นนายที่นาง 'รัก' เอาไว้ให้ได้!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
และแล้วก็มาถึงเรื่องสุดท้ายของชุด แอบเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีเรื่องของพี่ใหญ่หลงต้าอะ 
อยากให้นักเขียนเขียนออกมา 4 เรื่อง 4 คู่จังเลย 55+..แต่เรื่องของท่านเจ้าเมืองก็สนุกนะ 
หนังสือหนาสะใจมาก เรื่องนี้ไทม์ไลน์อยู่ในช่วงเดียวกับหงส์ฟ้อนมังกรเหิน  
เพราะฉะนั้นในเรื่องเลยจะได้เห็นคู่ของหลงซานโผล่ออกมาบ่อยๆ     
จะมีเรื่องตอนที่พวกหลงซานไปแคว้นซย่า ซึ่งในเล่มของหงส์ฟ้อนไม่ได้เล่ารายละเอียดมากเท่าเล่มนี้ ชอบสามีภรรยาคู่นี้นะ โดยเฉพาะหลงซานนี่มันสามีตัวอย่างชัดๆ 55+ 

มากล่าวถึงพระเอกของเรื่อง เนี่ยเฉิงเหยียน ท่านเจ้าเมืองไป่เฉียวเมืองแห่งการแพทย์  
ซึ่งเป็นหลานของหมอเทวดาเจ้าของหุบเขาอวิ๋นอู้   
ส่วนนางเอง หานเซี่ยว’  เป็นเด็กสาวชาวบ้านธรรมดาที่พ่อแม่ตายหมด 
ทั้งชีวิตเหลือแต่เพียงน้องชาย  
แต่น้องก็ดันมาป่วยเดินไม่ได้ พาไปหาหมอที่ไหนก็มีแต่บอกว่าให้ทำใจ รักษาไม่ได้
ตายแน่นอน ...
แต่นางเอกกลับไม่ยอมแพ้ แบกน้องใส่หลังขึ้นเขาลงห้วยระเหเร่ร่อนไปตามเมืองต่างๆ เพื่อหาหมอ ยอมโขกหัวทำงานรับใช้ทุกอย่าง ต่ำต้อยลำบากแค่ไหนก็ไม่เกี่ยงเพื่อแลกค่ายา ค่ารักษาน้องชาย..นางแบกน้องใส่หลังตั้งแต่อายุ 12 จนอายุ 14
ถึงได้เดินทางมาถึงเมืองไป่เฉียวที่พระเอกอยู่....

เนี่ยเฉิงเหยียน พระเอกของเรื่อง ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสจะตายมิตายแหล่
แถมขาทั้ง 2 ข้างก็ถูกทำร้ายจนเดินไม่ได้  ทำให้พี่แกกลายเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว 
โมโหร้ายอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่กำลังหมดหนทางรักษา
ท่านปู่ของพี่แกที่เป็นหมอเทวดา เลยตัดสินใจไปพา หานเซี่ยว 
ที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าเป็นดาวนำโชค เพราะคนไข้ที่นางดูแลไม่เคยมีใครตาย 
มีชีวิตรอดอยู่ทุกราย ให้มาอยู่ข้างๆ กายคอยดูแลพระเอก แลกกับการรักษาน้องให้ ....
และนั่นก็ทำให้นางเอกได้กลายมาเป็นบ่าวแพทย์ บ่าวรับใช้ส่วนตัวของพระเอกด้วยประการฉะนี้แล 

พระเอกเรื่องนี้เป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ( เหมือนประจำเดือนมาอยู่ตลอด ) 
เอาแน่เอานอนกับพี่แกไม่ได้จริงๆ เลยไม่ค่อยมีคนอยากอยู่ใกล้คอยรับใช้
เพราะเอะอะอะไรก็ตวาดๆ 
เลยมีแต่นางเอกนี่แหละ “ เจ้าค่ะ นายท่านบ่าวอยู่นี่ “  ที่เป็นศรีทนได้คอยดูแลรับใช้อยู่ข้างๆ 55  
นางเอกเป็นพวกดื้อเงียบ พระเอกบอกว่านางชอบเถียงแต่นางบอกปล่าวเถียงก็แค่อธิบาย  ...พระเอกบอกห้ามไปทางซ้ายนะ นางเอกบอกได้เจ้าค่ะนายท่านแล้วก็ไปทางซ้าย 55+   
นางเอกอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็รู้ว่าผู้หญิงไม่อาจเป็นหมอได้  
เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ครูพักลักจำแอบศึกษาเอาเอง
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อนางกลายมาเป็นบ่าวแพทย์ของพระเอก  
พระเอกเป็นใคร! พี่แกเป็นถึงเจ้าเมืองไป่เฉียวที่สร้างเมืองแห่งการแพทย์ขึ้นมาเองเลยนะ....
ทรัพย์สิน กำลังคน อำนาจหนุนหลังล้วนมีหมด เพราะงั้นนางเอกอยากศึกษาวิชาแพทย์รึ 
จัดไป.....อยากได้อะไร  อยากเรียนรู้อะไร พี่แกจัดให้หมด ป๋ามากกกกก 55+

เนื้อเรื่องก็จะมีเรื่องที่ต้องสืบสาวหาความจริงเหมือนกับสามคราแล้วก็หงส์ฟ้อนนั่นแหละจ้า  
แต่ศิลาจะเป็นการสืบหาคนวางยาทำร้ายพระเอก ที่ต้องไปไกลถึงแคว้นซย่า ....
พอไปถึงก็ไม่ได้มีแค่หาตัวคนร้ายและนาจา เพราะดันไปเจอกับคนรักเก่าที่คิดว่าตายไปแล้วด้วย แถมยังมีเรื่องให้ผิดใจกับนางเอกอีก เนื่องจากนิสัยปากร้ายขี้วีนของพี่แกเอง .... 

ความรักของพระ-นางเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป   
นางเอกชื่นชมนับถือพระเอกที่สามารถสร้างเมืองไป่เฉียวได้ตั้งแต่อายุยังน้อยมานานแล้ว 
พอได้มาเป็นบ่าวแพทย์ของพี่แก ก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ
จนต้องเตือนตัวเองไม่ให้คิดเกินเลย ส่วนพระเอกพอรู้ว่าหลงรักสาวใช้ตัวเอง แรกก็กังวลอยู่บ้าง เพราะถึงพี่แกจะมีพร้อมทุกอย่าง แต่ก็เป็นคนพิการอยู่ดี นางเอกจะรับได้หรือ  
แต่ไม่นานก็คิดได้ว่าแล้วไงล่ะ ยังไงตัวเองก็เผด็จการอยู่แล้ว 
สัญญาขายตัวของนางเอกก็อยู่กับตัวเอง หากอยากแต่งงานก็ต้องมาขออนุญาตพี่แกก่อน 
ถ้าพี่แกไม่ยอมแล้วใครจะทำไม โฮะๆๆๆ (พอรู้ว่าใจตรงกันแล้วพระเอกจะขี้อ้อนมากเหมือนเด็กๆ เลย ติดนางเอกแจ ชอบให้นางมาอยู่ใกล้ๆ )  
แต่ไม่ว่านางเอกจะฉลาด  ถึก อดทนแค่ไหน แต่เพราะอายุยังน้อย ประกอบกับไม่เคยมีความรักมาก่อน บวกกับนิสัยพระเอกที่เป็นคนเจ้าอารมณ์  ทำให้ชอบหลุดพูดจาแย่ๆ ออกมา  
และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันไป เพื่อทบทวนตัวเอง 
เราชอบตอนนี้นะ เพราะที่เราเคยอ่านส่วนมาก พอนางเอกหนีไปแล้วพระเอกมาตามกลับ 
ส่วนใหญ่นางเอกก็จะกลับไปด้วยทันที แต่เรื่องนี้ไม่จ้า เพราะพี่แกต้องรอไปเป็นปีๆ เลย 
จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องไปขอร้องให้กลับมา 55+ .......

จะมีเรื่องของคู่รองอยู่ในเล่ม 3  (ประมาณเกือบครึ่งเล่ม) ซึ่งน่ารักมากๆ  
เพราะฝ่ายชายเป็นแม่ทัพที่ออกรบตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เรื่องความรักนี่กลับใสซื่อมาก  
นิดๆ หน่อยๆ ก็หน้าแดงผิดกับตอนออกรบมาก กว่าจะได้ลงเอยกันก็เลยต้องพยายามมากหน่อย เพราะพี่แกขี้อาย  ถ้าตอนหลังๆ ไม่เริ่มรุกหนักๆ นี่อาจจะไม่ได้แต่งนะ >O< 
( ชอบตอนพิเศษของนักเขียนคนนี้จัง แอบรู้สึกว่าบางทีมันก็สนุกกว่าเรื่องหลักอีก 55+ )

อีกตัวละครนึงที่น่าสนใจก็คือ น้องชายนางเอก เล่อเล่อ  น้องแกเป็นเด็กฉลาด เจ้าเล่ห์ 
รู้จักพูดรู้จักใช้คนและน้องแกก็รักพี่สาวมากๆ ...แบบหากพี่สาวชอบใคร ต่อให้เป็นคนผ่าฟืน
ก็จะสนับสนุน  
แต่หากพี่สาวไม่ชอบ ต่อให้เป็นจักรพรรดิน้องแกก็จะขัดขวาง....   

จุดเด่นอีกอย่างของนางเอกเรื่องนี้คือ รักน้อง+ห่วงน้องมาก  
ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องแบกน้องใส่หลังไปด้วย  
อย่างตอนจะลงเขาไปกับพระเอก  ให้ตายยังไงนางก็จะเอาน้องไปด้วย ไม่ว่าหมอจะมาห้าม
คนอื่นจะมากล่อมยังไง นางก็จะพูดแค่ “ ข้าไม่แยกกับน้องชาย”  จนพระเอกยังต้องอิจฉา 55+ 

..............................................................................................................................

" ท่านมันไร้เหตุผล  ใส่ร้ายข้าซ้ำยังด่าข้า  แล้วยังหยิบหญิงอื่นมาโมโหข้า  
ท่านก็ไม่น่ารักเหมือนกัน "
" สัญญาขายตัวให้เจ้าแล้ว  สิ่งที่เจ้าอยากได้ก็มีหมดแล้ว  ถ้าเที่ยวเหนื่อยแล้ว  
ได้เปิดหูเปิดตาพอแล้ว  ก็กลับมาบ้าน "
กลับบ้าน?  หานเซี่ยวตะลึงงัน
.....................................................................................................

" เซี่ยวเซี่ยว  ข้าไม่สบายแต่เจ้าไปดูชายอื่นมากกว่าข้า "
" ท่านพูดไร้สาระอะไร  ไม่ได้ยินที่คนผู้นั้นพูดหรือ  ภรรยาของเขาป่วย "
" มีภรรยาแล้วก็ต้องระวัง  .....จะอย่างไรเจ้าก็ต้องรักใคร่ข้าที่สุด  คนอื่นต้องมาทีหลัง   ญาติคนไข้ต้องอยู่หลังของหลัง ทางที่ดีอย่าให้อยู่ในลำดับจะดีที่สุด "
.....................................................................................................

" ท่านประมุขไร้ยางอาย  คืนพี่สาวข้ามา "
" คืนพี่สาวให้ข้า ข้าเกลียดท่านนัก  เดิมทีพี่สาวรักข้าที่สุด  ล้วนเป็นท่านที่แย่งไป "
" เซี่ยวเซี่ยวเป็นสาวใช้ของข้า  ดูแลข้าก็สมควรแล้ว  เจ้าเด็กไม่รู้ความถึงกับกล้าโวยวายกับนายท่าน ดีที่เจอคนใจดีอย่างข้า  ถ้าเป็นคนอื่นพวกเจ้าพี่น้องคงได้ดื่มลมพายัพไปแล้ว "
คำพูดนี้ส่งผลให้หานเล่อผงะ  เงยหน้าขึ้นจากตัวเขา  ก่อนถามน้ำเสียงแตกตื่นปนน่าสงสาร 
" ท่านจะไล่พวกเราไป?  ข้าแค่หยอกท่านเล่นเท่านั้น  พี่สาวข้าดูแลคนเก่งมาก  
ท่านจะไล่พวกเราไปหรือ "
" ไม่ไล่พวกเจ้าหรอก "
" ไม่ไล่จริงหรือ "
" ไม่ไล่  เจ้าก็เลิกเล่นได้แล้ว "
" เช่นนั้นข้าก็ขอสู้ตายกับท่านแล้ว "


วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รักไม่ได้ลิขิต : Unsuitable Lover


รักไม่ได้ลิขิต : Unsuitable Lover 2 เล่มจบ + เล่มพิเศษ  / ผู้แต่ง : ไป๋อวิ๋น
สำนักพิมพ์ ฝู

คำโปรยหลังปก
อะไรนะ!?
คู่นัดดูตัวของผู้ชายหล่อเหลาเลิศเลอเปอร์เฟ็กต์ที่สุดในโลกหล้าอย่างเขา
ดันเป็นผู้ชายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ทั้งขาเป๋แล้วก็น่าเบื่อเนี่ยนะ?
บ้าเอ๊ย  หน้าทู่เหมือนหัวมันแบบนี้ก็ควรอยู่แต่ในบ้าน  
อย่าออกมาสร้างมลพิษทางสายตาให้ชาวโลกสิ!
ต่อให้ผู้ชายตายหมดโลก  เขาก็ไม่มีวันชอบหมอนี่แน่นอน!
เฮอะ .... ไปตายซะเถอะไป

แค่เห็นเผิงอี้หานแวบแรก  หลินซีไห่ก็ตัดสิน ' โทษประหาร ' ให้เรียบร้อยแล้ว
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าไดโนเสาร์หน้าทู่จะทำอาหารอร่อยสุดยอด
เจอผู้ชายทนมือทนเท้า  ละเอียดลออ  แถมยังอ่อนโยนทั้งที
ไม่จับมาเป็นคนรับใช้พ่อครัว  พ่วงสุนัขเฝ้าบ้านแบบฟรีๆ อย่าไรไหว?
โอเค  ตกลงตามนี่แหล่ะ!
เผิงอี้หาน  นายต้องใช้ผลบุญที่สะสมมาหลายชาติเลยนะ
ถึงได้อยู่ร่วมบ้านกับหนุ่มหล่ออย่างฉัน  แต่บอกไว้ก่อน
อย่าริิ่านทำตัวเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์ฟ้าเชียวล่ะ!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  ( อาจมีสปอยล์ )
ขอบคุณสำนักพิมพ์ที่ reprint และทำให้เราได้มีโอกาสอ่านกับเขาสักที 
( เพิ่งมาตามงานของฝูเลยเก็บได้แค่ 3-4 เรื่องเอง สงสารตัวเองยิ่งนัก (;)  )

รักไม่ได้ลิขิต 2 เล่มจบ เรื่องนี้นายเอกนิสัยนางพญาจริงๆ 55+ ( *゜▽゜ノノ ........ 
โดยเฉพาะเล่มแรกอ่านไปก็สงสารพระเอก เพราะนายเอกเค้าโปรไฟล์ดีจริงๆ 
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน ฐานะการเงิน ก็สมควรที่นางจะสวย เริด เชิดหยิ่งอะนะ 
ไม่แปลกที่อยากได้คู่ครองที่มีโปรไฟล์+รสนิยมเดียวกับตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการรักแท้ 
รักที่มั่นคงไม่ใช่รักๆ เลิกๆ เปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า (นายเอกเค้าหวงตัวนะยังเก็บครั้งแรกไว้ให้สำหรับคนที่ใช่จริงๆ เท่านั้น)  ส่วนพระเอกน่ะหรือ ก็ตรงข้ามกับนายเอกเลยยังกับมาจากคนละโลก  
พระเอก “ เผิงอี้หาน ”  เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย หน้าตาธรรมดา แต่งตัวเชยๆ 
ไม่มีอะไรโดดเด่นแถมขาก็เป๋อีก  แต่มีนิสัยอบอุ่นอ่อนโยนและใจดี  
เป็นพ่อบ้านพ่อเรือนด้วย เพราะทำอาหารกับทำความสะอาดบ้านเก่ง    

ได้มาเจอกับนายเอก “ หลินซีไห่ “ เพราะเพื่อนนัดให้มาดูตัวกัน แต่ก็เป็นไปตามคาด
เพราะนายเอกแทบไม่แลพี่แกเลย  แถมยังพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจอีก  
นิสัยนายเอกนี่มันจริงจริ๊ง เป็นคนมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากเลยไม่ค่อยเห็นใครอยู่ในสายตา 
ด้วยนิสัยแบบนี้ช่วงแรกๆ นางเลยทำร้ายจิตใจพระเอกไปค่อนข้างเยอะ 
ตอนแรกๆ พระเอกก็ทนไหวนะ จะจิกกัดหรือใช้เหมือนทาสแค่ไหนพี่แกก็รับได้   
แต่หลังๆ มันมีเรื่องเข้ามาอีกไง เลยทำให้พี่แกแบบไม่ไหวแล้ว 
อยู่กับนายเอกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว    .... (*m)  

พอมาถึงเล่ม 2 พระเอกก็กลับมา....แต่ 5 ปีผ่านไปพี่แกไม่ได้กลับมาคนเดียวนะจ๊ะ
พี่แกกลับมาพร้อมกับแฟนใหม่จ้า ส่วนช่วงที่พระ-นายไม่ได้เจอกันนายเอกเค้าก็ปรับปรุงตัวนะ 
นางเปลี่ยนนิสัยจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นคนเงียบๆ เก็บตัว เฝ้ารอพระเอกอยู่เงียบๆ
เพราะยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าสักวันพระเอกจะยอมเชื่อตัวเอง แล้วหันกลับมารักนางอีกครั้งหนึ่ง .... 
นางยอมทิ้งศักดิ์ศรี ทิ้งเกียรติที่ตัวเองเคยภาคภูมิใจเพื่อพระเอก  
รู้ทั้งรู้ว่าพระเอกมีแฟนใหม่ไปแล้ว แต่ก็ขอแค่ได้เป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ 
ได้เห็นหน้าพี่แกสักนิดก็ยังดี แม้มันจะทำให้ต้องเจ็บปวดแต่นางก็ยอม .... 
ถ้าเล่มแรกสงสารพระเอก  เล่ม 2 ก็ต้องสงสารนายเอกนี่แหละจ้า.. 

เนื้อเรื่องหน่วงๆ พอประมาณ ต้องคอยลุ้นเอาใจช่วยว่าเมื่อไรพระ-นายจะได้ลงเอยกันสักที
ในเมื่อต่างก็รักกันแล้วทำไมจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ล่ะ  ได้แต่มองกันอยู่ห่างๆ
ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่ 
5 ปีผ่านไปนายเอกเปลี่ยนนิสัยตัวเองใหม่ แล้วเฝ้ารอพระเอกอยู่เงียบๆ 
หากอะไรที่ทำให้พระเอกสบายใจได้เค้าก็จะทำถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่อยากทำก็เถอะ  
ส่วนพระเอกก็เอาแฟนใหม่มาเป็นเกราะกำบัง เพื่อกันนายเอกให้อยู่ห่างและไม่ให้ตัวเองต้องถลำลึก  ..นายเอกเราเห็นมั่นๆ เริดๆ เชิดๆ แบบนี้แต่ประสบการณ์เรื่องxx  แทบเป็นศูนย์เลยน๊าจ๊า  
เพราะถ้าไม่ใช่คนที่รักจริงๆ นางก็ไม่เอาจ้า นางเป็นคนถ้ารักใครรักจริงแล้วก็รักไปจนชั่วชีวิต   
หลังจากที่พระเอกจากไป ถึงมีคนโปรไฟล์เริดๆ มาตามจีบ นางก็ไม่เอาจ้า 
ต้องเป็นพระเอกเท่านั้นนางถึงจะยอม ( ̄‥ ̄)=3 

…ปล. เหมือนจะดราม่าแต่ก็จบแฮปปี้เน้อ  
............................................................................................................................

" ไม่ต้องเสียใจไปหรอก  พวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้อยู่นะ " เผิงอี้หานตบหลังฝ่ายตรงข้ามเบาๆ ใบหน้าสะท้อนความเจ็บปวด  ขณะที่ดวงตามีน้ำอุ่นเอ่อคลอด้วยความอาลัย
" ไม่เอา "  หลินซีไห่ปฏิเสธเสียงเครือ
เขาไม่อยากเป็นเพื่อน  เขาอยากเป็นคนรัก!
...............................................................................................................................

" ปล่อยนะ เผิงอี้หาน! ไอ้คนงี่เง่า กล้าดียังไงมาหลอกฉัน "
" ไม่ปล่อย  คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยมือจากนายอีกเป็นอันขาด "
" พวกเราจบกันแล้ว ปล่อยฉัน  ฉันบอกลานายไปแล้วไม่ใช่หรือไง! "
" แต่ฉันไม่อยากเอ่ยคำลากับนาย "
" อย่าบอกลาฉันอีกนะ  ซีไห่  ฉันรักนาย! "
น้ำอุ่นที่เอ่อขึ้นมากบตาทะลักพรูลงมาราวกับทำนบแตกในวินาทีนั้น  ริมฝีปากของหลินซีไห่สั่นระริก ใบหน้าบิดเบี้ยว ...


วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าของเหล่าปีศาจในเหลาสุรา เล่ม 1-2


เรื่องเล่าของเหล่าปีศาจในเหลาสุรา เล่ม 1-2 / ผู้แต่ง : เคอสุ้ยอวี้โหยวโจ่ว 
ผู้แปล : ซินโป-หย่งชุน
สำนักพิมพ์ earnest

คำโปรยหลังปก
   ยินดีต้อนรับสู่เรือนมัจฉา
เหลาสุราปีศาจแห่งความพิศดารลุ่มลึก
   จิบเมรัยเคล้าเรื่องราวบุญคุณความแค้น
ระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์
    สดับนิทานแห่งโลกคู่ขนาน
ที่ความมืดปรากฏในจิตใจคน
และความสว่างปรากฏในร่างภูตผี
    พบพานการผจญภัยสุดพิศดาร
และตำนานรักสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  ( อาจมีสปอยล์ )
มาๆ เร่เข้ามา...มาฟังเรื่องเล่าพิศดารกึ่งจริงกึ่งไม่จริง เรื่องราวบุญคุณความแค้น ความรัก
ของภูต ผี ปีศาจ เทพ เซียนและมนุษย์  หนึ่งจอกสุราต่อหนึ่งเรื่องเล่า  
ณ เรือนมัจฉาล่มเมือง ร้านสุราที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเปี้ยนเหลียง  
โดยเจ้าของเหลาสุรานามว่า “ อวี๋จี “ เป็นสาวงามที่มาที่ไปไม่ชัดเจน 
พร้อมเด็กช่วยงานในร้านปีศาจแมว “ หมิงเหยียน “  กับปีศาจจิ้งจอก “ ไป๋ซานผี “  
และแขกขาประจำของร้านท่านมือปราบ “ หลงหยา “

ได้อ่านเล่ม 1 เมื่อปีที่แล้ว เล่มแรกมี 10 ตอนแต่ละเรื่องจบในตอน  
โดยดำเนินเรื่องราวผ่านแขกที่มาเป็นลูกค้าในเหลาสุรา 
ซึ่งแต่ละตอนจะแอบทิ้งปมปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครหลักเอาไว้...
ขอสารภาพว่าอ่านจบไปนานมากแล้ว เลยจำแม่นๆได้แค่บางตอน TvT  ...
แต่ก็ยังประทับใจกับเรื่องราวความรัก ความแค้น  ความดำมืดและเห็นแก่ตัวของจิตใจคน 
ที่นำพาให้ก่อเกิดเป็นบุญคุณความแค้นโศกนาฏกรรมต่างๆ มากมายอย่างไม่จบไม่สิ้น  
บางตัวละครการกระทำก็เหมาะสมกับบทสรุปแต่ก็มีตัวละครหลายคนที่ทำให้เราน้ำตาซึม 
รู้สึกเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งทำให้ต้องพลัดพรากจากลา ไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน   
อย่างถัวเย่วปีศาจจระเข้ที่อาศัยอยู่ในบึงซิวหลัว ( ชอบตอนนี้มาก...จนมาถึงตอนนี้ก็ยังจำชื่อตอนกับชื่อตัวละครได้  คิดดูว่าชอบขนาดไหน 55+ )  ปีศาจจระเข้ที่เฝ้าเก็บตัวบำเพ็ญเพียรจนแก่กล้าและใช้ชีวิตสันโดษไม่แคร์ใคร ไม่คิดเป็นใหญ่ ไม่ทำตัวเด่น ใช้ชีวิตแบบไม่แยแสผู้ใดนอกจากตัวเองมาเป็นพันๆ ปี  อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนานแต่พอได้ประจักษ์กับความรัก ก็กลับต้องกลายเป็นการจากลากันชั่วนิจนิรันด์  
ถัวเย่วจึงได้แต่หลั่งน้ำตาอย่างขมขื่น น้ำตาที่เศร้าโศกสุดแสนจะพรรณนาให้แก่นางอันเป็นที่รัก  
แต่อย่างน้อยก็ยังมีบางคู่ที่โชคดี  ที่ถึงแม้ยามเป็นจะไม่ได้เคียงคู่แต่ยามตายกลับได้อยู่ร่วมกัน 
(แบบนี้เค้าเรียกว่าโชคดีมั้ย หรือไม่ใช่หว่า 55+)   
เช่นคู่ของปีศาจสาวที่ยอมทิ้งตบะพันปี เพียงเพื่อขอให้ได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรักเท่านั้นพอ ....

พอมาเล่ม 2 ถึงจะมีแค่ 4 ตอนแต่ตอนนึงก็ยาวมากเลยนะ  
เล่มนี้จะเริ่มเปิดเผยภูมิหลังที่มาที่ไปของตัวละครหลักมากขึ้น  
ตอนอ่านเล่มแรกเราก็สงสัยว่าอวี๋จีเป็นอะไร  เป็น ภูติ ผี ปีศาจ หรือว่าเทพเซียน? 
ทำไมจู่ๆ ถึงมาเปิดเหลาสุราอยู่ในแดนมนุษย์  ในเรื่องเหมือนนางกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง  
ซึ่งพอมาเล่มนี้ก็จะเริ่มเผยรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ที่เราสงสัยไปทีละนิด  
ค่อยๆ เชื่อมโยงปริศนาที่ทิ้งไว้ในเล่มแรกไปเรื่อยๆ   
ไม่ว่าจะเป็นมือปราบหลงหยาที่เหตุใดถึงได้สนิทสนมกับเหลาสุราแห่งนี้นัก   
แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกซานผี ที่นิสัยตลกโปกฮาเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะในร้าน
แต่กลับมีชาติกำเนิดที่ไม่เล็กเลยจริงๆ... 
เบื้องหลังของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเพราะเกี่ยวพันไปถึงมหันตภัยแห่งหกมรรคา 
 โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งไม่ธรรมดา
เพราะถึงขนาดทำให้หกเทวะผู้พิทักษ์กระแสทั้งหกในอดีตล่มสลายได้เลยนะเออ ~~~    

** เรื่องนี้ถ้าใครได้อ่านเล่มแรกแล้วก็อย่าลืมซื้อเล่ม 2 มาอ่านต่อนะจ๊ะ    
เพราะเรื่องที่เคยสงสัยในเล่ม 1 ก็จะมีมาเฉลยในเล่มนี้แหล่ะจ้า  
ตอนแรกที่อ่านเราก็นึกว่าจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักความแค้นของภูต ผี ปีศาจ มนุษย์ เทพ 
เซียนเฉยๆ  พออ่านเล่ม 2 ถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่สินะ........  
มันมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนที่เกี่ยวข้องไปถึงดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า 
และลึกลงไปถึงนรกภูมิอเวจีมหานคร
อยากรู้ว่าเล่มต่อไปจะดำเนินเรื่องราวต่อไปยังไง  ตัวการใหญ่จะถูกโค่นล้มได้มั้ย  
ส่วนคนที่สูญหายจากไปจะได้กลับคืนมาอีกครั้งหรือปล่าว ( แอบหวังๆ >o< ) ... 
ว่าแล้วก็รออ่านเล่ม 3 ต่อ  โปรดอย่าถามว่ากี่เล่มจบเพราะข่อยก็บ่ฮู้เหมือนกันจ้ะ.... ล้าลาลา~~

...................................................................................................................................

" หยุนล่วน.... หยุนล่วน.....โต้วติ่งยังอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ..."

" มัน ... ไม่อยู่ที่แห่งนี้แล้ว "
" ...ก็ดี ...ก็ดี .. ตัวสารเลวนี้ในที่สุดก็ไปเสียที... มันหากจะรังแกข้าอีก..
หยุนล่วนยังจะช่วยข้าหรือไม่ .."
" แน่นอน .. คราหน้ามัน ...มันหากกล้ารังแกเจ้าอีก ข้ายังจะช่วยเจ้าทุบตีมัน ... " 
เหลียงฉานบนใบหน้าเผยรอยยิ้มแสนหวาน  คล้ายกลับมาถึงวันเวลาแห่งวัยเยาว์ .....
.....................................................................................................................................

" นามดาบเถาอิ่น  หลอมรวมจากนามจิ้งจอกสวรรค์  กระดูกเพลิงนภาและโลหิตช่างหลอม  โลกนี้มีเพียงเล่มเดียว  ข้าหลอมอาวุธพันปี แต่ไรมาไม่เคยหลั่งโลหิตเพื่อผู้ใด  

โลหิตนี้ย่อมหลั่งเพื่อเจ้า  เจ้าก็ต้องเคียงคู่ข้าไปทุกชาติทุกภพ "
" เจ้า ... ไยต้องลำบากเพื่อข้าเช่นนี้  คู่ควรหรือ "
" คู่ควร "
......................................................................................................................................

" เหลาสุราของแม่นางอวี๋จีก็เปิดกิจการได้ไม่กี่ปีเท่านั้น  ผู้มาร่ำไรที่นี้เนืองๆ...คง 

...คงมิใช่หมายถึง.....ข้ากระมัง "
อวี๋จีปิดปากหัวเราะ  " หรือว่ายังมีบุคคลที่สอง "
หลงหยาทั้งประหลาดใจทั้งยินดีปรีดา " ทว่าพวกเรานับแต่รู้จักกันที่เรือนแรมกุ่ยหลางอี้เป็นต้นมา เคยกล่าววาจาเยี่ยงนั้นกับแม่นางอวี๋จีแต่เมื่อไร   หรือว่า .... "
" หรือว่าพันปีก่อน ...ชาติก่อนพวกเราเคยมีวาสนา  เคยพานพบกันมาก่อนจริงๆ "


วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หงส์ขังรัก 5 เล่มจบ



หงส์ขังรัก เล่ม 3-5 ( 5 เล่มจบ ) / ผู้แต่ง : เทียนอีโหย่วเฟิง
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

คำโปรยหลังปก
แม้จะรู้ว่าข้างหน้าคือหุบเหวลึกพันจั้ง
เขายังคงต้องเดินเข้าไป
เพราะนางอันเป็นที่รักอยู่บนขอบเหวนั้น

ว่าไปแล้วทุกคนก็คือตัวหมาก
ไต้หล้าคือกระดานมาก  หรงจื่อเป็นคนเดินหมากกระดานนี้
แต่เพื่อฉู่อวี้แล้วเขายอมตกต่ำเป็นตัวหมากที่ปลิวไปตามสายลม
กระดูกและผิวหนังทุกอณูของเขาล้วนเจ็บปวดแสนสาหัส
หัวใจแหลกสลาย  แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่

ทั้งที่เขาสามารถชนะการเดินหมากที่ใช้ผืนแผ่นดินต่างกระดานในครั้งนี้
แต่กลับยินดีจะพ่ายแพ้ ..หากมันช่วยรักษาชีวิตนางเอาไว้ได้
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องสูญสิ้นทั้งแผ่นดิน  สูญสิ้นทั้งลมหายใจก็ตาม!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  ( อาจมีสปอยล์ )
ในที่สุดก็มาถึง 3 เล่มสุดท้าย อ่านจบแล้วเย้ๆ ...อ่านไปง่วงไป ตาจะปิด ...
อย่างที่เคยบอกไว้ตอนเขียนความรู้สึกหลังอ่านจบในเล่ม 1-2 ว่าเรื่องนี้บทพูดน้อย
ส่วนใหญ่จะเป็นบทบรรยายความรู้สึกนึกคิดของตัวละครมากกว่า  
พูด 1 ประโยค บรรยายต่อสิบบรรทัด วนเวียนไปมาอยู่แบบนี้แหละจ้า  
คำพูดก็ออกแนวปรัชญา พูดแล้วต้องมาตีความต่ออีกทอด ลับลมคมในกันไปมากว่าจะคุยกันจบเรื่องนึงปาไป 10 หน้า ไม่ใช่อะไรแต่บทบรรยายองค์ประกอบต่างๆ มันเยอะจริงๆ
หรืออาจจะกลัวว่าเราจะไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิด ที่มาที่ไปในการกระทำของตัวละครหรือปล่าวเลยบรรยายมาซะเยอะเชียว TvT

เรื่องนี้พระเอกไม่หลุดโผเป็นคนที่คาดไว้ตั้งแต่เล่มแรกแล้ว ใครเอ่ย?? หรงจื่อ “ เองจ้า  
ยอดชายงามผู้ฉลาดเฉลียว เจ้าเล่ห์  หน้าตาหล่อเหลางดงามยิ่งกว่า จงเหนียนเหนียน ’ 
ที่เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งเสียอีก ใบหน้าที่มักจะมีรอยยิ้มเล็กๆ ประดับอยู่เสมอ
ทำให้คนมองอยากเข้าใกล้แต่ก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน เบื้องหลังพี่แกลึกลับซับซ้อนมากจนเราสงสัยว่า หรงจื่อเป็นไผมาจากที่ใด?  ความสามารถมากขนาดนี้ ทำไมถึงยังรั้งอยู่ในวังองค์หญิงอีก?

เรื่องนี้ตัวละครชายมีแต่เจ๋งๆ แต่คนที่เก่งที่สุด ฉลาดที่สุดก็ยังเป็นพระเอกอยู่ดี  
พระเอกเรื่องนี้ฉลาดมากจริงๆ เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการสุดๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก ฆ่าได้อย่างไม่ลังเล ไม่สนว่าคนนั้นจะดีหรือเลวแต่เพื่อให้เป็นไปตามแผนการก็ล้วนกำจัดได้หมด ขนาดร่างกายไม่ค่อยดีอยู่แต่ในวังองค์หญิงไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ยังสามารถควบคุมทุกอย่างได้ตามใจชอบ ไม่มีอะไรที่พระเอกคาดเดาไม่ได้ ทุกๆ อย่างอยู่ในสายตาและการควบคุมของพี่แกทั้งหมด แผ่นดินนี้เป็นเพียงแค่หมากกระดานหนึ่ง ... ซึ่งหรงจื่อก็คือผู้วางและควบคุมหมากทั้งกระดาน

มีตัวละครชายอีก 2-3 คนที่น่าสนใจแต่บทก็หายไปดื้อๆ ซะงั้น55+ 
คนแรกคือ
หวังอี้จือ ’ คุณชายตระกูลหวัง ที่เปรียบเสมือนสายลมและแสงแดดอันอบอุ่น  
เพื่อนที่คุยถูกคอและยอมรับฐานะองค์หญิงของนางเอกได้ตั้งแต่แรกแบบชิวๆ  
คนนี้เป็นคุณชายที่รักอิสระมาก ไม่สนใจในอำนาจลาภยศ หรือชื่อเสียงเงินทอง 
สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่มีความหมาย  เมื่อเทียบกับอิสรเสรีและการใช้ชีวิตแบบไม่มีสิ่งใดผูกมัด  
เป็นคนที่เก่ง+ฉลาดมาก เกือบเท่าๆ พระเอกเลย  
แต่ติดตรงที่รักอิสระและไม่สนใจอำนาจใดๆ เลยไม่ได้เข้าสู่วังวนของการแย่งชิงด้วย  
ใช้ชีวิตได้แบบ slow life จริงๆ คนนี้ 55+... เสียดายพอพี่แกออกเดินทางแล้วก็ไม่ค่อยมีบทมาก โผล่มาตอนเล่มสุดท้ายนิดหน่อย แล้วก็หายไปกับสายน้ำ TvT

คนที่สอง เซียวเปี๋ย คุณชายผู้หยิ่งทะนงในเสียงพิณของตน แต่มาตกม้าตายกับนางเอก  
จริงๆ คนนี้ก็คิดไว้แล้วว่าน่าจะเป็นตัวประกอบชายอีกคนหนึ่ง  
แต่ช่วงแรกๆ เห็นพี่แกโผล่มาในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่คิดว่าจะเจอก็มาเจออะไรแบบเนี่ย ตอนที่โดนนางเอกพูดตัดเยื่อใย เพราะหวังดีไม่อยากให้เดือดร้อน
หลังจากนั้นก็นึกว่าจะมีบทบาทอะไรอีก เอาแบบโผล่มาแล้วร้องว้าวๆ ! 
แต่สุดท้ายฮีก็หายไปอีกคน TvT ....

คนสุดท้ายน้องชายขององค์หญิงซานอิน หลิวจื่อเยวี่ย ฮ่องเต้ทรราชย์  
นิสัยที่โหดเหี้ยมอำมหิต สังหารคนแบบตาไม่กระพริบ สิ่งเหล่านี้น่าจะเกิดจากการเลี้ยงดู
และประสบการณ์ในวัยเด็กที่ผิดๆ  แถมต้องขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยังน้อย
ท่ามกลางเหล่าขุนนางและคนมากมายที่ต่างหมายปองบัลลังก์ 
และคิดจะลอบสังหารตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้จิตใจแต่เดิมที่บิดเบี้ยวอยู่แล้วก็ยิ่งกู่ไม่กลับ แม้นางเอกจะพยายามอย่างไรแต่ก็ไม่อาจฝืนโชคชะตาได้  
แล้วดันเลือกวิธีผิดไปหน่อย เลยยิ่งทำให้นางเอกกลัวและถอยห่าง 
ในตอนสุดท้ายจังหวะที่น้องแกตัดสินใจเงื้อกระบี่จะสังหารนางเอก แต่น้องกลับวางกระบี่
แล้วก้มลงมาผูกสายเสื้อคลุมให้นางเอกตามสัญชาตญาณ เพราะกลัวพี่สาวจะหนาว   
เราชอบฉากนี้ เพราะตอนแรกเราเคยสงสัยว่าฮ่องเต้รักและห่วงใยพี่สาวตัวเองจริงๆ 
หรือแกล้งแสดงละคร  แต่เจอฉากนี้แล้วรู้เลยว่า ไม่ว่าพี่สาวจะทำให้เขาโกรธขนาดไหน  
แต่เขาก็ฆ่าพี่สาวไม่ได้จริงๆ  ตัวละครนี้สังหารได้ทุกคน แต่คนเดียวที่เขาไม่คิดจะทำร้ายก็คือพี่สาวตัวเอง  ถึงจะทำผิดกับทุกคนในใต้หล้า แต่ก็ไม่คิดจะทำผิดต่อพี่สาวตัวเอง..TvT

นิสัยของนางเอก ฉู่อวี้เป็นคน ใจกว้าง ไม่งี่เง่าเอาแต่ใจ  คิดแต่จะหาทางมีชีวิตรอด
แต่หลังๆ ก็เริ่มคิดได้ว่าไม่ได้มีแต่เราเพียงคนเดียวแล้วสินะ  ถ้าตัวเองไปแล้วคนในบ้านจะทำยังไง ฮ่องเต้น้องชายยิ่งติดตัวเองอยู่ด้วย หายไปเงียบๆ นี่มีหวังคนที่เหลืออยู่ในบ้านคงตายเรียบ ถึงจะเจอพระเอกหลอกมาหลายรอบก็ไม่ได้โมโหโวยวาย  
แต่นางจะคิดถึงเหตุผลที่เขาต้องหลอก คิดถึงนิสัยและสภาพแวดล้อมโดยรอบของคนๆ นั้น
และยอมรับได้อย่างสงบ ไม่แค้นเคือง  
ไม่ใช่เฉพาะกับพระเอกนะแต่จะเป็นแบบนี้กับทุกคน 

เราชอบนางตรงที่ถึงเวลาที่ต้องตัดใจนางก็ตัดใจ  นางบอกพระเอกไปตรงๆ ว่าชอบ  
พอพระเอกบอกว่าไม่ได้คิดอะไร นางก็โอเคไม่ยื้ดเยื้อ  ชอบก็ดี ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร 
จากไปแบบสวยๆ  เพราะ
ชีวิตนางไม่ได้มีแต่พระเอกแต่ยังมีคนในบ้าน คนที่ติดตามนางมาด้วยซึ่งเป็นเสมือนคนในครอบครัว  นางไม่ดึงดันที่จะอยู่ข้างๆพระเอกเพื่อรอให้เขาเปลี่ยนใจแต่เลือกกลับไปอยู่กับคนในบ้าน ไม่อาลัยอาวรณ์ก็ใช้ชีวิตแบบมีความสุขดี  หากิจกรรมทำไปเรื่อย  ไม่พร่ำเพ้อหาด้วย  เป็นพระเอกซะอีกที่สุดท้ายต้องคิดหาทางดึงนางเอกกลับมา   
ถึงขนาดต้องเดิมพันด้วยชีวิตเพราะรู้ว่านางเอกมีปมในใจ  เลยต้องวางแผนให้นางเอกสลัดปมนั้นทิ้ง แล้วสมัครใจยอมอยู่กับตัวเองตลอดไป  (ไอ้ตอนนี้เราก็มารู้ที่หลังเหมือนกันว่าเป็นแผนพี่แก แสดงละครเก่งจริงๆ 55+ )

เรื่องนี้หลักๆ เป็นเรื่องการหาหนทางเอาชีวิตรอดของนางเอก ว่าจะฝ่าฝืนโชคชะตาตามประวัติศาสตร์ได้ไหม ขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กับแผนการของพระเอก  
ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ในการแย่งชิงบัลลังก์อำนาจของทั้ง 2 แคว้น  
จะได้เห็นสติปัญญาและการวางแผนของพระเอก ว่าฉลาดมากแค่ไหน  
แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ยังไม่มีหลุด  ควบคุมตัวเองได้ดีมาก
ถ้าไม่เลือกที่จะช่วยนางเอก เราว่าพี่แกอาจจะครองโลกไปแล้วก็ได้นะ 55+  
พระเอกเรื่องนี้เก่งจริงๆ  เก่งจนน่ากลัว  มีจิตวิทยาสูง 
ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของพี่แก เราก็แยกไม่ค่อยออกเหมือนกัน ว่าไหนจริงไหนหลอก  
อย่าว่าแต่นางเอกกับคนอื่นๆ จะโดนหลอกเลย  เราคนอ่านก็โดนหลอกจ้า
ถ้าไม่มีบทบรรยายบอกไว้ก็ไม่รู้ดอกจ้า 
( นี่สินะความสำคัญของบทบรรยาย 55+ )   
ความคิดของตัวละครบางคนโดยเฉพาะพระเอก มันช่างยากแท้หยั่งถึงดีน๊อ 55+

** อ่านจบก็ได้รู้ที่มาที่ไปของสิ่งวิเศษที่หลุดมาในโลกนี้เสียที ก็ไม่ผิดจากที่เดาๆ ไว้เท่าไร  
ถ้าตกอยู่ในมือคนที่ฉลาดๆ แล้วคิดไม่ดีก็คงแย่  โชคดีที่ตกทอดอยู่ในสำนักของเทียนหรูจิ้ง
ที่ทำแค่อ่านบันทึกประวัติศาสตร์กับเปิดโหมดป้องกัน แต่ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ก็เป็นกรงขังอย่างหนึ่งสำหรับผู้ครอบครองด้วย (โปรดดูได้จากชีวิตของเทียนหรูจิ้ง 55+ )  
ก็คงแล้วแต่มุมมองและวิธีการใช้ของแต่ละคนล่ะมั้ง ว่าจะเป็นผู้ครอบครองหรือให้มันครอบครองเรา เพราะพอตกมาอยู่ในมือของนางเอกก็เห็นนางใช้อย่างสนุกสนาน  
มีความสุขดีนะ 55+


............................................................................................................................

' ในที่สุดเขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้  ยอมก้มหัว  ยอมศิโรราบ  ยอมอ่อนข้อ  
ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง  แต่ด้วยเหตุผลที่นางไม่มีวันรู้
บนภูเขามีต้นไม้  บนต้นไม้มีกิ่งไม้  ข้าชอบเจ้าเพียงนี้ เจ้ากลับไม่รู้
นี่เป็นความเปล่าเปลี่ยวและสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งบนโลกใบนี้  ข้าอยู่ตรงหน้าท่าน  ท่านกลับไม่รู้ว่าข้ารักท่าน

..........................................................................

" ข้าชอบเจ้า .... นี่ ข้าชอบเจ้า "
เขาได้ยินเสียงตนเองเอ่ยขึ้นช้าๆ  " ไม่มี  ไม่มีแม้แต่น้อย "
" เมื่อก่อนคำพูดเหล่านั้นล้วนโกหกข้า "
" ใช่  ล้วนเป็นคำพูดโกหก "

............................................................................

หรงจื่อคือยอดฝีมือในการเดินหมากและปลุกปั่นจิตใจคน  เขารู้ว่าฉู่อวี้เป็นคนเช่นไร 
การทุ่มเทความคิดวางแผนในครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของนางแทบจะพังทลาย 
จนตายก็ไม่อาจลืมเขาได้
ในช่วงน่าสังเวชใจที่สุดเขาได้ลงดาบอย่างเฉียบขาด  สร้างบาดแผลลึกที่สุดไว้ในจิตวิญญาณของนาง
" .....ข้านอนอยู่ในโลงหินแล้วบอกกับท่านว่าถ้าข้าตายไปแล้วให้ปิดฝาโลงเผาร่างข้าไปเสีย  แต่ในใจของข้ากลับไม่ยินยอมพร้อมใจ  ข้ามาอยู่ในโลกใบนี้กลับไม่เคยได้รับอะไรเลย  แต่อย่างน้อยข้าต้องรั้งนางไว้ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด  และไม่ว่านางจะเศร้าโศกเสียใจหรือไม่ "

..............................................................................

..... หญิงสาวที่ยึดครองร่างของข้า  ข้าควรเตือนเจ้าหรือไม่  เมื่อเจ้าลืมตาขึ้นมาจงอย่าได้มองเด็กหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าเจ้าเป็นอันขาด
อย่าไปมองสบตาเขา
อย่าไปส่งยิ้มให้เขา
อย่าไปพูดคุยอะไรกับเขา
คนผู้นั้นคือมารปีศาจที่กลืนกินหัวใจคน
อย่าไปหลงรักเขา  หาไม่เจ้าจะเป็นเช่นข้า  จะรักก็ไม่ได้ จะเกลียดก็ไม่ได้เหมือนตายทั้งเป็น ......