วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ฝันรักในเงาเมฆ


ฝันรักในเงาเมฆ (เล่มเดียวจบ) 
ผู้แต่ง : เย่ว์หลิวกวง
ผู้แปล : สีเมษา
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ผูชิงชิง ผู้ช่วยทนายความสาวในสำนักงานทนายเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่มีเพียงเธอกับเจ้านายเพียงแค่สองคนเท่านั้น ดังนั้นนอกจากจะต้องทำงานเป็นผู้ช่วยของเขาแล้ว
เธอก็ยังต้องเป็นแม่บ้าน เป็นคนขับรถ เป็นบาริสต้า และเป็นแอดมินคอยให้คำปรึกษากฏหมายทางอินเทอร์เน็ต และอีกมากมายบลาๆ...เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ
(เงินเดือน
15000 ทำจริง 150000 ฮาๆ) แต่ทว่าต่อให้ทำดีแค่ไหน เจ้านายของเธอก็ไม่เคยพูดชมหรือให้กำลังใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขากลับชอบหาเรื่องตำหนิจับผิดเธอเป็นประจำทุกวัน เผด็จการ ไร้หัวใจ เอะอะก็หักเงิน จนเธออยากจะลาออกวันละร้อยหน..แต่ก็ไม่กล้า 55

พระเอก เหรินเซี่ยงหย่วน เป็นเจ้านายที่โหด เขี้ยว และเข้มงวดมากกก
มาสาย
+ทำงานผิดพลาดหักเงิน ไม่แต่งหน้า+ไม่รับโทรศัพท์หักเงิน โอทีไม่มี วันลาอย่าหวัง (ขอลา 5 วันพี่ให้ 3 วันห้ามต่อ) เจอแบบนี้ต่อให้หล่อดูดีแค่ไหนก็ไม่มีใครอยากทน...
นางเอกก็เช่นกัน เมื่อมีทางที่ดีกว่าก็ต้องยื่นใบลาออกสิ จะรออะไร ..
จากนี้ไปอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย แต่ๆ เหมือนสวรรค์จะไม่เห็นด้วย ถึงได้ทำให้เขากับเธอต้องกลายมาเป็นเพื่อนบ้านกันแบบนี้
 55..

นางเอกเรื่องนี้มีความสามารถพิเศษที่บอกใครไม่ได้อย่างหนึ่งคือ เธอสามารถควบคุมก้อนเมฆ ทำให้ก้อนเมฆเปลี่ยนรูปร่างและลอยไปทางไหนก็ได้ เพียงแค่ชี้นิ้วไปที่เมฆก้อนนั้น
ซึ่งในเรื่องจะมีแอปพยากรณ์อากาศตัวหนึ่งชื่อว่ามองเมฆ ที่กำลังเป็นที่นิยม
ซึ่งด้วยเหตุการณ์บางอย่างจึงทำให้นางเอกได้รู้จักและกลายมาเป็นเพื่อนกับผู้ก่อตั้งแอปนี้
และได้หุ้นเป็นการตอบแทน
แต่นางเอกก็ไม่ได้เอาความสามารถพิเศษมาช่วย หรือเกี่ยวข้องอะไรกับแอปนี้นะ
พูดง่ายๆ คือนางแทบไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษนี้เลยอะ ใช้น้อยมากกกๆ
เราก็เลยแอบสงสัยว่าตกลงความสามารถนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่น้อ
?
เพราะเนื้อหาในเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่เรื่องความเขี้ยวของพระเอก เรื่องงานและเรื่องคดีความที่นางเอกรับทำซะมากกว่า ยิ่งหลังจากที่ลาออกมา นางเอกถึงได้รู้ซึ้งว่าความเขี้ยวและการตำหนิติเตียนตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของพระเอกนั้นไม่ได้เสียเปล่าเลย
เพราะมันช่วยทำให้เธอมีทักษะในการทำงานต่างๆ และผ่านทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น
ไอ้ที่คิดว่าจะติดขัดมีปัญหา ก็กลับผ่านไปได้อย่างง่ายดายแบบสบายๆ..

ส่วนเรื่องความรักก็เรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา รู้ใจกันช้าาาเหลือเกิน 
เนื่องจากสมัยตอนเป็นเจ้านายมองเห็นแต่มุมร้ายๆ เพราะพระเอกไม่เคยใจดี ไม่เคยอ่อนโยน
แต่พอลาออกมาพี่แกกลับเริ่มมีมุมอ่อนโยนให้เห็น เวลานางเอกเดือดร้อนก็โผล่มาช่วยได้ทันทุกที จากที่ยังไม่แน่ใจก็กลายเป็นแน่ใจและ ว่าชอบพระเอกจริงๆ  
ส่วนพระเอกก็มีจุดประสงค์บางอย่าง แม้จะตกหลุกรักแล้วแต่ก็
ไม่สามารถแสดงออกได้ 
แต่เรื่องความรักนี่มาสไตล์เดียวกันกับเรื่องอย่ารบกวนการเรียนของฉันเลยนะ
ใสๆ กอดจูบไม่มี 
ncยิ่งไม่ต้องพูดถึง มากสุดแค่เดินเล่น55  ตอนแรกนึกว่าพอเปลี่ยนจากรักวัยเรียนมาเป็นวัยทำงานแล้วคงจะเจ้มจ้นมากขึ้น ที่ไหนได้ครือๆ กันเลย 55
แถมตอนจบยังมาแนวเดียวกันอีกพี่จ๋า55... ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแนวรักในวัยทำงาน
การต่อสู้ในอาชีพการงานอะไรประมาณนี้ แต่
พออ่านจบถึงได้รู้ว่ามีแนวไซไฟกับย้อนเวลาผสมมาด้วยเด้ออออ 55

ป.ล. ส่วนเรื่องความสามารถพิเศษของนางเอกก็มาเฉลยตอนท้ายๆ นี่แหละ  (ซึ่งอันที่จริงเราว่าไม่ต้องมีก็ได้นะจ๊ะ 55)




วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564

รัตติกาลซ่อนกล 4 เล่มจบ

 


รัตติกาลซ่อนกล 4 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
หนิงหล่ง 凝(隴)
ผู้แปล : Singin' in the Rain
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอก ฟู่หลันหยา บุตรสาวของฟู่ปิง ขุนนางน้ำดีซึ่งเคยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่เพราะนิสัยที่ตรงไปตรงมา ดื้อรั้นหัวแข็ง จึงทำให้ล่วงเกินคนเอาไว้มาก
เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ พ่อของนางเอกจึงเริ่มหมดอำนาจลงเรื่อยๆ
และสุดท้ายก็ถูกใส่ร้าย จนถูกจับเข้าคุกหลวงพร้อมกับบุตรชาย
จากบุตรสาวตระกูลขุนนางที่เคยเรืองอำนาจ จึงต้องตกต่ำลงในชั่วพริบตาและกลายเป็นบุตรตรีของขุนนางต้องโทษ ที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

พระเอก ผิงอวี้ ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร บุตรชายคนเล็กของซีผิงโหว ฉลาด เด็ดขาด
มีไหวพริบ มีวรยุทธ์สูง ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรตั้งแต่อายุ
20
ในอดีตบ้านพระเอกเคยถูกพ่อของนางเอกยื่นฎีการ้องเรียน จึงทำให้ผู้เป็นพ่อถูกปลดออกจากตำแหน่ง บ้านถูกริบทรัพย์ ทั้งครอบครัวต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวง  
ต้องตกระกำลำบาก ได้รับความทุกข์ยากต่างๆ นานา
ดังนั้นเมื่อได้เจอนางเอก พระเอกจึงไม่คิดปกปิดความเกลียดชังที่ตนมีต่ออีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทั้งพูดจาไม่ดี ทำร้ายจิตใจ และใช้นางเอกเป็นเหยื่อล่อศัตรูโดยไม่สนใจความเป็นความตาย...

พระเอกได้รับมอบหมายงานให้ไปพาตัวนางเอก ซึ่งกลายเป็นลูกขุนนางต้องโทษกลับมาเมืองหลวงเพื่อรับโทษ แต่ไม่รู้ว่าใครไปปล่อยข่าวลือว่านางเอกเป็น "ตัวเร่งยา"
จึงทำให้มีคนแห่แหนกันมาเพื่อจับตัวนางเอกไป ทั้งสำนักบูรพาเอย สำนักในยุทธภพเอย
แล้วไหนจะพวกลัทธิมารนอกรีตกับคนต่างแคว้นอีก...ดาหน้ากันเข้ามาไม่หวาดไม่ไหว
ยังไม่รวมถึงพวกวิชาแปลกๆ ของแต่ละคน แต่ละสำนักอีกนะ
ที่ทำให้พระเอกต้องเค้นสมอง และขอระดมกำลังจากคนในยุทธภพเพื่อมาช่วยกันรับมือ
ถ้าใครเคยได้อ่านงานของนักเขียน ตั้งแต่เรื่องบุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน
จะรู้ว่านักเขียนท่านนี้ไม่เคยเขียนให้ต่อสู้กันแบบธรรมดา แต่จะต้องมีพวกไสยศาสตร์มนต์ดำเข้ามาเอี่ยวด้วย เรื่องนี้ก็เช่นกันแถมยังมีเรื่องศาสตร์ของค่ายกลเพิ่มเข้ามาด้วยอีกหนึ่งอย่าง

นี่จึงไม่ใช่แค่การเดินทางพาลูกสาวขุนนางต้องโทษกลับเมืองหลวง
แต่ยังเป็นการเดินทางไขปริศนาลับอีกมากมาย ที่เกี่ยวกับตัวนางเอกและใครอื่นอีกหลายคน 
ที่ต้องมาพัวพันเกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องไข่มุกถ่านเอ๋อร์
ระหว่างการเดินทาง ความลับต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตก็จะค่อยๆ ปรากฏความจริงออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแม่นางเอก หรือเรื่องไข่มุกถ่านเอ๋อร์ที่ทำให้ผู้คนมากมายยอมเสี่ยงตายเข้ามาแย่งชิง และเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในยุทธภพเมื่อ 20 ปีก่อน
ที่ทำให้ใครบางคนหรือบางสำนักต้องเร้นกายหายไป รวมไปถึงความจริงที่ทำให้บ้านพระเอกต้องถูกเนรเทศด้วย...

ส่วนพระเอกช่วง 2 เล่มแรกก็จะเหมือนคนเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์แปรปรวนง่ายเหลือเกิน...ตกหลุมรักนางเอกแล้วแต่ไม่ยอมรับ ขนาดเพื่อนสนิทเค้นถามก็ยังปากแข็ง ประกาศกร้าวว่าจะไม่มีวันชอบลูกสาวของตระกูลฟู่เด็ดขาดด...โฮะๆ  
แต่การกระทำนี่อีกอย่างเลยน๊า  ไอ้หนุ่มไหนเข้าใกล้น้องก็ไม่ได้ พี่กันออกหมด (ใช้หน้าที่ในทางที่มิชอบ
55)  คุยก็ไม่ได้ ให้ของก็ไม่ได้ แม้แต่มองพี่ก็ไม่อนุญาต หวงหนักมากกก
ผู้ชายคนเดียวที่เข้าใกล้น้องได้ก็คือพี่คนเดียวเท่านั้น..
55

ก็ทำตามหน้าที่อะเนอะ แถมนางเอกยังถูกคนตามล่าอีก พี่เลยต้องตามดูแล
เอ้ยๆ อารักขาอย่างใกล้ชิด ต้องนอนเฝ้าที่หน้าเตียงทุกคืน
ของที่คนอื่นให้ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทุกชิ้น (ทำตามหน้าที่เฉยๆ ไม่ได้หึงไม่มี..หึหึ)
แม้นางเอกจะเป็นสตรีในห้องหอไม่รู้วรยุทธ์แต่ก็ฉลาดมีไหวพริบ ที่บ้านสอนมาดี
ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรหรือตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ก็มีสติพร้อมคิดใคร่ครวญเสมอ
ไม่เป็นตัวถ่วง ใจเด็ด และที่สำคัญน้องสวยยยยมาก  
แล้วพระเอกจะไม่หลงรักได้ยังไง..แต่เพราะความแค้นแต่เก่าก่อน จึงทำให้ตอนแรกๆ พี่เหมือนคนผีเข้าผีออกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะรักก็กลัวผิดต่อคนที่บ้าน แต่จะให้ไม่รักพี่ก็หลอกตัวเองไม่ได้อีก..ทรมานใจเหลือเกิน ต้องต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นาน
แต่พอได้คำตอบแล้วพี่ก็เปลี่ยนไปทันที อย่างกับคนละคน
55
ยิ่งหลังจากที่ได้ลิ้มรสรักพี่ก็ยิ่งโหยหา ว่างเมื่อไรต้องแอบแวบมาหาแล้วหลอกแต๊ะอั๋งคนเขา ไม่ได้กินแต่ขอแค่ชิมก็ยังดี..พอเปิดใจกันแล้วมีโอกาสเมื่อไรพี่ก็หื่น เอ้ยๆ หวานใส่น้องตลอด  แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเป็นเข้มตามตำแหน่งหน้าที่ แต่ลับหลังนี่สายเปย์สุดๆ
พ่อคนคลั่งรัก ตั้งแต่เสื้อผ้ายันเสื้อบังทรง พี่ก็ลงทุนไปเลือกซื้อให้เองถึงที่ร้าน
อาหารการกินบำรุงไปอย่าให้ขาด (กินดีเกินฐานะนักโทษมาก
55)  
ส่วนห้องนอนหรือที่พักของน้อง ก็ต้องจัดให้พักใกล้ๆ พี่เท่านั้น..อิอิ



วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

คน สื่อ วิญญาณ เล่ม 1

 



คน สื่อ วิญญาณ เล่ม 1 / ผู้แต่ง : สืออู่
ผู้แปล G.N Voyager
สำนักพิมพ์ everY

ความรู้สึกหลังอ่านจบอาจมีสปอยล์
ไอโม่ซิน ทายาทและผู้นำคนสุดท้ายของเผ่าเถี่ยน ชนเผ่ากลุ่มน้อยที่มีความสามารถในการเจรจาเป็นคนกลางคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าภูต ผี วิญญาณ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมีสัญญาติดค้างอยู่ แต่มาวันหนึ่งเผ่าเถี่ยนก็ล่มสลายเหลือเพียงนายเอกกับแม่สองคน
นายเอกอยากช่วยแม่ จึงตัดสินใจแบกรับภาระของผู้นำเผ่าตั้งแต่อายุยังน้อย
ต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย จึงทำให้ไม่มีเวลาคบหาใคร ไม่เคยมีเพื่อน และด้วยท่าทางสันโดษไม่แคร์ใครนี่เอง 
บางทีจึงทำให้ถูกคนหมั่นไส้ ถูกเพื่อนแกล้ง แต่น้องก็ไม่สนใจ
เพราะไม่มีเวลาไปสนใจจริงๆ ประกอบกับมีวิญญาณบรรพบุรุษนับพันคอยตามปกป้องดูแลอยู่แล้ว ใครที่มารังแกน้องเดี๋ยวก็จะเจอกับเหล่าวิญญาณของบรรพบุรุษตามไปจัดการ จนต้องขนลุกกันไปเองทุกราย..หึหึ

วันหนึ่งในขณะที่น้องเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาให้กับวิญญาณตามปกติ น้องก็ได้พบกับนายตำรวจแซ่เจียง ที่มีเบื้องหลังใหญ่โตไม่ธรรมดา แถมยังไปทำให้บรรพบุรุษที่หลับไหลของอีกฝ่ายตื่นขึ้นมาอีกด้วย หลังจากนั้นท่านบรรพบุรุษที่ว่า ก็อ้างว่าเผ่าของน้องติดค้างสัญญาหมั้นหมายกับตนอยู่ และต้องการให้น้องซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ปฏิบัติตามคำสัญญานั้น!

พระเอก เจียงหลี เป็นมังกรวารี หรือท่านบรรพบุรุษที่คอยปกป้องคุ้มครองสกุลเจียงมาตั้งแต่โบราณ ปกติก็จะหลับไหลไม่ค่อยตื่น ไม่ค่อยปรากฏตัวออกมา ไม่ชอบให้ใครมาปลุกมายุ่งวุ่นวาย คนในตระกูลเจียงก็เคารพนับถือ ไม่กล้าหือ เพราะล้วนกลัวเกรงพระเอกกันทุกคน
แต่หลังจากได้พบนายเอก พระเอกก็เริ่มปรากฏตัวบ่อยขึ้น ถ้าไม่มีคนในตระกูลคอยเตือนว่าโลกในตอนนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว พี่ก็คงกะจะครองคู่อยู่กับนายเอกตั้งแต่ตอนที่คนเขาอายุ
15 เลยสินะ..หึๆ แต่พอมีคนทักว่าสมัยนี้ต้องอายุ 18 ก่อนนะถึงเรียกว่าโต พี่ถึงได้ยอมรอ...

เผ่าเถี่ยนมีกฎที่ต้องปฏิบัติตามนับร้อยๆ ข้อ และอันดับแรกสุดก็คือต้องรักษาสัญญา
ดังนั้นน้องจึงไม่อาจปฏิเสธพระเอกได้ตามใจ สุดท้ายเลยต้องขอให้ลองคบหากันไปก่อน
ถ้าไม่โอเคก็ค่อยแยกย้ายกัน ซึ่งพระเอกก็แสนดีเหลือเกิน แม้จะเป็นปีศาจที่มีพลังสูงมากก
แต่ก็ไม่เคยบังคับฝืนใจน้องเลย น้องพูดอะไรก็ยิ้มรับยอมทำตามหมด จนทำให้คนตระกูลเจียงต่งพากันเกรงใจน้องตามไปด้วย ประหนึ่งมีบรรพบุรุษเพิ่มมาอีกคน
55 (ก็ท่านบรรพบุรุษเราไปตามจีบเขาอยู่นี่นา) กลายเป็นว่าน้องเลยได้แบ็คดีๆ หรือคนใหญ่คนโตหนุนหลังเพิ่มมาอีกมากมายโดยไม่รู้ตัว ส่วนพระเอกก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ดูว่าสมัยนี้เค้าจีบกันยังไง ต้องให้ของอะไร พี่ก็สั่งให้คนไปหาไปเตรียมไว้..แบบพี่เขาเป็นมังกรวารีใสๆ ซื่อๆ ตรงไปตรงมา นิสัยไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมานั่งเดาใจ เย็นชากับคนอื่นแต่อ่อนโยนยิ้มแย้มกับนายเอกคนเดียว...

เป็นเรื่องแนวภูต ผี วิญญาณผสมการไขคดี ที่มีนายเอกคอยช่วยเหลือทำให้จบสวย
ช่วยแก้ไขสิ่งที่ค้างคา ทำให้เหล่าวิญญาณไปสู่สุขคติ คนตายสมหวังคนเป็นก็อยู่ดีมีสุข
คดีในเรื่องบางตอนก็สะท้อนปัญหาสังคม เป็นเรื่องใกล้ตัวอยู่รอบๆ ตัวเรานี่เอง
ดังนั้นนอกจากความหลอนก็ยังมีความสงสาร ความเห็นใจ และความรู้สึกหดหู่ 
ส่วนพระเอกก็คอยอยู่ข้างๆ ไม่ก้าวก่าย ให้อิสระน้องเต็มที่ แต่ถ้ารับมือไม่ไหวต้องการให้ช่วยพี่ก็จะมาทันที เรียกได้ทุกเวลา ถึงไม่เห็นแต่ก็รู้ว่าอยู่ข้างๆ (นายเอกเรียกได้คนเดียวนะ คนในตระกูลเรียกพี่ไม่มา แล้วแต่อารมณ์
55) ความรักละมุนละม่อม ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันไป ...สบายๆ ไม่รีบ 55

ป.ล.ตอนแรกพระเอกไม่รู้ว่าขึ้นเตียงคืออะไร กะคบกันแบบใสๆ ไม่มีเรื่องอย่างว่า
แต่พอรู้ความหมายเท่านั้นแหละ.....หึหึ นายเอกถึงกับต้องลางานเป็นเวลา
2 เดือนทุกปี 
เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ของพี่แก 55



วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เล่ห์จารชน

เล่ห์จารชน (เล่มเดียวจบ) 
ผู้แต่ง : โหมวเจวียน
ผู้แปล : ซิงฉาย
สำนักพิมพ์ อรุณ 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ฉิวเจียหนิง ด็อกเตอร์สาวสวยวัย 26 ปี ที่เรียนจบจากเมืองนอกและกำลังมีแพลนจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มนักข่าวที่คบกันมานาน
นางเอกเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาปริญญาโท และกำลังทำโครงการวิจัยวัสดุบางอย่างที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของใครบางคนโดยไม่รู้ตัว และทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

โจวเสี่ยวซาน นักศึกษาปริญญาโทที่เข้ามาเรียนที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง
เขามีใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดคน นิสัยเงียบขรึม เย็นชา และมีเบื้องหลังลึกลับที่แสนจะขื่นขม พระ-นางต่างดึงดูดกันและกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายคือไฟแต่ก็ยังเผลอใจยอมถูกแผดเผา...จนสุดท้ายก็ถลำลึก

พระเอกมีวัยเด็กและอดีตที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไร ต้องโตเกินวัยเพราะสภาพแวดล้อมมันบังคับ บังเอิญวันหนึ่งได้ช่วยชีวิตของท่านนายพลคนหนึ่งเอาไว้ อีกฝ่ายจึงให้พระเอกมาอยู่ข้างกายและส่งเสียเลี้ยงดู พอโตมาก็กลายเป็นมือดีคอยทำงานรับใช้ท่านนายพล
งานที่ต้องทำส่วนใหญ่ก็คือ การเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้าที่ได้มาโดยวิธีที่ผิดกฏหมาย
พูดง่ายๆ ก็คือขโมยมานั่นแหละ แต่พระเอกก็ไม่เคยทำพลาด ทำสำเร็จตามใบสั่งทุกครั้ง
มีทักษะในการโจรกรรมสูง ถ้าให้พูดแบบโบราณก็...บุ๋นก็ดีบู๊ก็เก่งอะ
และข้อมูลในโครงงานวิจัยของนางเอกก็คือเป้าหมายในการโจรกรรมครั้งนี้  
พระเอกจึงต้องวางแผนพาตัวนางเอกมา แม้รู้ดีว่าวิธีนี้จะทำให้อีกฝ่ายโกรธแค้นมากแค่ไหนก็ต้องทำ...

พระ-นางต้องใจกันตั้งแต่แรกพบ แม้นางเอกจะพยายามหักห้ามใจเพราะรู้ว่าตัวเองมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านแรงปรารถนาที่มีต่ออีกฝ่ายได้  ยิ่งอยากหลีกหนีก็ยิ่งพัวพัน
และยิ่งเมื่อแฟนหนุ่มของนางเอกถูกอีกฝ่ายลักพาตัวไป เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ
ในการต่อรองแลกเปลี่ยนกับข้อมูลของโครงงานวิจัย นางเอกก็ยิ่งหนีจากพระเอกไม่พ้น
และถูกดึงให้เข้าไปสู่โลกของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ...

เป็นแนวโรแมนติคดราม่าผสมแอคชั่น เชือดเฉือนกันไปมา มีระเบิด มียิงปืน
มีขับรถตกหน้าผา มาเกือบครบ 
55 (ก็พระเอกเขาเป็นจารชนอะ)  
ความรักของพระ-นางเริ่มต้นแบบไม่ถูกต้อง คนหนึ่งยังมีพันธะ ส่วนอีกคนก็มีเป้าหมายอื่นแอบแฝง กว่าจะรู้แน่ชัดว่าหัวใจตนเองต้องการสิ่งใด ก็ต้องผ่านเหตุการณ์หรือพบเจอเรื่องร้ายๆ ก่อน เป็นความรักแบบผู้ใหญ่ แบบคนฉลาด หวานๆ ขมๆ
พระเอกเองก็มีปม มีอดีตที่น่าสงสาร ตัวละครออกสีเทาๆ ไม่ได้เพอร์เฟค ต่อให้เก่งหรือฉลาดแค่ไหนก็ยังมีผิดมีพลาด 
ตอนแรกก็อ่านแบบไม่ได้คาดหวัง แต่พออ่านแล้วกลับดันสนุกกว่าที่คิดแฮะ 
แล้วเล่มไม่หนาด้วย 270 กว่าหน้าเอง เลยอ่านรวดเดียวจบเลย ปมไม่ค่อยซับซ้อนแต่ก็เดาทางไม่ถูก เนื้อเรื่องเดินไวกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ แปลดี อ่านลื่น

ป.ล.จบแบบ...อ้าวจบแล้วเหรอ อยากให้มีต่ออีกสักหน่อยจัง ดีที่มีบทสัมภาษณ์ของนักเขียนในหน้าหลังๆ เลยพอได้หายข้องใจบางเรื่อง..