วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

โชคลาภหมื่นล้านบันดาลรัก เล่ม 1

 

โชคลาภหมื่นล้านบันดาลรัก เล่ม 1 (6 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เจียงจื่อกุย
ผู้แปล : 
เหวินหรง
ปก : 
afternoontm
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก สวี่รุ่ย ชีวิตอาภัพเรื่องบุพการี พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก คนหนึ่งตายคนหนึ่งหายสาบสูญ ต่อมายายที่รักเธอมากก็จากไป นางเอกเลยต้องไปอยู่กับย่า พอย่าตายก็ย้ายไปอยู่กับน้าที่ฮ่องกง แล้วก็ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่กับพ่อที่เพิ่งหาตัวพบ แต่ผ่านไปไม่นานพ่อก็เสียไปอีกคน นางเอกเลยโดดเดี่ยวอย่างแท้จริงล่ะทีนี้ ต้องมีชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะตอนอายุน้อยยังไม่รู้จักคิด เลยใช้เงินไม่เป็น ใช้จ่ายฟุ่ยเฟือย ถลุงมรดกที่ยายทิ้งไว้ให้จนเกือบหมด แล้วต่อมาก็ประสบปัญหาในชีวิตอีกมากมาย จนทำให้เงินไม่พอใช้ กระทั่งต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อส่งตัวเองเรียน จนกระทั่งอายุ 22 ก็มาประสบอุบัติเหตุตาย ...พอตายก็ได้ย้อนกลับมาใหม่ในตอนที่อายุ 15 ในช่วงที่กำลังอาศัยอยู่กับย่าพอดี ...นางเอกเลยตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย จะดูแลย่าให้ดี ไม่ให้ชีวิตในชาตินี้ต้องตกระกำลำบาก และต้องพลัดพรากจากคนสำคัญไปเหมือนในชาติที่แล้วอึก...

เรื่องนี้เป็นแนวระบบ สนุกมาก เป็นระบบที่เจ๋งมาก เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างแรง55 อ่านแล้วต้องมีคนอิจฉาอยากได้ระบบแบบนางเอกไปใช้บ้างแหละ... ระบบแบบนี้มีที่ไหน ให้เงินใช้วันละ 10000 หยวน แล้วบังคับว่าต้องใช้ให้หมดทุกวันด้วย (อยากได้มั่ง55) พอใช้หมดวันรุ่งขึ้นก็จะมีเงินเข้าบัญชีใหม่ แล้วก็จะมีภารกิจใช้เงินให้ทำอีกบลาๆๆ แต่ว่าต้องใช้ให้ทันตามที่เวลากำหนดด้วยนะ ถ้าใช้ไม่ทันก็ถือว่าภารกิจล้มเหลว จะโดนหักภารกิจที่เคยทำสำเร็จหรือหักสวัสดิการพิเศษที่เคยได้รับ ซึ่งถ้าถูกหักจนหมดเมื่อไร นางเอกก็ต้องกลับไปที่จุดเดิม ...

คือพอย้อนกลับมาปุ๊บนางเอกก็เจอภารกิจแรกเลย คือต้องใช้เงิน 10000 หยวนให้หมดภายใน 10 นาที ซึ่งความยากมันอยู่ตรงที่ จำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งหลังจากที่ทำภารกิจสำเร็จ แล้วบางทีภารกิจมันก็มาแบบปุบปับ เช่น มาตอนกำลังจะออกจากโรงพยาบาลงี้ เครื่องบินกำลังจะแลนดิงงี้ หรือตอนที่อยู่บนเครื่องบินบ้างล่ะ นางเอกก็ต้องคอยคิดว่าที่นี่หรือแถวนั้นมีอะไรให้ซื้อได้บ้าง จะใช้เงินด้วยวิธีการแบบไหนดีโดยไม่ให้ผิดกฏ ต้องคำนวณราคากับของที่จะซื้อเพื่อให้ครบกับจำนวนเงินที่ภารกิจกำหนดมาด้วย (เกินได้แต่ห้ามขาด ถ้าเกินก็แค่ออกตังค์ส่วนเกินเอง แต่ห้ามขาดเด็ดขาด) หรือนอกจากใช้เงินซื้อของแล้ว ยังสามารถเอาไปใช้ทำหรือลงทุนอย่างอื่นแทนได้ไหม เช่นบริจาค หรือให้คนอื่นยืม หรือลงทุนในธุรกิจ...ซึ่งมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเท่าไร เพราะระบบก็จะมีข้อบังคับหรือข้อห้ามจุกจิกมากมายที่ตั้งไว้ เพื่อไม่ให้นางเอกโกงหรือใช้เงินได้ง่ายๆ ด้วย

ความจริงนางเอกเป็นคุณหนูตระกูลดังอยู่แล้ว แต่เพราะแม่มาแต่งงานกับพ่อที่เป็นคนธรรมดา ตาก็เลยไม่ยอมรับตัดหางปล่อยวัด ไม่สนใจนางเอก นางเอกก็ไม่ง้อเพราะไม่ชอบที่ตามาว่าดูถูกพ่อตัวเอง เวลาที่เพื่อนๆ เห็นนางเอกใช้เงินซื้อของอย่างบ้าคลั่ง(ตามระบบสั่ง) ก็จะคิดว่าเพราะนางเอกเป็นคุณหนูตระกูลนี้สินะ หรือเวลาเพื่อนเก่าแนะนำนางเอกกับใครก็จะพ่วงด้วยว่าเป็นหลานคนตระกูลนี้ คนเลยนึกว่าอ๋อ...ที่นางเอกใช้เงินมือเติบได้ขนาดนี้ก็เพราะเป็นหลานของตระกูลนี้สินะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ ตาไม่ได้สนใจนางเอกเลย นางเอกก็พยายามบอกแล้วว่าคนที่รวยคือตาไม่ใช่ตัวเอง ตัวเองอยู่ด้วยมรดกยาย แต่ก็นั่นแหละไม่มีใครเชื่อ แต่ก็ดีเพราะนางเอกก็ต้องการเอาชื่อตามาเป็นเกราะคุ้มกันตัวเองอยู่เหมือนกัน คนจะได้ไม่สงสัยว่านางเอกเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ

ส่วนพระเอกเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนางเอก มีร่างกายอ่อนแอ ชาติก่อนตายเร็วเพราะโรคหัวใจกำเริบ ก่อนตายอยากเจอนางเอกมากแต่ไม่ได้เจอ แต่ขนาดตายไปแล้วก็ยังไม่ลืมบอกให้คนที่บ้านเอาเงินไปช่วยนางเอกตอนลำบากด้วย(ส่งถ่านกลางหิมะจริงๆ) ย้อนกลับมาคราวนี้นางเอกเลยต้องการช่วยให้พระเอกมีสุขภาพแข็งแรงและไม่ตายเร็วเหมือนในอดีต คือระบบที่นางเอกได้รับเนี่ย ถ้าทำสำเร็จบางทีก็จะมีสวัสดิการพิเศษให้ด้วย อย่างเช่นช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอะไรประมาณนี้ นางเอกเลยอยากส่งต่อให้พระเอก แต่วิธีการส่งต่อคือต้องส่งผ่านทางเลือดหรือของเหลวเท่านั้น 55 (ระบบกำหนดมา) แล้วขณะที่ส่งผ่านของเหลว ระบบก็จะมีการแจ้งเตือนว่าตอนนี้ได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เช่น ถ้าดื่มน้ำแก้วเดียวกันก็ได้ 1% ถ้าจะใช้วิธีจูบก็จะมาแบบจุ๊บกันเฉยๆ ไม่ได้อีกนะ (อิระบบมานรู้ทันจ้า) ต้องจูบแบบดูดดื่มเท่านั้น แล้วก็ต้องจูบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง 100% ด้วย 55

ในเรื่องก็จะมีพวกคุณหนูที่ไม่ชอบนางเอกคอยมาหาเรื่องเป็นระยะๆ หรือบางคนที่ไม่เชื่อว่านางเอกเป็นลูกหลานตระกูลนี้จริง (เพราะหลานตระกูลนี้ส่วนใหญ่ต้องไปเรียนที่อังกฤษ แต่นางเอกทำไมมาอยู่เมืองนี้คนเดียวฟะ) อ่านเพลินดี เราว่ามันได้มากกว่าการดูนางเอกถลุงเงินนะ (เพราะโดนบังคับ ถ้าไม่ใช้ให้หมดเดี๋ยวตาย) แต่มันยังได้เห็นถึงวิธีคิดและการเอาเงินไปใช้ต่อยอดของคนรวย คืออ่านแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงรวยกันจัง 

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

อย่าเหยียดเผ่าพันธุ์กันสิ 3 เล่มจบ

 

อย่าเหยียดเผ่าพันธุ์กันสิ 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง  (月下蝶影 )
ผู้แปล : นกแก้ว
วาดปก : 
JR.LULU
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ฝูหลี ปีศาจกระต่ายที่มีชีวิตมาไม่นานเท่าไร 4000 ปีเอง ปีศาจน้อยที่ได้รับการเลี้ยงดูปกป้องทะนุถนอมมาอย่างดีราวกับองค์ชายน้อยจากเหล่าปีศาจในบรรพตเงาหมอก กิจวัตรประจำวันคือบำเพ็ญเพียร กิน เล่น นอน แต่วันหนึ่งนอนนานไปหน่อย (2000 ปี) ตื่นมาอีกทีอ้าววว..โลกที่เคยเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจตอนนี้ถูกมนุษย์ยึดครองไปหมดและ ...ปีศาจน้อยฝูหลีเลยตัดสินใจลงจากเขาเพื่อออกไปเผชิญโลกกว้างและหางานทำในดินแดนมนุษย์

นายเอกอยากสอบรับราชการในดินแดนมนุษย์แต่ไม่มีใบปริญญา ก็เลยต้องไปทำงานแบกหามขนอิฐขนปูนในไซต์ก่อสร้างและเป็นรปภ.เพื่องานเงินเรียน เป็นปีศาจที่ดีมีจรรยาบรรณสูงและมีอุดมการณ์ ใสซื่อแต่ไม่โง่ ไม่คิดเอาของวิเศษหรือสมุนไพรหายากออกมาขาย แต่อยากหาเงินด้วยกำลังความสามารถของตัวเอง น่ารักใสซื่อมาก ภายนอกดูอ่อนแอบอบบางเหมือนรังแกง่าย แต่ความจริงพลังโคตรสูง แต่นายเอกไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งอะไร เป็นแค่ปีศาจตบะต่ำพลังอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไป แต่ในสายตาของภูตผีปีศาจหรือผู้บำเพ็ญเพียรในโลกมนุษย์ตอนนี้คือโคตรเทพ หลังจากได้เห็นนายเอกแสดงฝีมือก็พากันหน้าซีด เปลี่ยนเป็นนอบน้อมและเรียกนายเอกว่าผู้อาวุโสทันที

พระเอก จวงชิง เป็นลูกครึ่งมังกรทองที่มีชีวิตวัยเด็กต่างจากนายเอกลิบลับราวฟ้ากับเหว ด้วยความที่เป็นเลือดผสมระหว่างมังกรกับมนุษย์ บวกกับเป็นมังกรทองที่เหลืออยู่ตัวสุดท้าย นอกจากไม่มีครอบครัวก็ยังไม่มีคนในเผ่าช่วยปกป้องดูแล พระเอกเลยถูกมังกรเผ่าอื่นรุมข่มเหงรังแก ถูกคนหักหลังไล่ล่า เฉียดตายก็หลายหน กว่าจะมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย ต่อสู้มาโดยลำพังเกือบ 2000 ปีจนมีทุกอย่าง และได้กลายเป็นหัวหน้ากรมควบคุมโลกผู้ฝึกตนในแดนมนุษย์

ตอนที่พระ-นายเจอกัน พระเอกยังมองร่างกับตบะที่แท้จริงของนายเอกไม่ออก นึกว่าน้องเป็นปีศาจธรรมดาที่มีพลังตบะต่ำและมีชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะไปเห็นตอนคนเขาเก็บขยะอยู่พอดี 55 (โอ๊ยน้องงง) ส่วนนายเอกมองปราดเดียวคือรู้เลยว่าพระเอกเป็นเป็นมังกรทองเลือดผสมที่มีตบะ 2000 ปี เป็นมังกรประจำดวงชะตาเมือง มีบุญบารมี เป็นลูกรักของสวรรค์ ... หลังจากที่ลูกน้องพระเอกเห็นนายเอกต่อสู้และช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ ก็เลยคะยั้นคะยอให้นายเอกมาสมัครสอบเข้าทำงานที่หน่วยงานพระเอก แต่ตอนแรกนายเอกจะไม่ไป เพราะอยากเป็นข้าราชการ 55 แต่สุดท้ายก็เจอกล่อมจนลองไปสอบ ตอนสอบมีให้สอบข้อเขียนกับต่อสู้ ปรากฏว่าคะแนนต่อสู้ของนายเอกคือดีเลิศ แต่ข้อเขียนดันตก...จริงๆ ก็ตอบถูกแหละ เพียงแต่มันไม่ตรงตามยุคสมัย คือสิ่งที่นายเอกตอบมาเป็นสิ่งที่ปีศาจสมัยนี้เขาไม่รู้จักไม่ได้ทำกันแล้ว บางอย่างก็ไม่เคยเห็นหรือมีคนรู้น้อยมาก พระเอกถึงขนาดต้องเอาคำตอบของนายเอกไปค้นในบันทึกยุคเก่าๆ ดู ถึงได้รู้ว่าที่นายเอกตอบนั้นไม่ผิดนะ ...แต่พอสอบติด นายเอกก็ลังเลจะไม่ทำงานนี้อีก เพราะรู้สึกว่าเป็นรปภ.ก็ดีอยู่แล้ว 55..

พอมาทำงานด้วยความเก่ง ปีศาจอะไรมาก็จัดการได้หมด บวกกับความใจป้ำแจกทองเหมือนขนม ทุกคนในที่ทำงานเลยชอบและยิ่งเคารพเทิดทูนนายเอก คือนายเอกไม่รู้ว่าของที่ตัวเองหยิบออกมาให้คนอื่นน่ะมีราคาเป็นของหายาก เพราะถูกเลี้ยงมาแบบลูกเศรษฐี เลยนึกว่านี่เป็นของหาง่ายพื้นๆ ใครๆ ก็มี .. แบบเดี๋ยวก็มอบอาวุธที่สร้างมาจากปีศาจในตำนานให้พระเอกไว้ใช้ต่อสู้ เดี๋ยวก็เอายาลูกกลอนเม็ดละสองล้านให้พระเอกกิน หรือบางทีก็เทเพชรกองโตออกมาให้พระเอกเอาไว้ใช้ประดับบ้าน เพราะเห็นพระเอกชอบพวกเพชรนิลจินดา แบบขนาดรถก็ยังฝังเพชรอะ 55..จนพระเอกต้องปรามเรื่องให้ของของนายเอก เพราะกลัวว่าสักวันจะโดนหลอกจนหมดตัว

เป็นแนวภูตผีปีศาจ ผู้ฝึกตน ที่พยายามปรับตัวให้อยู่ร่วมกับสังคมมนุษย์บนโลกที่ไม่มีใครกราบไหว้หรือเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณอีกต่อไปอย่างกลมกลืน ผสมการจิกกัดเสียดสีเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายพื้นที่ป่าของมนุษย์ รุกล้ำทำลายที่อยู่ของสัตว์จนมาถึงถิ่นที่อยู่ของเหล่าปีศาจบรรพกาล บางแห่งก็ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิวตามยุคสมัย บางแห่งก็เปลี่ยนเป็นสถานที่อยู่อาศัย จนส่งเสียงดังรบกวนทำให้ปีศาจเริ่มฟื้นตื่นจากการหลับใหลออกมาอาละวาด ...เดือดร้อนไปถึงหน่วยงานของพระเอก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลจัดการความสงบสุขเรียบร้อยของปีศาจต่างๆ ที่ต้องการเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองมนุษย์

ในเรื่องจะมีสมาพันธ์ปีศาจสำหรับให้ปีศาจใหม่มาลงทะเบียนรับบัตรประชาชนก่อน จะได้ไม่เป็นปีศาจเถื่อนแล้วถูกหน่วยงานพระเอกจับไป แต่ถ้าปีศาจตัวไหนก่อความวุ่นวายทะเลาะกันหรือมีเรื่องลี้ลับอะไรเกิดขึ้น หน่วยงานของพระเอกก็จะส่งคนไปจัดการและกลบเกลื่อนอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์...ต้องปกป้องทั้งเหล่าปีศาจและมนุษย์ไปพร้อมๆ กัน แต่ในขณะเดียวกันก็จะให้มนุษย์รู้ถึงการดำรงอยู่ของพวกตัวเองไม่ได้เด็ดขาด ...ซึ่งระหว่างที่กำลังจัดการดูแลแก้ปัญหาต่างๆ ของภูตผีปีศาจ ก็จะมีเรื่องที่ปีศาจบรรพกาลเริ่มทยอยฟื้นตื่นจากการหลับใหลและกลับมาปรากฏตัวบนโลกมนุษย์อีกครั้ง รวมถึงเรื่องปริศนาของตัวนายเอก ว่าตกลงน้องเป็นปีศาจหรือตัวอะไรกันแน่ ทำไมเก่งเกินเบอร์เผ่าพันธุ์กระต่ายขนาดนี้ ...แต่ชอบเวลานายเอกอยู่ในร่างกระต่ายนะ ดูนุ่มนิ่มฟูๆ น่าจับดี บรรยายได้น่ารักเห็นภาพดี อ่านแล้วอยากลูบบ้าง 55

พาร์ตความรักก็แบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่ปุบปับรักเลย กว่าจะลงเอยกันจริงๆ นี่นานเลยนะ เพราะนายเอกใสมาก ความรู้สึกช้า ส่วนพระเอกจากตอนแรกที่ฮึ่มๆ ชอบทำหน้าเย็นชาใส่เขา แถมยังเก็บตังค์ค่าน้ำมันตอนขับรถไปส่งนายเอกด้วย55 หลังๆ พอชอบแล้วพี่ก็จีบตีตราจองแบบเนียนๆ เลย ลูกน้องรอบข้างคือเริ่มสงสัยเริ่มมีข่าวลือระหว่างพระ-นาย แต่พระเอกก็ไม่แก้จ้า ปล่อยไปตามนั้นแหละ55 ตอนนายเอกกลับร่างเดิมที่เป็นกระต่ายนี่คือห้ามใครอุ้ม ห้ามใครลูบขนนายเอกเลยนะนอกจากตัวเองเท่านั้น ...แต่นอกจากความรักของพระนายแล้ว ก็ยังมีความรักของคนในครอบครัวหรือเหล่าปีศาจที่เลี้ยงดูนายเอกมาด้วย ดีต่อใจมากกก อ่านไปก็ลุ้นว่าทุกคนจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งไหม ในสายตาคนนอกหรือปีศาจในที่ทำงานนายเอกก็คือผู้อาวุโสที่มีตบะแก่กล้า แต่ในสายตาของปีศาจที่เลี้ยงดูมา ผ่านไปกี่พันปีนายเอกก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในบ้านที่พวกเขาต้องทะนุถนอมปกป้องเสมอ แค่เห็นนายเอกใส่เสื้อผ้าธรรมดาก็ปวดใจ กลัวแต่ว่านายเอกจะลำบากไม่มีของดีๆ ใช้ เจอหน้าเมื่อไรก็ต้องยัดของให้ตลอด...T^T

สนุกดีนะ ออกแนวเรื่อยๆ ขำๆ ไม่ได้หลอนน่ากลัวอะไร บางมุมก็ได้ข้อคิดเตือนใจ อย่างเรื่องสาเหตุที่ปีศาจค่อยๆ ทยอยตายสูญพันธุ์จนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ และทำให้มนุษย์ที่อ่อนแอไร้อิทธิฤทธิ์พลิกกลับมาเป็นผู้ครองโลกได้ เราว่าจุดนี้พอเฉลยแล้วก็สมเหตุสมผลดีนะ แล้วถ้าวันหนึ่งมนุษย์ยังไม่รู้สึกตัวกระทำเหมือนปีศาจ จุดจบก็คงไม่ต่างกัน เพียงแค่รอเวลาเท่านั้นแล..



ข้ากลายเป็นแม่เลี้ยงของอดีตสามี 3 เล่มจบ

 


ข้ากลายเป็นแม่เลี้ยงของอดีตสามี 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
จิ่วเยว่หลิวหั่ว (九月流火)
ผู้แปล : ซิวเสียนอวี๋เล่อ
สำนักพิมพ์ ไป่เหอ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เกาซี นางเอกเรื่องนี้ชาติที่แล้วเป็นบุตรสาวสายตรงของจวนอิงกั๋วกง เป็นคนเก่งฉลาด หยิ่งทะนง ไม่ยอมคน และยังมียายเป็นถึงองค์หญิงของราชวงศ์ วันหนึ่งแม่ตาย พ่อก็หลงอนุกับลูกอนุ นางเอกเลยถูกยายรับไปเลี้ยงดู พอโตมาก็ได้แต่งงานกับ กู้เฉิงเย่า ซื่อจื่อหรือบุตรชายเพียงคนเดียวของเยียนหวาง ที่กุมอำนาจทางทหารและเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ แต่แต่งไปได้แค่เดือนเดียวสามีก็เปลี่ยนกลายเป็นเย็นชาหมางเมิน และสุดท้ายนางเอกก็ป่วยตายจากการตรากตรำทำงานดูแลจวน

พอตายไปถึงได้รู้ว่าที่แท้น้องสาวต่างมารดาก็เป็นหญิงสาวที่ทะลุมิติมา ไม่ใช่เด็กสิบขวบแต่เป็นผู้ใหญ่อายุ 26 แล้ว ส่วนที่สามีหมางเมินรังเกียจตนเองก็เป็นเพราะน้องสาวต่างมารดาที่จงใจทำให้สามีนางเอกเข้าใจผิด คิดว่านางเอกเป็นคนโกหกหลอกลวง ที่มาแย่งชิงการแต่งงานของน้องสาวกับสามีนางเอกไปเป็นของตัวเอง (จริงๆ เรื่องนี้อาจจะไม่เกิดถ้าตัวสามีเก่าหนักแน่นมั่นคงกว่านี้) พอตายวิญญาณนางเอกก็มาอยู่ในร่างของ หลินเว่ยซี บุตรสาวอ่อนแอขี้โรคของผู้ใต้บังคับบัญชาพระเอก กู้ฮุยเยี่ยน หรือเยียนหวาง

พ่อของเจ้าของร่างเดิมตายเพราะช่วยปกป้องพระเอกจากศัตรู หลังจากตายก็ได้พระราชทานยศเป็นโหวและได้ของพระราชทานมากมาย แต่ของพระราชทานกลับไปไม่ถึงมือลูก เพราะถูกพวกขุนนางในอำเภอและญาติยึดไปหมด แถมยังจะมัดมือชกให้นางเอกแต่งงานโดยไม่สมัครใจอีก นางเอกก็ไม่ยอมสิ เลยไปขอให้พระเอกช่วยพาไปจากหมู่บ้าน พระเอกก็ช่วยเอาของทั้งหมดคืนมาและพานางเอกออกไปตามที่ขอ แต่ด้วยความที่นางเอกตัวคนเดียวไม่มีญาติที่ไหนอีก พระเอกเกรงว่าหลังตัวเองจากไปนางเอกจะถูกคนรังแก ก็เลยพานางเอกกลับเมืองหลวงไปอยู่ที่จวนด้วยในฐานะบุตรสาวกำพร้าของผู้มีพระคุณ นางเอกก็เลยได้เจอกับสามีเก่า(ที่เป็นลูกพระเอก) และน้องสาวต่างมารดาที่แต่งเข้ามาเป็นภรรยาเอกแทนตนอีกครั้ง

พอมาอยู่ในจวนพระเอก น้องสาวลูกอนุที่เป็นซื่อจื่อเฟย ก็คิดจะเรียกขานนางเอกว่าพี่น้อง แต่นางเอกไม่อนุญาต บอกว่าใครเป็นพี่น้องกับเจ้ากัน55 อิน้องก็สะอึกไปหนึ่งดอก แต่ต้องทนเพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์คนงามผู้อ่อนโยน คือนางเอกอะเป็นคนตรง หัวแข็ง ชอบก็คือชอบเกลียดก็คือเกลียด ถ้าเกลียดใครก็แสดงออกเลยไม่กั๊ก ไม่เสแสร้ง แต่เป็นคนจิตใจดีไม่เคยคิดทำร้ายใครนะ ส่วนสามีเก่าก็ชอบคนอ่อนหวานอ่อนโยน สไตล์น้องสาวลูกอนุเด๊ะ แถมยังหูเบาเชื่อคนง่าย โดยเฉพาะคนสนิทพูดไรมาก็เชื่อ เลยยิ่งทำให้เข้าใจนางเอกในตอนที่เป็นภรรยาผิด เพราะคนสนิทซึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ไม่ชอบนางเอกที่ปกครองเข้มงวด และทำให้พวกตนต้องเสียผลประโยชน์ไป เลยชอบไปใส่ร้ายฟ้องสามีเก่าว่านางเอกโหดร้ายไม่ดีอย่างงู้นอย่างงี้ บวกกับเรื่องที่แต่งงานผิดคน สามีเก่าเลยยิ่งเชื่อตามนั้นอีก ..เวงง

ต่อมาน้องสาวเกรงว่านางเอกจะกลายเป็นภัยคุกคามตนในอนาคต เลยตกลงจับคู่ให้นางเอกแต่งกับหลานชายไทเฮา นางเอกโกรธมาก เพราะรู้ว่าตัวเองนิสัยแบบนี้แต่งไปจะทำให้คนที่อยู่ด้วยไม่มีความสุข รวมถึงความล้มเหลวในชีวิตคู่เมื่อชาติก่อน จึงไม่คิดจะแต่งกับใครอีก แต่นี่หลานไทเฮาไงปฏิเสธไม่ได้ ด้วยความโมโหเลยไปขอให้พระเอกแต่งงานกับตัวเอง พระเอกก็อึ้ง นึกว่านางเอกพูดโดยใช้อารมณ์ไม่ได้คิดให้ดี แต่จริงๆ ในใจพระเอกตอนนั้นคือเริ่มหวั่นไหวกับนางเอกแล้วนะ เพราะรู้สึกว่านางเอกมีชีวิตชีวาดี  อยู่ด้วยแล้วทำให้พระเอกอารมณ์ดี มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป ....

ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องในบ้าน เรื่องของพระ-นาง แต่เรื่องนี้พระเอกค่าตัวไม่แพงนะ ออกเยอะ อยู่กับนางเอกบ่อย เรื่องการเมืองราชสำนักอะไรมีไม่ค่อยเยอะไม่ค่อยเน้นเท่าไร
พอพระ
-นางแต่งกันแล้ว พระเอกคือใจกว้างอบอุ่นสมกับที่เป็นผู้ใหญ่มาก งานนอกบ้านก็เก่ง เรื่องในจวนตัวเองก็มองขาด พวกคนรับใช้เก่าไม่พอใจมาหาเรื่องนางเอก พระเอกก็คอยหนุนหลังออกหน้าให้ ตามใจแทบทุกอย่าง(ตั้งแต่ตอนยังไม่แต่ง) พระเอกเรื่องนี้ฉลาดมากพึ่งพาได้ เหมือนสายลมเหมือนขุนเขาที่คอยโอบอุ้มนางเอกเอาไว้เสมอ หันกลับมาเมื่อไรก็เจอ ..ส่วนสามีเก่าก็รู้สึกว่านิสัยนางเอกแอบคล้ายเมียเก่าตัวเองที่ตายไป เลยชอบเผลอมองนางเอกบ่อยจนสาวใช้นางเอกสงสัยและเริ่มกันท่า ส่วนน้องสาวลูกอนุเอาจริงๆ ก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก พอนางเอกกลับมารอบนี้แผนอิน้องก็พลาดแล้วพลาดอีก ไม่สำเร็จตามที่คิดสักอย่าง ตอนที่วางแผนใส่ร้ายสาวใช้ของสามีสุดท้ายตัวเองก็พังตามไปด้วย ได้ไม่คุ้มเสีย จนมาถึงเรื่องที่วัดอันนี้คือจบเลย กู้อะไรคืนไม่ได้อีกแล้ว

โดยรวมก็สนุกดี อ่านเพลิน มีดราม่านิดหน่อยแต่ไม่หนัก อ่านง่าย นางเอกฟาดดีฝีปากคม สู้คนมาตั้งแต่สมัยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ในชาติก่อนแล้ว พระเอกก็หลงรักนางตรงนี้แหละ ชอบเวลานางเอกด่าคนฟังแล้วเบิกบานดี 55 ส่วนสามีเก่าก็ตามสเต็ปเพิ่งมาสำนึกเสียใจได้ที่หลัง เพิ่งมารู้ว่าที่ผ่านมาคนที่ตนรักก็คือภรรยาคนแรกหรือนางเอกมาตลอด แต่วิธีแก้ปัญหาคือบ้งมาก แก้ด้วยการแต่งงานใหม่หรือมีผู้หญิงเพิ่มเนี่ยนะ? ...แต่ที่เด็ดสุดคือเรื่องตำนานความรักของพระเอกกับภรรยาคนแรกจ้า เกือบโดนหลอก พอเฉลยแล้วคือแบบหะ? อะไรเนี่ย คนอะไรจะมโนเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ พระเอกก็ผลักเรือตามน้ำไม่แก้ข่าวใดๆ ยิ่งพอคนจากไปก็ยิ่งปิดปากเงียบเพราะต้องการให้เกียรติคนตาย ทำให้นางเอกเข้าใจผิด และทำให้พวกบ่าวรับใช้เก่าแก่ที่ไม่ชอบนางเอกมักยกเอาเรื่องนี้มาข่มนางเอกที่เป็นภรรยาใหม่ ...ดีที่ลูกน้องคนสนิทของพระเอกทนไม่ไหว รู้ว่าพระเอกไม่พูดแน่ๆ เลยเอามาบอกเอง

อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนกำลังตบหน้าพวกนางเอกที่ทะลุมิติมา นางเอกถูกน้องสาวลูกอนุที่ข้างในมีวิญญาณคนยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากตน ทั้งความรักความสนใจของคนในครอบครัว ชื่อเสียงความสามารถต่างๆ  ไม่ว่านางเอกจะพยายามเรียนให้หนักหรืออ่านหนังสือเยอะมากแค่ไหน แต่เวลานั้นก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่งจะไปสู้อะไรกับผู้ใหญ่ที่โตแล้วได้ น้องสาวก็เอาความรู้จากยุคปัจจุบันมาดึงดูดคนรอบข้างนางเอกไปหมด รู้จักออดอ้อนเอาใจ ต่างจากนางเอกที่แข็งกร้าวไม่ยอมคน ก็เลยยิ่งไม่เป็นที่รักเหมือนน้องสาวที่ทะลุมิติมา แม้แต่สามีตัวเองสุดท้ายก็ถูกน้องสาวแย่งไป

สปอยล์

.

.

.

คืออิน้องเนี่ยตอนเด็กเคยช่วยผู้ชายคนหนึ่งไว้ แต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาวุ่นวายสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองภายหลัง ก็เลยเอาหยกพกของนางเอกให้อีกฝ่ายไป แล้วเพิ่งมารู้ความจริงตอนนางเอกแต่งงาน ว่านี่คือคนที่ตัวเองเคยช่วย(นี่หว่า) ก็เลยเสียดาย เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงซื่อจื่อบุตรชายสายตรงเพียงคนเดียวของเยียนหวางเลยนะ ก็เลยฉวยโอกาสแอบไปพบสามีเก่านางเอกและบอกความจริง พร้อมกับใส่ร้ายนางเอกกับยายว่าเป็นคนแย่งชิงการแต่งงานนี้ไป และทำให้สามีเก่าต้องแต่งงานผิดคน ......จบข่าว



วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

หวังทง องครักษ์เสื้อแพร เล่ม 1-2

 


หวังทง องครักษ์เสื้อแพร
ผู้แต่ง : เท่อเปี๋ยไป๋ (特别白).
ผู้แปล : ซิวเสียอวี๋เล่อ
สำนักพิมพ์ Levon

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ชาติที่แล้วพระเอกเป็นเด็กกำพร้า พอโตมาเรียนจบมีงานทำชีวิตกำลังไปได้สวยก็ดันป่วยตายในวัยสามสิบ พอตายวิญญาณก็มาเกิดใหม่ในร่างของ หวังทง บุตรชายขององครักษ์เสื้อแพรที่เป็นหัวหน้ากองธงเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับตัวเอง แต่พออายุ 12 พ่อก็มาป่วยตาย พระเอกเลยต้องโดดเดี่ยวกลายเป็นคนไม่มีครอบครัวครัวอีกครั้ง หนำซ้ำพอพ่อตายไม่ทันไร หัวหน้าที่ทำงานเดียวกันก็ยังคิดจะฮุบเงินฮุบบ้านของพระเอกไปอีก พระเอกไม่มีทางเลือกเพราะยังเด็กอยู่ แถมไม่มีใครปกป้อง สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย เลยตัดสินใจนำเงินส่วนหนึ่งในบ้านมามอบให้หัวหน้าใหญ่อีกคนเพื่อรักษาชีวิต และจะได้เข้ามาทำงานเป็นองครักษ์เสื้อแพรแทนตำแหน่งที่ว่างลงของพ่อด้วย

แต่พอไปทำงานก็ถูกหัวหน้าที่คิดจะฮุบเงินกลั่นแกล้งแช่ตำแหน่ง กะไม่ให้เติบโตในหน้าที่การงานเลยว่างั้น แล้ววันหนึ่งพระเอกก็บังเอิญไปมีเรื่องกับลูกน้องคนสนิทของอีกฝ่าย ทำใจเรียบร้อยว่าต้องโดนตำหนิแล้วไล่ออกแน่ๆ แต่ปรากฏว่าดันรอดเฉย แถมยังได้เลื่อนขั้นมาหน่อยนึง ส่วนฝ่ายนั้นกลับถูกตำหนิแทน ...

ต่อมาพระเอกก็เปิดร้านขายอาหาร ไม่ได้เลิศรสแปลกใหม่หรือเป็นอาหารจากยุคปัจจุบันอะไร เพียงแต่เอาระบบวิธีการจัดการ การดูแล รวมถึงแนวคิดจากตอนที่ทำงานในบริษัทเมื่อชาติที่แล้วมาปรับใช้เท่านั้น ก็เลยขายดิบขายดีเพราะตอบโจทย์ และด้วยความที่ร้านอาหารเปิดอยู่ใกล้วังหลวง ก็เลยมีพวกขันทีกับองครักษ์จากในวังออกมากินกันแล้วเอาไปพูดปากต่อปาก จนทำให้พระเอกได้พบคนที่คาดไม่ถึง ชีวิตพลิกผัน จากองครักษ์เสื้อแพรตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร ไร้คนหนุนหลัง ก็ประหนึ่งโชคหล่นทับ จู่ๆ ก็ได้พบปะรู้จักกับคนใหญ่คนโตในเมืองหลวงมากมาย กลายเป็นคนที่ใครๆ ต้องจับตามองและไม่กล้ามีเรื่องด้วย

แนวทะลุมิติ สงครามการเมือง ชิงอำนาจในราชสำนัก ผสมการสืบสวนคดี พระเอกเป็นองครักษ์เสื้อแพรตัวเล็กๆ ที่จับพลัดจับผลูได้แบ็กใหญ่คุ้มครอง หวังปั้นให้เป็นขุนนางผู้จงรักภักดีของฮ่องเต้และแม่ทัพใหญ่ของแคว้นแทนคนรุ่นเก่าที่จากไป ...เริ่มจากแต่งตั้งให้เป็นนายกองธงใหญ่ก่อนเพื่อขัดเกลาฝึกฝีมือ เพราะพระเอกเพิ่ง 13-14 เอง ยังเด็ก แต่กลับมีร่างกายสูงใหญ่กำยำเหมือนผู้ใหญ่ซะแล้ว ฮ่องเต้ตัวน้อยก็เลยสนใจว่าทำไมอายุเท่ากันแต่พระเอกกลับสูงใหญ่ตัวโตขนาดนี้ พระเอกซึ่งอยากดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้น้อยจอมขี้เบื่อพอดี ก็เลยเสนอวิธีการออกกำลังแบบยุคปัจจุบันให้ (เพราะพระเอกก็ฝึกตามนี้แหละ รู้ว่าในยุคโบราณการแพทย์ยังไม่ค่อยดี พระเอกเลยขยันออกกำลังกายเพื่อไม่ให้เจ็บป่วย) ทางวังก็เลยส่งคนมาปรึกษาหารือกับพระเอกจนได้สร้างลานฝึก (สถานที่ออกกำลัง) ขึ้นมา ..

ตอนแรกนึกว่าจะฟิลแบบฮ่องเต้แอบปลอมตัวออกมาฝึกในลานบ้านพระเอกเฉยๆ แต่เปล่าจ้าาา สรุปคือต้องเหมาซื้อบ้านที่อยู่รอบๆ บ้านพระเอกเกือบทั้งหมดเลยเพื่อสร้างลานฝึก และยังต้องจัดวางกองกำลังดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ต้องให้องครักษ์กับขันทีปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาคอยแสร้งเดินผ่านเพื่อลาดตระเวน และกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาในพื้นที่ แถมเด็กร้อยคนที่จะเอามาฝึกด้วยก็ต้องคัด+ดูประวัติมาอย่างดี ต้องปิดบังฐานะของฮ่องเต้จากเด็กทุกคน และก็ต้องไม่ให้ฮ่องเต้รู้ด้วยว่ารอบๆ ตัวหรือกระทั่งครูฝึกที่มาก็รู้ฐานะของฮ่องเต้ โคตรอลังการ สั่นสะเทือนทุกวงการจริงๆ เพ่!

พระเอกก็งานโคตรเยอะ ทั้งงานในงานนอก สืบคดี ตามจับคน ฝึกวิชา ไหนจะต้องดูแลฮ่องเต้ ต้องคอยสั่งงานลูกน้อง และอีกมากมายบลาๆๆ (แยกร่างยังไงถามก่อน 55)  ...ไหนจะเรื่องลัทธิไตรสุริยัน นี่ก็ทรงคล้ายๆ พวกปล่อยเงินกู้เถื่อน แต่เล่นใหญ่กว่านั้น พัวพันเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งคนธรรมดาไปจนถึงขุนนางใหญ่และคนในวัง อ่านแล้วก็แอบนึกถึงลัทธิบัวขาวในเรื่องรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ...ตอนแรกพระเอกก็ลังเลว่าจะแตะดีไหม เพราะเกี่ยวข้องกับคนเยอะ แต่สุดท้ายก็ตามสืบไม่ปล่อย เพราะเกรงว่าถ้าไม่มีใครทำไรอะไรหากปล่อยไว้วันหน้าจะเป็นภัยในภายหลัง แต่ดีที่พระเอกเส้นใหญ่มีคนคอยอุ้มชูอยู่ลับๆ เวลาเกิดเรื่องอะไรเลยมีคนยื่นมือมาช่วยตลอด ถึงไม่ซูแต่ก็เป็นคนที่โชคดีมากๆ แหละนะ

แต่พระเอกก็ไม่ได้โลภหรือทะนงตนอะไรที่มีคนใหญ่คนโตมาหนุนหลัง ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ทำสิ่งที่ควรทำ คนที่มาติดตามพระเอกจากที่เคยขัดสนใส่ชุดเก่าๆ ขาดๆ มีชีวิตลำบากก็พากันมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพระเอกใจป้ำดูแลดี ถึงอายุยังน้อยแต่พวกลูกน้องก็เคารพเชื่อฟังคำสั่ง...ชอบความรักพวกพ้องความใจป้ำของพระเอกนะ ตอนที่ลูกน้องพระเอกเสียเปรียบคนอื่นกลับมา พอพระเอกเห็นก็ทนไม่ได้จะไปเอาคืน แต่ถูกลูกน้องห้ามเพราะฝ่ายนั้นตำแหน่งสูงกว่า แต่พระเอกไม่ยอมและพูดกับลูกน้องว่า 'คนของข้าถูกทำร้าย  เจ้าทนได้  แต่ข้าทนไม่ได้'  พอฝ่ายนั้นโดนพระเอกเอาคืนก็ไปฟ้องหัวหน้าพระเอก แต่สุดท้ายวเองตักลับเจอเด้งไปอยู่ชายแดนแทน ตั้งแต่นั้นคนเลยเริ่มรู้กันว่าพระเอกเส้นใหญ่ห้ามไปมีเรื่องด้วยเด็ดขาด

ที่ชอบมากอีกอย่างคือฮ่องเต้น้อยในเรื่อง เตี้ยอ้วน ขาไม่ค่อยดี ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไทเฮาเลยสนับสนุนความคิดพระเอก เพราะอยากให้ฮ่องเต้มีเพื่อนวัยเดียวกันและได้ออกกำลังกาย แต่ด้วยความที่น้องไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวแถมยังอ้วนเตี้ย ก็เลยถูกเด็กคนอื่นๆ ที่มาฝึก(แต่ไม่รู้ฐานะ) บูลลี่+เมินใส่... วันหนึ่งพวกเด็กไม่พอใจที่ฮ่องเต้วิ่งช้าคอยถ่วงการฝึก เลยรวมกลุ่มมารุมตี ..แต่หลังจากจบเรื่องนี้เขาก็เป็นเพื่อนกันแหละ ฮ่องเต้ก็ให้คนที่บ้าน(ในวัง) ทำขนมมาให้ทุกคนกินเพื่อซื้อใจ 55...

ระหว่างที่ฝึกก็จะมีขุนนางที่รู้เรื่องมาแอบดู บางคนก็สนใจจะเอาวิธีนี้ไปฝึกกับทหารที่อื่นบ้าง ไปๆ มาๆ ลานฝึกที่แค่ตั้งใจจะให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายของฮ่องเต้เฉยๆ ก็กลายเป็นที่ฝึกสำหรับแม่ทัพคลื่นลูกใหม่ของแคว้นไปซะอย่างนั้น 55...บางทีก็ขำนะ แบบตอนมีเรื่องกับคนนอกอะ พระเอกให้คนนอกมาเจอทีนี่ แล้วบอกเด็กๆ ว่าจะมีคนมาหาเรื่องให้ช่วยหน่อย ฮ่องเต้น้อยก็ตื่นเต้นตาลุกวาวอยากสู้ (แต่จริงๆ พอถึงตอนสู้ทุกคนจะล้อมฮ่องเต้ไว้ตรงกลางเพราะน้องตัวเล็กและอ่อนแอสุดอะ ฮ่องเต้เลยไม่เคยได้สู้ นอกจากรอเหยียบซ้ำกับส่งเสียงเชียร์ให้ตีกัน...เอ็นดู) แล้วพอคนที่หาเรื่องมาเจอกลุ่มเด็ก 100 คนยืนจัดกระบวนต่อสู้เป็นระเบียบแบบกองทัพคืออึ้งจ้า (จะไปต่อหรือกลับดี 55 ) พวกขุนนางที่มาแอบส่องอยู่ก็นั่งลุ้นคอยดูว่าเด็กๆ จะสู้ได้ไหม ฮ่องเต้จะเป็นอะไรรึเปล่า แต่คนที่สู้กันคือไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังถูกมอง แถมรอบๆ ยังมีพวกทหารองครักษ์คอยคุ้มกันเผื่อเหตุฉุกเฉิน และยังมีหมอจากวังหลวงที่ปลอมตัวมาเพื่อคอยสแตนบายรอช่วยคนเจ็บเฝ้าดูอยู่...อลังมาก

ความจริงปกติไม่ได้อ่านแนวนี้เท่าไรนะ แนวมิตรภาพลูกผู้ชาย สงครามการเมืองในราชสำนัก ไม่เน้นเรื่องรัก (ไม่รู้ว่ามีนางเอกเปล่าน๊า แต่อ่านมาสองเล่มยังไม่เจอนะ 55)  แต่พออ่านแล้วทำไมมันสนุกแบบนี้เนี่ย วางไม่ลงเลยอะ ถึงพระเอกจะมีความรู้จากยุคปัจจุบันติดตัวมาแต่ก็ไม่ได้ซูเลย วรยุทธ์ก็ไม่มี ได้แต่ชกต่อยแบบงูๆ ปลาๆ  อ่านแล้วก็ตื่นเต้นดี ลุ้นว่าพระเอกจะมีวิธีจัดการหรือเอาตัวรอดยังไง จะผ่านไปได้ไหม ผ่านไปยังไง จะเอาความรู้จากยุคสมัยใหม่มาช่วยหรือสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือเปล่า