วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

หวังทง องครักษ์เสื้อแพร เล่ม 1-2

 


หวังทง องครักษ์เสื้อแพร
ผู้แต่ง : เท่อเปี๋ยไป๋ (特别白).
ผู้แปล : ซิวเสียอวี๋เล่อ
สำนักพิมพ์ Levon

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ชาติที่แล้วพระเอกเป็นเด็กกำพร้า พอโตมาเรียนจบมีงานทำชีวิตกำลังไปได้สวยก็ดันป่วยตายในวัยสามสิบ พอตายวิญญาณก็มาเกิดใหม่ในร่างของ หวังทง บุตรชายขององครักษ์เสื้อแพรที่เป็นหัวหน้ากองธงเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับตัวเอง แต่พออายุ 12 พ่อก็มาป่วยตาย พระเอกเลยต้องโดดเดี่ยวกลายเป็นคนไม่มีครอบครัวครัวอีกครั้ง หนำซ้ำพอพ่อตายไม่ทันไร หัวหน้าที่ทำงานเดียวกันก็ยังคิดจะฮุบเงินฮุบบ้านของพระเอกไปอีก พระเอกไม่มีทางเลือกเพราะยังเด็กอยู่ แถมไม่มีใครปกป้อง สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย เลยตัดสินใจนำเงินส่วนหนึ่งในบ้านมามอบให้หัวหน้าใหญ่อีกคนเพื่อรักษาชีวิต และจะได้เข้ามาทำงานเป็นองครักษ์เสื้อแพรแทนตำแหน่งที่ว่างลงของพ่อด้วย

แต่พอไปทำงานก็ถูกหัวหน้าที่คิดจะฮุบเงินกลั่นแกล้งแช่ตำแหน่ง กะไม่ให้เติบโตในหน้าที่การงานเลยว่างั้น แล้ววันหนึ่งพระเอกก็บังเอิญไปมีเรื่องกับลูกน้องคนสนิทของอีกฝ่าย ทำใจเรียบร้อยว่าต้องโดนตำหนิแล้วไล่ออกแน่ๆ แต่ปรากฏว่าดันรอดเฉย แถมยังได้เลื่อนขั้นมาหน่อยนึง ส่วนฝ่ายนั้นกลับถูกตำหนิแทน ...

ต่อมาพระเอกก็เปิดร้านขายอาหาร ไม่ได้เลิศรสแปลกใหม่หรือเป็นอาหารจากยุคปัจจุบันอะไร เพียงแต่เอาระบบวิธีการจัดการ การดูแล รวมถึงแนวคิดจากตอนที่ทำงานในบริษัทเมื่อชาติที่แล้วมาปรับใช้เท่านั้น ก็เลยขายดิบขายดีเพราะตอบโจทย์ และด้วยความที่ร้านอาหารเปิดอยู่ใกล้วังหลวง ก็เลยมีพวกขันทีกับองครักษ์จากในวังออกมากินกันแล้วเอาไปพูดปากต่อปาก จนทำให้พระเอกได้พบคนที่คาดไม่ถึง ชีวิตพลิกผัน จากองครักษ์เสื้อแพรตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร ไร้คนหนุนหลัง ก็ประหนึ่งโชคหล่นทับ จู่ๆ ก็ได้พบปะรู้จักกับคนใหญ่คนโตในเมืองหลวงมากมาย กลายเป็นคนที่ใครๆ ต้องจับตามองและไม่กล้ามีเรื่องด้วย

แนวทะลุมิติ สงครามการเมือง ชิงอำนาจในราชสำนัก ผสมการสืบสวนคดี พระเอกเป็นองครักษ์เสื้อแพรตัวเล็กๆ ที่จับพลัดจับผลูได้แบ็กใหญ่คุ้มครอง หวังปั้นให้เป็นขุนนางผู้จงรักภักดีของฮ่องเต้และแม่ทัพใหญ่ของแคว้นแทนคนรุ่นเก่าที่จากไป ...เริ่มจากแต่งตั้งให้เป็นนายกองธงใหญ่ก่อนเพื่อขัดเกลาฝึกฝีมือ เพราะพระเอกเพิ่ง 13-14 เอง ยังเด็ก แต่กลับมีร่างกายสูงใหญ่กำยำเหมือนผู้ใหญ่ซะแล้ว ฮ่องเต้ตัวน้อยก็เลยสนใจว่าทำไมอายุเท่ากันแต่พระเอกกลับสูงใหญ่ตัวโตขนาดนี้ พระเอกซึ่งอยากดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้น้อยจอมขี้เบื่อพอดี ก็เลยเสนอวิธีการออกกำลังแบบยุคปัจจุบันให้ (เพราะพระเอกก็ฝึกตามนี้แหละ รู้ว่าในยุคโบราณการแพทย์ยังไม่ค่อยดี พระเอกเลยขยันออกกำลังกายเพื่อไม่ให้เจ็บป่วย) ทางวังก็เลยส่งคนมาปรึกษาหารือกับพระเอกจนได้สร้างลานฝึก (สถานที่ออกกำลัง) ขึ้นมา ..

ตอนแรกนึกว่าจะฟิลแบบฮ่องเต้แอบปลอมตัวออกมาฝึกในลานบ้านพระเอกเฉยๆ แต่เปล่าจ้าาา สรุปคือต้องเหมาซื้อบ้านที่อยู่รอบๆ บ้านพระเอกเกือบทั้งหมดเลยเพื่อสร้างลานฝึก และยังต้องจัดวางกองกำลังดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ต้องให้องครักษ์กับขันทีปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาคอยแสร้งเดินผ่านเพื่อลาดตระเวน และกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาในพื้นที่ แถมเด็กร้อยคนที่จะเอามาฝึกด้วยก็ต้องคัด+ดูประวัติมาอย่างดี ต้องปิดบังฐานะของฮ่องเต้จากเด็กทุกคน และก็ต้องไม่ให้ฮ่องเต้รู้ด้วยว่ารอบๆ ตัวหรือกระทั่งครูฝึกที่มาก็รู้ฐานะของฮ่องเต้ โคตรอลังการ สั่นสะเทือนทุกวงการจริงๆ เพ่!

พระเอกก็งานโคตรเยอะ ทั้งงานในงานนอก สืบคดี ตามจับคน ฝึกวิชา ไหนจะต้องดูแลฮ่องเต้ ต้องคอยสั่งงานลูกน้อง และอีกมากมายบลาๆๆ (แยกร่างยังไงถามก่อน 55)  ...ไหนจะเรื่องลัทธิไตรสุริยัน นี่ก็ทรงคล้ายๆ พวกปล่อยเงินกู้เถื่อน แต่เล่นใหญ่กว่านั้น พัวพันเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งคนธรรมดาไปจนถึงขุนนางใหญ่และคนในวัง อ่านแล้วก็แอบนึกถึงลัทธิบัวขาวในเรื่องรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ...ตอนแรกพระเอกก็ลังเลว่าจะแตะดีไหม เพราะเกี่ยวข้องกับคนเยอะ แต่สุดท้ายก็ตามสืบไม่ปล่อย เพราะเกรงว่าถ้าไม่มีใครทำไรอะไรหากปล่อยไว้วันหน้าจะเป็นภัยในภายหลัง แต่ดีที่พระเอกเส้นใหญ่มีคนคอยอุ้มชูอยู่ลับๆ เวลาเกิดเรื่องอะไรเลยมีคนยื่นมือมาช่วยตลอด ถึงไม่ซูแต่ก็เป็นคนที่โชคดีมากๆ แหละนะ

แต่พระเอกก็ไม่ได้โลภหรือทะนงตนอะไรที่มีคนใหญ่คนโตมาหนุนหลัง ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ทำสิ่งที่ควรทำ คนที่มาติดตามพระเอกจากที่เคยขัดสนใส่ชุดเก่าๆ ขาดๆ มีชีวิตลำบากก็พากันมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพระเอกใจป้ำดูแลดี ถึงอายุยังน้อยแต่พวกลูกน้องก็เคารพเชื่อฟังคำสั่ง...ชอบความรักพวกพ้องความใจป้ำของพระเอกนะ ตอนที่ลูกน้องพระเอกเสียเปรียบคนอื่นกลับมา พอพระเอกเห็นก็ทนไม่ได้จะไปเอาคืน แต่ถูกลูกน้องห้ามเพราะฝ่ายนั้นตำแหน่งสูงกว่า แต่พระเอกไม่ยอมและพูดกับลูกน้องว่า 'คนของข้าถูกทำร้าย  เจ้าทนได้  แต่ข้าทนไม่ได้'  พอฝ่ายนั้นโดนพระเอกเอาคืนก็ไปฟ้องหัวหน้าพระเอก แต่สุดท้ายวเองตักลับเจอเด้งไปอยู่ชายแดนแทน ตั้งแต่นั้นคนเลยเริ่มรู้กันว่าพระเอกเส้นใหญ่ห้ามไปมีเรื่องด้วยเด็ดขาด

ที่ชอบมากอีกอย่างคือฮ่องเต้น้อยในเรื่อง เตี้ยอ้วน ขาไม่ค่อยดี ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไทเฮาเลยสนับสนุนความคิดพระเอก เพราะอยากให้ฮ่องเต้มีเพื่อนวัยเดียวกันและได้ออกกำลังกาย แต่ด้วยความที่น้องไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวแถมยังอ้วนเตี้ย ก็เลยถูกเด็กคนอื่นๆ ที่มาฝึก(แต่ไม่รู้ฐานะ) บูลลี่+เมินใส่... วันหนึ่งพวกเด็กไม่พอใจที่ฮ่องเต้วิ่งช้าคอยถ่วงการฝึก เลยรวมกลุ่มมารุมตี ..แต่หลังจากจบเรื่องนี้เขาก็เป็นเพื่อนกันแหละ ฮ่องเต้ก็ให้คนที่บ้าน(ในวัง) ทำขนมมาให้ทุกคนกินเพื่อซื้อใจ 55...

ระหว่างที่ฝึกก็จะมีขุนนางที่รู้เรื่องมาแอบดู บางคนก็สนใจจะเอาวิธีนี้ไปฝึกกับทหารที่อื่นบ้าง ไปๆ มาๆ ลานฝึกที่แค่ตั้งใจจะให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายของฮ่องเต้เฉยๆ ก็กลายเป็นที่ฝึกสำหรับแม่ทัพคลื่นลูกใหม่ของแคว้นไปซะอย่างนั้น 55...บางทีก็ขำนะ แบบตอนมีเรื่องกับคนนอกอะ พระเอกให้คนนอกมาเจอทีนี่ แล้วบอกเด็กๆ ว่าจะมีคนมาหาเรื่องให้ช่วยหน่อย ฮ่องเต้น้อยก็ตื่นเต้นตาลุกวาวอยากสู้ (แต่จริงๆ พอถึงตอนสู้ทุกคนจะล้อมฮ่องเต้ไว้ตรงกลางเพราะน้องตัวเล็กและอ่อนแอสุดอะ ฮ่องเต้เลยไม่เคยได้สู้ นอกจากรอเหยียบซ้ำกับส่งเสียงเชียร์ให้ตีกัน...เอ็นดู) แล้วพอคนที่หาเรื่องมาเจอกลุ่มเด็ก 100 คนยืนจัดกระบวนต่อสู้เป็นระเบียบแบบกองทัพคืออึ้งจ้า (จะไปต่อหรือกลับดี 55 ) พวกขุนนางที่มาแอบส่องอยู่ก็นั่งลุ้นคอยดูว่าเด็กๆ จะสู้ได้ไหม ฮ่องเต้จะเป็นอะไรรึเปล่า แต่คนที่สู้กันคือไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังถูกมอง แถมรอบๆ ยังมีพวกทหารองครักษ์คอยคุ้มกันเผื่อเหตุฉุกเฉิน และยังมีหมอจากวังหลวงที่ปลอมตัวมาเพื่อคอยสแตนบายรอช่วยคนเจ็บเฝ้าดูอยู่...อลังมาก

ความจริงปกติไม่ได้อ่านแนวนี้เท่าไรนะ แนวมิตรภาพลูกผู้ชาย สงครามการเมืองในราชสำนัก ไม่เน้นเรื่องรัก (ไม่รู้ว่ามีนางเอกเปล่าน๊า แต่อ่านมาสองเล่มยังไม่เจอนะ 55)  แต่พออ่านแล้วทำไมมันสนุกแบบนี้เนี่ย วางไม่ลงเลยอะ ถึงพระเอกจะมีความรู้จากยุคปัจจุบันติดตัวมาแต่ก็ไม่ได้ซูเลย วรยุทธ์ก็ไม่มี ได้แต่ชกต่อยแบบงูๆ ปลาๆ  อ่านแล้วก็ตื่นเต้นดี ลุ้นว่าพระเอกจะมีวิธีจัดการหรือเอาตัวรอดยังไง จะผ่านไปได้ไหม ผ่านไปยังไง จะเอาความรู้จากยุคสมัยใหม่มาช่วยหรือสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือเปล่า




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น