วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ชาตินี้ไม่ขอเป็นอนุ 5 เล่มจบ

 

ชาตินี้ไม่ขอเป็นอนุ 5 เล่มจบ
ผู้แต่ง : ฉางโกวลั่วเยวี่ย
ผู้แปล : ลู่เผิงฮวา
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เจี่ยนเหยียน หญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่ประสบอุบัติเหตุแล้วทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ ในร่างของทารกน้อย และถูกคนนำไปมอบให้ภรรยาพ่อค้าเลี้ยงดูแทนบุตรสาวที่ตายจากไป นางเอกถูกเลี้ยงให้เป็นม้าผอมแห่งหยางโจว หรือก็คือสตรีที่จะถูกส่งไปเป็นอนุหรือของกำนัลแด่ขุนนางชนชั้นสูง ต้องเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ มากมาย ทั้งยังต้องคอยรักษาหุ่นให้ผอมแห้งเพรียวบางอยู่ตลอด ไม่เคยได้กินอิ่มเลยสักมื้อ...

ส่วนพระเอก สวีจ้งเซวียน ขุนนางหนุ่มผู้มากความสามารถที่ได้รับตำแหน่งสูงตั้งแต่อายุยังน้อย อนาคตสดใสรุ่งโรจน์ เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วทั้งเมือง พระเอกเป็นลูกอนุที่ถูกเมียเอกของพ่อรับเลี้ยงเอาไว้ภายใต้นาม มีวัยเด็กที่ไม่น่าอภิรมย์ ถูกคนดูถูกเหยียดหยามและปฏิบัติด้วยไม่ดี ดังนั้นเพื่อไม่ให้ถูกใครดูถูกและเพื่อปกป้องน้องสาวเพียงคนเดียว พระเอกจึงต้องพยายามถีบตัวเองให้สูงขึ้น และพี่ก็ทำสำเร็จ เพราะพอได้เป็นขุนนางขั้น 3 คนที่บ้านก็เกรงใจ ไม่กล้าชักสีหน้าใส่แล้ว

เมื่อพ่อ(ไม่แท้) ของนางเอกตาย แม่(ไม่แท้) จึงพาคนในบ้านมาขออาศัยอยู่กับญาติที่แต่งเข้ามาในจวนพระเอก นางเอกรู้ว่าแม่(ไม่แท้) หวังอยากให้ตนกลายเป็นอนุพระเอก
จึงพยายามไม่เข้าใกล้พระเอก เลี่ยงได้เลี่ยง หลบได้หลบ ถ้าหลบไม่ได้ก็เลือกมองวิวมองรองเท้าแต่ไม่ขอมองหน้าพระเอก
55 ตอนแรกพระเอกก็เฉยๆ นะ แต่พอได้เห็นนิสัยที่นางแสดงออกมาตอนอยู่คนเดียวพี่ก็เริ่มสนใจ แล้วสุดท้ายก็ชอบเขา...
พอชอบแล้วก็ต้องหาข้ออ้างมาเจอ พอถึงวันหยุดก็รีบกลับจวนแล้วไปนั่งรอนางเอกอยู่ที่เรือนน้องสาว สรรหาของกินมาให้ พยายามหาวิธีให้นางเอกได้กินจนอิ่ม แต่พอนางเอกรู้ว่าพระเอกอยู่เบื้องหลังก็รีบถอยห่างออกมาทันที ทั้งวางตัวสุภาพห่างเหิน เพราะนางไม่อยากเป็นอนุ เนื่องจากพระเอกหล่อ เก่ง หน้าที่การงานดี เพอร์เฟคขนาดนี้ จึงเป็นไม่ได้แน่ๆ ที่จะมีภรรยาเดียว แถมตัวนางเองก็เป็นแค่ลูกพ่อค้าฐานะต่ำต้อย ยิ่งไม่มีทางเป็นภรรยาเอกของพระเอกได้แน่นอน รู้ตัวดี ก็เลยเรียกพระเอกมาคุยเปิดใจกัน ...พระเอกก็อึ้งๆ นะ เพราะเดิมก็คิดจะให้นางเอกเป็นอนุอยู่แล้วจริงๆ เป็นอนุที่ตนโปรดปรานเพียงคนเดียว ...
นางเอกก็หัวเราะเลย นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้  ...แต่พอพี่ได้ไปเห็น
ตอนที่นางเอกกำลังนั่งดื่มชากับชายอื่น พี่ก็ทนไม่ได้ ปล่อยมือไม่ได้ เลยรับปากตามที่นางเอกขอทุกอย่าง
ว่าจะแต่งนางเอกเป็นภรรยาเอก ไม่รับอนุ จะมีเธอคนเดียวไปชั่วชีวิต ..ทว่าสุดท้ายนางเอกก็ยังปฏิเสธอยู่ดี เพราะไม่เชื่อ ไม่มั่นใจ กลัวว่าวันหนึ่งพระเอกจะเปลี่ยนไปแล้วทำไม่ได้ตามที่พูด...เฮ้อ

ช่วง 2 เล่มแรกคือแอบงงๆ กับนางเอกอยู่นะ ปากพูดอย่างแต่ในใจก็อีกอย่าง พอพระเอกถามว่าชอบตัวเองไหมก็บอกว่าไม่ชอบ แต่พอเขาเมินไม่มองก็แอบไปเสียใจอีก .. เฮ้ออ ตกลงจะเอายังไงเนี่ย คือปฏิเสธเขาแต่ใจจริงก็อยากให้เขาสนใจสินะ...
จริงๆ ต้องขอบคุณน้องสาวพระเอกนะที่คอยเป็นสะพานเชื่อม หาทางลงให้พวกเอ็งได้ปรับความเข้าใจจนลงเอยกันได้แบบนี้ ...แต่พอพระ-นางเข้าใจกันก็ดันมีเรื่องอื่นเข้ามาแทรกอีก
เหตุเพราะหน้าตานางเอกดันไปเหมือนอดีตคนรักเก่าของใครบางคน จึงทำให้ถูกฝ่ายนั้นหมายตา พอแม่(ไม่แท้) ของนางเอกเห็นอีกฝ่ายมีตำแหน่งใหญ่กว่าพระเอก ก็รีบตกปากรับคำยกนางเอกให้เป็นอนุเขาทันที ...พระเอกก็ไม่รู้จะทำไง เพราะการแต่งงานขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ดังนั้นหากแม่นางเอกจะทำแบบนี้มันก็ไม่ผิด แต่โชคดีที่บังเอิญมีคนมาสะกิดบอกเรื่องชาติกำเนิดของนางเอก พระเอกเลยส่งคนไปสืบจนรู้ความจริง แล้วก็รีบหาทางส่งนางเอกกลับคืนสู่ครอบครัวเดิม จึงทำให้เรื่องที่ถูกส่งไปเป็นอนุกลายเป็นโมฆะ

พอได้คืนสู่ฐานะเดิม ไม่ต้องคอยกลัวว่าวันดีคืนดีจะถูกส่งไปเป็นอนุใครเขาแล้ว นึกว่าต่อแต่นี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย แต่สุดท้ายก็ไม่วายต้องมาฟาดฟันกับอนุของพ่อ(แท้ๆ) ตัวเองอีก..เหอๆ  แม่(แท้ๆ) ของนางเอกก็อ่อนแอ ตั้งแต่เสียลูกไปร่างกายก็ไม่ค่อยดี แล้วไหนจะหมางเมินกับผู้เป็นสามีเพราะเรื่องที่ทำลูกหรือนางเอกหายไปในตอนนั้นอีก จึงทำให้อนุสบช่องเข้ามาแทรกและกลายเป็นผู้ควบคุมดูแลจวนแทนภรรยาเอกไป ส่วนน้องชาย(แท้ๆ) ของนางเอกก็กลายเป็นคนขี้ขลาดขี้กลัว (ท้ายๆ เรื่องจะมีเฉลยสาเหตุ)
ปกติแม่นางเอกก็ไม่ได้แคร์เรื่องของอนุกับสามีหรอก หมดใจนานแล้ว ขอแค่ได้ลูกกลับมา
มีลูกๆ อยู่พร้อมหน้าแบบนี้ก็พอ แต่พอฝั่งอนุเห็นนางเอกกลับมาแล้วทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็เกิดกลัวขึ้นมา เลยคิดจะหาวิธีส่งนางเอกไปแต่งงานยังที่ไกลๆ...

อิพ่อก็หลงเชื่อคำลูกอนุ ไม่ยอมยกนางเอกให้ในตอนที่พระเอกมาสู่ขอ ลูกอนุอีกคนได้ทีก็มาพูดข่มนางเอกเรื่องที่จะถูกส่งไปแต่งงานอีก แม่นางเอกมาได้ยินก็เรียกสามีมาคุย พอเห็นว่าอิสามีรู้เรื่องแล้วแต่กลับเฉยไม่ยอมแก้ไข ท่านแม่เลยตัดสินใจทำเอง....ฉากนี้คืออึ้งมากก เพราะก่อนหน้านี้เนื้อเรื่องก็เรียบๆ มาเรื่อยๆ อาจมีขรุขระบ้างแต่ก็ไม่ได้พีคอะไร แต่พอมาถึงบทแรกเล่ม 5 เท่านั้นแหละ...โอ๊ยๆ ๆ ประหนึ่งถูกผลักให้ตกลงไปในหลุมลึกโดยมิทันตั้งตัว ช็อกอย่างแรง จุงแม่ใจเด็ดมากกก T^T..

ช่วง 3 เล่มแรกเป็นการหาทางหลบหนีจากการเป็นอนุของนางเอก เรื่องในบ้านพระเอก และปูพื้นความสัมพันธ์+ปรับความเข้าใจของพระ-นาง จะทำอย่างไรให้นางเอกยอมรับรักและเชื่อมั่นในตัวพระเอกได้ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ยากหรอก แค่อาศัยความจริงใจ สม่ำเสมอ และอาหารก็พอ 55 ... แต่ตอนแรกๆ นางเอกจะเงียบๆ เป็นคนเรียบร้อย ทำตัวว่าง่าย ใครว่าอะไรก็ก้มหน้าก้มตาทำเหมือนเชื่อฟัง แต่ข้างในนี่ต่อต้านไม่ยินยอมอย่างแรง และวางแผนหนีอยู่ตลอด ...อ่านแล้วก็แอบสงสารนางนะ เพราะชาติก่อนนางมีชีวิตและครอบครัวที่ดีมาก
มีพี่ชายและพ่อแม่ที่รักใคร่เอ็นดู มีอิสระ เป็นเด็กวัยรุ่นที่ร่าเริงมีความสุข แต่พอทะลุมิติมาชีวิตดันกลับตาลปัตรเลย กลายเป็นคนเก็บกด ต้องเก็บงำประกาย ต้องเสแสร้งเพื่อความอยู่รอด ...แล้วกว่าพระเอกจะเข้าใจ+ยอมรับความคิดของนางได้ก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่โอเคได้เลยเดี๋ยวนั้น ...
สองเล่มสุดท้ายจะเป็นเรื่องหลังบ้านของนางเอก พอเข้ากลางเล่ม 5 พระ-นางถึงได้แต่งงานอยู่ด้วยกัน พระเอกก็มีตำแหน่งสูงขึ้นและมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ
ทว่าท่ามกลางความสุขสงบก็มีคลื่นใต้น้ำซุกซ่อนอยู่ เพราะฮ่องเต้เริ่มมีใจคิดอยากกำจัดพระเอกแล้ว...

ผลงานของท่านฉางโกวลั่วเยวี่ย ผู้เขียนพี่ชายผู้คลั่งรัก 55 ...
แต่เรื่องนี้พระเอกไม่ได้จิตขนาดนั้น ส่วนความคลั่งรักนั้นโอเคไม่แพ้กันจ้ะ แต่เรื่องนี้มีความคล้ายเรื่องพี่ชายตรงที่พระเอกรู้ว่านางเอกทะลุมิติมา แล้วก็บทสรุปใน
ตอนจบที่แอบคล้ายๆ กันอยู่นะ และก็อีกอย่างที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของนักเขียนท่านนี้เลยคือ...นางเอกต้องทะลุมิติมาจ้า 55  คือตั้งแต่อ่านงานของท่านนี้มา(ที่แปลเป็นไทย) ยังไม่มีเรื่องไหนเลยที่นางเอกเป็นคนในยุคสมัยนั้นจริงๆ แต่เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ใช้ความรู้จากยุคปัจจุบันมาสร้างความแปลกใหม่อะไรนะ ไม่ได้ทำอาหาร ทำการค้า หรือมองหาช่องทางทำเงินใดๆ ไม่มีนะจ๊ะ มีแค่ตรงที่อยากใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีและได้แต่งงานกับคนที่รักเคารพ ให้เกียรติ เป็นสามีภรรยาเดียว แต่เพียงแค่นี้ก็ยากจะตายอยู่แว้วว ท่ามกลางยุคสมัยที่ผู้ชายเป็นใหญ่
แล้วไหนจะเรื่องชนชั้นที่พ่อค้าอยู่ระดับต่ำสุดอีก ...แค่คิดหาวิธีหนีให้พ้นจากการเป็นอนุก็เหนื่อยจะแย่ แล้วยังจะมีอารมณ์ไปคิดทำอะไรอี๊กกกก55 (นางเอกไม่ได้กล่าวไว้ เรากล่าวเอง55) และเมื่อพระเอกได้เห็นสิ่งที่นางเอกต้องเจอบวกกับความโหดร้ายของการไม่มีอำนาจอยู่ในมือ พี่ก็เริ่มทะเยอทะยานอยากได้อำนาจมากขึ้น กลายเป็นมือขวาของฮ่องเต้คอยล้างบางกรุยทางกำจัดขวากหนามให้ แต่พอบัลลังก์มั่นคง ฮ่องเต้ก็.......นั้นแหละ หึหึ

เนื้อหาในเรื่องมีทั้งเรื่องหลังบ้านและการเมืองในราชสำนัก แต่หลักๆ ก็หนักไปที่ชีวิตของพระ-นางกับเรื่องในบ้านนั่นแหละ ตอนนางเอกจัดการเรื่องในบ้านหรือเล่นงานใครนี่บรรยายละเอียดมาก แต่พอเป็นเรื่องงานของพระเอกกลับเล่าพอผ่านๆ ซะงั้น (ก็นิยายรักนี่เนาะ 55) อย่างตัวร้ายที่จะเอานางเอกไปเป็นอนุทีแรกก็นึกว่าจะจัดการยาก คงมีชั้นเชิงลูกเล่นอะไรมากกว่านี้ เพราะเป็นคนที่มีอำนาจมากรองจากฮ่องเต้เลยนะ
แต่สุดท้ายก็....ไม่ยากอะไรนิ่ บรรยายจบในหน้าเดียว
55 ...
ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างเช่นรุ่นพี่ที่นางเอกเคยแอบชอบ หรือคหบดีที่มาชอบนางเอก ก็ออกมามีบทแค่เฉพาะบางเล่ม พอหมดเรื่องแล้วก็หายต๋อมเลย มาโผล่อีกทีท้ายๆ ใกล้จบ
แต่ก็ดีใจกับรุ่นพี่ด้วยนะที่ได้กลับบ้านเดิม (เพราะพี่เขาไม่เหมาะกับที่นี่จริงๆ)
ส่วนน้องสาวกับลูกพี่ลูกน้องของพระเอกที่สนิทกับนางเอกน่ะ พอนางเอกออกจากจวนไปก็ไม่ได้มีบทอะไรอีกเลย อารมณ์เหมือนฉันมาส่งเธอถึงฝั่งแล้วก็จบนะ หมดบทแค่นี้ มีกล่าวถึงผ่านๆ ในตอนท้ายนิดหน่อยว่าได้หมั้นหมายแล้วแค่นั้นเอง ขนาดสาวใช้นางเอกยังมีบทเยอะกว่าอีก 
55 


วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ฉางหลิง เทพสงครามสองชาติภพ

 


ฉางหลิง เทพสงครามสองชาติภพ 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : หรงจื่ว
ผู้แปล : ตังตัง
สำนักพิมพ์ Princess

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

คุณชายรองเยว่ เยว่ฉางหลิง ผู้สืบทอดวิชาเทียนจู๋ คนเดียวในรอบร้อยปีที่สามารถฝึกฝนสุดยอดวิชา วิสุทธิคัมภีร์ซือโม๋ สำเร็จจนถึงขั้นเก้าได้ ถูกยกย่องให้เป็นเทพสงครามตั้งแต่อายุยังน้อย มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ย่างเท้าไปที่ใดก็สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งยุทธภพและแผ่นดิน..

นี่คือช่วงกลียุคที่บ้านเมืองไม่เป็นปึกแผ่น ราชวงศ์อ่อนแอ แผ่นดินระส่ำระส่ายแบ่งออกเป็นหลายฝักหลายฝ่ายไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว มีกองกำลังมากมายผุดขึ้นมาตั้งตัวเป็นใหญ่เพื่อหวังครอบครองแผ่นดิน... กองทัพตระกูลเยว่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งยังเป็นทัพที่มีโอกาสจะได้รับชัยชนะมากที่สุดอีกด้วย สองพี่น้องตระกูลเยว่ หนึ่งบุ๋นหนึ่งบู๊ ครองใจชาวประชาและชาวยุทธ์ จึงทำให้มีสำนักและตระกูลมากมายยอมติดตามสวามิภักดิ์ .. ทว่าในศึกใหญ่ที่ต่อสู้กับแคว้นเยี่ยน สองพี่น้องเยว่กลับถูกคนทรยศและลอบวางยาพิษ กองทัพตระกูลเยว่ถูกคนตลบหลังกวาดล้าง ท้ายที่สุดแผ่นดินก็ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือตงเซี่ยและซีเซี่ย...

นางเอก เยว่ฉางหลิง ดรุณีน้อยของตระกูลเยว่ เพราะถูกคนทำร้ายปางตายจึงส่งผลให้นางต้องจากบ้านไปร่ำเรียนวิชาตั้งแต่ยังเด็ก และเพราะวิชาที่ฝึกฝนจึงทำให้กลายเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก บวกกับรอยตราสีแดงเพลิงที่หางตา จึงทำให้นางต้องสวมหน้ากากและแต่งกายเหมือนบุรุษ นางเอกใช้ชีวิตเยี่ยงชายชาตรี ต้องเดินทางไปทั่วเพื่อผูกใจคนตามคำสั่งของพี่ชาย ระหว่างนั้นก็ได้ผดุงคุณธรรมปราบปรามคนชั่วช่วยเหลือคนดี จนสร้างบุญคุณรวมถึงหนี้แค้นเอาไว้มากมายและก่อให้เกิดภัยตามมาโดยไม่รู้ตัว ...

หลังจากที่ถูกคนทรยศ นางเอกก็พาร่างที่บาดเจ็บกระโดดลงไปในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเวลาได้ล่วงเลยไปถึง 11 ปีแล้ว ทว่านางที่ควรจะอายุ 28 ในเวลานี้เหตุไฉนถึงได้มีหน้าตางดงามและดูอ่อนเยาว์ลงเหมือนเด็ก 17-18 กันหนอ..
จากนั้นนางเอกก็ได้พบคนที่ช่วยชีวิตและคอยดูแลตน ได้รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน ภารกิจต่อไปจึงเป็นการหาทางหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ เพื่อไปสืบหาความจริงของเรื่องราวในอดีต และแก้แค้นผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนั้น...

ทว่าก่อนจะหนีก็ถูกคนไหว้วานขอให้ช่วยคนคนหนึ่งออกไปด้วย เพื่อตอบแทนบุญคุณนางเอกเลยไป และก็ได้หนี้ดอกท้อกลับมาอีกหนึ่ง แต่นางไม่ได้คิดอะไรไง ความรู้สึกช้า อีกฝ่ายมอบแหวนให้ก็รับมา เพราะคิดว่าอาจจะเอาไปขายแลกเป็นเงินได้ในอนาคต ไม่รู้ความหมายแฝงหรือความสำคัญของสิ่งที่ได้มาเลย ...
ต่่อจากนั้นนางก็ถูกคนเข้าใจผิดจับตัวไป
แล้วก็จับพลัดจับผลูได้ร่วมเดินทางไปช่วย 8 เจ้าสำนักของตงเซี่ยที่ถูกจับตัวมา...หลังจบเรื่องนี้นางเอกก็ถูกคนของสำนักเบญจพิษจับตัวไปต่อ เพราะอีกฝ่ายเห็นนางหน้าตาดีเลยกะจะเอาไปให้เจ้าสำนักเปลี่ยนผิวหน้า...แล้วสำนักเบญจพิษก็ดันบังเอิญถูกคนบุกมากวาดล้างในวันนั้นพอดีอีก นางเอกเลยรอดตายและได้สวมรอยเป็นเจ้าสำนักเบญจพิษแทน เพราะเจ้าสำนักนี้มีฐานะเดิมเป็นถึงลูกสาว(นอกสมรส) ของแม่ทัพจิง แม่ทัพใหญ่แห่งตงเซี่ย หรือก็คือคนสนิทเก่าของตระกูลเยว่ที่หักหลังพวกนางเอกพี่น้อง...นางเอกจึงแสร้งทำเป็นความจำเสื่อม เพื่อใช้ฐานะนี้เข้าใกล้พวกคนที่เคยทรยศตนในอดีตและตามสืบหาความจริงเมื่อ 11 ปีก่อน....

นางเอกเป็นคนเก่ง วรยุทธ์สูง เท่มาก จนรู้สึกว่าไม่ต้องมีพระเอกก็ได้นะ ส่วนพระเอกเป็นใครเดาไม่ยากถึงในเรื่องจะมีเรือให้เลือกลงถึง 3 ลำก็เถอะ 55 ..แต่พระเอกเป็นคนที่อยู่กับนางเอกมากที่สุดดด ค่าตัวไม่แพง  บทเยอะออกบ่อย...เป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์มากแผนการ แต่เสียดายที่มีร่างกายอ่อนแอจึงฝึกวรยุทธ์ไม่ค่อยได้ ความจริงจะมีอายุได้ไม่เกิน 10 ปี แต่บังเอิญได้นางเอกช่วยเอาไว้เลยยังรอดมาได้จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ใกล้จะไม่รอดแล้วนะถ้ายังไม่เจอยารักษาจริงๆ สักที ...

พระเอกหลงรักนางเอกตั้งแต่แรกพบ ช่วงที่คนหายไป 11 ปี ก็ขึ้นเหนือลงใต้เดินทางไปทั่วเพื่อวางแผนทำเรื่องต่างๆ พร้อมกับสืบหาร่องรอยของนางเอกไปด้วย ...ถึงร่างกายจะไม่แข็งแรง แต่ก็พร้อมคิดวางแผนเพื่อปกป้องและเป็นกำลังสนับสนุนให้นางเอกเสมอ เป็นคนที่ทำให้เทพสงครามอย่างนางเอกยอมเชื่อฟังและมอบหัวใจให้ในที่สุด ...
nc ไม่มี แต่คู๋นี้เวลาอยู่ด้วยกันอบอุ่นดี นางเอกแสดงความรู้สึกไม่เก่ง ส่วนพระเอกก็ทะเล้นขี้เล่นชอบแหย่เขา ถ้านางเอกคือไฟพระเอกก็คือน้ำ ถ้านางเอกแข็งมาพระเอกก็พร้อมอ่อนลงให้ก่อนเสมอ ถึงร่างกายจะไม่เต็มร้อย แต่เรื่องมันสมอง การวางแผน กลอุบายต่างๆ ต้องยกให้พระเอกจริงๆ  

จำได้ว่าที่เคยอ่านส่วนใหญ่ คนในยุทธภพจะไม่ค่อยยุ่งกับการเมืองหรือราชสำนักนะ แต่เรื่องนี้ตรงข้าม เพราะฮ่องเต้เคยเป็นคนในยุทธภพมาก่อน พอมาเป็นฮ่องเต้รากฐานจึงยังไม่มั่นคงกำลังคนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องพยายามสร้างฐานของตัวเองและหาคนมาเป็นพวกให้ได้ เพื่อจะได้กำจัดขั้วอำนาจที่มีอยู่ในตอนนี้ทิ้ง ... เลยมีการก่อตั้งสำนักชิงเฉินขึ้นมา ซึ่งใครที่ได้เข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักนี้ไม่ว่าชายหรือหญิง ขอแค่ทำการทดสอบภายในสำนักผ่านติดอันดับ ใน 20 ทุกคนก็จะมีโอกาสได้รับราชการ ...
นางเอกก็เข้าร่วมด้วยเพราะในสำนักมีคนรู้จักเก่าที่นางอยากเจอ ส่วนพระเอกก็ตามมาเป็นอาจารย์อยู่ในสำนักคอยอยู่ข้างๆ เพื่อช่วยเหลือ...ระหว่างนั้นก็จะมีเรื่องการไปตามหาสมบัติของตระกูลเยว่ หาวิธีช่วยต่อชีวิตพระเอก และไปตามหาเคล็ดวิชาที่หายสาบสูญ อีรุงตุงนังเกี่ยวข้องกันไปหมด แล้วก็ยังมีเรื่องงานชุมนุมชาวยุทธ์ ที่แต่ละแคว้นแต่ละสำนักจะส่งคนมาเข้าร่วมประลองเพื่อเฟ้นหาผู้นำยุทธภพคนใหม่...การเมืองมีน้อย หลักๆ จะเป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจหรือต่อสู้กันของชาวยุทธ์ในยุทธภพมากกว่า เรื่องของอีกแคว้นที่แบ่งออกไปก็ไม่ค่อยกล่าวถึงหรือมีบทเท่าไร ออกมาอีกทีก็ตอนเล่มสามท้ายๆ เลย

เป็นแนวกำลังภายในยุทธภพ ชิงอำนาจ ตามหาวิชาคัมภีร์ลับ ผสมการเมืองหน่อยๆ ฉากต่อสู้วิชาลับอาวุธลับจัดเต็ม บรรยายเห็นภาพ แปลดี อ่านลื่นมาก (จากที่อ่านงานแปลจีนโบราณของสนพ.นี้มา ตอนนี้เราว่าเรื่องนี้แปลดีที่สุดเลย ปรบมือๆ )
เนื้อเรื่องหักมุมพลิกไปพลิกมาเยอะ ความจริงเดาจากสไตล์นักเขียนก็พอรู้อยู่แล้วแหละว่าเดี๋ยวคงต้องมีอะไรพลิกแน่ๆ เตรียมใจไว้แล้วเลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไรอะ พลิกบ่อยจนไม่แปลกใจแล้ว55 ส่วนตัวร้ายบางคนเราว่าถูกจัดการง่ายไปหน่อยนะ บทจะตายก็ง่ายๆ แบบนั้นเลย นางเอกก็เก่งเทพ ยิ่งพอลมปราณกลับมาใช้ได้เต็มร้อยก็ยิ่งโคตรเทพ
ส่วนพระรองก็....เรียกได้ว่าพลาดเพียงครั้งเดียวคือพลาดทั้งชีวิต พลาดแล้วพลาดเลยจริงๆ หมายถึงเรื่องนางเอกนะ พยายามแก้ยังไงมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว นี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ อดีตกุนซือมือฉมัง แต่ทำไมถึงพลาดเรื่องนางเอกได้ฟะ ทำไมถึงดูไม่ออกเลยอยู่ด้วยกันมาตั้ง 3 ปี ผิดวิสัยความฉลาด ความช่างสังเกต ช่างวิเคราะห์ของพี่แกจริงๆ



วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2565

หย่าก็หย่าสิ ฉันจะจีบเธอใหม่ให้ดู

 

หย่าก็หย่าสิ ฉันจะจีบเธอใหม่ให้ดู 
ผู้แต่ง : สุยโหวจู (随侯珠)
ผู้แปล : ปภานัน
สำนักพิมพ์ Camellia Novel

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

สวี่ตัวหนิง ลูกแกะน้อยน่ารัก ใสซื่อและอ่อนโยน เป็นคู่เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ที่เติบโตมากับ
โจวเย่า จิ้งจอกสุดหล่อจอมเจ้าเล่ห์ ที่แสนฉลาด ปากร้าย ทั้งเย่อหยิ่งและอวดดี
ลูกชายคนเล็กของบ้านโจวที่เป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เด็ก
เป็นทั้งเพื่อนเล่น เพื่อนสนิท
ข้ามผ่านชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นมาด้วยกัน ต่างคนต่างเข้าใจและรู้ใจอีกฝ่ายมากกว่าใครๆ  
ทั้งยังมั่นใจว่าในภายภาคหน้าพวกเขาจะต้องได้อยู่ด้วยกัน ไม่ช้าก็เร็ว...

แต่วันหนึ่งบ้านนางเอกก็เกิดเรื่อง แม่ป่วยหนัก พ่อก็ถูกจับได้ว่าแอบนอกใจไปมีบ้านน้อย
แม่นางเอกรู้ว่าลูกสาวตนไม่สู้คน จึงเกรงว่าวันหนึ่งถ้าตัวเองไม่อยู่แล้วเดี๋ยวนางเอกจะไม่ได้อะไร ก็เลยขอหย่าและแบ่งสมบัติ เมื่อรู้ว่าลูกสาวมีใจให้เพื่อนในวัยเด็ก คุณแม่ก็ฝากฝังลูกสาวให้พระเอกดูแลในเฮือกสุดท้ายของชีวิต... พระเอกก็ตกลงและรีบพานางเอกไปจดทะเบียนทันที ไม่มีการขอแต่งงาน ไม่มีการสู่ขอหรือจัดงานใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่พวกเขาเคยแอบคิดจู่ๆ ก็กลายเป็นจริงขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว ทว่าก็จบลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เพราะผ่านไปไม่ถึงปีพระเอกก็ขอหย่า โดยให้เหตุผลว่าหลงรักคนอื่นแล้ว...

เรื่องราวความรักของพระ-นางซึ่งเติบโตและผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกดีๆ ให้กันแต่กลับไม่เคยพูดมันออกมา พระเอกก็มั่นใจในตัวเองซะเหลือเกินว่ายังไงเจ้าแกะน้อยตัวนี้ก็ต้องตกเป็นของตน หนีไปไหนไม่รอด ฟ้ากำหนดมาแล้วว่าเธอต้องคู่กับฉันคนเดียวเท่านั้น ถึงไม่เคยพูดออกไปตรงๆ แต่ก็แผ่รังสีสังหาร แสดงความหวงก้างกันผู้ทุกคนที่คิดจะมางาบแกะน้อยมาเนิ่นนานแล้วนะจ๊ะ แต่เจ้าแกะน้อยกลับใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราว ถูกเจ้าจิ้งจอกตบตา ทำให้หลงคิดว่าตนคงไม่สวยสินะถึงได้ไม่มีใครมาจีบเลย..ฮือๆ

ทว่าต่อให้รู้จักกันมานานหรือสนิทสนมกันมากขนาดไหน แต่เรื่องบ้างอย่างหากไม่พูดมันออกไป ไม่พูดให้ชัดเจน  ท้ายที่สุดมันก็อาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิดและทำให้ต้องแยกจากกันไปอยู่ดี.. แต่คู่นี้คือดีตรงที่นางเอกเป็นคนไม่คิดมาก ไม่ซับซ้อน เป็นคนง่ายๆ มีเหตุผล ใจกว้างและมองโลกในแง่ดี เรื่องราวมันเลยไม่ได้ดราม่าขนาดนั้น
เพราะถึงจะหย่ากัน แต่ทั้งสองคนก็ยังติดต่อและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ เวลาเจอหน้าก็พูดคุยกันดี มีความปรารถนาดีให้กันเสมอมา เป็นคู่ที่ผูกพันและมั่นคงมาก แบบที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาแทรกหรือทำลายได้นอกจากตัวพวกเขาเอง ...
กลับมารอบนี้นางเอกก็ตั้งใจมาให้โอกาสพระเอกโดยเฉพาะ มาลองดูว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะรักตัวเองในแบบที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทได้ไหม จะสามารถเป็นพ่อที่ดีได้หรือเปล่า เพราะไม่อยากใช้เรื่องลูกมาบีบบังคับให้พระเอกต้องรับผิดชอบ ...

ซึ่งความจริงนั่นก็คือสิ่งที่พระเอกต้องการเหมือนกัน คิดเหมือนกันทั้งคู่ อยากให้เขารักเราในแบบคู่รักชาย-หญิงทั่วๆ ไป แต่อีกใจก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมองเราเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
ก็เลยกล้าๆ กลัวๆ กันอยู่แบบนี้  แต่คราวนี้พระเอกตั้งใจไว้แล้วว่าจะเอานางเอกกลับคืนมาให้ได้ ..เลยรุกเต็มที่ ไล่ตั้งแต่ไปเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้ หาสตูดิโอแถวที่ทำงานตัวเองให้ (มองลงมาจะได้เห็นนางเอกเลย) ขยันชวนไปเที่ยว ไปวัด ไปแช่น้ำพุร้อน ...
ส่วนนางเอกก็มีเพื่อนสนิทคอยช่วยคิดวางแผนให้ว่าต้องทดสอบและลองใจพระเอกยังไง
ตอนไปแช่น้ำพุร้อนนางเอกก็เลยใส่บิกินีลงแช่ ทำให้พระเอกน้ำลายไหลแต่ไม่ได้แอ้ม
55
แล้วก็หาคนมาแสดงบทพระรองแกล้งเป็นจีบนางเอก พอพระเอกรู้ก็ตามมาขวางแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายทันที 55...

แล้ววันหนึ่งน้านางเอกที่อยู่เมืองนอกก็พาลูกนางเอกกลับมาจีน นางเอกเลยเปิดโอกาสให้พระเอกได้ใกล้ชิดและคอยสังเกตท่าทีเวลาอยู่กับลูก อยากรู้ว่าพระเอกจะชอบลูกตัวเองไหม เพราะปกติพระเอกไม่ชอบเด็ก เห็นเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กเวร (เหมือนตัวเอง) ..ฮ่าๆ  ก็เลยไม่บอกความจริง ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นลูกน้าและเป็นหลานสาวของนางเอก  
แต่ลูกพระเอกน่ารักมากกกทั้งหน้าตาและนิสัย เหมือนลูกครึ่งเลย ใครเห็นก็ตกหลุมรัก
พระเอกก็โดนตก บ้านพระเอกก็โดนตกกันหมดทั้งหัวหงอกหัวดำ นางเอกก็บอกให้ลูกเรียกแม่พระเอกว่าคุณย่า แต่แม่พระเอกบอกให้เรียกป้าก็พอ (ไม่รู้ว่าหลานตัวเอง) พอมารู้ตอนหลังว่านี่หลานก็เสียดาย อยากได้ยินหลานเรียก แล้วก็พากันไปรุมตีพระเอก...บอกให้รีบหาวิธีพาหลานกลับมาเลยนะ
55

ความจริงเรื่องลูกนี่ปิดพระเอกได้ไม่นานหรอก เซนส์แรงอยู่นะ พอได้ยินนางเอกเรียกชื่อจีนของลูกก็เริ่มตะหงิดๆ และ (เพราะนางเอกเคยบอกว่าถ้ามีลูกจะตั้งชื่อนี้) ยิ่งพอได้เห็นท่าทางกับสีหน้าบางอย่างของเด็กที่คล้ายๆ นางเอก ก็ยิ่งสงสัยจนนั่งไม่ติด ต้องกลับไปนั่งคิดคำนวณวันไข่ตกของนางเอกเลยทีเดียว 55 ... แล้วสุดท้ายก็มาหลอกถามจากลูก  
ลูกก็เล่านิทานที่นางเอกเป็นคนแต่งให้ฟังเรื่องว่าตนมาจากไหน พอได้ฟังพระเอกก็รู้ทันทีว่านี่คือลูกตัวเองแน่นอน รู้สึกผิดมากก เสียใจมากก เขาเผลอทำเรื่องโง่ๆ ที่ไม่น่าให้อภัยลงไปเสียแล้ว...

ผลงานของคนเขียนอย่าหยิ่งนักเลย เรื่องนี้คู่รักวัยเด็กได้สมหวังไม่ต้องกินแห้วแล้วนะ..อิอิ
แต่นอกจากเรื่องรักก็ยังมีเรื่องหน้าที่การงาน  ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและคนในครอบครัว  ความรักก็มีหลายคู่ บางคู่สมหวัง บางคู่ก็หักมุม บางคู่นึกว่าจะแห้วแต่กลับมาพลิกในช่วงสุดท้ายก็มี นางเอกเป็นนักออกแบบตุ๊กตา พระเอกเป็นประธานบริษัทอี้หยวน (เกี่ยวกับพวกการเงินการลงทุน) ไม่มีแบ็ค ที่บ้านไม่ได้มีภูมิหลังใหญ่โตอะไร ไต่เต้าและสร้างมาด้วยตัวเองล้วนๆ...ถ้าใครชอบแนวความรักแบบผู้ใหญ่ในวัยทำงาน เรียลๆ หรือชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้ ก็อย่าลืมอ่านเรื่องนี้กันน๊า ไม่หนักไม่เบา กำลังดี...นางเอกเฉื่อยๆ ไม่ค่อยสู้คน
ส่วนพระเอกก็ปากร้ายไม่ไว้หน้าใครแต่เป็นที่พี่งพาได้ คนหนึ่งเย็นคนหนึ่งร้อน
แต่สุดท้ายคนที่ต้องเป็นฝ่ายยอมก็คือพระเอกจ้า 55 

ป.ล. เวลาเพื่อนรูมเมตจะคุยเรื่องผู้หญิง พระเอกจะห้ามไม่ให้พูดถึงนางเอก หากใครริอาจมาจีบแกะน้อยของตัวเองอิพี่ก็จะพองขนและรีบไปสกัดทันที ...

ป.ล. แปลดี อ่านลื่น แต่ยังมีคำผิดอยู่บ้างนิดหน่อย

** ตอนนี้มีให้ลงอ่านแบบรายตอนติดเหรียญนะคะ ทั้งหมด 89 ตอนจบแล้ว (อ่านฟรี 15 ตอนค่ะ)

 

 

 

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ท่านเซียนอย่ามาหลอก + ปีศาจจิ้งจอกอย่ามาลวง

 

ท่านเซียนอย่ามาหลอก 
ผู้แต่ง : โม่เหยียน
ผู้แปล : เจินจูไหน่ฉา
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

รีวิว ใต้เท้าอย่ามาหยอก + โจรหญิงอย่ามาเย้า
https://marynlinsbook.blogspot.com/2022/04/blog-post.html

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

พั่วเยวี่ย อดีตขุนพลหญิงเผ่ามารที่เก่งกาจและห้าวหาญไม่แพ้บุรุษ แม้ภายนอกจะดูเจ้าชู้เสเพลเลี้ยงชายบำเรอเอาไว้เป็นสิบ แต่นางกลับเฝ้าตามไล่เกี้ยว ต้วนมู่ไป๋ เซียนกระบี่ผู้สูงส่งเย็นชามานานนับร้อยปี ทว่าน่าเสียดายที่อีกฝ่ายกลับไม่เคยชายตาแลนางเลยสักกะนิด
แล้วสุดท้ายนางก็ถูกเขาสังหารตายภายในดาบเดียวในสงครามระหว่างมารกับเซียน ...
ทว่าพอลืมตาตื่นขึ้นมานางกลับพบว่าตนเองยังไม่ตาย แต่ได้กลายมาเป็น เยวี่ยเป่า ภูตดอกบัวที่เป็นลูกศิษย์ของเขาไปเสียแล้ว แถมอาจารย์ผู้นี้ก็ยังชอบกินเต้าหู้ลูกศิษย์ตัวเองเป็นที่สุดอีกด้วย! ....

ในอดีตนางเอกต้องทำทีเป็นว่าชอบพระเอกและหาสารพัดวิธีเพื่อพิชิตใจเขา แสร้งทำหน้าหนาตามเกาะติดไล่ตามจีบอย่างหน้าไม่อาย เพราะนี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้นางรอดพ้นและปลอดภัยจากการตกเป็นอนุของราชามาร แต่จีบไปจีบมาหัวใจนางก็เริ่มสั่นไหว ทว่าพระเอกกลับไม่เคยใจอ่อนเลย ปฏิเสธทุกดอก ...พอได้เกิดใหม่นางเอกเลยคิดจะใช้ร่างนี้เอาคืน แสร้งทำเป็นลูกศิษย์ที่แสนดี หลอกเอาวิชาเอาของวิเศษจากพระเอก แล้วตรวจสอบพื้นที่เพื่อวางแผนพาคนมาบุกโจมตีในอนาคต...วาดฝันสวยหรูมากกกก
แต่หารู้ไม่ว่าพระเอกนั้นรู้และเดาได้หมดทุกอย่างแล้ว เพราะทั้งหมดนี้คือแผนการที่พี่จัดเตรียมไว้เอง...อิอิ

ความจริงพระเอกไม่ใช่คนเย็นชาไร้หัวใจ นั่นเป็นภาพลักษณ์ภายนอกที่สร้างมาหลอกไม่ให้คนเข้าใกล้เฉยๆ หากพี่สนใจใครเมื่อไรนี่บอกเลย...ไม่รอดแน่นวลลล เล่ห์กลมากมายสารพัด เจ้าแผนการ ร้ายกาจยิ่งกว่าปีศาจหรือมารตนไหนๆ ในโลกนี้เสียอีก...
ส่วนนางเอกก็คือคนที่ทำให้พี่สนใจ จนต้องเก็บมาใส่ใจได้ในรอบหมื่นปี (ชอบนั่นแหละ)
หลังจากนั้นพี่ก็วางแผนที่จะเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นเซียน เริ่มจากสังหารคนเขา (อย่างโหด) แล้วไปตามเก็บดวงจิตกับจิตวิญญาณเขามาไว้ในดอกบัว ทั้งถ่ายทอดพลังบำเพ็ญเพียร
500 ปีของตนให้ จนทำให้นางได้เกิดใหม่ในฐานะภูตดอกบัว... 

ส่วนนางเอกก็ไม่รู้ นึกว่าวิญญาณหลงเข้ามาอยู่ในร่างนี้เฉยๆ ...พระเอกก็ไม่บอก
แกล้งเนียนกินเต้าหู้คนเขาไปเรื่อย นางเอกขออะไรก็ทำเหมือนให้ แต่จริงๆ คือหาเรื่องแอบกินเต้าหู้เขาอยู่...ตอนพานางเอกไปข้างนอกแล้วเจอเซียนสาวที่หลงรักตัวพระเอกมานาน นางเอกกำลังจะบอกว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ แต่พระเอกกลับชิงตัดหน้าบอกเลยว่าเป็นคนรักแล้วจับนางเอกจูบต่อหน้ากลุ่มสาวๆ เลยจ้า หน้าเหวอกันเป็นแถบๆ เพราะที่ผ่านมาพระเอกเย็นชามากกกก ไม่เคยสนใจใคร พอเห็นแบบนี้ก็อึ้งใจสลายกันหมด...

แต่นางเอกก็คิดเสมอนะว่าคนที่พระเอกชอบคือลูกศิษย์ไม่ใช่ตัวเอง
จนมาวันหนึ่งที่มีเรื่องแล้วต้องกลับไปแดนมาร นางก็นึกว่าอีกนานกว่าพระเอกจะรู้ว่าหนีมา...แต่ๆ ที่ไหนได้พระเอกรู้หมดแหละ ไปตอนไหน ไปทำอะไร...เดาความคิดนางเอกออกทุกอย่าง มีสายไว้ตามสืบเยอะ จะทำอะไรก็อยู่ในสายตาพี่หมด (มานานแล้ว) ...
ถ้าไม่รักก็คือไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าปักใจรักแล้วคือโคตรคลั่งรักกกก ใครก็ห้ามแตะต้องคนของข้า ส่งลูกน้องตามไปบอกว่านี่อนุญาตให้กลับมาเยี่ยมบ้านนะ อย่าให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องล่ะ ไม่งั้น.......หึหึ

นางเอกก็เอ้ย! พระเอกรู้ได้ไง รู้แล้วเหรอว่าตัวเองเป็นใคร ...อาวุธวิเศษคู่กายนางก็มาบอกใช่! เขารู้หมดแหละ รู้มาตั้งนานแล้ว เขารักเจ้าไงไม่รู้เหรอ ...นางเอกยังงงๆ รักได้ไง รักตอนไหน ไม่ใช่ว่าเกลียดเหรอ สุดท้ายถึงได้รู้ว่าโดนหลอกมาตั้งนาน พระเอกมานแหลเก่ง 55

คือพระเอกอะโคตรเก่งโคตรฉลาด  เวียนว่ายตายเกิดมาเป็นหมื่นๆ ปีแล้ว รู้ไส้รู้พุงทุกเผ่าไม่ว่าจะเซียน มาร ปีศาจหรือมนุษย์ มองทุกสิ่งได้อย่างกระจ่างแจ้ง ปัญหาไหนที่ว่ายากถ้าพระเอกลงมือก็ขี้ปะติ๋ว ...อย่างนางเอกนี่ถึงจะเป็นขุนพลแดนมาร แต่พอมาเจอพระเอกก็คือเด็กน้อยไปเลย ไม่ว่าจะเป็นกลอุบาย พลังฝีมือ คารมคำพูด...ไม่รอด แพ้ทุกทาง
ไม่รู้ตัวเลยว่าขณะที่ตนไล่ตามจีบเขาอยู่ เขาก็จับตาดูตนเองอยู่เหมือนกันนะ 
เช่น พอรู้ว่านางเอกสนใจอาวุธหรือของวิเศษอะไร อิพี่ก็จะไปตัดหน้าแย่งชิงมา นางเอกจะไปไหนพระเอกก็ไปที่นั่น แต่ทำทีเป็นว่าบังเอิญเจอ...คอยวนเวียนอยู่ข้างกายมานานแล้ว วางแผนมานาน จนสุดท้ายก็ได้คนเขามาครองสมใจพ่อคนคลั่งรักเขาล่ะ...อิอิ


ปีศาจจิ้งจอกอย่ามาลวง
ผู้แต่ง : โม่เหยียน
ผู้แปล : เฉินซี
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เหยาเหนียง อดีตคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่เพราะดันไปหลงรักและแต่งงานกับบุรุษที่ฐานะต่ำกว่า ที่่เป็นเพียงบุตรชายของคนเลี้ยงม้าในจวน จึงทำให้ถูกที่บ้านตัดสัมพันธ์
สามีเก่าของนางเอกเป็นคนทะยาน หลังไปรบกลับมาก็พาสตรีใหม่เข้ามาเป็นอนุด้วย
นานวันเข้านางเอกก็ถูกอีกฝ่ายยึดอำนาจและใส่ร้ายว่าคบชู้สู่ชาย จนสุดท้ายก็ถูกสามีหย่าต้องออกจากจวนไป แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่เลิกรา ยังส่งคนตามมาฆ่าและทำให้นางต้องจบชีวิตลง

นางเอกเคยช่วยชีวิตจิ้งจอกเก้าหางนามว่า อาเจียว เอาไว้ด้วยความบังเอิญ เพราะคิดว่าเป็นจิ้งจอกธรรมดา ส่วนอาเจียวก็ติดใจในรสมือของนางมากจึงเกาะติดไม่ยอมไปไหน เมื่อเห็นนางเอกถูกฆ่าตายก็มอบหางตัวเองให้นางเอกหนึ่งหาง เพื่อต่อชีวิตและตอบแทนบุญคุณ ทำให้นางเอกกลายเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจตั้งแต่บัดนั้น

พระเอก จิ้นเสวียน เจ้าสำนักจี้อวิ๋น หรือนักพรตปราบปีศาจที่ภูตผีปีศาจต่างหวาดกลัว  
พระเอกตามไล่ล่าจิ้งจอกเก้าหางจนมาพบนางเอก และเข้าใจผิดคิดว่านางคือปีศาจจิ้งจอกตัวนั้น (เพราะบนร่างนางมีกลิ่นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางติดอยู่) จึงจับนางเอกกลับไปขังไว้ในหอผนึกมาร แต่ปรากฏว่านางเอกกลับฝ่าอาคมและหนีออกไปได้ พระเอกเลยสั่งให้ลูกศิษย์ปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพราะกลัวจะเสียชื่อเสียง แล้วไปตามจับนางเอกกลับมาใหม่...

แต่ความจริงคือนางเอกไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เดินออกมาเฉยๆ เพราะนางเป็นสตรีที่เกิดในปีหยางเดือนหยาง เวลาหยางและสถานที่หยาง จึงทำให้คาถาอาคมหรืออาวุธจับปีศาจต่างๆ ของพระเอกไม่มีผลกับนาง
แต่พระเอกไม่รู้ หลงคิดว่าเขาเป็นปีศาจที่มีพลังตบะสูงมาก 55

ส่วนนางเอกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนได้กลายเป็นปีศาจไปครึ่งนึงแล้ว พอเห็นหางจิ้งจอกโผล่มาก็ตกใจแต่สุดท้ายก็ยอมรับชะตากรรม และยอมตามพระเอกกลับไปแต่โดยดี  
พอรู้ที่มาที่ไปนางก็กลายเป็นเพื่อนกับจิ้งจอกเก้าหาง

ส่วนพระเอกก็ส่งศิษย์คนโตที่ซื่อๆ มาเฝ้านางเอกเพื่อให้คอยจับตาดู แต่ไปๆ มาๆ ศิษย์ตัวเองกลับไปผูกมิตรเป็นเพื่อนกับพวกนางเอกซะอย่างนั้น 55 ...แล้ววันหนึ่งจิ้งจอกเก้าหางที่ซ่อนตัวมาตลอดก็ถูกพระเอกจับได้ นางเอกรู้ว่าสู้เขาไม่ได้ ไม่รู้จะทำไง เลยกะจะเดินไปหาของมาใช้ขู่พระเอก ระหว่างที่เดินก็ไม่มีใครห้ามหรือขัดขวาง เพราะทุกคนต่างเข้าใจว่านางคือภรรยาของพระเอก ขนาดเข้าไปเขตหวงห้ามก็ยังไม่มีใครหยุด พวกปีศาจที่ถูกขังไว้ก็พากันบอกว่าอะไรคือสิ่งที่พระเอกหวงแหนที่สุด ไม่ใช่อาวุธหรือยาลูกกลอนที่โชว์ๆ แต่เป็นตั๋วเงิน 10000 ตำลึงที่เก็บไว้ใช้เพื่อปรับปรุงสำนักต่างหากนะจ๊ะ 55 ...
ตอนเห็นตั๋วเงินพระเอกก็ลนแต่ต้องทำเป็นนิ่ง สุดท้ายนางเอกขู่ไม่สำเร็จ เลยต้องลงนามในสัญญาทาสและทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในสำนัก เพื่อแลกกับการให้พระเอกปล่อยจิ้งจอกเก้าหางออกมา...

พระเอกถูกอาจารย์มัดมือชกให้รับดูแลสำนักต่อ เลยต้องอยู่เป็นนักพรตต่อไป เพื่อหาทางสร้างชื่อเสียงและหาเงินมาฟื้นฟูสำนักให้รุ่งเรือง ในชีวิตพี่จึงมีแต่เรื่องปราบปีศาจกับหาเงินมาฟื้นฟูสำนักเท่านั้น ซึ่งด้วยความพยายามของพระเอกสำนักก็ค่อยๆ ดีขึ้น มีลูกศิษย์มากขึ้น ไม่ต้องอยู่อย่างซอมซ่อ อดๆ อยากๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ส่วนนางเอกก็มีฝีมือในการทำอาหาร พอมาเป็นแม่ครัวทีนี่บรรดาลูกศิษย์ในสำนักก็ติดใจในรสชาติกันตรึม กินข้าวทีเหมือนทำสงครามเพราะอาหารอร่อยมาก ต้องรีบแย่งเดี๋ยวหมด
พอว่างก็หาเรื่องแวะเวียนไปแถวๆ เรือนนางเอก ขอช่วยทำงานนั่นนู่นนี่ ซึ่งนางเอกก็ยินดีที่มีคนมาช่วยทำงานหนักๆ ช่วย
ตักน้ำผ่าฟืนแทน เพราะพระเอกไม่เคยแก้ข่าว ทุกคนเลยเข้าใจว่านางเป็นคนรักของพระเอก เป็นอาจารย์หญิงของพวกตน แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ สายตาที่มองนางเอกก็เปลี่ยนไปทันที  55....

นางเอกก็ทำอาหารปลูกผักเลี้ยงไก่ไป พระเอกก็คอยจับตาดูว่าเมื่อไรนางจะใช้พลังปีศาจหรือเสน่ห์ของจิ้งจอกมายั่วยวนใครรึเปล่า แต่ดูไปดูมาดันหลงเสน่ห์เขาเองซะงั้น
เลยต้องหาข้ออ้างไล่ลูกศิษย์ที่มาช่วยงานไปให้พ้นๆ แล้วตัวเองก็เนียนมาทำแทน ชอบเขาแล้วแต่ไม่รู้ตัว...
จนหลังๆ ลูกศิษย์คนรองที่้เจ้าเล่ห์ฉลาดๆ เริ่มจับทางได้ เวลามีอะไรเลยชอบเอาชื่อนางเอกมาอ้าง เพราะรู้ว่าพระเอกต้องยอมไม่ปฏิเสธ ...

แต่ก่อนหน้านั้นทำกับเขาไว้เยอะไง ทั้งขู่ ทั้งบังคับให้เขาลงนามสัญญาทาส ชอบหาว่าเขาเป็นปีศาจบ้าง จนเขาไม่ชอบหน้าไม่อยากคุยด้วย ยิ่งพอมารู้ว่าที่ผ่านมาตัวเองเข้าใจผิดหมด ทีนี้แหละหงอเลย ไม่กล้าสู้หน้า แต่พอมีโอกาสจะกู้หน้าแล้วก็ดันทำพังอีกเพราะจีบผู้หญิงไม่เป็น สุดท้ายเลยต้องให้ลูกศิษย์คนโตมาชี้แนะถึงได้เบิกเนตร ถึงได้เก็ตว่าต้องทำยังไง
จากนั้นพี่ก็ตามตื๊อ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก ด้านได้อายอด จนนางเอกใจอ่อนเพราะจริงๆ ก็แอบรู้สึกดีกับพระเอกอยู่เหมือนกัน และก็ชอบชีวิตสงบๆ เรียบง่ายที่นี่ด้วย
พอใจตรงกันพระเอกก็อยากจะรีบจัดงานแต่งเร็วๆ อยากรีบกินคนงาม เพราะเก็บกดมานานยังเวอร์จิ้นอยู่ ตบะใกล้แตกเต็มทีแล้ว ข้างนอกเคร่งขรึมเย็นชาแต่ข้างในนี่ไฟลุกแว้ววนะจ๊ะ....

ป.ล. อ่านจบแล้วส่วนตัวชอบ 2 เรื่องนี้ที่สุดในเซ็ตเลย มีความรู้สึกว่าถ้าเอาไปเขียนต่อเป็นเรื่องยาวได้ก็คงจะดี เราว่ามันไปได้อีกนะ ปมมันยังขยายได้อีกอะ พล็อตโอเคเลย เรียบง่ายแต่ก็สนุก นิสัยของตัวละครแต่ละคนก็น่าสนใจ มีคาแรคเตอร์ ไม่ใช่แค่ตัวประกอบที่อ่านจบแล้วก็ลืม นอกจากคู่พระ-นาง เราก็ยังชอบคู่อื่นๆ ที่อยู่ในเรื่องด้วย(ชอบทุกคู่อะ) โดยเฉพาะคู่ของอาวุธวิเศษในเรื่องท่านเซียนอย่ามาหลอก มาแรงมากก ทั้งแรงทั้งตรง...จนต้องร้องอือหืออๆ แบบด้วยความที่ร่างจริงเป็นอาวุธ เป็นสิ่งของ ไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ เวลาอยากได้อะไรก็จะพูดตรงๆ ไม่อ้อม เช่น "ข้าอยากเสียบเจ้า.....-_-“  ไม่ใช่ใช้กระบี่เสียบแต่เป็นอันนี้...ชี้ไปที่ตรงกลางหว่างขา 55 ...หื่นทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องเลยเรื่องนี้...
(หื่นทั้งคู่หลักคู่รองเลย 2 เรื่องสุดท้ายนี้ ส่วน nc ก็แซบที่สุดสมกับเป็นงานท่านโม่เหยียนและ 55)

 

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก 3 เล่มจบ

จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : ชางเยวี่ย 
ผู้แปล : กอหญ้า
ปก : Rong Jing
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

จะกล่าวถึงดินแดนอวิ๋นฮวงซึ่งถูกชาวเผ่าคงซางพิชิตได้เมื่อ 7000 ปีก่อน และทำให้เผ่าสมุทร(มนุษย์เงือก) ต้องกลายมาเป็นทาสที่สามารถซื้อขายได้และถูกปฏิบัติไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง ส่วนเผ่าชางหลิว(เผ่าน้ำแข็ง) ก็ถูกขับไล่ออกจากดินแดน กลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อนต้องระหกระเหินอยู่ในทะเลไม่มีแผ่นดินให้กลับ ..ทว่าเมื่อ 7000 ปีผ่านไปก็ปรากฏคำทำนายใหม่จากฟากฟ้าว่าในอีก 70 ปีข้างหน้าคงซางจะล่มสลาย โลหิตจะไหลนองเป็นสายน้ำ
เจ้าสมุทรจะกลับมา และหายนะครั้งใหญ่จะมาเยือน...

นางเอก จูเหยียน บุตรสาวของฟานหวังผู้ปกครองเผ่าชื่อ ซึ่งเป็น ใน เผ่าที่อยู่ใต้อาณัติของตี้จวินเผ่าคงซางแห่งอวิ๋นฮวง นางเอกเป็นคนนิสัยใจร้อน มุทะลุ ทำอะไรไม่ค่อยคิด มักเอาความรู้สึกอารมณ์เป็นที่ตั้ง เพราะถูกเลี้ยงดูสปอยล์ตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ตอนอายุ ขวบ หลังจากที่ได้เห็นพระเอกสำแดงวิชาอาคมในตอนที่ขึ้นเขาไปอารามกับพ่อ นางเอกก็ร้องขอที่บ้านให้ส่งตนเองไปร่ำเรียนวิชาที่อารามเทพจิ่วอี๋กับเขาด้วย
ทว่าอารามเทพไม่รับศิษย์ที่เป็นสตรี นางเอกเลยต้องกลายเป็นศิษย์ที่ไม่จารึกนามของพระเอก สืออิ่ง ที่
มีนิสัยเงียบขรึมเย็นชา คร่ำครึ ไม่สนใจสิ่งใด โตมาอย่างโดดเดี่ยวและมีเพียง ฉงหมิง สัตว์เทพคู่กายเท่านั้นที่อยู่เคียงข้าง

สองศิษย์-อาจารย์ใช้ชีวิตฝึกฝนวิชาอยู่ในถ้ำด้วยกัน นางเอกเป็นคนหัวไวเรียนรู้เร็วแต่ติดขี้เกียจ ทว่าหากตั้งใจจริงก็ทำได้หมด ระดับฝีมือและพลังไม่ด้อยไปกว่าพระเอกผู้เป็นอาจารย์เลย คนที่นางกลัวที่สุดนอกจากพ่อตัวเองแล้วก็พระเอกนี่แหละที่นางไม่กล้าหือ (แต่ถ้าโมโหมากๆ จนคลุ้มคลั่งก็อีกเรื่องหนึ่งนะ ..หึหึ
พออายุครบ 13 กลายเป็นสตรีเต็มตัว นางเอกก็ถูกส่งลงจากเขา
แต่ระหว่างนั้นนางก็ยังคอยส่งจดหมายพยายามติดต่อไปหาพระเอก ทว่ารอแล้วรอเล่าพระเอกก็ไม่เคยมาหา หรือแม้แต่จดหมายสักฉบับก็ไม่เคยตอบกลับมาเลย
กระทั่งผ่านไป 
ปีเมื่อนางเอกถูกส่งตัวไปแต่งงานและกำลังวางแผนหนี คนที่ข่าวคราวเงียบหายไปนานหลายปี ก็กลับมาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้านางซะอย่างนั้น...

หลังจากที่งานแต่งล่ม นางเอกก็ถูกส่งตัวกลับบ้าน (ด้วยความไม่เต็มใจ) ส่วนพระเอกก็แยกไปทำภารกิจต่อ แล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันใหม่อีกครั้งที่เมืองเยี่ยเฉิง
นางเอกติดตามพ่อมาเที่ยวเล่น แต่ความจริงคือกำลังแอบตามหาใครบางคนอยู่ แล้วก็บังเอิญได้เจอกับมนุษย์เงือกสองแม่ลูกที่เคยช่วยเอาไว้ในตอนที่กำลังหนีงานแต่ง (น่าสงสารมาก อ่านแล้วจะร้อง
T^T) แม่เงือกอาการร่อแร่เต็มที นางเอกจึงรับปากว่าจะดูแลปกป้องลูกเงือกให้ แม่เงือกถึงได้จากไปอย่างสงบ...
ส่วนพระเอกก็กำลังไล่ตามสืบหาร่องรอยสายเลือดของเจ้าสมุทรตามคำทำนายจนมาถึงที่นี่ 
ยอมสังหารผิด สังหารเงือกทุกตนยังดีกว่าปล่อยให้คนผู้นั้นหลุดรอดไปได้ แล้วคนที่พี่ตามหาก็ดันไปตรงกับมนุษย์เงือกที่นางเอกเคยชอบพอดีอีกนะเออ...(เห็นแววดราม่ามาแต่ไกล)

นางเอกแอบชอบ ยวน มนุษย์เงือกที่เคยเป็นทาสอยู่ในจวนตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แต่เขากลับไม่ได้ชอบนาง เห็นนางเป็นเพียงลูกหลานคนหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายเพราะการทำอะไรโดยไม่คิดและนิสัยเด็กน้อยของนาง จึงทำให้ยวนถูกขับไล่ออกจากจวนไป
ถึงจะผ่านมา ปีแล้วก็ไม่เคยเลิกคิดตามหาข่าวคราวของอีกฝ่าย แต่คาดไม่ถึงว่าพอได้พบหน้ากันอีกที มนุษย์เงือกที่อบอุ่นอ่อนโยน ที่เคยเข้าอกเข้าใจและปลอบโยนนางมาตั้งแต่เล็กจนโต ในวันนี้จะกลายเป็นผู้นำของกองกำลังกู้แคว้นที่เป็นภัยต่อชาวคงซาง และเป็นที่ผู้อาจารย์ของนางหมายหัวต้องการเอาชีวิตไปเสียแล้ว....

เรื่องราวความรักความดราม่าระหว่างศิษย์-อาจารย์
แนวแฟนตาซีเทพเซียน มาร ปีศาจ มีเรื่องวิชาคาถาอาคม เนื้อเรื่องเข้มข้น เดินเรื่องไว ปมดี
สนุกอยู่นะ ทั้งเรื่องรัก เรื่องสงครามการเมือง และสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ รวมถึงการกดขี่ข่มเหงของผู้ชนะที่มีต่อฝั่งที่พ่ายแพ้ อ่านแล้วโคตรหดหู่ ตัวละครไม่ได้ดีหมดจด บางมุมก็ออกเทาๆ เพราะทุกคนต่างก็ทำเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ตัวเอง...

เงือกในเรื่องนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนยาว (1000 ปี) เป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงาม แต่น่าเสียดายที่กลับอ่อนแอ หัวอ่อน และเชื่อคนง่าย พอแพ้สงครามก็ถูกจับมาเป็นทาส กลายเป็นของเล่นของชนชั้นสูง คนมีเงิน ไม่ก็เป็นคณิกาอยู่ในหอนางโลม ถูกปฏิบัติราวกับสัตว์เลี้ยง มีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น ...เมื่อคำทำนายปรากฏ พวกเขาจึงออกตามหาเจ้าสมุทร พร้อมความหวังที่จะกอบกู้แคว้นขึ้นมาใหม่ เพื่อปลดปล่อยเงือกทุกตัวจากความเป็นทาส...
แต่แน่นอนว่าผู้ที่รู้คำทำนาย
หรือพระเอก ซึ่งเป็นชาวคงซางมีหรือจะยอมให้มันเป็นไปตามนั้น ด้วยฐานะและหน้าที่ พระเอกจึงไม่อาจนิ่งดูดายปล่อยให้คำทำนายเกิดขึ้นได้ แม้นางเอกจะขอร้องและขัดขวางอย่างไรพี่ก็ไม่สน  เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก  ต่อให้คนที่ต้องสังหารจะเป็นเงือกที่นางเอกชอบ พี่ก็ไม่เปลี่ยนใจ...

ความจริงในตอนที่การแต่งงานครั้งแรกถูกยกเลิก พระเอกเคยถามนางเอกว่าอยากแต่งกับคนแบบไหน นางเอกก็ตอบไปว่าคนแบบอาจารย์ พระเอกเลยดีใจนึกว่านางเอกคงชอบตัวเองเหมือนกัน จึงคิดจะเลิกออกบวชแล้วหันกลับเข้าสู่ธุลีแดง แม้จะต้องเผชิญกับโทษทัณฑ์สวรรค์อันแสนเจ็บปวดก็ตาม... แต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่ได้ต่อสู้กับมนุษย์เงือกตนนั้น พระเอกถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วคนที่นางเอกชอบไม่ใช่ตน คำพูดในวันนั้นก็เป็นเพียงการพูดส่งๆ เพื่อเอาตัวรอดไปเท่านั้นเอง...

จนมาถึงวันที่พระเอกเดินหน้ากวาดล้างกองกำลังกู้แคว้นครั้งใหญ่ เงือกน้อยที่อยู่ในจวนนางเอกก็เกิดป่วยพอดี นางเอกเลยต้องแบกเงือกน้อยใส่หลังเพื่อพาไปหาหมอ
แม้รู้ว่าอันตรายแต่ก็ต้องทำ ...
 ขณะที่ปะทะกัน นางเอกบังเอิญได้เห็นพวกทหารฝั่งตนกำลังจะตัดคอเงือกหนุ่มที่ยังไม่ตายเพื่อเอาลูกตาไปขายเป็นไข่มุก นี่จึงทำให้นางไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป ในที่สุดก็ต้องก้าวเท้าเข้าสู่สงครามนี้อย่างช่วยไม่ได้ และเป็นจุดหักเหครั้งใหญ่ที่ทำให้นางต้องคลาดกับเงือกน้อยไปทั้งชีวิต...

นางเอกใช้อาคมอำพรางกายพามนุษย์เงือกหลบหนี แต่ในด่านสุดท้ายกลับเจออาคมของตัวเองสะท้อนกลับจนบาดเจ็บหนักเกือบเอาชีวิตไม่รอด และทำให้ยวนตัดสินใจย้อนกลับมาช่วย จนทำให้ติดกับพระเอกและถูกฆ่า.....พอเห็นอีกฝ่ายถูกฆ่า นางเอกก็โกรธจัดจนเลอะเลือน ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ และลงมือต่อสู้กับพระเอกอย่างเอาเป็นเอาตาย
แม้ความจริงพระเอกจะหลบได้ แต่กลับเลือกปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำทำนาย 
ที่บอกว่าพระเอกจะจบชีวิตลงด้วยน้ำมือสตรี และห้ามก้าวออกจากหุบเขาก่อนอายุครบ 18 หากเจอสตรีต้องฆ่าทิ้ง แต่พระเอกกลับตัดใจฆ่านางเอกไม่ได้ และสุดท้ายก็ต้องตายด้วยน้ำมือของนางเอกจริงๆ

เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด หัวใจของนางเอกก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกกระชาก
ไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิด...
 ต่อจากนั้นอาจารย์พระเอกก็มาและบอกวิธีช่วยให้พระเอกฟื้นคืน โดยขอแลกกับการที่นางเอกต้องหายออกไปจากชีวิตพระเอกชั่วชีวิต...

ถ้าใครอ่านเรื่องนี้ อาจจะขมวดคิ้วและมีความรู้สึกอยากหยุมหัวนางเอกแน่ๆ
ส่วนพระเอกก็ออกแนวคร่ำครึและมั่นใจในตัวเองมากไปหน่อย ยึดติดกับไอ้คำทำนายนี้มากเหลือเกิน ส่วนนางเอกก็ใจร้อน แม้หลังจากที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาก็ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมและโตขึ้น ดูพยายามไม่เอาแต่ใจ เริ่มคิดเพื่อส่วนรวมมากขึ้น ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้ชอบตามคำสั่งของพ่อแม่ หรือแม้แต่ในตอนที่พระเอกมาหาเพื่อถามความจริง อิน้องนางก็ยังหักใจปฏิเสธได้ ก็เหมือนจะดีขึ้น..แต่ๆๆ ทว่าในวินาทีที่อิน้องนางได้รู้ว่าพระเอกเลือกชายารัชทายาทแล้วเท่านั้นแหละจ้า...  นิสัยเดิมๆ ก็กลับมาทันที 55 สุดท้ายก็ยังทำอะไรไม่คิดเหมือนเดิม

เห็นดราม่าเข้มข้นแบบนี้แต่จบดีนะ  เพียงแต่อ่านจบแล้วอาจจะรู้สึกเหมือนยังไม่จบจริง ส่วนตัวรู้สึกว่ามันยังมีอีกหลายปมที่ต้องไปตามกันต่อ ยังเฉลยไม่หมดอะ
ไม่ว่าจะเป็นคำทำนาย
 หรือเรื่องการต่อสู้ของสามชนเผ่าที่มีต่อกันมาอย่างยาวนานนั่นด้วย
เพราะนอกจากเผ่าสมุทรแล้ว ในท้ายๆ เรื่องจะมีบุคคลปริศนาที่มาจากเผ่าอื่นโผล่มาอีก
และทำให้เรื่องการเมืองที่เกิดขึ้นภายในแคว้นก่อนหน้าดูเบาลงไปทันที เพราะคนที่มานี้ฝีมือสูงส่งมาก แถมยังลึกลับไม่ธรรมดา มีความรู้เรื่องวิศวกรรมการสร้างสิ่งที่คล้ายกับเครื่องบิน เรือดำน้ำ พวกเครื่องมือที่จะทำให้สามารถบุกยึดทั้งบนบน ในน้ำ และบนฟ้าได้อะ (คือแอบสงสัยว่าเขาทะลุมิติมาจากยุคปัจจุบันหรือเปล่านะ)...

เห็นสนพ.บอกไว้ตรงคำนำว่าอันนี้เป็นปฐมบทที่มีมาก่อนนิยายสเกลใหญ่ ภาคจบชุด
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 
ภาคที่ว่านี่หมายถึง เรื่องหรือเปล่านะ แต่อ่านเรื่องนี้จบก็ยิ่งอยากรู้เรื่องของภาคอื่นๆ เข้าไปอีก โดยเฉพาะเรื่องของน้องเงือก ซูหมัว ในกระจกสองนครา (ไม่รู้สนพ.จะเอามามั้ย ><)  นี่ก็ชะตาอาภัพเหลือเกิน ชีวิตมืดมนถูกคนทำร้ายมาตั้งแต่เด็ก
ถูกยัดเยียดให้เป็นในสิ่งที่เขาไม่ได้อยากเป็น ชีวิตแทบไม่เคยมีความสุขเลย แล้วยังถูกทำให้เข้าใจผิดต้องคลาดกับนางเอกไปจนวาระสุดท้ายอีก คาใจมากกก คืออยากรู้ว่าสุดท้ายน้องจะรู้ไหมว่านั่นนางเอกไม่ได้ทำ และใดๆ คือเราอยากเห็นตัวละครนี้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ สักที ....
อ่านแล้วสงสารเผ่าสมุทรมากก ถึงจะรู้ว่านี่เป็นสงครามแต่ก็ยังอดรู้สึกหดหู่ไม่ได้อยู่ดี อยากให้เขาได้รับอิสระหรือมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าตรงจุดนี้แม้แต่ตัวพระ-นางก็ยังไม่อาจเปลี่ยนหรือคิดจะเปลี่ยนเลย(รึเปล่า?) หรือพยายามแล้วแต่ยังทำไม่ได้ไม่สำเร็จ เพราะอ่านถึงตอนพิเศษของน้องเงือกผ่านไป 70 ปีแล้ว เป็นทาสยังไงก็ยังเป็นอยู่แบบนั้นไม่เปลี่ยนไปเลย... T^T

ป.ล. นางเอกก็มีข้อดีเหมือนกันนะ (ใช่ว่าจะใจร้อนอย่างเดียว 55) 
คือเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา ปากร้ายแต่ใจดี ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ สู้สุดใจ อย่างตอนที่เสี่ยงตายแบกน้องเงือกไปรักษา ตอนที่ยื่นมือช่วยเผ่าสมุทรให้หลบหนี ตอนที่พระเอกเจอคนลอบโจมตีนางก็ไม่ทิ้ง เกิดภัยอันตรายอะไรก็ไม่เคยหนีเอาตัวรอดคนเดียว ก็โอเคอยู่นา...