วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ฉางหลิง เทพสงครามสองชาติภพ

 


ฉางหลิง เทพสงครามสองชาติภพ 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : หรงจื่ว
ผู้แปล : ตังตัง
สำนักพิมพ์ Princess

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

คุณชายรองเยว่ เยว่ฉางหลิง ผู้สืบทอดวิชาเทียนจู๋ คนเดียวในรอบร้อยปีที่สามารถฝึกฝนสุดยอดวิชา วิสุทธิคัมภีร์ซือโม๋ สำเร็จจนถึงขั้นเก้าได้ ถูกยกย่องให้เป็นเทพสงครามตั้งแต่อายุยังน้อย มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ย่างเท้าไปที่ใดก็สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งยุทธภพและแผ่นดิน..

นี่คือช่วงกลียุคที่บ้านเมืองไม่เป็นปึกแผ่น ราชวงศ์อ่อนแอ แผ่นดินระส่ำระส่ายแบ่งออกเป็นหลายฝักหลายฝ่ายไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว มีกองกำลังมากมายผุดขึ้นมาตั้งตัวเป็นใหญ่เพื่อหวังครอบครองแผ่นดิน... กองทัพตระกูลเยว่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งยังเป็นทัพที่มีโอกาสจะได้รับชัยชนะมากที่สุดอีกด้วย สองพี่น้องตระกูลเยว่ หนึ่งบุ๋นหนึ่งบู๊ ครองใจชาวประชาและชาวยุทธ์ จึงทำให้มีสำนักและตระกูลมากมายยอมติดตามสวามิภักดิ์ .. ทว่าในศึกใหญ่ที่ต่อสู้กับแคว้นเยี่ยน สองพี่น้องเยว่กลับถูกคนทรยศและลอบวางยาพิษ กองทัพตระกูลเยว่ถูกคนตลบหลังกวาดล้าง ท้ายที่สุดแผ่นดินก็ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือตงเซี่ยและซีเซี่ย...

นางเอก เยว่ฉางหลิง ดรุณีน้อยของตระกูลเยว่ เพราะถูกคนทำร้ายปางตายจึงส่งผลให้นางต้องจากบ้านไปร่ำเรียนวิชาตั้งแต่ยังเด็ก และเพราะวิชาที่ฝึกฝนจึงทำให้กลายเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก บวกกับรอยตราสีแดงเพลิงที่หางตา จึงทำให้นางต้องสวมหน้ากากและแต่งกายเหมือนบุรุษ นางเอกใช้ชีวิตเยี่ยงชายชาตรี ต้องเดินทางไปทั่วเพื่อผูกใจคนตามคำสั่งของพี่ชาย ระหว่างนั้นก็ได้ผดุงคุณธรรมปราบปรามคนชั่วช่วยเหลือคนดี จนสร้างบุญคุณรวมถึงหนี้แค้นเอาไว้มากมายและก่อให้เกิดภัยตามมาโดยไม่รู้ตัว ...

หลังจากที่ถูกคนทรยศ นางเอกก็พาร่างที่บาดเจ็บกระโดดลงไปในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเวลาได้ล่วงเลยไปถึง 11 ปีแล้ว ทว่านางที่ควรจะอายุ 28 ในเวลานี้เหตุไฉนถึงได้มีหน้าตางดงามและดูอ่อนเยาว์ลงเหมือนเด็ก 17-18 กันหนอ..
จากนั้นนางเอกก็ได้พบคนที่ช่วยชีวิตและคอยดูแลตน ได้รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน ภารกิจต่อไปจึงเป็นการหาทางหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ เพื่อไปสืบหาความจริงของเรื่องราวในอดีต และแก้แค้นผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนั้น...

ทว่าก่อนจะหนีก็ถูกคนไหว้วานขอให้ช่วยคนคนหนึ่งออกไปด้วย เพื่อตอบแทนบุญคุณนางเอกเลยไป และก็ได้หนี้ดอกท้อกลับมาอีกหนึ่ง แต่นางไม่ได้คิดอะไรไง ความรู้สึกช้า อีกฝ่ายมอบแหวนให้ก็รับมา เพราะคิดว่าอาจจะเอาไปขายแลกเป็นเงินได้ในอนาคต ไม่รู้ความหมายแฝงหรือความสำคัญของสิ่งที่ได้มาเลย ...
ต่่อจากนั้นนางก็ถูกคนเข้าใจผิดจับตัวไป
แล้วก็จับพลัดจับผลูได้ร่วมเดินทางไปช่วย 8 เจ้าสำนักของตงเซี่ยที่ถูกจับตัวมา...หลังจบเรื่องนี้นางเอกก็ถูกคนของสำนักเบญจพิษจับตัวไปต่อ เพราะอีกฝ่ายเห็นนางหน้าตาดีเลยกะจะเอาไปให้เจ้าสำนักเปลี่ยนผิวหน้า...แล้วสำนักเบญจพิษก็ดันบังเอิญถูกคนบุกมากวาดล้างในวันนั้นพอดีอีก นางเอกเลยรอดตายและได้สวมรอยเป็นเจ้าสำนักเบญจพิษแทน เพราะเจ้าสำนักนี้มีฐานะเดิมเป็นถึงลูกสาว(นอกสมรส) ของแม่ทัพจิง แม่ทัพใหญ่แห่งตงเซี่ย หรือก็คือคนสนิทเก่าของตระกูลเยว่ที่หักหลังพวกนางเอกพี่น้อง...นางเอกจึงแสร้งทำเป็นความจำเสื่อม เพื่อใช้ฐานะนี้เข้าใกล้พวกคนที่เคยทรยศตนในอดีตและตามสืบหาความจริงเมื่อ 11 ปีก่อน....

นางเอกเป็นคนเก่ง วรยุทธ์สูง เท่มาก จนรู้สึกว่าไม่ต้องมีพระเอกก็ได้นะ ส่วนพระเอกเป็นใครเดาไม่ยากถึงในเรื่องจะมีเรือให้เลือกลงถึง 3 ลำก็เถอะ 55 ..แต่พระเอกเป็นคนที่อยู่กับนางเอกมากที่สุดดด ค่าตัวไม่แพง  บทเยอะออกบ่อย...เป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์มากแผนการ แต่เสียดายที่มีร่างกายอ่อนแอจึงฝึกวรยุทธ์ไม่ค่อยได้ ความจริงจะมีอายุได้ไม่เกิน 10 ปี แต่บังเอิญได้นางเอกช่วยเอาไว้เลยยังรอดมาได้จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ใกล้จะไม่รอดแล้วนะถ้ายังไม่เจอยารักษาจริงๆ สักที ...

พระเอกหลงรักนางเอกตั้งแต่แรกพบ ช่วงที่คนหายไป 11 ปี ก็ขึ้นเหนือลงใต้เดินทางไปทั่วเพื่อวางแผนทำเรื่องต่างๆ พร้อมกับสืบหาร่องรอยของนางเอกไปด้วย ...ถึงร่างกายจะไม่แข็งแรง แต่ก็พร้อมคิดวางแผนเพื่อปกป้องและเป็นกำลังสนับสนุนให้นางเอกเสมอ เป็นคนที่ทำให้เทพสงครามอย่างนางเอกยอมเชื่อฟังและมอบหัวใจให้ในที่สุด ...
nc ไม่มี แต่คู๋นี้เวลาอยู่ด้วยกันอบอุ่นดี นางเอกแสดงความรู้สึกไม่เก่ง ส่วนพระเอกก็ทะเล้นขี้เล่นชอบแหย่เขา ถ้านางเอกคือไฟพระเอกก็คือน้ำ ถ้านางเอกแข็งมาพระเอกก็พร้อมอ่อนลงให้ก่อนเสมอ ถึงร่างกายจะไม่เต็มร้อย แต่เรื่องมันสมอง การวางแผน กลอุบายต่างๆ ต้องยกให้พระเอกจริงๆ  

จำได้ว่าที่เคยอ่านส่วนใหญ่ คนในยุทธภพจะไม่ค่อยยุ่งกับการเมืองหรือราชสำนักนะ แต่เรื่องนี้ตรงข้าม เพราะฮ่องเต้เคยเป็นคนในยุทธภพมาก่อน พอมาเป็นฮ่องเต้รากฐานจึงยังไม่มั่นคงกำลังคนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องพยายามสร้างฐานของตัวเองและหาคนมาเป็นพวกให้ได้ เพื่อจะได้กำจัดขั้วอำนาจที่มีอยู่ในตอนนี้ทิ้ง ... เลยมีการก่อตั้งสำนักชิงเฉินขึ้นมา ซึ่งใครที่ได้เข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักนี้ไม่ว่าชายหรือหญิง ขอแค่ทำการทดสอบภายในสำนักผ่านติดอันดับ ใน 20 ทุกคนก็จะมีโอกาสได้รับราชการ ...
นางเอกก็เข้าร่วมด้วยเพราะในสำนักมีคนรู้จักเก่าที่นางอยากเจอ ส่วนพระเอกก็ตามมาเป็นอาจารย์อยู่ในสำนักคอยอยู่ข้างๆ เพื่อช่วยเหลือ...ระหว่างนั้นก็จะมีเรื่องการไปตามหาสมบัติของตระกูลเยว่ หาวิธีช่วยต่อชีวิตพระเอก และไปตามหาเคล็ดวิชาที่หายสาบสูญ อีรุงตุงนังเกี่ยวข้องกันไปหมด แล้วก็ยังมีเรื่องงานชุมนุมชาวยุทธ์ ที่แต่ละแคว้นแต่ละสำนักจะส่งคนมาเข้าร่วมประลองเพื่อเฟ้นหาผู้นำยุทธภพคนใหม่...การเมืองมีน้อย หลักๆ จะเป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจหรือต่อสู้กันของชาวยุทธ์ในยุทธภพมากกว่า เรื่องของอีกแคว้นที่แบ่งออกไปก็ไม่ค่อยกล่าวถึงหรือมีบทเท่าไร ออกมาอีกทีก็ตอนเล่มสามท้ายๆ เลย

เป็นแนวกำลังภายในยุทธภพ ชิงอำนาจ ตามหาวิชาคัมภีร์ลับ ผสมการเมืองหน่อยๆ ฉากต่อสู้วิชาลับอาวุธลับจัดเต็ม บรรยายเห็นภาพ แปลดี อ่านลื่นมาก (จากที่อ่านงานแปลจีนโบราณของสนพ.นี้มา ตอนนี้เราว่าเรื่องนี้แปลดีที่สุดเลย ปรบมือๆ )
เนื้อเรื่องหักมุมพลิกไปพลิกมาเยอะ ความจริงเดาจากสไตล์นักเขียนก็พอรู้อยู่แล้วแหละว่าเดี๋ยวคงต้องมีอะไรพลิกแน่ๆ เตรียมใจไว้แล้วเลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไรอะ พลิกบ่อยจนไม่แปลกใจแล้ว55 ส่วนตัวร้ายบางคนเราว่าถูกจัดการง่ายไปหน่อยนะ บทจะตายก็ง่ายๆ แบบนั้นเลย นางเอกก็เก่งเทพ ยิ่งพอลมปราณกลับมาใช้ได้เต็มร้อยก็ยิ่งโคตรเทพ
ส่วนพระรองก็....เรียกได้ว่าพลาดเพียงครั้งเดียวคือพลาดทั้งชีวิต พลาดแล้วพลาดเลยจริงๆ หมายถึงเรื่องนางเอกนะ พยายามแก้ยังไงมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว นี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ อดีตกุนซือมือฉมัง แต่ทำไมถึงพลาดเรื่องนางเอกได้ฟะ ทำไมถึงดูไม่ออกเลยอยู่ด้วยกันมาตั้ง 3 ปี ผิดวิสัยความฉลาด ความช่างสังเกต ช่างวิเคราะห์ของพี่แกจริงๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น