วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564

รัตติกาลซ่อนกล 4 เล่มจบ

 


รัตติกาลซ่อนกล 4 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
หนิงหล่ง 凝(隴)
ผู้แปล : Singin' in the Rain
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอก ฟู่หลันหยา บุตรสาวของฟู่ปิง ขุนนางน้ำดีซึ่งเคยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่เพราะนิสัยที่ตรงไปตรงมา ดื้อรั้นหัวแข็ง จึงทำให้ล่วงเกินคนเอาไว้มาก
เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ พ่อของนางเอกจึงเริ่มหมดอำนาจลงเรื่อยๆ
และสุดท้ายก็ถูกใส่ร้าย จนถูกจับเข้าคุกหลวงพร้อมกับบุตรชาย
จากบุตรสาวตระกูลขุนนางที่เคยเรืองอำนาจ จึงต้องตกต่ำลงในชั่วพริบตาและกลายเป็นบุตรตรีของขุนนางต้องโทษ ที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

พระเอก ผิงอวี้ ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร บุตรชายคนเล็กของซีผิงโหว ฉลาด เด็ดขาด
มีไหวพริบ มีวรยุทธ์สูง ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรตั้งแต่อายุ
20
ในอดีตบ้านพระเอกเคยถูกพ่อของนางเอกยื่นฎีการ้องเรียน จึงทำให้ผู้เป็นพ่อถูกปลดออกจากตำแหน่ง บ้านถูกริบทรัพย์ ทั้งครอบครัวต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวง  
ต้องตกระกำลำบาก ได้รับความทุกข์ยากต่างๆ นานา
ดังนั้นเมื่อได้เจอนางเอก พระเอกจึงไม่คิดปกปิดความเกลียดชังที่ตนมีต่ออีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทั้งพูดจาไม่ดี ทำร้ายจิตใจ และใช้นางเอกเป็นเหยื่อล่อศัตรูโดยไม่สนใจความเป็นความตาย...

พระเอกได้รับมอบหมายงานให้ไปพาตัวนางเอก ซึ่งกลายเป็นลูกขุนนางต้องโทษกลับมาเมืองหลวงเพื่อรับโทษ แต่ไม่รู้ว่าใครไปปล่อยข่าวลือว่านางเอกเป็น "ตัวเร่งยา"
จึงทำให้มีคนแห่แหนกันมาเพื่อจับตัวนางเอกไป ทั้งสำนักบูรพาเอย สำนักในยุทธภพเอย
แล้วไหนจะพวกลัทธิมารนอกรีตกับคนต่างแคว้นอีก...ดาหน้ากันเข้ามาไม่หวาดไม่ไหว
ยังไม่รวมถึงพวกวิชาแปลกๆ ของแต่ละคน แต่ละสำนักอีกนะ
ที่ทำให้พระเอกต้องเค้นสมอง และขอระดมกำลังจากคนในยุทธภพเพื่อมาช่วยกันรับมือ
ถ้าใครเคยได้อ่านงานของนักเขียน ตั้งแต่เรื่องบุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน
จะรู้ว่านักเขียนท่านนี้ไม่เคยเขียนให้ต่อสู้กันแบบธรรมดา แต่จะต้องมีพวกไสยศาสตร์มนต์ดำเข้ามาเอี่ยวด้วย เรื่องนี้ก็เช่นกันแถมยังมีเรื่องศาสตร์ของค่ายกลเพิ่มเข้ามาด้วยอีกหนึ่งอย่าง

นี่จึงไม่ใช่แค่การเดินทางพาลูกสาวขุนนางต้องโทษกลับเมืองหลวง
แต่ยังเป็นการเดินทางไขปริศนาลับอีกมากมาย ที่เกี่ยวกับตัวนางเอกและใครอื่นอีกหลายคน 
ที่ต้องมาพัวพันเกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องไข่มุกถ่านเอ๋อร์
ระหว่างการเดินทาง ความลับต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตก็จะค่อยๆ ปรากฏความจริงออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแม่นางเอก หรือเรื่องไข่มุกถ่านเอ๋อร์ที่ทำให้ผู้คนมากมายยอมเสี่ยงตายเข้ามาแย่งชิง และเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในยุทธภพเมื่อ 20 ปีก่อน
ที่ทำให้ใครบางคนหรือบางสำนักต้องเร้นกายหายไป รวมไปถึงความจริงที่ทำให้บ้านพระเอกต้องถูกเนรเทศด้วย...

ส่วนพระเอกช่วง 2 เล่มแรกก็จะเหมือนคนเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์แปรปรวนง่ายเหลือเกิน...ตกหลุมรักนางเอกแล้วแต่ไม่ยอมรับ ขนาดเพื่อนสนิทเค้นถามก็ยังปากแข็ง ประกาศกร้าวว่าจะไม่มีวันชอบลูกสาวของตระกูลฟู่เด็ดขาดด...โฮะๆ  
แต่การกระทำนี่อีกอย่างเลยน๊า  ไอ้หนุ่มไหนเข้าใกล้น้องก็ไม่ได้ พี่กันออกหมด (ใช้หน้าที่ในทางที่มิชอบ
55)  คุยก็ไม่ได้ ให้ของก็ไม่ได้ แม้แต่มองพี่ก็ไม่อนุญาต หวงหนักมากกก
ผู้ชายคนเดียวที่เข้าใกล้น้องได้ก็คือพี่คนเดียวเท่านั้น..
55

ก็ทำตามหน้าที่อะเนอะ แถมนางเอกยังถูกคนตามล่าอีก พี่เลยต้องตามดูแล
เอ้ยๆ อารักขาอย่างใกล้ชิด ต้องนอนเฝ้าที่หน้าเตียงทุกคืน
ของที่คนอื่นให้ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทุกชิ้น (ทำตามหน้าที่เฉยๆ ไม่ได้หึงไม่มี..หึหึ)
แม้นางเอกจะเป็นสตรีในห้องหอไม่รู้วรยุทธ์แต่ก็ฉลาดมีไหวพริบ ที่บ้านสอนมาดี
ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรหรือตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ก็มีสติพร้อมคิดใคร่ครวญเสมอ
ไม่เป็นตัวถ่วง ใจเด็ด และที่สำคัญน้องสวยยยยมาก  
แล้วพระเอกจะไม่หลงรักได้ยังไง..แต่เพราะความแค้นแต่เก่าก่อน จึงทำให้ตอนแรกๆ พี่เหมือนคนผีเข้าผีออกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะรักก็กลัวผิดต่อคนที่บ้าน แต่จะให้ไม่รักพี่ก็หลอกตัวเองไม่ได้อีก..ทรมานใจเหลือเกิน ต้องต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นาน
แต่พอได้คำตอบแล้วพี่ก็เปลี่ยนไปทันที อย่างกับคนละคน
55
ยิ่งหลังจากที่ได้ลิ้มรสรักพี่ก็ยิ่งโหยหา ว่างเมื่อไรต้องแอบแวบมาหาแล้วหลอกแต๊ะอั๋งคนเขา ไม่ได้กินแต่ขอแค่ชิมก็ยังดี..พอเปิดใจกันแล้วมีโอกาสเมื่อไรพี่ก็หื่น เอ้ยๆ หวานใส่น้องตลอด  แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเป็นเข้มตามตำแหน่งหน้าที่ แต่ลับหลังนี่สายเปย์สุดๆ
พ่อคนคลั่งรัก ตั้งแต่เสื้อผ้ายันเสื้อบังทรง พี่ก็ลงทุนไปเลือกซื้อให้เองถึงที่ร้าน
อาหารการกินบำรุงไปอย่าให้ขาด (กินดีเกินฐานะนักโทษมาก
55)  
ส่วนห้องนอนหรือที่พักของน้อง ก็ต้องจัดให้พักใกล้ๆ พี่เท่านั้น..อิอิ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น