วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าของเหล่าปีศาจในเหลาสุรา เล่ม 1-2


เรื่องเล่าของเหล่าปีศาจในเหลาสุรา เล่ม 1-2 / ผู้แต่ง : เคอสุ้ยอวี้โหยวโจ่ว 
ผู้แปล : ซินโป-หย่งชุน
สำนักพิมพ์ earnest

คำโปรยหลังปก
   ยินดีต้อนรับสู่เรือนมัจฉา
เหลาสุราปีศาจแห่งความพิศดารลุ่มลึก
   จิบเมรัยเคล้าเรื่องราวบุญคุณความแค้น
ระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์
    สดับนิทานแห่งโลกคู่ขนาน
ที่ความมืดปรากฏในจิตใจคน
และความสว่างปรากฏในร่างภูตผี
    พบพานการผจญภัยสุดพิศดาร
และตำนานรักสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  ( อาจมีสปอยล์ )
มาๆ เร่เข้ามา...มาฟังเรื่องเล่าพิศดารกึ่งจริงกึ่งไม่จริง เรื่องราวบุญคุณความแค้น ความรัก
ของภูต ผี ปีศาจ เทพ เซียนและมนุษย์  หนึ่งจอกสุราต่อหนึ่งเรื่องเล่า  
ณ เรือนมัจฉาล่มเมือง ร้านสุราที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเปี้ยนเหลียง  
โดยเจ้าของเหลาสุรานามว่า “ อวี๋จี “ เป็นสาวงามที่มาที่ไปไม่ชัดเจน 
พร้อมเด็กช่วยงานในร้านปีศาจแมว “ หมิงเหยียน “  กับปีศาจจิ้งจอก “ ไป๋ซานผี “  
และแขกขาประจำของร้านท่านมือปราบ “ หลงหยา “

ได้อ่านเล่ม 1 เมื่อปีที่แล้ว เล่มแรกมี 10 ตอนแต่ละเรื่องจบในตอน  
โดยดำเนินเรื่องราวผ่านแขกที่มาเป็นลูกค้าในเหลาสุรา 
ซึ่งแต่ละตอนจะแอบทิ้งปมปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครหลักเอาไว้...
ขอสารภาพว่าอ่านจบไปนานมากแล้ว เลยจำแม่นๆได้แค่บางตอน TvT  ...
แต่ก็ยังประทับใจกับเรื่องราวความรัก ความแค้น  ความดำมืดและเห็นแก่ตัวของจิตใจคน 
ที่นำพาให้ก่อเกิดเป็นบุญคุณความแค้นโศกนาฏกรรมต่างๆ มากมายอย่างไม่จบไม่สิ้น  
บางตัวละครการกระทำก็เหมาะสมกับบทสรุปแต่ก็มีตัวละครหลายคนที่ทำให้เราน้ำตาซึม 
รู้สึกเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งทำให้ต้องพลัดพรากจากลา ไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน   
อย่างถัวเย่วปีศาจจระเข้ที่อาศัยอยู่ในบึงซิวหลัว ( ชอบตอนนี้มาก...จนมาถึงตอนนี้ก็ยังจำชื่อตอนกับชื่อตัวละครได้  คิดดูว่าชอบขนาดไหน 55+ )  ปีศาจจระเข้ที่เฝ้าเก็บตัวบำเพ็ญเพียรจนแก่กล้าและใช้ชีวิตสันโดษไม่แคร์ใคร ไม่คิดเป็นใหญ่ ไม่ทำตัวเด่น ใช้ชีวิตแบบไม่แยแสผู้ใดนอกจากตัวเองมาเป็นพันๆ ปี  อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนานแต่พอได้ประจักษ์กับความรัก ก็กลับต้องกลายเป็นการจากลากันชั่วนิจนิรันด์  
ถัวเย่วจึงได้แต่หลั่งน้ำตาอย่างขมขื่น น้ำตาที่เศร้าโศกสุดแสนจะพรรณนาให้แก่นางอันเป็นที่รัก  
แต่อย่างน้อยก็ยังมีบางคู่ที่โชคดี  ที่ถึงแม้ยามเป็นจะไม่ได้เคียงคู่แต่ยามตายกลับได้อยู่ร่วมกัน 
(แบบนี้เค้าเรียกว่าโชคดีมั้ย หรือไม่ใช่หว่า 55+)   
เช่นคู่ของปีศาจสาวที่ยอมทิ้งตบะพันปี เพียงเพื่อขอให้ได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรักเท่านั้นพอ ....

พอมาเล่ม 2 ถึงจะมีแค่ 4 ตอนแต่ตอนนึงก็ยาวมากเลยนะ  
เล่มนี้จะเริ่มเปิดเผยภูมิหลังที่มาที่ไปของตัวละครหลักมากขึ้น  
ตอนอ่านเล่มแรกเราก็สงสัยว่าอวี๋จีเป็นอะไร  เป็น ภูติ ผี ปีศาจ หรือว่าเทพเซียน? 
ทำไมจู่ๆ ถึงมาเปิดเหลาสุราอยู่ในแดนมนุษย์  ในเรื่องเหมือนนางกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง  
ซึ่งพอมาเล่มนี้ก็จะเริ่มเผยรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ที่เราสงสัยไปทีละนิด  
ค่อยๆ เชื่อมโยงปริศนาที่ทิ้งไว้ในเล่มแรกไปเรื่อยๆ   
ไม่ว่าจะเป็นมือปราบหลงหยาที่เหตุใดถึงได้สนิทสนมกับเหลาสุราแห่งนี้นัก   
แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกซานผี ที่นิสัยตลกโปกฮาเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะในร้าน
แต่กลับมีชาติกำเนิดที่ไม่เล็กเลยจริงๆ... 
เบื้องหลังของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเพราะเกี่ยวพันไปถึงมหันตภัยแห่งหกมรรคา 
 โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งไม่ธรรมดา
เพราะถึงขนาดทำให้หกเทวะผู้พิทักษ์กระแสทั้งหกในอดีตล่มสลายได้เลยนะเออ ~~~    

** เรื่องนี้ถ้าใครได้อ่านเล่มแรกแล้วก็อย่าลืมซื้อเล่ม 2 มาอ่านต่อนะจ๊ะ    
เพราะเรื่องที่เคยสงสัยในเล่ม 1 ก็จะมีมาเฉลยในเล่มนี้แหล่ะจ้า  
ตอนแรกที่อ่านเราก็นึกว่าจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักความแค้นของภูต ผี ปีศาจ มนุษย์ เทพ 
เซียนเฉยๆ  พออ่านเล่ม 2 ถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่สินะ........  
มันมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนที่เกี่ยวข้องไปถึงดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า 
และลึกลงไปถึงนรกภูมิอเวจีมหานคร
อยากรู้ว่าเล่มต่อไปจะดำเนินเรื่องราวต่อไปยังไง  ตัวการใหญ่จะถูกโค่นล้มได้มั้ย  
ส่วนคนที่สูญหายจากไปจะได้กลับคืนมาอีกครั้งหรือปล่าว ( แอบหวังๆ >o< ) ... 
ว่าแล้วก็รออ่านเล่ม 3 ต่อ  โปรดอย่าถามว่ากี่เล่มจบเพราะข่อยก็บ่ฮู้เหมือนกันจ้ะ.... ล้าลาลา~~

...................................................................................................................................

" หยุนล่วน.... หยุนล่วน.....โต้วติ่งยังอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ..."

" มัน ... ไม่อยู่ที่แห่งนี้แล้ว "
" ...ก็ดี ...ก็ดี .. ตัวสารเลวนี้ในที่สุดก็ไปเสียที... มันหากจะรังแกข้าอีก..
หยุนล่วนยังจะช่วยข้าหรือไม่ .."
" แน่นอน .. คราหน้ามัน ...มันหากกล้ารังแกเจ้าอีก ข้ายังจะช่วยเจ้าทุบตีมัน ... " 
เหลียงฉานบนใบหน้าเผยรอยยิ้มแสนหวาน  คล้ายกลับมาถึงวันเวลาแห่งวัยเยาว์ .....
.....................................................................................................................................

" นามดาบเถาอิ่น  หลอมรวมจากนามจิ้งจอกสวรรค์  กระดูกเพลิงนภาและโลหิตช่างหลอม  โลกนี้มีเพียงเล่มเดียว  ข้าหลอมอาวุธพันปี แต่ไรมาไม่เคยหลั่งโลหิตเพื่อผู้ใด  

โลหิตนี้ย่อมหลั่งเพื่อเจ้า  เจ้าก็ต้องเคียงคู่ข้าไปทุกชาติทุกภพ "
" เจ้า ... ไยต้องลำบากเพื่อข้าเช่นนี้  คู่ควรหรือ "
" คู่ควร "
......................................................................................................................................

" เหลาสุราของแม่นางอวี๋จีก็เปิดกิจการได้ไม่กี่ปีเท่านั้น  ผู้มาร่ำไรที่นี้เนืองๆ...คง 

...คงมิใช่หมายถึง.....ข้ากระมัง "
อวี๋จีปิดปากหัวเราะ  " หรือว่ายังมีบุคคลที่สอง "
หลงหยาทั้งประหลาดใจทั้งยินดีปรีดา " ทว่าพวกเรานับแต่รู้จักกันที่เรือนแรมกุ่ยหลางอี้เป็นต้นมา เคยกล่าววาจาเยี่ยงนั้นกับแม่นางอวี๋จีแต่เมื่อไร   หรือว่า .... "
" หรือว่าพันปีก่อน ...ชาติก่อนพวกเราเคยมีวาสนา  เคยพานพบกันมาก่อนจริงๆ "


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น