เรื่องเล่าของเหล่าปีศาจในเหลาสุรา เล่ม 1-2 / ผู้แต่ง : เคอสุ้ยอวี้โหยวโจ่ว
ผู้แปล : ซินโป-หย่งชุน
สำนักพิมพ์ earnest
คำโปรยหลังปก
ยินดีต้อนรับสู่เรือนมัจฉา
เหลาสุราปีศาจแห่งความพิศดารลุ่มลึก
จิบเมรัยเคล้าเรื่องราวบุญคุณความแค้น
ระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์
สดับนิทานแห่งโลกคู่ขนาน
ที่ความมืดปรากฏในจิตใจคน
และความสว่างปรากฏในร่างภูตผี
พบพานการผจญภัยสุดพิศดาร
และตำนานรักสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
มาๆ เร่เข้ามา...มาฟังเรื่องเล่าพิศดารกึ่งจริงกึ่งไม่จริง
เรื่องราวบุญคุณความแค้น ความรัก
ของภูต ผี ปีศาจ เทพ เซียนและมนุษย์ หนึ่งจอกสุราต่อหนึ่งเรื่องเล่า
ณ เรือนมัจฉาล่มเมือง ร้านสุราที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเปี้ยนเหลียง
โดยเจ้าของเหลาสุรานามว่า “ อวี๋จี “ เป็นสาวงามที่มาที่ไปไม่ชัดเจน
พร้อมเด็กช่วยงานในร้านปีศาจแมว “ หมิงเหยียน “ กับปีศาจจิ้งจอก “ ไป๋ซานผี “
และแขกขาประจำของร้านท่านมือปราบ “ หลงหยา “
ของภูต ผี ปีศาจ เทพ เซียนและมนุษย์ หนึ่งจอกสุราต่อหนึ่งเรื่องเล่า
ณ เรือนมัจฉาล่มเมือง ร้านสุราที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเปี้ยนเหลียง
โดยเจ้าของเหลาสุรานามว่า “ อวี๋จี “ เป็นสาวงามที่มาที่ไปไม่ชัดเจน
พร้อมเด็กช่วยงานในร้านปีศาจแมว “ หมิงเหยียน “ กับปีศาจจิ้งจอก “ ไป๋ซานผี “
และแขกขาประจำของร้านท่านมือปราบ “ หลงหยา “
ได้อ่านเล่ม 1 เมื่อปีที่แล้ว เล่มแรกมี
10 ตอนแต่ละเรื่องจบในตอน
โดยดำเนินเรื่องราวผ่านแขกที่มาเป็นลูกค้าในเหลาสุรา
ซึ่งแต่ละตอนจะแอบทิ้งปมปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครหลักเอาไว้...
ขอสารภาพว่าอ่านจบไปนานมากแล้ว เลยจำแม่นๆได้แค่บางตอน TvT ...
แต่ก็ยังประทับใจกับเรื่องราวความรัก ความแค้น ความดำมืดและเห็นแก่ตัวของจิตใจคน
ที่นำพาให้ก่อเกิดเป็นบุญคุณความแค้นโศกนาฏกรรมต่างๆ มากมายอย่างไม่จบไม่สิ้น
บางตัวละครการกระทำก็เหมาะสมกับบทสรุปแต่ก็มีตัวละครหลายคนที่ทำให้เราน้ำตาซึม
รู้สึกเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งทำให้ต้องพลัดพรากจากลา ไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน
อย่างถัวเย่วปีศาจจระเข้ที่อาศัยอยู่ในบึงซิวหลัว ( ชอบตอนนี้มาก...จนมาถึงตอนนี้ก็ยังจำชื่อตอนกับชื่อตัวละครได้ คิดดูว่าชอบขนาดไหน 55+ ) ปีศาจจระเข้ที่เฝ้าเก็บตัวบำเพ็ญเพียรจนแก่กล้าและใช้ชีวิตสันโดษไม่แคร์ใคร ไม่คิดเป็นใหญ่ ไม่ทำตัวเด่น ใช้ชีวิตแบบไม่แยแสผู้ใดนอกจากตัวเองมาเป็นพันๆ ปี อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนานแต่พอได้ประจักษ์กับความรัก ก็กลับต้องกลายเป็นการจากลากันชั่วนิจนิรันด์
ถัวเย่วจึงได้แต่หลั่งน้ำตาอย่างขมขื่น น้ำตาที่เศร้าโศกสุดแสนจะพรรณนาให้แก่นางอันเป็นที่รัก
แต่อย่างน้อยก็ยังมีบางคู่ที่โชคดี ที่ถึงแม้ยามเป็นจะไม่ได้เคียงคู่แต่ยามตายกลับได้อยู่ร่วมกัน
(แบบนี้เค้าเรียกว่าโชคดีมั้ย หรือไม่ใช่หว่า 55+)
เช่นคู่ของปีศาจสาวที่ยอมทิ้งตบะพันปี เพียงเพื่อขอให้ได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรักเท่านั้นพอ ....
โดยดำเนินเรื่องราวผ่านแขกที่มาเป็นลูกค้าในเหลาสุรา
ซึ่งแต่ละตอนจะแอบทิ้งปมปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครหลักเอาไว้...
ขอสารภาพว่าอ่านจบไปนานมากแล้ว เลยจำแม่นๆได้แค่บางตอน TvT ...
แต่ก็ยังประทับใจกับเรื่องราวความรัก ความแค้น ความดำมืดและเห็นแก่ตัวของจิตใจคน
ที่นำพาให้ก่อเกิดเป็นบุญคุณความแค้นโศกนาฏกรรมต่างๆ มากมายอย่างไม่จบไม่สิ้น
บางตัวละครการกระทำก็เหมาะสมกับบทสรุปแต่ก็มีตัวละครหลายคนที่ทำให้เราน้ำตาซึม
รู้สึกเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งทำให้ต้องพลัดพรากจากลา ไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน
อย่างถัวเย่วปีศาจจระเข้ที่อาศัยอยู่ในบึงซิวหลัว ( ชอบตอนนี้มาก...จนมาถึงตอนนี้ก็ยังจำชื่อตอนกับชื่อตัวละครได้ คิดดูว่าชอบขนาดไหน 55+ ) ปีศาจจระเข้ที่เฝ้าเก็บตัวบำเพ็ญเพียรจนแก่กล้าและใช้ชีวิตสันโดษไม่แคร์ใคร ไม่คิดเป็นใหญ่ ไม่ทำตัวเด่น ใช้ชีวิตแบบไม่แยแสผู้ใดนอกจากตัวเองมาเป็นพันๆ ปี อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนานแต่พอได้ประจักษ์กับความรัก ก็กลับต้องกลายเป็นการจากลากันชั่วนิจนิรันด์
ถัวเย่วจึงได้แต่หลั่งน้ำตาอย่างขมขื่น น้ำตาที่เศร้าโศกสุดแสนจะพรรณนาให้แก่นางอันเป็นที่รัก
แต่อย่างน้อยก็ยังมีบางคู่ที่โชคดี ที่ถึงแม้ยามเป็นจะไม่ได้เคียงคู่แต่ยามตายกลับได้อยู่ร่วมกัน
(แบบนี้เค้าเรียกว่าโชคดีมั้ย หรือไม่ใช่หว่า 55+)
เช่นคู่ของปีศาจสาวที่ยอมทิ้งตบะพันปี เพียงเพื่อขอให้ได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรักเท่านั้นพอ ....
พอมาเล่ม 2 ถึงจะมีแค่ 4 ตอนแต่ตอนนึงก็ยาวมากเลยนะ
เล่มนี้จะเริ่มเปิดเผยภูมิหลังที่มาที่ไปของตัวละครหลักมากขึ้น
ตอนอ่านเล่มแรกเราก็สงสัยว่าอวี๋จีเป็นอะไร เป็น ภูติ ผี ปีศาจ หรือว่าเทพเซียน?
ทำไมจู่ๆ ถึงมาเปิดเหลาสุราอยู่ในแดนมนุษย์ ในเรื่องเหมือนนางกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง
ซึ่งพอมาเล่มนี้ก็จะเริ่มเผยรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ที่เราสงสัยไปทีละนิด
ค่อยๆ เชื่อมโยงปริศนาที่ทิ้งไว้ในเล่มแรกไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นมือปราบหลงหยาที่เหตุใดถึงได้สนิทสนมกับเหลาสุราแห่งนี้นัก
แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกซานผี ที่นิสัยตลกโปกฮาเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะในร้าน
แต่กลับมีชาติกำเนิดที่ไม่เล็กเลยจริงๆ...
เบื้องหลังของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเพราะเกี่ยวพันไปถึงมหันตภัยแห่งหกมรรคา
โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งไม่ธรรมดา
เพราะถึงขนาดทำให้หกเทวะผู้พิทักษ์กระแสทั้งหกในอดีตล่มสลายได้เลยนะเออ ~~~
เล่มนี้จะเริ่มเปิดเผยภูมิหลังที่มาที่ไปของตัวละครหลักมากขึ้น
ตอนอ่านเล่มแรกเราก็สงสัยว่าอวี๋จีเป็นอะไร เป็น ภูติ ผี ปีศาจ หรือว่าเทพเซียน?
ทำไมจู่ๆ ถึงมาเปิดเหลาสุราอยู่ในแดนมนุษย์ ในเรื่องเหมือนนางกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง
ซึ่งพอมาเล่มนี้ก็จะเริ่มเผยรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ที่เราสงสัยไปทีละนิด
ค่อยๆ เชื่อมโยงปริศนาที่ทิ้งไว้ในเล่มแรกไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นมือปราบหลงหยาที่เหตุใดถึงได้สนิทสนมกับเหลาสุราแห่งนี้นัก
แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกซานผี ที่นิสัยตลกโปกฮาเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะในร้าน
แต่กลับมีชาติกำเนิดที่ไม่เล็กเลยจริงๆ...
เบื้องหลังของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเพราะเกี่ยวพันไปถึงมหันตภัยแห่งหกมรรคา
โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งไม่ธรรมดา
เพราะถึงขนาดทำให้หกเทวะผู้พิทักษ์กระแสทั้งหกในอดีตล่มสลายได้เลยนะเออ ~~~
** เรื่องนี้ถ้าใครได้อ่านเล่มแรกแล้วก็อย่าลืมซื้อเล่ม
2 มาอ่านต่อนะจ๊ะ
เพราะเรื่องที่เคยสงสัยในเล่ม 1 ก็จะมีมาเฉลยในเล่มนี้แหล่ะจ้า
ตอนแรกที่อ่านเราก็นึกว่าจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักความแค้นของภูต ผี ปีศาจ มนุษย์ เทพ
เซียนเฉยๆ พออ่านเล่ม 2 ถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่สินะ........
มันมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนที่เกี่ยวข้องไปถึงดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า
และลึกลงไปถึงนรกภูมิอเวจีมหานคร
อยากรู้ว่าเล่มต่อไปจะดำเนินเรื่องราวต่อไปยังไง ตัวการใหญ่จะถูกโค่นล้มได้มั้ย
ส่วนคนที่สูญหายจากไปจะได้กลับคืนมาอีกครั้งหรือปล่าว ( แอบหวังๆ >o< ) ...
ว่าแล้วก็รออ่านเล่ม 3 ต่อ โปรดอย่าถามว่ากี่เล่มจบเพราะข่อยก็บ่ฮู้เหมือนกันจ้ะ.... ล้าลาลา~~
เพราะเรื่องที่เคยสงสัยในเล่ม 1 ก็จะมีมาเฉลยในเล่มนี้แหล่ะจ้า
ตอนแรกที่อ่านเราก็นึกว่าจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักความแค้นของภูต ผี ปีศาจ มนุษย์ เทพ
เซียนเฉยๆ พออ่านเล่ม 2 ถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่สินะ........
มันมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนที่เกี่ยวข้องไปถึงดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า
และลึกลงไปถึงนรกภูมิอเวจีมหานคร
อยากรู้ว่าเล่มต่อไปจะดำเนินเรื่องราวต่อไปยังไง ตัวการใหญ่จะถูกโค่นล้มได้มั้ย
ส่วนคนที่สูญหายจากไปจะได้กลับคืนมาอีกครั้งหรือปล่าว ( แอบหวังๆ >o< ) ...
ว่าแล้วก็รออ่านเล่ม 3 ต่อ โปรดอย่าถามว่ากี่เล่มจบเพราะข่อยก็บ่ฮู้เหมือนกันจ้ะ.... ล้าลาลา~~
" หยุนล่วน.... หยุนล่วน.....โต้วติ่งยังอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ..."
" มัน ... ไม่อยู่ที่แห่งนี้แล้ว "
" ...ก็ดี ...ก็ดี .. ตัวสารเลวนี้ในที่สุดก็ไปเสียที... มันหากจะรังแกข้าอีก..
หยุนล่วนยังจะช่วยข้าหรือไม่ .."
" แน่นอน .. คราหน้ามัน ...มันหากกล้ารังแกเจ้าอีก ข้ายังจะช่วยเจ้าทุบตีมัน ... "
เหลียงฉานบนใบหน้าเผยรอยยิ้มแสนหวาน คล้ายกลับมาถึงวันเวลาแห่งวัยเยาว์ .....
.....................................................................................................................................
" นามดาบเถาอิ่น หลอมรวมจากนามจิ้งจอกสวรรค์ กระดูกเพลิงนภาและโลหิตช่างหลอม โลกนี้มีเพียงเล่มเดียว ข้าหลอมอาวุธพันปี แต่ไรมาไม่เคยหลั่งโลหิตเพื่อผู้ใด
โลหิตนี้ย่อมหลั่งเพื่อเจ้า เจ้าก็ต้องเคียงคู่ข้าไปทุกชาติทุกภพ "
" เจ้า ... ไยต้องลำบากเพื่อข้าเช่นนี้ คู่ควรหรือ "
" คู่ควร "
......................................................................................................................................
" เหลาสุราของแม่นางอวี๋จีก็เปิดกิจการได้ไม่กี่ปีเท่านั้น ผู้มาร่ำไรที่นี้เนืองๆ...คง
...คงมิใช่หมายถึง.....ข้ากระมัง "
อวี๋จีปิดปากหัวเราะ " หรือว่ายังมีบุคคลที่สอง "
หลงหยาทั้งประหลาดใจทั้งยินดีปรีดา " ทว่าพวกเรานับแต่รู้จักกันที่เรือนแรมกุ่ยหลางอี้เป็นต้นมา เคยกล่าววาจาเยี่ยงนั้นกับแม่นางอวี๋จีแต่เมื่อไร หรือว่า .... "
" หรือว่าพันปีก่อน ...ชาติก่อนพวกเราเคยมีวาสนา เคยพานพบกันมาก่อนจริงๆ "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น