วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566

1995 หวนวารวัน ฉันและนาย 3 เล่มจบ

 


1995 หวนวารวัน ฉันและนาย 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
อ้ายค่านเทียน (Ai Kan Tian)
ผู้แปล เนโกะ
สำนักพิมพ์ Lilac

ความรู้สึกหลังอ่านจบอาจมีสปอยล์

คนเขียนเดียวกับเรื่อง 1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเรา ในตอนพิเศษจะมีตัวละครบางตัวจากเรื่อง 1988 ย้อนเวลารัก ย้อนเวลาเราออกมาแจมนิดนึง และจะมีกล่าวถึงพระ-นายในเรื่องนั้นเล็กน้อย

หลีโจว นายเอกเรื่องนี้ตายและได้ย้อนกลับมาอยู่ในร่างตัวเองเมื่อตอนอายุ 15 สมัยเด็กนายเอกถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไปและได้ผู้เฒ่าหลีช่วยเหลือเอาไว้ระหว่างทาง นายเอกที่ตอนนั้นเพิ่ง 2 ขวบยังจำบ้านและชื่อของตัวเองไม่ได้นอกจากคำว่า 'โจว' ทั้งยังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ผู้เฒ่าหลีสงสารเลยขอรับนายเอกมาเลี้ยงเองพร้อมกับจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้ นายเอกเลยไม่ต้องถูกส่งไปบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า พอนายเอกเข้ามาอยู่บ้านตระกูลหลีได้ไม่นานแม่บุญธรรมก็มีลูกชาย ทว่าถึงจะมีทายาทเป็นของตัวเอง แต่ทุกคนในตระกูลหลีก็ยังรักและเอ็นดูนายเอกเหมือนเดิมไม่ต่างจากลูกหลานแท้ๆ อะไรที่น้องชายมีนายเอกก็ต้องมี แถมน้องชายหรือพระเอก หลีเจียง ก็ยังติดนายเอกที่เป็นพี่ชายไม่แท้สุดๆ อีกด้วย แต่ชาติก่อนนายเอกถูกพ่อบุญธรรมหลอก ทำให้ห่างเหินเข้าใจผิดกับน้องชายและครอบครัวบุญธรรม แถมยังถูกอิพ่อบุญธรรมหลอกเรื่องครอบครัวแท้ๆ ทำให้นายเอกเข้าใจว่าตนถูกพ่อแม่แท้ๆ ทอดทิ้ง และคิดว่ามีแต่พ่อบุญธรรมเท่านั้นที่ดีกับตน ชาติก่อนนายเอกเลยไม่ได้ตามหาหรือกลับไปหาครอบครัวแท้ๆ ของตัวเอง ท้ายที่สุดก็ต้องกลายเป็นแพะรับบาปให้พ่อบุญธรรมและตายไป

พอได้ย้อนกลับมาอีกครั้งนายเอกเลยตั้งใจว่าคราวนี้จะกลับไปหาครอบครัวเดิม จะไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับน้องชาย จะไม่ทำตัวห่างเหินกับบ้านตระกูลหลี จะไม่เชื่อคำพูดและยอมเป็นหมากให้พ่อบุญธรรมอีกแล้ว นายเอกรู้ว่าน้องชายจะประสบอุบัติเหตุทำให้ขาเกือบพิการเดินเหินไม่สะดวกต้องใช้ไม้เท้าช่วย หลังเกิดเหตุการณ์นี้ผู้เฒ่าหลีกับแม่บุญธรรมก็เสียใจมากจนอาการป่วยทรุดลง ส่วนพระเอกก็กลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวนง่าย ขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน สองพี่น้องเริ่มห่างเหินและค่อยๆ กลายเป็นศัตรูกัน นายเอกจำได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดตอนช่วงไหนจึงคอยเฝ้าจับตาดูน้องชายอยู่ตลอด พอถึงตอนเกิดเหตุก็เลยช่วยทัน ส่วนตัวนายเอกก็ได้รับบาดเจ็บแทนเพราะปกป้องน้อง นายเอกคิดว่าอุบัติเหตุนี้น่าจะมีคนจงใจสร้างขึ้น นายเอกสงสัยพ่อบุญธรรมเลยบอกให้คนสนิทของตา(ผู้เฒ่าหลี) ไปลองสืบดู ...

นายเอกเห็นว่าชาตินี้น้องปลอดภัยแล้ว ตากับแม่ก็ยังสบายดี เลยไปบอกแม่บุญธรรมว่าจะกลับไปตามหาครอบครัวที่แท้จริง แม่บุญธรรมก็ยินดีอนุญาตให้นายเอกไปตามหา ความจริงนายเอกไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตระกูลหลี เพิ่งมารู้ตอนประมาณ 15 นี่แหละเพราะพ่อบุญธรรมจงใจทำให้รู้ เพื่อจะได้ควบคุมนายเอกและเก็บไว้เป็นเบี้ยให้ตัวเองใช้ ...ชาตินี้นายเอกไม่หลงกล ออกไปตามหาครอบครัวที่แท้จริงจนเจอ และได้รู้ว่าความจริงพ่อแม่แท้ๆ ก็ตามหาตัวเองมาตลอดสิบกว่าปีไม่เคยหยุดหาเลยสักวัน

พ่อแม่แท้ๆ นายเอกอยู่บนเกาะเป็นเจ้าของเรือ เป็นคนมีชื่อเสียงของเกาะ มีแต่คนนับถือ เพราะเป็นคนดี ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคน เลยมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ตอนเจอนายเอกครั้งแรกพ่อแท้ๆ คือจ้องนายเอกไม่วางตาเลย เพราะนายเอกหน้าเหมือนภรรยาหรือแม่มาก รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆ พ่อก็จะขอรับเป็นลูกบุญธรรม พอนายเอกกลับที่พัก พ่อก็ให้ลูกศิษย์ตามไปดูและโทรไปบอกภรรยา ภรรยาก็บอกให้ใจเย็นเพราะก่อนหน้านี้โดนหลอกมาเยอะ ให้รอตัวเองกลับไปก่อน วันรุ่งขึ้นนายเอกจะนั่งเรือออกจากเกาะเพื่อไปตัดไหมที่โรงพยาบาล แต่พ่อเข้าใจว่านายเอกจะหนีกลับบ้านเดิมที่เมืองหลวงเลยให้คนไปหิ้วตัวกลับมา55 จากนั้นก็พาไปเจอภรรยา แวบแรกที่เห็นหน้านายเอก แม่แท้ๆ คือร้องไห้เลย เพราะนายเอกเหมือนแม่มากกกจริงๆ จากนั้นก็พากันไปตรวจดีเอ็นเอ ผลออกมาก็ใช่

จากนั้นไม่นานพระเอกก็ทนคิดถึงพี่ชายไม่ไหวเลยมาหาถึงเกาะ อยู่ไม่กี่วันนายเอกก็ต้องกลับเพื่อไปทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านออกและย้ายมาเรียนที่นี่เพื่อจะได้อยู่กับพ่อแม่แท้ๆ พ่อแม่ของนายเอกคือดีมากๆๆ รักลูกมากกก พอเจอลูกก็จัดงานเลี้ยงฉลองประกาศให้ทุกคนบนเกาะรู้ว่านี่คือลูกชายฉันนะกลับมาแล้ว พยายามชดเชยให้นายเอกทุกอย่าง พ่อนายเอกคือคลั่งลูกโอ๋ลูกสุดๆ อยู่ข้างนอกคือดุดันเคร่งขรึม เป็นนายใหญ่เป็นหัวหน้ามีแต่คนเกรงใจเคารพนับถือ แต่พออยู่กับลูกเมียคืออ่อนโยนสุดๆ ยิ้มแย้มเอาอกเอาใจ เห็นอะไรดีๆ ออกใหม่ก็ต้องซื้อกลับมาให้ลูกเมีย ตอนนายเอกต้องไปโรงเรียนพ่อก็ไปซื้อบ้านหลังใกล้ๆ โรงเรียนไว้ให้ เพื่อจะได้คอยดูแลไปรับไปส่ง ลูกอยากได้อะไรก็ไม่เคยปฏิเสธ ให้มากกว่าที่ขอด้วยซ้ำ เอ็นดูพ่อมาก ขำเวลานายเอกต้องไปโรงเรียนแล้วพ่อคืองอแง ทำเป็นกินข้าวช้าดึงเวลาเพราะอยากอยู่กับลูกนานๆ ไม่อยากให้ลูกไป55 เวลานายเอกต้องไปไหนไกลๆ ก็ทำหน้าเศร้าไม่อยากห่างลูก ตาแดงก่ำจะร้องไห้ จนแม่ต้องคอยเตือนตลอด55

แต่เข้าใจนะ เพราะลูกหายไปตั้งแต่สองขวบ พ่อไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ลูกเติบโตเลย พลาดวัยเด็กของลูกไปเยอะ เลยติดลูกเป็นพิเศษ แล้วนายเอกก็เป็นเด็กดีพ่อก็ยิ่งรัก จากนั้นไม่นานพระเอกก็ก่อเรื่องที่โรงเรียนจนได้ย้ายมาเรียนบนเกาะกับนายเอก พระเอกดีใจมากให้คนไปซื้อบ้านใกล้ๆ นายเอกไว้ เวลาเลิกเรียนต้องขี่จักรยานกลับ พระเอกกลัวพี่จะกลับก่อนเลยชอบล็อกรถนายเอกไว้กับรถของตัวเอง เพื่อให้กลับพร้อมกัน แต่เรียนที่นี่ได้ไม่นานพระเอกก็ต้องกลับไป ตอนแรกพระเอกคิดว่าจะได้เรียนที่นี่จนจบ แต่จริงๆ คนสนิทและตากะให้เรียนที่นี่แค่ครึ่งปี พระเอกไม่รู้หลงดีใจ พอมารู้ความจริงก็โกรธมาก โกรธนายเอกด้วยที่รู้มาตลอดแต่ไม่เคยบอก นายเอกเลยต้องง้ออยู่นานกว่าพระเอกจะหายงอน

คุณตาของพระ-นายเริ่มสุขภาพไม่ดี ไปรักษาที่เมืองนอกมาแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ตากลัวว่าจะอยู่ได้ไม่นานเลยให้คนสนิทเร่งสอนทุกอย่างให้พระเอกเพื่อจะได้มารับช่วงต่อ พระเอกเรียนหนักมากๆ ต้องเรียนหลายอย่างเพื่อจะได้รับช่วงต่อจากตา ไม่มีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนเด็กวัยเดียวกัน อายุแค่สิบกว่าแต่ภาระบนบ่าก็หนักไม่น้อยกว่าผู้ใหญ่วัยทำงานแล้ว แถมยังต้องเตรียมตัวไว้รับมือกับพ่อแท้ๆ ที่คิดจะทำร้ายตนเองและทำลายตระกูลหลีอีกด้วย นายเอกมารู้ความจริงที่หลังว่าในชาติก่อนจริงๆ แล้วตาไม่ได้ไม่อยากเจอตัวเอง แต่เป็นเพราะอาการป่วยต่างหาก บวกกับถูกพ่อบุญธรรมขัดขวางจึงทำให้เข้าใจผิด นายเอกรู้สึกผิดมาก เข้าใจแล้วว่าตารักและห่วงใยตัวเองขนาดไหน พอรู้ว่าพระเอกต้องแบกรับอะไรบ้างเลยขอพ่อแม่แท้ๆ ย้ายมาเรียนที่เมืองเดียวกับพระเอก เพื่อจะได้ช่วยดูแลพระเอกกับตารวมถึงแม่บุญธรรมด้วย พ่อแม่แท้ๆ ก็ตามมาซื้อบ้านที่นี่ให้และค่อยๆ ย้ายตามมา

ลืมบอกไป พอนายเอกกลับมาไม่นานพ่อก็เริ่มอยากทำธุรกิจอื่นที่อยู่บนบก เพราะไม่อยากให้ลูกตากแดดตากลมลำบากอยู่กลางทะเล อยากสร้างกิจการอย่างอื่นให้ลูก นายเอกก็อาศัยความทรงจำจากชาติก่อนช่วยพ่อเลือกและตัดสินใจเรื่องธุรกิจ สุดท้ายกิจการรุ่งเรืองสุดๆ นอกจากเรือ พ่อก็มาทำโรงงานขายบะหมี่ ทำรับเหมาก่อสร้าง แล้วก็เริ่มต่อยอดไปเรื่อยๆ หลังๆ บ้านนายเอกคือรวยพอๆ กับบ้านพระเอกแล้วนะ ครอบครัวนายเอกไปมาหาสู่กับครอบครัวบุญธรรมจนสนิทสนม แม่ๆ ทั้งสองบ้านสนิทสนมกันจนเหมือนพี่น้องแท้ๆ ต่างก็รักพระ-นายเหมือนลูกของตัวเอง ชาตินี้แม่บุญธรรมอาการดีขึ้น ไม่มีเรื่องทำให้สะเทือนใจเหมือนชาติก่อนเพราะได้พระ-นายปกป้องอย่างดี ได้หย่ากับสามีอย่างเรียบร้อยสงบสุข หลังหย่าชีวิตพ่อพระเอกคือเริ่มดิ่งลงๆ เพราะพอไม่มีตระกูลหลีหนุนหลังอะไรๆ ก็ไม่ได้ง่ายสบายเหมือนแต่ก่อน แถมหลานชายที่ตัวเองรักยิ่งกว่าลูกแท้ๆ ก็ยังไม่เอาไหนดีแต่ผลาญเงิน สุดท้ายก็มีจุดจบไม่สวยทั้งคู่ ทำตัวเองทั้งนั้น ...ถ้าดีๆ รักลูกรักเมียแบบพ่อนายเอกคงไม่เป็นแบบนี้หรอก นี่อาราย เกลียดเมียเกลียดบ้านเมียไม่พอ แม้แต่ลูกแท้ๆ ตัวเองก็ยังลงมือทำร้ายได้ ...โหดร้ายเกิน

พระเอกเรื่องนี้คือติดนายเอกสุดๆ เหมือนลูกหมาตัวโตๆ อยู่กับคนอื่นคือไม่ยิ้มเคร่งขรึมเย็นชา ไม่ให้ใครเข้าใกล้ แต่พออยู่กับนายเอกคือตรงข้ามทุกอย่างจ้า ยิ้มง่ายอ่อนโยนขี้อ้อน ชอบกัดหูเขาด้วย ถ้าอยู่บ้านหลังเดียวกันพอตกกลางคืนพระเอกก็ชอบหาข้ออ้างมานอนที่ห้องนายเอกตลอด ชอบนายเอกมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอกเขา พยายามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีใครดูออก นึกว่าพี่น้องคู่นี้สนิทกันเฉยๆ แต๊ะอั๊งแบบเนียนๆ มาตลอดแต่นายเอกก็ไม่ได้คิดมาก ยังไม่เอะใจ พอเริ่มคิดก็ขอไปทำงานนอกสถานที่กับทางมหาวิทยาลัยทันทีเลยจ้า55 (แต่ผ่านไปไม่กี่วันพระเอกก็ตามมาหาอยู่ดี)

พระ-นายสนิทและใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาพระเอกทำตัวติดหนึบดูแลใกล้ชิด แกะกุ้ง ป้อนผลไม้ให้นายเอก คนในครอบครัวเลยไม่เคยคิดว่ามันแปลกเพราะเห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว พอถึงวันที่พระ-นายมาสารภาพว่าคบกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็โอเคไม่คัดค้านเลย ขอแค่ลูกๆ มีความสุขก็พอ มีแต่พูดให้กำลังใจบอกว่าเส้นทางสายนี้อาจจะลำบากแต่ขอให้ทั้งสองคนอย่ายอมแพ้หรือล้มเลิกกลางคันนะ ...ตอนพิเศษจุใจ มีเรื่องลูกของพระ-นายด้วย คนโตเหมือนนายเอก ส่วนคนเล็กเจ้าเล่ห์แสบเหมือนพระเอกเด๊ะ 

พระ-นายจากเรื่อง Back to 1988 กับเรื่องนี้มีสิ่งที่เหมือนกันคือมีครอบครัวที่รักและดีกับตัวเองมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรคนในครอบครัวก็พร้อมยืนเคียงข้างให้การสนับสนุนเสมอ สถาบันครอบครัวอบอุ่นแข็งแกร่งเป็นเกราะคุ้มกันภัยที่ดีเยี่ยมจริงๆ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น