วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ท่านอ๋อง ... ข้าอยากเป็นศรีภรรยา เล่ม 1


ท่านอ๋อง .. ข้าอยากเป็นศรีภรรยา เล่ม 1 (3เล่มจบ) / ผู้แต่ง : Wu Shi Yi
ผู้แปล : เหมยสี่ฤดู
สำนักพิมพ์ Happy Banana

คำโปรยหลังปก
อาหนาน หญิงสาวที่ทะลุมิติจากยุคปัจจุบันมาสู่ยุคโบราณ
ในร่างบุตรสาวคนเล็กที่เกิดจากอนุภรรยาของอัครเสนาบดีลู่
เป็นหญิงที่ไม่มีความสามารถพิเศษแม้แต่น้อย  ยามอยู่กับพี่สาวทั้งสามที่มากด้วยความสามารถ
ยิ่งกลายเป็นคนไม่เอาไหนที่น่าสงสารอย่างยิ่ง

วันหนึ่งมีราชโองการมาจากวังหลวง สั่งให้สตรีทุกบ้านที่ยังไม่ออกเรือน
เข้าวังไปชมบุปผา  อาหนานที่แต่งกายธรรมดาจึงติดตามอยู่ข้างกายฮูหยิน
ของอัครเสนาบดีเข้าวังไปชมบุปผาด้วยกัน
พอวันต่อมา จู่ๆ ฮ่องเต้ก็พระราชทานสมรสให้สกุลลู่  ยกอาหนานให้แต่งเป็นพระชายา
ของซู่อ๋องฉู่ป้าหนิง  พระอนุชาร่วมอุทรเพียงคนเดียวของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

แม้ซู่อ๋องจะมีบรรดาศักดิ์สูงส่ง แต่มีดวงพิฆาตภรรยาสิ้นไร้บุตร ชีวิตบั้นปลายอาภัพ
เพราะตั้งแต่ที่ซู่อ๋องเจรจาแต่งงาน  ครั้งแรกตอนอายุสิบสี่จวบจนตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว
สตรีทุกคนที่ถูกกำหนดให้เป็นชายาซู่อ๋อง ล้วนมีอันเป็นไปด้วยสาเหตุต่างๆ นานา
ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งเข้ามา   
อัครเสนาบดีลู่ร้อนใจมาก  ไม่รู้ว่าไฉนบุตรสาวที่แสนธรรมดาของตนจึงเป็นที่หมายปองได้
กระนั้นอาหนานก็หาได้เกรงกลัวไม่  
ความเยือกเย็นของนางดำเนินไปจนนางถูกส่งตัวขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว
และยังเป็นเช่นนั้นต่อไปจนกระทั่งนางมีชีวิตผ่านพ้นคืนวันเข้าหอ ... 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอกเป็นหญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ  ลู่เส้าชี หรืออาหนาน 
บุตรสาวคนเล็กที่เกิดจากอนุภรรยากับท่านอัครเสนาบดี  
เพราะมาจากโลกปัจจุบัน นางเอกจึงรู้ดีว่าเด็กที่มีมารดาเป็นอนุนั้นจะมีชีวิตและจุบจบยังไง  
ดังนั้นเพื่อให้มีชีวิตรอดปลอดภัยอย่างสงบสุขและราบรื่น นางจึงทำตัวเป็นลูกที่ดี  
ว่านอนสอนง่าย อ่อนน้อมถ่อมตนต่อทุกคน เชื่อฟังบิดามารดา ไม่ทำตัวเด่นหรือชิงดีชิงเด่นกับใคร   
เลยทำให้นางไม่ถูกรังแก และเป็นบุตรสาวที่ได้รับความรักใคร่จากบิดามากที่สุด   
ขนาดที่ภรรยาเอกก็ยังเอ็นดู คอยเป็นห่วงและดูแลนางอย่างดี......
กล่าวได้ว่าชีวิตของนางเอกนั้นหากเทียบกับลูกอนุคนอื่นๆ แล้วก็นับว่าโชคดีมากกกก.....โฮะๆ ๆ 

พระเอก ฉู่ป้าหนิง หรือซู่อ๋อง เป็นพี่น้องร่วมอุทรเดียวกันกับฮ่องเต้  
อยู่เหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ใต้คนผู้เดียว  พระเอกถูกทำนายว่ามีดวงพิฆาตภรรยาและสิ้นไร้บุตร  
แถมพอมีพระราชทานสมรสให้ทีไร เจ้าสาวทุกคนก็มีอันต้องเป็นไปก่อนได้แต่งทุกที .....
คนก็เลยยิ่งเชื่อ ทำให้หญิงสาวทั่วทั้งเมืองหลวงรวมถึงบรรดาขุนนางที่มีลูกสาวพากันหวาดกลัว 
ไม่มีใครอยากจะยกลูกสาวให้..พระเอกก็เลยต้องอยู่เป็นโสดมาถึงปัจจุบัน (แถมยังเวอร์จิ้นด้วยนะ 55)

พระเอกปลงแล้วจะแต่งหรือไม่แต่งก็ได้ แต่ไทเฮาไม่ยอม ยังไงก็ต้องทำให้ลูกชายสุดที่รักคนนี้ได้แต่งงานมีภรรยาเหมือนกับคนอื่นๆ เขาให้ได้  ส่วนพี่ชายฮ่องเต้ก็หวังอยากให้น้องชายคนนี้ได้ลิ้มรสชาติของการเข้าหอกับเขาสักที 55+... สุดท้ายหวยเลยมาออกที่นางเอก 
ซึ่งจริงๆ ตามปกตินางเอกไม่มีทางได้แต่งเป็นชายาเอกของพระเอกหรอก   
เพราะถึงบิดาจะเป็นอัครเสนาบดี แต่มารดาแท้ๆ ของนางก็เป็นแค่อนุและมีชาติกำเนิดต่ำต้อย   
แต่เพราะชั่วโมงนี้ไม่มีใครอยากแต่งกับพระเอกแล้วไง หวยก็เลยมาออกที่นางเอก 55  ...  
พ่อกับเมียเอกก็เสียใจ เพราะอยากให้นางได้แต่งกับคนที่ฐานะไม่สูงมาก แล้วได้เป็นนายหญิงของบ้านมากกว่า  ไม่อยากให้แต่งกับเชื้อพระวงศ์หรือคนใหญ่คนโตแล้วไปถูกเขารังแก....
คือพ่อกับเมียเอกเนี่ย จะรักและเป็นห่วงนางเอกมากนะ  
ผิดจากเรื่องอื่นๆ ที่พอทะลุมิติมาแล้วส่วนใหญ่หากเป็นลูกอนุ พ่อก็จะไม่รัก  
แถมยังโดนเมียเอกของพ่อกับบรรดาพี่น้องรุมกลั่นแกล้งรังแกอีก  
แต่เรื่องนี้ตรงข้ามมีแต่คนรักคนเป็นห่วง  ขนาดพี่สาวพี่ชายคนละแม่ก็ยังเป็นห่วงเลย 55+

เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ  นางเอกเรียบง่ายไม่ซู  ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร 
นางธรรมดามากเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ที่น่ารักน่าสงสาร 55+ แต่สนุกดี  
เอาไว้อ่านแก้เครียดหลังจากที่อ่านอะไรหนักๆ มา  ถึงเนื้อเรื่องเบาแต่ก็น่าติดตาม .. 
พอหลังจากแต่งงานแล้วเรื่องก็จะเริ่มสนุกขึ้น  เพราะแม่สามีจะพยายามคิดหาทางยัดเยียดสาวงามมาให้พระเอกอยู่ตลอด   อยากให้พระเอกมีสามภรรยาสี่อนุจะได้มีลูกเยอะๆ   
แต่พอเข้าทางลูกตัวเองไม่ได้ก็มาเข้าทางลูกสะใภ้แทน แต่ก็ถูกความซื่อๆ บื้อๆ ของนางเอกยั่วโมโห จนต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกที 55+...และยังมีตัวร้ายหรือนางอิจฉาที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางเอกอีกคน  ขานี่พอเห็นพระเอกแล้วก็ปลื้มเหลือเกิน  อยากจะขอเป็นภรรยาพระเอกด้วยอีกคน 55+ ....ก็ไม่รู้เล่ม 2 จะเป็นยังไง....คงต้องร้องเพลงรอไปก่อนสินะ =(´Д`)ノ


ปล.  พระเอกเรื่องนี้นอกจากจะมีดวงพิฆาตภรรยาแล้ว..พี่แกก็ยังเป็นโรครักความสะอาดอีกด้วยนะ  
ถ้าหากไม่ใช่นางเอกหรือเมียตัวเองพี่แกก็จะไม่ให้เข้าใกล้  ไม่แตะไม่ต้อง  
มองว่าสกปรกเป็นขยะอย่างเดียว 55+ ...ตอนที่ไทเฮาจะส่งสาวงามมาให้พี่แกก็ไม่เอา  
บอกว่าจะเอามาทำไมบ้านนางไม่ใช่ที่รีไซเคิลขยะนะ  เอาไปทิ้งที่อื่นไป๊ 55+  -(¯`v´¯)-

........................................................................................................................

.......อาหนานเดาว่าลู่เฟยถิงจะต้องพึงใจท่านอ๋องของนางตั้งแต่พบกันครั้งแรกแน่

พบหน้าครั้งที่สองหลงรัก   พบหน้าครั้งที่สามหมายมั่นว่าต้องแต่งงานกับเขาเท่านั้น

ส่วนลู่เฟยอันกับลู่เฟยหย่าก็เหมือนรู้สึกดีกับท่านอ๋องของนาง ... อาหนานถอนหายใจ

บุรุษของตัวเองถูกสตรีที่จ้องจะเป็นมือที่สามหมายตาเช่นนี้ ความรู้สึกช่างแย่เหลือเกิน !  ....


วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา


เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา (เล่มเดียวจบ) / ผู้แต่ง : จิ่วลู่เฟยเซียง 
ผู้แปล : เสี่ยวหวา
สำนักพิมพ์ อรุณ

คำโปรยหลังปก

เรื่องราวความรักสนุกสนานระหว่าง เสี่ยวเสียงจื่อ  เซียนน้อยเมฆมงคลกับเทพ ชูคง
ที่ทำให้ด้ายแดงยุ่งเหยิงจนถูกลงโทษ ให้ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ถึงเจ็ดชาติภพ
ทั้งคู่ต่างหมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นเมฆดำในชีวิตของกันและกัน

ยามที่ข้ายังเป็นเพียงเมฆมงคลที่ไร้ความรู้สึก  การเวียนว่ายตายเกิดย่อมไร้ความหาย

เมื่อผู้เฒ่าจันทราเมาสุรา  ข้าจึงมีวาสนาได้เป็นเซียน
ตลอดหลายร้อยปี  ทุกๆ วันก็เป็นเหมือนเช่นเดิม
แต่แล้วมิรู้ว่าเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใด ...
ดูเหมือนจะเป็นยามที่ชายหนุ่มชุดแดงร่วงลงมาจากสวรรค์
ชีวิตของข้าก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

" ข้าจะทำให้ชีวิตเจ้าดำมืดเป็นเมฆดำ จงเตรียมเนื้อเตรียมตัวไว้ซะเจ้าหนุ่มน้อย "

" สาวใช้ตัวเล็กๆ ที่บำเพ็ญเพียรไม่กี่ร้อยปี  ถ้ากับกล้ามาท้าทายข้ารึ เฮอะ กล้าดีอย่าง ... "

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )

มาอีกเรื่องแล้วจ้า สำหรับผลงานของจิ่วลู่เฟยเซียง ที่ปีนี้มีแปลออกมาให้ได้อ่านกันหลายเรื่อง ออกกันมาไม่หวาดไม่ไหวหลากหลายสำนักพิมพ์ ทั้งต้นปีท้ายปี ทำเอาตัวลีบกันเลยทีเดียว 

เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา เป็นเรื่องราวความรักของเทพและเซียน  
ซึ่งพระเอกในเรื่องจะแตกต่างจากพระเอกเรื่องก่อนๆ นี้ของจิ่วลู่ตรงที่ 
พระเอกเรื่องนี้หรือ ชูคง นั้นเป็นเพียงเทพดาวบริวารของท่านเทพเหม่ารื่อ  
ไม่ได้เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่หรือมีพลังตบะสูงส่งไม่มีใครเทียม เหมือนกับเรื่องก่อนๆ ของนักเขียนท่านนี้ที่เราเคยได้อ่านมา แถมยังปากร้าย ขี้โมโห เย่อหยิ่งจองหองอีกด้วยนะ 55+
พี่แกไม่ใช่คนใจเย็นพูดเพราะ หรือเวลานางเอกจะทำอะไรก็เออออตาม 
ไม่เถียง ไม่ว่า เหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้ตรงข้าม ด่าเป็นด่า ถีบเป็นถีบ กัดกันตลอด 
ส่วนนางเอกก็พอๆ กัน เจ้าตีมาข้าตีกลับ ไม่มีใครยอมใคร (แต่หลังๆ เริ่มจับทางพระเอกได้
เลยเป็นฝ่ายยอมๆ ให้ก็ได้วะ 55+) เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากจริงๆ ヽ(*^ー^)人(^ー^*)ノ   

ส่วนนางเอก เสี่ยงเสียวจื่อ ก็เป็นเซียนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนบำเพ็ญเพียร 
แต่ถูกเสกขึ้นมาจากเมฆมงคลโดยผู้เฒ่าจันทรา นิสัยก็ติดจะขี้เกียจ ชอบความสบาย 
ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ไม่ค่อยยอมคน(โดยเฉพาะกับพระเอก) 
และมีพลังตบะน้อย หลังๆ เวลาเกิดเรื่องอะไร นางเลยชอบวิ่งมาหลบหลังพระเอกแทน 55 

เพราะมีปากเสียงและทะเลาะตบตีกัน จนทำให้ด้ายแดงในตำหนักของผู้เฒ่าจันทราพันกันยุ่งเหยิง เง็กเซียนฮ่องเต่จึงมีคำสั่งลงโทษ..ให้คนทั้งคู่ลงไปเวียนว่ายตายเกิดบนโลกมนุษย์เป็นเวลา 7 ชาติ  ..แต่ในขณะที่จะลงไปเกิด ทั้งสองคนก็ยังไม่วายยังตามไปทะเลาะกันถึงในปรโลก จนทำให้เขาปั่นปวนวุ่นวายไปทั้งดินแดน 
ไอ้ที่จะได้ลงไปเกิดแบบปกติดีๆ กับเขาเลยกลับตาลปัตร 
กลายเป็นเรื่องชุลมุนวุ่นวายให้เราได้หัวเราะแทน 55+  แต่ถ้าลงไปเกิดแบบปกติธรรมดามันก็คงไม่มีอะไรให้น่าลุ้นหรอก
มันต้องแบบนี้สิถึงจะสนุกหน่อย เพราะฉะนั้นเจ็ดชาติต่อจากนี้ก็ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน 55+ 
  
เรื่องนี้นอกจากจะฮาแล้ว ก็มีทั้งสุข เศร้า ซึ้ง ประทับใจมีครบหมด 
เพราะตอนไหนที่ฮาอันนั้นก็ตลกจริงๆ อย่างชาติที่นางเอกต้องไปเป็นลูกศิษย์หัวทึบของพระเอก หรือชาติที่ทั้งสองคนต้องมาสลับร่างกัน และยิ่งชาติที่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก 
ตอนอ่านก็ยังคิดว่าเอาจริงดิ่ จะเกิดเป็นสัตว์จริงๆ เหรอ หรือว่าจะมีหักมุมพอสุดท้ายก็เป็นคนเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าเป็นสัตว์จริงๆ จ้า
จากท่านเทพชูคงกลายมาเป็นหมูป่าคงเลยจ้า

ส่วนตอนไหนที่เศร้าก็ทำเอาน้ำตาซึมๆ เหมือนกันนะ  
อย่างชาติแรกที่โผล่มานี่ก็กระแทกใจและ แถมยังมามีเรื่องของภูตศิลาหมื่นปีอีก..
โอ๊ยๆ ๆ ๆ...รู้สึกสงสารและเห็นใจเรื่องของคู่นี้มากๆ เลย (TヘTo)     
   
พระ-นางพอหลังจากที่ได้ลงไปเวียนว่ายตายเกิดแล้ว ก็เริ่มหวนแหนและรักชีวิตกันมากขึ้น 
จากปกติที่เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องไกลตัวไม่อยู่ในสายตา 
แต่พอได้พบเจอกับการพลัดพราก จากลา ได้เห็นอีกฝ่ายต้องจากไปต่อหน้าต่อตา
ก็เริ่มรัก
และทะนุถนอมชีวิตของกันและกันมากขึ้น 
ถึงเล่มจะไม่หนาอย่างที่คิด แต่เนื้อหาอะไรต่างๆ ก็ครบถ้วน
จริงๆ ตอนแรกนึกว่าหนังสือจะหนา
หรืออาจจะมีสัก 2 เล่มจบ เพราะเห็นว่ามันตั้ง 7 ชาติแน่ะ 
แต่พอได้อ่านจนจบแล้วก็รู้สึกเต็มอิ่ม บทสรุป+ปริศนาทุกอย่างก็คลี่คลายอยู่ในเล่มทั้งหมด 
จะมีก็แต่เรื่องของจื่อฮุย ที่เรายังคาใจอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง....เฮ้อ TT^TT 

ปล.มีตอนพิเศษให้อ่านอีกตั้ง 4 ตอนด้วย ...โฮะๆ ๆ
......................................

" ท่านแม่ทัพ! ทารกในครรภ์ที่เสียชีวิตออกมาแล้ว! มิอาจปล่อยให้องค์หญิงทรงตกเลือดเช่นนี้ได้ ต้องรีบห้ามเลือด! "

" จะ..จะ..จะห้ามเลือดอย่างไร อุดไว้หรือ จะใช้อะไรอุด ไม้นวดแป้ง? "

ท่านหมอยังไม่ทันตอบคำถาม ชูคงที่คราแรกข้าคิดว่าสลบไปแล้ว จู่ๆ กลับคว้ามือของข้าเอาไว้แล้วถลึงตาจ้อง " เจ้ากล้าทำ..ก็ลองดู!"

ข้าร้อนใจจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว ดวงตาแดงก่ำ แสบจมูก 
" เช่นนั้นเจ้าจะให้ทำอย่างไร เจ้าเจ็บหรือไม่ เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร จะให้ข้าทำอะไร "

ชูคงเห็นข้าเป็นเช่นนี้กลับอึ้งงันไป " ก็แค่.. กลับชาติมาเกิด "

    คำพูดของเขาเหตุใดข้าจะไม่เข้าใจ สำหรับข้ากับเขาแล้ว 
นี่เป็นเพียงชีวิตในชาติหนึ่งเท่านั้น แต่ในชาติหนึ่งมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น 
หากพลาดไปแล้วก็มิอาจเรียกกลับคืนได้ มนุษย์ธรรมดาเปราะบางเกินไป 
พวกเขาจึงหวนแหนชีวิตนัก บางทีเทพเซียนอย่างชูคงกลับข้าคงไม่มีวันเข้าใจความหวาดกลัว
ความตายที่อยู่ก้นบึ้งจิตใจของพวกมนุษย์ได้ แต่ในช่วงเวลานี้ ข้ารู้ว่าเคยมีหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องของเขา และได้แต่มองอีกชีวิตหนึ่งที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะจากไปอย่างช้าๆ
    ไม่มีทางที่ข้าจะไม่กลัว ไม่หวั่นไหว
    เทพเซียนไร้ความรู้สึก บางทีอาจเป็นเพราะไม่ใช่เรื่องของพวกเขา


วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560

พราวพร่างบุปผาตระการ 7 เล่มจบ


พราวพร่างบุปผาตระการ เล่ม 7 เล่มจบ  / ผู้แต่ง : จือจือ 
ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
       ความผิดพลาดเพียงหนึ่งเดียวในอดีตของ ‘อวี๋จิ้งซิว’
คือการถอนหมั้น ‘ฟู่ถิงจวิน’ จนสร้างความขมขื่นซึ่งยากจะแบกรับให้นางเป็นเวลาสิบปี  ในที่สุดก็ถึงคราที่สกุลอวี๋ต้องจ่ายค่าตอบแทน!

       ถึงแม้ว่าการที่โค่นล้มสกุลอวี๋ที่มีรากฐานในราชสำนักมานานนับร้อยปีจะเป็นเรื่องยาก  แ
ต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปมิได้ ภายใต้การเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ของ ‘จ้าวหลิง’ ทำให้สกุลอวี๋สูญเสียอำนาจไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังส่งผลถึงการขึ้นลงของวงศ์ตระกูล สกุลอวี๋ใกล้จะพังพินาศแล้ว!

เส้นทางชีวิตนี้แม้จะมีขวากหนามเกลื่อนเต็มพื้น 
แต่นางก็อาศัยความเด็ดเดี่ยว จิตเมตตา และสติปัญญา  ก้าวออกมาเฉกเช่นบุปผาที่ผลิงามตระการตาที่สามารถชูช่อเบ่งบานท่ามกลางลมพายุโหมกระหน่ำ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
รีวิวพราวพร่างเล่ม 1  http://marynlinsbook.blogspot.com/2017/05/1.html
รีวิวพราวพร่างเล่ม 3  http://marynlinsbook.blogspot.com/2017/07/3.html
รีวิวพราวพร่างเล่ม 4  http://marynlinsbook.blogspot.com/2017/08/4.html

แล้วก็มาถึง 2 เล่มสุดท้าย จริงๆ เรื่องนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอ่านไดอารี่หรือบันทึกชีวิตประจำวันของตัวนางเอกเลยนะ เริ่มตั้งแต่ตอนยังเป็นคุณหนูในห้องหอที่ไม่ประสีประสา ไม่เคยออกไปเผชิญโลกภายนอก ต้องประสบเคราะห์ภัยจนทำให้ชะตาชีวิตพลิกผัน บ้านแตกสาแหรกขาด กระทั่งต้องระหกระเหินไร้ที่พึ่งพิง 

แต่ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ เพราะเคราะห์ภัยเหล่านั้นได้นำพาให้นางมาเจอกับบุรุษที่มีรักแท้มั่นคงที่จะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต จากเด็กสาวที่เก็บตัวอยู่แต่ในเรือนหลังบ้านก็ค่อยๆ เติบโตและเบ่งบานเหมือนดอกไม้ จนกลายมาเป็นมารดาที่ห้อมล้อมไปด้วยบุตรชายและบุตรสาว  เป็นช้างเท้าหลังที่คอยให้ความสนับสนุนเกื้อกูลสามี และเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพใหญ่ ที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้  

ส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของนางเอกต้องประสบเคราะห์ภัยนั้นก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและราบรื่นอย่างที่ฝันหรอก ดั่งคำที่ว่า “ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว”  และ “แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย”  55+  เพราะถูกพระเอกจัดการเอาคืนหมด ใครที่เคยทำไม่ดีหรือเคยให้ร้ายอะไรนางเอกเอาไว้ พระเอกจดจำอยู่ในใจเอาไว้หมด แล้วก็ค่อยๆ วางแผน ค่อยๆ สะสมอำนาจบารมี และตามมาคิดบัญชีคืนทีหลัง  ... จนใครๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนแบบพระเอกเนี่ยน่ากลัว อย่าไปมีเรื่องด้วยจะดีที่สุด

อ่านจบแล้วบอกได้เลยว่าผู้หญิงในเรื่องนี้ Strong กันแทบทุกคน ยิ่งอ่านก็ยิ่งตระหนักถึงความสำคัญของสตรีที่เป็นช้างเท้าหลัง และสายสัมพันธ์ของหลังบ้านที่เกี่ยวพันโยงใยอะไรต่างๆ เอาไว้ได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ในเรื่องหากสามีภรรยาบ้านไหนรักใคร่ปรองดองและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ยิ่งถ้าได้คู่ครองที่ดี เฉลียวฉลาด อ่านสถานการณ์เป็น ชีวิตของคนในบ้านก็จะยิ่งมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรื่อง

เสียดายที่ตอนจบดูจะรวบรัดกระชับไปหน่อย ยังไม่จุใจเลย ยังอยากจะอ่านเรื่องของพระ-นาง และตัวละครตัวอื่นๆ ต่ออีกสักหน่อย เพราะเล่มท้ายๆ นี้พระเอกของเราแทบจะไม่ได้โผล่ออกมาเลยอะ แถมหลังๆ เนื้อหาเกือบครึ่งเล่มก็ไปอยู่ที่บ้านของอดีตคู่หมั้นนางเอกซะเกือบหมด  ...แต่ก็ไม่เป็นไร ...เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าชีวิตของพระ-นางนั้นได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และตัวร้ายก็ได้รับผลจากการกระทำที่ทำเอาไว้อย่างสาสม...ก็โอเค ( แต่จริงๆ ถ้ามีต่ออีกหน่อยก็ดีนะ55+... เพราะมันยังมีบางเรื่องบางจุดที่สามารถนำเอามาเขียนต่อ และขยี้อารมณ์ได้มากกว่านี้อีก แต่มันก็มีแค่นี้อะ ขนาดตอนพิเศษยังไม่มีเลย ร้องไห้แป๊บT^T)

ปล. คู่หมั้นเก่าของนางเอกที่อุตส่าห์สอบได้เป็นถึงจ้วงหยวนน่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าคงจะฉลาดคงจะเก่งกาจมาก น่าจะไม่ธรรมดา สรุปก็เก่งแค่ตอนสอบกับโชคดีเพราะมีบารมีพ่อเท่านั้นสินะ เพราะดูจากการเลือกผู้หญิงแต่ละคนมาเป็นเมียบวกกับการใช้ชีวิตแล้ว ...บอกเลยว่าอ่อนมากกกก ยังสู้อาเซินกับเจิ้งซานที่เป็นบ่าวรับใช้ของพระเอก-นางเอกไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 55+

ปล. นิยายที่อ่านแล้วชอบที่สุดของปีนี้สำหรับข่อย ...ขอยกให้เรื่องพราวพร่างกับท่านผู้กล้าหร่านเฟยเจ๋อจ้า

..............................................................................................

          " ถ้าเช่นนั้นข้าให้เวลาท่านสิบปี  พอหรือไม่ "
          " ท่านหมายอาศัยกิตติศัพท์ในการเป็นขุนนางคนโปรดของฮ่องเต้  ทำให้กฏบัญญัติพวกนั้นเกิดความศักดิ์สิทธิ์กระมัง  ข้าให้เวลาท่านสิบปี  ท่านอยู่กุ้ยโจวตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่  ส่วนข้าอยู่เรือนเลี้ยงลูกๆ ให้ดี  แต่สิบปีให้หลังท่านต้องกลับมาอยู่เคียงข้างข้า อยู่เป็นเพื่อนข้ากับลูก  ไม่ไปไหนทั้งนั้น .. ได้หรือไม่ "
          ราตรีอันเงียบเหงายาวนานเหล่านั้น  เพียงคิดก็ชวนให้รู้สึกยอกแสลงใจแล้ว
          ทว่านางไม่อาจฝืนเหนี่ยวรั้งเขาไว้ข้างกาย
          เสือตายไว้หนัง  คนตายไว้ชื่อ
          ยามหนุ่มสาว  ไม่ว่าเป็นผู้ใดล้วนมีสิ่งที่ยึดมั่นและใฝ่ฝันเล็กๆ น้อยๆ
          ในเมื่อนางรักคนคนนี้  ก็หวังว่าเขาจะอยู่อย่างสุขสำราญ  จิตใจร่าเริงเบิกบาน  ฮึกเหิมอาจหาญไปตลอด  และไม่มีอะไรต้องนึกเสียดายอีกในชีวิตนี้
          " อาจวิน " ขอบตาของจ้าวหลิงก็แดงเรื่อๆ
          " ห้าปี เจ้าให้เวลาข้าแค่เพียงห้าปี "
          " เมื่อนั้นไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าจะกลับมาอยู่ข้างกายเจ้ากับลูกๆ พวกเราจะไม่แยกจากกันอีกต่อไป "


วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

พบพานชายาในแปลงสมุนไพร


พบพานชายาในแปลงสมุนไพร  ( 2 เล่มจบ ) / ผู้แต่ง : สือหลัว
ผู้แปล : หยกชมพู
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
      เมื่อบุตรสาวท่านแม่ทัพและมารดาถูกขับไล่
ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกนางจึงถึงคราพลิกผันครั้งใหญ่
‘จื่ออวี๋’ที่จำต้องมาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้
ทำทุกอย่างเพื่อให้ร่างนี้และมารดาเจ้าของร่างมีชีวิตอยู่ต่อได้
จนเมื่อนางได้พบกับ ‘เขา’ ชายหนุ่มผู้มีปมหลังบางอย่างที่ต้องปิดซ่อน
ชีวิตของนางก็คล้ายจะเปลี่ยนไปตลอดกาล...
นางต้องกลับไปอยู่จวนแม่ทัพ ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าอนุและบุตรสาวคนอื่นๆ ของผู้เป็นพ่อ
ให้นางที่มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดต่อสู้กับฮูหยินใหญ่และพี่สาวต่างมารดาเหล่านี้ก็แล้วไปเถิด
อย่างไรเสียเล่ห์เหลี่ยมและการเห็นโลกมามากกว่าของนางก็ชนะได้อย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว
แต่จะให้นางไปสู้รบปรบมือกับราชวงศ์เพื่อเขานั้น
นางผู้เป็นเพียงบุตรสาวอนุคนหนึ่งจะไปทำอะไรได้
เช่นนี้มิใช่ ต้องหมดหวังกับความรักในชาติภพนี้แล้วหรือไร
สวรรค์ช่างรังแกนางนัก!แต่จะอย่างไรหากไม่ได้เป็นภรรยาเพียงคนเดียวของเขา
นางก็ไม่ยอมแต่งให้เขาหรอก ไม่มีวัน!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
เผยจื่ออวี๋  นางเอกของเรื่องเป็นหญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ 
( อีกแล้วววเด้อ 55+ ) มาอยู่ในร่างของบุตรสาวคนที่ 6 ที่เกิดจากอนุภรรยากับท่านแม่ทัพใหญ่  แม้มารดาของนางจะเป็นเพียงอนุภรรยาแต่ก็ได้รับความโปรดปราน
จนทำให้บรรดาเมียคนอื่นๆ พากันอิจฉาริษยา โดยเฉพาะเมียเอกที่คอยจ้องแต่จะหาเรื่องกลั่นแกล้งพวกนางสองคนแม่ลูกอยู่ตลอดเวลา  และอาศัยจังหวะที่ท่านแม่ทัพไม่อยู่บ้าน  
ขับไล่พวกนางสองแม่ลูกออกจากจวนไป

หวงฝู่จี้  องค์ชายสามที่ได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ให้ไปทำภารกิจลับ  
แต่กลับถูกลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบได้ไปโลกหน้า แต่ก็รอดมาได้เพราะเป็นพระเอก..เอ้ยๆ ๆ ไม่ใช่  เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนางเอก (〇´∀`〇)   ...  
เพราะกำลังปฏิบัติภารกิจลับ พระเอกจึงต้องปิดบังฐานะและชื่อจริง 
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นางเอกต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย.. 
แต่ถึงพระเอกจะสามารถปกป้องนางเอกไม่ให้ต้องติดร่างแหถูกปองร้ายจากภารกิจที่ทำได้ 
แต่ทว่าพี่แกกลับไม่สามารถปกป้องนางเอกให้รอดพ้นอันตราย จากการถูกลอบทำร้ายโดยผู้หญิงที่มาหลงเสน่ห์ความหล่อของตัวเองได้เลย *´∀`)*´∀`)´∀`)*´∀`)

แม้จะถูกขับไล่ออกจากบ้านโดยไม่มีเงินติดตัวเลยสักแดง  
แต่ด้วยความที่มาจากยุคปัจจุบัน ถึงภายนอกร่างกายจะยังเป็นเด็ก แต่สมองกับจิตใจก็โตเป็นผู้ใหญ่หมดแล้ว ดังนั้นนางเอกจึงต้องพยายามดิ้นรนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองกับแม่   
และโชคก็เข้าข้างนำพานางไปเจอกับแหล่งโสม จนทำให้สามารถลืมตาอ้าปากและกลายเป็นเศรษฐีนีตั้งแต่บัดนั้น ...
อยากจะบอกว่าท่านแม่ของนางเอกเนี่ยเหมือนสาวน้อยวัยใสมากๆ 
ใสซื่อมองโลกในแง่ดี
แต่พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย นี่ถ้าไม่มีลูกแบบนางเอกนะ คุณแม่ได้ตายแน่นอนจ้า 
เพราะคุณแม่เกิดมาเพื่อกินดีอยู่ดี ให้สามีได้รักใคร่ตามใจอยู่ในเรือนหลังเท่านั้นแหละเด้อ 55+ 


หลังจากอ่านจบก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรสักเท่าไรเลยแฮะ  
เรื่องกบฏที่เปิดตัวพระเอกจนทำให้เกือบตายก็ไม่เห็นจะมีอะไร ตอนที่เปิดมาปมดูใหญ่มาก
แต่กลับจัดการได้ง่ายนิดเดียว 55+ ...จริงๆ เราว่าประเด็นของเรื่องนี้มันน่าจะอยู่ตรงที่นางเอกเป็นลูกอนุภรรยามากกว่า  เพราะประเด็นสำคัญของเรื่องก็คือ จะทำยังไงให้นางเอกที่เป็นลูกอนุสามารถแต่งงานเป็นชายาเอกของพระเอก ที่เป็นถึงองค์ชายสามได้ 
แล้วต้องอยู่แบบผัวเดียวเมียเดียวด้วยนะ  ห้ามมีสามภรรยาสี่อนุเด็ดขาด ...
นี่แหละจุดสำคัญของเรื่อง 55+  
( ̄ー+ ̄)

ส่วนตัวร้ายหรือนางร้ายในเรื่องก็มีเยอะซะเหลือเกิน แต่ก็ร้ายแบบโง่ๆ ไม่ค่อยฉลาด  
แต่ก็ทำให้นางเอกตกหลุมพรางได้อยู่หลายทีเหมือนกันนะ 55+ ...
เราก็เลยไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วนางเอกเรื่องนี้ฉลาดหรือไม่ฉลาดกันแน่  (〇´∀`〇)   
คือนางสามารถทำการค้าจนกิจการเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยมหาศาล
แต่ดันมาตกม้าตายกับแผนการตื้นๆ ของตัวร้ายตั้งหลายที!....( เอาจริงดิ่! )     
 ...แล้วมันมีอยู่ตอนหนึ่งที่พระ-นางก็เดาแผนของตัวร้ายออก เพราะได้เห็นเองกับตา
และได้ส่งคนไปสอบถามมาเรียบร้อยแล้ว  พระเอกก็เลยส่งคนไปคุ้มครองนางเอกเพิ่ม ..

แต่ๆ ๆ ๆ สุดท้ายตัวร้ายก็ยังบุกเข้าไปทำร้ายนางเอกได้ถึงที่อะ  ...OMG!
แถมไอตัวร้ายนี่ก็เป็นผู้หญิงบอบบาง ไม่ได้มีวรยุทธ์อะไรเลยด้วยนะ 
แต่ก็ยังเล็ดลอดฝ่าบ่าวไพร่ 
ฝ่าคนคุ้มกันของพระเอก จนเข้าไปทำร้ายนางเอกถึงในห้องนอนได้อะคิดดู 55+  (゚∀゚*)

อ่านจบแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเนื้อหาเบาไม่ค่อยมีอะไรเลย 
ปมในเรื่องมีก็เหมือนไม่มี  
ไม่น่าจะยืดมาได้ถึง 2 เล่มเลยนะเนี่ย 55+  ...
สำนวนการแปลอ่านแล้วสะดุด 
คำฟุ่มเฟือยเยอะจัง ปกติพวกเล่มหนาๆ หรือพวก 2 เล่มจบขึ้นไปของแจ่ม สำนวนการแปลจะดีกว่านี้น๊า อันนี้เหมือนหลุด QC มาเหมือนไม่ได้ตรวจเลย   

ปล.ทำไมเวลาคนรับใช้หรือนางเอกหรือใครก็ตามในเรื่อง เวลาเรียกคนอื่นจะต้องขึ้นต้นด้วย 
“คุณหนูเจ้าขา”  “ท่านพ่อเจ้าขา”  “ท่านแม่เจ้าขา”  ”ฮูหยินเจ้าขา”  ทุกครั้งด้วยอะ
 ...นึกถึงละครไทยเลยนะเนี่ย 55+  ヽ(*^ー^)人(^ー^*)ノ



วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ลิขิตผูกพัน มังกรหวนคืน


ลิขิตผูกพัน มังกรหวนคืน (เล่มเดียวจบ) / ผู้แต่ง : จิ่วลู่เฟยเซียง
ผู้แปล : คืนฝัน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
นางคือ ‘เอ่อร์เซิง’ เด็กสาวซุกซนแก่นแก้ว
ผู้เติบโตมาด้วยการกิน ‘ของประหลาด’ 
นางจดจำไม่ได้แม้แต่น้อยว่าในอดีตชาติ นางคือซือมิ่ง... เทพลิขิตชะตา 
และชาติภพนี้ของนางกลับต้องเป็นฝ่ายถูกฟ้าลิขิตชะตาอย่างมิอาจหลีกหนี
 
เพราะไร้ซึ่งบิดามารดาเลี้ยงดู เอ่อร์เซิงจึงแตกต่างจากเด็กสาวชาวบ้านคนอื่นๆ 
จนกระทั่งนางพบชายหนุ่มชุดดำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่ามกลางดอกไม้สีขาว 
ดูงดงามจนมิอาจละสายตาไปได้ เช่นนี้หากลงมือช่วยชีวิตเขานางย่อมกลายเป็นผู้มีพระคุณ 
ต่อจากนั้นหากเขาอยากจะตอบแทนคุณ ก็เอาร่างกายมาตอบแทนนางเถอะ!
 
ไม่ว่าอย่างไรนางจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเด็ดขาด 
ต้องถือโอกาสนี้ตีตราจองคนงามด้วยการประกาศกร้าวว่าตนเองเป็น ‘ภรรยาของเขา’ 
ไม่เปิดช่องให้อีกฝ่ายมีโอกาสดิ้นหนี 
ส่วนเรื่องที่ว่าเขาจะเป็นปีศาจงูหรือเป็นมังกรดำน่ะหรือ 
เอาไว้ว่างๆ ค่อยๆ ถกเถียงกันเถอะ!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
หลังจากจบเรื่องของก้อนหินสามชาติและท่านเทพสงครามไปแล้ว  
คราวนี้ก็มาถึงตาของท่านเทพมังกรบรรพกาลกับเทพดาราซือมิ่งกันบ้าง 

เพียงเพราะคำทำนายฟ้า จึงทำให้เผ่ามังกรที่ไร้ความผิดต้องถูกกำจัดอย่างเลี่ยงไม่ได้  

กระทั่งตัวสุดท้ายที่เหลือรอด ก็ยังต้องถูกขังไว้ที่ซากหมื่นฟ้าไปตลอดกาล   ......... 
และเมื่อเทพดาราซือมิ่งต้องการปลดปล่อยมังกรตัวสุดท้ายให้เป็นอิสระ นางจึงฝืนคำทำนายฟ้า 
ละเมิดกฎสวรรค์ แอบหนีลงไปบนโลกมนุษย์ และปล่อยให้ฟ้าเป็นผู้ขีดเขียนชะตาชีวิตแทน 

ซือมิ่ง เทพดาราแห่งสรวงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ผู้มีหน้าที่เขียนชะตาชีวิตผู้คน  

นางแอบชอบประมุขสวรรค์และบอกชอบเขามานานนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไปนับครั้งไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน  ซือมิ่งเบื่อหน่ายงานของตัวเองและผิดหวังกับการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจากคนในดวงใจ  นางจึงดื่มสุราย้อมใจ จนเผลอตกลงไปในสระและหลับใหลไปนานถึง 1000 ปี
 
ฉางยวน เทพมังกรบรรพกาลตัวสุดท้ายของเผ่ามังกร เพราะคำนายฟ้าจึงทำให้เผ่ามังกรต้องถูกสังหารและสูญสิ้นทั้งเผ่าพันธุ์  มังกรดำตัวสุดท้ายที่มีพลังเทพและตบะสูงส่งเช่นเขาจึงต้องถูกขังไว้ในซากหมื่นฟ้าตามคำบัญชาสวรรค์  ฉางยวนจึงจำต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังมานานนับหมื่นปีในสถานที่มืดมิดและไร้ซึ่งแสงตะวันจันทรา  

เพราะบิดามารดามาด่วนจากไป เอ่อร์เซิง จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังในบ้านเก่าๆ หลังโทรมๆ  

หากหิวก็ไปหาของกินในป่า หรือไม่ก็อาศัยความหน้าด้านหน้าหนาของตัวเอง 
นางใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีและสดใสร่าเริง แม้จะมีฝีปากเฉียบคมไม่หวั่นเกรงผู้ใด
แต่ลึกๆ ในใจของนางกลับปรารถนาที่จะมีคนที่รักที่คอยห่วงใย 
ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หรืออยู่ตัวคนเดียวเป็นที่สุด  ........ 
และในที่สุดสวรรค์ก็เมตตาส่งบุรุษรูปงาม โดดเด่นไม่ธรรมดามาให้นางถึงตรงหน้า  
เอ่อร์เซิงดีใจหนักหนา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นภรรยาของคนผู้นี้ให้จงได้ 55+

พระเอกเป็นคนพูดน้อย นิสัยตรงข้ามกับนางเอก และถูกนางตามติดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน  

สลัดเท่าไรก็ไม่หลุด สุดท้ายจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้นางได้เป็นภรรยาตัวน้อยสมใจ 55+ 
แต่เพราะนางเอกฝืนคำทำนายฟ้า ละเมิดกฏสวรรค์  จึงทำให้ชะตาชีวิตของคนทั้งคู่บนโลกมนุษย์ต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย  แต่ไม่ว่าจะเจอกับอะไรทั้งสองคนก็ไม่เคยย่อท้อ  
กระทั่งนางเอกถูกจิตมารครอบงำ แต่พระเอกก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ  
ยังคงมุ่งมั่นฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพียงเพื่อหวังจะได้จับมือเคียงข้างอยู่ด้วยกันจนผมขาวโพลน .....

อ่านแล้วก็รู้สึกขัดใจกับมติสวรรค์ เพราะจริงๆ เรื่องนี้พระเอกกับคนในเผ่ายังไม่ทันได้ทำอะไรผิดเลย

ก็ถูกตัดสินซะแล้ว  เพราะคำนายฟ้าตัวเดียวที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องกลายเป็นคนผิด 
และสุดท้ายก็ต้องยอมรับผิด  ( แต่ก็ต้องโทษคนที่เชื่อตามด้วยแหละ เพราะจริงๆ แล้วเรื่องมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นะ ถ้าไม่มีคนไปบ้าตามคำทำนาย ....เฮ้อ )   

แต่ในเรื่องก็ไม่ได้มีแต่คู่ของพระ-นางนะ แต่ยังมีอีกหลายคู่ ไม่ว่าจะเป็นคู่ของศิษย์กับอาจารย์

หรือคู่ของปีศาจกับนักพรต  และหากใครยังจำเด็กน้อย ฉางอัน ที่อยู่ในเรื่องสามชาติผูกพันแม่น้ำลืมเลือนได้  พอมาในเรื่องนี้...ชะตาชีวิตของเด็กน้อยฉางอันก็จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
จน
อาจทำให้เราต้องเสียน้ำตาได้เลย ...เฮ้อ  ( แต่โชคดีที่ยังมีตอนพิเศษมาปลอบ ซึ่งทำให้พอจะยิ้มได้บ้าง 55+ ) แล้วยังมีประมุขสวรรค์ที่ชอบขี้เก๊กดีนัก คนเขาบอกชอบมาตั้งกี่ที แต่ก็ดันไปปฏิเสธหักอกเขาทุกครั้ง  แล้วเป็นไงล่ะที่นี้ ไหน้ำส้มแตกเลย ... สมน้ำหน้า ( กินแห้วไปซะ 55+ )


อ่านจบแล้วสรุปเราชอบเรื่องของก้อนหินสามชาติมากกว่า  

ส่วนเรื่องนี้มันมีบางตอนที่เราอ่านแล้วเนือยๆ อะ  แต่โดยรวมแล้วก็สนุกนะ เพียงแต่เราก็ยังชอบซานเซิงกับท่านเทพสงครามมากกว่าอยู่ดี 55+

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

อลวนกลสลับร่าง


อลวนกลสลับร่าง (เล่มเดียวจบ) / ผู้แต่ง : เจ๋อมู่ 
ผู้แปล : เสี่ยวหวา
สำนักพิมพ์ อรุณ

คำโปรยหลังปก
ข้า "อวิ๋นเจิี่ยว" รูปโฉมสามัญ หาได้เป็นสตรีอ่อนโยนอ่อนหวาน
ไม่ชำนาญงานเย็บปักถักร้อย คัดอักษรและวาดภาพ
อีกทั้งหาได้มีความเชี่ยวชาญทางดนตรี

เขา "อู๋หมิ่นจวิน" รัชทายาทเพียงองค์เดียวและแม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นซีหยาง
ไร้มนุษยธรรมและความเมตตาต่อศัตรู  ผิวพรรณขาวผ่องดุจหยก
ดวงเนตรดุจดวงตาหงส์  คิ้วเรียวดุจกระบี่

" อู๋หมิ่นจวิน เจ้าช่างมีโฉมงามล่มเมืองจริงๆ .... "
" หากเจ้าพูดอีกประโยคเดรยว พวกเรามาตายพร้อมกัน! "

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
อู๋หมิ่นจวิน  รัชทายาทของแคว้นซีหยาง  หน้าตาหล่อเหลา สง่างาม แต่นิสัยโหดเหี้ยม เย็นชา 
จึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้   ส่วนนางเอก อวิ๋นเจี่ยว หรือองค์หญิงฉางอี้แห่งแคว้นตงหยวน 
นิสัยตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม  รูปโฉมธรรมดาไม่โดดเด่น เนื่องจากสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็กแถมบิดาก็ไม่สนใจ  ในพระราชวังอันกว้างใหญ่นางจึงเสมือนถูกผู้คนลืมเลือน  
แถมเป็นองค์หญิงที่ไม่ได้รับความโปรดปรานรักใคร่จากฮ่องเต้  เพราะฉะนั้นเรื่องงานบ้านงานเรือน
หรือสิ่งต่างๆ ที่องค์หญิงทั่วไปควรต้องได้เรียนรู้นางจึงไม่รู้  แม้แต่หนังสือก็ยังอ่านไม่ค่อยออก  
แต่มีสิ่งหนึ่งที่นางเก่งกาจเหนือกว่าองค์หญิงทั่วๆ ไปก็คือ ......วรยุทธ์ หึหึ ...

เนื่องจากแคว้นตงหยวนถูกกองทัพพระเอกรุกรานและพ่ายแพ้สงคราม  
นางเอกจึงถูกส่งไปลอบสังหารพระเอก  แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะวรยุทธ์ของพระเอกก็สูงส่งไม่น้อยไปกว่านางเลยสักนิด  บวกกับสติปัญญาและความฉลาดที่มีมากกว่า  
การลอบสังหารจึงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ..... แต่เรื่องมันไม่จบเพียงแค่นี้เพราะทั้งสองคนดันมาสลับร่างกันในขณะที่กำลังต่อสู้   นางเอกต้องมาอยู่ในร่างผู้ชาย  
ส่วนพระเอกก็ต้องมาอยู่ในร่างของผู้หญิง  เรื่องชุลมุนฮาๆ จึงบังเกิดขึ้นตามมา 55+.......

พระ-นางพอสลับร่างกันจากคู่แค้นก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นคู่รัก 
ดังนั้นภารกิจลอบสังหารจึงกลายมาเป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์แทน 55+ 
เพราะมาอยู่ในร่างของพระเอกที่เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นซีหยาง  
นางเอกจึงต้องออกว่าราชการและทำงานทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม
โดยมีพระเอกคอยให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ส่วนพระเอกหลังจากที่ต้องมาอยู่ในร่างสตรี
นอกจากช่วยงานนางเอกแล้ว ที่เหลือก็นั่งกินนอนกินอยู่ในตำหนักอย่างสบายอารมณ์ 55+  
แล้วก็จะมีเรื่องการทำสงครามกับปมในวัยเด็กของพระเอก  
เพราะจริงๆ แล้วที่พระเอกมีนิสัยโหดเหี้ยม เย็นชาแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากปมในตอนเด็กนี่แหละ
(อ่านแล้วก็น่าสงสารอยู่)  ถ้าไม่เจอนางเอกชีวิตพระเอกก็คงจะฆ่าคนแบบไม่ต้องคิด 
ทั้งชีวิตคงมีแต่กลิ่นคาวเลือด  อย่างตอนแรกที่เคยตั้งใจว่าจะบุกยึดครองทั้งใต้หล้า  
แต่เพราะนางเอกไม่ชอบสงครามก็เลย solf ลง และไม่ใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมรุนแรงเหมือนแต่ก่อน   

เรื่องนี้ไม่มีดราม่า  เนื้อเรื่องเบาไม่เครียด  แนวคอมเมดี้ฮาๆ อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ 
แบบไม่คิดอะไรมาก 55+   บางตอนก็ตลกดีอย่างตอนที่ระดูของนางเอกมาเป็นครั้งแรก 55+.. ...
มาตอนไหนไม่มาดันมาตอนที่พระเอกเข้ามาอยู่ในร่างนี้ 55+

ปล. ในเรื่องคนเข้า-ออกวังกันได้ง่ายเหลือเกิน จนทำให้สงสัยว่านั่นมันวังหลวงหรือสวนหลังบ้านกันแน่เนี่ย  ทำไมเข้า-ออกกันง่ายอย่างงี้ 55+

.................................................................................................................

         อู๋หมิ่นจวินนั่งไขว่ห้างบนเก้า กางเกงตัวนั้นกองอยู่ปลายเท้า ข้าถามด้วยใบหน้าแดงเรื่อ 
         " เจ้าไม่ไปอาบน้ำหรือ .. "
         " มิใช่ฉี่รดที่นอน "  จู่ๆ อู๋หมิ่นจวินก็พูดโพล่งออกมา  แววตาหลุกหลิก
         ข้า  " ..... "
         " ถา้ไม่ใช่ฉี่รดที่นอนแล้วมันคืออันใด ...ข้ากล่าวอย่างขัดเขินว่า  " เจ้าไม่ต้องปลอบใจ ... เอิ่ม  หรือพูดให้ถูก  เจ้าอย่าปลอบใจตนเองเลย "
         อู๋หมิ่นจวิน  " .... "
         เขาตวาดว่า  " มิใช่จริงๆ! เป็น ... เฮ้อ  จะบอกเจ้าอย่างไรดี    มันเป็นการตอบสนองเหมือนที่เจ้าเป็นในบางครั้งยามตื่นนอนตอนเช้า  ถือว่าเป็นเรื่องปกติ!  ก็แค่ ... แค็ก  เป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของเจ้าก็เท่านั้นเอง "
         ข้า  " ..... "
         ข้าเอื้อนเอ่ยวาจาใดไม่ออก  เพราะเห็นได้ชัดว่า 'ความเปลี่ยนแปลง' นี้ มันเกินขอบเขตปกติ