พราวพร่างบุปผาตระการ เล่ม 1 (7 เล่มจบ) / ผู้แต่ง : จือจือ
ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส
คำโปรยหลังปก
สกุลฟู่นั้นมีชื่อเสียงการรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เป็นบุตรสาวของสกุลฟู่ต้องถือเอาเรื่องความบริสุทธิ์นั้นใหญ่หลวงเท่าชีวิต
ฟู่ถิงจวิน คุณหนูเก้าผู้อยู่ในกรอบของจรรยาสตรีและคำสอนของสกุลฟู่อย่างเคร่งครัด
แต่กลับต้องมาด่างพร้อยเพราะคำโป้ปดของ จั่วจวิ้นเจี๋ย
ญาติผู้เกี่ยวดองของนาง กล่าวหาว่านางลักลอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเขา
นางซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์กลับไม่อาจแก้ข้อกล่าวหานั้นได้ ซ้ำเขายังบีบให้นางหมดสิ้งหนทาง
และถูกกักตัวอยู่ในอารามชี รอบกายถูกจับตาดูทุกฝีก้าวโดยคนของสกุลฟู่
คนของสกุลได้รับคำสั่งให้กำจัดนาง เพียงเพื่อรักษาหน้าและชื่อเสียงของสกุลฟู่ที่แสนดีงาม
แต่เหมือนสวรรค์ยังเมตตา ถึงได้ส่ง บุรุษลึกลับ มาช่วยเหลือนางจากคนของสกุล
แต่ ข้อแลกเปลี่ยนแสนประหลาดของเขา ทำให้นางกระอักกระอ่วนใจ
ไม่ว่าอย่างไรฟู่ถิงจวินต้องหาทางหนีจากอารามชีแห่งนี้
นางจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์เพื่อล้างมลทินให้ได้
และจะไม่ยอมรอรับความตายที่อารามชีเด็ดขาด!
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ตอนที่แจ่มลงตัวอย่างให้อ่าน เราก็ไม่ได้อ่าน เพราะตั้งใจจะรออ่านแบบเป็นเล่ม
เรื่องนี้เห็นเงียบๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่พอได้อ่านกลับผิดคาดมากกกก ....
สนุกกว่าที่คิด อ่านแล้ววางไม่ลง อ่านคืนเดียวจบเลยจ้าาา
เปิดเรื่องมาด้วยนางเอก ' ฟู่ถิงจวิน ' คุณหนูเก้าแห่งตะกูลฟู่ ที่ถูกใส่ร้ายว่าคบชู้สู่ชาย
จนทำให้ต้องระเห็จออกมาอยู่ที่วัดประจำตระกูลที่ห่างไกล
เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ประกอบกับความเชื่อมั่นที่มีต่อวงศ์ตระกูล
นางเอกจึงเชื่อว่าไม่นานเรื่องเหล่านี้ก็จะคลี่คลายลง และนางก็จะได้กลับบ้าน ...
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หลายๆ อย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด
สถานการณ์แย่ลง จนนางต้องขอความช่วยเหลือจากบุรุษแปลกหน้า ที่เคยคิดจะฆ่าตัวเอง
และเข้ามาขโมยของกินในวัด บุรุษที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ท่าทางเหมือนคนเร่ร่อน
ทว่าในยามนี้เขากลับเป็นคนเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้
'ท่านเก้า' ชายหนุ่มรูปร่างผอมโซ ผอมจนหนังแทบติดกระดูก แต่กลับมีวรยุทธ์สูงและฉลาดล้ำ
เขาเข้ามาขโมยของกินในวัดและได้พบกับคุณหนูคนหนึ่งเข้า
ตอนแรกเขาเกือบจะฆ่านาง แต่สุดท้ายเขากลับต้องพานางหลบหนีไปด้วยกัน ........
พระเอกต้องพานางเอกไปส่งที่บ้านญาติ ตามคำขอร้องของแม่นางเอก
ซึ่งในระหว่างที่เดินทาง ก็จะได้พบกับอุปสรรคและเรื่องราวต่างๆ มากมาย
ที่ทำให้นางเอกซึ่งเป็นคุณหนูในห้องหอ ที่ไม่เคยออกไปเผชิญโลกภายนอกได้เติบโตขึ้นทีละน้อย
นางเอกได้ออกไปเห็นความโหดร้ายของยุคสมัยที่กำลังจะเกิดสงครามและเกิดภัยแล้งรุนแรง
ได้เห็นผู้คนจำนวนมากต้องพากันอดตาย เพราะไม่มีอะไรจะกิน
ได้เห็นคนที่คอยดักปล้นชิงอาหาร หรือคนเร่ร่อนที่รุมตีคนจนตาย เพียงเพื่อหมั่นโถวไม่กี่ลูกเท่านั้น
เขาเข้ามาขโมยของกินในวัดและได้พบกับคุณหนูคนหนึ่งเข้า
ตอนแรกเขาเกือบจะฆ่านาง แต่สุดท้ายเขากลับต้องพานางหลบหนีไปด้วยกัน ........
พระเอกต้องพานางเอกไปส่งที่บ้านญาติ ตามคำขอร้องของแม่นางเอก
ซึ่งในระหว่างที่เดินทาง ก็จะได้พบกับอุปสรรคและเรื่องราวต่างๆ มากมาย
ที่ทำให้นางเอกซึ่งเป็นคุณหนูในห้องหอ ที่ไม่เคยออกไปเผชิญโลกภายนอกได้เติบโตขึ้นทีละน้อย
นางเอกได้ออกไปเห็นความโหดร้ายของยุคสมัยที่กำลังจะเกิดสงครามและเกิดภัยแล้งรุนแรง
ได้เห็นผู้คนจำนวนมากต้องพากันอดตาย เพราะไม่มีอะไรจะกิน
ได้เห็นคนที่คอยดักปล้นชิงอาหาร หรือคนเร่ร่อนที่รุมตีคนจนตาย เพียงเพื่อหมั่นโถวไม่กี่ลูกเท่านั้น
เล่มนี้เหมือนกำลังเริ่มปูพื้น และทิ้งปริศนาไว้เพื่อนำไปสู่เรื่องราวต่างๆ
ที่ดูจะยุ่งยากวุ่นวายมากยิ่งขึ้น เบื้องหลังของพระเอกที่ยังคงเป็นปริศนา
เรื่องเหตุการณ์ในบ้านของนางเอก ที่จู่ๆ ก็พลิกผันในชั่วข้ามคืน
และสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมืองในตอนนี้อีก (ต้องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ)
ชอบเรื่องนี้ที่ไม่ได้ยกแต่ศัตรูคู่แค้นของพระ-นางมาเป็นอุปสรรคหรือตัวร้ายอย่างเดียว
แต่ชอบที่หยิบเรื่องความอดอยากและภัยแร้งเข้ามาด้วย .......
คนเราในยามที่ไม่มีแม้แต่รากไม้จะกิน เพื่อให้มีอะไรตกถึงท้อง เพื่อความอยู่รอด
แม้แต่คนดีๆ ก็ยังกลายเป็นปีศาจได้ ระหว่างทางพระ-นางจะเจออะไรแบบนี้อยู่ตลอด
ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แต่ทั้งสองคนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะลำพังแค่ตัวเองก็จะไม่รอดอยู่แล้ว
นางเอกก็ไม่ได้เอาแต่ใจ ดึงดันจะทำตัวเป็นคนดีช่วยคนอย่างเดียวโดยไม่สนใจใคร
เพราะเมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ นางก็ได้เรียนรู้ว่าการจะช่วยคนอื่นได้นั้น...
ที่ดูจะยุ่งยากวุ่นวายมากยิ่งขึ้น เบื้องหลังของพระเอกที่ยังคงเป็นปริศนา
เรื่องเหตุการณ์ในบ้านของนางเอก ที่จู่ๆ ก็พลิกผันในชั่วข้ามคืน
และสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมืองในตอนนี้อีก (ต้องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ)
ชอบเรื่องนี้ที่ไม่ได้ยกแต่ศัตรูคู่แค้นของพระ-นางมาเป็นอุปสรรคหรือตัวร้ายอย่างเดียว
แต่ชอบที่หยิบเรื่องความอดอยากและภัยแร้งเข้ามาด้วย .......
คนเราในยามที่ไม่มีแม้แต่รากไม้จะกิน เพื่อให้มีอะไรตกถึงท้อง เพื่อความอยู่รอด
แม้แต่คนดีๆ ก็ยังกลายเป็นปีศาจได้ ระหว่างทางพระ-นางจะเจออะไรแบบนี้อยู่ตลอด
ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แต่ทั้งสองคนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะลำพังแค่ตัวเองก็จะไม่รอดอยู่แล้ว
นางเอกก็ไม่ได้เอาแต่ใจ ดึงดันจะทำตัวเป็นคนดีช่วยคนอย่างเดียวโดยไม่สนใจใคร
เพราะเมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ นางก็ได้เรียนรู้ว่าการจะช่วยคนอื่นได้นั้น...
หมายถึงต้องไม่ทำให้ตัวเอง หรือคนรอบข้างต้องเดือดร้อนตามไปด้วย
ต้องสามารถปกป้องคุ้มครองตัวเองให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถยื่นมือไปช่วยเหลือคนอื่นได้ ...
และเราก็จะได้เห็นพัฒนาการความรักของพระ-นางคู่นี้
ที่ไม่ใช่แบบพอเห็นหน้ากันปุ๊บก็ตกหลุมรักกันปั๊บ
แต่จะเป็นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ละมุนละไม ค่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน
แบบที่คนอ่านไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่าไปรักกันตอนไหน? เมื่อไร? แล้วทำไมถึงรัก? .....
ต้องสามารถปกป้องคุ้มครองตัวเองให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถยื่นมือไปช่วยเหลือคนอื่นได้ ...
และเราก็จะได้เห็นพัฒนาการความรักของพระ-นางคู่นี้
ที่ไม่ใช่แบบพอเห็นหน้ากันปุ๊บก็ตกหลุมรักกันปั๊บ
แต่จะเป็นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ละมุนละไม ค่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน
แบบที่คนอ่านไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่าไปรักกันตอนไหน? เมื่อไร? แล้วทำไมถึงรัก? .....
......................................................................................................................
....นางไม่รู้ว่าหลังจากนางตายแล้วท่านเก้าจะเป็นเช่นไร
เป็นเพราะนางคนเดียวทำให้เขาต้องเดือดร้อนไปด้วย
บุญคุณของเขา นางไม่อาจตอบแทนได้แล้วในชาตินี้ คงได้แต่รอชาติหน้า
ทว่าบางทีชาติหน้านางยังคงเป็นคนที่ถ่วงรั้งเขาไว้อีก
ไม่แน่ว่าเขาอยากหลบลี้หนีหน้าแทบไม่ทันก็เป็นได้ .....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น