วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2565

คดีลับใต้หมู่ดาว 3 เล่มจบ

 

คดีลับใต้หมู่ดาว 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : เมิ่งซีสือ (Meng Xi Shi)
ผู้แปล : ศีตกาล
สำนักพิมพ์  everY

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก หลิงซู นายตำรวจหนุ่มสุดหล่อที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ อดีตคุณชายสกุลดังที่เคยมีหน้ามีตาเป็นที่อิจฉาของใครต่อใคร แต่กลับต้องตกอับหลังจากสิ้นบิดามารดา หลิงเหยา ผู้เป็นพี่สาวจึงตัดสินใจกัดฟันขายทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดในบ้านเพื่อส่งน้องชายเพียงคนเดียวไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่คาดไม่ถึงว่านอกจากจะไม่ได้ภาษาหรือความรู้ใดๆ กลับมา บนร่างกายของหลิงซูก็ยังเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลน้อยใหญ่อีกมากมายนับไม่ถ้วน...

พระเอก เยวี่ยติ้งถัง คุณชายสามตระกูลเยวี่ย ตระกูลใหญ่ซึ่งมีอิทธิพลเป็นที่นับหน้าถือตาในเซี่ยงไฮ้ อดีตเพื่อนร่วมห้องหรือคู่แข่งของนายเอกที่เคยหลงรักหญิงสาวคนเดียวกัน พระ-นายได้โคจรกลับมาพบกันอีกเพราะเหตุการณ์ที่สาวสวยของเมืองหรืออดีตคนรักนายเอกถูกฆ่าตาย นายเอกกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่รู้ตัว และทำให้ได้พบกับพระเอกซึ่งมาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับสำนักงานตำรวจเขตเช่าที่ทำคดีนี้พอดี

เรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องจะอยู่ในช่วงยุคสาธารณรัฐหลังราชวงศ์ชิงล่มสลายได้เพียง 20 ปี เป็นช่วงกลียุคบ้านเมืองวุ่นวายยังไม่สงบมีแต่ศึกสงคราม ผู้คนอดอยาก ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาช่วงชิงกอบโกยผลประโยชน์ในประเทศ ผู้คนไม่สามัคคี มีคนใหญ่คนโตพวกขุนศึกหรือตระกูลดังๆ แบ่งเขตอิทธิพลคอยแอบช่วงชิงผลประโยชน์และขัดแข้งขัดขากัน แต่สุดท้ายก็ชาวบ้านตาดำๆ คนธรรมดานี่แหละที่ต้องรับเคราะห์...

ในเรื่องจะเป็นการไขคดีสืบหาความจริง ที่เบื้องหลังต่างก็เกี่ยวพันโยงใยกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้
ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น เริ่มจากคดีฆาตกรรมในตระกูลหยวนที่ดูธรรมดา แต่พอสืบไปสืบมากลับไม่เล็กเลย ทำเอาพระ-นายเจ็บหนักเกือบตายหวิดได้ลาไปยมโลกอยู่หลายที ....เพราะเรื่องนี้พระ-นายเขาเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่ได้มีวรยุทธ์หรือกำลังภายในเด้อ เล่นเองเจ็บจริง สะบักสะบอมกันสุดๆ วิ่งสู้ฟัดมาก โดยเฉพาะนายเอกไปที่ไหนก็มีแต่เรื่อง ยังกับโคนันไปที่ไหนก็มีแต่คนตาย เหอๆ ...พอคดีแรกคลี่คลายแต่ด้วยความสงสัยว่าทำไมนายเอกถึงได้เปลี่ยนไปกลายเป็นคนไม่มีเป้าหมาย แถมร่างกายยังไม่แข็งแรงเหมือนเก่า พระเอกก็เลยทำเรื่องขอย้ายให้นายเอกมาทำงานเป็นเลขาฯ ผู้ช่วยอยู่ข้างกาย เพื่อจะได้ดูแลและจับตามอง ....

เล่มสองพระเอกต้องเดินทางไปเคารพศพญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ที่ขาดการติดต่อกันไปนาน ตามคำร้องขอของญาติฝั่งนั้น ..ดูก็รู้ว่าต้องมีซัมธิง แค่ระหว่างทางก่อนที่จะไปถึงทั้งสองคนก็ได้เจอกับเหตุการณ์ฆาตกรรมบนรถไฟแล้ว...พอไปถึงบ้านญาติถึงได้รู้ว่านอกจากเรื่องเคารพศพตามจดหมาย พระเอกยังถูกมัดมือชกทำให้ต้องไปมีส่วนในเรื่องมรดกของตระกูลฝั่งแม่อีกด้วย...พอถึงวันเปิดพินัยกรรม ฝั่งญาติก็โวยวายไม่พอใจเมื่อเห็นของที่พระเอกได้...แถมครั้งนี้พระเอกก็กำลังมีเรื่องสงสัยนายเอกพอดี ต่างคนต่างสงสัยก็เลยวางแผนใส่กัน

แต่เพราะเรื่องนี้แหละ พระ-นายถึงได้เริ่มเข้าใจความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อีกฝ่าย ...สรุปพระเอกก็ไม่ได้หลงรักผู้หญิงคนเดียวกับนายเอก เพราะคนที่พี่แกรักจริงๆ คือตัวนายเอกเองต่างหาก เพียงแต่ตอนนั้นยังเด็กเลยยังไม่เข้าใจ ไม่ได้ใคร่ครวญให้ลึกซึ้งอย่างถ่องแท้ว่ารักเขามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว จึงทำให้ต้องคลาดกันไปนานถึง 8 ปีเต็ม...หลังจบเหตุการณ์นี้พอแยกย้ายกันกลับบ้าน นายเอกก็ดันทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บ่ายเบี่ยง แต่พระเอกไม่อยากพลาดอีกแล้วเลยเป็นฝ่ายรุกเอง...55

ส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกว่านายเอกหลิงซูเรื่องนี้แอบมีความคล้ายกับนายเอกในเรื่องรัชศกอยู่เหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เรื่องครอบครัวที่ตกต่ำแถมยังมีพี่สาวหนึ่งคน แล้วก็เรื่องฝีปากที่เป็นหนึ่งไม่มีใครเกิน รวมถึงนิสัยที่ร่าเริง มนุษยสัมพันธ์ดี คุยเก่ง เข้ากับคนง่าย ไปอยู่ไหนก็กลมกลืนเข้ากับเขาได้หมด ส่วนพระเอกนี่ตรงข้ามเลย นิ่งๆ เย็นชา พูดน้อย เนี้ยบ ถือตัว รักความสะอาด สมกับที่เป็นคุณชายตระกูลสูงศักดิ์และเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจริงๆ นายเอกไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก ตกคนในบ้านพระเอกได้หมด ทั้งคนแก่คนสาว พากันรักโอ๋และให้ท้ายนายเอกยิ่งกว่าพระเอกที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงซะอีก 55

อ่านจบแล้วส่วนตัวเราว่า ตอนดำเนินเรื่องช่วงต้นๆ มันแอบเนือยๆ ไปหน่อยอะ เริ่มมาเครื่องติดช่วงหลัง แต่อ่านจบแล้วคือชอบแหละ ชอบผลงานของนักเขียนมาตั้งแต่รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่แล้ว เป็นแนวสืบสวนสอบสวนเหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากยุคโบราณมาเป็นยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แทน ... คดีที่พระ-นายต้องสืบก็สะท้อนสภาพสังคมและสภาพบ้านเมืองในช่วงเวลานั้นๆ เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด ตั้งแต่ชาวบ้านธรรมดา นักแสดงหญิง แก๊งนักเลง ตำรวจ ชาวต่างชาติ คุณหนูคุณชายไปจนถึงราชการตำแหน่งสูงๆ ตั้งแต่คดีแรกยันคดีสุดท้าย จะได้เห็นความพยายามของตัวละครหลายๆ คนที่พยายามจะใช้ชีวิตให้ดีต่อไป แม้ว่าบ้านเมืองจะกำลังวุ่นวายไม่สงบสุข คนตัวเล็กๆ ที่พยายามจะช่วยประเทศชาติในแบบของตัวเอง อาจจะไม่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครมองเห็น แต่การกระทำเล็กๆ นี้กลับเป็นประโยชน์และส่งผลอย่างไม่คาดคิด ในที่ที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครมองเห็น อาจมีคนบางกลุ่มที่กำลังพยายามต่อสู้ดิ้นรนและมีชีวิตอยู่เพื่อส่งต่อความหวัง เพื่อทำให้คนรุ่นหลังได้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ...อย่างคดีขู่ฆ่านักแสดงสาวที่พลิกแล้วพลิกอีก โดนหลอกหลายตลบมาก...พอเฉลยคือแบบต้องขอซูฮกให้กับความใจกล้าเด็ดขาดของเธอจริงๆ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ใจเด็ดมาก...

แต่บทสรุปบางคดีเราว่าบางจุดยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไร อย่างคดีแรกสรุปก็ไม่ได้เฉลยแฮะว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง? เรื่องสมบัติของพระเอกที่ถูกขโมยสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ตกอยู่ในมือใคร? ในคดีสุดท้ายสรุปก็ไม่รู้ว่าทลายลัทธิได้หมดหรือเปล่า เพราะตัดไปตอนพิเศษที่พระ-นายย้ายไปอยู่ฮ่องกงเลย (เป็นช่วงที่ถูกญี่ปุ่นบุก)...ความจริงยังอยากรู้ต่ออีกสักหน่อยว่าหลังจากที่ในประเทศเกิดสงครามนอกจากครอบครัวของพระ-นายแล้ว คนอื่นๆ อย่างนายตำรวจแซ่เสิ่น หรือคุณหนูหยางที่ไปช่วยในคดีสุดท้ายนั้นจะมีชีวิตต่อไปยังไงกันบ้าง...

ป.ล. ความจริงมีหลายคดีนะแต่เราขอกล่าวถึงแค่สอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น