วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ลำนำล่มแคว้น เล่ห์บุปผาพิษ 2 เล่มจบ

 


ลำนำล่มแคว้น เล่ห์บุปผาพิษ 2 เล่มจบ
ผู้แต่ง : สือซื่อเชวี่ย (
十四阙)
ผู้แปล : อาจือ
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องที่สามของเซ็ต เป็นเรื่องของแคว้นเฉิงที่เกิดการแย่งชิงบัลลังก์เปลี่ยนเจ้าแคว้นกันไปในเล่มมัจฉาพรางประกาย และทำให้ อี๋เฟย องค์ชายสามของแคว้นต้องหนีตายปิดบังฐานะไปอยู่ที่แคว้นปี้ด้วยตัวตนอื่น แต่นอกจากเรื่องการชิงบัลลังก์ก็ยังมีเรื่องสำนักหรูอี้ สำนักลึกลับที่ถูกกล่าวถึงและเป็นตัวแปรสำคัญที่อยู่เบื้องหลังหลายๆ เหตุการณ์มาตั้งแต่เรื่องแรกของเซ็ต ซึ่งในเล่มนี้จะเฉลยที่มาที่ไป ความเป็นมา ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ต้องมาข้องเกี่ยว รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังสำนักนี้ออกมาจนหมด ว่าสำนักนี้มาจากไหน เกิดขึ้นได้ยังไง ใครเป็นคนก่อตั้ง และก่อตั้งขึ้นเพื่ออะไร...

เฟิงเสียวหย่า สหายสนิทของจางหวาหรือฮ่องเต้แคว้นเยียน คุณชายผู้หล่อเหลา วิชายุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับมีร่างกายอ่อนแอ ไปไหนมาไหนก็ต้องนั่งเสลี่ยงให้คนคอยแบกตลอดเวลา...
ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กเพราะถูกพิษตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ความจริงควรจะมีอายุไม่ยืน แต่กลับรอดมาได้เพราะมีบิดาที่ดีเลิศคอยออกตามหาผู้มีกำลังภายในสูงมารักษาให้ แถมยังมีคู่หมั้นตัวน้อยไปอธิษฐานขอพรเพื่อให้ตนเองหายป่วย ทว่าคู่หมั้นตัวน้อยกลับหายไปในวันที่ไปอธิษฐานขอพร จึงกลายเป็นความเสียใจของเขาไปทั้งชีวิต ...

ชิวเจียง อนุคนที่สิบเอ็ดของเฟิงเสียวหย่า เคยเป็นอนุที่ได้รับความโปรดปรานแต่จู่ๆ กลับสูญเสียความทรงจำและถูกกักขังไว้บนภูเขา พอหนีออกมาได้นางก็ไปทำงานเป็นสาวใช้อยู่ที่จวนอัครเสนาบดีของแคว้นปี้หรือเซวียไฉ่ (คืออยากจะบอกว่าในเรื่องนี้จะมีตัวละครจากเล่มก่อนๆ ออกมามีบทบาทกันเยอะมาก เกือบครบเลยก็ว่าได้) ...และได้เจอกับองค์ชายสามของแคว้นเฉิงที่กำลังหลบซ่อนปกปิดตัวตนอยู่ แล้วต่อมาก็มีเหตุให้ทั้งสองคนต้องออกเดินทางไปด้วยกัน
คนหนึ่งเดินทางเพื่อไปแย่งชิงบัลลังก์ ส่วนอีกคนก็เพื่อสืบหาตัวตนและตามหา
ความทรงจำที่แท้จริงของตัวเองกลับคืนมา ....

 

สปอยล์ !!!!!

.

สำนักหรูอี้ก็คือ สำนักหรือองค์กรที่ทำเรื่องชั่วช้าและก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้มากมาย
โดยการลักพาตัวเด็กมาคัดและฝึกฝนด้วยวิธีการต่างๆ นานาอย่างโหดร้ายจนสูญเสียความทรงจำ เพื่อเป็นสายลับ เป็นนักฆ่า หรือแล้วแต่ความสามารถ แต่คือมีทุกอาชีพ ส่งเด็กที่ผ่านการฝึกมาแล้วเรียบร้อยแทรกซึมเข้าไปทุกที่ ทุกแคว้น ทุกตระกูลที่อยากสืบความลับ ....
ซึ่งในเล่มก่อนหน้าก็จะมีการกล่าวถึงสำนักนี้อยู่ทุกแคว้น จนเราสงสัยว่าสำนักนี้มันคืออะไร ทำไมเก่งเทพจังฟะ ไปที่ไหนก็เจอแต่คนของสำนักนี้แฝงตัวเข้ามา อ่านๆ ไปก็ระแวงเพราะไม่รู้ว่าสุดท้ายจะโดนหลอกแล้วเฉลยว่าเป็นคนของสำนักนี้อีกหรือเปล่า ไว้ใจใครไม่ได้เลย

ทั้งสามเรื่องอ่านแยกได้ เนื้อหาจบสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่จะมีบางเรื่องบางเหตุการณ์ที่อาจมีช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าใครอยากรู้เบื้องหลังต้นสายปลายเหตุในหลายๆ เหตุการณ์ (ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกันอยู่) ที่เกิดขึ้นในเรื่อง ก็ควรจะอ่านให้ครบทั้งสี่เรื่องนะ จะทำให้เข้าใจตัวละครและที่มาที่ไปต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพราะรายละเอียดบางอย่างที่ไม่ได้เฉลยในเล่มก่อนหน้า บางทีก็อาจจะมาเฉลยบอกกันในเล่มต่อไปอย่างเช่นในเล่มนี้ ก็มีเรื่องของสำนักหรูอี้ เรื่องคำฝากฝังของจีอิง คู่หมั้นที่หายไปของเฟิงเสียวหย่า การตายของอดีตอัครเสนาบดีแคว้นเยียน หรือตัวการที่อยู่เบื้องหลังการชิงบัลลังก์ในแต่ละแคว้น รวมถึงความลับความดำมืดของสกุลจี ก็จะมาเฉลยและขยายความกันในเล่มนี้แหละ ...

ซึ่งทุกเรื่องที่พูดถึงจะมีจุดเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกันหมดเลย เป็นเล่มที่เหมือนปมทุกอย่างมันมากระจุกและกระจ่างในเล่มนี้ สรุปได้ว่าแทบทุกเหตุการณ์ที่เกิดล้วนมีสำนักหรูอี้คอยควบคุมบงการอยู่ข้างหลังทั้งนั้น ส่วนสำนักหรูอี้ก็คือสำนักที่ตระกูลหนึ่งสร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เพื่อคอยสืบข่าวหาผลประโยชน์ ทำเรื่องดำมืดเลวร้ายต่างๆ เพื่อให้ตระกูลนี้มั่นคงและรุ่งโรจน์ขึ้นมา โดยการลักพาตัวเด็กจากทุกแคว้นมาคัดและฝึกฝนเพื่อให้ทำงานต่างๆ ให้ตัวเอง ...ซึ่งตัวเอกหญิงของเรื่องนี้ก็คือศิษย์เอกของเจ้าสำนักนี้ ตัวเต็งว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไป ถูกส่งไปชิงบันทึกสี่แคว้นแต่ถูกเขาจับได้ก่อนและทำให้สูญเสียความทรงจำ...แต่พอนางหายดีก็หนีกลับไปตามหาความจริงทุกอย่างเอง ระหว่างทางที่ไปแคว้นเฉิงก็มีองค์ชายสามเป็นเพื่อนร่วมทาง ได้พบเจออุปสรรคได้ช่วยเหลือกัน จนองค์ชายสามเกิดตกหลุมรักนาง ทว่าสาวเจ้าไม่รู้เรื่องไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะมีคนในดวงใจอยู่แล้ว...

... พอความทรงจำฟื้นกลับมา ต่อจากนั้นก็เป็นการล้มล้างสำนักหรูอี้ (จริงๆ นี่แหละเรื่องหลัก) ร่วมด้วยพันธมิตรมากมาย  อ่านตอนแรกก็แบบโอ้ววว..สำนักอะไรวะเนี่ยกำจัดยากฉิบ ถึงกับต้องดึงคนเก่งๆ มารวมหัวกันเพื่อกำจัดโดยเฉพาะ มีการวางแผนหลายขั้นตอนเป็นสิบๆ ปี หลายซ้ำหลายซ้อนเหลือเกิน .... หลายๆ เรื่องก็หลอกให้เรางง ทำให้เราเกือบหลงเชื่อ แต่สุดท้ายก็เป็นการซ้อนแผนแสร้งทำไปเพื่อล้มล้างสำนักนี้ บางคนก็แฝงตัวเข้ามาเป็นยี่สิบปีเพื่อจะล้มล้างอิสำนักนี้อีกเหมือนกัน ซึ่งวิธีการล้มล้างของทุกคนก็คือต้องกำจัดหรูอี้ฟูเหรินและเอาบันทึกสี่แคว้นมา(เท่านั้นเหรอ) ถึงจะทำลายสำนักนี้ลงได้ ก็เข้าใจนะว่าถ้าไม่กำจัดตัวหัวหน้าหรือปล่อยให้รอดไปได้ เดี๋ยวมันก็จะมีสำนักหรูอี้แห่งใหม่ผุดขึ้นมาอีก ...
แต่ระหว่างทางกว่าจะไปถึงตอนสุดท้ายอะ ไม่มีใครคิดจะช่วยเด็กหรือหาวิธีที่จะทำให้ไม่มีการลักพาตัวเด็กมาในระหว่างที่กำลังดำเนินแผนนั้นบ้างเลยหรือ เด็กก็ยังถูกลักพาตัวมาเหมือนเดิม สิบกว่าปีที่พยายามทำตามแผนก็ยังมีเด็กอีกตั้งเท่าไรที่ต้องถูกทรมานและตาย และมีคนอีกตั้งมากมายเท่าไรที่ต้องทุกข์ทรมานจากการเสียลูก ต้องฆ่าตัวตาย บางครอบครัวก็แตกแยก บางคนก็ตกอยู่ในแผนการต้องรับเคราะห์ซวยไปด้วยอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ต่อให้ได้บันทึกสี่แคว้นมาแล้วรู้ชื่อแซ่กับครอบครัวที่แท้จริงของเด็ก แต่จะมีสักกี่คนที่ได้กลับหรือกล้ากลับไปจริงๆ.....ศิษย์ในสำนักที่ตายๆ ไป เจ้าสอง สี่ ห้า บลาๆ เอาจริงๆ พอเฉลยที่มาของทุกคนแล้วก็แอบสงสารนะ เพราะต่างก็คือเด็กที่ถูกลักพาตัวมา ต้องพรากจากพ่อแม่ถูกทารุณจนจำไม่ได้ว่าตัวเองคือใครเพื่อกลายเป็นเครื่องมือของสำนักนี้...แต่จะให้บอกว่าใครถูกใครผิดจริงๆ ก็พูดยาก เพราะแต่ละคนก็ล้วนเป็นเหยื่อของอำนาจ ความโลภ หรือจากตระกูลตัวเอง ต่างก็ถูกกระทำกันมาเป็นทอดๆ ...(บอกแล้วว่าเซ็ตนี้อะ จะมีสักกี่คนกี่คู่ที่ได้สมหวังหรือได้ทำตามใจตัวเองจริงๆ ยากกก)

แต่นักเขียนก็พยายามชี้ให้เห็นถึงปัญหาหลักอยู่นะ ว่าเรื่องแบบนี้หากมีคนซื้อมันก็ต้องมีคนขาย จุดเริ่มต้นมันอาจจะอยู่ที่ตระกูลหนึ่งที่ก่อตั้งสำนักนี้ขึ้น แต่ถึงที่สุดก็เป็นเพราะมีคนต้องการอยากได้แหละ มันถึงได้มีการลักพาตัวเด็กอยู่เรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่อยากซื้อ เพราะฉะนั้นหากจะจัดการเรื่องนี้ก็ต้องให้เจ้าแคว้นต่างๆ เห็นความสำคัญ ทุกคนหันมาร่วมมือกันถึงจะล้มล้างองค์กรเครือข่ายนี้ได้แบบถอนรากถอนโคน เพราะเรื่องนี้ถ้าสาวดูดีๆ ก็จะพบว่าแทบทุกคนต่างก็ล้วนมีส่วนที่ทำให้สำนักนี้เติบโตขึ้นมาได้จนถึงปัจจุบัน...

ส่วนตัวเท่าที่อ่านมาสามเรื่อง เราชอบลิขิตรักลายหงส์มากที่สุดนะ เพราะเป็นเรื่องที่พระ-นางสมหวังได้อยู่ด้วยกันจริงๆ 55  ส่วนมัจฉาพรางประกายกับเล่ห์บุปผาพิษนี่มันยังไงไม่รู้ จะบอกว่าจบดีสมหวังเราก็พูดได้ไม่ค่อยเต็มปากอะ จริงๆ จะว่าไปทั้งสามเรื่องนี้บทนางเอกจะเด่นที่สุดเลยนะ หรือจริงๆ เขาไม่ได้เน้นเรื่องรัก แต่เน้นที่การต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคของนางเอกหว่า .....

ป.ล. พาร๋ตความรักไม่รู้จะเรียกว่าสมหวังได้รึเปล่า เพราะรักอีกคนแต่ต้องอยู่กับอีกคน ...เลยไม่รู้จะเรียกใครว่าพระเอกดี 55


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น