วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Dear Mr. MOF หวานละมุนคุณที่รัก

 

Dear Mr. MOF หวานละมุนคุณที่รัก (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : ซูอี้
ผู้แปล : ซิงฉาย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก จางซูอี้ สาวชาวจีนที่เรียนจบเอกภาษาญี่ปุ่นแต่กลับค้นพบว่าตนรักในการทำขนมหวาน จึงตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนเป็นเชฟทำขนมหวานที่ประเทศฝรั่งเศส และด้วยอานุภาพของความรักที่มีต่อมิสเตอร์เอ็มโอเอฟ หรือเชฟขนมตาสีฟ้าสุดหล่อชาวฝรั่งเศสที่มีดีกรีเป็นถึงผู้ชนะการแข่งขันรายการ MOF หรือ Meilleur Ouvrier de France จากเดิมที่ว่าจะอยู่แค่ 9 เดือน เรียนจบแล้วกลับบ้านเกิด เธอก็ไปสมัครเป็นผู้ช่วยเชฟและพยายามหาทางอยู่ต่อเพื่อจีบเขา ถึงแม้จะต้องเผชิญความต่างทางเชื้อชาติ หรือความยากของภาษาและวัฒนธรรม แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับซูอี้แม้แต่น้อยที่จะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

เป็นแนวความรักผสมการทำขนม หวานละมุนทั้งเรื่องอาหารและความรัก นางเอกไม่ได้จีบตรงๆ แบบขอเบอร์แล้วโทรหาหรือส่งข้อความไปให้ แต่อาศัยการเป็นผู้ช่วยสอนค่อยๆ แทรกซึมเข้าไป คอยดูแลเอาใจใส่ และหมั่นโผล่หน้าไปให้พระเอกคุ้นชิน พอถึงคราวที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเชฟ เธอก็จะไปเตรียมของไว้ก่อน ใส่ใจคอยสังเกตพระเอกเป็นพิเศษหรืออยู่ทำโอทีด้วย ทั้งยังมาถึงก่อนเวลาไม่เคยสาย ซึ่งต่างจากใครหลายๆ คน เพราะนอกจากจะมีเรื่องขนมเป็นแรงจูงใจ เธอก็ยังมีพระเอกเป็นแรงผลักดันอีกด้วยยังไงล่ะ..อิอิ  

จนพระเอกประทับใจค่อยๆ รู้สึกดีด้วย คุ้นเคยกับการมีอยู่ของเธอ จนบางทีก็เผลอเรียกชื่อผิด (เรียกชื่อนางเอกออกมา แต่ตอนนั้นสอนกับผู้ช่วยคนอื่นอยู่) จากที่ไม่เคยสนใจใครหรืออะไรนอกจากการทำขนม พี่ก็เริ่มจำชื่อของนางเอกได้(คนเดียว)
เริ่มอ่อนโยนคุยเก่ง(กับนางเอก) ไม่เย่อหยิ่งเย็นชาหรือดุเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่นๆ หากวันไหนนางเอกมาสายก็ไม่ดุไม่ว่า แต่จะคอยเป็นห่วงกังวลแทน ห่วงว่านางเอกอาจจะเป็นอะไรหรือเกิดเหตุอะไรขึ้นรึเปล่า...อาการออกชัดมาก แบบคนรอบข้างก็ดูออกแต่พระเอกกลับไม่ทำให้สถานะมันชัดเจนสักที

มีดราม่านิดนึงงง คือพอมีคนเห็นพระเอกดีกับนางเอกก็อิจฉา เลยเอาเรื่องนางเอกไปพูดเสียๆ หายๆ ใส่ไฟกับเชฟอีกคน ทำให้นางเอกถูกเชฟคนนั้นต่อว่าและปฏิบัติด้วยไม่ค่อยดี แต่นางเอกก็ใจเย็นสู้ ชี้แจงอธิบายเหตุผลจนเชฟคนนั้นอึ้ง (อย่าคิดว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ นะ พอถึงคราวต้องสู้นางเอกก็สู้นะบอกเลย) แล้วก็มีเรื่องที่วีซ่ากำลังจะหมด นางเอกอยากอยู่ต่อ แต่คนที่ต้องเซ็นให้ก็ดันไม่เซ็นให้สักกะที แถมพระเอกที่ดูเหมือนจะชอบเธอเช่นกันก็ยังไม่ชัดเจนอีก จนวันหนึ่งด้วยความที่อะไรๆ มันถาโถมเข้ามาเยอะเหลือเกิน นางเอกเลยตัดสินใจสารภาพความรู้สึกออกไป...

เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเหมือนนิยาย แต่เหมือนกำลังอ่านไดอารี่หรือบันทึกชีวิตประจำวันของนางเอกมากกว่า อ่านง่าย เนื้อเรื่องฟีลกู้ด บางตอนอ่านแล้วก็ตลกกับความคิดนางเอก (เปรียบตัวเองเป็นห้องน้ำ ถ้าพระเอกชักช้าไม่ใช้ แล้วคนอื่นมาใช้ก่อนระวังจะเสียดายนะ 55) นางเอกเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ที่บ้านห่วงแต่ไม่หวง ยินดีปล่อยให้ลูกไปทำตามฝันค้นหาเส้นทางชีวิตของตนเอง แม้สุดท้ายลูกจะตัดสินใจอยู่ต่อเพราะมีคนที่รักที่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย ต่อให้ในใจจะห่วงหามากขนาดไหนแต่ก็ยังพร้อมสนับสนุน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก... จริงๆ มีบทไม่เยอะนะ แต่แค่สั้นๆ ก็ทำให้เราได้เห็นถึงความรักความห่วงใยที่พ่อแม่มีต่อลูก พี่มีต่อน้องได้แล้วอะ...

ส่วนพระเอกเวลาอยู่กับนางเอกก็เหมือนเด็กน้อยอายุ 3 ขวบมากกว่าผู้ใหญ่ 55 เปลี่ยนไปเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้งอน แถมยังขี้หึงมาก แบบว่ามากกกกกกกจริงๆ เช่น...
1 เห็นนางเอกคุยกับหนุ่มเอเชียคนไหน พี่ก็คิดว่าเขาเป็นแฟนนางเอกหมด
2 นางเอกเรียกเพื่อนผู้ชายว่าพี่(แล้วตามด้วยชื่อ) พระเอกก็หึง ทำไมถึงเรียกว่าพี่ล่ะ เป็นพี่น้องกันเหรอ แล้วทำไมกับผมคุณถึงเรียกว่า เชฟ ..(แบบอยากให้เรียกหวานๆ อะ) (-_-“)
3 ถ้ากลับก่อนโดยไม่ได้บอกลาพี่ก็น้อยใจ พอวันถัดไปก็ต้องให้นางเอกพูดบอกลาสองรอบด้วยนะจ๊ะ (ชดเชย) ....
4 นางเอกเอาไอติมที่พี่ทำ(จนล้นตู้) ไปให้คนอื่นกินก็ไม่ได้ จะชายหรือหญิงก็ห้าม เพราะผมทำให้คุณกินคนเดียวเท่านั้น 55....ยังมีอีกเยอะต้องลองไปอ่าน เล่มเดียวจบบางๆ ย่อยง่าย อ่านแล้วต้องเผลอยิ้ม(กันบ้างแหละ) ...

ป.ล. อ่านจบแล้วสรุปก็ยังไม่รู้เลยว่าตกลงพระเอกชื่อจริงชื่ออะไร อายุจริงเท่าไร เรียกแต่มิสเตอร์เอ็มโอเอฟกันทั้งเรื่อง ส่วนเชฟคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน เรียกแต่ฉายา ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าชื่อจริงๆ ชื่ออะไร?

ป.ล. เพิ่งสังเกตเห็นว่านักเขียนก็ชื่อเดียวกับนางเอกของเรื่องด้วย 55 ..



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น