ผู้แต่ง : 米可麻
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอก เถียนนี เป็นเชฟขนมหวานที่กำลังจะมีร้านเป็นของตัวเอง
แต่ยังไม่ทันได้เปิดก็ดันสะดุดล้มแล้วทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ เถียนเอ้อร์ยา เด็กสาวสมองเลอะเลือนของบ้านสกุลเถียนที่แสนจะยากจนข้นแค้นเข้าซะก่อน เหตุเพราะบิดาผู้แสนเก่งกาจของร่างนี้มาด่วนจากไป อีกทั้งมารดาก็ยังอ่อนแอไม่สู้คน จึงทำให้สองแม่ลูกถูกญาติพี่น้องรังแก ถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกหลอกเอาที่ดินทำกินไป...แต่เมื่อหญิงสาวสมัยใหม่จากโลกอนาคตได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้
อะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะเธอจะไม่มีวันยอมอยู่เฉยๆ
ให้ใครมารังแกหรือต้องทนกัดก้อนเกลือกินเป็นอันขาด ทุกสิ่งที่ถูกแย่งชิงไปเธอจะเป็นคนเอามันกลับคืนมาเอง...
พระเอกเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กที่โตมาด้วยกันกับเจ้าของร่างเก่า
เป็นเด็กกำพร้าที่บ้านสกุลอู๋รับเลี้ยงมา แต่เพราะพูดไม่ได้ จึงทำให้ถูกส่งตัวมาอยู่ที่ชนบทแทน
เป็นคนที่คอยช่วยเหลือแนะนำนางเอก เวลาไปไหนหรือไปทำอะไรพี่ก็ตามไปช่วย คอยอยู่ข้างๆ ถึงจะพูดไม่ได้แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างทั้งสองคน
เป็นแนวปลูกผักทำสวน ทำอาหาร ทำขนม ทำชา ทำสบู่ บลาๆ มากมายสารพัด
นางเอกหัวการค้ามีความคิดใหม่ๆ ผุดออกมาอยู่ตลอดเวลา เป็นคนใจกล้า สู้คน
แม้ชีวิตใหม่จะลำบากยากจนแต่นางก็สู้ สู้เพื่อตัวเอง
เพื่อแม่ของเจ้าของร่างนี้จะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ต้องอดอยากหรือถูกใครรังแกอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่ไปไฟท์ทวงที่ดินทำกินของบ้านคืน
ต่อจากนั้นก็ปลูกพืชสมุนไพร ปลูกผัก ทำสวนท้อต่อจากพ่อ(เจ้าของร่างนี้)ที่ตายจากไป
แล้วก็เริ่มขยับขยายมองหาช่องทางทำธุรกิจใหม่ๆ
อย่างเช่นขายน้ำชา ขณะที่ขายก็โฆษณาประชาสัมพันธ์งานเฉลิมฉลองลูกท้อที่สวนของตัวเองไปด้วย
เอาแนวคิดจากยุคปัจจุบันมาปรับใช้ แทนที่จะจ้างรถขนไปขายในเมืองเหมือนคนอื่นๆ
ก็จัดงานเทศกาลลูกท้อของตัวเองให้คนมาเยี่ยมมากินที่สวนมันซะเลย
จะได้ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ไม่ต้องกังวลว่าผลไม้จะเสียหายระหว่างทาง
ได้ทั้งค่าเข้างาน-ค่ากิน วินวิน
แต่ๆๆ ยังไม่พอ
เพราะนางเอกคือเชฟขนมหวานที่มาจากโลกอนาคต
ดังนั้นความฝันของเธอจึงไม่อาจหยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะด้วยฝีมือในการทำอาหาร ทำขนมและความรู้ต่างๆ
ที่ติดตัวมา จึงทำให้นางดึงดูดผู้คนและยังสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปเจรจาทำการค้ากับคนอื่นได้
ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาขอเช่าที่ปลูกสมุนไพร ขอซื้อเนื้อสัตว์
และขอส่งขนมไปวางขายในร้านขนมชื่อดังอันดับหนึ่งของเมือง ไม่ว่าอะไรก็ล้วนสำเร็จ จากเด็กสาวสติเลอะเลือนในวันวานที่ใครๆ
ต่างดูถูกรังแก ก็เปลี่ยนกลายมาเป็นฉลาดเฉลียว เฉียบคม เต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ
ใหม่ๆ (ก็เอามาจากยุคปัจจุบันนั่นแหละ) ได้ผูกสัมพันธ์รู้จักกับผู้คนมากมาย ค่อยๆ
มีชื่อเสียงและทำให้ผู้คนต้องจดจำ
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้นางเอกเด่น
ดังนั้นบทของพระเอกจึงอาจจะแลดูจืดจางไปบ้าง
ทั้งยังต้องอยู่ในกรอบของท่านอาที่เลี้ยงดูมาบวกกับเรื่องชาติกำเนิดที่ดูมีซัมติง จึงทำให้พระเอกทำอะไรตามใจชอบไม่ค่อยได้
จะไปไหนก็ต้องกลับมากินข้าวที่บ้านให้ตรงเวลา
ต้องยึดท่านอาเป็นหลัก พระเอกจึงไม่มีอิสระเท่าที่ควร
ส่วนใหญ่เวลามีปัญหานางเอกก็จะจัดการลุยเอง พึ่งลำแข้งของตัวเองเลย ส่วนพระเอกก็คล้ายกับเป็นผู้ช่วยที่คอยให้การชี้แนะสนับสนุนมากกว่า หรือไม่ก็โผล่มาในตอนที่สถานการณ์วิกฤต
กว่าพี่แกจะได้ปล่อยของแสดงพลังออกมาจริงๆ ก็เล่มสุดท้ายเลย พอไม่ต้องทนปิดบังอะไรแล้ว พระเอกถึงสามารถแสดงความเป็นตัวเองและปกป้องนางเอกได้อย่างแท้จริงสักที....
จะว่าไปพระเอกก็น่าสงสารนะ
ทั้งต้องปกปิดชาติกำเนิด มีบ้านแต่ไม่อาจกลับ ต้องแสร้งทำเป็นใบ้ ต้องใช้ชีวิตตามใจคนอื่น
เขาอยากให้สอบเป็นขุนนางก็ต้องสอบ ต้องเรียนต้องอ่านหนังสือ แต่จู่ๆ
มาวันหนึ่งบอกไม่ต้องสอบแล้ว ก็แค่เนี่ยง่ายๆ ...อยากให้กลับเข้าตระกูลก็ต้องไป
...ดีนะที่โตมาไม่เก็บกดยังเป็นคนจิตใจดีอยู่
อุปสรรคความวุ่นวายในเรื่องและปัญหาของนางเอกส่วนใหญ่ก็มาจากคนรอบข้าง
หรือไม่ก็ญาติตัวเองนี่แหละ เป็นมาตั้งแต่รุ่นพ่อและ แบบเห็นบ้านนางเอกได้ดีกว่าไม่ได้
พอเห็นเขาได้ดีก็อิจฉาริษยาอยากกำจัด จะทำอะไรก็ต้องหาทางเอารัดเอาเปรียบ
โลภมากอยากได้ของเขา คนรอบข้างก็กลัวไม่มีใครกล้าพูดหรือช่วย คือถ้านางเอกไม่ทะลุมิติมานะ
จบสิ้นแน่นอนบ้านเจ้าของร่างเดิมเนี่ย พอพ่อนางเอกตายก็มาหลอกฮุบเอาที่ดินไป
พอเห็นนางเอกหายดีกลายเป็นคนฉลาดก็คิดจะใช้ความเป็นผู้อาวุโสส่งนางแต่งงานไปอยู่ที่อื่น
เพื่อจะได้เอากิจการทุกอย่างของนางเอกมาเป็นของตน แต่มีหรือนางเอกจะยอม..
จริงๆ เรื่องนี้สเกลเล็กนะ แต่พออ่านแล้วกลับมีเรื่องราวอะไรไม่รู้เยอะมาก 55
ทั้งที่เรื่องก็ดำเนินอยู่แค่ในชนบทกับในตัวเมืองเล็กๆ
พระ-นางก็เป็นคนธรรมดา
พระเอกเป็นลูกของตระกูลที่รวยที่สุดของเมืองนี้
เป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำหมึก (เป็นหมึกที่ฮ่องเต้ใช้) นายหญิงของตระกูลก็เป็นลูกสาวขุนนางจากเมืองหลวง
จึงทำให้ตระกูลนี้ยิ่งเป็นที่นับหน้าถือตา ผู้คนในเมืองรวมถึงนายอำเภอล้วนให้ความเคารพยำเกรง...
ซึ่งบอสใหญ่ของเรื่องก็คือนายหญิงใหญ่ของตระกูลนี้แหละ ใหญ่จริงๆ ไม่มีใครกล้าหือ ขนาดนายอำเภอยังต้องเกรงใจ พระเอกยังต้องถูกส่งไปอยู่ที่อื่นเนื่องจากเกรงว่าจะถูกนาง(ซึ่งเป็นเมียเอกพ่อ)
ฆ่าเหมือนลูกอนุคนอื่นๆ เพราะนางเล่นกำจัดลูกอนุของสามีในบ้านซะเกลี้ยง จนสุดท้ายตระกูลไม่มีผู้สืบทอดแล้วถึงได้ยอมให้คนพาพระเอกกลับมา... เหอๆ ๆ
นางเอกก็งานเข้าเยอะ มีแต่คนมาหาเรื่องจนแทบจะจบเล่มเลย กิจการก็ต้องสร้าง งานอย่างอื่นก็ต้องทำ เราก็รอดูว่าเมื่อไรนางจะเปิดร้านสำเร็จ
ลุ้นว่าเมื่อไรจะได้เปิดร้านสักที
รอมาตั้งแต่เริ่มแสดงฝีมือทำของกิน
เริ่มไปติดต่อเจรจาทำนั่นนู่นนี่ แล้วก็วนเวียนแบบนี้
สรุปได้เปิดท้ายเล่มเกือบจบเลยจ้า..หลักๆ ก็วนๆ กับการทำอาหาร คิดสร้างธุรกิจใหม่ แล้วเดี๋ยวก็มีคนมาหาเรื่อง แล้วก็ทำอาหาร วนลูปอยู่แบบนี้แหละจนจบเรื่อง
ส่วนอาหารก็มีทั้งของคาวของหวาน อย่างเช่นสเต็ก แซนวิช เค้ก ขนมปังและอีกมากมาย
ทั้งชื่ออาหาร ส่วนผสม
ขั้นตอนการทำ วิธีดูแลพืชผักสมุนไพร จัดเต็มประหนึ่งคู่มือ ...
เสียดายตั้ง 4 เล่มแต่เนื้อเรื่องเหมือนวนไปวนมาไม่มีจุดพีคอะไรเลย กิจการร้านของนางเอกกว่าจะได้เปิดจริงก็ท้ายๆ แล้ว สรุปรวบยอดภายในไม่กี่หน้าว่าต่อมานางได้เปิดร้านอะไรแล้วร่วมมือกับใครอีกบ้าง
....
พาร์ทความรักก็เรื่อยๆ น่ารักดี พระ-นางมีใจให้กันมาตั้งแต่ต้นๆ แล้ว
พระเอกสายอบอุ่นอ่อนโยน พูดน้อย (ที่พูดไม่ได้...เพราะเหตุผลบางอย่าง)
ทว่าถึงจะพูดไม่ได้แต่ทั้งสองคนก็คุยกันรู้เรื่องนะ เขาสื่อสารกันด้วยภาษามือ
ภาษาใจและใช้สายตาบอกกล่าว..อิอิ
พระ-นางต่างก็มีปัญหา(ทางบ้าน) ของตัวเองที่ต้องไปจัดการแก้ไข
แต่ทั้งคู่ก็เป็นเซฟโซนคอยให้กำลังใจกันและกัน เชื่อใจกัน ถึงบางครั้งจะมีเหตุให้ต้องแยกจากโดยไม่ได้บอกก็ไม่มีใครโกรธใคร
ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต่างเข้าใจกันดีว่าอีกฝ่ายกำลังเผชิญกับสิ่งใด
แม้ตอนแรกท่านอาของพระเอกจะไม่เห็นด้วยถ้านางเอกจะมาเป็นลูกสะใภ้
คอยบอกเป็นนัยๆ ว่านางเอกคุณสมบัติฐานะไม่เหมาะสมนะ แต่นางเอกก็ชิวๆ ไม่สน
เพราะเรื่องหาเงินต้องมาก่อนความรัก ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาละกัน
สมกับที่เป็นสาวแกร่งที่มาจากยุคสมัยใหม่จริงๆ ส่วนแม่นางเอกจากที่กลัวไปซะทุกเรื่องแต่พอเป็นเรื่องความรักของลูก
คุณแม่ก็สู้ตาย ให้การสนับสนุนเต็มที่ เชียร์สุดใจ.....ส่วน nc ไม่มีจ้า ใสมากกก
แค่จับมือสบตากันก็หน้าแดงแว้วว
ป.ล. การแปลส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกว่ายังไม่ค่อยลื่น ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ ของสนพ.นี้ที่เคยอ่านมาก่อนหน้า เราว่าเรื่องนี้ดรอปลงนะ แล้วก็มีคำผิดอยู่นิดหน่อยประมาณ 2-3 จุด ...(แต่ก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้เน้อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น