สำนักพิมพ์ แจ่มใส
ซูเพียนจื่อ เด็กสาวจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติไปอยู่ในดินแดนพันเมฆา
ดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร ของวิเศษและผู้ฝึกวิชายุทธ์ กลิ่นอายคล้ายๆ เงาเพลิง
มีสัตว์วิเศษ ขั้นพลัง หลอมยา หลอมอาวุธบลาๆ
แต่เรื่องนี้จะแบ่งเป็นตระกูลธรรมะ ตระกูลอธรรม และตระกูลที่เป็นกลาง
กับชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มีพลังเลย
ในดินแดนนี้จะวัดค่าพลังวัตรหรือผู้มีพรสวรรค์สูงด้วยความยาวของเส้นผม
ยิ่งผมยาวมากเท่าไรก็ยิ่งถือว่าเก่งและมีพลังวัตรสูง
ดังนั้นเมื่อนางเอกทะลุมิติมาจึงถูกคนเข้ามารุมล้อมทันที
เพราะคิดว่านางคือชาวสวรรค์ในตำนานที่รอบพันปีจะจุติลงมาสักคน ซึ่งชาวสวรรค์ในเรื่องนี้ก็คือคนที่มาจากโลกอื่นหรือมิติอื่น จะมีความสามารถในเชิงยุทธ์สูงกว่าคนทั่วไปในดินแดนแห่งนี้แต่กำเนิด
แถมเส้นผมของนางเอกก็ยังยาวถึงเอว คนเลยนึกว่าต้องมีพลังสูงแน่นอน
แต่กลายเป็นว่านางเอกกลับไม่มีพลังอะไรเลย
เพราะสัญลักษณ์ที่แขนซ้ายของนางไม่มีสีสันใดๆ ที่บ่งบอกถึงระดับพลังปรากฏ ทุกคนจึงคิดว่านางเอกเป็นชาวสวรรค์ที่ถูกริบคุณสมบัติ
ไม่มีพลังและเป็นแค่ขยะไร้ค่าเท่านั้น
พระเอกก็ตามมาดูด้วยเช่นกัน เพราะถูกเพื่อนสนิทที่เป็นคนตระกูลเทวพยากรณ์ยุให้มาดูนางเอกที่ถูกระบุว่าเป็นเนื้อคู่ตามคำทำนาย และจะเป็นคนที่มากอบกู้หายนะวันสิ้นพิภพร่วมกับตัวเอง
แต่สิ่งที่พระเอกได้เห็นก็คือนางเอกที่ไร้พลังและยังมีอาการคลั่งบุรุษ
(คือพระเอกหล่อมากจริงๆ นางเอกเห็นครั้งแรกก็เลยจ้องนานไปหน่อย55)
แถมยังมีสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวสีม่วงอยู่ที่แขนขวา ที่บ่งชัดว่าเป็นคนตระกูลสิบแปดมงกุฏที่อยู่ฝ่ายอธรรมตรงข้ามกับตัวเองอีก
พี่แกจึงสะบัดตูดจากไปอย่างไม่สบอารมณ์
ปล่อยให้นางเอกยืนงงอยู่ในดงป่าคนเดียว..
หลังจากนั้นนางเอกก็ได้เจอกับสัตว์อสูรที่เป็นม้าพูดได้ พี่ม้าเป็นคนบอกว่านางเอกเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มาจากตระกูลไหน
พ่อแม่อยู่ที่ใด แล้วก็พานางเอกกลับเข้าตระกูล
พึ่งพาได้ยิ่งกว่าพระเอกอีกนะเนี่ย 55 ถ้าพี่ม้าไม่มาหานี่ตายเลยนะ ไม่รู้จะไปยังไงต่อดี
(พออ่านไปเดี๋ยวจะเดาได้ว่าพี่ม้าเป็นใคร และมีความเกี่ยวข้องกับนางเอกยังไง)
พอกลับเข้าตระกูลด้วยความที่ไม่มีพลังวัตรและไม่อาจฝึกฝนวิชายุทธ์ได้
คนในตระกูลเลยไม่ได้สนใจ บางส่วนก็ดูแคลนมองว่าเป็นขยะ
แต่ดีที่มีพี่ม้าอยู่ข้างๆ คอยช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้
นางเอกเลยไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวและสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกใบนี้ได้
จริงๆ นางเอกก็เป็นคนในโลกนี้แหละ แต่ถูกพ่อกับแม่ปิดผนึกพรสวรรค์และส่งไปอยู่โลกมนุษย์ด้วยเหตุผลบางอย่าง เพื่อตามหาพ่อ+แม่และเปิดผนึกพรสวรรค์ที่ถูกปิด
ก่อนกลับเข้าตระกูลนางเอกจึงต้องตัดผมให้สั้นเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
และเข้าสอบทุกวิชาที่ตระกูลจัดสอบเพื่อจะได้เลื่อนขั้น และไปตามหา ‘ไร้นาม’
ของวิเศษประจำตระกูลในตำนาน เพื่อหาเบาะแสพ่อกับแม่และปลดผนึกพลังตัวเอง
แต่เพราะไม่มีพลังวัตร เวลาที่สอบภาคปฏิบัตินางเอกจึงต้องอาศัยทริคพลิกแพลงเอา
ออกแนวฉลาดเกมโกง ไม่สนวิธีการและขั้นตอน ขอแค่ให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามที่ต้องการก็พอแล้ว
55
พอเข้าเล่ม 2 นางเอกกับเด็กในตระกูลคนอื่นๆ ก็ถูกส่งออกจากถ้ำเพื่อไปทำภารกิจ
เนื้อเรื่องจะเริ่มสนุกขึ้น วิธีเพิ่มพลังเพื่อเลื่อนขั้นของนางเอกก็ไม่เหมือนใคร
เพราะต้องอาศัยการหลอกคนเพื่อเพิ่มพลังปราณแล้วเอามาเลื่อนขั้น ยิ่งขั้นสูงขึ้นเท่าไรก็ยิ่งต้องหลอกคนให้ได้มากขึ้นเท่านั้น
และเพราะวิธีการเลื่อนขั้นที่ไม่เหมือนชาวบ้านนี่เอง
นางเอกจึงไม่ค่อยมีฝีมือในการต่อสู้เหมือนคนอื่นเขา
แต่นางก็แก้ปัญหาด้วยการหาสัตว์อสูรมาเป็นพวกเพื่อเอาไว้ใช้ต่อสู้แทน ประกอบกับมีของวิเศษเจ๋งๆ ติดตัว
ดังนั้นเวลาที่ต้องสู้กับคนที่เก่งกว่า นางจึงพอเอาตัวรอดผ่านมาได้อยู่...
ในเล่ม 2 นางเอกเลื่อนไปถึงขั้นเปลี่ยนกระดูก
(พอถึงขั้นนี้หน้าตาจะเปลี่ยนจากเดิม)
และได้เจอของวิเศษที่สามารถเลือกปิดสัญลักษณ์ตระกูลได้
นางเอกจึงปิดสัญลักษณ์ของตระกูลพ่อและใช้สัญลักษณ์ตระกูลแพทย์ของแม่แทน หลังจากนั้นนางเอกกลับเข้าตระกูลฝั่งแม่ พร้อมกับตัวตนใหม่และชื่อใหม่ว่า
หลิ่วเชียนหวง
ตระกูลแพทย์กำลังตกต่ำ ทำให้ถูกตระกูลบริวารหรือตระกูลโอสถกดหัว
เพราะหลังจากที่แม่นางเอกหายไป
ตระกูลแพทย์ก็ไม่มีลูกหลานเก่งๆ ที่มีพรสวรรค์ออกมาอีกเลย ของวิเศษประจำตระกูลก็ใช้การไม่ได้เมื่อแม่นางเอกไม่อยู่
แต่พอนางเอกทำให้ของวิเศษของตระกูลแพทย์ยอมรับตัวเองเป็นนายได้
ตระกูลแพทย์ก็เริ่มกลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง และด้วยพลังของของวิเศษที่นางเอกมี
จึงทำให้สามารถพกพาน้ำพุนี้ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยได้ทุกที่
อยากใช้งานเมื่อไรก็ควักออกมาได้ทุกเวลา ไม่ต้องวิ่งกลับไปเอาที่ตระกูลเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มาอีกแล้ว..
ระหว่างนั้นนางเอกก็เริ่มสร้างลัทธิเซียนใจประเสริฐขึ้นเพื่อไว้รวบรวมพลัง
และรวบรวมสัตว์อสูรมาเป็นลูกน้องเพื่อเอาไว้เป็นพวกเวลาต่อสู้
นางเอกได้ใช้น้ำพุนี้ช่วยคน ทำให้คนติดหนี้บุญคุณตระกูลแพทย์ เผื่อวันหน้าตระกูลแพทย์เกิดเรื่องจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของนางเอกยิ่งโด่งดัง
พอเข้ามาเรียนในวังศาสตร์ก็ยิ่งป๊อป ด้วยความที่สวย+เก่งและนิสัยดี ไม่ทำตัวสูงส่ง แต่กลับเป็นกันเองเข้าถึงง่าย ผิดกับนางร้ายลิบลับ จึงทำให้ใครต่อใครยิ่งมองนางเป็นเทพธิดา
ส่วนพระเอกก็จำนางเอกไม่ได้(หน้าตาเปลี่ยน)
แล้วก็แอบรู้สึกว่านิสัยของอีกฝ่ายไม่น่าจะเหมือนกับภาพลักษณ์ที่คนภายนอกเห็นในตอนนี้
น่าจะมีอะไรปิดบัง (เซ้นส์แรงมากสมกับที่เป็นเนื้อคู่เขา) แต่ถึงนางเอกจะทำดีแบบแอบหวังผล
แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่าสิ่งที่นางทำมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ กล้าทุ่มจริงๆ ..(เพราะไม่มีใครมีของวิเศษเจ๋งเท่านาง)
พระเอก เจิ้งเฮ่าอี้ เป็นคนตระกูลตุลาการหรือนักปกครอง 1 ใน 3 ตระกูลธรรมะที่ทรงอิทธิพล
พระเอกเป็นลูกหลานของตระกูลโบราณที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดในตอนนี้
นิสัยสุขุมหนักแน่น ระดับพลังสูง เป็นคนที่ถูกของวิเศษประจำตระกูลยอมรับให้เป็นนาย
คือผู้นำคนต่อไปของตระกูลหรือฮ่องเต้คนต่อไปในอนาคต
แต่เมื่อนางเอกปรากฏตัว ตำแหน่งอัจฉริยะของพระเอกก็เริ่มสั่นคลอน 55 ...
แต่ถ้าวัดกันจริงๆ พระเอกก็ยังเก่งกว่านางเอกอยู่ดี
เพราะพี่แกเก่งด้วยกำลังความสามารถของตัวเองไม่ได้พึ่งของวิเศษ
ในขณะที่นางเอกนั้นต้องอาศัยของวิเศษถึงจะได้อันดับสูงๆ
สองเล่มแรกพระเอกค่าตัวแพงมาก
เพิ่งเริ่มออกมาเยอะตอนช่วงกลางเล่ม 3 ที่นางเอกเข้ามาเรียนที่เดียวกันนี่เองถึงได้มีอีเว้นท์ร่วมกัน
คิดว่าหลังจากนี้คงได้ออกเยอะแล้วแหละ
แถมพี่แกก็ดูเหมือนจะเริ่มชอบนางเอกขึ้นมาแล้วด้วย แต่แค่ยังไม่รู้ตัว (แต่ก็เริ่มมีอาการหึงเวลาเพื่อนเอ่ยถึงนางเอกแล้วนะ
แต่ยังไม่รู้สึกตัว)
แต่นางเอกเวอร์ชั่นหลินเชียนหวงนี่เสน่ห์แรงมากจริงๆ มีแต่คนชอบ แถมยังมีแต่ตัวท็อปๆ ทั้งนั้นที่มาชอบ อย่างทายาทตระกูลอธรรม นี่ก็หน้าตาดีมากแถมยังสายรุกปากหวานด้วย
แล้วก็มีเพื่อนพระเอกที่อยู่ตระกูลเทวพยากรณ์ คนนี้ก็ชอบนางเอกมาก เห็นเป็นเทพธิดาในฝัน เห็นคนแล้วน้ำลายจะหก อยากตามจีบเขา แต่ก็ต้องแอ๊บวางตัวสูงส่ง ไม่งั้นเดี๋ยวภาพลักษณ์ตระกูลจะเสียหาย55
อ่านจบแล้วส่วนตัวเราว่ามันได้อารมณ์เหมือนแฮรี่ผสมหัวขโมยบารามอสอะ
ตัวร้ายก็คล้ายๆ ลอร์ดโวลเดอมอร์ (อ่านเล่ม 3 จบก็พอเดาได้และว่าคือใคร)
แล้วก็มีคนตระกูลหนึ่งที่เป็นลูกสมุน แอบคล้ายๆ พวกผู้เสพความตาย ประมาณเนี่ย ...
ตอนเล่มแรกเราแอบเนือยๆ เพิ่งมาเริ่มเครื่องติดตอนเล่ม 2 ที่ออกจากถ้ำหลังจากนั้นก็ยาวเลย สนุกดี ถึงแม้นางเอกจะซูไปบ้างก็ตาม 55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น