วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน 3 เล่มจบ


คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เข่อเล่อเจียงทัง
ผู้แปล : เสี่ยวหวา
ปก : Renmalis
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเป็นบล็อกเกอร์สายอาหารที่ทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ ในร่างของ เจียงซูเหย่า บุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกของจวนเซียงหยางปั๋ว พอลืมตาตื่นขึ้นมายังไม่ทันได้สอบถามเรื่องราวความเป็นมาของร่างเดิม ก็ถูกยัดใส่เกี้ยวต้องแต่งงานกับพระเอกซะแล้ว พระเอก เซี่ยสวิน เป็นบุตรชายคนที่สามของเซี่ยกั๋วกง หรือทั่นฮวาหนุ่มสุดหล่อรูปงาม มากความสามารถ ที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ บุรุษที่สาวๆ ทั่วทั้งเมืองต่างหมายปองอยากได้เป็นสามี แต่กลับถูกเจ้าของร่างนี้เล่นลูกไม้สกปรกทำให้อีกฝ่ายต้องส่งคนมาสู่ขอและแต่งงานด้วยความไม่เต็มใจ นอกจากจะใช้แผนให้ได้แต่งงานกับพระเอกแล้ว เจ้าของร่างเดิมก็ยังมีชื่อเสียงฉาวโฉ่จนเป็นที่เลื่องลือ จึงทำให้เป็นที่รังเกียจของสามี บ้านสามี และใครต่อใครอีกมากมาย ทว่าอะไรๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนางเอกเข้ามาอยู่ในร่างนี้...

ด้วยความเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบกินของอร่อย แต่ต้องมาเจออาหารยุคโบราณที่จืดชืดและมีวิธีการปรุงเพียงไม่กี่วิธี นี่มันคือโศกนาฏกรรมสำหรับสายกินชัดๆ  นางเอกเลยรีบไปขออนุญาตทางเรือนใหญ่เพื่อจะได้เปิดห้องครัวเล็กไว้ที่เรือนตัวเอง จะได้เข้าครัวทำของกินได้สะดวกๆ ตอนแรกเรือนใหญ่จะไม่ให้เพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง แต่นางเอกบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวควักตังค์จ่ายเอง ฝ่ายนั้นก็เลยให้เปิด (บ้านฝั่งแม่นางเอกรวยมากกก เป็นวานิชที่รวยที่สุดในแคว้น)

เรียกได้ว่ามีอาหารเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ เพราะอาหารนี่แหละจึงทำให้ผู้คนหายอคติและอยากผูกมิตรเข้าหานางเอก เริ่มจากหลานแฝดตัวน้อย และก็ตามด้วยพระเอกหรือสามีที่นอนแยกห้องกันตั้งแต่คืนวันเข้าหอ เดิมฮองเฮาคิดจะมอบสมรสพระราชทานให้พระเอกแต่งกับนางเอกตามคำขอของป้านางเอกที่เป็นกุ้ยเฟย พอพระเอกรู้ก็เลยชิงไปสู่ขอก่อน เพราะถ้าได้สมรสพระราชทานมาจะทำให้ขอหย่าไม่ได้ พอแต่งมาพระเอกเลยมีท่าทีเย็นชาไม่สนใจเมีย แยกกันอยู่คนละห้อง ...แต่พอได้ชิมอาหารฝีมือนางเอก ได้เห็นหลานชายตัวน้อยคอยตามเกาะติดนางเอกเหมือนหางน้อยๆ พระเอกก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองความคิดที่มีต่อเมียใหม่ แต่ในเวลานั้นนางเอกยังไม่ได้คิดอะไร แค่อยากได้คนช่วยกินและกำจัดอาหารไม่ให้เหลือทิ้งเท่านั้น เพราะเห็นหล่อๆ เย็นชาแบบนี้แต่ความจริงพระเกกินจุมากกกกเด้อ ยิ่งพอได้ลิ้มรสอาหารที่นางเอกทำ พระเอกก็แทบกินอาหารที่อื่นไม่ได้อีกเลย ติดใจฝีมือเมียแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไปทำเย็นชาเมินใส่เขาไว้เยอะ เลยไม่กล้าร้องขอให้เมียทำอาหารให้ หรือจะบอกให้ช่วยทำข้าวกล่องไปกินที่ทำงานให้หน่อยก็ไม่กล้า ...โถถถถ

หลังจากนั้นเวลาได้ยินเมียเรียกไปกินข้าว หรือให้ชิมของอร่อยพระเอกก็จะยิ้มหน้าบาน เพื่อนสนิทที่ทำงานในตำหนักบูรพาด้วยกันเห็นพระเอกกินของแปลกๆ ก็ขอชิมบ้าง แล้วก็โดนตกไปอีกราย ต้องคะยั้นคะยอขอร้องให้พระเอกพาไปกินข้าวที่จวนหน่อย (นี่ก็คุณชายตระกูลดังเหมือนกันนะ) ...หลังๆ ไม่ได้มีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่ติดใจอาหารของนางเอก เพราะหลังๆ นี่ยกมากันทั้งที่ทำงาน รวมไปถึงรัชทายาทที่เป็นเจ้านายก็มาขอร่วมวงด้วย 55 ...เพราะอาหารในที่ทำงานจืดชืดมากแถมยังเย็นชืด เวลาพระเอกห่อข้าวมาเลยมีแต่คนคอยจ้องและอิจฉา เพราะนางเอกให้คนทำกล่องอาหารแบบยุคปัจจุบัน แบบที่เวลากินสามารถอุ่นให้ร้อนได้ให้พระเอกเอาไปใช้ แถมอาหารยังมีรสเผ็ดจัดจ้านหลากหลายแปลกตา และที่สำคัญคืออร่อยมากกก ยิ่งกินยิ่งหิว...

ทว่านอกจากเรื่องทำอาหารก็ยังมีเรื่องการค้า นางเอกเห็นว่าแม่ไร้ชีวิตชีวาดูหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ต้องเป็นทุกข์จากเรื่องที่สามีมีอนุเยอะ จนทำให้ไม่อยากอาหาร แล้วบังเอิญว่าแม่ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ นางเอกเลยไปปรึกษาพระเอก พอรู้ว่าในอดีตแม่ชอบค้าขาย (เป็นลูกพ่อค้าวานิช) ก็เลยอยากให้แม่ได้กลับไปทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง เลยออกไอเดียให้เปิดร้านอาหาร แต่แม่ปฏิเสธเพราะไม่อยากให้ลูกซ้ำรอยตัวเอง พระเอกเลยไปคุยกับแม่ยายใหม่ อธิบายจนแม่คล้อยตาม พร้อมคุกเข่าขอโทษที่ก่อนหน้านี้เคยทำไม่ดีหมางเมินนางเอกไป สัญญาว่าต่อแต่นี้ตนจะปกป้อง จะทำดี จะรักทะนุถนอมนางเอกผู้เป็นภรรยาไปชั่วชีวิต

แม่นางเอกเลยกลับมาทำการค้าใหม่ มีแรงใจในการใช้ชีวิตอีกครั้งเพราะได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่ต้องหมกมุ่นทุ่มอยู่กับการฟาดฟันเมียเล็กเมียน้อยในเรือนหลังอีก นางเอกก็ได้คิดค้นปรับปรุงสูตรอาหารใหม่ๆ ไปขาย แต่ไม่ได้ขายเพื่อหวังรวยนะ ขายเพื่อให้คนชั้นล่างชาวบ้านทั่วไปได้กินของอร่อยที่ร้อนๆ และอิ่มท้องราคาไม่แพง ร้านแรกเปิดขายให้กับชาวประมงที่ท่าเรือ เพื่อนที่ทำงานพระเอกซึ่งเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์พอรู้ข่าวก็ปลอมตัวใส่เสื้อผ้าธรรมดาไปกินด้วย (ตลกอะ คือมา 7 คน แยกกันมาไม่ได้นัดกันด้วย แต่ดันใส่เสื้อผ้าสีเหมือนกันแบบเดียวกันมาเป๊ะ มองไกลๆ เหมือนกลุ่มแฝดยักษ์ 7 คน 55) แล้วต่อมาก็ไปทำย่านของกินเล่น มีร้านขายอาหารพวกของกินเล่นมากมายให้เลือกกิน อารมณ์ street food อะ พระเอกก็คือดีมาก เมียอยากทำอะไรก็สนับสนุนคอยช่วยเสมอ เพื่อนหรือคนรอบตัวจากที่เคยเห็นใจที่พระเอกต้องมาแต่งกับสตรีชื่อเสียงฉาวโฉ่ หลังๆ ก็เริ่มมาเลียบๆ เคียงๆ ถามว่านางเอกยังมีน้องสาวไหม พากันอิจฉาพระเอกที่ได้กินแต่ของอร่อยทุกวัน 55

แถมอาหารของนางเอกก็ยังช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้านดีขึ้นด้วย ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตใครหลายคน รวมถึงช่วยสลายความคับข้องหมองใจระหว่างคนในครอบครัว ทำให้บรรยากาศที่บ้านดีขึ้น เรือนพระเอกก็กลายเป็นศูนย์กลางที่ทุกคนชอบมารวมตัวกัน ทำให้พระเอกเริ่มกลุ้มเพราะเมียเป็นที่รักของคนอื่นมากเหลือเกิน มีแต่คนต้องการตัวอยากคบหา พระเอกเลยไม่ได้เป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้กินอาหารที่เมียทำอีกแล้ว ...ฮือๆๆ มันน่าน้อยใจจริงๆ หวงเมียแต่ไม่กล้าพูด แต่นางเอกก็รู้แหละ เวลาทำอาหารอะไรก็ต้องมีส่วนของพระเอกเอาไว้เสมอ ชามใหญ่ด้วยเพราะรู้ว่าพระเอกกินจุ ...

เป็นนิยายฟิลกู้ด เน้นไปที่การทำอาหารและการค้าของนางเอก แนวความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ย่อยง่าย อ่านแล้วอิ่มใจ ถ้าใครชอบแนวปลูกผักทำอาหารน่าจะชอบเรื่องนี้เลยแหละ หรือใครที่กำลังเขียนนิยายจีนโบราณแนวทำอาหารอาจจะลองเอาเรื่องนี้ไปเป็นไกด์ดูก็ได้นะ ครบเครื่องมากทั้งส่วนผสม วิธีการทำ เครื่องปรุง มีบรรยายรสสัมผัสเมื่อเอาเข้าปาก แบบแทบจะได้กลิ่นออกมาจากหนังสืออยู่แล้ว อ่านไปหิวไป ไม่แนะนำให้อ่านตอนกลางคืนนะ เพราะจะหิวมากกก 55 ...

มีฉากขำๆ อยู่หลายตอน อย่างตอนที่พระเอกต้องตามรัชทายาทไปทำงานที่ต่างเมือง พระเอกก็เศร้าโศกเสียใจที่ต้องห่างเมียและจะไม่ได้กินของอร่อยหลายวัน ทำหน้าเศร้าซึมจนนางเอกถาม พอรู้เลยเข้าครัวไปทำน้ำปรุงรสที่ไว้คลุกกินกับข้าว หรือเอาไปปรุงใส่กินกับอาหารแบบไหนก็อร่อยให้พระเอกติดตัวไปด้วยตอนเดินทาง พอพักกินข้าวพระเอกก็เอาออกมาคลุกผสมกับเส้นหมี่กิน แล้วทุกคนก็มอง พระเอกเลยต้องเอาไปคลุกในอาหารให้ทุกคนลองกิน นับแต่นั้นน้ำปรุงรสก็กลายเป็นของส่วนกลางต้องเอาออกมาแบ่งกันกินทุกมื้อ 55
มีตอนที่รัชทายาทถูกลอบทำร้าย คนที่ถือกระบอกน้ำปรุงรสตกใจเลยโยนกระบอกน้ำปรุงรสออกไป พอจัดการคนร้ายได้ทุกคนก็มารุมต่อว่าโวยวายบอกว่าโยนกระบอกน้ำปรุงรสออกไปทำไม แล้วขากลับจะกินอะไร จะอยู่กันยังไงห๊า!!!...โคตรฮา

ป.ล. มีดราม่านิดหน่อยเป็นเรื่องของคู่พี่คนรองพระเอก
ป.ล.ไม่มี nc พระเอกสุภาพบุรุษมาก (ถ้านางเอกไม่เริ่มรุกจูบก่อน สงสัยคงได้นอนจับมือกันไปอีกนาน 55)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น