วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565

จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า 3 เล่มจบ

 


จอมอหังการผู้นี้คือสามีข้า 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เทียนหรูอวี้
ผู้แปล : 
หม่านอู้เฉิงซิน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

' หากวันใดวันหนึ่งที่ข้าตายจริงๆ ก็เอาข้าฝังไว้ที่เขาวั่งจี้แล้วกัน
ฝังทางเหนือหันหน้าไปทางตะวันตก '

' ให้ข้าได้เฝ้ารักษาโยวโจวตลอดกาล และมองไปที่ฉางอันทางตะวันตก ...
จะได้ให้นางรู้ว่ามีภูเขาลูกหนึ่งอยู่ที่นี่... รอคอยนางอยู่ตลอดไป '

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

พระเอก ซานจง จอมเสเพลคุณชายใหญ่ผู้มาจากตระกูลสูงศักดิ์สายทหารของลั่วหยาง
เปี่ยมความสามารถไม่มีบุรุษใดกล้าเทียบเคียง นิสัยโอหัง หยิ่งผยอง ชอบทำอะไรตามใจตน กรอบจารีตประเพณีก็เป็นแค่คำพูดสวยหรูเท่านั้น ....พระเอกได้เป็นแม่ทัพเข้าสู่สนามรบตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งยังคนโปรดของอดีตฮ่องเต้จึงมักถูกเรียกใช้งานอยู่บ่อยๆ พอถึงวัยอันควรก็ได้แต่งงานกับมุกน้ำงามที่ชายหนุ่มมากมายเฝ้าหมายปอง สมบัติล้ำค่าของตระกูลจ่างซุน จ่างซุนเสินหรง บุตรสาวสุดที่รักของจ้าวกั๋วกง ตระกูลสูงศักดิ์เก่าแก่แห่งฉางอัน

แต่ใครจะไปคิดว่าการแต่งงานที่ดีงามเช่นนี้จะจบลงภายใน 6 เดือน
นางเอกถูกหย่าและกลับมาบ้านพร้อมกับหนังสือแยกทางหนึ่งฉบับ ส่วนพระเอกก็ยกทรัพย์สินทุกอย่างของตัวเองให้นางเอกไปทั้งหมด ขอออกจากตระกูลตัวเปล่า ละทิ้งทุกอย่างและจากไปไม่หวนกลับ...ทว่า
3 ปีต่อมาทั้งสองคนก็ถูกชะตานำพาให้กลับมาพบกันใหม่ที่เมืองชายแดนอันห่างไกล และได้เริ่มสานต่อวาสนาเดิมกันอีกครั้ง...

สามปีผ่านไปฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ แต่ตอนที่เกิดการแย่งชิงบัลลังก์บ้านนางเอกไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งที่สนับสนุนฮ่องเต้พระองค์ใหม่ จึงทำให้ต้องรีบสร้างผลงานเพราะเกรงว่าจะถูกกำจัด บังเอิญว่าตระกูลนางเอกมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับภูมิลักษณ์การหาสายแร่ เพราะมีม้วนหนังสือที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษคอยช่วย แต่คนที่ตีความได้มีเพียงนางเอกคนเดียว นางเอกจึงกลายเป็นผู้สืบทอดม้วนหนังสือ เป็นดั่งบรรพชนน้อยหรือสมบัติล้ำค่าของตระกูลที่ทุกคนรักใคร่และพร้อมใจกันปกป้องดูแล ...แต่สมบัติล้ำค่าของพวกเขากลับถูกใครบางคนทิ้งขว้างไม่ใยดี จึงไม่แปลกที่พระเอกจะถูกที่บ้านนางเอกโกรธเกลียดมากขนาดนั้น
ก็เขาเลี้ยงของเขามาอย่างดี พยายามมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก แต่พระเอกดันมาหย่าและขอแยกทางกับลูกเขาแบบนี้ เป็นใครจะไม่โกรธล่ะ แถมเป็นตระกูลใหญ่ด้วย ต้องเสียหน้าเสียชื่อเสียงขนาดไหน โดยเฉพาะชื่อเสียงของลูกสาวเขา ... ซึ่งพ่อแม่นางเอกนี่แหละจะกลายเป็นด่านใหญ่ที่สุดที่พระเอกจะต้องฝ่าไปให้ได้ในภายหลัง

นางเอกต้องออกเดินทางไปหาสายแร่กับพี่ชายจนมาถึงเมืองชายแดนโยวโจว และได้พบกับพระเอกซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารอยู่ที่นั่นพอดี จะเลี่ยงก็ไม่ได้เพราะที่นี่พระเอกใหญ่สุด จะทำอะไรส่วนใหญ่ก็ต้องผ่านพระเอก ให้พระเอกช่วย หนียังไงก็หนีไม่พ้น ...
แม้จะได้กลับมาพบอดีตภรรยาคนงามผู้สูงศักดิ์อีกครั้ง แต่พระเอกก็ยังมีท่าทางยียวนหยิ่งผยอง ไม่มีวี่แววของคนรู้สึกผิดหรือมีท่าทีเกรงใจใดๆ จนทำให้อดีตภรรยาคนงามต้องโมโหอยู่ร่ำไป แค้นใหม่แค้นเก่าผสมปนเป จากตอนแรกที่ว่าจะหลบเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีก แต่พอเจอท่าทีโอหังแบบนี้ของอิพี่เข้าไป นางเอกก็เปลี่ยนใจและตั้งมั่นว่าจะต้องทำให้อิอดีตสามีสำนึกเสียใจจนยอมก้มหัวให้ตัวเองให้จงได้.....
สงครามเย็นลับๆ ของคุณหนูเอาแต่ใจ
Xคุณชายเสเพล...จึงบังเกิด

ทว่าพอได้มาเจอกันในบทบาทหน้าที่ใหม่ ได้ใกล้ชิดช่วยเหลือกัน ได้เห็นอีกฝ่ายในมุมมองที่แปลกใหม่ซึ่งแตกต่างไปจากเดิมจากที่เคยนึกคิด อดีตภรรยาไม่ได้เป็นเพียงคุณหนูคนงามในห้องหอทั่วๆ ไปที่เอาแต่ดื่มชา เย็บปัก แต่งกลอน หรือดีดพิณ แต่ยังมีความรู้ในเรื่องภูมิลักษณ์ที่ใครก็คาดไม่ถึง แถมยังเรียกได้ว่าอึดถึก เพราะจะขึ้นเขาลงห้วย เสี่ยงอันตราย หรือเดินทางไกลเพียงใดนางก็ไม่เคยหวั่นหรือบ่นสักคำ จากที่ชอบพูดจาผลักไสไล่ส่งให้เขากลับไปไวๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นอยากให้เขาอยู่ต่อไม่จากไปไหนแทน ถึงขั้นเอ่ยปากขอให้กลับมาแต่งงานกันใหม่และเป็นภรรยาของตัวเองอีกครั้ง...

ผลงานของผู้เขียน 'แม่ทัพใหญ่ผู้นี้คือสามีข้า' ในเรื่องนี้จะเป็นเหตุการณ์ช่วงหลังจากที่หลานชายของนางเอกในเรื่องแม่ทัพใหญ่ได้ขึ้นครองราชย์ และจะมีตัวละครบางตัวจากในเรื่องแม่ทัพใหญ่โผล่มามีบทบาทในเรื่องนี้ด้วย เรื่องแม่ทัพใหญ่นางเอกเป็นแม่ค้าหาเงินเก่ง ส่วนเรื่องนี้นางเอกถนัดเรื่องภูมิลักษณ์หาแร่ ก็แปลกใหม่ดี เดินทางบ่อยจนแทบจะจบเรื่องได้ ทั้งขึ้นเขาลงห้วย ตรวจตราสภาพแวดล้อม เดี๋ยวก็ต้องไปสำรวจภูมิลักษณ์ เดี๋ยวก็เดินทางจากเมืองนั้นไปเมืองนี้ จากเมืองนี้ไปเมืองนู้น แล้วไหนจะเรื่องศึกสงครามที่นอกด่านอีก ชีพจรลงเท้ากันสุดๆ เกินครึ่งถ้าไม่อยู่บนรถม้าก็ต้องเป็นบนหลังม้านี่แหละ ...

เล่มแรกจะเป็นการหาสายแร่การทำเหมือง มีปัญหาเกี่ยวกับเหมืองที่ต้องแก้ไขและทำให้พระ-นางได้ใกล้ชิดกัน เล่มสองทั้งสองต่างมีใจให้กัน พระเอกรุกกลับมาตามจีบอดีตภรรยาใหม่ แต่นางเอกก็ไม่พูดให้ชัดเจนสักที อึกๆ อักๆ แล้วเดี๋ยวก็มีงานเข้า แล้วเดี๋ยวก็มีคนเรียก เดี๋ยวนางเอกก็ต้องเดินทางกลับ เดี๋ยวพระเอกก็ตามไปส่งอีก กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเห็นแล้วเหนื่อยแทน..นางเอกก็ด้วยความเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ด้วยมั้ง(รึเปล่า) ก็เลยจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงออก ปากแข็งปากไม่ตรงกับใจ เลยไม่ค่อยชอบช่วงที่พระนางเคลียร์ใจกันเท่าไร ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเอื่อยเฉื่อย นางเอกก็มัวแต่ยึกๆ ยักๆ ต้องไปๆ กลับๆ กันกี่รอบไม่รู้กว่าจะพูดกันจนรู้เรื่องได้  ...

แต่นอกจากเรื่องพวกนี้ก็มีเรื่องศึกสงครามนี่แหละที่จะขาดไม่ได้ เป็นจุดที่เราชอบที่สุด
ส่วนตัวคือชอบมากกว่าเรื่องรักๆ ของพระ-นางอีกนะ
55 โดยเฉพาะฉากรบในเล่มสามกับตอนที่ทัพหลูหลงได้กลับคืนและตะโกนว่า "ทัพหลูหลงกลับสู่สังกัด" เป็นอะไรที่ตราตรึงสุดๆ ชอบตอนที่พระเอกแอบออกไปเพื่อช่วยพาคนกลับมา และตอนที่เห็นธงคนก็พยายามวิ่งฝ่าดงศัตรูเข้ามาแล้วตะโกนรายงานตัวกัน....ดีนะที่ฮ่องเต้เปลี่ยนคนแล้ว ไม่อย่างนั้นพระเอกและพวกพ้องคงไม่มีทางเป็นอิสระและได้ล้างมลทินแน่นอน ...

ส่วนอีกเรื่องที่เราสนใจและรู้สึกสงสัยก็คือ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พระเอกต้องแยกทางกับนางเอก และสาเหตุที่ต้องอยู่ในโยวโจวตลอดไปไม่อาจออกมาได้มันเป็นเพราะเหตุใด
เราว่านักเขียนค่อยๆ เฉลยปมตรงจุดนี้ได้ดีเลยนะ ...พอเฉลยแล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไมพระเอกถึงต้องทำแบบนั้น สิ่งที่พระเอกต้องแบกรับมันหนักหนาจนพูดไม่ออกเลยจริงๆ ตัวพระเอกก็ไม่สามารถเอ่ยปากบอกใครได้ด้วย ต้องจำยอมถูกคนประณาม ถูกต่อว่าถูกเข้าใจผิดอยู่แบบนั้น แต่ใครจะว่ายังไงตัวพี่ก็ยังโอหังไม่ทุกข์ร้อน ยังคงมีท่าทางเสเพลทำเหมือนไม่มีอะไรเช่นเดิม ทั้งที่จริงๆ มันหนักมากกก ....

ป.ล. ชอบคู่รอง เคมีเข้ากันดีมากก
ป.ล.การแปล = บางประโยคอ่านแล้วงงๆ ต้องอ่านซ้ำๆ ถึงจะเข้าใจอะ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น