First Frost วันนี้ วันไหน
ยังไงก็เธอ 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : จู๋อี่
ผู้แปล : นางฟ้าปีกเขียว
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
เขาก็จะพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะทำให้มันเป็นจริง....
พระเอก-นางเอกเรื่องนี้เคยเป็นเพื่อนเรียนอยู่ห้องเดียวกันเมื่อสมัยม.ปลาย
พระเอก ซางเหยียน เป็นพี่ชายของนางเอกในเรื่องแอบรักให้เธอรู้
นิสัยกวนโอ๊ยน่าหมั่นไส้ ปากเสีย เย่อหยิ่ง และไม่เห็นใครอยู่ในสายตา(แต่เพื่อนเยอะนะ)
ส่วนนางเอก เวินอี่ฝาน สาวสวยผู้เงียบขรึม เย็นชา ความรู้สึกช้า พูดน้อย
แต่เป็นคนจิตใจดีและอ่อนโยน
พระ-นางเป็นทั้งเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนร่วมโต๊ะ ต่างคนต่างชอบกัน
พระเอกออกตัวแรงกว่า แต่นางเอกความรู้สึกช้าบวกกับเรื่องที่บ้านจึงทำให้ต้องพูดจาทำร้ายจิตใจพระเอกไป...
พอ ม.5 เทอม 2 นางเอกก็ต้องย้ายโรงเรียนตามครอบครัวแต่พระเอกก็ยังไม่ตัดใจ
ยังหมั่นส่งข้อความและนั่งรถไฟความเร็วสูงไปหาอยู่เรื่อยๆ จนถึงตอนที่เลือกมหาวิทยาลัย
ตอนแรกนางเอกบอกจะไปเรียนต่อที่หนานอู๋(เมืองที่นางเอกเคยอยู่ก่อนย้ายมา) พระเอกก็เลยฮึดขยันเรียนขึ้นมาเพื่อจะได้ไปเรียนที่เดียวกัน
แต่สุดท้ายฝั่งนางเอกกลับเกิดเรื่องบางอย่าง จึงทำให้ต้องไปเรียนที่อื่นแทน
แล้วพอพระเอกมาหา นางเอกก็ทำได้เพียงใช้คำพูดรุนแรงเพื่อให้เขาตัดใจ ...
หลังจากผ่านไป 6
ปีนางเอกก็ตัดสินใจกลับมาหางานทำยังเมืองที่เคยอยู่อีกครั้ง
และบังเอิญได้เจอกับพระเอกที่ผับแห่งหนึ่ง(ที่พระเอกเป็นหุ้นส่วน)
แต่พระเอกกลับแสร้งทำเป็นจำนางเอกไม่ได้ แล้วก็พูดจากวนโอ๊ยใส่ตามสไตล์คุณชายเขาแหละ
แล้วต่อจากนั้นก็มีเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนต้องมาเช่าห้องอยู่ร่วมกัน
เนื่องจากเพื่อนเช่าห้องคนเก่าของนางเอกจะย้ายออก ส่วนที่พักพระเอกก็ถูกไฟไหม้พอดีเลยต้องหาที่อยู่ใหม่ชั่วคราว
เพื่อนสนิทพระเอกรู้ว่านางเอกกำลังหาคนเช่าห้องใหม่และประจวบกับที่พระเอกกำลังมองหาห้องเช่าพอดี
เลยไปบอกพระเอกให้มาเช่าที่นี่ แต่จริงๆ คือเห็นว่าเพื่อนเคยตามจีบนางเอกมาก่อนแล้วแห้วเลยอยากช่วย
แต่พระเอกไม่รู้ไง พอมาเจอกันที่ห้องเช่าก็เลยต่างคนต่างอึ้ง...ทีแรกนางเอกจะไม่ยอมให้พระเอกอยู่ด้วย แต่พอรู้ว่าจะอยู่แค่ 3 เดือน
บวกกับคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่านิสัยพระเอกโอเคดี สุดท้ายก็เลยกลายเป็นรูมเมทกันนับแต่บัดนั้น...
เป็นเรื่องราวความรักที่ต่างคนก็ต่างรักแต่มีเหตุที่ทำให้ต้องคลาดกันไปมาอยู่นาน
ตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลายจนมาถึงวัยทำงาน ต่างฝ่ายต่างไม่เคยลืมกันเพียงแต่มีปมที่ต้องใช้เวลาเพื่อที่จะก้าวผ่าน
โดยเฉพาะฝั่งของนางเอกนั้นหนักมาก ส่วนฝั่งพระเอกก็มีเพียงเรื่องนางเอกเท่านั้น
ขอเพียงนางเอกยื่นมือออกมา ต่อให้เพียงนิดเดียว พระเอกก็พร้อมจะหาเหตุผลพุ่งเข้าใส่แล้ว รอมานาน ปากบอกไม่ๆ
แต่ลับหลังกลับทำอีกอย่าง เห็นนางเอกผอมพระเอกก็ไม่พูดมาก แค่แสร้งทำเป็นว่าทำกับข้าวเยอะแล้วบอกให้นางเอกมาช่วยกิน
เวลานางเอกกลับดึกก็เป็นห่วงแต่ท่ามาก เลยต้องหาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้นางเอกส่งข้อความมาบอกเวลาจะกลับดึก
รู้ว่าตรุษจีนนางเอกต้องอยู่ที่ห้องคนเดียวก็พยายามกลับมาอยู่เป็นเพื่อน
แต่นางเอกความรู้สึกช้าและไม่คิดเข้าข้างตัวเองเลย...กว่าจะเข้าใจกว่าจะตกผลึกการกระทำแต่ละอย่างของพระเอกก็เลยช้าหน่อย...แต่คนนอกหรือเพื่อนสนิทนี่ดูออกหมดแล้วนะว่าพระเอกปฏิบัติกับนางเอกไม่เหมือนใคร...แม้พระเอกจะดูท่าเยอะและน่าหมั่นไส้ไปหน่อยแต่ก็เข้าใจพี่แกนะ
ยิ่งไปอ่านตอนพิเศษยิ่งโคตรเข้าใจ ...(พระเอกแบบสุดยอดมากก)
ส่วนนางเอกนั้นเพราะปมเรื่องครอบครัวและเรื่องราวในอดีต จึงส่งผลให้เธอลังเลเรื่องพระเอกอยู่นาน
เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร ไม่กล้าคบ คนอย่างพระเอกควรได้สิ่งที่ดีกว่านี้
(หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพระเอกก็คือตัวเธอนั่นแหละ)
แต่พอแน่ใจในความรู้สึก นางเอกก็เป็นฝ่ายรุกก่อนโดยมีพระเอกชี้นำและคอยส่งเสริม 55 ...แบบถ้าเธออยากปีนขึ้นมาฉันก็พร้อมส่งบันไดให้
หรือถ้าเธออยากอ่อยฉันก็พร้อมถอดเสื้อรอ...พร้อมแล้วมาสิ สาบานได้ว่านี่ไม่ได้จีบเขาก่อนเลย
นางเอกจีบก่อนนะ สาบานน...พี่แค่คอยเป็นไกด์เท่านั้นเอง 55 แต่กว่าจะได้คบกันก็นานอยู่เหมือนกันนะ(หนึ่งเล่มครึ่งได้) ...เหนื่อยกว่าคู่น้องอีกสองคนนี้
แต่ถึงจะคบกันแล้วนางเอกก็ยังไม่ค่อยเปิดใจเท่าไร โดยเฉพาะปมเรื่องที่บ้านซึ่งหนักมากและเป็นเงามืดในใจของนางเอกมาเนิ่นนาน ส่งผลให้เธอเป็นโรคนอนละเมอ เวลาเครียดๆ นอนไม่พอหรือมีอะไรมากระทบจิตใจอาการก็จะกำเริบ แต่พอมารู้สาเหตุนี่โคตรสะเทือนใจเลย ...
(สปอยล์นะ)...
.
.
.
.
เพราะหลังจากที่พ่อเสียได้ไม่นานแม่นางเอกก็แต่งงานใหม่ นางเอกปรับตัวอยู่กับครอบครัวใหม่ไม่ค่อยได้ แล้วลูกติดพ่อเลี้ยงก็ไม่ชอบไม่อยากให้นางเอกอยู่ด้วย แม่เลยให้นางเอกไปอยู่กับย่า แล้วย่าก็ส่งเธอไปอยู่กับลุงต่อ นางเอกเลยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระ ไม่มีใครรักไม่มีใครต้องการ แถมยังมาถูกอาที่เป็นน้องชายของป้าสะใภ้แทะโลมคิดทำมิดีมิร้ายอีก แม่ก็พึ่งไม่ได้ ไม่มีใครฟังเธอเลย โดดเดี่ยวสุดๆ หลังจากที่เรียนจบและมีงานทำแล้วนางเอกจึงไม่ค่อยติดต่อกับแม่ ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่กลับไปเจอกับญาติพี่น้องอีก ทว่าสุดท้ายก็ยังถูกเขาตามมาระราน ตอนแรกนางเอกก็ไม่กล้าบอกพระเอก พระเอกก็โอเคไม่ถาม จะรอให้เธอพูดออกมาเอง จนมีวันหนึ่งที่นางเอกถูกอีกฝ่ายตามมาระรานแล้วได้แผล พระเอกต้องมารู้ทีหลังจากปากคนอื่นก็เลยโกรธมาก เพราะรู้สึกว่านางเอกไม่เชื่อใจตนถึงไม่ยอมเล่า...หลังจากเหตุการณ์นี้นางเอกเลยเปิดใจและเล่าอดีตที่ผ่านมาของตัวเองให้พระเอกฟัง พระเอกถึงได้รู้ว่านางเอกต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ...ส่วนนางเอกก็เหมือนได้ปลดล็อกตัวเองครั้งใหญ่ เพราะมีพระเอกอยู่เคียงข้างเธอจึงสามารถข้ามผ่านปมแต่ละปม และสามารถตัดขาดจากอดีตที่ขมขื่นได้จริงๆ สักที
ความจริงโดนพระเอกเรื่องนี้ตกมาตั้งแต่ที่ได้อ่านเรื่องของน้องสาวแล้ว นิสัยพี่แกมีเอกลักษณ์แบบลืมไม่ลงจริงๆ พอรู้ว่ามีเล่มแยกเป็นของตัวเองด้วยคือยังไงก็ต้องเก็บ
พลาดไม่ได้ อยากรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะทำให้คนแบบพี่เขาตกหลุมรักได้ แต่พี่น้องคู่นี้เรื่องรักนี่เป็นเหมือนกันเลย
ต่างเป็นแสงสว่างและที่พักพิงอันอบอุ่นให้แก่คนที่รัก ถ้าได้รักแล้วคือรักเลยยากจะเปลี่ยน ใดๆ ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งคือพ่อแม่เขาเลี้ยงมาดี พื้นฐานครอบครัวเขาดี+แข็งแกร่ง
ลูกๆ เลยเติบโตมาดีแบบนี้ ...
สรุปพระเอกก็ปากแข็งปากหนักไปงั้นแหละ เพราะใจจริงก็รักเขามาตลอด รักแต่นางเอกคนเดียวไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งตอนพิเศษยิ่งเห็นได้ชัดถึงความทุ่มเท ความไม่ยอมตัดใจ ทุกคำพูดคำสัญญาที่พระเอกเคยให้ไว้ อาจดูเหมือนเล่นๆ แต่พี่ทำจริงทุกอย่างนะ ไม่เคยลืมเลือน ประทับใจและอึ้งมากกับสิ่งที่พระเอกแอบทำมาตลอด ไม่นึกเหมือนกันว่าคนกวนๆ หยิ่งๆ ไม่สนใจใครอย่างพระเอกพอรักใครสักคนแล้วจะทำได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนไม่แคร์แต่กลับจดจำและใส่ใจอยู่เสมอ อบอุ่นและอ่อนโยนกับคนที่ตัวเองรักสุดๆ ....
ป.ล. ส่วนตัวรู้สึกว่าคำลงท้ายว่า อะ อะนะ ปะ จ้ะ จ้า มันเยอะไปหน่อยนา
บางบทสนทนาที่ใส่มาอ่านแล้วแอบรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรเลย รวมถึงคำสรรพนามบางอัน ที่บางตัวละครใช้และที่ใช้กับบางคน ส่วนตัวอ่านแล้วแอบรู้สึกขัดๆ อยู่นิดหน่อย (ความเห็นส่วนตัวน๊า ถ้าใครไม่ชอบต้องขอโทษด้วย ><)
เรื่องนี้ประทับใจพระเอกมากกกกค่ะ สายการกระทำของจริง ;-;
ตอบลบ