วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ขอหว่านแหจับสามีสักคน 5 เล่มจบ

 


ขอหว่านแหจับสามีสักคน 5 เล่มจบ ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยกั่วกัว (九月果果)
ผู้แปล : หิมะน้อย
สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเป็นหญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่วิญญาณทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ ม่ายซุ่ย หญิงสาวชะตาอาภัพ ที่พ่อตาย แม่ก็ถูกบีบให้แต่งงานใหม่ ส่วนตัวลูกหรือม่ายซุ่ยก็ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวของลุง คอยเป็นวัวเป็นม้าทำงานให้เขา ต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แถมยังถูกจับแต่งงานกับชายแปลกหน้าที่มีชื่อเสียงย่ำแย่ เพียงเพื่อแลกกับสินสอดที่เป็นข้าวสาลี กระสอบเท่านั้น ..ทะลุมิติมาได้ไม่ทันไรนางเอกก็ถูกจับให้แต่งงานไปอยู่ที่อื่นซะแล้ว หนำซ้ำว่าที่สามีคนนี้ก็ยังมีชื่อเสียงไม่ดี เพราะใครๆ ต่างก็ลือกันว่าเขาเคยเป็นโจรมาก่อน แต่เพราะไม่มีทางเลือก นางเอกจึงต้องเดินหน้าแต่งงาน เนื่องจากเธอไม่มีบ้านและไม่มีครอบครัวให้กลับไปอีกแล้ว...ก็ได้แต่หวังว่าสามีมหาโจรคนนี้จะไม่โหดร้าย หรือสร้างความลำบากใจใดๆ ให้กับเธอนัก ขอแค่ได้มีข้าวกินมีที่ซุกหัวนอน ให้เธอได้มีที่ตั้งหลักในชีวิตสักหน่อยก็พอแล้ว

พระเอก เซียวจิ่งเถียน ชายหนุ่มรูปหล่อรูปร่างสูงใหญ่ ลูกชายคนที่สามของตระกูลเซียวซึ่งจากบ้านไปนานกว่าสิบปี ไม่รู้ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน แถมยังกลับมาด้วยอาการบาดเจ็บ คนรอบข้างเลยพากันคิดว่าพระเอกต้องไปเป็นโจรมาก่อนแน่ๆ ...พอกลับมาพระเอกก็ถูกที่บ้านบังคับให้แต่งงานทันที เพราะอายุเยอะแล้ว(24 ปี) กะว่าถ้าแต่งงานมีเมียมีลูก พระเอกก็จะได้อยู่ที่นี่ไม่จากไปไหนไกลๆ อีก ...แต่เพราะไม่ได้เต็มใจจะแต่งงาน พระเอกจึงเย็นชา+เมินเฉยกับนางเอกตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามา...ไม่เข้าหอ แยกกันนอน ทำตัวเย็นชา ไม่สนใจ ไม่ยุ่งเกี่ยว...แต่นางเอกก็โอเค เพราะนี่แหละคือสิ่งที่นางต้องการ ตรงใจพอดี เพราะตอนนี้นางแค่อยากจะมีบ้านอยู่ ยังไม่ได้อยากมีสามีนะจ๊ะ 55..

บ้านพระเอกเป็นครอบครัวชาวประมง ดังนั้นวิธีหาเงินของนางเอกจึงหนีไม่พ้นเรื่องปลาๆ ตั้งแต่ทำปลาตากแห้งขาย ไปรับซื้อกุ้งสดตัวเล็กๆ กับน้ำปรุงรสมาขาย จนมาจบที่กิจการขายปลากระป๋อง ... ซึ่งระหว่างทางก็จะมีเรื่องของคนในบ้าน ของญาติๆ และคนรอบข้าง ที่เข้ามาทำให้ชีวิตของพระ-นางมันปวดหัวและวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน  เริ่มตั้งแต่เรื่องสินสอดของนางเอกที่เป็นข้าวสาลี 1 กระสอบนั่นแหละ ที่ทำให้พวกพี่สะใภ้ไม่พอใจ อิจฉาจนขู่ว่าจะกลับบ้าน หากบ้านพ่อ-แม่สามีไม่หาข้าวสาลี 1 กระสอบมาเป็นสินสอดเพิ่มย้อนหลังให้พวกตนด้วย...(ตอนอ่านนี่อิหยังมาก แต่ก็เอาเถอะ! นิยายอะเนาะ55)

แล้วก็มาต่อด้วยเรื่องที่พวกพี่ชายกับพี่สะใภ้รบเร้าอยากแยกบ้าน  เพราะไม่อยากรับภาระ คิดว่าถ้าแยกไปอยู่เองน่าจะรวยขึ้น แต่พ่อพระเอกไม่อยากให้แยก อยากให้อยู่ด้วยกันคอยช่วยกันทำมาหากินมากกว่า แต่พระเอกก็กล่อมจนพ่อยอม แถมยังยินดีออกเงินค่าบ้านหลังใหม่ให้พวกพี่ชาย ยินดีรับภาระในบ้านเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ตนไม่อยู่บ้าน 10 ปีอีกด้วย..พระเอกจึงไปเช่าที่ดินร้างมาปลูกข้าวสาลี พอข้าวสาลีโตและเก็บเกี่ยวได้เยอะคนก็พากันตะลึง พวกพี่สะใภ้รวมถึงป้านางเอก(ที่เห็นแก่ตัว)ก็แห่กันมาด้วยความอิจฉา อยากมาขอแบ่งข้าวกลับไปกิน ส่วนเจ้าของที่ดินก็ไม่พอใจ เพราะแต่ก่อนที่ดินผืนนี้ปลูกอะไรไม่ขึ้น พอเห็นแบบนี้ก็อยากจะเปลี่ยนสัญญาเรียกเก็บค่าเช่าเพิ่ม จากผลผลิตสองส่วนเป็นแปดส่วนแทน...

แล้วก็มีเรื่องที่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยากดึงพระเอกไปทำงานด้วย อยากใช้ชื่อเสียงของพระเอกมาข่มพวกโจรสลัดในน่านน้ำให้กลัว แต่พระเอกไม่ไปเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ดี ไม่น่าคบหา ฝ่ายนั้นก็เลยดึงพวกพี่ชายของพระเอกไปทำแทน เพราะคิดว่าถ้าพวกพี่พระเอกมีปัญหาอะไรเดี๋ยวพระเอกก็ต้องมาช่วยแน่นอน ...หึหึ

ส่วนนางเอกก็ปรับตัวเข้ากับทุกคนในบ้านได้ดี ช่วยบ้านสามีทำงานทุกอย่างไม่มีบ่น ใครพูดเหน็บแนมว่าอะไรก็แสร้งทำหูทวนลม ถึงสามีจะเย็นชาพูดน้อยแค่ไหนนางก็อยู่ได้ ก็ใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างทำงานของใครของมันไป แต่ถ้ามีปัญหาหรืออยากให้ช่วยอีกฝ่ายก็พร้อมเสมอ พอพระเอกเห็นอีกฝ่ายใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไม่เคยเรียกร้องอะไรแบบนี้ก็เริ่มสนใจ ยิ่งได้ใกล้ชิดได้เห็นทัศนคติความคิดของนางเอกก็เริ่มชอบ จนค่อยๆ ตกหลุมรัก พอรักกันแล้วพระเอกก็หื่นมาก (แต่ไม่มีบรรยายเท่าไรนะ แต่รู้ว่าพี่แกหื่นมาก 55) เข้าทำนองเย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกแต่ถ้าอยู่กับเมียนี่หมาป่าชัดๆ  (*≧∇≦*)

เป็นแนวทำมาหากิน ทำไร่หาปลา slow life มีเรื่องการแย่งชิงอำนาจผสม แต่หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องปัญหาภายในบ้านกับคนรอบตัวของพระ-นางนี่แหละ นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสู้รบในทะเลกับพวกโจรสลัด (ที่มีนัยแอบแฝง) เพราะพระเอกเคยเป็นอดีตแม่ทัพใหญ่ เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่พออีกฝ่ายได้ขึ้นครองบัลลังก์ก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มหวาดระแวงขุนนางกับพวกแม่ทัพเก่งๆ พระเอกเลยคืนยศ+คืนของพระราชทานทุกอย่าง และขอกลับบ้านเกิดตัวเปล่าเพื่อไปใช้ชีวิตสงบๆ กับครอบครัว แต่สุดท้ายก็ยังถูกระแวง ถูกส่งคนมาลอบฆ่าคิดกำจัดอยู่ดี ...แต่ในเรื่องจะมี 2 ฝั่งนะ ฝั่งที่หนึ่งกลัวว่าพระเอกจะรวบรวมคนมาก่อกบฏยึดบัลลังก์ ส่วนอีกฝั่งก็กลัวว่าพระเอกจะมาขัดขวางไม่ให้พวกตัวเองก่อกบฏ ..บันเทิงจริงๆ ⊙▽⊙

เพราะแบบนี้แหละประกอบกับความเป็นแม่ทัพเก่า พระเอกจึงไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้านนานๆ เพราะมักถูกคนนู้นคนนี้เรียกให้ไปช่วยแก้ไขปัญหาเสมอ (ขนาดไม่ได้บอกใครนะเนี่ยว่าเคยเป็นแม่ทัพ แต่ออร่ามันฟ้อง ..อิอิ) ทั้งปัญหาในบ้านของพี่น้อง หรือจากคนที่มาแอบชอบตัวเอง ปัญหาจากพวกขี้อิจฉาที่เห็นเมียตัวเองหาเงินเก่ง จนไปถึงปัญหาของบ้านเมือง
ตั้งแต่ช่วยสืบคดี ช่วยปราบโจรสลัด ช่วยฝึกทหาร ช่วยวางแผนการรบ และปัญหาของลูกสาวผูมีพระคุณที่น่าปวดหัวสุดๆ...
(¯▽¯;) 
เพราะลูกสาวผู้มีพระคุณก็คือองค์หญิง ดันมาหลงรักพระเอกหัวปักหัวปำ ไม่ว่าพระเอกจะปฏิเสธและวางตัวเย็นชาถอยห่างอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่เคยถอดใจสักที ขนาดแต่งงานมีเมียแล้วก็ยังไม่ยอมหมดหวัง...แล้วพระเอกก็เป็นพวกไม่ชอบพูดไม่อธิบาย สไตล์ผู้ชายเย็นชาอะ ไม่เคยแก้ข่าว (ฉันมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่มีอะไรต้องพูด) มันก็เลยทำให้คนรอบข้างรวมถึงนางเอกเข้าใจผิด คิดว่าพี่แกมีซัมติงกับองค์หญิงจริงๆ อีก...เฮ้อออ  (´◔౪◔)

พระเอกเรื่องนี้เสน่ห์แรงมากก ไหนจะเพื่อนสมัยเด็กที่มาชอบ นี่ก็บ้าบอประสาทแตกมาก (ทั้งแม่ทั้งลูก) วุ่นวายสุดๆ แต่เพราะเป็นญาติกันจึงไม่อยากทำอะไรมาก (คุณแม่ขอร้องง) แล้วก็มีองค์หญิงอีกคน คนนี้ก็ประสาทแตกพอๆ กัน55 ถูกปฏิเสธแล้วก็ยังไม่เลิกหวัง แถมยังขี้จุ๊บอกว่าท้องกับพระเอกอีก มโนมากกกก ..ตอนที่พระเอกบาดเจ็บความจำเสื่อม ก็พยายามใส่ร้ายเมียเขาว่าเป็นคนไม่ดี พยายามยัดเยียดให้พระเอกรับเด็กในท้องตนเป็นลูก แต่ดีที่ถึงพระเอกจะความจำเสื่อมแต่ก็ไม่ได้โง่เด้อ ไม่ใช่ใครบอกอะไรก็เชื่อไปหมด เพราะพี่เชื่อแค่สัญชาติญาณตัวเองเท่านั้น ...

เป็นเรื่องที่พระ-นางงานเข้าบ่อยมากกก ชีวิตวุ่นวายแต่กับเรื่องคนอื่น อะไรๆ ก็โทษแต่สองคนนี้ เกิดเรื่องอะไรก็วิ่งมาหาแต่พระ-นาง แม่สามีตอนแรกก็เหมือนจะดีแต่หลังๆ ก็เริ่มน่าลำไย อ่อนแอ หูเบา ถูกชักจูงได้ง่าย  ใครพูดอะไรก็เชื่อเขาไปเกือบหมด พ่อสามีก็กลัวแต่จะล่วงเกินคนอื่น เวลานางเอกทำการค้าแล้วขายดี ก็กังวลแต่ว่าจะไปทำให้คนใหญ่คนโตในพื้นที่ไม่พอใจ ชอบบอกให้เลิกให้หยุด ซื้อที่ดินดีๆ มาได้ก็บอกให้เอาไปคืน เพราะไม่อยากผิดใจกับผู้มีอิทธิพลที่เขาอยากได้ที่ดินนี้ ให้อยู่แค่นี้แหละพอไม่ต้องทำอะไร ยังดีที่นางเอกอยากทำอะไรพระเอกก็สนับสนุนไม่เคยห้าม มีปัญหาอะไรเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง สมกับเป็นลุงเซียว เท่จริงๆ

ส่วนพวกพี่สะใภ้นี่ก็น่าลำไยขั้นสุดดดด ขี้อิจฉา ทนเห็นบ้านนางเอกได้ดีกว่าไม่ได้มเขามีอะไรดีๆ ก็ต้องมาขอแบ่ง เวลาเดือดร้อนก็วิ่งมาขอให้เขาช่วย แต่ไม่เคยมีคำพูดดีๆ ให้ม มีแต่กระแนะกระแหนพูดจาเหน็บแนม พลาดเมื่อไรก็เหยียบซ้ำ อยากให้จัดหนักๆ ไปสักที แต่ก็ทำอะไรรุนแรงไม่ได้อีก ได้แค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็สวนกลับ เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน...เลยต้องทนๆ ทำเบลอๆ ไป (╬◣д◢)(╬ 

สรุปก็อ่านได้เรื่อยๆ นะ เพลินๆ ดี แต่ก็อาจจะมีลำไยพวกปัญหาภายในบ้านกับพวกคนรอบข้างของพระ-นางหน่อยเท่านั้น (จริงๆ ก็ไม่หน่อยนะ 55)

- สำนวนการแปลก็มีคำยุคปัจจุบันหลุดมาบ้าง 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น