ผู้แปล : ซิงซือ
สำนักพิมพ์ Princess
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอก เสวี่ยเจียเยว่ ทะลุมิติมาอยู่ในนิยายที่เพื่อนเพิ่งร่างโครงร่างเอาไว้แต่ยังไม่ได้เขียน ทะลุมาเป็นใครไม่เป็น แต่ดันมาเป็นลูกติดแม่เลี้ยงจอมโหดของ เสวี่ยหยวนจิ้ง
หรือก็คือพระเอกในเรื่อง เจ้าของร่างเดิมนี้มีชื่อว่า เอ้อร์ยา เป็นลูกสาวของผู้หญิงที่มาแต่งงานใหม่กับพ่อพระเอก
ตัวแม่นั้นมีนิสัยร้ายกาจ ขี้งก เห็นแก่ตัว ปากร้าย แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองก็ยังไม่เว้น แถมยังมาเอาน้องสาวแท้ๆ ของพระเอกไปขายให้พวกค้ามนุษย์อีก
ส่วนตัวเอ้อร์ยาเจ้าของร่างเดิมก็เป็นคนหยาบคาย สกปรก เห็นแก่กิน
และชอบเอาเรื่องของพระเอกไปฟ้องแม่ ทำให้พระเอกต้องถูกด่าถูกลงโทษ
ขณะที่พ่อพระเอกก็ไม่เอาไหน
ให้ท้ายเมียใหม่
สมัยที่เมียเก่ายังไม่ตายก็ชอบกินเหล้า ไม่ค่อยทำงานทำการ
เวลาเมาก็ชอบตบตีลูกเมีย ดังนั้นพอแม่ตาย
พ่อแต่งงานใหม่ น้องสาวถูกขาย
แม่เลี้ยงใหม่ก็เลวร้าย ลูกติดแม่เลี้ยงก็นิสัยแย่
ชีวิตทุกวันเหมือนตกนรก
พระเอกจึงกลายเป็นคนพูดน้อย เย็นชา ไม่ชอบยุ่งกับใคร
และเริ่มดาร์กขึ้นเรื่อยๆ
นางเอกรู้ว่าในภายภาคหน้าพระเอกจะกลายเป็นเสนาบดีที่มีอำนาจมากในราชสำนัก ..
ส่วนเจ้าของร่างเดิมก็จะตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของพี่แก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ต้องมีจุดจบเหมือนในนิยาย
นางเอกจึงต้องพยายามทำดีกับพระเอกอย่างสุดกำลัง เพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ของตนเอาไว้ให้จงได้
คนเขียนเดียวกับเรื่องนิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน
แนวเรื่องค่อนข้างจะคล้ายๆ กัน
คือนางเอกทะลุมิติมาเป็นน้องสาว(คนละสายเลือด)
ของพระเอกในนิยาย ที่ร่างเดิมเคยทำไม่ดีกับเขาเอาไว้
ส่วนตัวพระเอกก็มีชีวิตวัยเด็กที่ไม่ดี ถูกทำร้าย ขาดความรักความอบอุ่น นิสัยจึงค่อยๆ บิดเบี้ยวและดาร์กขึ้นเรื่อยๆ พอนางเอกทะลุมาก็ต้องหาทางทำดีกับพระเอก เพื่อไม่ให้ต้องตายอย่างอนาถ แต่เรื่องนี้นิยายยังไม่ได้ถูกเขียน เพื่อนนางเอกเล่าแค่โครงเรื่องคร่าวๆ และจุดหลักๆ ให้ฟัง
ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยหรือเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างทางนั้นนางเอกจะไม่รู้เลย แถมเดิมเรื่องนี้ยังมีนางเอกหรือสตรีที่พระเอกจะต้องใช้เป็นฐานเหยียบเพื่อไต่เต้าถึง
12 คนอีกด้วย เพราะชื่อเรื่องเดิมของนิยายเรื่องนี้ก็คือ 'หญิงงามสิบสองตำหนัก'....อิอิ
สองเล่มแรกจะเป็นช่วงตกระกำลำบากชีวิตวัยเด็กช่างแสนมืดมน
เพราะทั้งพระ-นางต่างก็ถูกพ่อแม่โขกสับใช้งานยิ่งกว่าวัวควาย
ข้าวก็ไม่เคยได้กินอิ่ม
แถมยังถูกด่าถูกตีกันเป็นประจำอีก..เฮ้ออออ
เล่มแรกพระเอกพูดน้อยมากกก แทบจะนับคำได้เพราะยังไม่เปิดใจ แม้นางเอกจะพยายามทำดีด้วยแค่ไหนพี่ก็โนสนโนแคร์
เพราะนอกจากเจ้าของร่างคนเก่าจะนิสัยไม่ดีแล้ว ก็ยังมีส่วนทำให้น้องสาวพระเอกต้องถูกขายไป จึงทำให้พี่แกยิ่งจงเกลียดจงชังสองแม่ลูกคู่นี้สุดๆ ไม่รับน้ำใจ ทั้งยังหวาดระแวงที่นางเอกจู่ๆ ก็มาทำดีด้วยแบบนี้
แต่ถึงพระเอกจะเป็นแบบนี้นางเอกก็เข้าใจนะ
ไม่ฝืน ทำเท่าที่จะทำได้ ไม่รับก็ไม่เป็นไร ...
ทว่าพอเจอแบบนี้หลายๆ ครั้งเข้าพระเอกก็เริ่มใจอ่อน สงสัยว่าทำไมลูกสาวแม่เลี้ยงถึงได้เปลี่ยนไปมากจัง จากคนที่สกปรกไม่ชอบอาบน้ำ ก็เปลี่ยนมารักความสะอาด หน้าตาสะอาดสะอ้าน จากที่เคยตะกละ
ขี้โวยวาย ขี้ฟ้อง ก็กลายมาเป็นกินน้อย ไม่ค่อยพูด แถมเวลาพระเอกถูกแม่เลี้ยงดุด่าต่อว่า
อีกฝ่ายก็ยังพูดจาปกป้องเข้าข้างตัวเองอีกต่างหาก..พระเอกจึงเริ่มใจอ่อน
และเริ่มทำดีกับนางเอกทีละนิด
จนมาถึงตอนที่เข้าไปเก็บของในป่า
ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกแน่ใจแล้วว่านางเอกกับลูกสาวแม่เลี้ยงนั้นเป็นคนละคน พี่เลยยิ่งทำดีกับนางเอกมากขึ้น
คอยดูแลปกป้องเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตน
ส่วนนางเอกก็ดีใจมากที่พระเอกยอมวางความแค้นที่ร่างเดิมเคยทำเอาไว้แล้วหันมาดีกับตัวเองแบบนี้ เพราะในภพก่อนชีวิตของนางเอกก็ไม่ได้ดีเท่าไร ประมาณนี้แหละ เนื่องจากพอแม่ตาย พ่อก็แต่งงานใหม่ แล้วดันไปได้แม่เลี้ยงใจร้ายที่ชอบด่าว่าทุบตีนางเอกมา ส่วนพ่อแท้ๆ ก็เข้าข้างแม่เลี้ยงไม่ได้ปกป้องเธอ
ดังนั้นนางเอกจึงถวิลหาการมีครอบครัวที่อบอุ่น ที่รักและเอาใจใส่เธอมากๆ ...
แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อแม่นางเอกในนิยายคิดจะขายนางเอกให้ไปเป็นภรรยาตัวน้อยของหลานชายที่ขาพิการทั้งสองข้าง บวกกับอิพ่อเลี้ยงก็คิดไม่ซื่อหมายจะเคลมเธอ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในร่างเด็กอายุ 8-9 ขวบเท่านั้น.. แต่โชคดีที่พระเอกกลับมาทัน ก็เลยเอาไม้ฟาดหัวพ่อจนสลบ
นางเอกถึงรอดมาได้ แต่เพราะยังเด็กยังไม่มีกำลังมากพอ
ทั้งสองคนจึงจำต้องทนอยู่บ้านเดิมต่อ พระเอกก็ต้องกลับมารับโทษยอมถูกพ่อทุบตี ...และเป็นจุดที่ทำให้พระเอกตัดสินใจลงมือทำบางสิ่งที่เลวร้ายเพื่ออนาคตของนางเอกและตนเอง
เล่มสามพระ-นางหลุดพ้นออกจากบ้านเฮงซวย
ออกมาอยู่ที่อื่นได้สักที
พระเอกได้เข้าเรียนในสำนักศึกษาเพื่อเตรียมสอบเป็นขุนนาง
ส่วนนางเอกก็ไปเรียนปักเย็บเสื้อผ้าจนต่อมาก็สามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองได้ แต่พอเข้าเรียนในสำนักศึกษาอิพี่ก็เริ่มเกิดอาการหวงน้องขึ้นมา เพราะน้องหน้าตาดีมาก ยิ่งโตก็ยิ่งงาม จึงเริ่มมีคนมาแอบชอบและอยากสมัครเป็นน้องเขยของอิพี่ 55 แต่ตอนนั้นอิพี่ยังไม่รู้ใจตัวเอง
ยังคิดว่ารักนางเอกแบบน้องสาวอยู่ ตอนที่มีคนมาชอบน้อง พี่ก็ยังคิดว่าไม่ดีพอ ไม่เหมาะสม
แต่พอนึกว่าต่อไปน้องก็จะต้องไปเกาะแขน ไปออดอ้อนคนอื่นแบบนี้เหมือนที่ทำกับตน พี่ก็เริ่มรับม่ายยล่ายยย
จิตใจร้อนรุ่มฝุดๆ...หึหึ
แต่หลังจากที่ได้รู้ใจตัวเอง อิพี่ก็ต้องตื่นมาซักกางเกงตัวในแทบทุกเช้า
ทั้งยังต้องปิดบังความรู้สึกเอาไว้ เพราะรู้ว่านางเอกยังมองตนเป็นพี่ชายอยู่
ต้องใช้แผนเข้าใกล้ทีละนิด ทำให้น้องเคยชินและขาดตนไม่ได้
นางเอกก็เริ่มมีเอ๊ะๆ รู้สึกว่าพี่แปลกๆ ไปแต่ก็ยังพยายามมองในแง่ดี ...
เล่ม 4 เผยความในใจกัน
นางเอกโกรธมาก ยังรับไม่ได้ที่จะให้เปลี่ยนจากพี่ชายมาเป็นสามี
ส่วนอิพี่ตอนที่เปิดเผยความรู้สึกเสร็จก็รุกหนักมาก จนคนเขากลัวและวิ่งหนีหายไป
แต่ความจริงลึกๆ นางเอกก็ชอบอิพี่เหมือนกันนั่นแหละ
เพียงแต่ยังไม่รู้ตัว เพราะเคยชินกับความสัมพันธ์แบบนี้มาตลอด แถมเมื่อก่อนพระเอกก็เคยบอกว่าจะเห็นตัวเองเป็นเหมือนน้องสาวอีกคน เมื่อบวกกับปมเรื่องนางเอกสิบสองคนในนิยายนั้นด้วย ก็เลยคิดว่าเป็นน้องสาวคงดีกว่า แต่พอนึกถึงภาพที่วันหนึ่งพระเอกต้องแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเอง นางก็แอบเศร้า พอพี่วางตัวถอยห่างออกมาตามที่ขอ นางก็ไม่ชินอีก..สุดท้ายจึงเริ่มทบทวนความรู้สึกตัวเองใหม่และเปิดใจคบหากันดู
นางเอกหัวการค้า หาเงินเก่ง
ใช้ความได้เปรียบจากความรู้ในยุคปัจจุบันมาสร้างรายได้ นอกจากเปิดร้านเสื้อผ้าก็ยังปลูกพริกขาย
พอเข้าเมืองหลวงได้ไม่นานก็เริ่มหาทำเลที่ดินเพื่อทำห้องเช่าให้คนขายของต่อ
ส่วนพระเอกก็คอยตามติด ตามปกป้องน้อง
นางเอกจะทำอะไรก็คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง
แม้ใจจริงจะไม่อยากให้ทำเลย
อยากให้อยู่แต่ในบ้านไม่ต้องออกไปไหนเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะรู้ว่าไม่อาจบังคับอีกฝ่ายได้
รู้ว่าน้องชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง จึงได้แต่เออออและแอบแก้ปัญหาให้อยู่ข้างหลังเงียบๆ นางเอกก็มีแอบไม่พอใจบ้างที่พระเอกชอบตามไปไหนมาไหนด้วย
รู้สึกไม่เป็นอิสระ ......
จนเกือบมีปัญหาแตกหักกันเพราะเรื่องนี้
แต่ความจริงคือนางเอกอายุยังน้อย และด้วยความที่หน้าตาดีมาก (พระ-นางเรื่องนี้เสน่ห์แรงพอๆ กัน มีแต่คนมาชอบ) จึงอาจนำภัยมาสู่ตัว
เพราะพระเอกรู้ดีว่าตอนนี้ตนยังเป็นแค่บัณฑิตธรรมดา ยังไม่มีอำนาจอะไร เลยกลัวว่าถ้านางเอกดุ่มๆ ไปเดินบนถนนคนเดียว
วันหนึ่งอาจจะโชคร้ายไปต้องตาผู้มีอำนาจบ้านไหนเข้า แล้วเดี๋ยวตนจะช่วยไม่ได้
ก็เลยต้องประกบน้องตลอด ......แต่อีกเหตุผลหนึ่งหรือเหตุผลหลักๆ ก็มาจากนิสัยส่วนตัวของอิพี่เขานั่นแหละ ที่ขี้หึง
ขี้หวง และคลั่งรักมากกกก ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ
อยากประกาศให้โลกรู้ว่าผู้หญิงของข้าใครก็ห้ามยุ่ง
555
มีเรื่องเกี่ยวกับการเมือง(บ้าง)ในเล่มสุดท้าย
แต่ก็ถูกเรื่องรักกลบอยู่ดี55 (ก็นี่มันนิยายรักนี่เนาะ) พระเอกไปล่วงเกินขุนนางใหญ่คนหนึ่งเข้า
จริงๆ ก็ไม่ได้อยากล่วงเกินหรอก
แต่เป็นเพราะลูกชายของอีกฝ่ายดันมาปิ๊งนางเอก
แล้วบุกมาคิดจะทำมิดีมิร้ายน้องถึงบ้าน พระเอกเลยต้องจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม...หึๆ ตอนที่ต้องสอบหน้าพระที่นั่ง อิพี่เลยตั้งใจไม่เอาที่
1 เพื่อจะได้พานางเอกหลบภัยไปรับตำแหน่งที่ต่างเมือง
แต่ฝั่งนั้นก็ยังกัดไม่ปล่อย ยังส่งคนไปสร้างความวุ่นวายให้พระเอกอยู่เรื่อยๆ
จนถึงตอนที่พระเอกกลับมารับตำแหน่งใหม่ที่เมืองหลวงก็ยังไม่เลิกรา
แต่ในเรื่องจะไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แค่เล่าผ่านๆ แล้วก็ 3 ปีผ่านไปเลย
ผ่านไปหน้าเดียว อ้าวกลับมาเมืองหลวงกันและ 55
จบแฮปปี้ หญิงงามสิบสองตำหนักที่เคยว่าก็โผล่มาจริงๆ แค่ห้าเท่านั้น แต่ก็ไม่มีบทบาทอะไร ไม่อยู่ในสายตาอิพี่เลยสักคน ส่วนกิจการของนางเอกก็ใหญ่โตขึ้นทุกวัน
พระเอกก็กลายเป็นเสนาบดีที่ยังคงคลั่งรักและหื่นกับเมียอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
(ไม่มี
nc มีแค่กอดจูบ
เล่ม 4 นี่จูบจนปากนางเอกแทบจะเปื่อยหมดแว้วว)
บทท้ายๆ พระเอกได้เจอน้องสาวแท้ๆ ที่ถูกนำไปขายแล้ว โชคดีที่ตอนนั้นได้คนดีช่วยเอาไว้ น้องเลยเป็นคนร่าเริงสดใสเพราะเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นมีแต่คนรัก..จบจ้าาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น