อริร้ายหวนรัก 4 เล่มจบ / ผู้แต่ง : จือจือ
ผู้แปล : เม่นน้อยสำนักพิมพ์ แจ่มใส
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ซย่าโหวอวี๋ นางเอกของเรื่องมีตำแหน่งเป็นจางกงจู่ เป็นพี่สาวของฮ่องเต้
เป็นคนฉลาด
เจ้าแผนการเก็บอารมณ์ความรู้สึกเก่งตามแบบชนชั้นสูงที่เติบโตมาในรั้วในวัง
เพราะต้องการปกป้องน้องชายที่เป็นฮ่องเต้ นางจึงยอมลดตัวลงมาแต่งงานกับ เซียวหวน
ประมุขตระกูลเซียว
ชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหาร
พระ-นางต่างเป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์
และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วยกันทั้งคู่
เพราะผลประโยชน์ทางการเมืองจึงทำให้ทั้งสองต้องมาแต่งงานกัน
การแต่งงานที่ปราศจากความรักจึงมีแต่ความเย็นชา
เมินเฉย ไม่มีใครยอมใคร
ทว่าในยามที่นางเอกประสบภัย สามีที่นางเคยคิดว่าเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ
กลับไม่ลังเลที่จะเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องนาง ดังนั้นเมื่อได้โอกาสย้อนกลับมาอีกครั้ง
กลับไม่ลังเลที่จะเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องนาง ดังนั้นเมื่อได้โอกาสย้อนกลับมาอีกครั้ง
นอกจากต้องพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องราวในอดีตแล้ว
นางเอกก็อยากจะรู้ด้วยว่าเหตุใดสามีผู้เย็นชาถึงได้ยอมปกป้องนางในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต..
นางเอกตายแล้วย้อนกลับมาอยู่ในร่างเดิมตอนที่เพิ่งแต่งงานกับพระเอกได้ไม่นาน
ในตอนที่พระเอกยังเป็นแค่ผู้บัญชาการทหารและน้องชายยังเป็นฮ่องเต้อยู่
ซึ่งถึงแม้นางเอกจะรู้อนาคตหรือเหตุการณ์ล่วงหน้า แต่พอเอาเข้าจริงๆ ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่คิด
หลายๆ เรื่องที่ควรจะเกิดก็ไม่เกิด หรือเกิดแต่เวลาก็คลาดเคลื่อนไม่ตรงเดิม
คนที่ควรตายกลับยังมีชีวิตอยู่ แต่บางคนที่ต้องตายก็ยังเป็นไปตามนั้น
เอาเป็นว่าการกลับมาของนางเอกก็ไม่ถือว่าได้เปรียบอะไรมากนัก
มิหนำซ้ำบางเรื่องยังกลับยิ่งแย่ลงกว่าเดิมด้วย เช่นพระเอกที่ควรจะได้เป็น ต้าซือหม่า
มีอำนาจเหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ใต้คนผู้เดียวอย่างในชาติที่แล้วก็ไม่ได้เป็น
เพราะการเข้ามาแทรกแซงของนางเอก เลยทำให้พี่แกยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่เปลี่ยน
การแทรกแซงของนางเอก ทำให้หนทางที่ควรจะราบรื่นแต่เดิมของพระเอกต้องเจออุปสรรคมากมาย
แผนและเส้นทางที่พี่แกเตรียมเอาไว้ต้องเปลี่ยนไป(ดีที่พระเอกเก่งมองการณ์ไกลอยู่ตลอด เลยพากันรอด) เพียงการแทรกแซงครั้งเดียวในตอนนั้น(ซึ่งเป็นการแทรกแซงที่ใหญ่มาก)
สุดท้ายก็ทำให้เรื่องราวทั้งหลายต้องเปลี่ยนแปลงพลิกกลับตาลปัตรไปหมด
ศัตรูที่ควรจะตายกลับยังอยู่ ...แถมอยู่ไปจนจบอีกต่างหาก
กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาเป็นก้างขวางคอชิ้นโต ทำให้พระเอกทำอะไรติดขัดไม่สะดวก แถมยังมีศัตรูใหม่ข้างกายเพิ่มเข้ามาด้วย (บางทีก็สงสัยว่านางเอกย้อนกลับมาทำม๊ายยย? 55) แต่ก็มีบางคนที่ถูกนางเอกช่วยเหลือและทำให้ชะตาชีวิตเปลี่ยนไป จากที่ควรจะแย่ก็กลายเป็นดี
แต่ก็มีบางคนที่แย่ลงแบบดึงยังไงก็ไม่ขึ้นหมดทางเยียวยา
เล่มแรกเป็นการชิงตำแหน่งฮ่องเต้ซึ่งยกนี้นางเอกชนะ และทำให้พระเอกต้องมองเมียตัวเองใหม่
ส่วนเล่ม 2 เป็นเรื่องในบ้านพระเอก
เบื้องหลังการตายของพ่อพระเอก
และความวุ่นวายของบ้านตระกูลเซียวซึ่งนางเอกไม่เคยรู้มาก่อน
เพราะชาติที่แล้วความสัมพันธ์ของสามีภรรยาไม่ได้ดีเท่าชาตินี้เลยไม่แคร์ไม่สนใจ
ชาตินี้ความสัมพันธ์เริ่มดีสามีก็ปฏิบัติกับนางไม่เหมือนเดิมจึงเริ่มสนใจ แต่ด้วยความที่เป็นคนทระนงและหยิ่งในศักดิ์ศรีเหมือนๆ กัน
จะให้มานั่งถามดีๆ มันก็ไม่ได้ ถามไปก็ไม่อยากจะตอบ นางเอกก็เลยต้องให้คนไปสืบเอง..55
เล่ม 3 เริ่มเปิดฉากทำสงครามกับแคว้นทางเหนือ
แต่ในเมืองหลวงก็ดันเกิดเหตุวุ่นวายคือการทำร้ายชนชั้นสูง
พระเอกเลยตัดสินใจพาเมียไปรบด้วย (ชาติที่แล้วต่างคนต่างอยู่ไปคนละทาง)
ได้อยู่ด้วยกันมากขึ้นความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
นางเอกเอาเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชาติที่แล้วมาช่วยเหลือแนะนำบอกเป็นนัยๆ ให้พระเอกรู้
พระเอกก็คิดว่าทำไมสายข่าวเมียเราดีจัง (ดีกว่าของตัวเองอีก55) พอสองคนเริ่มปรองดองรักใคร่ทางฝั่งฮ่องเต้ก็เริ่มหวาดระแวง..ไม่ไว้วางใจ
ประกอบกับมีตัวร้ายคอยยุหาเรื่องใส่ไฟ บวกกับคนของฝั่งพระ-นางที่อยู่ในเมืองหลวง หลังๆ ก็เริ่มหวาดระแวงพระเอกและห่วงผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่า
จึงไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร
ฮ่องเต้ที่อ่อนแอและอยู่ท่ามกลางเสือสิงห์กระทิงแรดจึงเริ่มหวั่นไหว
จากที่เคยเคารพและเชื่อฝั่งพระ-นางมากกว่า ก็เริ่มเอนเอียงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ...
สไตล์ของนักเขียนท่านนี้ก็ยังเหมือนเดิมคือบรรยายเยอะ ตัวละครแยะ 55
(แต่รอบนี้พี่แจ่มเขาทำแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครไว้ให้ที่ท้ายๆ เล่มด้วยนะ
..ดีๆ)
ตัวละครเยอะมากจ้าทั้งฝั่งนางเอก
ฝั่งบ้านพระเอก ทั้งฝั่งตัวร้าย ญาติพี่น้องเยอะกันจริงๆ
ทั้งลูกเมียเอก-ลูกอนุ พี่ป้าน้าอา ทั้งชื่อคนชื่อตำแหน่งบลาๆ
ตอนแรกอาจจะงงๆ แต่ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะชินเอง 55
หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจของเหล่าตระกูลชนชั้นสูง (ยิ่งในยุคสมัยที่ฮ่องเต้อ่อนแอก็ยิ่งเข้าทาง) มีเรื่องศึกสงคราม เรื่องสายสัมพันธ์ของคนในตระกูล
การเชื่อมสัมพันธ์ การเอาตัวรอด และการช่วงชิงผลประโยชน์ของพวกตระกูลใหญ่ๆ
บางตระกูลที่เคยโดดเด่นแต่ตอนนี้ไม่เด่นแล้ว ก็จะพยายามหาทางกลับมายืนอยู่แถวหน้าอีกครั้ง
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ล้วนๆ ยามมีผลประโยชน์ร่วมกันก็จับมือยืนอยู่ข้างกัน
แต่วันใดที่หมดหรือขัดต่อผลประโยชน์ก็พร้อมจะหักหลังและจากไปได้ทุกเมื่อ ...เฮ้อออ
ในเรื่องนี้ก็จะประมาณนี้แหละ แทบจะไว้ใจใครไม่ได้สักคน
วันนี้เป็นมิตรแต่วันหน้าก็ไม่รู้จะเป็นอะไร??
จึงไม่แปลกที่กว่าพระเอก-นางเอกกจะเชื่อใจ+เข้าใจกันได้ก็เลยปาไปเล่ม
3 แล้ว
ก่อนหน้าก็เดากันไปเดากันมา อยากรู้อะไรก็ต้องไปสืบหากันเอาเอง
ถามกันพูดคุยกันตรงๆ ธรรมดาไม่ได้ เพราะนิสัยส่วนตัวและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาจนถึงปัจจุบันมันทำให้เป็นแบบนั้นจริงๆ
ยิ่งอยู่ในตระกูลใหญ่ มีตำแหน่งใหญ่ๆ ภาระหน้าที่ที่ต้องแบกรับก็ใหญ่ตาม ...
มันเลยทำให้ยากที่จะเชื่อใจใครหรือเปิดใจกับคนอื่นได้ง่ายๆ...
กว่าจะมีฉากหวานๆ เลยต้องรอถึงเล่มสุดท้ายนู่น 55 ถ้าหลังๆ พระเอกไม่หน้าหนาตีมึนเข้าไปนอนห้องเดียวกับนางเอกก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นฉากหวานๆ หรือเปล่า55 (ถ้าเทียบกับพราวพร่างแล้วก็ยังไม่ถึง
2 ใน 10 เล๊ยยย) หวานน้อย ฉาก
nc มีนิดหน่อยไม่ได้บรรยายอะไรมาก
...
แต่ที่ขัดใจที่สุดคือตอนจบนี่แหละ...บรรยายมาตั้งเยอะทำไมพอถึงตอนจบ......T___T
ทำไมคุณพี่ถึงได้รวบรัดสรุปจบภายใน
2 หน้าแบบนี้ค๊า(อยากจะร้อง)
ทำไมไม่เขียนต่ออีกสักเล่มหรือมีตอนพิเศษเพิ่มสักหน่อย กำลังมันส์ได้ที่เลย ทำไมม่ายยยเขียนต่อค๊าาาา
อยากรู้เส้นทางในการฝ่าฟันอุปสรรคของพระ-นางหลังจากนั้นต่อว่ายากลำบากขนาดไหน
เอาแบบที่บรรยายเหมือนเล่ม 1-3 นาจา ไม่เอาแบบสรุปแบบนี้
แล้วไหนจะเรื่องของตัวละครอื่นๆ อีก อยากรู้ว่าฝั่งตัวร้ายต่อจากนั้นจะเป็นยังไง?
น้านางเอกกับลูกน้าที่ยังอยู่ต่อจากนั้นจะมีชีวิตยังไง? บ้านของอารองโดนตัดหางแล้วเป็นยังไง?
ลูกชายของอาสามที่นางเอกส่งไปฝึกเป็นยังไง? จะปรับความเข้าใจกับแม่ได้ไหม?
เซียวซานสุดท้ายจะได้แต่งกับใคร? คุณหนูสี่สกุลหลูกับคุณหนูเจ็ดตระกูลชุยต่อจากนั้นเป็นยังไง? ...ทำไมทำแบบนี้เขียนมาตั้งเยอะแล้วทำไมไม่เล่าต่อค๊าาาา
มันไปต่อได้อีกนะค๊า คุณพี่ควรจะเขียนต่อค่า ...เสียใจเน้อพราวพร่างก็ทีนึงและ 55