วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เจาเหยา ... ใครว่าโลกนี้ไม่มีผี


เจาเหยา ... ใครว่าโลกนี้ไม่มีผี 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : จิ่วลู่เฟยเซียง
สำนักพิมพ์ Hongsamut

คำโปรยหลังปก
ข้าเป็นมาร
จอมมารผู้ขึ้นชื่อว่าเหี้ยมโหดมานานนับศตวรรษ
จอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะที่เคยคิดกำจัดข้า  ต่างพากันแปรสภาพเป็นศพซากใต้ผืนดิน
ไปแล้วไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ
ทว่าข้ายังคงมีชีวิต  ซ้ำยังใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมสุขและสนุกสุดๆ อีกด้วย
แต่เมื่อข้าคิดว่าตัวเองกำลังจะก้าวขึ้นสู่จุดที่สูงที่สุดของชีวิตแล้วนั้น
ข้ากลับตาย !
ดูเจ้าเด็กต่ำตมผู้มีหน้าที่เฝ้าประตูสำนักของตัวเอง ... ฆ่าตาย

นี่คือเรื่องราวของผีขี้อาฆาตที่จะทำให้คุณฮาท้องคัดท้องแข็งไปกับนาง
ก็ใครใช้ให้ตอนที่มีชีวิตอยู่  ลู่เจาเหยาไม่รู้จักทำบุญทำทาน  กร่างไปทั่วกันเล่า
พอตาย ... แม้แต่จะหาคนมาเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ก็ยังไม่มี

ผีสาวคิดมาก ... อดีตนางมารผู้ยิ่งใหญ่จึงตายตาไม่หลับ
เอาแต่ลอยวนเวียนไปมาหน้าป้ายหลุมศพของตัวเอง  กิจวัตรประจำวันของนางก็คือ
สาปแช่ง .. สาปแช่ง เจ้าหนุ่มม่อชิงศิษย์ทรยศที่ทำให้นางตาย

เมื่อวันหนึ่งโอกาสแก้แค้นหลุดมาถึงมือ
มีหรือคนที่ชั่วร้ายที่สุดในใต้หล้าอย่างนางจะไม่ตะครุบไว้
จุ๊ๆ ๆ ... เจ้าอัปลักษณ์
คนอย่างเจ้า  ร้อยไม่ควรพันไม่ควร  กระตุกหนวดมังกรหลับอย่างข้า !

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
ลู่เจาเหยา  เจ้าสำนักว่านลู่ซึ่งเป็นสำนักมาร ยามมีชีวิตเรื่องดีๆ ไม่เคยทำถนัดทำแต่เรื่องไม่ดี  
พอตายไปก็อย่าหวังเลยว่าใครจะมาเผากระดาษเงินกระดาษทองให้  
ขนาดโลกของผีก็ยังไม่อยากจะยอมรับนาง 

นางเอก ลู่เจาเหยา นางมารขี้มโนอดีตเจ้าสำนักมารว่านลู่ กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนลอยไปลอยมา
อยู่ที่หน้าหลุมศพของตัวเองไม่ยอมไปผุดไปเกิดกับเขาสักที  ปีแล้วปีเล่าผ่านพ้นไปจนวันหนึ่งวิญญาณของนางก็ได้ไปเข้าสิงร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง ที่วิ่งเข้ามาชนกับป้ายหลุมศพของตัวเอง  
เมื่อได้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งจอมมารขี้มโนก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องสังหาร ลี่เฉินหลาน 
เจ้าสำนักว่านลู่คนใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ตัวเองให้จงได้ๆ ๆ   

ลี่เฉินหลาน เจ้าสำนักว่านลู่คนปัจจุบัน
เป็นลูกชายของอดีตประมุขพรรคมารที่นางเอกเคยช่วยชีวิตเอาไว้  
เขาติดตามนางเอกมาอยู่ในสำนักด้วย  แต่เพราะไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกวิชา  
ลี่เฉินหลานจึงเป็นได้เพียงคนเฝ้าประตูใหญ่ที่หน้าสำนัก ถึงจะเป็นตำแหน่งต่ำต้อยไร้ความสำคัญ
แต่เขาก็พอใจ เพราะขอแค่ได้อยู่ตรงหน้าประตู คอยเฝ้าดูนางเอกเดินผ่านไปผ่านมาก็พอใจแล้ว  
แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อนางเอกตาย....  
ลี่เฉินหลานจึงต้องจับผลัดจับผลูกลายมาเป็นเจ้าสำนักซะเอง...
และด้วยความชอบขี้มโนของนางเอก จึงคิดว่าการตายของตนเองนั้นต้องเป็นฝีมือของลี่เฉินหลาน 
หรือเจ้าอัปลักษณ์ ม่อชิง นี้แน่นอน เมื่อความแค้นบังเกิดแถมได้กลับมาด้วยร่างใหม่ 
นางจึงวางแผนต่างๆ นานาว่าจะจัดการกับพระเอกยังไง  ด้วยวิธีการไหน 
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลากเจ้าคนทรยศตรงหน้านี้ลงหลุมไปด้วยกันให้ได้ ...หึหึ

นางเอกของเรื่องนี้ถึงจะเป็นจอมมารและเป็นถึงอดีตเจ้าสำนัก   
ซึ่งดูเหมือนจะโหดแต่เอาจริงๆ นางก็ไม่ได้ชั่วร้าย  
แต่นางชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนชั่วร้าย โหดเหี้ยมอำมหิต แล้วทั้งใต้หล้านี้ขอแค่ทุกคนได้ยินชื่อ 
ลู่เจาเหยา ก็ต้องร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัว...
แต่เราว่านางนิสัยเหมือนเด็กมากกว่า ชอบทะเลาะต่อยตีกับชาวบ้านแต่ก็ไม่ได้ลงมือฆ่าใครส่งเดช  
แถมยังชอบขี้มโนสุดๆ อีกด้วย.....ส่วนพระเอกก็ตรงข้ามอยู่แล้ว เป็นคนพูดน้อย แทบไม่มีตัวตน  
เพราะมีรอยดำที่น่ากลัวบนใบหน้า จึงทำให้พี่แกชอบหลบซ่อนหน้าตาไว้ใต้เสื้อคลุม .... 
ถึงตอนที่เป็นเจ้าสำนักรอยดำจะหายไปแต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อยู่ดี  
แต่ไม่นานชีวิตที่เงียบเหงาก็มีอันต้องหมดลงเมื่อพระเอกรับลูกศิษย์เข้ามาหนึ่งคน ..
เจ้าลูกศิษย์คนนี้มีนิสัยประหลาดกลางวันขี้กลัว แต่พอกลางคืนกลับใจกล้าไม่กลัวใคร
แถมยังทำให้พระเอกนึกถึงใครบางคน จนต้องเริ่มจับตาดูอีกด้วย 

พระเอกถึงจะพูดน้อยดูเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่นางเอกจะทำอะไรหรือกำลังคิดอะไรพี่แกรู้หมด....
ดีใจด้วยซ้ำที่นางเอกคิดวางแผนกำจัดตัวเองเพราะจะได้มีเรื่องให้ใกล้ชิดกัน   
คือให้ได้หมดทุกอย่างขอแค่นางเอ่ยปากพูดออกมาก็พอ...แต่กว่าจะทำให้นางรู้ใจตัวเองได้นั้น
พระเอกก็แทบกระอักเลือดตายเพราะพี่แกปากหนักอ่ะ ไม่ชอบพูดแต่แสดงออกด้วยการกระทำ  
แล้วนางเอกก็ดันชอบมโนไปคนละเรื่อง มันก็เลยต้องใช้เวลา 55+  
....แต่ระหว่างนั้นก็จะมีเรื่องอื่นแทรกเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายมารฝ่ายธรรมมะหรือศัตรูเก่าของนางเอกที่กลับมา รวมทั้งอดีตความเป็นมาของนางเอกและความลับของพระเอกที่ไม่ใครรู้   
โดยรวมเราว่าเนื้อเรื่องก็สนุกดี เพราะส่วนตัวก็ชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้ที่เป็นแนวภูตผีปีศาจ 
และเทพเซียนอยู่แล้ว ผูกปมได้สนุก ที่มาที่ไปสาเหตุของเรื่องราวต่างๆ ก็มีเหตุผล  
ในเรื่องก็ไม่ได้มีแต่คู่พระ-นาง แต่ยังมีคู่อื่นๆ อีก มีทั้งที่สมหวังและไม่สมหวัง  
เนื้อเรื่องสนุกแต่รู้สึกว่าสำนวนการแปลค่อนข้างจะวัยรุ่นไปหน่อย  ภาษากระชับฉับไว 
อ่านแล้วเลยเฉยๆ ไม่ค่อยอิน  (อันนี้แล้วแต่คนเน้อ ...อาจจะเป็นที่ข้อยคนเดียวน่ะ)

ปล.ส่วนตัวชอบตอนพิเศษตอนสุดท้ายมากที่สุด


" ทำไมข้าถึงต้องแต่งงานกับเจ้าด้วยล่ะ "

" เจ้าบอกว่าเจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไปไม่ใช่หรือ? "
" แต่เจ้าสำนักบอกว่าเราต้องแต่งงานกับคนที่เราชอบที่สุดเท่านั้น  
ถึงข้าจะชอบเจ้าแต่คนที่ข้าชอบที่สุดคือเจ้าสำนักต่างหาก "
" แต่คนที่ข้าชอบที่สุดคือเจ้านี่นา "
" ถ้าอย่างนั้นก็แต่งเถอะ "
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอย่างที่สือชีพูดจริงหรือไม่ 
เขาเพียงแค่รู้สึกว่าหากเป็นอย่างนั้นจริง  บางทีฉินเชียนเสวียนอาจไม่ได้มาเกิดเพื่อบำเพ็ญเซียน  
แต่มาเกิดเพื่อสานต่อบุพเพสันนิวาสที่ยังค้างคาอยู่ในใจต่างหาก   
ฉินเชียนเสวียนกลายมาเป็นเขาเพื่อจะได้อาศัยฐานะนี้พูดกับสือชีว่า 'คนที่ข้าชอบที่สุดคือเจ้า' 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น