วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

กี่ภพกี่ชาติก็ยังเป็นเธอ 9 เล่มจบ


กี่ภพกี่ชาติก็ยังเป็นเธอ 9 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เฟิงหลิวซูไต

ผู้แปล : หมิงหมิง

ปก : Leila

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวระบบ นางเอกต้องไปหลายโลก มีทั้งยุคปัจจุบัน ยุคโบราณ วันสิ้นโลก ซึ่งบางทีก็อยู่ในร่างเด็กผู้หญิงวัยสิบกว่า หญิงสาววัยรุ่น กระทั่งหญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่คนแล้วก็มี ซึ่งทุกครั้งที่วาร์ปเข้าโลกหรือชาติใหม่นางเอกก็จะสูญเสียความทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมด เหลือเพียงทักษะหรือสกิลที่ได้ฝึกมาตอนอยู่ในชาตินั้นๆ ติดตัวมาด้วย เช่นชาติแรกเป็นแม่ครัวก็จะได้สกิลในการทำอาหารติดตัวมา ชาติที่เป็นหมอก็ได้สกิลในการรักษา หรือชาติที่เป็นช่างปักผ้านางก็จะได้สกิลในการเย็บปักผ้าติดตัวมาในชาติใหม่ด้วย อะไรแบบนี้

ชาติแรกแม่ครัว พ่อนางเอก(หรือเจ้าของร่างเดิม) เป็นพ่อครัวใหญ่อยู่ในจวนโหว ส่วนลูกสาวหรือเจ้าของร่างที่นางเอกมาอยู่ก็หลงรักซื่อจื่อหรือบุตรชายของท่านโหว ตอนแรกร่างเดิมไม่ได้ชอบทำอาหาร แต่พอรู้ว่าซื่อจื่อชอบกินก็เลยเบนเข็มมาเป็นแม่ครัวตามรอยพ่อ พอพ่อตาย ลูกหลานของอาจารย์ที่พ่อเคยไปเรียนทำอาหารก็บุกมากล่าวหาว่าพ่อเป็นศิษย์ทรยศ พออาจารย์ตายก็แอบขโมยตำราอาหารกับมีดทองคำของอาจารย์มาหากิน+สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หลานสาวอาจารย์แฝงตัวเข้ามาเป็นสาวใช้ข้างกายพระเอก(น่าจะเป็นตัวเอกชาย แต่ขอเรียกว่าพระเอกละกันนะ ง่ายดี) เป่าหูจนพระเอกคล้อยตามและอนุญาตให้จัดแข่งทำอาหารระหว่างหลานสาวอาจารย์กับเจ้าของร่างเก่า 

นางเอกเข้ามาอยู่ในร่างนี้ตอนที่กำลังตัดสินผลแพ้ชนะ ผลออกมาคืออีกฝ่ายชนะ นางเอกก็ยอมรับแล้วเก็บข้าวของพาแม่ออกจากจวนโหวไป แต่ก่อนไปยังไม่ลืมเอาตำราอาหารกับมีดทองคำไปส่งคืนให้อีกฝ่ายก่อน อีกฝ่ายก็ไม่คิดว่านางเอกจะเอามาคืน เลยพูดใส่ไฟให้พระเอกฟังอย่างเมามัน พอมีคนแจ้งว่าเขาเอามาคืนแล้วนะนางถึงได้เหวอหน้าแตกเพล้งๆ ...ตอนแรกแม่เจ้าของร่างเก่าบอกว่าพ่อนางเอกเคยซื้อบ้านไว้ข้างนอกกับมีร้านอาหารที่เปิดแล้วให้น้องชายสองคนดูแลอยู่อีกแห่ง แต่นางเอกรู้จากความทรงจำของร่างเดิมว่าน้องชายสองคนของพ่อเป็นคนไม่ดี โลภมาก ไม่เอาการเอางาน ดีแต่มาขอเงินพี่ชาย เลยเดาได้ว่าบ้านกับร้านต้องโดนน้องชายของพ่อฮุบไปเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้วแน่นอน ซึ่งพอไปถึงก็จริง แถมอาทั้งสองยังเปลี่ยนชื่อร้านให้เป็นของคนสกุลเหยียนเรียบร้อย(แซ่อาจารย์) ทำให้คนชื่นชมยกย่องตัวเอง แต่กลับเป็นการตบหน้าและเหยียบนางเอกกับแม่ให้จมดินยิ่งกว่าเดิม ...

นางเอกพาแม่ไปพักที่โรงเตี๊ยมก่อนออกเดินทางไปจากเมืองหลวง ระหว่างนั้นก็ถูกเมียและลูกของอาจารย์ตามมาด่าถึงหน้าที่พัก หาว่าพ่อนางเอกคิดไม่ซื่อจงใจไม่แจ้งข่าวให้ลูกชายอาจารย์รู้ว่าพ่อตาย ทำให้ลูกเขามางานศพพ่อไม่ทันแล้วตัวเองก็ได้หน้าบลาๆ พอท่านโหว(พ่อพระเอก) รู้เรื่องวุ่นวายที่หน้าโรงเตี๊ยมก็รังเกียจบ้านสาวใช้มาก เลยสั่งให้พระเอกไล่สาวใช้คนนั้นออกไป และให้คนไปตามนางเอกกับแม่กลับมา พระเอกก็เริ่มตระหนักได้ว่าตนเชื่อคนผิด รู้สึกผิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะส่งคนไปกี่ครั้งนางเอกก็ปฏิเสธกลับมาทุกรอบ 

นางเอกพาแม่เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วเพื่อเรียนรู้วิธีทำอาหารตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งผ่านไป 10 ปีถึงได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง... พอกลับมานางเอกก็มาหาซื้อร้านแถวๆ ร้านอาหารคนสกุลเหยียน แต่พอฝั่งนั้นรู้ว่ามีคนคิดจะมาเปิดร้านขายอาหารเหมือนกันก็ใช้อำนาจสั่งเจ้าของที่ไม่ให้ขายร้านให้นางเอก จนนางเอกต้องไปเปิดตรงอื่นที่ทำเลไม่ค่อยดี แต่นางก็ไม่ซี เพราะนางมั่นใจฝีมือตัวเองว่าเปิดที่ไหนก็ต้องขายได้ เพียงแค่ต้องปรับอาหารให้เหมาะกับสถานที่ทำเลแถวนั้นก็พอ... นางเอกเปิดร้านอาหารบ้านเกิด ทำให้คนที่จากบ้านมาทำงานต่างถิ่นพอกินแล้วจะหวนคิดถึงบ้านเกิดตัวเอง พอนางเอกฟังสำเนียงลูกค้าก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ไหน แล้วนางก็จะปรับเปลี่ยนรสชาติให้ตรงกับรสชาติบ้านเกิดของลูกค้านั้นๆ คนเลยยิ่งชอบ+ติดใจ แห่มากินกันตั้งแต่ชนชั้นรากหญ้าไปจนถึงคนรวย แม้แต่ผู้สูงศักดิ์ก็ยังแอบปลอมตัวมากิน  

แต่พอคนสกุลเหยียนรู้ว่านางเอกมาเปิดร้านตรงนี้ก็ตามมารังควานแล้วสั่งให้คนลอบมาเผาร้านตอนดึก พอร้านถูกเผานางเอกก็ปิดร้านถาวรเลย คนที่เคยมากินก็พากันเสียใจ (แต่ตอนที่ร้านนางเอกโดนคนสกุลเหยียนมาตะโกนด่าปาวๆ และทำลายข้าวของ คนพวกนี้กลับไม่ช่วย แถมยังซ้ำเติมด้วยการฉวยโอกาสตอนที่สถานการณ์วุ่นวายเข้ามาขโมยของอีก นางเอกเลยปิดแม่ง!) พวกคนใหญ่คนโตพอรู้เรื่องที่นางเอกปิดร้านก็พากันโกรธคนทำและให้คนไปสืบเรื่องนางเอกจนสาวไปถึงคนสกุลเหยียนได้ในที่สุด...หึหึ พวกคนใหญ่คนโตที่ชื่นชอบอาหารนางเอกเลยแห่กันไปเล่นงานร้านอาหารคนสกุลเหยียนจนร้านต้องปิดเหมือนกัน ส่วนพระเอกก็ทำให้อดีตสาวใช้คนนั้น(ที่ตอนนี้กลายเป็นแม่ครัวหลวงคนโปรดของฮ่องเต้แล้ว) โดนขับไล่ออกจากวังไป 

ครอบครัวสาวใช้ถือดีว่าลูกตนทำงานในวังและเป็นคนโปรดฮ่องเต้ เลยใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าหรือคนที่ทำอาหารขาย คือถ้าเมนูไหนขายดีกำลังฮิตก็จะให้คนไปบอกว่าเมนูนี้ทำถวายฮ่องเต้แล้วห้ามคนอื่นทำขายอีก ยกเว้นร้านตัวเองที่ทำขายได้ คือยึดสูตรอาหารที่คนอื่นคิดไปโต้งๆ เลย ...จากนั้นนางเอกก็ส่งสารไปขอท้าประลองกับคนสกุลเหยียน พอถึงวันนัดฮ่องเต้ก็มาเป็นกรรมการตัดสินด้วย นางเอกรู้ว่าฮ่องเต้ชอบสาวใช้คนนั้นและจะต้องตัดสินลำเอียงแน่ๆ เลยเสนอขอให้ใช้วิธีการของตนเพื่อความยุติธรรม เสนอให้แข่งทำบ๊ะจ่างและให้ชาวบ้านที่กำลังจะเข้าเมืองเป็นคนตัดสิน พอชนะนางเอกก็ขอตำราอาหารส่วนของพ่อกับมีดทองคำคืน จากนั้นก็เอาสูตรอาหารของพ่อครัวคนอื่นๆ ที่โดนฮุบไปคืนให้ทุกคน และก็เปิดโปงเรื่องที่อีกฝ่ายเคยสัญญาว่าจะไม่ใช้สูตรอาหารของพ่อนางเอกทำอาหาร แต่สุดท้ายก็แอบทำให้ทุกคนรู้... 

พอฮ่องเต้รู้ว่าแม่ครัวตนไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คิดก็เลิกโปรด บอกให้อีกฝ่ายเลิกเป็นแม่ครัวแล้วมาเป็นสนมตนเองดีกว่ามั้ย? (ไม่ได้รู้สึกพิเศษใดๆ แล้ว มีแต่ความใคร่) หลังแข่งจบนางเอกเตรียมพาแม่ออกเดินทาง พระเอกพยายามรั้งคนไว้แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเหมือนเดิม เพราะนางเอกไม่ใช่เจ้าของร่างเก่าอะเลยไม่รู้สึกอะไรกับพระเอก ไม่มีใครหรืออะไรให้อาลัยอาวรณ์ ก็แค่ต้องการกลับมากอบกู้ชื่อเสียงและทุกอย่างของพ่อร่างเดิมนี้คืนเท่านั้น เสร็จแล้วก็จะไป พระเอกดีแค่ไหนก็ไม่ได้ชอบ ไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ใช้ชีวิตได้อย่างอิสรเสรีสุดๆ ไม่ยึดติดกับอะไรเลย ไม่ต้องเจ็บปวดกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อยากทำไรก็ทำ ไปไหนก็ไป เราว่าแบบนี้ก็สบายใจดี... ส่วนพระเอกก็ได้แต่มานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารบ้านเกิดที่ลูกศิษย์นางเอกรับช่วงเปิดต่อด้วยความโหยหาคิดถึงคน เพราะส่งคนไปดักรอนางเอกกี่รอบก็ไม่เคยได้เจอ ต้องช้าไปก่อนก้าวนึงเสมอ... จบ


ชาติที่สองเป็นโลกของผู้คนที่มีระดับขั้นพลัง พลังยุทธ์ นางเอกมาอยู่ในร่างเด็กกำพร้าที่ถูกสำนักมารเก็บไปเลี้ยง(อย่าเรียกว่าเลี้ยงเลย) ให้เป็นหน่วยกล้าตายพร้อมบุกตะลุยตายแทนเจ้านายได้ ร่างเก่าหลงรักเจ้านายแต่เจ้านายดันไปหลงรักสาวใช้ของนาง พอนางตัดใจไปรักคนใหม่ ผู้ชายคนใหม่ก็ยังไปชอบสาวใช้ของนางคนนั้นอีก แต่นางเอกไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น พอมาอยู่ร่างนี้นางก็ตัดสินใจจะสังหารเจ้านายของร่างเดิมทิ้งทันที เพราะอีกฝ่ายไม่เคยเห็นเจ้าของร่างนี้เป็นคนอยู่แล้ว ไม่เคยปฏิบัติหรือทำดีด้วย แถมยังมีกู่(แม่)ที่ควบคุมกู่ลูกในร่างนี้อีก คือถ้าไม่ฆ่า ร่างนี้ก็ไม่มีวันหลุดพ้นสักที 

นางเอกเลยฝึกวิชาดาบอสูรที่ทำให้ไร้หัวใจ และเป็นวิชาที่ทำให้ร่างกายคนฝึกเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา วิธีเดียวที่จะระงับความเจ็บได้มีเพียงต้องยกดาบฆ่าคนเท่านั้น ยิ่งดาบเปื้อนเลือดมากเท่าไรคนฝึกก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น พระเอก(ผู้ชายที่ร่างเก่าหันมาชอบหลังอกหักจากเจ้านายเก่า) เห็นนางเอกฝึกวิชานั้นก็คิดจะสังหารนางเอกทิ้ง(ฮีรู้ว่าคนฝึกวิชานี้จะบ้าคลั่งฆ่าคนเป็นว่าเล่น) แต่ไปๆ มาๆ นางเอกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ยังมีสติรู้ตัวดีตลอด จะยกดาบฆ่าเฉพาะคนเลว ฮีเลยเปลี่ยนใจ เปลี่ยนเป็นขอติดตามดูนางเอกไปเงียบๆ เรื่อยๆ แล้วกัน ...นางเอกก็โอเค เผื่อวันไหนตนบ้าคลั่งฉุดไม่อยู่จริงๆ จะได้มีคนคอยลงมือ พอฮีได้เห็นสิ่งที่นางเอกทำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการอดทนต่อความเจ็บปวดที่ได้รับ ความเข้มแข็งในการพยายามประคองสติไม่ให้บ้าคลั่ง จิตใจที่ไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมที่เห็นตรงหน้า ความกล้าที่จะหยิบดาบสังหารคนชั่วโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะใหญ่โตมาจากไหน ในขณะที่ผู้มีพลังขั้นสูงๆ กลับยิ่งสูงยิ่งหัวหด ไม่กล้าลงมือทำอะไรแบบนี้ ไม่แม้แต่จะสนใจชีวิตชาวบ้านคนธรรมดา เพิกเฉย+ปล่อยให้คนชั่วรังแกคนอ่อนแอไม่มีพลัง เพราะกฏบ้าๆ ที่บอกว่าผู้มีพลังขั้นสูงไม่ก้าวก่ายกัน แต่นางเอกคือไม่สน หากใครก่อกรรมชั่วทำร้ายชาวบ้านนางก็พร้อมสังหารหมด พระเอกเลยเริ่มมีใจให้นาง แต่ก็รู้ดีว่านางเอกไร้หัวใจไม่มีความรู้สึกแบบชายหญิงแล้วเพราะฝึกวิชานี้ ...ก็จบแบบพระเอกเดินทางติดตามนางเอกท่องไปตามดินแดนต่างๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ


ชาติเทพสงคราม นางเอกมาอยู่ในร่างบุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลแม่ทัพ (ในตอนนี้จะมีสามีเก่าของร่างนี้อีกคนที่ได้ย้อนกลับมาด้วย) ชาติก่อนสามีเก่ารักน้องสาวที่เป็นลูกอนุของภรรยา(เจ้าของร่างเก่า) แต่ถูกคนใช้แผนจึงทำให้พี่แกต้องถอนหมั้นกับคนรักแล้วไปแต่งกับเจ้าของร่างเก่า พี่แกเลยปฏิบัติกับเจ้าของร่างเก่าไม่ดี+ไม่สนใจ เอาแต่คิดและเป็นห่วงคนรักเก่าจนกระทั่งวันตาย ...พอย้อนกลับมาพี่แกเลยตั้งใจว่าชาตินี้จะต้องแต่งกับคนรักเก่าให้ได้ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นแผนการของคนรักพี่แกนั่นแหละจ้าาา

นางอยากแต่งกับท่านอ๋องไม่อยากแต่งกับคนธรรมดาเลยวางแผนล่มงานแต่งตัวเอง แต่ชาตินี้แผนแรกไม่สำเร็จ สามีเก่ากับนางเอกไม่ติดกับแผนนางเหมือนชาติก่อน พอใช้แผนสองแกล้งตกน้ำก็ล่ม แผนสามทุ่มสุดตัวถึงขนาดยอมค้างคืนกับท่านอ๋องเพื่อทำลายชื่อเสียงตัวเอง แต่ให้ตายสามีเก่าของนางเอกก็ยังไม่ยอมยกเลิกงานแต่งกับนาง ความจริงสามีเก่าก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมของนางแล้วแหละ เพียงแต่ยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะภาพลักษณ์คนรักตัวเองคือแสนดี ดูอ่อนโยนอ่อนแอใสซื่อมาตลอด พอมารู้ที่หลังก็เอ้า!นี่มันงูพิษนี่หว่า...55 อยากแต่งกับท่านอ๋องมากจนยอมทำลายชื่อเสียงตัวเอง ถึงท่านอ๋องจะมีภรรยาเอกอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรให้แต่งไปเป็นอนุก็ได้ ยอม... เหอๆ 

ต่อมาเกิดสงคราม คนในตระกูลนางเอกที่ออกรบกำลังแย่ พ่อก็ถูกศัตรูจับเป็นตัวประกัน นางเอกเลยแอบหนีออกจากจวนไปช่วยพ่อ ส่วนสามีเก่าก็แอบมาดักรอแล้วขอตามไปด้วย ...นางเอกพิชิตใจทหารในค่ายเรียกขวัญกำลังใจทุกคนกลับคืนมาจนได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำ และสุดท้ายก็พลิกกลับมาชนะ แย่งชิงดินแดนกลับคืนมาได้ทั้งหมด ทำให้อีกฝั่งต้องถอยทัพหนีและขอเจรจาสงบศึก แต่พอข่าวชนะไปถึงเมืองหลวง พวกขุนนางในราชสำนักก็ถวายฎีการ้องเรียนนางเอกเรื่องนั่นนู่นนี่ พยายามเป่าหูฮ่องเต้ให้เรียกนางเอกกลับมาแล้วส่งคนอื่นไปคุมชายแดนแทน ฮ่องเต้ก็โดนกล่อมจนคล้อยตาม ...ทว่าในขณะที่กำลังเดินทางกลับนางเอกกับท่านอ๋องอีกคน(คนนี้ดี) ก็ถูกลอบสังหาร นางเอกพลัดตกแม่น้ำหายสาบสูญไม่รู้เป็นหรือตาย พอฝั่งศัตรูรู้ข่าวก็ยกดาบสังหารคนที่ฮ่องเต้ส่งมาทำข้อตกลงสงบศึกและยกทัพมาบุกดินแดนใหม่ทันที ฮ่องเต้ก็ใสเจียเสียใจไม่น่าเรียกคนกลับมาเลย บ้านเมืองเผชิญวิกฤติอีกครั้ง ข้าศึกก็บุกเอาๆ จนขุนนางมาขอร้องให้ฮ่องเต้เดินทางลงใต้เพื่อหนีภัยสงคราม ...ตอนนี้มีตัวเอกชายสองคน จบแบบนางเอกไม่แต่งงานแต่ขอเป็นแม่ทัพอยู่ชายแดน นานๆ ทีจะเข้าเมืองหลวงสักครั้ง ความสัมพันธ์เป็นแบบสหายร่วมรบ แนวมิตรภาพ ส่วนสามีเก่าก็หลงรักนางเอกจริงๆ แต่ไม่กล้าสารภาพหรือสานต่อเพราะรู้สึกผิดจากชาติก่อน ...เราว่าจบแบบนี้ก็ดีนะ ไม่ใช่พอได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้หรือมีอำนาจเหนือกว่าก็ไปบังคับให้เขาแต่งด้วย แบบนี้ก็ดี ปล่อยให้เธอได้โบยบิน อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ คบกันแบบสหายผู้รู้ใจ (ชาตินี้มีเสียน้ำตาให้บ้านนางเอกที่ออกรบด้วย T0T)


สามชาติแรกนางเอกไม่มีหวั่นไหวหรือหน้าแดงใจเต้นกับใครเลย นิ่งมาก ไม่คิดแต่ง ไม่มีความรู้สึกใดๆ แบบไม่เอาเลย แต่อย่างเพิ่งถอดใจ เพราะนางจะเริ่มมามีพัฒนาการในชาติที่ 4 ที่เป็นช่างปักนี่แหละ ...ชาตินี้นางเอกเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน พ่อตายแล้ว ในบ้านเหลือแต่ผู้หญิง อีกทั้งกิจการของที่บ้านก็กำลังย่ำแย่ นางเอกถูกแม่บังคับให้เรียนปักผ้าทุกวัน จากที่ปักออกมาเป็นตัวอะไรไม่รู้ก็ค่อยๆ ปักดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งได้เย็บชุดให้เพื่อนบ้านที่เป็นตระกูลตกอับใส่ไปออกงาน พอคนในงานเห็นชุดที่นางเอกเย็บก็ฮือฮาอยากรู้ว่าช่างปักคนนี้เป็นใคร จากนั้นถึงได้เริ่มมีคนมาจ้างเย็บชุด พอเริ่มมีเงินนางเอกก็หุ้นเปิดร้านกับเพื่อนข้างบ้านคนนั้น 

ส่วนพระเอกเป็นพี่ชายข้างบ้านที่เพิ่งย้ายมา หลานชายอดีตฮองเฮาที่ฮ่องเต่สั่งปลด แต่แม่พระเอกซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฮองเฮายืนอยู่ข้างน้องสาว ก็เลยถูกบ้านสามีตัดขาดไล่ออกจากตระกูล พระเอกกับน้องสาวเลยหอบสินเดิมของแม่ตามมาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ ฮองเฮาเพื่อคอยดูแล พระเอกได้แรงบันดาลใจจากนางเอกที่มุ่งมั่นฝึกเรียนปักผ้าเลยตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพ ...ชาตินี้นางเอกได้แต่งงานเพราะที่บ้านอยากได้เขยแต่งเข้า แล้วนางเอกก็ไม่ชอบเข้าสังคม ขี้เกียจไปทำความรู้จักกับคนอื่นใหม่ กับพระเอกคือรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว แถมนางเอกอยากทำอะไรพระเอกก็ตามใจช่วยซัพพอร์ตตลอด สุดท้ายนางเลยยอมแต่ง ส่วนพระเอกก็ยินดีแต่งเข้า(มาก) ถึงจะรู้ว่านางเอกไม่ได้ชอบตัวเองแบบคนรัก แต่ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดก็ยังดี...


ชาติหมอเทวดา ชาตินี้วิญญาณนางเอกมาเข้าร่างหญิงสาวที่เกิดในตระกูลหมอ พ่อของร่างเดิมตายเพราะช่วยปกป้องท่านแม่ทัพ บ้านแม่ทัพเลยรับเลี้ยงลูกสาวของหมอเพื่อตอบแทนบุญคุณ เลี้ยงดูดีและตามใจมากไม่ต่างจากคุณหนูคนหนึ่งเลยจนร่างเก่ามีนิสัยเอาแต่ใจดื้อรั้น เดิมร่างเก่ามีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายรองในจวนแม่ทัพ แต่พอโตขึ้นคุณชายรองกลับไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ เลยจะขอยกเลิกสัญญาหมั้น แต่ร่างเก่าไม่ยอม พอคุณชายรองหนีออกจากบ้านนางก็ตาม และไปๆ มาๆ ก็ทำให้คุณชายใหญ่หรือพระเอกได้รับบาดเจ็บหนักเพราะความดื้อรันเอาแต่ใจของนาง

พระเอก(ลูกชายคนโตของท่านแม่ทัพ ความหวังของจวน)ได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาตจากการช่วยชีวิตร่างเดิม นางเอกเข้ามาอยู่ร่างนี้ตอนที่เจ้าของร่างกำลังจะถูกไล่ออกจากจวนพอดี ตอนแรกนางเอกจะไปแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจขออยู่ต่อเพื่อหาวิธีรักษาขาพระเอกก่อนละกัน ...นางเอกขอย้ายไปอยู่ในเรือนพระเอก ดูแลเรื่องการกินอยู่ทุกอย่าง ตอนแรกพระเอกผอมโซมากเพราะไม่ยอมกินข้าว แต่เจอนางเอกพูดแทงใจดำไปสุดท้ายเลยกลับมากินข้าวตามเดิม เริ่มกลับมาพูดและแสดงอารมณ์ ไม่ใช่เอาแต่นั่งเหม่อใช้ชีวิตให้พอผ่านไปวันๆ ...จากนั้นทุกวันนางเอกก็จะไปเอาตำราแพทย์ที่พ่อทิ้งไว้มาศึกษา พอสาวใช้ในเรือนหรือใครในเรือนพระเอกป่วยนางเอกก็จะขอตรวจแล้วจ่ายยาให้ แต่พอดีว่าสาวใช้คนนั้นไม่ชอบนางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยไม่กินยาที่นางจ่าย พอพระเอกรู้ก็เลยไล่สาวใช้คนนั้นออกและทำให้ตัวเองป่วยเพื่อให้นางเอกมารักษาแทน 

พอพระเอกเริ่มดีขึ้น นางเอกก็จะสะพายตะกร้าแล้วออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่อยู่ไกลๆ เพื่อรักษาคน และตามหาคนที่มีอาการป่วยคล้ายพระเอกเพื่อมารักษา ...ชอบนิสัยนางเอก แบบนางเป็นคนยืดได้หดได้ ตอนที่มีหมอเก่งๆ (คนที่อดีตคู่หมั้นร่างเก่าไปชอบ) มาบอกว่าจะยอมรักษาพระเอกให้ก็ได้ถ้านางเอกยอมมาโขกศีรษะขอขมานางที่หน้าร้านหมอ นางเอกก็ไม่คิดมากรับปากว่าจะไปขอโทษทันทีเลย ไม่ยึกยักเลยแบบยืดได้หดได้ ไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง กลับเป็นพระเอกซะอีกที่ไม่ยอม สวนกลับเป็นชุดๆ แล้วก็ห้ามไม่ให้นางเอกไป 

ตอนนี้จะมีตัวละครหนึ่งที่วิญญาทะลุมิติมาจากอนาคตด้วย เป็นศัลยแพทย์ เย็บแผล+ผ่าตัดได้ แต่รักษาโรคไม่ได้ เวลานางออกไปรักษาจะต้องมีหมออีกคนอยู่ด้วยแล้วให้หมอคนนั้นวินิจฉัยอาการก่อน ส่วนนางก็จะไหลตามน้ำไปทีหลัง ความมาแตกตอนหมอที่เป็นคู่หูนางจากไป คนถึงได้รู้ว่านางรักษาโรคไม่ได้ ตอนแรกนางคิดจะขโมยตำราแพทย์ของนางเอกไปศึกษา แต่ถูกนางเอกจับได้ก่อน ต่อมาเลยทำทีเป็นขอยืมแทน พวกฮูหยินผู้เฒ่ากับแม่พระเอกตอนนั้นยังไม่รู้ นึกว่านางเป็นหมอเทวดาจริงคิดว่านางสามารถรักษาพระเอกได้ เลยอนุญาตและสั่งให้คนไปหยิบตำรานางเอกมาให้ 

พอนางเอกรู้และได้ฟังสิ่งที่ทุกคนพูดกล่อมก็ขี้เกียจจะเสวนาโต้แย้ง เลยกล่าวลาและหันหลังออกจากจวนไปเดี๋ยวนั้นเลย คืออยากได้ไรเอาไปเลย ส่วนนางเอาแค่ตะกร้าสะพายหลังกับจอบไว้ขุดดินหาสมุนไพรไปอันเดียวเท่านั้น พอพระเอกรู้ว่าคนไม่อยู่ก็โมโห สั่งให้คนไปเอาตำราคืนมาและออกตามหานางเอก ความจริงนางเอกรักษาพระเอกหายแล้วแต่ยังไม่ได้บอกคนในจวน พอคนในจวนเห็นพระเอกเดินได้ก็อึ้ง ไม่คิดว่านางเอกจะรักษาได้จริง ...ในชาตินี้นางเอกเต็มใจแต่งงานด้วย เพราะชอบความรู้สึกที่มีคน(พระเอก)คอยปกป้อง (เห็นไหมนางเริ่มมีความรู้สึกแล้ว)


ตอนแม่แห่งชาติ นางเอกมาอยู่ในร่างผู้หญิงวัย 40 ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท ครอบครัวทำอาชีพปลูกดอกไม้(มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง) เป็นครอบครัวหัวเก่า ร่างเดิมไม่ได้เรียนหนังสือตามระบบแต่เรียนพวกคัมภีร์ต่างๆ ตามสมัยโบราณ ได้แต่งงานกับเด็กหนุ่มในหมู่บ้านใกล้ๆ ที่ฐานะยากจนแต่หัวดี พ่อเจ้าของร่างเก่าเสนอว่าจะช่วยออกค่าเล่าเรียนให้แต่มีข้อแม้คืออีกฝ่ายจะต้องแต่งงานกับลูกสาวตน แต่พอผู้ชายได้ไปอยู่เมืองใหญ่+ได้ดีก็ไปแต่งงานกับลูกสาวเจ้านายและมาขอหย่ากับร่างเดิม ซ้ำยังฟ้องแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกไปจากเมียด้วย 

พอเอาลูกไปอยู่ด้วยก็ดูแลไม่ดี ทิ้งๆ ขว้างๆ รักดูแลแต่ครอบครัวใหม่ตัวเอง ให้ลูกใช้ของเหลือจากลูกเมียใหม่ พอลูกโตก็ทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้าน พอได้เดบิวท์ออกอัลบั้ม อิลูกสาวคนละแม่ก็ตามเข้ามาทำงานในวงการและใช้นางเป็นสะพานเหยียบขึ้นไปอีก พอนางเอกมาอยู่ในร่างคนเป็นแม่ นางเลยเริ่มดูแลตัวเอง วางแผนหาเงิน เพื่อหาสถานที่ปักหลักให้ลูกสาว เยียวยาจิตใจช่วยแก้ปมในใจให้ลูกสาวของร่างนี้ คอยช่วยเหลือและปกป้องลูกทุกอย่าง จนทำให้ลูกกลับมาเข้มแข็งและหายจากอาการซึมเศร้า ไม่คิดฆ่าตัวตายซ้ำรอยเดิมเหมือนในชาติก่อนอีก สมกับชื่อตอนแม่แห่งชาติฝุดๆ คือทำเพื่อลูกจริงๆ


ตอนเด็กอัจฉริยะ อันนี้มาอยู่ในร่างเด็กสาวชนบทที่ครอบครัวยากจนมากกก พ่อแม่ตายหมดเหลือแค่เจ้าของร่างกับปู่ 2 คน แต่ปู่เป็นคนซื่อ เชื่อคนง่าย คิดจะหาย่าใหม่มาดูแลหลาน แต่กลับถูกอีกฝ่ายหลอกแทน...เหอๆ หลอกให้ไปทำงานในไร่ดูแลสวน เสียเงินซื้อนั่นนู่นนี่จนแทบหมดตัวแล้วสุดท้ายก็ตกบันไดลงมาเป็นอัมพาตครึ่งล่างในตอนที่กำลังซ่อมบ้านให้เขา แต่เขาก็ไม่รับผิดชอบไม่เคยมาดูดำดูดี... เหอๆๆ 

พอนางเอกมาอยู่ในร่างหลานปู่ นางก็วางแผนเอาตังค์ที่ปู่เสียไปกลับคืนมาก่อนเลยจ้า พอดีมีรายการโทรทัศน์ชื่อรายการจุดเปลี่ยน เป็นรายการที่จะให้เด็กบ้านรวย(ที่เกเร) มาทดลองใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเด็กจนสามเดือนเพื่อปรับเปลี่ยนนิสัย แต่ถ้าอยากกลับก่อนก็ต้องทำงานหาเงินเองมาให้ทางรายการคนละ 5000 หยวนถึงจะได้กลับ บ้านคนที่ปู่ไปแอบชอบถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำ คนบ้านนั้นเลยไม่กล้าโต้ตอบตอนนางเอกมาทวงเงิน สุดท้ายก็ต้องยอมคืน ไม่งั้นเจอนางเอกเล่นใหญ่กว่านั้นแน่55 แต่ตังค์ที่ได้มาก็ยังไม่พอนางเอกเลยต้องคิดวิธีหาเงินเพิ่มต่ออีก (ดูนางเอกหาเงินสนุกมาก)

นางเอกอย่างเท่ ทั้งเท่ทั้งน่าเอ็นดู สู้ชีวิตมาก ขึ้นเขาตัดฟืนแบกฟืนคนเดียวก็ทำได้ ทำอะไรเองได้หมด ทำอาหารก็อร่อย จนสามหนุ่มลูกคนรวยที่มาถ่ายทำรายการอยู่บ้านข้างๆ ติดใจในฝีมือ ต้องมาขอทำงานแลกข้าวทุกวัน ตอนแรกผู้กำกับจะถอดใจและคิดว่าสามคนนี้คงเปลี่ยนนิสัยเดิมไม่ได้ แต่พอเห็นว่าทั้งสามคนเริ่มเปลี่ยนตอนเจอนางเอกเลยให้ช่างภาพคอยตามแอบถ่ายนางเอกไปด้วย... จริงๆ  ถึงนางเอกจะมีสกิลจากชาติอื่นๆ ติดตัวมาแต่ก็ไม่ได้เก่งเวอร์ นางทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไปเท่าที่เด็กสาวอายุ 13-14 คนหนึ่งจะทำได้ เช่นหาเงินด้วยการดูแลคนป่วยในโรงพยาบาล(เพราะนางแรงเยอะ+ทำอาหารอร่อยคนเลยชอบ) ทำอาหารไปขายหน้าโรงเรียนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แบบหอบของใส่จักรยานเก่าๆ ปั่นไปขายตามลำพัง พยายามพึ่งพาตัวเองอย่างสุดกำลัง ไม่รอโชคชะตาหรือร้องขอให้ใครช่วย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ใจจืดใจดำขนาดเห็นคนถูกรังแกแล้วไม่ช่วย ขณะที่สามหนุ่มลูกคนรวยเอาแต่ยืนดูแล้วหัวเราะ แต่นางเอกคือทิ้งจักรยานแล้วพุ่งตัวเข้าไปช่วยเลย จริงๆ เราว่าก็ดีนะที่เขียนให้นางมีทักษะจากชาติเดิมติดตัวมา เพราะมันเอามาปรับใช้ได้จริงเกือบหมดเลย ทำให้นางเอกสามารถอยู่รอดในชาติต่อๆ ไปได้ด้วยกำลังของตนเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบใดก็ตาม เหมือนมีพื้นฐานมาก่อนเลยต่อยอดได้ไว 

พอสามหนุ่มลูกคนรวยนั่นเห็นนางเอกที่อายุน้อยและตัวเล็กกว่าตนพุ่งไปช่วยคนก็ละอายใจ รู้สึกผิดต่อการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง ตั้งใจว่าหลังกลับไปจะไปขอโทษทุกคนที่ตนเคยรังแกถึงที่บ้าน... หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ตามติดนางเอกยังกับตังเม ส่วนคนในบ้านที่ถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำก็ได้แต่แค้นใจอิจฉาริษยา ทว่าก็ทำไรไม่ได้เพราะไม่กล้าล่วงเกินคนจากในเมือง ส่วนนางเอกก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่รู้เลยว่าคนอื่นเขากำลังมองตัวเองเป็นแบบอย่างอยู่... พวกพ่อแม่ลูกคนรวยทั้งสามก็ปลื้มใจที่ลูกเปลี่ยน และก็อยากรับนางเอกมาอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ แต่นางเอกปฏิเสธ ขอเลือกพึ่งพาตัวเองดีกว่า เพราะรู้สึกว่ามีอิสระกว่ากันเยอะ แถมไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใครด้วย เพราะนางไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครอะ ถ้าติดต้องหาทางชดใช้คืน

ป.ล.จริงๆ มีอีก 2-3 ตอนที่ชอบ อย่างตอนนางกู่ กับเซียนหญิง แต่รีวิวไม่ไหวแล้วมันเยอะมาก เดี๋ยวจะยาวเกิน แต่ละชาติก็จะมีปัญหาอุปสรรคแตกต่างกันไป โดยรวมก็สนุกดี  ถ้าใครชอบก็ไปหาอ่านกันเน้อ55


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น