วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ชีวิตข้า...ข้าลิขิต 2 เล่มจบ


ชีวิตข้า...ข้าลิขิต 2 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ถังหยวนเอ๋อร์

ผู้แปล : จื้อหวั่นถานเซียง

ปก : 符殊 (FuShu)

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก อวิ๋นเนี่ยนฝู เป็นบุตรสาวคนรองของอัครมหาเสนาบดี เหมือนจะดูดีแต่จริงๆ ก็เป็นเพียงบุตรอนุที่มารดามีฐานะต่ำต้อย พอแม่ตายพ่อถึงส่งคนมารับกลับจวน นางเอกเป็นบุตรที่พ่อไม่รักไม่โปรดปราน รัก+ให้ความสำคัญแต่กับบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกและหลานสาวแท้ๆ ที่แซ่หลิน แต่ยังดีที่ภรรยาเอกของพ่อ กับพี่สาวต่างแม่หรือพี่สาวที่เกิดจากฮูหยินไม่ได้วางแผนคิดร้ายหรือกลั่นแกล้งอะไรนาง แม้ลึกๆ ตัวพี่สาวจะดูถูกเหยียดหยามที่นางเอกเป็นลูกอนุ แต่ก็ยังคอยดูแลปกป้องนางเสมอจนกระทั่งโต 

เปิดมาบทแรกก็เป็นตอนที่นางเอกกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับชินอ๋องเลย แต่ที่พีคคคคือสามีที่ต้องแต่งด้วยอะตายไปแล้ว นางเอกเลยต้องแต่งกับป้ายวิญญาณของเขาแทน แบบแต่งไปก็ได้เป็นหม้ายขันหมากทันที แต่จะทำยังไงได้ก็มันเป็นสมรสพระราชทานนี่นา เฮ้อออ... จากนั้นก็จะเล่าย้อนกลับไปตอนก่อนแต่งงาน เพราะจริงๆ ตอนแรกคนที่นางเอกชอบอะคือท่านอ๋องอีกคนนะ ส่วนพระเอกก็กำลังคบหาดูใจอยู่กับพี่สาวต่างแม่ของนางเอก (เล่มแรกนี่แทบจะย้อนอดีตทั้งเล่ม)  ต้องบอกก่อนว่าความจริงพระนางคู่นี้เขาเคยเจอกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่จำกันไม่ได้(จำผิดคน) ...นางเอกก็นึกว่าเฉิงอ๋องคือพระเอกหรือพี่ชายตัวน้อยที่ตนเคยเจอในตอนเด็ก ส่วนพระเอกก็คิดว่าพี่สาวนางเอกคือน้องสาวคนสวยที่ตนชอบในตอนนั้น ต่างคนต่างจำคนผิด เพราะตอนพระเอกถามชื่อ นางเอกดันไปบอกชื่อพี่สาว ส่วนนางเอกก็เข้าใจว่าองค์ชายที่มาเที่ยวบ้านตัวเองตอนนั้นคือองค์ชายสามไม่ใช่สี่ ...นางเลยคิดมาตลอดว่าองค์ชายสามคือเพื่อน(ในวัยเด็ก)คนแรกในเมืองหลวงของตน พอได้เจออีกครั้งในตอนโตเลยเกิดความรู้สึกดีๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว 

พระเอกหรือจิ้งอ๋อง(องค์ชายสี่) เป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้รักและโปรดปรานมากที่สุด พระเอกอยากได้การสนับสนุนจากพ่อนางเอกที่เป็นเสนาบดี เลยตกลงจะแต่งพี่สาวคนโตของนางเอกมาเป็นชายา ก็มีการไปมาหาสู่สร้างความสนิทสนมกันจนเกิดความรู้สึกดีๆ พระเอกก็พึงใจในตัวพี่สาว พี่สาวก็พึงใจชอบพอในหน้าตาความสามารถและฐานะของพระเอกเช่นกัน ส่วนนางเอกก็กำลังแอบคบหาติดต่อกับเฉิงอ๋องอย่างลับๆ เรียกได้ว่าทุกคนต่างก็มีใจและพึงพอใจในคู่ของตัวเอง แต่ของนางเอกนั้นที่บ้านไม่รู้ ก็เลยคิดจะจับคู่ให้นางแต่งกับคนอื่น...

ตอนแรกนางเอกกะจะปล่อยเลยตามเลย เพราะการแต่งงานขึ้นอยู่กับคำสั่งของพ่อแม่และวาจาของแม่สื่อ ตัวนางที่เป็นลูกไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองอยู่แล้ว แต่พอเฉิงอ๋องรู้เลยส่งจดหมายมาบอกให้นางวางใจ เดี๋ยวจัดการเอง แต่พอคนแรกถูกยกเลิก คนที่สองก็ตามมา เพราะพี่สาวนางเอกกำลังจะได้แต่งกับพระเอกเป็นที่แน่นอน ที่บ้านเลยจะหาคู่ให้นางเอกแต่งต่อเลย ตัวพี่สาวรู้ว่านางเอกมีคนที่ชอบอยู่แล้วก็บอกให้สู้ (เพราะนางไม่ชอบฐานะ(ลูกอนุ)ของคนที่นางเอกจะแต่งด้วย แล้วก็หวังอยากให้นางเอกแต่งกับคนที่จะเป็นแรงสนับสนุนช่วยนางในวันหน้าได้) สุดท้ายนางเอกกับเฉิงอ๋องเลยจูงมือกันมาคุยกับพ่อนางเอกตรงๆ พ่อก็งงไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปรักกันตอนไหน แต่ก็ตกลงนะ

จากนั้นเฉิงอ๋องก็ไปหาฮ่องเต้เพื่อขอสมรสพระราชทาน ไปถึงก็ปะกับพระเอกที่กำลังทูลขอสมรสแต่งกับคนพี่พอดี ฮ่องเต้เลยจะจัดให้แต่งใกล้ๆ กัน แต่ไม่นานก็เกิดสงคราม พระเอกขออาสานำทัพไปรบ ใจจริงฮ่องเต้ไม่อยากให้ไปแต่พระเอกยืนกรานเลยต้องยอม... พอไปรบตอนแรกก็ชนะ ทว่าหลังจากนั้นก็มีข่าวส่งกลับมาว่าพระเอกตายแม้แต่ศพก็หาไม่เจอ พ่อนางเอกเลยจะเปลี่ยนไปสนับสนุนองค์ชายสามหรือเฉิงอ๋องแทน เพราะดูมีโอกาสได้เป็นรัชทายาทมากสุด เลยนัดคนมาคุยแล้วพูดเป็นนัยๆ ว่าให้เปลี่ยนคู่ เปลี่ยนจากนางเอกมาเป็นพี่สาวแทน(เพราะพี่สาวเป็นลูกภรรยาเอก ถ้าวันนึงองค์ชายสามได้เป็นฮ่องเต้ลูกรักตนจะได้เป็นฮองเฮา) องค์ชายสามก็ตอบตกลง เพราะจริงๆ พี่แกก็เป็นคนทะเยอทะยานอยู่แล้ว ใครล่ะจะไม่อยากได้ตำแหน่งสูงสุดนั้น ...ตอนอ่านนี่ก็สงสัยนะว่ามีเหตุอะไรทำไมนางเอกถึงได้แต่งกับพระเอกหว่า ทำไมจู่ๆ ถึงสลับคู่กัน ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง... 

แต่ตัวพี่สาวก็ค้านไม่อยากแต่ง นางไม่ได้ชอบองค์ชายสาม รู้ว่าเขาชอบพออยู่กับน้อง นางไม่อยากแต่งกับคนที่มีสตรีอื่นในใจอยู่ก่อนแล้ว  แต่... อิพ่อจ้าาาา พอรู้ว่าลูกรักไม่ยอมแต่ง อิพ่อก็ไปหาวิธีทำให้ลูกต้องแต่งจนได้ วิธีอะไรไปอ่านเองเน้อ แต่บอกเลยว่าโหดร้ายมากสำหรับสตรีในยุคโบราณ... ส่วนตัวพี่สาวก็คิดว่าเพราะเรื่องที่นางเอกทำ...จึงทำให้ตนต้องมาแต่งกับองค์ชายสามแทน (บวกกับเจอกล่อมว่าถ้าแต่งกับคนนี้เดี๋ยววันหน้าจะได้เป็นฮองเฮานะ หลังๆ นางเลยคล้อยตาม) ซึ่งจริงๆ อิพ่อต่างหากที่เป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมด แต่นางไม่รู้ เลยไปโกรธเกลียดนางเอกแทน จากเป็นพี่น้องกันดีๆ เลยเปลี่ยนกลายเป็นคู่แค้นนับแต่บัดนั้น


ทว่าหลังแต่งไปได้เพียงวันเดียวข่าวดีก็มาเยือน เพราะพระเอกกลับมาแล้ว พี่แกยังไม่ตุยยยจ้า พอกลับมาถึงก็ได้รู้เรื่องที่ตัวเองแต่งงานแล้ว พระเอกก็แอบดีใจนึกว่าพี่สาวนางเอกรักตนเองมากถึงขนาดยอมแต่งกับป้ายวิญญาณตน ...แต่พอเห็นว่าคนที่แต่งเข้ามาเป็นนางเอกสีหน้าอิพี่ก็เปลี่ยนทันที ส่วนนางเอกก็ตัดใจจากรักเก่าไปตั้งแต่ตอนที่นอนป่วยซมแล้ว เมื่อมาแต่งเป็นชายาของพระเอกน้องก็ตั้งใจว่าจะเป็นภรรยาที่ดี ไม่ได้หวังอะไรมาก ขอแค่ได้เป็นคู่สามีภรรยาที่ให้เกียรติกันก็พอ ...

แต่ตัวพี่สาวนี่สิยังตัดใจจากรักครั้งเก่าไม่ได้ ยังตามมาวุ่นวายและใส่ไฟเรื่องนางเอกเป็นระยะ พระเอกปากก็ปฏิเสธขีดเส้นความสัมพันธ์เด็ดขาด แต่พอเจอสาวเจ้าทำหน้าเศร้าบีบน้ำตาก็ใจอ่อนไม่กล้าทำอะไรรุนแรง บ่าวไพร่ในจวนเห็นพระเอกหมางเมินเย็นชากับชายาของตัวเองก็เริ่มละเลยไม่เคารพนางเอก แต่นางเอกก็ไม่เคยไปฟ้องอะไรพระเอก ใช้ความจริงใจและการกระทำเข้าสู้ พระเอกเมิน+เย็นชาหรือโกรธอะไรนางก็ยังให้คนนำอาหารไปส่งให้เสมอ จนพระเอกเริ่มหวั่นไหวใจเต้นเกิดความรู้สึกดีๆ ด้วย ...

เล่ม 2 จะเข้าสู่เรื่องการเมืองการชิงบัลลังก์ หลังพระเอกหายไปครึ่งปี อำนาจต่างๆ รวมถึงคนที่เคยสนับสนุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฮ่องเต้แม้จะดีใจที่ลูกรักกลับมาแต่ก็ยังไม่อาจดึงอำนาจที่ปล่อยออกไปกลับคืนมาได้อย่างฉับพลัน รวมถึงคนที่เปลี่ยนขั้วก็ไม่สามารถกลับลำกลางคันได้เช่นกัน พระเอกต้องเจอกับการลอบสังหาร(หลายครั้ง) ส่วนนางเอกก็ถูกพี่สาวต่างแม่ปั่นหัวตามมาวุ่นวายชีวิตหลังแต่งงาน ทำให้นางเอกเกิดความระแวงไม่มั่นคงกลัวว่าพระเอกจะเปลี่ยนใจ แม้ฉากหน้าไม่แสดงออก ทว่าลึกๆ ในใจกลับกังวลอยู่ตลอดเวลา

ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องไม่ได้หนักอะไร แอบเอื่อยๆ ด้วยซ้ำนะเราว่า55(เพิ่งมาเครื่องติดตอนเกือบจะจบเล่ม 1) ตัวนางเอกก็ไม่เห็นจะลิขิตชีวิตตัวเองได้ตามชื่อเรื่องเบยย แต่งงานก็แต่งตามราชโองการ ตอนพี่สาวบอกให้ไปจากพระเอกซะไม่งั้นพระเอกจะเดือดร้อนนางก็ไป ตอนโดนขู่ให้กลับวังไปอยู่กลับตัวร้ายนางก็(ต้อง)กลับ ก็ไม่เห็นจะแหก+แหวกหรือต่อต้านอัลรายยยได้เลยย ไม่เห็นจะลิขิตชีวิตตัวเองได้เลย แถมยังกลายเป็นตัวหมากของคนอื่นอีกด้วย ...ส่วนเรื่องการเมืองชิงบัลลังก์ก็อืมม...เร็วดีนะ วางแผนนั่นนู่นนี่มาตั้งนาน บทจะต้องยกให้ก็ง่ายๆ เลยนะ ... โดยรวมก็อ่านเพลินๆ ได้อยู๋!




แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา


แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ

ผู้แปล : พวงหยก

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เป็นเรื่องแรกของท่านเผิงไหลเค่อเลยตั้งแต่อ่านมา ที่นางเอกสายบู๊เป็นแม่ทัพมีวรยุทธ์สูง ปกติเจอแต่สายนุ่มนิ่มเป็นคุณหนูในห้องหอ ส่วนพระเอกเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ทว่าเนื่องด้วยผลประโยชน์ของบ้านเมือง คนสองคนที่แตกต่างแต่มีอุดมการณ์เดียวกัน จึงจำต้องมาแต่งงานกันด้วยเหตุนี้

คนหนึ่งคิดว่าจะเป็นสามีภรรยาที่ให้เกียรติ+ถ้อยทีถ้อยอาศัยกับเขาไปชั่วชีวิต ส่วนอีกคนกลับคิดว่าการแต่งงานนี้ไม่มีทางยั่งยืนจีรัง เป็นแค่เพียงบทละครที่ต้องสวมบทบาทช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น บวกกับเรื่องที่ได้รับรู้ก่อนแต่ง จึงทำให้นางเอกเข้าใจไปว่าพระเอกมีสตรีที่รักอยู่ก่อนแล้ว แต่เพราะชาติบ้านเมืองเลยทำให้ต้องตัดรอนสตรีในดวงใจเพื่อมาแต่งงานกับตน แถมคืนเข้าหอ...พระเอกก็ยังไม่สู้อีก55 นางเอกเลยยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่ คิดว่าพระเอกไม่อยากทำ+กำลังฝืนตัวเอง (แต่จริงๆ พี่แกก็แค่ทำงานเยอะ ไม่ได้พักผ่อน  เลยเหนื่อยเกินไปเท่านั้นเองจริงๆ นะ เพราะหลังๆ จะสู้มาก55)

ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเป็นลูกพี่ชายพระเอก ยังเด็กยังขาดประสบการณ์ พระเอกเลยต้องกลายเป็นเสาหลัก+ที่พึ่งพิงของบ้านเมืองชั่วคราว เพื่อรอวันที่ฮ่องเต้น้อยเติบโตและสามารถแบกรับภาระทุกสิ่งอย่างได้ด้วยกำลังของตนเอง คนอื่นอาจอิจฉาอยากได้อำนาจนี้ หรือเมื่อได้ก็อาจไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ แต่พระเอกคือไม่อะ (หากพ่อกับพี่ชายไม่ด่วนตายก่อน พระเอกก็อยากเป็นเพียงอ๋องเจ้าสำราญเท่านั้น)...เพราะสำหรับพระเอกสิ่งเหล่านี้มันไม่ต่างอะไรกับโซ่ตรวนที่ผูกมัดตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไปไหน จะทำอะไร+คิดอะไร ชาติบ้านเมืองก็ต้องมาก่อนอันดับหนึ่งเสมอ แค่อยากจะตามไปหาเมียที่ชายแดนยังยากเลย อยากจะพักอยู่กับเมียนานๆ หน่อยก็ไม่ได้ ภารกิจเยอะจัด แทบไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเลย🥹

ส่วนนางเอกก็เป็นแม่ทัพหญิงของแทร่! เข้าร่วมกองทัพตั้งแต่เด็ก ออกสนามรบตั้งแต่อายุสิบกว่า ใจกว้าง ใจถึงพึ่งได้ วรยุทธ์สูง แมนฝุดๆ ภายใต้อาภรณ์ทั่วร่างกายนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบนับไม่ถ้วน...นางเอกมีปมในใจเรื่องแม่ เพราะตอนสมัยเป็นทารกระหว่างที่ครอบครัวนางเอกเดินทางไปบ้านตา พ่อนางเอกซึ่งเป็นแม่ทัพถูกเรียกตัวไปคุ้มครององค์หญิงกะทันหัน เลยต้องให้ลูกเมียเดินทางไปกับองครักษ์ก่อน ขณะแวะพักที่เมืองหนึ่ง นางเอกกับแม่ถูกคนไล่ล่าตามมาจับตัวเพื่อหวังใช้เป็นตัวประกัน(เพื่อบีบให้พ่อนางเอกทำตาม) ในตอนที่หมดทางหนี แม่นางเอกเลยห่อลูกด้วยผ้าหนาๆ แล้วโยนออกไป

ส่วนตัวคุณแม่ก็จบชีวิตด้วยการกระโดดหน้าผา ยอมตายแต่ไม่ยอมถูกจับเป็นตัวประกัน เพื่อไม่ให้สามีเดือดร้อน... หลังจากเหตุการณ์นี้พ่อนางเอกเลยตัดสินใจประจำอยู่ชายแดนไม่กลับเมืองหลวงอีกเลย ส่วนนางเอกก็ยังฝัน(ร้าย)ถึงเหตุการณ์นี้เรื่อยๆ จนกระทั่งโต

การแต่งงานที่ไม่ได้คาดหวัง แต่พอแต่งแล้วกลับดีกว่าที่คิด คนหนึ่งเริ่มหวั่นไหว ทว่าอีกคนจิตใจกลับยังแข็งประหนึ่งหิน ทั้งยังใจกว้างดุจมหาสมุทร ไม่สนใจ+ไม่หึงหวง ต่อให้สามีจะรับนางในดวงใจหรือสตรีต่างแคว้นมาเป็นเป็นชายารองก็ตาม ...ความสัมพันธ์ของพระนางช่วงแรกๆ เลยดูมึนๆ ตึงๆ เสมือนคนแปลกหน้า แม้หลังจากนั้นพระเอกจะพยายามเข้าหา แต่นางเอกกลับเตือนตัวเองตลอดว่าไม่ให้เผลอใจ เพราะไม่ช้าตัวเองก็ต้องกลับชายแดน อย่าสวมบทบาทจนอิน คนที่อยู่ข้างกายพระเอกจวบจนวาระสุดท้ายยังไงก็ไม่ใช่นาง

แต่พอปรับความเข้าใจกันได้ก็มีเรื่องให้เข้าใจผิดกันอีก แล้วก็ต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจกันแบบนั้นแหละ...เฮ้ออ

ป.ล. จบดีจ้า




วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ไข่มุกงามเหนือราชัน 6 เล่มจบ


ไข่มุกงามเหนือราชัน 6 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ

ผู้แปล : ถังเจวียน

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

อีกหนึ่งผลงานของท่านเผิงไหลเค่อที่ออกกับแจ่มใสในปีนี้ เรื่องนี้นางเอกสายนุ่มนิ่ม ฉลาดเจ้าเล่ห์ มีความทะเยอทะยานอยากเป็นฮองเฮา(เหมือนชาติที่แล้ว)

นางเอกเป็นหลานสาวขุนนางต้องโทษ ถูกเนรเทศมาอยู่เมืองชายแดนตั้งแต่ 8 ขวบ บ้านเป็นตระกูลขุนนางใหญ่เพราะมีท่านปู่เป็นถึงพระอาจารย์ของรัชทายาท และมีพ่อเป็นถึงท่านทูต(แม่ทัพซ้ายผู) ส่วนมารดาก็เป็นหญิงงามมากความสามารถ แต่วันหนึ่งพ่อตาย แม่ก็ตรอมใจตายตามพ่อ และต่อมารัชทายาทก็ก่อกบฏ ท่านปู่ที่ใกล้ชิดอยู่ฝั่งเดียวกับรัชทายาทจึงติดร่างแหถูกลงโทษตามไปด้วย ...หลังถูกเนรเทศไปชายแดนได้ 2 ปีบ้านนางเอกก็ได้รับการอภัยโทษพ้นจากสถานะทาส แต่ด้วยความไม่พอใจที่มีต่อปู่นางเอกซึ่งเป็นผู้นำตระกูล จึงทำให้ไม่มีญาติพี่น้องคนไหนยินดีรับนางเอกกับแม่นมไปอยู่ด้วย เว้นแต่นายกองตัวเล็กๆ ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องแต่เคยติดหนี้บุญคุณพ่อนางเอกเท่านั้น

ชาติก่อนหลังครอบครัวพ้นมลทินนางเอกก็ได้กลับเมืองหลวงและถูกเสนอชื่อให้เป็นชายารัชทายาท จากนั้นก็ได้เป็นฮองเฮา แต่เป็นได้ไม่กี่ปีก็เกิดสงคราม มีการก่อกบฏ แล้วนางเอกก็ตาย พอตายก็ได้ย้อนกลับมาตอนอายุ 16 สมัยที่ยังอยู่ชายแดนอีกครั้ง... ชาตินี้นางเลยตั้งมั่นว่าจะต้องกลับไปเป็นชายารัชทายาท เป็นฮองเฮา และจะต้องไต่เต้าไปจนถึงตำแหน่งไทฮองไทเฮาให้จงได้!!... ระหว่างนั้นนางก็อาศัยประโยชน์จากการที่รู้เหตุกาณ์ล่วงหน้ามาช่วยรักษาชีวิตแม่นมและคนรอบข้าง จนทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไม่ตายเร็วเหมือนอย่างในชาติที่แล้วอีก ...

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางเอกไปเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของคนอื่นหรือเปล่านะ เลยทำให้เหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ควรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เริ่มไม่เหมือนเดิมเหมือนในชาติก่อน เช่นทำให้นางได้เจอกับใครบางคนเร็วขึ้น ได้ผูกสัมพันธ์กับรัชทายาทตั้งแต่ยังไม่กลับเมืองหลวง รัชทายาทก็มีความรู้สึกดีๆ ให้นางจึงอยากจะพานางกลับไปด้วย แต่นางเอกก็ปฏิเสธ เพราะรู้ว่าอีกไม่นานคดีปู่ก็จะถูกล้างมลทินและตนก็จะถูกเรียกตัวกลับเมืองหลวงเหมือนชาติก่อน นางเลยไม่อยากไปเปลี่ยนแปลงอะไร รวมถึงเรื่องการเสนอชื่อเป็นชายารัชทายาทด้วย นางเอกก็ขอไม่ให้รัชทายาทเอ่ยถึงชื่อนางหรือไปขอร้องอะไรกับฮ่องเต้ ไม่ว่าคู่แข่งชิงตำแหน่งชายาจะมีใครบ้างหรือมีกี่คน นางเอกก็ไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะรู้ว่าสุดท้ายยังไงตนเองก็คือผู้ชนะที่จะได้ตำแหน่งนั้นไปครอง 

ทว่าาาาอาจเป็นเพราะชาตินี้นางได้เจอรัชทายาทเร็วเกินไปมั้ง ความรู้สึกที่รัชทายาทมีต่อนางก็ชัดเกินจนทำให้ถูกคนจับได้ นางเอกเลยถูกคนสกัดดาวรุ่งต้องฝันสลายก่อน เพราะคนจับได้กลัวคนที่ตัวเองสนับสนุนจะชวดเลยรีบไปเป่าหูฮ่องเต้ เลยทำให้นางเอกถูกจับแต่งกับพระเอกแทน55 ...(ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง ไอ้ที่เขาทำฉันนั้นก็ทำ แต่ทำและไม่เคยสมหวัง. ..🤣🤣)

พระเอกคือองค์ชายสี่หรือฉินอ๋อง เป็นลูกรักคนโปรดของอดีตฮ่องเต้ ถูกเข้าใจผิดว่ามีส่วนร่วมในการก่อกบฏเลยถูกส่งไปเฝ้าสุสานหลวง พอพ้นผิดถูกปล่อยตัวออกมาป๊ะป๋าฮ่องเต้ที่รักพี่แกมากก็ตายเสียแล้ว จากองค์ชายที่สดใสร่าเริงก็เปลี่ยนเป็นเงียบขรึมเย็นชา ถูกฮ่องเต้องค์ใหม่หวาดระแวงจับตามอง สถานะอิหลักอิเหลื่อ ฐานะสูงก็จริงแต่กลับไม่มีบ้านไหนกล้ายกลูกสาวให้แต่งงานด้วยเลย หวยจึงมาออกที่นางเอก อดีตหลานสาวพระอาจารย์ผู คุณหนูตระกูลตกอับที่เพิ่งกลับมาจากชายแดน ไม่มีเส้นสาย และไม่มีวงศ์ตระกูลหนุนหลัง

พอรู้ว่าต้องแต่งกับพระเอก นางเอกก็เหวอไปแป๊บ จากนั้นก็ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี แบบไม่เป็นไร! ก็แค่เปลี่ยนจากช่วยรัชทายาทให้ได้ครองบัลลังก์อย่างราบรื่นมาเป็นช่วยพระเอกก่อกบฏให้ได้บัลลังก์แทนละกัน(ฟะ) ก็แค่เปลี่ยนสามี แต่ยังไงชั้นก็ยังได้เป็นฮองเฮาเหมือนเก่านิ่! นางไม่คิดเปล่ายังเอาไปบอกพระเอกด้วยจ้า คิดว่าพระเอกจะต้องเห็นด้วยแน่ๆ เพราะชาติที่แล้วก่อนตายพระเอกก็ได้เป็นฮ่องเต้นิ่ นางเลยคิดว่าพระเอกต้องกำลังซุ่มวางแผนชิงบัลลังก์อยู่แน่ๆ แต่ทำเป็นนิ่ง ...สุดท้ายเจอพระเอกปฏิเสธ บอกไม่อยากชิงไม่ได้อยากเป็นฮ่องเต้ แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังไม่เชื่อ ขอไปกล่อมใหม่อีกรอบ คราวนี้รอบสุดท้าย เพราะเชื่อและว่าพระเอกไม่มีความคิดนี้เลยจริงๆ ...แต่ในใจนางเอกก็ยังคิดว่าไม่เป็นไร เพราะท้ายที่สุดเดี๋ยวพระเอกก็ต้องถูกบีบให้ก่อกบฏอยู่ดี แค่เส้นทางต่างแต่จุดหมายยังคงเดิม สุดท้ายนางก็ต้องได้เป็นฮองเฮาคือเก่า(มุ่งมั่นมากสาววว55)

แอบนับถือในความพยายามมุ่งมั่นของนางเอกอยู่นะ เป้าหมายชัดเจน รู้จักพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ มูฟออนไว เจอพระเอกต่อว่า+ตอกกลับหน้าหงายไปกี่หนก็ยังไม่ท้อไม่ยอมแพ้ ...แต่จะว่าไปก็น่าเห็นใจนางแหละ โดนเนรเทศตั้งแต่ 8 ขวบ ใช้ชีวิตอย่างปากกัดตีนถีบ ถ้าไม่ได้นายกองหยางรับอุปการะก็อาจจะไม่รอด พอชาติก่อนได้เป็นฮองเฮาได้กินหรูอยู่สบาย ก็ไม่แปลกที่นางจะไม่อยากกลับมาลำบากอีก อยากมีอำนาจที่จะควบคุมชีวิตตนเองได้ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นมาชี้นิ้วควบคุม ความจริงเป้าหมายนางก็ไม่ได้ทำร้ายใครนะ แรกเริ่มก็แค่อ่อยทำให้รัชทายาทประทับใจชอบพอ จากนั้นนางก็รอให้ถูกเรียกตัวเหมือนชาติที่แล้ว แต่ชาตินี้มีพระเอกเข้ามาแทรก ได้เจอพระเอกเร็ว จากชาติก่อนที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ เพียงเจอหน้าไม่กี่หน เป็นแค่ท่านอากับหลานสะใภ้ ชาตินี้ดันได้เจอตั้งแต่อยู่ชายแดน เจอกันตอนที่นางกำลังนัดคุยกับเพื่อนที่เป็นบุรุษ จากนั้นก็มาเจอกันตอนที่นางเอกกำลังเล่นพิณตกรัชทายาทอีก เลยทำให้พระเอกยิ่งเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นสตรีที่ไม่ดี ชอบยั่วยวนบุรุษ หลายใจ ทะเยอะทะยานใฝ่สูง 

พอต้องมาแต่งงานกัน พระเอกเลยไม่เชื่อว่านางเอกจะยอมเปลี่ยนนิสัย+ทิ้งแผนการเดิมที่วางเอาไว้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเช่นนี้ พี่แกจึงเย็นชาไม่สนใจเมีย เวลานางเอกเข้าหาอยากมีปฏิสัมพันธ์ก็ถอยหนี นางเอกเลยต้องขอร้องว่าเวลาอยู่ในห้องสองต่อสองจะเป็นยังไงก็ได้ แต่เวลาอยู่ต่อหน้าบ่าวไพร่หรือไปข้างนอกก็ช่วยรักษาหน้าตนเองหน่อยเถอะ ...อีกอย่าง ชาตินี้ก็มีคนมาชอบนางเอกเยอะ หากไม่นับรัชทายาทกับตัวร้ายที่ทำให้นางเอกตายในชาติก่อน ก็มีคุณชายลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ เพื่อนที่อยู่ชายแดน องค์ชายน้อยจากต่างแดน ซึ่งพระเอกก็ชอบคิดแต่ว่านางเอกไปตกเขามา ทั้งที่จริงๆ มีแค่รัชทายาทคนเดียวที่นางเอกตั้งใจตก ส่วนที่เหลือน่ะมาชอบนางเอกเองทั้งนั้น (รวมถึงพระเอกด้วย..ชิๆ)

ตอนเป็นชายารัชทายาทที่นางเอกต้องสู้รบปรบมือก็มีแค่สตรีในวังบูรพา พอมาเป็นเมียพระเอกเท่านั้นแหละ อูยยย... ไม่รู้มาจากไหนเยอะแยะ55 ทั้งฮ่องเต้ ไทเฮา ฮองเฮาและบลาๆ ...อย่างที่บอกคือสถานะพระเอกมันอิหลักอิเหลื่อไง แม้ป๊ะป๋าฮ่องเต้ที่ตายไปจะประกาศแล้วว่าพระเอกไม่มีความผิด แต่พี่ชายหรือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ยังระแวงอยากสังหารพระเอกเสมอมา แต่ยังเกรงบารมีเจียงไทเฮาอยู่ ส่วนรัชทายาทก็แค้นที่พระเอกได้แต่งกับนางเอก แค้นที่ถูกแย่งสตรี จากที่ไม่เคยคิดแค้นอะไรเลยก็เปี๋ยนนปายย คิดอยากฆ่าพระเอกให้ตาย ในงานล่าสัตว์รัชทายาทก็วางแผนล่อพระเอกไปสังหาร แต่ดีที่มีคนมาเตือนนางเอกก่อน พระเอกเลยยังไม่ขิต 

ช่วงมางานล่าสัตว์จริงๆ ความสัมพันธ์ของพระนางก็เหมือนจะดีขึ้นนะ เขาก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งตามประสาสามีภรรยา นางเอกคืออยากมีลูกมาก นางต้องการลูกมาทำให้ตำแหน่งในอนาคตของตนมั่นคง(เผื่อวันนึงพระเอกมีสตรีอื่น) และกระตุ้นให้พระเอกฮึดสู้ ซึ่งนางก็จะมีกำหนดวันขึ้นเตียง มีสมุดเล่มเล็กๆ พกติดตัวเป็นคู่มือแนะนำว่าต้องขึ้นวันไหนถึงจะมีโอกาสตั้งท้องสูง ต้องทำทิศไหนตรงไหน ต้องกินอาหารอะไรช่วย อะไรแบบนี้ ...ตอนแรกพระเอกไม่รู้ พอมารู้ที่หลังก็โกรธมาก รู้สึกเหมือนถูกใช้เป็นเครื่องมือผลิตลูก ที่นางเอกมาเข้าหาก็เพราะอยากได้ลูกเหรอ พอพ้นวันดีๆ ที่เขียนไว้ในหนังสือก็ไป ไม่ยอมนอนด้วยอีก จบด้วยการทะเลาะกันแล้วพระเอกก็พูดจาทำร้ายจิตใจนางเอก เป็นคำพูดที่กลายเป็นเงามืดในใจนางเอกเรื่อยมา แม้ภายหลังพระเอกจะมาขอโทษแล้วก็ตาม

ตอนนั้นทั้งคู่มีหมายกำหนดเดินทางไปแคว้นบ้านตาพระเอกพอดี ก็เลยไปกันแบบโกรธๆ มึนๆ ตึงๆ  (พระเอกอะโกรธไม่พูดไม่จา) พระเอกมีญาติผู้น้องคนงามฝั่งแม่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กที่รอคอยจะแต่งงานด้วยอยู่หนึ่งคน หากไม่เกิดเรื่องกบฏอีกฝ่ายก็คงได้แต่งเป็นชายารองพระเอกไปนานแล้ว ตัวญาติผู้น้องก็รักพระเอกมากจึงเฝ้ารอคนไม่ยอมออกเรือนสักที ท่านลุงเลยมาคุยเรื่องนี้กับพระเอก หวังว่าหลานจะรับลูกสาวตนไปเป็นชายารองตามเดิม แต่พระเอกขอคิดดูก่อนยังไม่ตกลง แต่รอแล้วรอเล่าพระเอกก็ยังไม่ตอบ ญาติผู้น้องเห็นว่าพวกพระเอกใกล้จะกลับกันแล้วเลยไปคุยเรื่องนี้กับนางเอกตรงๆ (พระเอกก็ไปยืนแอบฟังว่าเมียจะตอบยังไง)  พอได้ยินคำตอบเมียเท่านั้นแหละ อิพี่ก็เจ็บจี๊ดแล้วไปปฏิเสธท่านลุงทันทีเลยจ้า55 

ต่อมาไทฮองไทเฮาก็ส่งคนมาเร่งให้พระเอกรีบกลับเพราะจะให้พี่แกไปส่งองค์ชายน้อย(ลูกน้าพระเอก องค์หญิงแคว้นหลี่ที่แต่งไปนอกด่าน)กลับบ้านต่อ ก่อนไปพระ-นางก็ทะเลาะกันอีกรอบ นางเอกเข้าใจผิดและทำของสำคัญของพระเอกเสียหาย ไม่มีเวลาปรับความเข้าใจเพราะพระเอกต้องรีบไปก่อน หลังส่งคนเสร็จและช่วยให้องค์ชายขึ้นเป็นข่านได้สำเร็จ จู่ๆ พระเอกก็คิดถึงนางเอกมากเลยรีบขอตัวกลับก่อน จะรีบไปหานางเอก แต่พอกลับมาถึงก็ได้รู้ว่าหลังแยกกันเดินทางฝั่งเมียก็เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อยเช่นกัน แล้วจนถึงตอนนี้เมียก็ยังไม่กลับมาบ้านเลย พระเอกเลยตัดสินใจเดินทางไปรับคนกลับมาเอง... ละวางความโกรธทั้งหลายยอมเป็นฝ่ายถอยและง้อก่อน แต่พอไปถึงทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ความรู้สึกดีๆ ที่หอบมาพร้อมกับความคิดถึงความโหยหาแทบสลายไปในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดอันเย็นชาของเมีย ทว่าสุดท้ายพี่ก็ยอมทำตามที่เมียขอ ยอมเป็นเครื่องมือเพื่อให้เธอก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงสุดตามที่เธอต้องการ เพียงต่อแต่นี้จะไม่มีอีกแล้วชายหนุ่มที่หวั่นไหวใจเต้นชอบแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่อหน้าเธอ...

ปีนี้ได้อ่านผลงานใหม่ของท่านเผิงไหลเค่อ 3 เรื่องแล้ว แต่ส่วนตัวชอบเรื่องนี้ที่สุดอะ เป็นแนวการเมือง การแย่งชิงบัลลังก์ ศึกสงครามการสู้รบ ...แผ่นดินยังไม่สงบ รอบๆ ประกอบไปด้วยแคว้นเล็กแคว้นน้อยมากมายที่พร้อมจะเปลี่ยนข้างและลอบกัดเราได้ตลอดเวลา ในเรื่องจะมีแคว้นหลี่ของพระนางกับตงตี๋ซึ่งเป็นแคว้นที่มีกำลังมากและดินแเดนใหญ่สุด เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน พระเอกต้องการดึงแคว้นเล็กรอบๆ มาเป็นพวกและกำจัดภัยใหญ่สุดก็คือตงตี๋ แต่นอกจากศึกภายนอกก็ยังมีศึกภายในที่ขาดไม่ได้เลยเจรงๆ พระเอกต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน เพราะฐานะอดีตองค์ชายที่มีส่วนในการก่อกบฏครั้งนั้น จึงทำให้พี่ชายหรือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันหวาดระแวงอยากกำจัดพระเอกเป็นอย่างมากกก มีโอกาสเหมาะๆ เมื่อไรเป็นต้องวางแผนลอบฆ่าทุกที หลังพี่ไปแล้วก็ยังเจอลูกชายพี่ระแวงต่อ จนพระเอกต้องขอไปรับตำแหน่งทำงานที่ชายแดนเพื่อรักษาชีวิต แต่ตอนแรกพี่กะจะไม่พาเมียไปด้วยเพราะมันลำบาก บอกนางเอกให้รออยู่ที่เมืองหลวงนะ ทีแรกนางเอกก็รับปากทั้งที่ใจจริงๆ ตรงกันข้าม อยากไปด้วยเหลือเกิน ตอนย่าพระเอกถามอีกรอบนางเลยรีบเสนอตัวขอไปด้วยเลย55 (เดี๋ยวพระเอกไม่ให้ไป)

ขณะเดินทางแม้ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายน้ำท่าไม่ได้อาบแต่นางเอกก็ไม่เคยบ่น ระหว่างนั้นนางเอกเคยพยายามเข้าหาพระเอกแต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา นางเอกทั้งเสียใจทั้งหน้าเสีย รู้แล้วว่านับตั้งแต่ที่พระเอกรับปากครั้งนั้นตนเองก็ได้สูญเสียหัวใจของอีกฝ่ายไปแล้ว จากนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นเพียงความเคารพอยู่อย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ...ทว่าเสียใจมากแค่ไหนแต่นางก็ไม่เคยคิดจะลดคุณค่าของตัวเองลง พอปรับอารมณ์ปรับความคิดได้นางก็ move on ไปต่อทันที (ชอบนางเอกเรื่องนี้ก็ตรงจุดนี้แหละ ไม่มัวมานั่งฟูมฟายตัดพ้อ ใครไม่เห็นค่าเราก็ช่างเขาแต่เราต้องเห็นค่าตัวเอง move on ไว ล้มแล้วลุกเร็ว) พอเช้ามานางก็ยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลายเป็นตัวพระเอกเองที่มานึกเสียใจภายหลัง...

2 เล่มท้ายพระนางไปอยู่ชายแดน พระเอกก็ช่วยเหลือ+ผูกใจพวกแคว้นเล็กแถวๆ นั้นจนเขายอมศิโรราบมาเข้าพวกด้วย บางแคว้นพอเห็นว่ากองกำลังของพระเอกแข็งแกร่งจริง บวกกับเริ่มมีแคว้นอื่นไปเข้าร่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตามมาขอเข้าร่วมทีหลัง ...ความสัมพันธ์ของพระนางเองดูเผินๆ ก็เหมือนว่าจะดี แต่จริงๆ มันยังมีชั้นกำแพงบางๆ ขวางกั้นอยู่ พระเอกยังคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่งซึ่งมีหน้าที่นำพานางเอกไปสู่เป้าหมาย ตนก็แค่ทำไปตามนั้น ในใจจึงยังโหวงๆ อยู่ตลอด (ไม่รู้ว่าเมียจะรักเราจริงๆ มั้ย) ต่อมาก็มีคนมาส่งข่าวว่าแคว้นตาพระเอกเกิดเรื่อง ญาติผู้น้องถูกจับตัวไป พระเอกเลยต้องรีบบึ่งไปช่วย พอช่วยญาติผู้น้องเสร็จก็เอามาฝากไว้ให้นางเอกช่วยดูแล เพราะพี่แกก็ต้องรีบบึ่งไปช่วยท่านลุงตัวเองต่อ จากนั้นก็มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับญาติผู้น้องแพร่กระจายออกไปทั่ว ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจไปว่าญาติผู้น้องเป็นคนของพระเอก อีกไม่นานพระเอกก็จะรับญาติผู้น้องมาเป็นชายารอง 

หลังจากพระเอกไม่อยู่ก็มีข้าศึกยกทัพมาบุกเมืองชายแดน นางเอกกับลูกน้องคนสนิทของพระเอกก็ต้องช่วยกันวางแผนรับมือ ญาติผู้น้องก็มาช่วยด้วย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้รับชัยชนะ ชาวเมืองเลยพากันขอบคุณและยกย่องญาติผู้น้อง ข่าวลือเลยยิ่งดูเหมือนจะเป็นจริง ขนาดทหารคนสนิทของพระเอกยังอดคิดไม่ได้เลย ...

มาพูดถึงรัชทายาทบ้าง หลังรัชทายาทได้เป็นฮ่องเต้ พี่แกก็รอวันที่ย่าพระเอก(ไทฮองไทเฮา) จะหมดลมหายใจ เพื่อจะได้มีข้ออ้างเรียกสองผัวเมียกลับเมืองหลวงสักที แต่ย่าพระเอกรู้ทันเลยวางแผนดักพี่แกไว้ก่อน ทำให้เรียกคนกลับมาไม่ได้ แต่อิพี่ก็ยังไม่ยอมง่ายๆ เพราะปักใจเชื่อมาตลอดว่าพระเอกแย่งสตรีที่ตนรักไปเลยเคียดแค้นฝังใจ รอให้ตนเป็นฮ่องเต้เมื่อไรก็จะตามไปเอาคนคืนมา ...จริงๆ นางเอกก็เกือบจะถูกเขาพาตัวไปและ แต่หนีออกมาได้ก่อน แต่ในระหว่างหลบหนีข้าศึกก็ดันยกทัพมาพอดี รัชทายาทเลยไม่มีเวลามาไล่จับนางต่อเพราะต้องรีบกลับไปรับศึกสามทาง จากศัตรูภายนอกแคว้นสอง และจากคนข้างในที่ก่อกบฏหนึ่ง


อ่านจบแล้วววอยากจะบอกว่าชอบตอนพิเศษมาก ถ้าเนื้อเรื่องหลักเป็นแบบนั้นได้ก็คงดี ...และก็มีอีกสองตัวละครในเรื่องที่ชอบและอยากจะพูดถึง คนแรกคืออดีตแม่ทัพใหญ่เจียงอี้ ที่ติดร่างแหเรื่องกบฏเลยโดนปลดแล้วถูกส่งไปเป็นคนเลี้ยงม้าที่ต่างเมือง เป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่กับน้าพระเอก แต่น้าพระเอกถูกส่งไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ที่นอกด่าน  พี่เจียงก็รักเดียวใจเดียวมั่นคงจนวันตาย แต่ไม่อยากให้สาวเจ้ารู้สึกผิดจึงไม่คิดไปเจอหน้า(แม้จะมีโอกาส) และไม่อยากให้เขารับรู้ข่าวคราวของตัวเองแล้วเป็นห่วงหรือรู้สึกผิดใดๆ ด้วย พลาดแล้วคือพลาดเลย เพียงปรารถนาให้เธอปลอดภัยและอยู่ดีมีสุขก็พอ แต่ชาติที่นางเอกย้อนกลับมานี่เหมือนจะมีหวังอยู่นะ เพราะท่านข่านน้อย(ลูกชายองค์หญิง) ให้สัญญาว่าถ้าตนแข็งแกร่งตั้งตัวได้เมื่อไรก็จะส่งแม่กลับคืนสู่มาตุภูมิเดิม(ให้ไปอยู่กับพี่เจียง)

อีกคนคืออดีตอันธพาลหรือเพื่อนของนางเอกที่อยู่เหอซี นี่ก็ตระกูลตกอับต้องโทษเหมือนกัน ชาติก่อนตายเร็ว ชาตินี้นางเอกเลยช่วยให้พ้นเคราะห์ได้มีชีวิตอยู่ต่อ เป็นตัวละครที่เดาทางไม่ถูกว่าจะดีหรือไม่ดี แต่ที่แน่ๆ คือพี่แกจริงใจต่อนางเอกและไม่เคยทรยศนาง ไม่ว่านางเอกจะตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตยังไงหรือต่อให้อยู่กันคนละฝั่ง พี่ก็ยังพร้อมยื่นมือเข้าช่วยนางเอกเสมอ ตอนแรกนึกว่าพี่จะทะเยอทะยานทำได้ทุกอย่างเพื่อเป้าหมายโดยไม่สนใจสิ่งใด แต่ไม่ใช่แฮะ ดูได้จากตอนที่ถูกเรียกกลับเมืองหลวงแต่พี่ไม่กลับ เพราะสงครามยังไม่จบ เบื้องบนจะกริ้วก็ช่างแต่เมืองจะแตกไม่ได้ ... (เอาใจข่อยไปเลย) คนนี้อยากให้ได้คู่กับหลานสาวพระเอกอะ ไม่รู้จะได้คู่กันไหม แต่หลานพระเอกก็ดูจะชอบๆ พี่แกอยู่นะ หุๆ...

ป.ล. จริงๆ นางเอกมีปมในใจเรื่องที่ชาติก่อนตอนที่กำลังลำบากนางเคยส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากพระเอกแต่พระเอกไม่ได้มา แล้วสุดท้ายนางก็ตาย ... ก็มาดูกันว่าชาตินี้นางจะปลดล็อกปมในใจนี้สำเร็จไหม ชาตินี้พระเอกจะมาช่วยนางทันรึเปล่า หรือจะพลาดอีกหนอ ต้องมาลุ้นกันนนน...




วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน เล่ม 1-4


ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน เล่ม 1-4 (5 เล่มจบ)

ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว

ผู้แปล : เป๋าเป่า

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก อวี๋ชิงจยา คุณหนูหกตระกูลอวี๋ เจ้าของฉายาอวี๋เหม่ยเหริน สูญเสียมารดาไปตั้งแต่ 10 ขวบ ไม่เป็นที่ชื่นชอบของย่าทวดกับบ้านใหญ่ มีพี่สาวต่างมารดาอยู่ 1 คน นางเอกเป็นบุตรสาวของบ้านรอง พ่อนางเอกก็เป็นคนของบ้านรอง แต่เพราะบุรุษสายตรงของบ้านใหญ่เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่หลงเหลือทายาทที่เป็นบุรุษ พ่อนางเอกซึ่งเป็นทายาทของบ้านรองจึงถูกอวี๋เหล่าจวินหรือย่าทวดใช้คำว่ากตัญญูมากดข่มบีบบังคับให้เป็นผู้สืบทอดของทั้ง 2 บ้าน... พ่อนางเอกจึงต้องจำใจแต่งพี่สะใภ้(คู่หมั้นพี่ชายบ้านใหญ่) มาเป็นภรรยาเอกอีกหนึ่งคนเพื่อสืบทอดทายาทให้บ้านใหญ่ ทั้งที่ตนเองก็มีคู่หมั้นหมายซึ่งเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่อยู่ก่อนแล้ว  

เป็นแนวระบบ(ที่มีก็เหมือนไม่มี55) ตัวร้ายหรือพี่สาวต่างแม่นางเอกตายแล้วได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่พร้อมกับระบบติดตัว นางค้นพบว่าตัวเองเป็นเพียงตัวประกอบหญิงในนิยายแมรี่ซูที่น้องสาวต่างแม่เป็นนางเอกของเรื่อง ดังนั้นพอได้ย้อนกลับมา นางจึงตั้งใจว่าจะมาแทนที่น้องสาวหรือนางเอกตัวจริงให้ได้!

ส่วนนางเอกตัวจริงถึงจะไม่มีระบบ ไม่ได้ย้อนกลับมา และไม่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเหมือนพี่สาว แต่ก็เคยฝันเห็นเรื่องราวที่พี่สาวตายแล้วได้ย้อนกลับมาพร้อมกับระบบขี้โกง จากนั้นก็ขโมยสิ่งต่างๆ ที่ควรจะเป็นของนางไป และสุดท้ายนางก็ตายด้วยการถูกวางยาพิษ ...

หลังจากที่แม่นางเอกตาย พ่อก็ขอย้ายไปรับตำแหน่งที่ต่างเมืองพร้อมกับพานางเอกไปด้วย ระหว่างนั้นย่าทวดก็ส่งจดหมายมาคอยกดดันเรียกให้กลับตลอด แต่พ่อนางเอกก็ไม่กลับ ส่วนตัวพี่สาวพอมีระบบก็พยายามคิดหาทางจะพานางเอกกลับมา เพราะรู้ว่านางเอกต้องได้เจอพระเอกก่อนแต่ไม่รู้ว่าตอนไหน นางเลยอยากให้นางเอกกลับมาอยู่ในสายตาเพื่อคอยจับตาดู ตั้งแต่มีระบบชีวิตพี่สาวก็ดีขึ้นๆ เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเพราะมีระบบคอยช่วย ทั้งได้เป็นคนโปรดของย่าทวดเพราะนางแอบเอายาจากระบบใส่ให้ย่ากิน ทำให้ย่าสุขภาพดีขึ้น เวลาอยู่ใกล้นางก็รู้สึกแฮปปี้ คนอื่นๆ ก็พากันอวยชื่นชมในวิชาแพทย์ของพี่สาว

พระเอกมู่หรงเหยียนหรือหลางหยาอ๋อง บุตรชายคนเล็กของรัชทายาท พ่อพระเอกเป็นรัชทายาทที่ดีมีคุณธรรมไม่เข่นฆ่าโดยไร้เหตุผล เลยเสมือนเป็นแกะดำของตระกูล เพราะตระกูลมู่หรงของพ่อมีแต่พวกบ้าเลือดชอบสังหารคน เห็นเลือดแล้วยิ่งคึกคักขาดสติ คนตระกูลนี้ยิ่งถ้าใครเก่งๆ มีความสามารถก็จะยิ่งบ้าระห่ำสุดๆ (เหมือนที่นางเอกเคยบอกว่าตระกูลนี้สายเลือดมีปัญหา)... พระเอกเป็นคนหน้าตาดีมากกกๆ แต่เย็นชา+เลือดเย็น โหดเหี้ยม ไม่เคยสนใจสิ่งใดหรือรู้สึกรักผูกพันกับใครแม้แต่คนในครอบครัวตัวเอง ไม่เห็นค่าชีวิตใคร แบบช่างมันเกี่ยวไรกับชั้นด้วย มองทุกสรรพสิ่งอย่างเฉยชา ... 

พ่อพระเอกที่เป็นรัชทายาทถูกคนหักหลังใส่ร้าย ทำให้คนในตำหนักบูรพาถูกสังหารตายหมด มีพระเอกรอดคนเดียวเพราะวันนั้นออกไปข้างนอกพอดี พระเอกเลยต้องระหกระเหินหนีตาย ต้องปกปิดตัวตนด้วยความช่วยเหลือจากขุนนางผู้ภักดี แต่พอปู่พระเอกใกล้ตายก็เกิดสำนึกเสียใจที่สั่งฆ่าบ้านรัชทายาท เลยอยากเห็นหน้าหลานรักหรือพระเอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตาย ออกประกาศให้พระเอกกลับมาพร้อมมอบตำแหน่งหลางหยาอ๋องให้ แต่พระเอกก็ไม่ได้กลับไป ...(ขืนโผล่ออกไปก็ตายสิ เพราะเสด็จอาพระเอกกำลังรอฆ่าทายาทคนสุดท้ายของรัชทายาทอยู่)

เป็นยุคที่บ้านเมืองโกลาหลแบ่งเป็นเหนือใต้ ฮ่องเต้เหนือปกครองโดยตระกูลมู่หรง ตระกูลนี้หน้าตาดีทั้งบ้านแต่โหดเหี้ยมอำมหิต ลุ่มหลงในสุรานารี ชอบการเข่นฆ่าสังหารคนโดยไร้กฏเกณฑ์ หูเบา ให้ท้ายขุนนางชั่วครองเมือง ...หลังจากปู่ตายพระเอกก็ถูกอาแท้ๆ ตามไล่ฆ่า สุดท้ายพระเอกเลยต้องปลอมตัวเป็นอนุของพ่อนางเอกเพื่อปกปิดตัวตน ตอนแรกนางเอกเห็นพ่อรับอนุเข้าบ้านก็เคืองๆ นึกว่าพ่อกลับคำไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ตอนแม่ตาย ช่วงแรกๆ น้องเลยไม่ชอบและมีอคติกับพระเอกมาก พยายามจะวางตัวข่มเขาแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายถูกข่มกลับพ่ายแพ้กลับมาเองทุกรอบ เวลานางเอกไปฟ้องพ่อ พ่อก็ไม่เข้าข้าง แถมยังบอกให้ลูกเคารพผู้อาวุโสอีก55 

แต่อ่านแล้วขำนะ เพราะนางเอกไม่รู้ว่าพระเอกเป็นใครเลยกล้าแหย่กล้าว่า ขณะที่พ่อนางเอกเหงื่อแตกพลั่กๆ จะพูดทีก็ต้องระวังไม่กล้าล่วงเกิน กลัวพูดไม่เข้าหูแล้วเดี๋ยวจู่ๆ พระเอกหยิบดาบขึ้นมาฟัน เพราะตระกูลนี้โหด+บ้าเลือดจริง แต่นางเอกไม่รู้ไง55 นางยังนึกว่าพ่อเปลี่ยนสเปคมาชอบคนงามสายหยิ่ง+เย็นชาแล้ว แต่หลังจากที่เจอเหตุการณ์ลอบฆ่านางเอกก็เริ่มรู้สึกดีกับพระเอกมากขึ้น ไม่ได้อคติเหมือนเมื่อก่อน เริ่มสนิทไว้ใจ มีเรื่องอะไรก็เอามาเล่าปรับทุกข์ให้ฟังประหนึ่งเพื่อนสาว ส่วนพระเอกก็ยังเย็นชาไม่ใส่ใจ พยายามถอยห่างไม่อยากให้นางเอกเข้าใกล้ แต่ก็เริ่มมีความอดทนและปฏิบัติกับนางเอกแตกต่างจากคนอื่นอยู่ คือไม่ว่าและยอมให้นางเอกเรียกตัวเองว่า 'ปีศาจจิ้งจอก' ได้ แต่ลองเป็นคนอื่นหรือใครพูดสิ ตายสถานเดียวเน้อ (พระเอกหน้าตาดีมากๆๆ ขนาดนางเอกที่มีฉายาอวี๋เหม่ยเหรินยังเป็นรอง55) 

เป็นแนวระบบที่แปลกใหม่ดี ปกติแนวนี้คนที่มีระบบติดตัวจะต้องเก่ง+เหนือกว่าอีกฝั่งใช่ปะเพราะมีระบบคอยช่วย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่อะ ขนาดได้ย้อนกลับมาอีกรอบ+รู้เหตุการณ์ในชาติที่แล้ว+มีระบบติดมาด้วย แต่ก็ยังบ้งแล้วบ้งอีกพลาดแล้วพลาดเล่า มีระบบก็เหมือนไม่มีเพราะไม่ได้ช่วยอะไรเล้ยยย🤣 ไม่รู้จะสงสารหรือขำดี... พี่สาวก็พยายามจะแย่งคนเก่งๆ ที่เคยติดตามนางเอกในชาติก่อนมาเป็นของตัวเอง เช่นคนทำบัญชี สาวใช้ข้างกายนางเอก ตอนแรกนางเอกก็ไม่รู้หรอก แต่ตัวพี่สาวแสดงออกชัดเกินจนนางเอกจับพิรุธได้ หรือพยายามจะขโมยผลงานเพลงของนางเอกที่โด่งดังในชาติก่อนมาเป็นของตัวเองแต่ก็ถูกนางเอกรู้ก่อน น้องเลยดัดแปลงทำนองให้มันเล่นยากๆ ทีนี้พอเล่นไม่ได้อิพี่ก็ไปขอให้ระบบช่วย วันงานจริงถูกนางเอกเปิดโปงเรื่องขโมยเพลง อิพี่ก็โยนขี้ให้สาวใช้แล้วขอให้ระบบช่วยต่อ กะจะพลิกสถานการณ์แต่สุดท้ายก็แพ้อยู่ดี นี่ขนาดนางเอกไม่มีระบบช่วยไม่ได้รู้อนาคตนะ (แต่มีพระเอกแอบช่วย55) ...นานวันอิพี่ก็ยิ่งพึ่งแต่ระบบ คิดไรไม่ออก+มีปัญหาก็หันหน้าเข้าระบบอย่างเดียว นับวันยิ่งถลำลึก เริ่มก้าวเข้าสู่ด้านมืดขึ้นเรื่อยๆ 

วางแผนทำลายชื่อเสียงนางเอก กะให้ได้เสียกับท่านอ๋องคนหนึ่ง แต่นางเลือกคนมาช่วยผิด ไปเลือกพระเอก เพราะนางไม่รู้ว่าพระเอกเป็นใครไง นึกว่าเป็นผู้หญิงและเป็นอนุจริงๆ แถมคนที่นางให้ไปสืบประวัติพระเอกก็เป็นคนของพระเอกเองอีก(ก็ไอคนเก่งๆ ที่นางแย่งเขามานั่นแหละ) พระเอกเลยรู้หมดว่านางกำลังทำอะไร แถมไอ้วิชาสะกดจิตที่ระบบให้มาก็ใช้กับพระเอกไม่ได้ด้วย(แต่นางนึกว่าได้ แต่จริงๆ การสะกดจิตใช้กับพวกจิตแข็งไม่ได้) นางก็คิดเองเออเองว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตัวเองแล้ว แต่จริงๆ อยู่ในการควบคุมของพระเอกต่างหากล่ะ55 ...ทั้งเรื่องที่วางยาย่าทวด คือพี่สาวถูกส่งไปอยู่วัด นางอยากกลับมา เลยให้สาวใช้เอายาพิษจากระบบกลับไปวางยาย่า เพราะเดี๋ยวพอย่าป่วยก็ต้องเรียกหานาง แต่สาวใช้ก็คนของพระเอกอะ นางเลยเอายาพิษไปให้พระเอกแทน พระเอกก็แบบดีจังเว้ย อยู่เฉยๆ ก็มีคนเอายาพิษดีๆ มาให้ถึงที่เลย55 ...(พระเอกรู้เรื่องที่ตัวพี่สาวมีระบบแล้วนะ นางเอกบอก แต่น้องไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองตายเพราะถูกพี่สาววางยาพิษ) 

ต่อมาอิพี่ก็อยากบงการเรื่องการแต่งงานของนางเอก แต่ไม่รู้จะใช้วิธีไหน เพราะคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจคือพ่อนางเอก แล้วพ่อก็รักนางเอกมากยืนอยู่ข้างลูกสาวตลอด อิพี่เลยคิดจะหาฮูหยินใหม่ให้บ้านรอง ยอมทำร้ายความรู้สึกแม่ตัวเอง(ฮูหยินบ้านใหญ่) สะกดจิตย่าให้ช่วย(เพราะย่าไม่ชอบคนที่ตัวเองเลือก) วางแผนให้พ่อได้เสียกับคนนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ(อีกแล้วว) แต่ย่าทวดก็ยังจะให้พ่อนางเอกรับอีกฝ่ายเข้ามาเป็นอนุให้ได้ เพราะสิ่งที่ย่าทวดปรารถนาต้องการมากที่สุดก็คือให้บ้านใหญ่มีทายาทสืบทอด ให้พ่อนางเอกมีลูกเยอะๆ เพราะหลังแต่งแม่นางเอกเข้ามาพ่อก็ไม่มาบ้านใหญ่อีกเลย อยู่กับแม่นางเอกตลอด เลยทำให้บ้านใหญ่ไม่พอใจ ย่าทวดเลยวางแผนแยกพ่อแม่นางเอกออกจากกัน เรียกแม่นางเอกมาปรนนิบัติดูแลตัวเองจนดึกดื่นไม่ได้กลับเรือน เพื่อบีบให้พ่อนางเอกไปใช้เวลาอยู่กับบ้านใหญ่ ปากเรียกว่าปรนนิบัติแต่จริงๆ คือการทรมาน ทำให้แม่นางเอกเหนื่อย+ไม่ได้พักผ่อน แล้วสุดท้ายก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต ...

เรื่องนี้พระเอกค่าตัวไม่แรง ออกมาเร็ว แล้วก็อยู่กับนางเอกแทบจะตลอดเวลา นางเอกมารู้ว่าพระเอกเป็นผู้ชายก็ตอนหลังกลับมาอยู่บ้านเดิมแล้ว รู้เพราะพระเอกจงใจเฉลย ไม่งั้นน้องก็คงไม่รู้ต่อปายย แต่พระเอกยังไม่ยอมบอกชื่อและฐานะที่แท้จริงนะ สัญญาว่าวันหนึ่งจะบอก หลังรู้ว่าพระเอกเป็นผู้ชายนางเอกก็ยังสนิทกับพระเอกเหมือนเดิม ไม่ได้ตีตัวออกหาก พระเอกก็เห็นนางเอกเป็นเหมือนทรัพย์สินส่วนตัว ใครจะรังแก+แตะต้องไม่ได้ ส่วนพ่อนางเอกแรกๆ เห็นสองคนนี้สนิทกันก็ไม่ได้คิดอะไร(นึกว่านางเอกยังไม่รู้) แต่พอรู้ก็ไปคุยกับพระเอกตรงๆ เลย คือพ่อไม่อยากให้นางเอกแต่งเข้าราชวงศ์ ไม่อยากให้แต่งกับพระเอก เพราะรู้ว่าสายเลือดตระกูลนี้มีปัญหา พระเอกนึกถึงความฝันที่นางเอกตาย บวกกับยังไม่รู้ว่าตนจะชิงบัลลังก์สำเร็จไหม เลยยอมปล่อยมือตามที่พ่อขอ... 

ปกติไม่ค่อยอ่านแนวระบบเท่าไรแต่เรื่องนี้อ่านแล้วติดแฮะ เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามดี นางเอกใส่ซื่อ(กับพระเอก) แต่ไม่ได้โง่ เวลาเจอพี่สาวหรือพวกบ้านใหญ่ก็รับมือได้ ไม่หลงกลไม่เสียเปรียบ มีวิธีตอบโต้แบบนิ่มๆ แต่ทำให้คนเถียงไม่ออก อย่างตอนที่พวกบ้านใหญ่ใช้มุกเดิม สั่งให้นางเอกมาดูแลย่าทวดตอนกลางคืนเหมือนที่แม่นางเอกเคยทำ นางเอกก็ 'ตั้งใจ' ดูแลจนป่วน ทำเสียงดังๆ ปลุกให้ทุกคนตื่น แบบถ้าชั้นไม่ได้นอนใครก็อย่าหวังจะได้นอน จนสุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าเรียกให้นางเอกมาดูแลย่าทวดอีก ...55

ในเล่ม 4 พี่สาวนางเอกได้รับพระราชทานสมรสให้แต่งกับท่านอ๋อง แต่นางไม่อยากแต่งจ้า นางรู้ว่าเดี๋ยวปีหน้าพระเอกก็จะยกทัพมา พวกอ๋องอะไรก็ต้องตายหมด นางจะแต่งให้โง่รึ แต่งไปก็เป็นหม้ายสิ นางเลยไปปรึกษาระบบ(again) อิระบบก็ชักจูงให้นางวางยาคนในบ้าน ถ้ามีคนตายนางจะได้ไว้ทุกข์และมีข้ออ้างยกเลิกงานแต่งไง ...ตอนจัดงานศพ นางเอกเกิดระแคะระคายสงสัยอิพี่เลยไปบอกพ่อกับพวกผู้อาวุโสในตระกูล พี่สาวกลัวถูกจับได้เลยยอมไปเป็นชายารองของอ๋องอีกคน กะว่าพอตัวเองมีฐานะสูงคนในตระกูลจะได้ไม่กล้าทำไร แล้วนางก็เอาข้อมูลการยกทัพของหลางหยาอ๋องหรือพระเอกไปบอกท่านอ๋องจนได้รับความโปรดปราน ในเมื่อเป็นฮองเฮาของหลางหยาอ๋องไม่ได้ เช่นนั้นนางก็จะทำลายแผนของอีกฝ่ายแล้วช่วยให้ฮ่องเต้คนใหม่ได้บัลลังก์แทน... แถมจนจบเล่ม 4 พี่สาวก็ยังไม่รู้เลยว่าหลางหยาอ๋องอยู่ข้างกายนางเอกมาตลอด เขาเจอกันนานแล้วจ้าสาว

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ซ่อนกลิ่น เล่ม 1-4

 


ซ่อนกลิ่น เล่ม 1-4 (5 เล่มจบ)

ผู้แต่ง : ขวงซั่งจยาขวง

ผู้แปล : เฉินซี

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

อีกผลงานของท่านขวงซั่งจยาขวง เรื่องนี้นางเอกไม่ความจำเสื่อมไม่ได้ตาบอด ไม่ได้ย้อนเวลา หรือทะลุมิติมานะจ๊ะ...แต่บ้านนางเอกถูกคนใส่ร้าย คนในครอบครัวตายหมด นางเอกถูกบ่าวรับใช้ชราพาหนีแต่ระหว่างทางกลับถูกลักพาตัวและถูกพาไปขาย(หลายทอด) แล้วสุดท้ายก็ถูกขายไปเป็นสะใภ้เด็กให้กับครอบครัวยากจนในชนบท มีแม่สามีใจร้ายที่ชอบด่าชอบทุบตี แถมยังจิกหัวใช้ให้ทำงานสารพัด ส่วนว่าที่สามีก็พิการทางสมองพึ่งพาอะไรไม่ได้ แต่นางเอกก็ไม่เคยหมดหวังหรือมองโลกในแง่ร้าย ยังพยายามคิดหาหนทางหนีอยู่ตลอด 

วันหนึ่งขณะที่กำลังทำงานอยู่ข้างนอกน้องก็ได้เจอกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ หรือพระเอกที่บังเอิญผ่านมาแถวนั้นพอดี จากนั้นก็ใช้อุบายทำให้แม่สามีได้เข้าไปทำงานที่ตระกูลพระเอก เพราะพอแม่สามีไม่อยู่น้องจะได้หาทางหนีได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ทันได้หนีน้องก็จับพลัดจับผลูถูกคนพาไปเล่นละครสวมรอยเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ซะก่อน ซึ่งก็คือคุณหนูเซิ่ง คุณหนูตระกูลขุนนางใหญ่ในเมืองหลวงว่าที่ชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องที่หนีตามคนรักไป

พระเอก เฉิงเทียนฟู่ คุณชายสี่ตระกูลเฉิงเป็นญาติผู้พี่ของ เซิ่งเซียงเฉียว คุณหนูใหญ่ตระกูลเซิ่งที่หนีตามคนรักไป พระเอกเห็นนางเอกมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับญาติผู้น้องที่หนีไปเลยคิดจะให้นางเอกมาสวมรอยเป็นญาติผู้น้องชั่วคราว เพราะญาติผู้น้องคนนี้มีสัญญาหมั้นหมายกับคนในราชวงศ์เป็นสมรสพระราชทาน หากถูกจับได้ว่าคนไม่อยู่นอกจากชื่อเสียงของคนหนีจะเสียหายก็ยังจะทำให้ที่บ้านเดือดร้อนตามไปด้วย ...ขนาดบ้านฝั่งพ่อพระเอกที่เป็นญาติเกี่ยวดองพอรู้ข่าว ลุงพระเอกที่เป็นพี่ชายพ่อยังไปยุให้น้องชายตัวเอง(พ่อพระเอก) หย่ากับแม่พระเอกก่อนเลย เพราะกลัวตระกูลตัวเองจะโดนลูกหลงตามไปด้วย พ่อพระเอกก็เฮงซวย หูเบา คล้อยตามพี่ชาย ปล่อยให้พี่สะใภ้ไปกล่อมเมียตัวเองให้ยอมหย่า ส่วนตัวเองก็หนีปัญหาหลบไปที่อื่น... เหอๆ

อ่านๆ ไปจะโมโหกับนิสัยพ่อพระเอก คือเป็นผู้ชายที่ทุเรศมากกกก ขี้ขลาด หูเบา ชอบหนีปัญหา แต่ดันมักใหญ่ใฝ่สูงทะเยอทะยาน ทว่าก็ไม่คิดจะใช้ความสามารถของตัวเอง กลับเลือกเกาะชายกระโปรงผู้หญิงเอา มีดีแค่หน้าตากับบ้านรวยสองอย่างแค่นั้น ตอนสมัยหนุ่มๆ ที่มาแต่งกับแม่พระเอกก็เพราะหวังพึ่งพาตระกูลฝั่งเมียเลยปฏิเสธผู้หญิงอีกคนที่มาชอบ เพราะบ้านพ่อพระเอกเป็นตระกูลพ่อค้ารากฐานยังไม่แน่น เพิ่งมีพ่อพระเอกเป็นขุนนางคนแรกแต่ตำแหน่งก็ไม่ได้สูงเท่าไร ส่วนบ้านแม่พระเอกแม้จะเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่แต่ก็ค่อยๆ ถดถอยลงเพราะรุ่นลูกหลานไม่ได้สร้างผลงานอะไรต่อ 

ส่วนบ้านฝั่งผู้หญิงที่เคยมาชอบกลับรุ่งเอาๆ เพราะมีคนในตระกูลเป็นถึงฮองเฮา หลังปั๋วเขาตายสองคนนี้ก็ไปแอบกุ๊กกิ๊กได้เสียกันจนผู้หญิงตั้งท้อง แล้วสุดท้ายก็มาขอร้องให้แม่พระเอกยอมรับขอให้อีกฝ่ายแต่งเข้ามาแบบผิงซี(มีฐานะทียบเท่าภรรยาเอก) เพราะผู้หญิงมีป้าเป็นถึงฮองเฮามีหรือจะยอมเป็นแค่อนุ! แม่พระเอกก็ขี้ใจอ่อน เชื่อคนง่าย ห่วงอนาคตลูกเลยตอบตกลง แต่พระเอกไม่ยอม เอาเรื่องนี้ไปปรึกษายาย(ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเซิ่ง) ยายก็ไม่ยอม พยายามจะพาตัวแม่พระเอกกลับมาแต่แม่ก็ไม่ยอมกลับ พระเอกไปหาก็เจอคนบ้านพ่อสกัดไม่ให้เข้า ยายก็เลยส่งนางเอกไปกล่อม(ยายไม่รู้ว่านางเอกเป็นตัวปลอม) ส่วนพระเอกเห็นนางเอกฉลาดเจ้าเล่ห์เลยบอกให้ช่วยหาทางพาแม่ตัวเองออกมาหน่อย ถ้าสำเร็จเดี๋ยวให้เงิน นางเอกเลยตกลงเพราะน้องต้องการสะสมเงินไว้ใช้ในยามหนีพอดี 

พอไปถึงนางเอกก็พยายามยกตัวอย่างนั่นนู่นนี่พูดข้อดีข้อเสียให้แม่พระเอกฟัง แต่แม่พระเอกก็ยังไม่เปลี่ยนใจ สุดท้ายน้องเลยออกอุบายหลอกให้แม่พระเอกไปเอาของที่รถม้า จากนั้นก็ผลักคนขึ้นรถแล้วบังคับพาตัวกลับมา55 (คนใช้ที่ตามมากำลังอึ้งเลยขวางไม่ทัน55) ...ฉากตอนสองบ้านมาเจอกันมันมาก เพราะการจะแต่งแบบผิงซีได้นั้นจะต้องให้คนของบ้านเมียเอกอนุญาตด้วย ฝั่งบ้านพ่อรู้ว่ายายพระเอกต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน เลยไปหาลุงพระเอกหรือพี่ชายแม่ที่กล่อมง่ายกว่า แต่พอกล่อมลุงพระเอกจนสำเร็จก็มาพบว่าแม่พระเอกถูกพาตัวกลับบ้านไปแล้ว55 เลยต้องตามกันไปเคลียร์ที่บ้านยายพระเอกเอา ยายพระเอกเป็นอดีตคุณหนูใหญ่จากตระกูลแม่ทัพขนาดฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ อิฝั่งพ่อเลยต้องให้พ่อเมียใหม่ซึ่งเป็นพี่ชายฮองเฮามาช่วยออกหน้าพูด ...สุดท้ายก็จบด้วยการที่แม่พระเอกขอหย่าและพาพระเอกกับน้องสาวออกจากตระกูลปั๋วมาอยู่บ้านยาย ตกลงกันว่าเรื่องของลูกๆ พ่อจะไม่มีสิทธิ์ยุ่งหรือตัดสินใจอีกต่อไป และก็ให้พ่อพระเอกแบ่งสมบัติให้ลูกเลย พอต้องแบ่งสมบัติฝั่งลุงพระเอกก็ยึกยักจะไม่ยอม พอถึงตอนแบ่งก็หมกเม็ดให้ไม่ครบ พระเอกเลยต้องออกโรงมานั่งดีดลูกคิดคำนวณเอง เมียใหม่พ่อพอรู้จำนวนทรัพย์สินที่พระเอกกับน้องได้ก็โกรธแค้น วางแผนว่าสักวันจะต้องฮุบเอาทุกอย่างคืนมาทั้งหมด...

นางเอกฉลาดเจ้าเล่ห์ เก่งแทบจะรอบด้าน เพราะลำบากมาเยอะเลยโตเกินวัยรู้จักมองสีหน้าคน ยิ่งมาปลอมตัวเป็นคนอื่นก็ยิ่งต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง+อย่างหวาดระแวง เพราะกลัวว่าหลังเสร็จงานเดี๋ยวพ่อว่าที่คู่หมั้นปลอมๆ จะสั่งเก็บ เพราะท่านอ๋องหรือพ่อว่าที่คู่หมั้นปลอมๆ เป็นคนโหดเหี้ยมมาก สังหารคนตาไม่กะพริบ ทะเยอทะยานอยากได้ตำแหน่งฮ่องเต้ แม้จะรู้ว่าคู่หมั้นลูกตัวเองหนีไปแล้วแต่ก็ไม่คิดจะล้มเลิกการหมั้น แต่กลับเห็นด้วยกับแผนปลอมตัว เพราะคิดว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับการหมั้นหมายนี้ เลยส่งองครักษ์ตัวเองและมามาในจวนตามไปคุมประกบนางเอกเพื่อไม่ให้นางหลบหนีและสอนสิ่งต่างๆ เพื่อไม่ให้เผยพิรุธ 

คือฮ่องเต้ยังฝังใจกับรักครั้งเก่าที่ไม่สมหวังเมื่อสมัยหนุ่ม พอเห็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซิ่งมีหน้าตาคล้ายกับคนรักเมื่อตอนนั้น ก็เลยอยากจับคู่ให้หลานตัวเองกับคุณหนูใหญ่เซิ่งเพื่อเติมเติมตวามปรารถนาในใจตน หารู้ไม่ว่าเด็กสองคนไม่ถูกกันเลย คุณหนูใหญ่เซิ่งอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจ ส่วนหลานตัวเองก็เจ้าชู้เสเพล+เอาแต่ใจพอๆ กัน ... คุณหนูเซิ่งคนเก่าเป็นคนอารมณ์ร้อนโมโหร้ายระเบิดง่ายเหมือนประทัด ต่างจากนางเอกที่ใจเย็น สุขุม รู้ภาษา ว่าง่ายเชื่อฟัง (ก็มันไม่ใช่บ้านตัวเอง ก็ต้องอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัวสิเนาะ) แต่บางครั้งนางเอกก็ต้องเลียนแบบนิสัยคุณหนูเซิ่งคนเก่าบ้างเพื่อให้สมบทบาท เลยต้องแสร้งทำตัวโมโหร้ายเอาแต่ใจเป็นบางที เพราะปุบปับเปลี่ยนเลยเดี๋ยวคนจะสงสัย จะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่านางเอกเป็นตัวปลอม คนส่วนใหญ่ในบ้านจะไม่รู้ นึกแค่ว่าคุณหนูใหญ่คงได้รับบทเรียนหลังจากหนีออกจากบ้านนิสัยเลยเปลี่ยน ...

เล่มแรกๆ ก็จะเป็นเรื่องในบ้าน เรื่องหย่าของพ่อแม่พระเอก เรื่องในบ้านตระกูลเซิ่ง คือหลังพ่อแม่หย่าพระเอกก็ได้พวกร้านรวงต่างๆ แบ่งมาด้วย พอดีมีร้านยาพระเอกเลยยกให้นางเอกดูแล ลุงพระเอกก็อยากได้ร้านที่แบ่งออกไปคืนเลยจงใจสร้างความลำบากให้หลาน เพราะคิดว่าพระเอกยังเด็กไม่มีประสบการณ์ไม่เคยทำการค้า คงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมกลลวงหรอก คิดจะเล่นงานร้านยาพระเอก แต่นางเอกพบพิรุธก่อนเลยเจอซ้อนแผนคืน สุดท้ายลุงถูกจับเข้าคุก พอไปขอให้เมียใหม่พ่อพระเอกช่วย(เพราะเส้นใหญ่) แต่คนเขาก็ไม่ยอมช่วยเปล่าๆ จะขอร้านค้า 5 ร้านเป็นค่าตอบแทน สุดท้ายลุงกับป้าสะใภ้ก็มานั่งเสียใจที่หลัง ไม่น่ายุให้พ่อพระเอกหย่ากับเมียคนเก่าเลย...สม

ส่วนฝั่งบ้านตระกูลเซิ่งก็เกือบซวยเพราะอนุในบ้าน คืออนุหวังว่าสักวันตัวเองจะได้เลื่อนขั้นถูกยกเป็นภรรยาเอก แต่พ่อปลอมๆ นางเอกกลับแต่งงานใหม่ซะงั้น อนุก็อิจฉาริษยา พอฮูหยินคนใหม่ตั้งครรภ์นางเลยวางแผนจะทำให้ฮูหยินคนใหม่หมดความโปรดปรานและถูกสามีรังเกียจ ซึ่งความจริงอนุก็ถูกคนอื่นวางแผนยืมมือมาอีกต่อแหละ ซึ่งคนอยู่เบื้องหลังจะใครที่ไหนล่ะ...ก็เมียใหม่พ่อพระเอกไงจ๊ะ ตามราวีไม่เลิกราจริงๆ ตอนแรกก็จงใจทำให้เมียใหม่พ่อนางเอกเลือกแบบรูปน้ำแข็งผิด หลังจากนั้นก็ส่งคนไปทำลาย แต่นางเอกก็แก้เกมทัน ใช้โอกาสนี้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อีกแล้ว สะใจ55 ...ทำให้ฮ่องเต้ปลื้ม แต่ท่านอ๋อง(พ่อว่าที่คู่หมั้น) ดันมิปลื้มมมด้วยนี่สิ

อิท่านอ๋องนี่ก็พยายามบีบให้พ่อปลอมๆ นางเอกมาเข้าพวกร่วมทำเรื่องไม่ดีด้วยกัน แต่พ่อนางเอกขี้กลัวไม่อยากทำ เลยพยายามหนี+บ่ายเบี่ยงมาตลอด หลังๆ เริ่มบีบมากพ่อปลอมๆ เลยตัดสินใจจะส่งนางเอกออกไปไม่ให้สวมรอยต่อแล้ว เพราะไม่อยากอยู่ฝ่ายเดียวกับท่านอ๋อง อีกอย่าง ตระกูลเซิ่งก็เป็นกลางไม่เข้าฝ่ายไหน จงรักภัคดีต่อฝ่าบาทเท่านั้น ...พระเอกเลยจะส่งนางเอกขึ้นเรือให้ไปอยู่ที่อื่นไม่ให้กลับมาที่เมืองหลวงอีก แต่นางเอกยังอยากอยู่เมืองหลวงต่อเพื่อล้างแค้นให้ครอบครัวตัวเอง น้องเลยแอบหนีไประหว่างทาง แต่ก็มีเหตุให้ต้องกลับมา เพราะบ้านตระกูลเซิ่งเกิดเรื่องขึ้น

ตอนนี้แหละจะได้เห็นความเข้าข้างถือหางลูกของฮ่องเต้ ส่วนคนที่เป็นเหยื่อก็ได้แต่อดทนอดกลั้นยอมถอย น่าชื่นอกตรม ทั้งๆ ที่รู้ว่าใครทำ+ใครคือผู้ร้ายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทน หลังตระกูลเซิ่งเกิดเรื่อง ฮูหยินผู้เฒ่าเลยได้รู้เรื่องที่นางเอกมาสวมรอยเป็นหลาน และได้รู้ว่านางเอกเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ซึ่งในเล่ม 1 จะไม่มีพูดถึงชื่อจริงของนางเอกเลย เรียกแต่ยายหนูกับชื่อของคุณหนูที่มาสวมรอย ส่วนชื่อของนางเอกจะไปเฉลยในเล่ม 2 

ความจริงนางเอกเป็นบุตรสาวตระกูลหลิ่ว พ่อเป็นทั่นฮวาทำงานเกี่ยวกับตรวจสอบเกลือ ส่วนครอบครัวแม่เป็นหมอ ยายนางเอกก็เคยเป็นนางข้าหลวงอยู่ในวัง พ่อนางเอกเป็นขุนนางน้ำดีซื่อตรง+ซื่อสัตย์สุจริต เพราะตรวจพบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับภาษีเกลือเลยทำให้ถูกคนใส่ร้าย บ้านแตกสาแหรกขาด ส่วนบ้านท่านยายก็ประสบเคราะห์ล้มหายตายจากไปเช่นกัน ...ตระกูลเซิ่งก็เกือบซ้ำรอย สุดท้ายฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งเลยตัดสินใจพาคนในครอบครัวออกจากเมืองหลวงกลับไปอยู่บ้านบรรพบุรุษ

พระเอกก็เปลี่ยนจากบุ๋นเป็นบู๊ ไม่สอบเข้ารับราชการ เพราะตอนนี้ตระกูลฝั่งแม่เลี้ยงกำลังมีอำนาจ สอบติดไปยังไงก็โดนกด พระเอกเลยไปเป็นทหารเข้าร่วมกองทัพ กระทั่งผ่านไป 3 ปีก็ได้กลับมาพร้อมกับความดีความชอบและตำแหน่งแม่ทัพ จากนั้นก็พาทุกคนกลับเมืองหลวง ...พอพระเอกได้ดีอิพ่อก็อยากให้ลูกกลับมา รู้ว่าพระเอกคงไม่ยอมเลยไปป่วนเรื่องการแต่งงานของน้องสาวพระเอกแทน เพราะรู้ว่าพระเอกรักแม่กับน้องมาก อิพ่อก็ไปโวยวายบ้านฝ่ายชาย หาข้ออ้างมาขู่จะยกเลิกงานแต่งเพื่อบีบให้พระเอกกลับตระกูล ตัวเมียใหม่พ่อก็อยากได้สมบัติน้องสาวพระเอกเลยไปวางแผนให้หลานตระกูลตัวเองมาตามจีบน้องสาวพระเอก จนเกือบทำให้น้องพระเอกคิดสั้นฆ่าตัวตาย พระเอกเลยไปอาละวาดที่บ้านพ่อ แต่เมียใหม่พ่อก็หาเข็ดหลาบไม่ ...มีแผนชั่วใหม่ๆ ผุดมาตลอด ทั้งๆ ที่บ้านแม่พระเอกก็ไม่เคยไปยุ่งอะไรด้วยก่อนเลย 

ฮองเฮาก็ร้ายเหมือนหลานสาว บอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นก็ไม่เกินจริง อยู่ข้างนอกมีแม่เลี้ยงพระเอกคอยคิดแผนชั่วจ้องทำร้าย พอเข้าวังไปก็มีฮองเฮาคอยจ้องอีก...โอ้ยยยหนอชีวิต ฮ่องเต้ก็เหมือนจะดีแต่ถ้าคนทำผิดเป็นคนในครอบครัวตัวเองก็ปล่อยเบลอไม่เด็ดขาด ดีแล้วที่ยายนางเอกหันหลังออกจากวังอย่างเด็ดเดี่ยว เพราะฮ่องเต้เรื่องนี้ห่วงหน้าตาชื่อเสียงมากกว่าสิ่งใด เดี๋ยวรอดูในเล่ม 5 ตอนรู้เรื่องที่ลูกคนโตทำได้เลย ยังจะปล่อยเบลอได้อีกมั้ย...หึหึ

เขียนยาวมากยังไม่ได้พูดเรื่องความรักของพระนางเลย55 พระเอกเป็นฝ่ายชอบและสารภาพรักก่อน คอยช่วยเหลือและตามแก้ปัญหาหลายอย่างให้นางเอกโดยไม่บอก เน้นทำไม่เน้นพูด แต่ขี้หึงเป็นที่หนึ่งนะ55 ส่วนนางเอกแม้จะชอบพระเอกหรือญาติผู้พี่ปลอมๆ คนนี้เหมือนกันแต่ก็ไม่กล้าตอบรับ มีแต่ต้องปฏิเสธ เพราะนางอยู่ตระกูลเซิ่งมานานเลยเข้าใจนิสัย+ความคิดทุกคนในบ้านดีเกิน รู้ว่าแม่พระเอกจะต้องโกรธไม่ยอมรับ ท่านย่าก็อาจจะเสียใจ ไหนจะน้องสาวคุณหนูใหญ่เซิ่งที่แอบชอบพระเอกอีก สรุปคือมีแต่ปัญหา นางเอกไม่อาจเป็นคนอกตัญญูทำร้ายจิตใจทุกคนได้ น้องเลยคิดจะจากไปเอง แต่พระเอกดันรู้ทันความคิดน้องเลยชิงจากไปก่อน55 ...

พระเอกไปยั่วโมโหฮ่องเต้ตอนสอบหน้าพระที่นั่ง(พอบ้านเมืองสงบ พระเอกก็ละทิ้งตำแหน่งแม่ทัพมาสอบสายบุ๋นต่อ) เลยถูกส่งไปรับตำแหน่งนายอำเภอในสถานที่ทุรกันดาร เป็นอำเภอที่ไม่มีใครอยากไปเพราะมีแต่ปัญหา คนที่ถูกส่งไปมักอยู่ไม่ค่อยยาว แบบตายมากกว่าอยู่ นางเอกเห็นท่านย่า+แม่พระเอกพากันทุกข์ใจเป็นห่วงกลัวพระเอกจะไม่ได้กลับมาแบบมีชีวิต บวกกับรู้สึกผิดคิดว่าที่พระเอกทำแบบนี้เพราะถูกตัวเองปฏิเสธ แถมจดหมายที่ส่งมาก็ลายมือไม่เหมือนเดิมเลยนึกว่าพระเอกบาดเจ็บด้วย ก็เลยแอบเดินทางไปหาพระเอกโดยไม่บอกใคร พอไปอยู่นู่นนางเอกก็ยอมโอนอ่อนไปตามพระเอก ใช้ชีวิตหวานชื่นเหมือนคู่รัก มีกอดมีจูบแต่ไม่มีไรเกินเลยไปมากกว่านั้น จนทำให้พระเอกคิดว่านางเอกยอมตกลงที่จะแต่งกับตนเองแล้ว ...แต่พอพระเอกเดินทางกลับไปรายงานผลงานในเมืองหลวงถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดเองเออเองทั้งนั้น ไม่ว่ายังไงนางเอกก็ยังคิดที่จะจากไปอยู่ดี ...ทำไงได้ก็คุณหนูเซิ่งตัวจริงกลับมาแล้ว แม้พระเอกจะพยายามปกปิดไว้แต่สุดท้ายนางเอกก็รู้อยู่ดี เลยยิ่งทำให้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะจากไป ...เฮ้อออ

เราว่าเรื่องนี้ครบรสมากเลยนะ ทั้งเรื่องหลังบ้าน นอกบ้าน การเมือง การแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก เรื่องหลังบ้านนี่ฟาดกันมันเลยทั้งในบ้านนอกบ้านจนไปถึงในวัง ท่านอ๋องก็เวว ฮองเฮาก็ร้าย สงสารก็แต่ขุนนางดีๆ ชาวบ้านตาดำๆ ที่ต้องมารับเคราะห์ ไม่รู้ว่ามันต้องหนักขนาดไหนหรือมีหลักฐานแน่นหนาขนาดไหนฮ่องเต้ถึงจะยอมลงมือเด็ดขาดสักที ...

ปมในเรื่องผูกได้ดีชวนให้ติดตาม อ่านแล้วไม่สะดุด สมเหตุสมผลมีที่มาที่ไป ปมจะค่อยๆ เปิดไปทีละเรื่องไม่ได้มาแบบรวบรัดตู้มเดียว ความรักของพระนางก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ใช้เวลาก่อตัวขึ้น พระนางฉลาดเป็นคนมีเหตุผลด้วยกันทั้งคู่ นางเอกเก่งทั้งงานในเรือนนอกเรือน ทั้งเรื่องการค้า หาเงินเก่ง วิชาแพทย์ก็ได้ ส่วนพระเอกก็ได้หมดทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ...ในเล่ม 4 มีสงครามก่อกบฏ พระเอกเลยต้องกลับมารับตำแหน่งแม่ทัพอีกครั้ง มีคนเล่นตุกติกกับยาที่ส่งไปให้ทหารในแนวหน้าใช้ นางเอกเลยต้องออกโรงช่วยอีกแว้ว เพราะน้องเป็นคนแรกที่ค้นพบเรื่องนี้ ...เราว่าสนุกจริงๆ นะมีอะไรใหม่ๆ มาให้ลุ้นอยู่ตลอดเลย จบเรื่องนั้นเดี๋ยวก็มีเรื่องนี้ต่อ นักเขียนผูกปมดี ก็ได้แต่หวังว่าคราวนี้ฮ่องเต้จะเด็ดขาดยอมเฉือนทำลายเนื้อร้ายนี้ทิ้งสักทีนะ...

ป.ล. ชอบซื่อจื่อที่เป็นคู่หมั้นคุณหนูใหญ่เซิ่ง เป็นตัวละครที่ใสซื่อไม่ได้เลวร้ายหรือมีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนคนพ่อเลย ทั้งๆ ที่ครอบครัวเป็นแบบนั้น แต่กลับโตมาได้อย่างใสซื่อร่าเริงอย่างไม่น่าเชื่อ





วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567

ยอดเชฟคนนี้คือเบบี๋ของผม 2 เล่มจบ

 


ยอดเชฟคนนี้คือเบบี๋ของผม 2 เล่มจบ

ผู้แต่ง : หมิงเย่ว์ทิงเฟิง

ผู้แปล : ลีลรักษ์

ปก : Kanapy

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ไม่ได้อ่านงานของท่านหมิงเย่ว์ทิงเฟิงมานานแล้วนะเนี่ย ปกติที่เอามาแปลเจอแต่แนวโบราณแต่พอมาอ่านแนวปัจจุบันก็สนุกดี ไม่จิ่สนุกมากกก 

นางเอกเรื่องนี้อ่อนกว่าพระเอก 7 ปี ไร้ญาติไร้บ้านแถมยังมีหนี้ก้อนโตติดตัว แต่น้องก็สู้ชีวิตมาก มีฝีมือในการทำอาหาร ก่อนจะได้เจอพระเอกน้องก็เปิดร้านอาหารหาเลี้ยงชีพมาก่อน แต่กิจการไม่ค่อยดีเพราะทำเลร้านไม่ดีอยู่ไกล+คนไม่ค่อยผ่าน ส่วนพระเอกเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีที่ทำแอปออกกำลังกาย บริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่ที่กำลังสร้างตัว ไม่ได้มีภูมิหลังใหญ่โตหรือบ้านรวยเวอร์ เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ท่านประธานเอาแต่ใจเผด็จการที่มีเงินให้ผลาญเป็นว่าเล่นเน้อ

พระนางได้เจอกันครั้งแรกตอนที่พระเอกมาช่วยงานแต่งเพื่อนสนิท แต่ระหว่างจัดงานเกิดปัญหานิดหน่อย(ไม่หน่อยแหละเจ้าสาวหนีงานแต่ง) พี่แกเลยได้แวะเข้าไปสั่งอะไรกินในร้านนางเอกที่อยู่แถวนั้นพอดี สะดุดกับชื่อเมนูไปสามวิเพราะนางเอกตั้งได้แบบ...55(ต้องลองไปอ่านเองจ้า) รอบแรกที่มาสั่งแต่น้ำ รอบสองถึงได้สั่งอาหาร พอได้กินแล้วก็ต้องยอมรับในฝีมือ แต่พอจะกลับมากินรอบที่สามร้านของนางเอกก็ไม่อยู่แล้ว ... หลังจากนั้นเขาก็ได้มาเจอกันอีกตอนที่พระเอกไปนั่งกินร้านปิ้งย่างกับเพื่อน นางเอกเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านนั้น พระเอกเห็นน้องกำลังถูกลูกค้าลวนลามเลยเข้าไปช่วยและรอส่งกลับหอพัก 

ต่อมาบริษัทพระเอกเปิดรับสมัครแม่ครัวคนทำงานจิปาถะทั่วไป นางเอกก็มาสมัคร แต่พอพระเอกรู้ก็บอกให้ลูกน้องปฏิเสธ เพราะตอนนั้นพระเอกเข้าใจผิดคิดว่านางเอกเป็นพวกต้มตุ๋นชอบสร้างสตอรี่ให้คนสงสาร พระเอกไม่ชอบคนแบบนี้เลยไม่รับน้องเข้าทำงาน แต่มีวันหนึ่งพระเอกไปแอบได้ยินตอนน้องคุยกับคนอื่นถึงได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดไปมากกก นางเอกไม่ได้เสแสร้งสร้างสตอรี่แต่มันคือเรื่องจริง พ่อแม่นางเอกเสียจริง น้องอยู่คนเดียวไม่เหลือคนในครอบครัวแล้วจริงๆ ที่ตามหาตาก็เป็นเรื่องจริง พอรู้ว่าเข้าใจผิดพระเอกก็ให้ลูกน้องโทรไปจ้างนางเอกให้มาทำงานที่บริษัท แต่ตอนนั้นนางเอกได้งานที่อื่นแล้วเลยไม่ไป แต่พระเอกก็ให้ลูกน้องโทรไปใหม่ เสนอเงื่อนไขที่นางเอกต้องการเพื่อให้คนเขามาทำงานด้วย จริงๆ นางเอกแค่อยากได้ที่ทำงานที่มีที่พักให้ด้วยเท่านั้นเอง(จะได้ไม่เสียค่าเช่าห้อง) พอพระเอกรู้ก็จัดให้ สุดท้ายนางเอกเลยยอมมาทำงานที่บริษัทพระเอก(แต่ตอนนั้นน้องไม่รู้นะว่าบริษัทใคร)

นางเอกเป็นทั้งแม่บ้านแม่ครัว แม้จะเป็นงานบ้านๆ อยู่ตำแหน่งล่างสุดแต่น้องก็ตั้งใจทำและเอาใจใส่กับงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่ใช่แค่ทำไปส่งๆ พอให้จบๆ เลยทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนในบริษัท ทำดีมากจนพระเอกต้องเตือน เพราะตอนนั้นคนในบริษัทจะขอให้นางเอกทำมื้อดึกเผื่อด้วย นางเอกก็ดี๊ดีไม่ปฏิเสธเลย จนพระเอกต้องมาจับเข่าคุยบอกว่าไม่ได้นะ ถ้าใครขออะไรแล้วไม่ปฏิเสธบ้างต่อไปถ้าเขาขอมื้อเช้าด้วยล่ะ จะให้อีกเหรอ ถ้าให้ไปเรื่อยๆ คนก็จะชินจะไม่มีที่สิ้นสุดนะ ต้องเอาแต่พอดีสิ นางเอกก็ก้มหน้ารับฟังและทำตามที่พระเอกบอก แต่ถึงยังไงทุกคนก็ยังชอบนางเอกมากอยู่ดี เพราะน้องจริงใจทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ แต่ถ้าดูเผินๆ หรือยังไม่สนิทกันน้องอาจจะดูเย็นชานิ่งๆ เหมือนหยิ่งเพราะหน้านิ่ง+พูดน้อย แต่ถ้าคลุกคลีด้วยบ่อยๆ จะรู้ว่าน้องจิตใจดี ซื่อๆ ขยันอดทน ใครเห็นต้องชอบใครอยู่ใกล้ต้องโดนตก

พระเอกเป็นฝ่ายชอบนางเอกก่อนแต่ไม่กล้ารุกมาก ได้แต่แอบช่วยเหลืออย่างระมัดระวัง เพราะรู้ว่าน้องมีปมในใจเลยกลัวว่าถ้าช่วยตรงๆ หรือสารภาพความรู้สึกเร็วไปจะทำให้น้องถอยหนีและทำตัวห่างเหินไม่เหมือนเดิม คือฐานะทางบ้านนางเอกไม่ดีมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนนี้ยังไม่เหลือคนในครอบครัวอีก ไม่มีบ้านให้กลับ เรียนก็จบแค่ม.ปลาย แถมยังมีหนี้ก้อนโตติดตัว น้องเลยไม่อยากให้ใครมองตัวเองว่าน่าสงสาร ไม่อยากให้คนช่วยเหลือเพราะสงสาร ปกติน้องจะไม่เล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง แต่มีวันหนึ่งเมาเลยเผลอเล่าให้พระเอกฟัง พอเช้ามาเจอหน้ากันน้องเลยทำตัวสุภาพ(กว่าปกติ) และเว้นระยะห่างจากพระเอกทันที 

พระเอกดีงามคอยช่วยเหลือ+แนะนำสิ่งต่างๆ ให้กับนางเอกตลอด ทั้งเรื่องงานเรื่องการใช้ชีวิต เป็นแรงสนับสนุนคอยผลักดันช่วยให้นางเอกไปถึงฝั่งฝัน ถ้าไม่ได้เจอพระเอกคิดว่าคงอีกนานกว่านางเอกจะทำสำเร็จ การเจอพระเอกนี่ถือเป็นความโชคดีหรือจุดเปลี่ยนของชีวิตนางเอกเลยก็ว่าได้ แต่พระเอกไม่เคยไปบังคับหรือทำตัวเผด็จการอะไรนะ พี่แกมีแต่คอยชี้นำแนวทาง+ให้คำปรึกษาแล้วก็ปล่อยให้นางเอกตัดสินใจเอาเอง หนี้ก็ไม่ได้ใช้ให้นะเพราะรู้ว่านางเอกไม่เอาแน่ๆ แต่ถ้าท้อหรือสับสนก็จะคอยปลอบคอยอยู่ข้างๆ ดีงามฝุดๆ ต่างจากคู่รองอิท่านประธานต้วนลิบลับ55 คู่นั้นฮาร์ดคอร์มาก เห็นว่ามีเล่มแยกเป็นของตัวเองด้วยนา(อยากอ่านๆ ท่าจะมัน)

พระเอกรู้ว่านางเอกรักการทำอาหาร+ทำอาหารอร่อย เลยแนะนำให้นางเอกไปทำอาหารในงานวันเกิดแฟนเพื่อน จากนั้นก็ติดต่อไปหาบริษัทที่ทำไลฟ์สดทำพวกช่องออนไลน์ สนับสนุนให้นางเอกไปเป็นวล็อกเกอร์ทำอาหารออนไลน์ คอยช่วยนางเอกหาเส้นทางต่อยอดไปเรื่อยๆ ชีวิตนางเอกเลยดีขึ้นเรื่อยๆ ไปทำอาหารแบบเชฟส่วนตัวก็ปังลูกค้าชอบ เพราะอาหารที่น้องทำไม่ใช่แค่อร่อยแต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์+แปลกแหวกแนว ไม่เพียงแต่ทำให้คนกินรู้สึกว่าอร่อย+รสชาติดี แต่ยังทำให้คนที่ได้กินมีความสุข คือสิ่งที่น้องทำมันไม่ใช่แค่อาหารแต่มันยังมีเรื่องราวมีความรู้สึกความทรงจำของคนกินอยู่ในนั้นด้วย น้องใช้ใจทำ รังสรรค์เรื่องราว+ความรู้สึกของคนกินออกมาเป็นอาหาร นอกจากจะอร่อยแล้วก็ยังทำให้คนกินเกิดความประทับใจจดจำได้ไม่รู้ลืม ส่วนช่องทำอาหารออนไลน์แรกๆ ยังไม่ค่อยปัง ต้องใช้เวลาคลำทางอยู่สักพักจนเจอรูปแบบสไตล์ที่เหมาะกับนางเอกจริงๆ แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนมีพระเอกคอยช่วยและสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งทางตรงและทางอ้อม

ส่วนเรื่องรักๆ ของพระนางก็ไม่ได้ปล่อยให้เรารอนาน แม้ตอนแรกที่พระเอกสารภาพรักออกไปนางเอกจะอึ้งๆ พระเอกเลยบอกให้น้องกลับไปคิดดูก่อน แต่จริงๆ ใจน้องคือเทไปให้พระเอกเกือบหมดแล้ว เพียงแต่ขาดความมั่นใจ ก็เรามันจนแถมยังมีหนี้ จบก็ไม่สูง ในขณะที่พระเอกเป็นถึงประธานบริษัท อนาคตกำลังสดใส ทั้งหล่อทั้งฉลาด ครอบครัวเพื่อนฝูงดีหมด แฟนเก่าก็เลิศ น้องเลยกลัวว่าหากคบกับตัวเองจะทำให้พระเอกขายหน้า ทั้งฐานะการศึกษา+สภาพสังคมไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด แต่สุดท้ายน้องก็ก้าวผ่านอุปสรรคในใจไปได้และตกลงคบกับพระเอก 

เรื่องความรักนี่นางเอกเป็นเหมือนผ้าขาวเลยนะ ไม่รู้ว่าต้องแสดงออกยังไง ช่วงแรกๆ บางครั้งเลยอาจเผลอทำร้ายจิตใจพระเอกไปบ้างโดยไม่รู้ตัว พระเอกก็ไม่พูด สุดท้ายเลยกลายเป็นการทำสงครามประสาทกัน55 นางเอกก็ไประบายความรู้สึกลงในแอคหลุม จากนั้นก็มีคนมาแนะนำวิธีการง้อแฟน นางเอกเลยเอาไปใช้แล้วก็สำเร็จด้วย55 ...พระเอกชอบมากกคอนเฟิร์มม55 หลังจากนั้นเวลามีอะไร(โดยเฉพาะเกี่ยวกับพระเอก) นางเอกเลยชอบไประบายที่แอคหลุม 

แต่ไม่ใช่แค่ฝั่งนางเอกนะที่มีเรื่องราวปัญหาฝั่งพระเอกก็มีเหมือนกัน คือพระเอกเป็นบริษัทสตาร์ทอัพใช่ปะ กำลังโตพนักงานยังมีไม่เยอะ พระเอกเลยต้องการเงินมาลงทุนเพื่อต่อยอดขยายกิจการ ทีนี้พอกำลังจะได้เงินทุนก็ดันถูกบริษัทอื่นตัดหน้าแย่งไป แต่ที่เจ็บมากกว่าเรื่องชวดเงินก็คือดันมาถูกคนกันเองแทงข้างหลังนี่แหละ แฟนเก่าพระเอกก็มากล่อมให้พี่แกกลับไปทำงานที่บริษัทเก่า แต่พระเอกไม่ไปไม่ยอมแพ้ เดี๋ยวหาเงินลงทุนแหล่งใหม่เอาก็ได้ จริงๆ แฟนเก่าคนนี้เกือบได้แต่งกับพระเอกแล้วนะ แต่พอพระเอกลาออกจากบริษัทเก่าที่เงินเดือนสูงมาเปิดบริษัทเองชีไม่โอเค ไม่เชื่อว่าพระเอกจะทำได้ คิดแต่ว่าพระเอกจะต้องล้มเหลว เอาแต่พูดแบบนี้ทุกวัน สุดท้ายเลยเลิกกัน 

เป็นแนวปัจจุบันที่ดีต่อใจมากก ความสัมพันธ์พระนางคือดี เรื่องฐานะการศึกษาอะไรที่นางเอกเคยกังวลสุดท้ายก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย พระนางเคมีโคตรเข้ากัน นางเอกน่ารักใสซื่อขี้อ้อน(กับพระเอก) ชอบหม้อมากกว่ากระเป๋าแบรนด์เนม ไม่อยากได้เสื้อผ้าสวยๆ หรือเครื่องสำอางแพงๆ ขอแค่ชุดเครื่องครัวดีๆ สักชุดก็พอ55 ...เนื้อเรื่องเรื่อยๆ แต่สนุกมากไม่น่าเบื่อ มีจุดพีคที่แบบต้องร้องเฮ้ย! และมีตอนที่แอบเสียน้ำตาเบาๆ ชอบที่ไม่ว่านางเอกจะทำอะไรพระเอกก็จะคอยสนับสนุนอยู่เคียงข้าง แม้ความฝันของทั้งคู่จะแตกต่างแต่เขาก็จับมือเดินไปพร้อมกันได้ ต่างคนต่างทำหน้าที่และทำความฝันของตัวเองไป เวลามีเรื่องอะไรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่นางเอกก็มักเอามาเล่าให้พระเอกฟังเสมอ(ประหนึ่งเพื่อนสาว55) ไม่มีเรื่องมือที่ 3-4 ให้ต้องปวดใจเพราะพระเอกชัดเจนเคลียร์มาก ไม่มีพระรอง มีแต่คู่รองที่บอกเลยว่าท่าจะมัน55



วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

เมื่อผมเปิดคลินิกในวันสิ้นโลก 3 เล่มจบ

 


เมื่อผมเปิดคลินิกในวันสิ้นโลก 3 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ชางไห่โหยวหลาน

ผู้แปล : มู่หลินเซิน

สำนักพิมพ์ FreesiaBook


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวซอมบี้วันสิ้นโลก การกลายพันธุ์ ชอบตรงที่เรื่องนี้ซอมบี้สามารถกลับมาตระหนักรู้และใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ได้อีกครั้ง นายเอก เหวินชิงหลิง หนุ่มน้อยหน้ามนถูกลูกพี่ลูกน้องผลักไปเป็นอาหารในดงซอมบี้ ซ้ำยังใช้แท่งไม้ปักทะลุกลางอกซ้ำเพราะกลัวเขาจะไม่ตายจริง จากนั้นตัวคนทำก็หนีเอาตัวรอดไป ปล่อยให้นายเอกตายอนาถกลายเป็นซอมบี้

แต่สุดท้ายนายเอกกลับไม่ตาย ไม่ได้ขาดสติกลายเป็นซอมบี้เที่ยวไล่กัดคนอย่างที่คิด เพราะเลือดของนายเอกมีคุณสมบัติพิเศษทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ทำให้นายเอกกลายเป็นซอมบี้ที่มีสติตื่นรู้ตัวแรกของโลก ร่างกายสัญชาตญาณแข็งแกร่งและเฉียบคมยิ่งกว่าตอนเป็นมนุษย์ที่มีพลังพิเศษซะอีก แถมพอกลายมาเป็นซอมบี้ก็ยังแข็งแกร่งและอยู่เหนือกว่าซอมบี้ทั่วๆ ไปรวมถึงซอมบี้ที่วิวัฒนาการแล้วด้วย (กลายเป็นป๊ะป๋าในหมู่ซอมบี้ไปเลย)

พอมีสติรู้ว่าตนเองยังไม่ตายนายเอกก็เดินทางกลับฐาน(จะไปฆ่าลูกพี่ลูกน้องที่ทำร้ายตัวเอง) แต่พอไปถึงกลับถูกคนในฐานไล่ฆ่าเพราะนึกว่าตนเป็นซอมบี้(ก็เป็นจริงๆ แหละ) อิลูกพี่ลูกน้องก็คอยเป่าหูคนในฐานให้ตามไล่ฆ่านายเอกเพราะกลัวเขาจะมาเอาคืน นายเอกเลยหนีกลับไปที่บ้านไปหาพ่อแม่(ที่เป็นซอมบี้แล้ว) โชคดีว่าที่ตอนที่พ่อแม่เปลี่ยนเป็นซอมบี้นายเอกล็อกประตูบ้านไว้เลยทำให้พ่อแม่ออกไปไหนไม่ได้ พอไม่ได้ออกไปล่าก็ไม่มีอาหาร พ่อแม่เลยตกอยู่ในสภาวะจำศีลมาตลอด

นายเอกเอาต้นโลหิตให้พ่อแม่กิน ซึ่งต้นโลหิตก็คือต้นไม้ที่เติบโตขึ้นมาจากเลือดของนายเอก มีสรรพคุณช่วยซ่อมแซมร่างกายทำให้ซอมบี้ที่กินเข้าไปกลับมามีร่างกาย+เนื้อหนังเหมือนตอนยังไม่ติดเชื้อ และกลับมามีสติตื่นรู้อีกครั้ง...นายเอกช่วยให้พ่อแม่ฟื้นกลับมาเป็นซอมบี้ที่มีสติตื่นรู้เหมือนกับตน จากนั้นก็เปิดคลินิกรักษาซอมบี้ที่สมัครใจอยากกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้ง ไม่นานก็เริ่มมีซอมบี้ที่นายเอกใช้พลังจิตทำให้รู้สึกตัวทยอยเข้ามาขอให้รักษา พอซอมบี้(ที่ถูกรักษา)เริ่มเยอะขึ้น นายเอกก็เริ่มก่อสร้างเมืองขึ้นใหม่ในดงซอมบี้ 55

คนที่มีคุณสมบัติมีสิทธิ์จะอาศัยอยู่ในเมืองนี้ได้ก็มีเพียงซอมบี้ที่ผ่านการรักษาจากนายเอกแล้วเท่านั้น หรือเรียกอีกอย่างว่าซอมบี้อารยธรรม ภายนอกดูเหมือนคนทั่วไปเพียงแต่ร่างกายจะแข็งแรงและอายุยืนกว่าคนปกติ แถมยังแข็งแกร่งเหมือนพวกซอมบี้ที่วิวัฒนาการแล้วถึงขั้น 3-4 จะต่างกันตรงที่ซอมบี้อารยธรรมของนายเอกจะไม่กินคน เพราะนายเอกไม่อนุญาต ถือเป็นกฏเป็นข้อห้ามสำคัญข้อแรก ให้กินได้แต่เนื้อสัตว์ และเนื่องจากซอมบี้พวกนี้ได้รับการรักษาด้วยต้นโลหิตที่เกิดจากเลือดนายเอกโดยตรง จึงทำให้ซอมบี้อารยธรรมมีสายสัมพันธ์กับนายเอก แบบถ้านายเอกแข็งแกร่งขึ้นซอมบี้พวกนี้ก็จะเก่งขึ้นตาม หรือถ้านายเอกเริ่มกินผักผลไม้หรืออาหารทั่วไปได้ ซอมบี้พวกนี้ก็จะเริ่มกินได้เหมือนกัน ...

ต่อมาชื่อเสียงในการรักษาของนายเอกก็เริ่มดังไปไกลจนทำให้คนข้างนอก(คนที่ถูกซอมบี้กัดกำลังติดเชื้อ) อยากเข้ามารักษาด้วย ซึ่งนายเอกก็รักษาให้หมดขอแค่มีปัญญาจ่ายคริสตัลก็พอ (คริสตัลพวกนี้เป็นคริสตัลพลังงานจะอยู่ในตัวซอมบี้) ใครไม่มีก็ติดเอาไว้ก่อนได้แล้วค่อยหามาคืน แต่ถ้าใครดูทรงแล้วจะเบี้ยวนายเอกก็จะไม่รักษาให้ หรือใครมาทำกร่างข่มขู่จะรักษาฟรี นายเอกก็จะจับโยนเข้าไปในฝูงซอมบี้เลย(เอาเซ่!!)  พอรักษาเสร็จก็ต้องรีบกลับออกไป เพราะนายเอกไม่ให้ใครค้างอยู่ในเมือง(นอกจากซอมบี้เร่ร่อนกับซอมบี้อารยธรรม) ขนาดพระเอกพยายามขอร้อง+ขอต่อรองนั่นนู่นนี่ตั้งมากมาย แต่นายเอกก็ยังไม่เคยอนุญาตหรืออ่อนให้เป็นกรณีพิเศษเลย เขาเข้มงวดจริงๆ นะเออ

พระเอก เซียวเหิน เป็นนายทหาร ถูกส่งออกมาทำภารกิจให้สร้างห้องปฏิการและคุ้มครองนักวิจัยหัวกะทิ พระนายได้เจอกันตอนที่พระเอกกำลังไล่ล่าศพโลหิต(ซอมบี้ที่เกิดจากการวิวัฒนาการจากเลือดของนายเอกนั่นแหละ) ตอนกลุ่มพระเอกกำลังจะแพ้นายเอกออกมาคำราม(ปราม)ศพโลหิต  ทำให้ศพโลหิตหนีไป พวกพระเอกเลยรอดตายและถูกส่งออกจากเมือง จากนั้นพระเอกก็วนเวียนมาที่เมืองของนายเอกอยู่เรื่อยๆ เพราะได้ยินว่านายเอกรักษาคนที่ติดเชื้อได้ นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญของมนุษยชาติ เพราะนักวิจัยที่พระเอกคุ้มครองก็กำลังทดลองเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน พระเอกเลยอยากได้ความร่วมมือจากนายเอก อยากขอต้นโลหิตไปศึกษาเพื่อทำวัคซีน แต่ก็ถูกนายเอกปฏิเสธทุกครั้ง (มันมีเหตุผลอยู่นะต้องลองไปอ่าน) ...

นายเอกเรื่องนี้เป็นซอมบี้แล้ว น้องเลยไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปกติ เย็นชาเลือดเย็นปราศจาก 7 อารมณ์ 6 ปรารถนา แต่ดีที่ไม่ได้ฆ่าคนมั่วซั่ว จะฆ่าแต่คนชั่วหรือคนที่มาหาเรื่องก่อนเท่านั้น และยังดีที่นายเอกยังกลัวพ่อแม่อยู่ เลยยังพอมีคนปรามๆ ได้55 ถ้าพ่อไม่บอกให้สร้าง+ขยายเมืองให้มันใหญ่ขึ้นนายเอกก็คงไม่ทำ แบบเป็นคนไร้ซึ่งความทะเยอทะยานสุดๆ น้องแค่อยากดูแลเมืองเล็กๆ ของตนเท่านั้น แต่มันไม่ได้ไง ดูจากภัยในภายภาคหน้า(ที่อาจจะเกิด) และจำนวนซอมบี้ที่มารักษาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นายเอกเลยต้องวางแผนใหม่ จะปล่อยชิลไม่ได้และ ต้องขยายเมือง แบ่งหน้าที่ทำให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น ...ส่วนพระเอกทำยังไงนายเอกก็ไม่ยอมให้อยู่ในเมือง คือเข้ามาได้แต่ห้ามค้าง เสร็จธุระแล้วต้องกลับออกไป ได้เข้ามาอยู่นานสุดก็ตอนที่นายเอกกำลังหาครูมาสอนยิงปืนให้ซอมบี้อารยธรรมของตัวเองนั่นแหละ (นายเอกไปขโมยมา55) ตอนแรกนายเอกจะไปหาซอมบี้พี่ชายทหารแต่หาไม่เจอเลยให้พระเอกมาสอนแทน พระเอกเห็นทุกคนหน้านิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ก็ไม่รู้ว่าที่ตัวเองกำลังสอนๆ อยู่น่ะซอมบี้ทั้งนั้น55

พอคนข้างนอกรู้ว่าเมืองนี้มีหมอที่รักษาผู้ติดเชื้อได้ก็อยากจะขอเข้ามาอยู่ด้วย แต่ก็ถูกนายเอกปฏิเสธไปทุกราย(รวมทั้งพระเอกด้วย55) เพราะข้างในมีแต่ซอมบี้ไงถึงจะหายแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังถือว่ามีเชื้อนะ เพราะถ้าถูกกัดคนก็ติดเชื้อได้เหมือนเก่า อีกอย่าง นายเอกไม่อยากให้ใครรู้เรื่องต้นโลหิตและเรื่องความพิเศษของเลือดตัวเองด้วย เพราะกลัวเดี๋ยวจะมีปัญหาตกเป็นเป้าไล่ล่าของพวกมนุษย์เห็นแก่ตัวบางกลุ่ม เหมือนฐานที่พระเอกอยู่อะ เป็นฐานใหญ่สุดมีคนอาศัยอยู่เกือบ 100 ล้าน มีทหารควบคุมดูแลอยู่ และมี 7 ตระกูลใหญ่เป็นผู้นำ แต่ก็ไม่ได้สามัคคีกัน เพราะต่างคนก็ต่างอยากขึ้นเป็นผู้นำ(คนเดียว) อยากมีอำนาจสูงสุดในฐาน แต่ยังตกลงกันไม่ได้ เลยต้องแยกกันดูแลจะได้คานอำนาจกันไว้ แต่ถ้าหากตระกูลไหนมีวัคซีนหรือหาวัคซีนได้ก่อนก็จะ(ทำให้)มีอำนาจในการต่อรองมากกว่าเขา นี่แหละหนามนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนผลประโยชน์ของตัวเองก็ยังต้องมาก่อนเสมอ...

พอเริ่มขยายเมืองนายเอกก็ไปผูกมิตรกับซอมบี้(ผู้นำ) เมืองใกล้ๆ จากนั้นก็เริ่มมองหาข้าวของสิ่งของต่างๆ ที่จะสามารถนำกลับมาพัฒนาเมืองหรือเป็นประโยชน์กับเมืองได้ อย่างเช่น เฮลิคอปเตอร์ ปืน เมล็ดพืชที่จะเอามาเพาะปลูก พวกซอมบี้นักวิจัย หรือคนที่มีความสามารถในสาขาต่างๆ ที่เก่งๆ แต่กลายเป็นซอมบี้แล้ว นายเอกก็จะออกไปตามหาแล้วช่วยรักษาทำให้กลับมาเหมือนคนปกติ จากนั้นก็พากลับมาทำงานด้วย โดยมีพระเอกคอยช่วยอยู่ข้างๆ ให้คำแนะนำ หลังๆ พระเอกเลยกลายเป็นมันสมองเป็นคนที่นายเอกจะขาดไปไม่ได้อีกแล้ว

นายเอกอย่างเก่ง+ซู(มาก) โหดด้วย อาจดูเหมือนใจดำ แต่เราว่านายเอกเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี(อยู่)นะ ตอนเรื่องซอมบี้นายพล(ซอมบี้วิวัฒนาการระดับ8) นายเอกก็เตือนให้พวกคนธรรมดาหนีไปให้ไกลอย่าสู้เลย เพราะสู้ยังไงก็ไม่ชนะหรอก พวกมนุษย์ก็ไม่อยากหนีเพราะไม่อยากทิ้งฐานที่สร้างขึ้นมา พากันหวังว่านายเอกจะช่วยเพราะเห็นนายเอกควบคุมซอมบี้ได้ แต่ตอนนั้นพลังของนายเอกยังไม่แกร่งเท่าซอมบี้นายพล รู้ว่าสู้ยังไงก็ไม่ชนะ นายเอกเลยปฏิเสธ ทว่าทุกครั้งที่บอกว่าจะไม่ช่วยๆ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นมือนายเอกอยู่ดี เหมือนใจดำไม่แคร์ใครแต่เราว่าซอมบี้อย่างนายเอกเนี่ยเชื่อถือได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไปซะอีกนะ 

ฉากตอนสู้มันดี มีตัวร้ายใหม่ๆ โผล่มาให้ลุ้นเรื่อยๆ มีพวกซอมบี้มนุษย์ที่กินซอมบี้อายธรรม มีซอมบี้สัตว์ แล้วก็ซอมบี้วิวัฒนาการที่จะขึ้นเป็นราชาซอมบี้ด้วยแม่เจ้าาา  ...แต่แน่นวลลลไม่ว่าจะเก่งขนาดไหนสุดท้ายก็ต้องพ่ายให้กับความเทพของนายเอกอยู่ดี55 เพราะหลังๆ น้องจะได้สกิลในการล่วงรู้อนาคตมาด้วย เมพฝุดๆ...ที่ชอบที่สุดก็คือตอนที่คนในครอบครัวได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง รู้สึกว่าเราไม่ควรหมดหวัง สักวันแสงสว่างจะต้องส่องมาถึง อะไรก็เกิดขึ้นได้อย่าเพิ่งยอมแพ้☺️

ป.ล. แอบไม่ชอบตอนที่นายเอกบังคับทำให้พระเอกกลายเป็นซอมบี้ 100% เหมือนตัวเองอะ เราชอบพระเอกเวอร์ชั่นลูกผสมมากกว่า ยังดูมีความเป็นมนุษย์และยังคำนึงถึงคนอื่นด้วย แต่พอเปลี่ยนเป็น 100% แล้วคือเลือดเย็น+เย็นชามากๆ ไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์อีก จิตใจและสายตาก็จะมีแต่นายเอกคนเดียวเท่านั้น เฮ้อออ





วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เกมรักซ่อนกลลวง 2 เล่มจบ

 


เกมรักซ่อนกลลวง 2 เล่มจบ

ผู้แต่ง : มู่ฝูเซิง

ผู้แปล : ซิงฉาย

สำนักพิมพ์ With Love

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เสิ่นเสี่ยอี้ ทนายความสาวคนสวย ส่วนพระเอก ลี่เจ๋อเหลียง ประธานหนุ่มสุดหล่อของลี่ซื่อกรุ๊ป ชายหนุ่มผู้กุมบังเหียนธุรกิจของเมือง A ประธานหนุ่มในฝันที่สาวๆ มากมายต่างหมายปองอยากแต่งงานด้วย

สำนักงานทนายความของนางเอกจับมือทำงานร่วมกับบริษัทพระเอก นางเอกเลยถูกส่งตัวไปทำงานที่นั่น นางเอกต้องการช่วยเหลือบริษัทของเพื่อนในวัยเด็กที่กำลังจะล้ม จึงทำให้นางต้องตอบรับคำขอของพระเอกหนึ่งอย่างเพื่อแลกกับการให้พระเอกยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัทเพื่อน และเพราะคำขอที่ว่านั่นจึงทำให้นางเอกต้องเก็บกระเป๋าย้ายไปอยู่บ้านพระเอก และทำให้เธอได้รู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องขาของพระเอกอีกด้วย ...

พระเอกเรื่องนี้อารมณ์แบบขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย(อ่านแล้วก็แอบนึกถึงพระเอกเรื่อง Crush ของคุณนักเขียนนิดๆ) แต่จะเป็นเฉพาะเวลาอยู่กับนางเอกนะ กับคนนอกคือสุภาพเรียบร้อยไม่แสดงอารมณ์ พระเอกเป็นคนที่หยิ่งทะนงและรักศักดิ์ศรีมาก ไม่มีทางแสดงความอ่อนแอหรือเผยจุดอ่อนให้ใครเห็น เจอใครก็มักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า แต่เป็นยิ้มแบบหน้าที่เหมือนกดปุ่มอัตโนมัติไม่ได้ออกมาจากใจจริงๆ จุดอ่อนเดียวของพี่แกก็คงเป็นเรื่องขา(ล่ะมั้ง) แต่พี่แกก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอหรือความเจ็บปวดให้ใครเห็น ภายนอกต้องดูดีอยู่เสมอ เจ็บแค่ไหนก็ฝืนทนไม่แสดงออกมา คนภายนอกเห็นก็คิดแค่ว่าพระเอกเคยบาดเจ็บที่ขาเลยทำให้เดินแปลกๆ เฉยๆ จะมีแค่คนสนิทไม่กี่คนกับหมอที่รักษาเท่านั้นที่รู้ว่าขาของพระเอกเป็นยังไง

ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแนวรักในวัยทำงานของหนุ่มสาว แนวอาชีพการงาน+การไต่เต้าฟันฝ่าอุปสรรคในเส้นทางการงานของพระนางเหมือนเรื่องก่อนๆ ซะอีก แต่อ่านไปเรื่อยๆ เหมือนจะไม่ใช่แฮะ เพราะมันมีซัมธิงและเหมือนจะมีปมบางอย่างซุกซ่อนอยู่(คุณนักเขียนจะทิ้งปมให้เราสงสัยเป็นระยะ) ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นางเอกมีอาการความจำเสื่อมหลงลืมเรื่องราวบางช่วงในอดีตไป และก็น่าจะเกี่ยวข้องกับขาขวาของพระเอกที่ไม่สามารถเดินเหินได้เหมือนคนปกติด้วย 

จริงๆ ก็เดาได้นะว่าในอดีตน่าจะเคยมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็ไม่นึกว่าจะหนักขนาดนี้ คือพระนางเขารู้จักกันมาก่อน นางเอกแอบชอบพระเอกมาตั้งแต่เด็กและเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามเขาเหมือนหางน้อยๆ มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว พระเอกไปเข้าเรียนที่ไหนเธอก็ตามไปที่นั่นด้วย ตามติดเหมือนตังเมจนคนคิดว่านางเอกเป็นน้องสาวพระเอก ...ความจริงนางเอกเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเสิ่น บ้านพระนางก็สนิทสนมกันเพราะทำธุรกิจร่วมกันมานานแล้ว นางเอกมีพี่สาวคนละพ่ออยู่หนึ่งคนซึ่งเป็นลูกเมียหลวง พี่สาวไม่ชอบนางเอก เวลาเจอหน้านางเอกทีไรก็ชอบพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางกับแม่สารพัด แต่นางเอกก็สู้นะ ไม่ได้นั่งเฉยๆ ให้เขาด่า ว่ามาก็ว่ากลับ

 ...สองศรีพี่น้องไม่ถูกกัน ต่างก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนมาแย่งสิ่งของหรือคนที่ตนรักไป นางเอกมักถูกพี่สาวย้ำและด่าว่าเป็นลูกชู้ ซึ่งถึงนางจะเถียงเขากลับฉอดๆ แต่ไม่ว่ายังไงในใจมันก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี ก็ถ้าเลือกได้ใครมันจะอยากเกิดมาเป็นลูกนอกสมรสกันล่ะ แถมแม่นางก็หัวอ่อนไม่สู้คน ปกป้องอะไรลูกสาวไม่ค่อยได้ นางเอกเลยไม่รู้สึกว่าบ้านที่เธออาศัยอยู่มันคือบ้าน ไม่ได้รู้สึกอบอุ่นหรืออยากจะกลับไป เพราะแม้แต่เพื่อนที่สนิทที่สุดก็ยังถูกพี่สาวแย่งชิงไปด้วยสถานะคู่หมั้น ในเมื่อบ้าน+ครอบครัวไม่ใช่สถานที่ที่ทำให้อุ่นใจหรือมีความสุข จึงไม่แปลกที่นางเอกจะพยายามหาสถานที่พักพิงอื่น สถานที่จะเป็นเซฟโซนเป็นบ้านที่ปลอดภัย และเป็นที่พึ่งพิงของเธอเพียงคนเดียวตลอดไป ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแย่งหรือแบ่งไปจากเธอได้...

แต่ในมุมของพี่สาว นางเอกกับแม่ก็คือคนที่เข้ามาทำลายครอบครัวของเธอ คือคนที่เข้ามาแบ่งความรักจากพ่อที่ควรจะเป็นเพียงของเธอกับแม่ไปเหมือนกันนะ แม้แต่คู่หมั้น(ที่คนอื่นคิดว่าเธอไม่ได้ชอบ) ก็ยังใส่ใจให้ความสำคัญกับน้องสาวที่เธอเกลียดมากมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนเธอเสมอ ...เฮ้ออ จนท้ายที่สุดเธอก็เลือกเดินทางผิดและทำให้กิจการของที่บ้านพัง ...แต่พอพ่อนางเอกรู้ก็ไม่โทษพี่สาวเลย กลับขอแบกรับความผิดนี้ไว้กับตัวเองคนเดียว

ตอนแรกพระเอกจะหาทางช่วย แต่พ่อก็ปฏิเสธเพราะกลัวบริษัทพระเอกจะมาซวยไปด้วย แล้วคนที่รู้ความจริงรู้ว่าพ่อตัดสินใจอะไรยังไงในเรื่องนี้ก็มีแค่พระเอก พ่อนางเอก และตัวพี่สาวแค่ 3 คนเท่านั้น เพราะพ่อนางเอกขอร้องให้พระเอกช่วยเก็บเป็นความลับโดยเฉพาะจากนางเอก เพราะไม่อยากให้นางเอกเกลียดตัวพี่สาวไปมากกว่านี้ นางเอกก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือพระเอกเพราะข่าวมันออกมาแบบนั้น แถมพอไปถามพระเอก พี่แกก็ไม่ยอมบอกความจริง ทีนี้เลยไปกันใหญ่เลย...

พอไม่พูดความจริงมันเลยยิ่งแย่ เราว่าพลาดแล้วที่พ่อไม่ให้พระเอกบอกความจริงกับนางเอกเนี่ย ไม่มีอะไรดีเลย เราว่าสู้บอกแล้วให้นางเอกไปตัดสินใจเอาเองดีกว่า จะโกรธจะเกลียดหรืออะไรก็แล้วแต่ลูกเถอะ ปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองเถอะ ดีกว่าปล่อยให้ลูกเข้าใจผิดๆ ถึงไม่บอกคนอื่นแต่อย่างน้อยบอกนางเอกก็ยังดี เพราะนางก็โตแล้วไม่ใช่เด็กเล็กๆ เน้อ ไม่รู้ว่าพ่อจะเสียใจที่หลังไหมนะ เพราะไอ้การไม่บอกความจริงเนี่ยมันไม่เพียงแต่เป็นการทำร้ายลูกสาวตัวเอง แต่มันยังทำร้ายพระเอกทางอ้อมด้วย ... ไม่ใช่แค่ทางร่างกายและจิตใจ ยังรวมไปถึงบริษัทพี่ด้วย เล่นเอาซะบริษัทพระเอกเกือบล้มละลาย ถ้ากู้กลับมาไม่ได้นี่ไม่ใช่แค่ตัวพระเอกเท่านั้นนะที่จะแย่ แต่ยังมีพนักงานในบริษัทอีกกี่ร้อยชีวิตจ๊ะที่จะต้องตกงาน ...

อ่านถึงตรงนี้แล้วบอกเลยว่านักเขียนแกงมาก หลอกเราซะอยู่หมัด (หรือเป็นเพราะนางเอกแสดงละครเก่งหว่า55) ตอนอ่านก็คิดว่าถ้าพระเอกไม่ได้ทำหรือเข้าใจผิดนี่เราจะโกรธนางเอกมากเลยนะ😟 ...พอเฉลยแล้วก็แบบจ้าาา วางแผนเก่งขนาดนี้ ก่อนหน้านี้มีเวลาตั้งหลายปีทำไมไม่ลองสืบหาความจริงดูก่อนสักหน่อยละน้องสาว มันต้องมีสักคนที่รู้เรื่องที่พี่สาวนางเอกทำบ้างแหละน่า(ถึงจะไม่รู้ลึกไปถึงเรื่องที่พ่อนางเอก+พระเอก+ตัวพี่สาวพูดคุยตกลงกันวันนั้น) แต่แค่รู้เรื่องที่พี่สาวทำเราว่านางเอกก็น่าจะพอเดาๆ อะไรออกได้บ้างแล้วมั้ง นี่ก็ไปรู้เรื่องจากปากเพื่อนพ่อไม่ใช่เรอะ?(ว่าพี่สาวทำอะไรในปีนั้น) แต่พอรู้แล้วนางก็แบบช่างเถอะ ฉันปล่อยวางได้แล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญแล้ว ...จ้าาา ดีจุง (โอ๊ยหนออ ทำไมไม่รู้สึกให้มันเร็วกว่านี้) 

สรุปก็จบแฮปปี้แหละ นึกว่าจะมึนตึงกันอีกนาน แต่ทำไงได้ก็คนมันรัก ความรักย่อมชนะทุกสิ่งอยู่แว้วว บวกกับได้รู้สาเหตุที่ทำให้ขาพระเอกเป็นแบบนี้ด้วย ความคงความแค้นอะไรไม่มีแว้ววว ปล่อยวางได้หมดจ้ะ ...แต่ยังคงอยากถามเหลือเกินว่าทำไปทามมายยย ไม่ลองคุยกันดีๆ แบบมีสติกันก่อนล่ะน้องสาว หรือสืบหาความจริงให้มันกระจ่างก๊อนน ...จบจ้า






วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

กี่ภพกี่ชาติก็ยังเป็นเธอ 9 เล่มจบ


กี่ภพกี่ชาติก็ยังเป็นเธอ 9 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เฟิงหลิวซูไต

ผู้แปล : หมิงหมิง

ปก : Leila

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวระบบ นางเอกต้องไปหลายโลก มีทั้งยุคปัจจุบัน ยุคโบราณ วันสิ้นโลก ซึ่งบางทีก็ต้องอยู่ในร่างเด็กผู้หญิงวัยสิบกว่าหรือหญิงสาววัยรุ่น แม้แต่หญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่คนแล้วก็มี ซึ่งทุกครั้งที่วาร์ปเข้าโลกหรือชาติใหม่นางเอกก็จะสูญเสียความทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมด เหลือเพียงทักษะหรือสกิลที่ได้ฝึกมาตอนอยู่ในชาตินั้นๆ ติดตัวมาด้วย เช่นชาติแรกที่เป็นแม่ครัวก็จะได้สกิลในการทำอาหารติดตัวมา ชาติที่เป็นหมอก็จะได้สกิลในการรักษา หรือชาติที่เป็นช่างปักผ้านางก็จะได้สกิลในการเย็บปักผ้าติดตัวมาในชาติใหม่ด้วย อะไรแบบนี้

ชาติแรกแม่ครัว พ่อนางเอก(หรือเจ้าของร่างเดิม) เป็นพ่อครัวใหญ่อยู่ในจวนโหว ส่วนลูกสาวหรือเจ้าของร่างที่นางเอกมาอยู่ก็หลงรักซื่อจื่อหรือบุตรชายของท่านโหว ตอนแรกร่างเดิมไม่ได้ชอบทำอาหาร แต่พอรู้ว่าซื่อจื่อชอบกินก็เลยเบนเข็มมาเป็นแม่ครัวตามรอยพ่อ พอพ่อตาย ลูกหลานของอาจารย์ที่พ่อเคยไปเรียนทำอาหารก็บุกมากล่าวหาว่าพ่อเป็นศิษย์ทรยศ พออาจารย์ตายก็แอบขโมยตำราอาหารกับมีดทองคำของอาจารย์มาหากิน+สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หลานสาวอาจารย์แฝงตัวเข้ามาเป็นสาวใช้ข้างกายพระเอก(น่าจะเป็นตัวเอกชาย แต่ขอเรียกว่าพระเอกละกันนะ ง่ายดี) เป่าหูจนพระเอกคล้อยตามและอนุญาตให้จัดแข่งทำอาหารระหว่างหลานสาวอาจารย์กับเจ้าของร่างเก่า 

นางเอกเข้ามาอยู่ในร่างนี้ตอนที่กำลังตัดสินผลแพ้ชนะ ผลออกมาคืออีกฝ่ายชนะ นางเอกก็ยอมรับแล้วเก็บข้าวของพาแม่ออกจากจวนโหวไป แต่ก่อนไปยังไม่ลืมเอาตำราอาหารกับมีดทองคำไปส่งคืนให้อีกฝ่ายก่อน อีกฝ่ายก็ไม่คิดว่านางเอกจะเอามาคืน เลยพูดใส่ไฟให้พระเอกฟังอย่างเมามัน พอมีคนแจ้งว่าเขาเอามาคืนแล้วนะนางถึงได้เหวอหน้าแตกเพล้งๆ ...ตอนแรกแม่เจ้าของร่างเก่าบอกว่าพ่อนางเอกเคยซื้อบ้านไว้ข้างนอกกับมีร้านอาหารที่เปิดแล้วให้น้องชายสองคนดูแลอยู่อีกแห่ง แต่นางเอกรู้จากความทรงจำของร่างเดิมว่าน้องชายสองคนของพ่อเป็นคนไม่ดี โลภมาก ไม่เอาการเอางาน ดีแต่มาขอเงินพี่ชาย เลยเดาได้ว่าบ้านกับร้านต้องโดนน้องชายของพ่อฮุบไปเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้วแน่นอน ซึ่งพอไปถึงก็จริง แถมอาทั้งสองยังเปลี่ยนชื่อร้านให้เป็นของคนสกุลเหยียนเรียบร้อย(แซ่อาจารย์) ทำให้คนชื่นชมยกย่องตัวเอง แต่กลับเป็นการตบหน้าและเหยียบนางเอกกับแม่ให้จมดินยิ่งกว่าเดิม ...

นางเอกพาแม่ไปพักที่โรงเตี๊ยมก่อนออกเดินทางไปจากเมืองหลวง ระหว่างนั้นก็ถูกเมียและลูกของอาจารย์ตามมาด่าถึงหน้าที่พัก หาว่าพ่อนางเอกคิดไม่ซื่อจงใจไม่แจ้งข่าวให้ลูกชายอาจารย์รู้ว่าพ่อตาย ทำให้ลูกเขามางานศพพ่อไม่ทันแล้วตัวเองก็ได้หน้าบลาๆ พอท่านโหว(พ่อพระเอก) รู้เรื่องวุ่นวายที่หน้าโรงเตี๊ยมก็รังเกียจบ้านสาวใช้มาก เลยสั่งให้พระเอกไล่สาวใช้คนนั้นออกไป และให้คนไปตามนางเอกกับแม่กลับมา พระเอกก็เริ่มตระหนักได้ว่าตนเชื่อคนผิด รู้สึกผิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะส่งคนไปกี่ครั้งนางเอกก็ปฏิเสธกลับมาทุกรอบ 

นางเอกพาแม่เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วเพื่อเรียนรู้วิธีทำอาหารตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งผ่านไป 10 ปีถึงได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง... พอกลับมานางเอกก็มาหาซื้อร้านแถวๆ ร้านอาหารคนสกุลเหยียน แต่พอฝั่งนั้นรู้ว่ามีคนคิดจะมาเปิดร้านขายอาหารเหมือนกันก็ใช้อำนาจสั่งเจ้าของที่ไม่ให้ขายร้านให้นางเอก จนนางเอกต้องไปเปิดตรงอื่นที่ทำเลไม่ค่อยดี แต่นางก็ไม่ซี เพราะนางมั่นใจฝีมือตัวเองว่าเปิดที่ไหนก็ต้องขายได้ เพียงแค่ต้องปรับอาหารให้เหมาะกับสถานที่ทำเลแถวนั้น... นางเอกเปิดร้านอาหารบ้านเกิด ทำให้คนที่จากบ้านมาทำงานต่างถิ่นพอกินแล้วจะหวนคิดถึงบ้านเกิดตัวเอง พอนางเอกฟังสำเนียงลูกค้าก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ไหน แล้วนางก็จะปรับเปลี่ยนรสชาติให้ตรงกับรสชาติบ้านเกิดของลูกค้านั้นๆ คนเลยยิ่งชอบ+ติดใจ แห่มากินกันตั้งแต่ชนชั้นรากหญ้าไปจนถึงคนรวย แม้แต่ผู้สูงศักดิ์ก็ยังแอบปลอมตัวมากิน  

แต่พอคนสกุลเหยียนรู้ว่านางเอกมาเปิดร้านตรงนี้ก็ตามมารังควานแล้วสั่งให้คนลอบเผาร้านตอนดึก พอร้านถูกเผานางเอกก็ปิดร้านถาวรเลย คนที่เคยมากินก็พากันเสียใจ (แต่ตอนที่ร้านนางเอกโดนคนสกุลเหยียนมาตะโกนด่าปาวๆ และทำลายข้าวของ คนพวกนี้กลับไม่ช่วย แถมยังซ้ำเติมด้วยการฉวยโอกาสตอนที่สถานการณ์วุ่นวายเข้ามาขโมยของอีก (นางเอกเลยปิดแม่ง!) พวกคนใหญ่คนโตพอรู้เรื่องที่นางเอกปิดร้านก็พากันโกรธคนทำและให้คนไปสืบเรื่องนางเอกจนสาวไปถึงคนสกุลเหยียนได้ในที่สุด...หึหึ พวกคนใหญ่คนโตที่ชื่นชอบอาหารนางเอกเลยแห่กันไปเล่นงานร้านอาหารคนสกุลเหยียนจนร้านต้องปิดเหมือนกัน ส่วนพระเอกก็ทำให้อดีตสาวใช้คนนั้น(ที่ตอนนี้กลายเป็นแม่ครัวหลวงคนโปรดของฮ่องเต้แล้ว) โดนขับไล่ออกจากวังไป 

ครอบครัวสาวใช้ถือดีว่าลูกตนทำงานในวังและเป็นคนโปรดฮ่องเต้ เลยใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าหรือคนที่ทำอาหารขาย คือถ้าเมนูไหนขายดีกำลังฮิตก็จะให้คนไปบอกว่าเมนูนี้ทำถวายฮ่องเต้แล้วห้ามคนอื่นทำขายอีก ยกเว้นร้านตัวเองที่ทำขายได้ คือยึดสูตรอาหารที่คนอื่นคิดไปโต้งๆ เลย ...จากนั้นนางเอกก็ส่งสารไปขอท้าประลองกับคนสกุลเหยียน พอถึงวันนัดฮ่องเต้ก็มาเป็นกรรมการตัดสินด้วย นางเอกรู้ว่าฮ่องเต้ชอบสาวใช้คนนั้นและจะต้องตัดสินลำเอียงแน่ๆ เลยเสนอขอให้ใช้วิธีการของตนเพื่อความยุติธรรม เสนอให้แข่งทำบ๊ะจ่างและให้ชาวบ้านที่กำลังจะเข้าเมืองเป็นคนตัดสิน พอชนะนางเอกก็ขอตำราอาหารส่วนของพ่อกับมีดทองคำคืน จากนั้นก็เอาสูตรอาหารของพ่อครัวคนอื่นๆ ที่โดนฮุบไปคืนให้ทุกคน และก็เปิดโปงเรื่องที่อีกฝ่ายเคยสัญญาว่าจะไม่ใช้สูตรอาหารของพ่อนางเอกทำอาหาร แต่สุดท้ายก็แอบทำให้ทุกคนรู้... 

พอฮ่องเต้รู้ว่าแม่ครัวตนไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คิดก็เลิกโปรด บอกให้อีกฝ่ายเลิกเป็นแม่ครัวแล้วมาเป็นสนมตนเองดีกว่ามั้ย? (ไม่ได้รู้สึกพิเศษใดๆ แล้ว มีแต่ความใคร่) หลังแข่งจบนางเอกเตรียมพาแม่ออกเดินทาง พระเอกพยายามรั้งคนไว้แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเหมือนเดิม เพราะนางเอกไม่ใช่เจ้าของร่างเก่าอะเลยไม่รู้สึกอะไรกับพระเอก ไม่มีใครหรืออะไรให้อาลัยอาวรณ์ ก็แค่ต้องการกลับมากอบกู้ชื่อเสียงและทุกอย่างของพ่อร่างเดิมนี้คืนเท่านั้น เสร็จแล้วก็จะไป พระเอกดีแค่ไหนก็ไม่ได้ชอบ ไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ใช้ชีวิตได้อย่างอิสรเสรีสุดๆ ไม่ยึดติดกับอะไรเลย ไม่ต้องเจ็บปวดกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อยากทำไรก็ทำ ไปไหนก็ไป เราว่าแบบนี้ก็สบายใจดี... ส่วนพระเอกก็ได้แต่มานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารบ้านเกิดที่ลูกศิษย์นางเอกรับช่วงเปิดต่อด้วยความโหยหาคิดถึงคน เพราะส่งคนไปดักรอนางเอกกี่รอบก็ไม่เคยได้เจอ ต้องช้าไปก่อนก้าวนึงเสมอ... จบ


ชาติที่สองเป็นโลกของผู้คนที่มีระดับขั้นพลัง พลังยุทธ์ นางเอกมาอยู่ในร่างเด็กกำพร้าที่ถูกสำนักมารเก็บไปเลี้ยง(อย่าเรียกว่าเลี้ยงเลย) ให้เป็นหน่วยกล้าตายพร้อมบุกตะลุยตายแทนเจ้านายได้ ร่างเก่าหลงรักเจ้านายแต่เจ้านายดันไปหลงรักสาวใช้ของนาง พอนางตัดใจไปรักคนใหม่ ผู้ชายคนใหม่ก็ยังไปชอบสาวใช้ของนางคนนั้นอีก แต่นางเอกไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น พอมาอยู่ร่างนี้นางก็ตัดสินใจจะสังหารเจ้านายของร่างเดิมทิ้งทันที เพราะอีกฝ่ายไม่เคยเห็นเจ้าของร่างนี้เป็นคนอยู่แล้ว ไม่เคยปฏิบัติหรือทำดีด้วย แถมยังมีกู่(แม่)ที่ควบคุมกู่ลูกในร่างนี้อีก คือถ้าไม่ฆ่า ร่างนี้ก็ไม่มีวันหลุดพ้นสักที 

นางเอกเลยฝึกวิชาดาบอสูรที่ทำให้ไร้หัวใจ และเป็นวิชาที่ทำให้ร่างกายคนฝึกเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา วิธีเดียวที่จะระงับความเจ็บได้มีเพียงต้องยกดาบฆ่าคนเท่านั้น ยิ่งดาบเปื้อนเลือดมากเท่าไรคนฝึกก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น พระเอก(ผู้ชายที่ร่างเก่าหันมาชอบหลังอกหักจากเจ้านายเก่า) เห็นนางเอกฝึกวิชานั้นก็คิดจะสังหารนางเอกทิ้ง(ฮีรู้ว่าคนฝึกวิชานี้จะบ้าคลั่งฆ่าคนเป็นว่าเล่น) แต่ไปๆ มาๆ นางเอกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ยังมีสติรู้ตัวดีตลอด จะยกดาบฆ่าเฉพาะคนเลว ฮีเลยเปลี่ยนใจ เปลี่ยนเป็นขอติดตามดูนางเอกไปเงียบๆ เรื่อยๆ แล้วกัน ...นางเอกก็โอเค เผื่อวันไหนตนบ้าคลั่งฉุดไม่อยู่จริงๆ จะได้มีคนคอยลงมือ พอฮีได้เห็นสิ่งที่นางเอกทำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการอดทนต่อความเจ็บปวดที่ได้รับ ความเข้มแข็งในการพยายามประคองสติไม่ให้บ้าคลั่ง จิตใจที่ไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมที่เห็นตรงหน้า ความกล้าที่จะหยิบดาบสังหารคนชั่วโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะใหญ่โตมาจากไหน ในขณะที่ผู้มีพลังขั้นสูงๆ กลับยิ่งสูงยิ่งหัวหด ไม่กล้าลงมือทำอะไรแบบนี้ ไม่แม้แต่จะสนใจชีวิตชาวบ้านคนธรรมดา เพิกเฉย+ปล่อยให้คนชั่วรังแกคนอ่อนแอไม่มีพลัง เพราะกฏบ้าๆ ที่บอกว่าผู้มีพลังขั้นสูงไม่ก้าวก่ายกัน แต่นางเอกคือไม่สน หากใครก่อกรรมชั่วทำร้ายชาวบ้านนางก็พร้อมสังหารหมด พระเอกเลยเริ่มมีใจให้นาง แต่ก็รู้ดีว่านางเอกไร้หัวใจไม่มีความรู้สึกแบบชายหญิงแล้วเพราะฝึกวิชานี้ ...ก็จบแบบพระเอกเดินทางติดตามนางเอกท่องไปตามดินแดนต่างๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ


ชาติเทพสงคราม นางเอกมาอยู่ในร่างบุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลแม่ทัพ (ในตอนนี้จะมีสามีเก่าของร่างนี้อีกคนที่ได้ย้อนกลับมาด้วย) ชาติก่อนสามีเก่ารักน้องสาวที่เป็นลูกอนุของภรรยา(เจ้าของร่างเก่า) แต่ถูกคนใช้แผนจึงทำให้พี่แกต้องถอนหมั้นกับคนรักแล้วไปแต่งกับเจ้าของร่างเก่า พี่แกเลยปฏิบัติกับเจ้าของร่างเก่าไม่ดี+ไม่สนใจ เอาแต่คิดและเป็นห่วงคนรักเก่าจนกระทั่งวันตาย ...พอย้อนกลับมาพี่แกเลยตั้งใจว่าชาตินี้จะต้องแต่งกับคนรักเก่าให้ได้ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นแผนการของคนรักพี่แกนั่นแหละจ้าาา

นางอยากแต่งกับท่านอ๋องไม่อยากแต่งกับคนธรรมดาเลยวางแผนล่มงานแต่งตัวเอง แต่ชาตินี้แผนแรกไม่สำเร็จ สามีเก่ากับนางเอกไม่ติดกับแผนนางเหมือนชาติก่อน พอใช้แผนสองแกล้งตกน้ำก็ล่ม แผนสามทุ่มสุดตัวถึงขนาดยอมค้างคืนกับท่านอ๋องเพื่อทำลายชื่อเสียงตัวเอง แต่ให้ตายสามีเก่าของนางเอกก็ยังไม่ยอมยกเลิกงานแต่งกับนาง ความจริงสามีเก่าก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมของนางแล้วแหละ เพียงแต่ยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะภาพลักษณ์คนรักตัวเองคือแสนดี ดูอ่อนโยนอ่อนแอใสซื่อมาตลอด พอมารู้ที่หลังก็เอ้า!นี่มันงูพิษนี่หว่า...55 อยากแต่งกับท่านอ๋องมากจนยอมทำลายชื่อเสียงตัวเอง ถึงท่านอ๋องจะมีภรรยาเอกอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรให้แต่งไปเป็นอนุก็ได้ ยอม... เหอๆ 

ต่อมาเกิดสงคราม คนในตระกูลนางเอกที่ออกรบกำลังแย่ พ่อก็ถูกศัตรูจับเป็นตัวประกัน นางเอกเลยแอบหนีออกจากจวนไปช่วยพ่อ ส่วนสามีเก่าก็แอบมาดักรอแล้วขอตามไปด้วย ...นางเอกพิชิตใจทหารในค่ายเรียกขวัญกำลังใจทุกคนกลับคืนมาจนได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำ และสุดท้ายก็พลิกกลับมาชนะ แย่งชิงดินแดนกลับคืนมาได้ทั้งหมด ทำให้อีกฝั่งต้องถอยทัพหนีและขอเจรจาสงบศึก แต่พอข่าวชนะไปถึงเมืองหลวง พวกขุนนางในราชสำนักก็ถวายฎีการ้องเรียนนางเอกเรื่องนั่นนู่นนี่ พยายามเป่าหูฮ่องเต้ให้เรียกนางเอกกลับมาแล้วส่งคนอื่นไปคุมชายแดนแทน ฮ่องเต้ก็โดนกล่อมจนคล้อยตาม ...ทว่าในขณะที่กำลังเดินทางกลับนางเอกกับท่านอ๋องอีกคน(คนนี้ดี) ก็ถูกลอบสังหาร นางเอกพลัดตกแม่น้ำหายสาบสูญไม่รู้เป็นหรือตาย พอฝั่งศัตรูรู้ข่าวก็ยกดาบสังหารคนที่ฮ่องเต้ส่งมาทำข้อตกลงสงบศึกและยกทัพมาบุกดินแดนใหม่ทันที ฮ่องเต้ก็ใสเจียเสียใจไม่น่าเรียกคนกลับมาเลย บ้านเมืองเผชิญวิกฤติอีกครั้ง ข้าศึกก็บุกเอาๆ จนขุนนางมาขอร้องให้ฮ่องเต้เดินทางลงใต้เพื่อหนีภัยสงคราม ...ตอนนี้มีตัวเอกชายสองคน จบแบบนางเอกไม่แต่งงานแต่ขอเป็นแม่ทัพอยู่ชายแดน นานๆ ทีจะเข้าเมืองหลวงสักครั้ง ความสัมพันธ์เป็นแบบสหายร่วมรบ แนวมิตรภาพ ส่วนสามีเก่าก็หลงรักนางเอกจริงๆ แต่ไม่กล้าสารภาพหรือสานต่อเพราะรู้สึกผิดจากชาติก่อน ...เราว่าจบแบบนี้ก็ดีนะ ไม่ใช่พอได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้หรือมีอำนาจเหนือกว่าก็ไปบังคับให้เขาแต่งด้วย แบบนี้ก็ดี ปล่อยให้เธอได้โบยบิน อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ คบกันแบบสหายผู้รู้ใจ (ชาตินี้มีเสียน้ำตาให้บ้านนางเอกที่ออกรบด้วย T0T)


สามชาติแรกนางเอกไม่มีหวั่นไหวหรือหน้าแดงใจเต้นกับใครเลย นิ่งมาก ไม่คิดแต่ง ไม่มีความรู้สึกใดๆ แบบไม่เอาเลย แต่อย่างเพิ่งถอดใจ เพราะนางจะเริ่มมามีพัฒนาการในชาติที่ 4 ที่เป็นช่างปักนี่แหละ ...ชาตินี้นางเอกเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน พ่อตายแล้ว ในบ้านเหลือแต่ผู้หญิง อีกทั้งกิจการของที่บ้านก็กำลังย่ำแย่ นางเอกถูกแม่บังคับให้เรียนปักผ้าทุกวัน จากที่ปักออกมาเป็นตัวอะไรไม่รู้ก็ค่อยๆ ปักดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งได้เย็บชุดให้เพื่อนบ้านที่เป็นตระกูลตกอับใส่ไปออกงาน พอคนในงานเห็นชุดที่นางเอกเย็บก็ฮือฮาอยากรู้ว่าช่างปักคนนี้เป็นใคร หลังจากนั้นถึงได้เริ่มมีคนมาจ้างเย็บชุด พอเริ่มมีเงินนางเอกก็หุ้นเปิดร้านกับเพื่อนข้างบ้านคนนั้น 

ส่วนพระเอกเป็นพี่ชายบ้านข้างๆ ที่เพิ่งย้ายมา หลานชายอดีตฮองเฮาที่ถูกฮ่องเต้สั่งปลด แต่แม่พระเอกซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฮองเฮายืนกรานจะอยู่ข้างน้องสาว ก็เลยถูกบ้านสามีตัดขาดไล่ออกจากตระกูล พระเอกกับน้องสาวเลยหอบสินเดิมของแม่ตามมาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ ฮองเฮาเพื่อคอยดูแล พระเอกได้แรงบันดาลใจจากนางเอกที่มุ่งมั่นฝึกเรียนปักผ้าเลยตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพ ...ชาตินี้นางเอกได้แต่งงานเพราะที่บ้านอยากได้เขยแต่งเข้า แล้วนางเอกก็ไม่ชอบเข้าสังคม ขี้เกียจไปทำความรู้จักกับคนอื่นใหม่ กับพระเอกคือรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว แถมนางเอกอยากทำอะไรพระเอกก็ตามใจช่วยซัพพอร์ตตลอด สุดท้ายนางเลยยอมแต่ง ส่วนพระเอกก็ยินดีแต่งเข้า(มาก) ถึงจะรู้ว่านางเอกไม่ได้ชอบตัวเองแบบคนรัก แต่ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดก็ยังดี...


ชาติหมอเทวดา ชาตินี้วิญญาณนางเอกมาเข้าร่างหญิงสาวที่เกิดในตระกูลหมอ พ่อของร่างเดิมตายเพราะช่วยปกป้องท่านแม่ทัพ บ้านแม่ทัพเลยรับเลี้ยงลูกสาวของหมอเพื่อตอบแทนบุญคุณ เลี้ยงดูดีและตามใจมากไม่ต่างจากคุณหนูคนหนึ่งเลย จนทำให้ร่างเก่ามีนิสัยเอาแต่ใจดื้อรั้น เดิมร่างเก่ามีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายรองในจวนแม่ทัพ แต่พอโตขึ้นคุณชายรองกลับไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ เลยจะขอยกเลิกสัญญาหมั้น แต่ร่างเก่าไม่ยอม พอคุณชายรองหนีออกจากบ้านนางก็ตาม และไปๆ มาๆ ก็ทำให้คุณชายใหญ่หรือพระเอกได้รับบาดเจ็บหนักเพราะความดื้อรันเอาแต่ใจของนาง

พระเอก(ลูกชายคนโตของท่านแม่ทัพ ความหวังของจวน)ได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาตจากการช่วยชีวิตร่างเดิม นางเอกเข้ามาอยู่ร่างนี้ตอนที่เจ้าของร่างกำลังจะถูกไล่ออกจากจวนพอดี ตอนแรกนางเอกจะไปแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจขออยู่ต่อเพื่อหาวิธีรักษาขาพระเอกก่อนละกัน ...นางเอกขอย้ายไปอยู่ในเรือนพระเอก ดูแลเรื่องการกินอยู่ทุกอย่าง ตอนแรกพระเอกผอมโซมากเพราะไม่ยอมกินข้าว แต่เจอนางเอกพูดแทงใจดำไปสุดท้ายเลยกลับมากินข้าวตามเดิม เริ่มกลับมาพูดและแสดงอารมณ์ ไม่ใช่เอาแต่นั่งเหม่อใช้ชีวิตให้พอผ่านไปวันๆ ...จากนั้นทุกวันนางเอกก็จะไปเอาตำราแพทย์ที่พ่อทิ้งไว้มาศึกษา พอสาวใช้ในเรือนหรือใครในเรือนพระเอกป่วยนางเอกก็จะขอตรวจแล้วจ่ายยาให้ แต่พอดีว่าสาวใช้คนนั้นไม่ชอบนางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยไม่กินยาที่นางจ่าย พอพระเอกรู้ก็เลยไล่สาวใช้คนนั้นออกและทำให้ตัวเองป่วยเพื่อให้นางเอกมารักษาแทน 

พอพระเอกเริ่มดีขึ้น นางเอกก็จะสะพายตะกร้าแล้วออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่อยู่ไกลๆ เพื่อรักษาคน และตามหาคนที่มีอาการป่วยคล้ายพระเอกเพื่อมาลองรักษา ...ชอบนิสัยนางเอก เป็นคนยืดได้หดได้ ตอนที่มีหมอเก่งๆ (คนที่อดีตคู่หมั้นร่างเก่าไปชอบ) มาบอกว่าจะยอมรักษาพระเอกให้ก็ได้ถ้านางเอกยอมมาโขกศีรษะขอขมาที่หน้าร้านหมอ นางเอกก็ไม่คิดมาก รับปากว่าจะไปขอโทษทันทีเลย ไม่ยึกยักหรือถือศักดิ์ศรีใดๆ ยืดได้หดได้ ไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง กลับเป็นพระเอกซะอีกที่ไม่ยอม สวนกลับเป็นชุดๆ แล้วก็ห้ามไม่ให้นางเอกไป 

ตอนนี้จะมีตัวละครหนึ่งที่วิญญาทะลุมิติมาจากอนาคตด้วย เป็นศัลยแพทย์ เย็บแผล+ผ่าตัดได้ แต่รักษาโรคไม่ได้ เวลานางออกไปรักษาจะต้องมีหมออีกคนอยู่ด้วยแล้วรอให้หมอคนนั้นวินิจฉัยอาการก่อน ส่วนนางก็จะไหลตามน้ำไปทีหลัง ความมาแตกตอนหมอที่เป็นคู่หูนางจากไป คนถึงได้รู้ว่านางรักษาโรคไม่ได้ ตอนแรกนางคิดจะขโมยตำราแพทย์ของนางเอกไปศึกษา แต่ถูกนางเอกจับได้ก่อน ต่อมาเลยทำทีเป็นขอยืมแทน พวกฮูหยินผู้เฒ่ากับแม่พระเอกตอนนั้นยังไม่รู้ นึกว่านางเป็นหมอเทวดาจริงๆ คิดว่านางสามารถรักษาพระเอกได้ เลยอนุญาตและสั่งให้คนไปหยิบตำราของนางเอกมาให้ 

พอนางเอกรู้และได้ฟังสิ่งที่ทุกคนพูดกล่อมก็ขี้เกียจจะเสวนาโต้แย้ง เลยกล่าวลาและหันหลังออกจากจวนไปเดี๋ยวนั้นเลย คืออยากได้ไรเอาไปเลย ส่วนนางเอาแค่ตะกร้าสะพายหลังกับจอบไว้ขุดดินหาสมุนไพรไปอันเดียวเท่านั้น พอพระเอกรู้ว่าคนไม่อยู่ก็โมโห สั่งให้คนไปเอาตำราคืนมาและออกตามหานางเอก ความจริงนางเอกรักษาพระเอกหายแล้วแต่ยังไม่ได้บอกคนในจวน พอคนในจวนเห็นพระเอกเดินได้ก็อึ้ง ไม่คิดว่านางเอกจะรักษาได้จริง ...ในชาตินี้นางเอกเต็มใจแต่งงานด้วย เพราะชอบความรู้สึกที่มีคน(พระเอก)คอยปกป้อง (เห็นไหมนางเริ่มมีความรู้สึกแล้ว)


ตอนแม่แห่งชาติ นางเอกมาอยู่ในร่างผู้หญิงวัย 40 ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท ครอบครัวทำอาชีพปลูกดอกไม้(มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง) เป็นครอบครัวหัวเก่า ร่างเดิมไม่ได้เรียนหนังสือตามระบบแต่เรียนพวกคัมภีร์ต่างๆ ตามสมัยโบราณ ได้แต่งงานกับเด็กหนุ่มในหมู่บ้านใกล้ๆ ที่ฐานะยากจนแต่หัวดี พ่อเจ้าของร่างเก่าเสนอว่าจะช่วยออกค่าเล่าเรียนให้แต่มีข้อแม้คืออีกฝ่ายจะต้องแต่งงานกับลูกสาวตน แต่พอผู้ชายได้ไปอยู่เมืองใหญ่+ได้ดีก็ไปแต่งงานกับลูกสาวเจ้านายและมาขอหย่ากับร่างเดิม ซ้ำยังฟ้องแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกไปจากเมียด้วย 

พอเอาลูกไปอยู่ด้วยก็ดูแลไม่ดี ทิ้งๆ ขว้างๆ รักดูแลแต่ครอบครัวใหม่ตัวเอง ให้ลูกใช้ของเหลือจากลูกเมียใหม่ พอลูกโตก็ทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้าน พอได้เดบิวท์ออกอัลบั้ม อิลูกสาวคนละแม่ก็ตามเข้ามาทำงานในวงการและใช้นางเป็นสะพานเหยียบขึ้นไปอีก พอมาอยู่ในร่างคนเป็นแม่ นางเกก็เริ่มดูแลตัวเอง(ร่างเก่าโทรมมากก) วางแผนหาเงิน เพื่อหาสถานที่ปักหลักให้ลูกสาว และช่วยเยียวยาจิตใจช่วยแก้ปมในใจให้ลูกสาวของร่างนี้ คอยช่วยเหลือปกป้องลูกทุกอย่าง จนทำให้ลูกกลับมาเข้มแข็งและหายจากอาการซึมเศร้า ไม่คิดฆ่าตัวตายซ้ำรอยเดิมเหมือนในชาติก่อนอีก สมกับชื่อตอนแม่แห่งชาติฝุดๆ คือทำเพื่อลูกจริงๆ


ตอนเด็กอัจฉริยะ อันนี้มาอยู่ในร่างเด็กสาวชนบทที่ครอบครัวยากจนมากกก พ่อแม่ตายหมดเหลือแค่เจ้าของร่างกับปู่ 2 คน แต่ปู่เป็นคนซื่อ เชื่อคนง่าย คิดจะหาย่าใหม่มาดูแลหลาน แต่กลับถูกอีกฝ่ายหลอกแทน...เหอๆ หลอกให้ไปทำงานในไร่ดูแลสวน เสียเงินซื้อนั่นนู่นนี่จนแทบหมดตัว แล้วสุดท้ายก็ตกบันไดลงมาเป็นอัมพาตครึ่งล่างในตอนที่กำลังซ่อมบ้านให้เขา แต่เขาก็ไม่รับผิดชอบไม่เคยมาดูดำดูดี... เหอๆๆ 

พอนางเอกมาอยู่ในร่างหลานปู่ นางก็วางแผนเอาตังค์ที่ปู่เสียไปกลับคืนมาก่อนเลยจ้า พอดีมีรายการโทรทัศน์ชื่อรายการจุดเปลี่ยน เป็นรายการที่จะให้เด็กบ้านรวย(ที่เกเร) มาทดลองใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเด็กจนสามเดือนเพื่อปรับเปลี่ยนนิสัย แต่ถ้าอยากกลับก่อนก็ต้องทำงานหาเงินเองมาให้ทางรายการคนละ 5000 หยวนถึงจะได้กลับ บ้านคนที่ปู่ไปแอบชอบถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำ คนบ้านนั้นเลยไม่กล้าโต้ตอบตอนนางเอกมาทวงเงิน สุดท้ายก็ต้องยอมคืน ไม่งั้นเจอนางเอกเล่นใหญ่กว่านั้นแน่55 แต่ตังค์ที่ได้มาก็ยังไม่พอนางเอกเลยต้องคิดวิธีหาเงินเพิ่มต่ออีก (ดูนางเอกหาเงินสนุกมาก)

นางเอกอย่างเท่ ทั้งเท่ทั้งน่าเอ็นดู สู้ชีวิตมาก ขึ้นเขาตัดฟืนแบกฟืนคนเดียวก็ทำได้ ทำอะไรเองได้หมด ทำอาหารก็อร่อย จนสามหนุ่มลูกคนรวยที่มาถ่ายทำรายการอยู่บ้านข้างๆ ติดใจในฝีมือ ต้องมาขอทำงานแลกข้าวทุกวัน ตอนแรกผู้กำกับจะถอดใจและคิดว่าสามคนนี้คงเปลี่ยนนิสัยเดิมไม่ได้ แต่พอเห็นว่าทั้งสามคนเริ่มเปลี่ยนตอนเจอนางเอกเลยให้ช่างภาพคอยตามแอบถ่ายนางเอกไปด้วย... จริงๆ  ถึงนางเอกจะมีสกิลจากชาติอื่นๆ ติดตัวมาแต่ก็ไม่ได้เก่งเวอร์ นางทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไปเท่าที่เด็กสาวอายุ 13-14 คนหนึ่งจะทำได้ เช่นหาเงินด้วยการดูแลคนป่วยในโรงพยาบาล(เพราะนางแรงเยอะ+ทำอาหารอร่อยคนเลยชอบ) ทำอาหารไปขายหน้าโรงเรียนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แบบหอบของใส่จักรยานเก่าๆ ปั่นไปขายตามลำพัง พยายามพึ่งพาตัวเองอย่างสุดกำลัง ไม่รอโชคชะตาหรือร้องขอให้ใครช่วย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ใจจืดใจดำขนาดเห็นคนถูกรังแกแล้วไม่ช่วย ขณะที่สามหนุ่มลูกคนรวยเอาแต่ยืนดูแล้วหัวเราะ แต่นางเอกคือทิ้งจักรยานแล้วพุ่งตัวเข้าไปช่วยเลย จริงๆ เราว่าก็ดีนะที่เขียนให้นางมีทักษะจากชาติเดิมติดตัวมา เพราะมันเอามาปรับใช้ได้จริงเกือบหมดเลย ทำให้นางเอกสามารถอยู่รอดในชาติต่อๆ ไปได้ด้วยกำลังของตนเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบใดก็ตาม เหมือนมีพื้นฐานมาก่อนเลยต่อยอดได้ไว 

พอสามหนุ่มลูกคนรวยนั่นเห็นนางเอกที่อายุน้อยและตัวเล็กกว่าตนพุ่งไปช่วยคนก็ละอายใจ รู้สึกผิดต่อการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง ตั้งใจว่าหลังกลับไปจะไปขอโทษทุกคนที่ตนเคยรังแกถึงที่บ้าน... หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ตามติดนางเอกยังกับตังเม ส่วนคนในบ้านที่ถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำก็ได้แต่แค้นใจอิจฉาริษยา ทว่าก็ทำไรไม่ได้เพราะไม่กล้าล่วงเกินคนจากในเมือง ส่วนนางเอกก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่รู้เลยว่าคนอื่นเขากำลังมองตัวเองเป็นแบบอย่างอยู่... พวกพ่อแม่ลูกคนรวยทั้งสามก็ปลื้มใจที่ลูกเปลี่ยน และก็อยากรับนางเอกมาอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ แต่นางเอกปฏิเสธ ขอเลือกพึ่งพาตัวเองดีกว่า เพราะรู้สึกมีอิสระกว่ากันเยอะ แถมไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใครด้วย เพราะนางไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครอะ ถ้าติดก็ต้องหาทางชดใช้คืน

ป.ล.จริงๆ มีอีก 2-3 ตอนที่ชอบ อย่างตอนนางกู่ กับเซียนหญิง แต่รีวิวไม่ไหวแล้วมันเยอะมาก เดี๋ยวจะยาวเกิน แต่ละชาติก็จะมีปัญหาอุปสรรคแตกต่างกันไป โดยรวมก็สนุกดี  ถ้าใครชอบก็ไปหาอ่านกันเน้อ55