วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2565

ท่านประมุขหลงลืมฟื้นรัก 3 เล่มจบ

ท่านประมุขหลงลืมฟื้นรัก 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : อีซื่อหัวฉาง.
ผู้แปล : RML
วาดปก : 
SUMMER
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก เย่โย่ว เป็นประมุขลัทธิมาร ส่วนพระเอก เหวินเหรินเหิง เป็นเจ้าสำนักใหญ่แห่งหนึ่งของฝ่ายธรรมะ ทั้งสองคนเคยเป็นศิษย์พี่-ศิษย์น้องร่วมสำนักเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทำให้นายเอกต้องออกจากสำนักไป หลายปีผ่านไปกลับมาอีกทีศิษย์น้องคนดีก็กลายเป็นประมุขพรรคมารไปเสียแล้ว ...

อยู่มาวันหนึ่งนายเอกก็ถูกทำร้าย(รึเปล่า) จนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและความจำเสื่อม คนที่ช่วยเอาไว้เห็นว่านายเอกมีป้ายหยกของพระเอกติดตัวอยู่ จึงส่งคนไปให้พระเอกต่อ พอพระเอกรู้ว่าเป็นศิษย์น้องตัวเองก็รับเอาไว้ด้วยความเต็มใจทั้งยังดูแลอย่างดี จนใครๆ เริ่มสงสัยเพราะปกติพระเอกไม่เคยปฏิบัติกับใครดีแบบนี้มาก่อน ...พอใครไปถามก็จะบอกอย่างหน้าชื่นตาบานว่านี่คือ อาเสี่ยว ศิษย์น้องของตนที่เพิ่งกลับมา

ทว่าถึงจะความจำเสื่อมแต่นายเอกก็ไม่ได้โง่เน้อ สมองยังทำงานดีอยู่ ไม่ใช่ใครพูดอะไรมาก็เออออเชื่อตามเขาไปหมด ดังนั้นเวลาใครพูดหรือได้ยินอะไรมา นายเอกก็จะค่อยๆ คิดวิเคราะห์ ยังไม่ปักใจเชื่อในทันที  โดยเฉพาะกับพระเอกที่เป็นศิษย์พี่นี่แหละตัวดีเลย (รู้ทันนายเอกไปซะทุกเรื่อง 55) พระเอกก็รู้นะว่าตัวเองถูกสงสัยแต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะศิษย์น้องเราเป็นคนฉลาดอยู่แล้ว  ตรงกันข้ามคือพี่แกกลับยินดีที่ถูกสงสัยและเต็มใจที่ถูกหยั่งเชิงด้วยซ้ำ...

หลังจากนั้นยุทธภพก็เกิดเรื่อง เริ่มจากมีผู้นำตระกูลหนึ่งถูกพิษตระเกียงอับแสง พิษที่เคยปรากฏขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนในตอนที่มารปรากฏตัว ตามมาด้วยเบาะแสของ กลไล่ล่า วิชาลับที่เคยหายสาบสูญ และเป็นเหตุให้สามตระกูลชนชั้นสูงต้องถูกฆ่าล้างจนตายอย่างอนาถ คนในยุทธภพจึงเริ่มตื่นตัวเพราะหวั่นเกรงว่าเหตุร้ายในอดีตจะกลับมาอีกครั้ง ผู้นำสำนักใหญ่ๆ ฝ่ายธรรมะในยุทธภพจึงต้องเดินทางมารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือ รวมถึงพระเอกซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเจ้าสำนักใหญ่ของยุทธภพก็ต้องตามไปด้วยเช่นกัน ...และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ทำให้พระ-นายและสำนักต่างๆ ในยุทธภพต้องถูกลากให้มาล่มหัวจมท้ายกัน เพื่อเดินทางสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ผ่านการชักใยของบุคคลปริศนาหรือที่เรียกว่า หมากดำ

เป็นแนวยุทธภพผสมสืบสวน โดยมีใครบางคนคอยแอบชักใยวางแผนอยู่เบื้องหลัง เพื่อนำพาทุกคนไปสู่ความจริงที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน แม้ทุกคนจะไม่พอใจ แต่เมื่ออะไรๆ เริ่มปรากฏก็ต้องยอมรับ และยอมเดินไปตามเกมของคนที่วางหมากไว้แต่โดยดี  เมื่อการชี้นำเหล่านั้นทำให้ค้นพบเรื่องราว(ร้ายๆ)ต่างๆ ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งเรื่องการวางยา การจับคนไปทดลองทำมนุษย์โอสถ จนนำไปสู่ความจริงของเรื่องราวและสาวไปถึงตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังความสูญเสีย+ความโหดร้ายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต...

นายเอกเรื่องนี้เป็นคนฉลาด เก็บอารมณ์+สีหน้าเก่ง วรยุทธ์ก็ล้ำเลิศ (แบบไม่ต้องให้ใครมาปกป้องอะบอกเลย เก่งอยู่แล้ว) แถมยังหน้าตาดีมากๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงหากได้เห็นใบหน้านี้ก็ต้องเหลียวมองและหลงใหลกันแทบทุกคน แต่นายเอกใส่หน้ากากอยู่ตลอดเลยไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง...และด้วยความจำเป็นบางอย่าง นายเอกจึงต้องทำให้ตัวเองความจำเสื่อมแล้วพาตัวเองมาอยู่ข้างกายพระเอก ส่วนพระเอกที่คิดมาตลอดว่าตนถูกศิษย์น้องเกลียดชัง แม้จะเคลือบแคลงสงสัย แต่ก็ดีใจและเต็มใจที่ได้ดูแลปกป้องนายเอกแบบนี้...

เล่มแรกเหมือนปูพื้นยังเบาๆ นายเอกยังไม่ฟื้นความทรงจำ ฝ่ายธรรมะก็ไม่รู้ว่านายเอกเป็นใคร เพราะไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาประมุขพรรคมารมาก่อน พอบอกว่าเป็นศิษย์น้องพระเอกก็เชื่อ พอนายเอกแนะนำหรือชี้แนะอะไรไปทุกคนก็ฟัง  ส่วนพวกอาวุโสลัทธิมาร (ลูกน้องนายเอก) ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายตัวเอง เลยพากันวิ่งวุ่นตามหาไปทั่ว 
คือตลกตอนที่ลูกน้องนายเอกต้องปลอมตัวคอยแอบติดตามนายเอก และเข้าไปสืบว่านี่ใช่ประมุขเราจริงๆ รึเปล่า แล้วนึกสภาพแบบแต่ละคนก็เก่งๆ มีวรยุทธ์สูงๆ ทั้งนั้น แต่ต้องมาปลอมตัวใส่กระโปรงเป็นผู้หญิงขายดอกไม้ เป็นยาจก เป็นนักพรตบ้างแหละ พอรู้ว่านี่ประมุขเราก็ต้องคอยตามดู ตามปกป้องอยู่ห่างๆ แต่อีกทางก็ต้องคอยหลบคน+หลบอิพระเอก พอทางสะดวกเมื่อไรก็ค่อยวิ่งตามไปดูเจ้านายตัวเองใหม่อีกที 55

ทั้งที่ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนนอกคือฮึกเหิม เก่งกาจ ดุดัน ไม่กลัวใครทั้งนั้น แต่พออยู่หน้าประมุขตัวเองเท่านั้นแหละ...เลิ่กลั่กๆ เหมือนเด็กน้อยที่กลัวถูกผู้ใหญ่ดุ กลายเป็นคนว่าง่ายเชื่อฟังขึ้นมาทันที ทีแรกก็นึกว่าจะมาแนวชั่วร้ายโหดๆ แต่พออ่านแล้วนี่มันตลกคาเฟ่ชัดๆ พอรู้ว่านั่นประมุขเรานี่หว่า ก็พากันตามแบบห่างๆ อย่างห่วงๆ จากผู้อาวุโสสูงส่งก็กลายเป็นยาจกซอมซ่อเพราะต้องคอยปลอมตัว ต้องซ่อนคมเก็บความโหดเหี้ยม จะทำตัวเด่นใกล้ชิดก็ไม่ได้ เลยได้แต่นั่งล้อมวงเขี่ยหนอนเขี่ยแมลงมองอยู่ไกลๆ 55

ส่วนพาร์ตความรักระหว่างพระ-นายก็มีมาเรื่อยๆ อาจไม่ร้อนแรงหวือหวา แต่ก็สม่ำเสมอดี คือก็ใจตรงกันมานานแล้วแหละ เพียงแต่ตอนนั้นมีเหตุที่ทำให้ต้องแยกจาก เพราะนายเอกรู้ว่าตัวเองมีหนี้แค้นที่ต้องจัดการ รู้ว่าใครคือคนร้ายตัวจริง แต่ตอนนั้นไร้กำลัง ความสามารถไม่มากพอ ไม่อยากทำให้พระเอกเดือดร้อน กลัวพระเอกจะถูกทำร้ายหรือเป็นอะไรไป  เลยเลือกที่จะจัดการวางแผนทุกอย่างตามลำพัง ซุ่มวางแผนสืบทุกอย่างด้วยตัวเองมาตลอด จนผ่านไป 10 ปีนายเอกถึงได้พาตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บความจำเสื่อมกลับมาอยู่ข้างกายพระเอกอีกครั้ง...

ส่วนฝั่งตัวร้ายก็คือแบบภาพลักษณ์ดี เป็นที่นับหน้าถือตา มีอำนาจชื่อเสียง วรยุทธ์สูง นายเอกเลยต้องไปขุดหาหลักฐานแบบชนิดที่ดิ้นไม่หลุด...
คือมันสนุกตรงที่เราไม่รู้ว่าคนร้ายคือใคร รู้แค่ว่าอยู่ในกลุ่มนี้ ดังนั้นเวลาพวกนายเอกทำอะไรหรือไปสถานที่ไหน ตัวคนร้ายก็จะรู้เหมือนกันเพราะอยู่ในกลุ่มด้วย
แต่นายเอกก็เดาแผนการของคนร้ายออก รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำไงต่อ คือสามารถโต้กลับได้เสมออะ ดักไว้ทุกทางแล้วโว้ย! อย่าหวังว่าจะหนีพ้น ตอนที่นายเอกบอกชื่อคนร้ายตัวจริงมา เรานี่ยังแบบ...ใช่เหรอ? จริงเหรอ? จะมีพลิกมะโคตรเนียน ถ้าไม่ถึงตอนเฉลยนี่ยังคิดว่าอาจจะมีพลิกเลยนะ ...มิน่านายเอกถึงต้องทุ่มเกือบตายและขอแบกทุกอย่างไว้คนเดียวแบบนั้น...

อ่านจบแล้วก็โอเคนะ สนุกอยู่ แปลดีอ่านลื่น แม้เนื้อเรื่องจะดูเรื่อยๆ และบางช่วงก็แอบเนือยๆ อยู่บ้าง แต่ก็น่าติดตามแบบอยากอ่านให้จบ อยากรู้ว่าใครคือคนร้ายตัวจริง อยากรู้เหตุผลที่ทำอะ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น