วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2565

ตะเกียงแห่งเทพวสันต์ 2 เล่มจบ

 


ตะเกียงแห่งเทพวสันต์ 2 เล่มจบ
ผู้แต่ง :  เนียสุ่ยเสี้ยว (拈水笑)
ผู้แปล : ลี่เหวิน
สำนักพิมพ์ 
Inktreebook

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เยว่ชิงหลิน เป็นเซียนน้อยที่อยู่ในกลุ่มของเทพนักษัตร เนื่องจากต้องใช้ดวงธาตุมารในการเลื่อนขั้น นางเอกจึงตัดสินใจลอบเข้าไปยังดินแดนมารเพื่อเก็บดวงธาตุมารให้ครบทันตามกำหนดเวลา แต่ระหว่างทางกลับได้เจอกับราชามาร ถิงเซียวตู้ ที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหลขึ้นมาพอดี ท่านราชามารมองร่างจริงของนางเอกออก รู้ทันทีว่านางคืออัญมณีที่เขาเก็บกลับมาเมื่อพันปีที่แล้ว (คือสิ่งของของตัวเอง) จึงต้องการให้นางกลับคืนสู่ร่างเดิม เพื่อจะได้พานางหลับใหลไปพร้อมกันกับตัวเองอีกครั้ง...
แต่มีหรือนางเอกจะยอม นางยังอยากเลื่อนขั้นและยังต้องเป็นเซียนอยู่นะ!

ร่างจริงของนางเอกคืออัญมณีฉาวจู ที่ถูกพระเอกเก็บกลับมาทำเครื่องประดับและถูกมอบให้กับชางหลิง หรือเทพวสันต์เมื่อนานมาแล้ว ส่วนพระเอกก็คืออดีตราชามารที่ถูกเทพวสันต์ใช้พลังทั้งหมดเพื่อปิดผนึกจนตัวเองต้องดับสูญ และทำให้พระเอกต้องหลับใหลไปเป็นพันปี นางเอกที่สู้ไม่ชนะจะหนีก็ไม่พ้น จึงได้แต่ต่อรองขอร้องให้พระเอกไปตามหาชิ้นส่วนของตะเกียงก่อนพิรุณที่เป็นสมบัติซึ่งเทพวสันต์หลงเหลือเอาไว้แทน เพราะคิดว่าพระเอกมีใจให้เทพวสันต์ อาจจะอยากได้สิ่งของของอีกฝ่ายมาเก็บไว้เพื่อดูต่างหน้า...และจะได้ไม่ต้องมาสนใจอัญมณีน้อยๆ อย่างนางอีก

ระหว่างนั้นลูกน้องคนสนิทของพระเอกที่รู้ข่าวก็ตามมาหา เพื่อขอร้องให้พระเอกไปบุกยึดดินแดนมารกลับคืน...แต่พระเอกไม่สนใจ ลูกน้องก็เลยไปขอร้องนางเอก เพราะนึกว่านางเป็นฮูหยินของพระเอก โดยแลกกับการหาดวงธาตุมารมาให้ ซึ่งพอนางเอกไปกล่อม พระเอกก็ยอมง่ายๆ เลย...จากที่แค่จะไปเอาเศษชิ้นส่วนของตะเกียงเฉยๆ ก็เลยกลายเป็นการทำสงครามชิงเมืองไปซะอย่างนั้น

พอชิงคืนมาได้ 2 เมือง นางเอกก็ต้องกลับขึ้นสวรรค์ไปก่อนเพื่อส่งมอบดวงธาตุมารให้ทันตามกำหนด แต่ดวงธาตุมารบางอันที่ได้มาดันดีเกินไป คนที่ตรวจเลยสงสัยว่านางเอกทุจริต จึงไปรายงานต่อเบื้องบน ก็พบว่านางเอกกำลังอยู่กับพระเอกและดวงธาตุมารนี้ได้มาอย่างไร สวรรค์เห็นโอกาสเลยสั่งให้นางกลับไปอยู่ข้างกายพระเอกใหม่เพื่อโน้มน้าวให้พระเอกชิงเมืองในดินแดนมารมาอีก 10 เมือง แล้วก็มอบของวิเศษดีๆ ให้พร้อมกับเลื่อนขั้น นางเอกที่ยังเป็นเซียนน้อยใสซื่อ ยังมองเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ออก ก็ได้แต่ดีใจที่จะได้มีข้ออ้างกลับไปอยู่ข้างกายพระเอกโดยไม่ผิดกฏสวรรค์แล้ว...

พอบุกตีเมืองบ่อยเข้า นางเอกก็พบว่าถ้าพระเอกใช้พลังเยอะเกินไปก็จะหลับง่าย
มีอาการหลับลึก กว่าจะตื่นก็ปาไป
2-3 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผนึกของเทพวสันต์ยังไม่ถูกคลายโดยสมบูรณ์ ในตอนที่จะบุกไปชิงชิ้นส่วนตะเกียงอันสุดท้าย นางเอกถูกลูกน้องพระเอกเกลี้ยกล่อมเลยตัดสินใจยกทัพไปกันเอง ไม่รอพระเอกตื่น ทำให้พลาดท่าติดกับ ต้องสูญเสียกำลังพลไปเกือบหมด ส่วนตัวนางเอกก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องให้ลูกน้องคนสนิทพระเอกพาขี่หลังหนี สะบักสะบอมมาก ...หลังจากนั้นพระเอกก็ไม่สนใจ+เมินนางเอกและสั่งลงโทษลูกน้องคนสนิท โทษฐานที่ขัดคำสั่ง ทำให้นางเอกได้รับบาดเจ็บและต้องขี่หลังหนี (หึงที่นางเอกขี่หลังคนอื่นจ้าา55 ) นางเอกที่เข้าใจว่าพระเอกโกรธเลยจะขอกลับแดนสวรรค์ไปก่อน พระเอกก็คิดว่าที่นางเอกกลับไปเป็นเพราะตัวเองทำภารกิจเสร็จแล้ว ในใจคงมีแต่แดนสวรรค์และภารกิจเท่านั้น... แต่ความจริงนางเอกจะกลับไปถามวิธีปลดผนึกที่สมบูรณ์ให้พระเอกต่างหาก ... ก็เลยจากกันไปแบบไม่เข้าใจกันนน
นางเอกกลับสวรรค์ไป
7 วัน แต่สำหรับแดนมารคือ 7 เดือน (1 วันในแดนสวรรค์ = แดนมาร 1 เดือน) กลับมาอีกทีคือทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด พระเอกบุกตีเมืองจนล้มราชามารคนเก่าลงได้และกลายเป็นราชามารคนใหม่เรียบร้อย แถมข้างกายพี่ยังมีฮูหยินเพิ่มมาจากไหนไม่รู้อีกหนึ่งคน...55

พระเอกเป็นจอมมารที่มีชีวิตอยู่มายาวนานกว่าแสนปี ใช้วิชาได้หลากหลายทั้งของแดนมาร+แดนสวรรค์ หากไม่บาดเจ็บสาหัสจริงหรือยอมเอง ก็อย่าหวังว่าจะล้มพี่แกได้เลย
เห็นเก่งๆ แบบนี้ แต่ความจริงพระเอกกลับไม่ได้มีใจทะเยอทะยานอยากทำสงคราม หรืออยากบุกไปชิงเมืองคืนแล้วปกครองแดนมารอะไรนี่เลย พี่ก็แค่อยากหาสถานที่เงียบๆ อยู่อย่างสงบหรือหลับไปอีกครั้งเท่านั้นเอง ไอ้ที่จะไปตามหาตะเกียง ตอนแรกก็กะจะไปกับนางเอกแค่สองคนเงียบๆ เพราะพระเอกเก่งอยู่แล้ว ไปแค่สองคนก็ง่าย+สะดวกกว่า
แต่เป็นเพราะนางเอกมาขอพี่เลยยอม ยอมให้อภัยลูกน้องเก่า ยอมให้พาลูกน้องไปด้วย
จากแค่สองคนเลยกลายเป็นทัพใหญ่..และสุดท้ายก็กลายเป็นการชิงเมืองไปโดยปริยาย...

พอเป็นแบบนี้ฝั่งราชามารคนปัจจุบันก็ต้องกำจัดพี่ ส่วนฝั่งสวรรค์ก็ระแวงคิดอยากจะฆ่าพี่อีก...อยู่ยากเหลือเกินชีวิต พออ่อนแอก็ถูกรังแก พอเก่งเกินก็โดนหวาดระแวง เลือกทางไหนก็มีแต่ตาย...ลูกน้องก็ไม่เข้าใจ อยากจะให้พี่ไปชิงเมืองคืนมาอยู่ได้ ส่วนนางเอกก็ถูกเขากล่อมมาอีกที ..น่าสงสารจริงๆ ไม่มีใครเข้าใจบ้างเลยว่าพระเอกต้องการอะไร

มีดราม่าบีบหัวใจเล็กๆ มาเป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากความเข้าใจผิด มีอะไรไม่พูดคุยกันให้ดีๆ ต่างคนต่างคิดกันไปเอง แล้วก็ถูกคนอื่นยุมาปั่นให้ระแวงกันอีกรอบ
ฝั่งสวรรค์นี่ก็ตัวดีใช่ย่อย กลอุบายลูกไม้สารพัด หวังจะให้ฝ่ายมารตีกันเองแล้วบาดเจ็บล้มตายโดยที่ตัวเองไม่ต้องทำอะไรเลย จึงหลอกใช้นางเอกให้มาโน้มน้าวพระเอกบุกชิงเมือง
แต่พอแผนการผิดพลาดก็เกี่ยงโยนกันไปมา โทษคนนั้นคนนี้ ไม่ยอมไปทำเอง แต่มาใช้ให้เซียนตัวเล็กๆ อย่างนางเอกไปทำเนี่ยนะ สุดท้ายก็บังคับฝังอาวุธไว้ในร่างนางเอก บีบให้นางต้องลงมือสังหารพระเอกให้ได้ ถ้าไม่ยอมก็ต้องตาย...เฮ้ออ

นางเอกจะค่อนข้างใสซื่อมองอะไรในแง่ดีเพราะตบะยังน้อย เพิ่งอยู่มาได้แค่พันปีเอง
ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ที่อยู่มาเป็นหมื่นๆ แสนๆ ปีนี่ถือว่าเด็กมาก เลยยังไม่ค่อยทันเล่ห์เหลี่ยมใคร จึงถูกเขาใช้เป็นเครื่องมือทำร้ายพระเอกทางอ้อม
 แต่พอรู้ความจริงและค่อยๆ เข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง นางเอกก็หมดศรัทธาต่อสวรรค์ไม่อยากเป็นเซียนแล้ว 
ส่วนพระเอกก็ไม่เคยโกรธ หรืออาจจะโกรธบ้างแต่ก็ไม่นาน คู่นี้ดีอย่างคือพอเคลียร์กันได้แล้วก็จบ ไม่ยึกยักพูดยาก หายงอนกันง่ายถ้าพูดอธิบายมาตรงๆ พระเอกเป็นราชามารที่ไม่เคยสนใจอะไร อยู่มาแสนปีสิ่งเดียวที่ใส่ใจ+ให้ความสำคัญก็คือนางเอกคนเดียวเท่านั้น นางเอกขออะไรก็ไม่คิดมาก ให้ได้ทุกเรื่องตามที่ร้องขอ แบบทั้งที่ตั้งใจขอและไม่ได้ตั้งใจขอด้วย จัดให้หมด 

หลังๆ นี่ถ้ามีผู้หญิงคนไหนมาทอดสะพานหรือเชิงจะชอบตัวเอง แล้วหากมีแววจะทำให้นางเอกเข้าใจผิด พระเอกก็จะรีบทำลายสะพานทิ้งเพื่อขจัดความสงสัยในใจนางเอกทันที
เพราะกลัวนางเอกโกรธ โกรธแล้วเดี๋ยวจะไม่สนใจตัวเอง พี่แก่แล้ว พี่รับบ่ไหว...
แม้เวลาเผชิญหน้ากับศัตรูนับหมื่น หรือต่อให้บาดเจ็บสาหัสเกือบตายแค่ไหนพี่จะเฉยๆ
แต่พอเห็นเมียสีหน้าเปลี่ยน+น้ำเสียงแปลกๆ
เท่านั้นแหละ จะเริ่มวิตกกังวลขึ้นมาทันที
กลัวทำให้เมียโกรธจ้า
55

ป.ล. สำนวนการแปลส่วนตัวรู้สึกว่ายังมีติดขัดอยู่บ้างและมีคำสมัยใหม่หลุดมานิดนึง แต่ก็อ่านได้มองข้ามได้ เนื้อเรื่องสนุกดี ...ยังไงก็สู้ๆ น๊าเป็นกำลังใจให้นักแปลเน้อ

"อ่อนโยนต่อผู้ที่คิดจะทอดสะพานให้ข้า เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวข้าเอง
พวกนางมาวางกองเพลิงแล้วหนีไป ส่วนข้ากลับต้องอยู่รับผิดชอบจัดการปัญหาเหล่านั้นต่อ
ทั้งต้องอธิบายให้เจ้าเข้าใจ ต้องขอโทษเจ้าอีก ดีไม่ดีเจ้าอาจไม่สนใจข้าไปอีกหลายวันด้วย
ข้าอายุมากแล้ว รับกับเรื่องเหล่านี้ไม่ไหวหรอกนะ ที่ข้าทำไปก็เพื่อปกป้องตนเองเท่านั้น
เจ้าต้องเข้าใจข้าด้วย"

"ผู้ใดจะรู้เล่าว่าข้าที่หยิ่งทะนงตัวมาทั้งชีวิต ยามแก่กลับน่าสงสารถึงเพียงนี้"



2 ความคิดเห็น:

  1. อยากซื้อมาอ่านเลยค่ะแอด อ่านแล้วได้ใจความว่าพระเอกเป็นราชามารที่ไม่ได้อยากทำอะไรหรอกนะ ฉันเป็นราชามารสายชิลล์ อยากอ่านแล้วววววว ขอบคุณที่รีวิวให้อ่านอย่างละเอียดค่า ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

      ลบ