วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2565

ข้านี่แหละ!!! ศิษย์หญิงแห่งสำนักศึกษาหลวง 2 เล่มจบ

ข้านี่แหละ!!! ศิษย์หญิงแห่งสำนักศึกษาหลวง 2 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : 
Hua Qian Ci
ผู้แปล : เหมยสี่ฤดู
สำนักพิมพ์ Happy Banana

โลกใบนี้มีคนผู้หนึ่ง ไม่เพียงรักเจ้า
แต่ยังเข้าใจเจ้า    รู้ความกังวลของเจ้า
เข้าใจความลำบากใจของเจ้า    หากเจ้าเลือกเดินทางไกล
เขาจะไม่มีทางเป็นตัวถ่วงเจ้า
แต่จะร่วมฝ่าพายุฝนไปกับเจ้าโดยไม่ทอดทิ้ง
จะมีเรื่องใดน่ายินดีไปกว่านี้อีกเล่า ....

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ซังฉี บุตรสาวคนเล็กของ ซังเวย ต้าซือหม่าหรือแม่ทัพใหญ่ที่ยอมลดอำนาจและเด็ดปีกตัวเองลง เพื่อแลกกับความสงบสุขและปลอดภัยในชีวิตของบุตรสาวที่เหลือเพียงคนเดียว
ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทำให้นางเอกต้องการเข้าไปเรียนในสำนักศึกษาหลวง
เมื่อคนเป็นพ่อรู้ จึงบากหน้าเข้าวังไปรบเร้าอ้อนวอนฮ่องเต้เพื่อให้บุตรสาวสมหวัง
ทว่าถึงจะได้ตามนั้นแต่เพราะเป็นสตรี จึงทำให้นางเอกไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าลูกศิษย์และอาจารย์ที่อยู่ในสำนักศึกษาหลวง เนื่องจากไม่พอใจที่นางฝ่าฝืนประเพณีดั้งเดิมเข้ามาเรียนในสถานศึกษาที่มีแต่บุรุษ...

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในสำนักศึกษาหรือข้างนอกสำนักศึกษา นางเอกก็ไม่มีเพื่อนเลย
เพราะพวกขุนหนูตระกูลใหญ่ๆ ต่างก็ดูถูกไม่ชอบที่นางมาจากชายแดน ขี่ม้าจับดาบ
ไม่มีความเป็นกุลสตรี แถมยังเข้าไปเรียนในสำนักศึกษาหลวงอีกต่างหาก
ไม่มีใครอยากคบหานาง นอกจาก จั๋วเหวินหย่วน เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็กตอนที่นางเอกยังอยู่ชายแดน
คุณชายเสเพลจอมเจ้าชู้ ผู้ไม่จริงจังกับสิ่งใด และมักจะมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ

พระเอก เยี่ยนอวิ๋นจือ คุณชายอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง รูปโฉมหล่อเหลาสง่างาม
ท่าทางสูงส่งประดุจเทพเซียน เก่งทั้งบุ๋นและบู๋ เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วทั้งเมืองหลวง
ถูกจับคู่กับ ซูเจี๋ยอวี่ หญิงงามอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก

พระเอกเป็นคนเก่งและมีความสามารถมาก ทว่าเพราะไม่อาจโดดเด่นจนเกินไป พระเอกจึงไม่ขอรับตำแหน่งขุนนาง แต่ขอมาเป็นอาจารย์ในสำนักศึกษาหลวงแทน
และก็ได้มาเจอกับนางเอกที่คอยมาวิ่งไล่ตามตื๊อขอให้รับถุงผ้า (นางเอกเดิมพันกับคนอื่นว่าจะทำให้พระเอกยอมรับถุงผ้าและไปเดินงานเทศกาลด้วยกัน) แต่พระเอกก็
say no ปฏิเสธไม่รับลูกเดียว มาไม้ไหนก็ต้านได้หมด จนนางเอกคิดว่าคงหมดหนทางแล้วเพราะพระเอกไม่ใจอ่อนเลย

......แต่นางเอกเรื่องนี้ดีนะ ผิดไปจากที่คิดไว้ เพราะตอนแรกเราเห็นนางเป็นลูกแม่ทัพที่ติดตามพ่อไปชายแดนตั้งแต่เล็ก ทั้งยังเคยออกรบกับพ่อ เราเลยนึกว่านางเอกคงจะแก่นๆ ซนๆ เอาแต่ใจอารมณ์ร้อน หากถูกใครหาเรื่องหรือรังแกคงไม่ยอม ต้องสวนกลับแน่
แต่ความจริงกลับไม่ใช่
 นางเป็นคนสง่าผ่าเผย ร่าเริง ถ้ารู้ว่าตัวเองทำผิดหรือพลาดก็พร้อมน้อมรับ ยินดีรับฟังปรับปรุง เวลาที่มีคนมาหาเรื่องก็จะมองหาทางหนีทีไล่ก่อน ดูว่าคุ้มค่ามั้ย
บางทีถ้าแกล้งยอมได้ก็ยอม
กับคู่อริอย่างคุณหนูซ่งก็แค่ต่อปากตอกกลับพอเป็นพิธี
แต่ไม่พร่ำเพรื่อเถียงไปเถียงมา เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ที่สำคัญคือนางไม่ผูกใจเจ็บหรือมุ่งแต่จะแก้แค้นเอาคืน ...

นางเอกเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์มาก ซึ่งอุดมการณ์ของนางก็คือการเป็นแม่ทัพหญิง
และการได้ใช้กำลังความสามารถของตัวเองปกป้องเชิดชูวงศ์ตระกูล โดยที่ไม่ต้องใช้การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์หรือพึ่งบุรุษ ประกอบกับมีพี่สาวเป็นตัวอย่าง นางเอกจึงยิ่งต้องการหาคนที่ถูกใจเองและแต่งงานด้วยความรัก
ไม่ใช่แต่งกันเพราะผลประโยชน์  
ส่วนพ่อก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะมีบทเรียนมาจากลูกสาวคนโตแล้ว  
เนื่องจากตอนที่พ่อนางเอกไปรบปกป้องบ้านเมือง ด้วยความที่รบชนะตลอดก็ไม่แคล้วทำให้ถูกหวาดระแวง จนต้องส่งพี่สาวนางเอกเข้าวังมาเป็นสนม เพื่อรับประกันว่าพ่อจะไม่ก่อกบฏหรือคิดทรยศหักหลัง ...แต่พอนางเอกได้เจอคนที่ถูกใจก็กลับมีแต่คนค้านไม่เห็นด้วย
ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่อยากให้ลูกๆ ของตนแต่งกัน เพราะรู้ว่าจะทำให้ฮ่องเต้หวาดระแวง เดี๋ยวตระกูลจะถูกเพ่งเล็งและถูกกำจัด ส่วนฝั่งฮ่องเต้ก็ไม่โอเคเหมือนกัน
เพราะกลัวว่าเดี๋ยวสองตระกูลนี้จะมีอำนาจมากเกินไป...

ส่วนพระเอกนั้นก็ไม่ใช่สายเปย์หรือสายคลั่งรัก เวลานางเอกเกิดเรื่องก็จะไม่เข้าไปช่วยทันที แต่จะคอยมองอยู่เงียบๆ แล้วคอยบอก+สอนชี้แนะอยู่ข้างๆ เป็นเหมือนพี่ เหมือนอาจารย์ และเป็นได้ทั้งคนรัก เหมือนแสงจันทร์ที่คอยส่องสว่างนำทาง ไม่มีการบังคับหรือดุด่า หากนางเอกอยากเป็นแม่ทัพหรืออยากจะออกรบ พระเอกก็ไม่ห้าม ยินดีปล่อยให้นางไปทำและเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่วนเขาก็จะคอยชี้แนะและเฝ้าระวังความปลอดภัยให้นางอยู่ข้างหลังแทน

ตอนที่หยิบมาอ่านนึกว่าจะเป็นแนวเบาๆ ฮาๆ นางเอกซนๆ แต่ความจริงกลับเข้มข้นไม่เบา
เป็นแนวสงครามการแย่งชิงอำนาจ เมื่อฮ่องเต้ไร้ความสามารถ ตระกูลใหญ่ๆ จึงเริ่มมีอำนาจเหนือราชวงศ์
ภายใต้ความสุขสงบกลับซุกซ่อนคลื่นใต้น้ำเอาไว้มากมาย ...
เริ่มตั้งแต่คดีเล็กๆ ที่ไม่น่าสนใจ แต่กลับนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อกันเป็นลูกโซ่
ทั้งการใส่ร้ายขุนนางใหญ่ด้วยข้อหากบฏ จนไปสู่เรื่องที่ข้าศึกยกทัพมาบุก แต่กลับไม่มีแม่ทัพเก่งๆ ที่จะไปรบได้ ทำให้พระเอกต้องรับอาสาไปทำหน้าที่นี้แทน
บ้านเมืองจึงขาดทั้งคนเก่งและกำลังรบ และก็ตามมาด้วยการก่อกบฏ บ้านเมืองเกิดความเปลี่ยนแปลงแบบที่ไม่มีใครทันตั้งตัว ส่วนพระ-นางก็ต้องรับศึกหนักทั้งจากภายในภายนอก
เจอประกบมันแทบทุกทาง ทั้งจากศัตรูนอกแคว้นและที่มาจากในแคว้นเดียวกัน
ซึ่งอีกฝั่งก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่เลย ทั้งยังอ่านและมองคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง รู้จุดอ่อนจุดแข็งของคน รู้ว่าต้องใช้ผลประโยชน์แบบไหนเพื่อให้คนมาติดตาม+ทำตามคำสั่ง
...
แถมยังเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์พลิกแบบคาดไม่ถึงจริงๆ

เราว่านักเขียนวางปมดี ทิ้งท้ายประโยคได้น่าติดตาม ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีหลายจุดที่เราคาดไม่ถึง ไม่มีผิดถูก เพียงแต่ต่างเส้นทางและวิธีการที่ใช้เท่านั้นเอง แต่อีกฝั่งเลือกวิธีที่เหี้ยมโหดรุนแรงเกินไป ก็ไม่แปลกที่คนจะต่อต้านและยากจะยอมรับ..อ่านเรื่องนี้ต้องทำใจอย่างว่าไม่มีใครเป็นมิตรหรือศัตรูที่แท้จริง บางคนสนิทแทบตายแต่สุดท้ายกลับทรยศหักหลัง ส่วนบางคนที่ตอนแรกคิดว่าเป็นศัตรูแต่สุดท้ายก็กลับสนิทสนมตายแทนกันได้ ...

นางรองในเรื่องดีงาม (ปกติจะเจอแต่พระรองดีงามเนอะ) เป็นลูกสาวตระกูลขุนนางใหญ่ที่เพียบพร้อมทั้งกิริยา วาจา ใจ ถึงจะอยู่ในกรอบแต่ก็ไม่คร่ำครึ ตรงไปตรงมา 
ชอบก็บอกว่าชอบ แต่หากพยายามเต็มที่แล้วอีกฝ่ายยังไม่ชอบก็ยินดีตัดใจอย่างมีศักดิ์ศรี
.....แต่ดีที่สุดท้ายนางก็(น่าจะ)ได้เจอคนที่ใจตรงกันทั้งสองฝ่ายนะ
^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น