วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564

งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล เล่ม 1-2 (4 เล่มจบ)


งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล เล่ม 1-2 (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ไป๋ลู่เฉิงซวง (白鹭成双)
ผู้แปล : ม้าลาย
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

หลี่ไหวอวี้ หรือองค์หญิงตันหยาง องค์หญิงใหญ่ผู้พิทักษ์แผ่นดิน เนื่องจากน้องชายซึ่งเป็นฮ่องเต้อายุยังน้อย ยังไม่อาจออกว่าราชการเองได้ นางเอกจึงกลายเป็นผู้อยู่หลังม่านฮ่องเต้ตัวน้อย ทำทุกหนทางเพื่อให้บัลลังก์ของน้องชายมั่นคง แต่ด้วยวิธีการที่เลือกใช้ จึงทำให้คนเข้าใจผิดถูกมองไม่ดี ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดขุนนางชั่ว ทำร้ายขุนนางผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดี สร้างหนี้แค้นและล่วงเกินขุนนางน้อยใหญ่เอาไว้มากมาย
ชื่อเสียงฉาวโฉ่เป็นที่เลื่องลือ ทั้งยังเลี้ยงชายบำเรอเอาไว้ในตำหนักอีกเป็นสิบ

นางเอกถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือสังหารขุนนางใหญ่ผู้จงรักภักดีของแผ่นดิน
พยานหลักฐานแน่นหนา ชนิดที่น้องชายซึ่งเป็นฮ่องเต้ก็ไม่อาจช่วยได้
นางจึงได้แต่ยอมจำนนและยอมรับยาพิษพระราชทานแต่โดยดี

หลังจากที่ตายวิญญาณก็มาอยู่ในร่างของ ไป๋จูจี คุณหนูสี่สกุลไป๋ซึ่งเป็นปัญญาอ่อน
พอฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตนยังมีชีวิตอยู่ นางเอกก็กระโดดกำแพง
แอบหนีออกไปดูพิธีศพตัวเองก่อนเลย และได้พบกับ เจียงเสวียนจิ่น หรือเจ้าเมืองจื่อหยาง ผู้ที่ส่งมอบความตายให้แก่ตนเอง แม้จะโกรธแค้นเพียงใด แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะนางในเวลานี้อ่อนแอสู้ใครเขาไม่ได้จริงๆ

พอไปเห็นคนแห่โลงศพตัวเอง ก็ได้ยินแต่เสียงก่นด่าสาปแช่ง (นางเอกจึงร่วมผสมโรงด่าตัวเองไปด้วย55) แล้วจู่ๆ ก็มีคนบุกมาเพื่อหวังทำลายศพ
พระเอกจึงเข้ามาปกป้อง ซึ่งในขณะที่กำลังจะพลาดท่าเพราะอีกฝ่ายคนเยอะกว่า
นางเอกก็สวมผ้าปิดปากกระโดดออกมาช่วยไว้ได้ทัน ...แล้วก็กลายเป็นตังเมตามเกาะติดตั้งแต่บัดนั้น  แม้พระเอกจะระแวง ไม่พอใจ จะดุว่าหรือทำเย็นชาใส่ขนาดไหน
แต่นางเอกก็ยังเกาะติดอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่ากาว สลัดยังไงก็ไม่หลุด...

เรื่องนี้ไม่ได้มาแนวแก้แค้นเลือดสาด หรือพอเจอหน้าคนที่ทำให้ตัวเองต้องตายเมื่อไร
ก็เย็นชาพูดจาเชือดเฉือนใส่กันทั้งเรื่อง แต่เรื่องนี้นางเอกเขาใช้แผนหญิงงาม
วางแผนเข้าใกล้ตีสนิท เมื่อสนิทแล้วก็ค่อยยืมมือหรือหลอกใช้พระเอกดึงคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนาง(พวกที่ไม่ดี) มารับโทษทีละคน ค่อยๆ วางแผนชี้นำทำให้พระเอกสงสัยและต้องค้นหาความจริง จนนำไปสู่การหาหลักฐานเอาตัวคนผิดมาลงโทษ

เล่ม 2 พระ-นางแต่งงานกันแล้ว ในงานแต่งมีคนที่ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับองค์หญิงตันหยางหรือนางเอกมาร่วมงานด้วย จึงทำให้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหวาดระแวง คิดว่าพระเอกเปลี่ยนไปยืนฝั่งเดียวกับองค์หญิงแล้ว ..ทว่าไม่นานเรื่องที่ทำให้ตัวนางเอกในอดีตถูกคนประณามเข้าใจผิดก็ค่อยๆ ถูกตีแผ่ออกมา ซึ่งแต่ละเรื่องก็ล้วนข้องเกี่ยวกับพวกขุนนางที่พระเอกเคยคิดว่าเป็นคนดี

ด้วยการชักนำเล็กๆ น้อยๆ และแผนของนางเอกในร่างใหม่ จึงทำให้พระเอกพบเงื่อนงำ+เกิดความสงสัย จนนำไปสู่การค้นหาความจริงและจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังออกมารับผิด ตั้งแต่เรื่องลอบขายยาต้องห้าม เรื่องทุจริตติดสินบน และเรื่องโกงข้อสอบของขุนนาง
หลายๆ เรื่องที่ปรากฏหลังจากนางเอกตาย จึงค่อยๆ สั่นคลอนความเชื่อของพระเอกที่ละนิด
ว่าตกลงองค์หญิงตันหยางใช่คนไม่ดีอย่างที่ใครหลายๆ คนหรือตนเองเคยคิดจริงๆ หรือ?
สิ่งที่ทุกคนเคยประณามกล่าวหาว่านางผิด สรุปแล้วมันผิดจริงหรือไม่?
และตนที่เป็นผู้ตัดสินความผิด กระทั่งยื่นความตายให้แก่นางนั้น ใช่การตัดสินที่ถูกต้องจริงๆ หรือเปล่า
 ดังนั้นพระเอกจึงไปขอรื้อคดีนางเอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จนทำให้ใครหลายๆ ไม่พอใจ และ
ทำให้ตนเองตกเป็นเป้า ถูกปองร้าย ถูกลอบสังหารอีกด้วย

นางเอกนิสัยเหมือนอันธพาลจิ๊กโก๋ปากซอย หน้าหนา สายรุก ชอบพูดจาเต๊าะพระเอก
ส่วนพระเอกก็เหมือนสตรีสูงศักดิ์ในห้องหอ อยู่ในกรอบประเพณีมาตลอดชีวิต
ประหนึ่งเทพเซียนผู้ละกิเลศตัดขาดจากเรื่องทางโลก
55 แต่สุดท้ายก็ตบะแตก
เมื่อมาเจอตังเมอย่างนางเอกตามติด คำพูดหวานเลี่ยนแค่ไหนก็สรรหาเอามาพูดได้
จนพระเอกหน้าแดงหูแดงไปหมด ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เคยเจอแต่กุลสตรีเรียบร้อย     
....แต่นางเอกนี่มันอารายยย ทั้งพูดจาแทะโลมทั้งแต๊ะอั๋ง เผลอเมื่อไรเป็นถึงเนื้อถึงตัวพี่แกตลอด ด่าก็แล้ว ว่าก็แล้ว แต่อิน้องนางก็ยังเกาะหนึบ สลัดไม่หลุดสักที
55

กุลสตรีคืออาราย สำรวมคืออาราย หน้าหนาตามตื๊อเข้าไว้สิสุดหล่อจะหนีไปไหนพ้น
ก่อนแต่งว่าหนักแล้ว หลังแต่งยิ่งหนักกว่าเดิม 55 ...
พระเอกบอกห้ามจับมือมันไม่งาม ..นางเอกบอก ก็แต่งงานกันแล้วทำไมจะจับไม่ได้
ที่แต่งก็เพื่อจะทำเรื่องพวกนี้ได้อย่างผ่าเผยไม่ใช่หรือ..อึ้งค่ะอึ้ง
สุดท้ายก็แพ้ทางเมียหมด แต่เรื่องนี้พระเอกขี้งอนเก่งมากกก 3 วันดี 4 วันงอน ดีที่เมียง้อเก่งไม่คิดเยอะ
ทั้งกล่อมทั้งปลอบจนพระเอกหายโกรธอารมณ์ดี เป็นคนอื่นนี่เจอไอเย็นพี่ก็หนีหมดแล้ว
แต่นางเอกคือด้วยนิสัยที่เป็นคนง่ายๆ อารมณ์ดี ประกอบกับมีแผนอยู่ในใจเลยไม่ไปไหน 
แต่ก็มีแอบเสียใจอยู่เหมือนกันนะ เพราะบางครั้งพระเอกก็งอนหนักไป
ขนาดเราอ่านแล้วยังแอบเสียใจแทน พองอนพอโกรธทีก็ไล่นางเอกไป ไม่ยอมให้พบ        แล้วนางจะไปไหนได้ จวนสกุลไป๋ก็มีแต่คนไม่ชอบและไม่ใช่บ้านจริงๆ ของนาง
ส่วนบ้านจริงๆ ในวังก็กลับไปไม่ได้แล้ว นางจะไปไหนได้ก็ต้องไปหาเพื่อนเก่าที่รู้ตัวตนนาง พอเป็นแบบนั้นพระเอกก็โกรธอีก  
ต่อหน้าคนอื่นคือเย็นชา เป็นท่านเจ้าเมืองที่ยุติธรรมเที่ยงตรง จริงจัง มีเหตุผล
แต่พออยู่กับเมียนี่คือเด็กน้อย ต้องให้เมียปลอบเมียโอ๋ ให้เมียคอยอยู่ใกล้ๆ
ขี้หวง ขี้หึง ขี้งอน แล้วยังปากหนักอีก เมียคุยกับผู้ชายอื่นก็ไม่ได้ ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองก็ไม่ยอม เอาแต่ใจสมฉายาองค์หญิงน้อยเจียงที่เมียตั้งให้จริงๆ พ่อคุณ

ช่วงแรกจะตลกฮาๆ แต่จริงๆ เนื้อเรื่องเจ้มจ้นพอสมควร มีปม มีเงื่อนงำเรื่องที่ใครคือตัวการที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงที่ทำให้นางเอกตาย ใครคือคนที่หลอกใช้พระเอกให้สังหารองค์หญิงตันหยาง...ไม่ใช่ เล่มแรกหลอกให้เราฮา แต่ไปดราม่าหนักเอา เล่มสุดท้ายนะจ๊ะ..
เพราะตอนปลายเล่ม 2 เราเหมือนจะได้กลิ่นดราม่าโชยมานิดๆ และ
เนื่องจากมีคนใกล้ตัวแอบรู้เรื่องที่นางเอกคือองค์หญิงตันหยางแล้ว บวกกับเรื่องจดหมายที่ทำให้พระเอกเริ่มสงสัยแต่ก็ยังพยายามที่จะคิดในแง่ดีอยู่
ไม่รู้ 2 เล่มสุดท้ายจะมีดราม่าเยอะรึเปล่า ถ้าพระเอกได้รู้ว่านางเอกเป็นใคร และตัวเองถูกหลอกใช้ยังไงบ้าง คนที่หยิ่งทะนงอย่างพี่แกจะรับได้ไหมเนี่ย
แต่หลังจากที่นางเอกได้เห็นพระเอกรื้อฟื้นคดีตนขึ้นมาใหม่ นางเอกก็เข้าใจแล้วนะว่าพระเอกน่าจะถูกคนอื่นหลอกใช้ให้มาทำร้ายตนเหมือนกัน จึงไม่ได้แค้นพระเอกแล้ว
ตอนใกล้จบเล่ม
2
ก็คิดว่าจะใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยา และคลอดลูกอยู่กับพระเอกตลอดไป
จากตอนแรกที่แต่งเพราะมีแผนการ คิดว่าไม่มีทางรักแน่นอน แต่ก็ตกหลุมรักเข้าเต็มเปา
ส่วนพระเอกที่คิดว่าแต่งมาแล้วจะต่างคนต่างอยู่ คิดว่าจะไม่รักเหมือนกัน
แต่ก็กางปีกปกป้องเมียเต็มที่เลยนะจ๊ะ ปากแข็งปากหนักแต่การกระทำมันฟ้อง
สรุปสุดท้ายพี่ก็รักเมียแล้วนั่นแหละ...

ป.ล. การแปลเล่มแรก ส่วนตัวเราอ่านไม่ค่อยลื่นเท่าไร มีคำว่ากระไร อันใด เยี่ยงไรเยอะมาก แต่เล่ม 2 อ่านลื่นผิดกับเล่มแรกเลย (เหมือนเล่มแรกไม่ได้เกลา เพิ่งมาเกลาเล่ม 2 เลย 55)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น