วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563

แม่สาวใช้ตัวดีในจวนท่านแม่ทัพ 4 เล่มจบ



แม่สาวใช้ตัวดีในจวนท่านแม่ทัพ 4 เล่มจบ ผู้แต่ง : 鲤鱼大大(Li yu da da)
ผู้แปล : อามู่
สำนักพิมพ์ หอมหมื่นลี้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นางเอกเรื่องนี้เป็นหญิงสาวที่ตายแล้วทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ 
แต่ไม่ได้มาอยู่ในร่างคุณหนูหรือชนชั้นสูงอะไรนะจ๊ะ นางมาอยู่ในร่างของ ฉู่สุยอัน 
เด็กสาวชนบทที่บ้านจน แม่ตายเหลือแต่พ่อ แต่พ่อก็พึ่งพาอะไรไม่ได้ เอะอะก็ร้องไห้เป็นมนุษย์น้ำตาอย่างเดียว มีดีตรงที่รักลูกสาวมากส่วนที่เหลือไม่ได้เรื่องอะไรเลย 55   

เพราะพ่อป่วย นางเอกเลยต้องมาขายตัวเป็นสาวใช้เพื่อหาเงินไปรักษาพ่อ                              
แต่เนื่องจากผอมแห้งแรงน้อยจึงไม่มีใครอยากรับ แต่โชคดีที่อ่านออกเขียนได้
จึงถูกซื้อตัวมาเป็นสาวใช้ที่เป็นเพื่อนเรียนในห้องหนังสือของพระเอก หรือฉู่ยี่ บุตรชายคนเล็กของมหาเสนาบดีฉู่ อดีตท่านแม่ทัพใหญ่ของแผ่นดิน แม้นางเอกจะไม่มีทักษะอะไรโดดเด่น 
รูปร่างหน้าตาหรือก็ไม่ได้จัดว่างามเลิศอะไร แต่เพราะเป็นคนฉลาด หัวไว รู้จักปรับตัว 
ไม่มีความคิดอยากปีนเตียงเจ้านายเหมือนสาวใช้คนอื่นๆ (หลังๆ จะเป็นพระเอกอยากปีนขึ้นเตียงนางเอกแทน55) จึงทำให้พระเอกชอบนางเอกมากที่สุดในบรรดาสาวใช้ที่มี

เนื่องจากเป็นลูกคนเล็กที่พ่อมีตอนอายุเยอะ พระเอกเลยถูกทุกคนในบ้านตามใจมาตั้งแต่เด็ก
คนรับใช้ไม่ว่าหญิงหรือชายหากไม่พอใจก็เตะถีบได้หมด ไม่มีข้อยกเว้น  
ไม่ใช่พวกรักหยกถนอมบุปผา กระทั่งนางเอกก็ไม่ได้อภิสิทธิ์ใดๆ...หึหึ  (แต่นั่นเป็นแค่ตอนสมัยเด็กและยังไม่ได้รักเฉยๆ นะ) พอพระเอกเริ่มโตแม่ก็อยากหาสาวใช้ห้องข้างเตรียมไว้ให้     
และแน่นอนว่าในจำนวนสาวใช้มากมาย นางเอกก็คือคนที่พระเอกยอมรับและใกล้ชิดด้วยมากที่สุด 
ดังนั้นนางจึงถูกหมายตาและยัดเยียดให้เป็นตัวเลือกสาวใช้ห้องข้างอันดับหนึ่ง..โฮะๆ 
แต่ด้วยความที่นางเอกเป็นคนยุคปัจจุบัน จึงไม่มีความคิดที่จะเป็นสาวใช้ห้องข้างหรืออนุเลยสักนิด 
ต่อให้ชอบพระเอกมากแค่ไหนก็ไม่เป็น  ตั้งแต่เข้ามาเป็นสาวใช้ก็วางแผนว่าจะเก็บตังค์ไถ่ตัว 
แล้วออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีอยู่ข้างนอกมาตลอด

ครั้งแรกวางแผนหนีออกไปได้แล้วแต่ดันมีเหตุจำเป็นให้ต้องกลับมา 
ครั้งที่ 2 วางแผนใหม่รอบนี้ได้
สัญญาไถ่ตัวมาเรียบร้อย แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเจอพระเอกส่งคนไปพาตัวกลับมาอีก 
พระเอกก็ไม่เข้าใจว่านางเอกจะหนีไปทำไม เป็นอนุตัวเองมันไม่ดีตรงไหน  
แบบด้วยความที่เป็นคนยุคโบราณ พระเอกจึงมองว่าการมีสามภรรยาสี่อนุนั้นเป็นเรื่องธรรมดา 
เลยไม่เข้าใจความคิดของนางเอกที่ต้องการอยู่แบบสามีภรรยาเดียว               
แต่นางเอกก็เคยพูดไปหลายทีแล้วว่าไม่อยากเป็น ขอยอมเป็นสาวใช้ธรรมดายังดีกว่าเป็นอนุ
ก็รู้ว่าเป็นภรรยาเอกไม่ได้ ก็ไม่คิดดึงดัน ก็เหมือนความสัมพันธ์แบบแฟน ไม่โอเคก็เลิก    
ขนาดบอกสาเหตุที่แท้จริงไปแล้ว  แต่พระเอกก็ไม่เข้าใจ ยังแก้ปัญหาได้ไม่ถูกจุด 
ยังมองปมปัญหาที่แท้จริงไม่ออก ที่ผ่านมาไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งนางเอกเป็นภรรยาเลย 
มองว่านางเอกมีฐานะเป็นสาวใช้แล้วจะแต่งเป็นภรรยาเอกของเขาได้ยังไง 
ต่อให้เป็นภรรยาเอกได้ แล้วจะครอบครองเขาไว้คนเดียวได้อย่างไร ยังไงก็ต้องรับอนุ
เพราะนางเอกคนเดียวจะคลอดลูกให้เขาได้เยอะเหรอ คือความคิดแบบผู้ชายโบราณขนานแท้จริงๆ 
ที่สตรีต้องเดินตามหลังและเชื่อฟังสามี ต้องมีสามภรรยาสี่อนุ ต้องมีลูกหลานเยอะๆ ...
แต่หากดูจากนิสัยแล้วคนที่เหมาะกับพระเอกที่สุดก็น่าจะเป็นนางเอกนี่แหละ ทันกันดี 
ไม่เหมาะกับศรีภรรยา ผู้หญิงเรียบร้อยที่เอาแต่ก้มหน้าฟังสามีหรอก เพราะพระเอกน่ะปากร้ายมาก 
ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันแบบนางเอกคงได้ร้องไห้อยากผูกคอตายทุกวันแน่ เอาไม่อยู่หรอก 55 

และเมื่อทัศนคติไม่ตรงกัน ประกอบกับมีเรื่องพ่อของนางเอกแทรกเข้ามา 
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงยิ่งเกิดรอยร้าว ต่างคนต่างเข้าใจผิดไม่เข้าใจกัน 
และสุดท้ายก็ต้องแยกย้ายไปคนละทาง
กว่าจะเข้าใจกันได้ก็นู่นช่วงเล่ม 4 เลย พระเอกให้นางเอกปลอมตัวเป็นทหารไปทำศึกด้วย ....      
แม้ปากจะบอกว่าจบ แต่ก็ยังส่งลูกน้องตามไปดูแล..เอ้ย!!จับตามอง                                      
พอนางเอกบาดเจ็บก็รีบมาหา (ขนาดไม่มีใครบอกนะ แต่ฝันเป็นลางเลยมาเอง 55)                
ลูกน้องคนสนิทก็รู้ว่าเจ้านายยังตัดใจไม่ได้ เวลามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับนางเอกก็เลยชอบเอามาเล่าให้ฟัง เราคนอ่านก็ลุ้นว่าเมื่อไรเขาจะเข้าใจกัน  ยิ่งพระเอกอารมณ์แปรปรวนง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 
เผด็จการ ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ แบบฉบับผู้ชายยุคโบราณ  
แต่ก่อนนางเอกเลยกลัวไม่กล้าพูด มีอะไรจึงชอบเก็บไว้ในใจ..สุดท้ายพระเอกก็ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายยอมลงก่อน เพราะรู้แล้วว่านางเอกสำคัญกับตัวเองมากขนาดไหน ผู้หญิงคนไหนก็แทนไม่ได้ 
ปล่อยมือไม่ได้ เข้าใจแล้วว่านางเอกต้องการอะไร . ...หันหน้ามาคุยกัน ดีกันเถอะนะ

อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนได้เห็นวิถีชีวิตของการเป็นสาวใช้ การจัดการเรื่องภายในจวนของตระกูลใหญ่ๆ ขนบธรรมเนียมการวางตัวของแต่ละชนชั้น รวมถึงเรื่องการวางแผนสู้รบของพระเอก    
ในเรื่องไม่ได้มีแต่เรื่องหลังบ้าน หรือการต่อสู้แย่งชิงของสตรี  
แต่ยังมีเรื่องศึกสงครามการเมืองด้วย ฮ่องเต้ในเรื่องไม่ค่อยฉลาด รัชทายาทก็ห่วย  
ส่วนตระกูลพระเอกตอนแรกยังไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะกำลังเริ่มตกต่ำไม่มีอำนาจ
แต่พอพระเอกรบชนะศึกแรกกลับมา ฝั่งรัชทายาทกับฮองเฮาก็อยากดึงไปเป็นพวก  
แต่บ้านพระเอกไม่เอาด้วยเพราะรู้ว่ารัชทายาทไม่เอาไหน 
ก็เลยวางแผนซ้อนแผนเพื่อดึงรัชทายาทลงมาจากตำแหน่งซะ

อ่านสนุก เนื้อหาเข้มข้นกำลังดี ตัวละครไม่ซูไม่ได้เก่งเวอร์ ไม่ได้ชนะตลอด  
พระนางเรื่องนี้เป็นทั้งเพื่อนทั้งคนรัก เหมือนคู่หูที่รู้ใจกัน ไม่มีคำพูดหวานหูแต่ชอบจิกกัดกัน
ตัวร้ายน่าหมั่นไส้อยากเข้าไปตบมากกกก (ไม่สิจริงๆ ต้องเรียกว่านางร้ายนะ 55)             
เหมือนตัวเชื้อโรคไปอยู่ไหนก็สร้างความเดือดร้อนให้ที่นั่น ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กสาวธรรมดาที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง อาศัยแค่ปากแต่สุดท้ายกลับได้เป็นถึงคนโปรดของฮองเฮา  
ทำให้พ่อตัวเองได้ตำแหน่งราชครูขององค์รัชทายาท ทั้งๆ ที่ไม่มีเส้นสายหรือเบื้องหลังอะไรเลย 
แค่อาศัยความขี้โม้ ประจบสอพลอ ปั้นน้ำเป็นตัวเก่งแค่นั้น ก็สามารถสร้างเรื่องให้ตระกูลของพระสนมที่ฮ่องเต้รักได้ ทำให้แม่หม้ายแต่งเข้าไปเป็นภรรยาเอกของพระเอกได้ .. ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ 
เป็นศัตรูที่ตอนแรกใครๆ ก็มองข้าม แต่กลับเป็นตัวหายนะทำลายล้างอย่างแท้จริง 55

ปล.ชอบความสัมพันธ์ในบ้านของพระเอก แม้พ่อพระเอกจะมีลูก-เมียเยอะ
แต่กลับไม่มีปัญหาระหว่างลูกเมียเอกกับลูกอนุ หรือภรรยาเอกกับอนุเลย พี่น้องรักใคร่กลมเกลียว  
สะใภ้ที่แต่งเข้ามาก็ไม่มีปัญหา ไม่มีการอิจฉาริษยาหรือวางแผนลอบแทงข้างหลังกัน     
เพราะแบบนี้ด้วยแหละ พระเอกจึงคิดว่าหากนางเอกมาเป็นอนุตัวเองก็ไม่น่าจะมีปัญหา     
เพราะบ้านตัวเองก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย..หึหึ (ที่อย่างนี้แหละโลกสวย)  

ปล.เล่ม 4 อาจจะมีเรื่องให้ตกใจนิดนึง คือคุณนักเขียนเค้าอยากหาคู่ให้พี่ซ่งใช่เปล่า 55
ปล.ลูกน้องพระเอกน่ารัก ตลก รู้ใจเจ้านายกันจริงๆ 55
ปล.สำนวนการแปลสำหรับเราโอเคนะคะ ไม่ติดขัดอะไร แปลดีค่ะ แต่มีผิดตรงเล่มแรกช่วงหน้าแรกๆ นิดหน่อย ที่ลงท้ายว่า 'คะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น