วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

ฝากหัวใจ 4 เล่มจบ



ฝากหัวใจ 4 เล่มจบ / ผู้แต่ง ติงโม่ 
แปลและเรียบเรียง : สำนักพิมพ์ Hongsamu
สำนักพิมพ์ Hongsamut

' ในวัยเยาว์เรามักจะสูญเสียใครบางคนไปง่ายๆ..
ทั้งที่เคยดีต่อกันมาก และปรารถนาอีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจ
แต่ทำไมเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 
ต่างฝ่ายต่างถอยห่างจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ

คุณเดินไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยแสงสีของคุณ 
ส่วนฉันก็จะเดินไปบนสะพานเล็กๆ ที่เงียบสงบของฉัน

หากชีวิตนี้เราไม่มีโอกาสได้พบกันอีก
ช่องว่างในหัวใจของฉันคงไม่มีวันถูกเติมเต็มอีกครั้ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางทีฉันก็อาจจะลืมมันได้ ... '

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์) 
เฉินเหย่ หนุ่มรูปหล่อสุดเท่ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ มีดีทั้งหน้าตาและเสียงร้อง 
เต็มไปด้วยพรสวรรค์ทางด้านดนตรี  นักร้องนำวงเจามู่ ชายหนุ่มที่รักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ  
มีความทะเยอทะยานและมุ่งมั่นที่จะพาเหล่าพี่น้องไปให้ถึงฝั่งฝัน 
บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและเสือสิงห์กระทิงแรดมากมาย

สวี่สวินเซิง หญิงสาวเจ้าของห้องซ้อมดนตรี สาวสวยแบบฉบับลุคโบราณ นิสัยเย็นชา สงบนิ่ง 
ผู้มีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง (ทั้งเก่งทั้งสวยเหมือนเซียวเหล่งนึ่งภาคยุคปัจจุบัน)

ทั้งพระ-นางต่างก็เป็นคนมีพรสวรรค์และรักในเสียงดนตรีด้วยกันทั้งคู่ 
พระเอกนั้นร้อนแรงเหมือนเปลวเพลิง ส่วนนางเอกก็เยือกเย็นประหนึ่งน้ำแข็ง 
ต่างกันคนละขั้ว แต่เพราะวงดนตรีของพระเอกต้องการหาที่ฝึกซ้อมราคาถูก 
ถึงได้มาเจอกับนางเอกที่เป็นเจ้าของสถานที่ แถมยังมีเครื่องดนตรีเจ๋งๆ ราคาแพงให้ยืมซ้อมแบบไม่หวงอีกด้วย แต่ไปๆ มาๆ นางเอกก็กลับกลายมาเป็นไพ่ตาย เป็นมือคีย์บอร์ด+คนบรรเลงกู่ฉินของวงพระเอกเข้าซะได้ พูดง่ายๆ ก็คือหากต้องเจอกับวงดนตรีที่แข็งแกร่งหรือเหนือชั้นกว่า นางเอกก็จะกลายเป็นอาวุธลับที่ทำให้วงของพระเอกมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะในการแข่งขันได้ทุกครั้ง

ช่วง 2 เล่มแรกเป็นการไล่ตามความฝันของวงดนตรีเล็กๆ ที่ยังไม่มีชื่อเสียง ไม่เป็นที่รู้จัก 
พระเอกและเพื่อนๆ ในวงต้องทำงานพิเศษวันละหลายๆ งานเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย 
เพราะไม่มีเส้นสาย กว่าจะได้งานขึ้นเวทีแสดงฝีมือแต่ละทีก็เลยยาก งานไม่ค่อยเยอะ 
บางทีก็ต้องอดมื้อกินมื้อ แต่พอเริ่มมีงาน วงกำลังเริ่มไปได้สวยก็ดันเกิดปัญหาขึ้นมาอีก 
และทำให้พระเอกต้องไปขอร้องนางเอกให้เข้ามาอยู่ในทีม ซึ่งตอนแรกนางเอกก็ไม่อยาก
เพราะธรรมชาติของนางคือเป็นคนสันโดษ ไม่อยากมีชื่อเสียง ไม่อยากเป็นที่รู้จัก 
แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกตื๊อของพระเอก เลยต้องใจอ่อนยอมตกลง

ช่วงเล่ม 3 ได้ประกวดเวทีใหญ่ขึ้น เริ่มฉายแววและดังขึ้นเรื่อยๆ 
โดยเฉพาะพระเอกที่เริ่มดังจนฉุดไม่อยู่ งานโฆษณาเริ่มหลั่งไหลเข้ามา รอยร้าวเริ่มปรากฏ...
และก็มาถึงจุดที่พระเอกต้องเจอกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่และการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต 
ซึ่งเป็นตัวแปรที่ทำให้พวกเขาต้องแยกทางจากกัน ...
..................................

เป็นเรื่องที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรเลย นึกว่าเป็นแนววงดนตรีไล่ตามความฝันทั่วๆ ไป 
แต่พอได้อ่านแล้วผิดคาดมาก ชอบมากกก ชอบการฝ่าฟันต่อสู้เพื่อทำตามความฝันของพระเอกกับเพื่อนๆ เจาะลึกชีวิตเบื้องหลังไอดอลที่กว่าจะโด่งดังเป็นที่นิยม มีแฟนคลับเป็นล้าน 
คนลงสนามเป็นพันเป็นหมื่น แต่ผู้ที่สามารถยืนอยู่บนจุดนั้นได้จริงๆ กลับมีเพียงน้อยนิด
แรงกดดัน อุปสรรคที่ต้องพบเจอ สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่ต้องเสียไป  

ชอบคาแรคเตอร์ของนางเอก ชอบความไม่สนโลกของนางแต่ก็พร้อมจะปรับตัวเมื่อถึงคราวจำเป็น ไม่ได้สุดโต่งไปเลย เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิด จะมองตัวเองยังไง 
ฉันก็จะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปใครแคร์ 55 ส่วนพระเอกก็เป็นคนที่เปล่งประกายมาก ลำบากแค่ไหนก็สู้  
ไม่ทิ้งพวกพ้องที่เคยลำบากมาด้วยกัน หน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ  มีแต่คนชื่นชอบ 
สาวไหนเห็นเป็นต้องหลงรัก แต่พี่แกดันมาตกหลุมรักคนเงียบๆ เย็นชา 
นิสัยเหมือนแม่ชีอย่างนางเอกเข้าตั้งแต่แรกพบ แต่นางเอกเองก็เป็นคนสวยนะ สวยมาก 
ร้องเพลงก็เพราะ เล่นดนตรีแต่งเพลงก็ได้ ฉลาด ไม่ค่อยพูด(ไม่พูดไร้สาระ) 
ดูเหมือนเข้าถึงยากแต่กลับอยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีหนุ่มๆ มาชอบหลายคนแต่ก็เจอใครบางคนกันออกไปหมดไม่มีเหลือ55  ขี้หวงมาก ผู้ชายหน้าไหนก็อย่าหวังจะได้เข้าใกล้นางเอกเลย 
เจอพระเอกแยกเขี้ยวแสดงความเป็นเจ้าของตั้งแต่เริ่มจีบ ตั้งแต่ยังไม่เป็นแฟนเลยจ้า 55 
พระเอกรักใครรักจริง รักคนเดียวไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนคำสัญญาที่เคยให้ไว้...
"ต่อจากนี้ไปเธอต้องชอบฉันตลอดไปห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาด 
เพราะฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจตลอดกาล.." 
ผู้หญิงไหนเข้าหาก็วางตัวเย็นชาหมด ดี+สวยเลิศแค่ไหนก็ไม่เอาเพราะไม่ใช่เซิงเซิงของพี่แก 

แม้ต่อมาจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเงินทอง มีพร้อมทุกอย่าง 
แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีอีกเลยก็คือความสุข เพราะที่นี่ไม่มีนางเอก 
ไม่ว่าใครก็ไม่อาจแทนที่เซิงเซิงของพี่แกได้ ดังนั้นพอเริ่มแกร่งและยืนหยัดในวงการได้ 
พี่แกจึงกลับมาตามหาหัวใจของตัวเองคืน  เปลี่ยนจากหนุ่มอารมณ์ร้อนกลายเป็นคนมีเหตุผล 
แม้ในใจแทบอยากจะจับอีกฝ่ายมัดแล้วเอาตัวกลับไปซะเดี๋ยวนั้น 
แต่ก็ต้องใจเย็น ค่อยๆ วางแผน ค่อยๆ พูด  ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก ตีให้ตายก็ไม่ไปไหน 
ไล่ยังไงเดี๋ยวก็กลับมา อยู่กับคนนอกคือสุขุมเย็นชา แต่พออยู่กับคนรักนี่หมาน้อยมากกก 
ต้องกอดต้องหอมตลอด คำพูดหวานเลี่ยนแบบไหนก็พูดออกมาได้หมด หน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมือง ทำทุกวิถีทางจริงๆ ที่จะให้นางเอกกลับมาทั้งตัวและหัวใจ...(ถึงตายก็ไม่เลิกรา 55)



วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

หวานนักเมื่อรักหวนคืน


หวานนักเมื่อรักหวนคืน (เล่มเดียวจบ) ผู้แต่ง : จ้าวเฉียนเฉียน (趙乾乾)
ผู้แปล : Huang Liyuan
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
จ้าวฟั่นโจว พ่อหนุ่มคณะเศรษฐศาสตร์  รูปหล่อบ้านรวยมีแต่สาวๆ มารุมชอบ 
แต่เขากลับตกหลุมรัก โจวเสี่ยว หญิงสาวเอกภาษาจีนที่มีหน้าตาธรรมดาและไม่สะดุดตาคนหนึ่ง แต่คบกันอยู่ดีๆ ได้ไม่นาน จู่ๆ จ้าวฟั่นโจวก็หายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าวนานถึง 8 เดือน ครั้นพอเคลียร์กันได้ก็กลับมาคบกันใหม่ แต่ผ่านไปไม่ทันไรประวัติศาสตร์ก็กลับมาซ้ำรอยเดิมอีกแล้ว และครั้งนี้ก็กินเวลานานถึง 3 ปีเต็ม จนฝ่ายหญิงตัดใจเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับคนอื่น ...ส่วนจ้าวฟั่นโจวที่ทำเรื่องเดิมๆ ผิดถึงสองครั้งจะกลับมาเริ่มจีบแฟนที่ถูกเขาทิ้งไป และคว้าหัวใจเธอมาครองได้อีกครั้งหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน

ชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้มาตั้งแต่เรื่อง นับแต่นั้นฉันนั้นเธอ’ ตามเก็บมาทุกเรื่องที่สำนักพิมพ์นำมาแปล  เป็นเรื่องความรักของหนุ่มสาวในวัยเรียนจนเข้าสู่วัยทำงาน มีเรื่องดราม่าอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับหน่วงอะไร  ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความเข้าใจผิดของคนสองคนที่เกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดหรืออาจจะไม่ดีพอ หรือทิฐิที่มากจนเกินไป อาจจะด้วยวัยและประสบการณ์จึงส่งผลให้ต้องเลิกราจากกันไป แต่สุดท้ายก็ได้กลับมาเจอกันอีก

เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะการสื่อสารที่ไม่ดีของพระเอก มีอะไรไม่พูดไม่อธิบายตรงๆ สุดท้ายก็ทำให้นางเอกเสียใจและต้องเลิกรากันไปถึงสองครั้งสองครา ซึ่งสาเหตุก็มาจากปัญหาภายในบ้านของพระเอกเองที่ค่อนข้างซับซ้อน ...แบบบ้านคนรวยเรื่องบางอย่างมันก็เลยพูดยาก(ล่ะมั้ง)  แม้จะพูดได้ เพียงแต่ด้วยสภาพอารมณ์และวัยของพระเอกในตอนนั้น ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี ก็เลยคิดเองเออเองสรุปเองแล้วก็จากไปแบบดื้อๆ แล้วก็กลับมาง้อเขาใหม่(อีกแล้ว) เพียงแต่รอบนี้ก่อนไปพระเอกจะให้เพื่อนคอยส่งข่าวเรื่องนางเอกไปให้ตลอดว่าทำงานที่ไหน พักอยู่ที่ไหน มีแฟนใหม่หรือยัง แต่เพื่อนดันทำพลาดเรื่องหลังเพราะไม่รู้ว่านางเอกคบคนอื่นไปแล้ว 55

เนื้อเรื่องเบา อ่านง่ายไม่มีอะไร นางเอกก็ขี้อ้อนช่างพูด อารมณ์ร้อนประมาณหนึ่ง คุยกันดีๆ ได้แป๊บนึงเดี๋ยวก็เถียงกันอีกแล้ว...(ง้องแง้งกันไปมา รักๆ เลิกๆ หรือมันคือการกระชับความสัมพันธ์ในรูปแบบหนึ่ง?? พระเอกก็นะ...รู้ทั้งรู้ ก็เคยผิดพลาดมาแล้ว ก็ยังจะให้มีครั้งที่สองอีก ขอให้คนเขารอให้เชื่อใจแต่ไม่อธิบายอะไรเลย ไม่รู้ด้วยว่าจะกลับมาเมื่อไร แล้วใครจะรอ ส่วนนางเอกก็ดูออกแหละว่ายังรักอยู่แต่ก็ยังข้ามปมในใจไม่ได้ (กลัวคบๆ กันอยู่เดี๋ยวพระเอกจะหายไปอีก) ครั้งนี้ก็เลยไม่ได้กลับมาคืนดีคบกันง่ายๆ เหมือนตอนแรกแล้ว อุปสรรคเยอะ เพราะฝั่งบ้านนางเอกก็ไม่ยอมรับพระเอก ไม่ยอมให้กลับมาคบกันใหม่ด้วย 55...(สม) 




วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563

ลิ่วเหยา เล่ม 3 (3 เล่มจบ)



ลิ่วเหยา เล่ม 3 (3 เล่มจบ) / ผู้แต่ง : Priest (พีต้า)
ผู้แปล : bou ptrn
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ลิ่วเหยา เล่ม 1 https://marynlinsbook.blogspot.com/2020/02/1.html
ลิ่วเหยา เล่ม 2 https://marynlinsbook.blogspot.com/2020/03/2_9.html

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
นานนับร้อยปีที่ต้องอดทนต่อการดูถูกเหยียบหยาม ไร้ที่พึ่งพา ต้องปกปิดชื่อสำนัก 
มีบ้านแต่ไม่อาจกลับ บางคนอยู่บางคนจาก บางคนกลับมา บางคนหลงทางจนไม่อาจหวนคืน 
ต้นเหตุของเรื่องราว เบื้องหลังของทุกอย่าง ใครหนอที่เป็นตัวการทำให้พวกเขาเดินมาถึงจุดๆ นี้

เพราะแผนการชั่วร้ายของคนบางกลุ่มหรือใครบางคน จึงทำให้พวกเขาที่ไม่รู้เรื่องราวบุญคุณความแค้นในอดีตต้องมาแบกรับหนี้เลือดของสำนักและถูกตามล่า  
บีบคั้นให้พวกเขาต้องปกปิดตัวตนและรีบเติบโต ละทิ้งความเยาว์วัยกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถปกป้องตนเองและผู้อื่นได้ บีบให้พวกเขาคนหนึ่งต้องเดินเข้าสู่เส้นทางปีศาจ จนวันตายก็ไม่อาจหวนคืนกลับบ้านหรือสำนักได้อีกต่อไป

ศิษย์พี่ใหญ่ที่เคยเกียจคร้านไม่เอาอ่าว หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ก็กลายมาเป็นที่พึ่ง 
เป็นต้นไม้ใหญ่ของศิษย์น้องได้อย่างภาคภูมิใจ สมตำแหน่งเจ้าสำนักที่แท้ทรู  
เป็นผู้ฝึกกระบี่สภาวะวิญญาณกระบี่ ที่ในวันนี้ไม่ว่าใครต่างก็ต้องเคารพยำเกรงและก้มหัวให้ 
ไม่มีใครกล้ารังแกหรือดูถูกพวกเขาเหมือนอย่างครั้งแรกที่ก้าวเท้าเดินทางลงจากเขาอีกแล้ว..
แม้แต่สิ่งที่อดทนเฝ้าเพียรพยายามมาตลอดก็สำเร็จสมดังหวัง  
เมื่อคนที่ห่วงหาอาวรณ์อยู่ตลอดร้อยปีกลับคืน และได้พาทุกคนกลับสู่บ้านที่แท้จริงอีกครั้ง

ฉากนี้น้ำตาจิไหล วันเวลาบนภูเขาถูกผนึกไว้ทำให้ไม่รู้การเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก 
จากไปร้อยปีแต่บนภูเขาคือเพิ่งจากไปเมื่อวาน จากเด็กอายุราวสิบกว่าที่รู้จักแต่กินเล่นในวันนั้น
ก็กลับกลายเป็นชายหนุ่ม+หญิงสาวที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถยิ่งใหญ่กันหมดแล้ว  
พวกเขาถูกวันเวลาและเรื่องราวทั้งหลายบนโลกขัดเกลาจนเปลี่ยนไป
แต่ทุกอย่างในสำนัก ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้ากลับยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 
เพียงแต่จำนวนคนที่กลับมากลับไม่เท่าเดิม เสมือนวันแรกที่จับมือกันลงจากเขาเท่านั้น... T^T
     
เป็นเรื่องที่บทบรรยายค่อนข้างเยอะ คำพูดบางคำหรือบางประโยคอ่านแล้วอาจต้องตีความอีกที 
ต้องใช้สมาธิในการอ่าน แบบค่อยเป็นค่อยไป รีบไม่ได้55
แนวบำเพ็ญเพียรฝึกฝนวิชา มีภูต ผี ปีศาจ มีเรื่องวางค่ายกล การผ่านด่านเคราะห์และของวิเศษ
ชอบนิสัยของตัวละครที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ชอบความนกยูงของศิษย์พี่ใหญ่ นานๆ ทีจะได้เห็นพระเอกนิสัยแบบนี้ (ฉีกทุกกฏ55)
ตอนแรกคิดว่าท่านอาจารย์คิดผิดหรือเปล่าเนี่ยที่ให้พี่แกเป็นเจ้าสำนัก นิสัยนายน้อยมากกก
เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ รักสวยรักงามสุดๆ แต่สุดท้ายพี่แกก็ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงพลังความสามารถ 
ความอดทน ความสามารถในการแบกรับความกดดันภาระทุกอย่างในฐานะศิษย์พี่และเจ้าสำนักได้อย่างแท้จริง สรุปอาจารย์ตาถึงจริงๆ ศิษย์ทั้ง 5 คน(เว้นน้องเฉียน) จากเริ่มแรกที่ดูจะไปไม่รอด
แต่พอผ่านความยากลำบากต่างๆ แต่ละคนก็กลายเป็นผู้มีความสามารถอย่างแท้จริง 
ความเก่งเพิ่มพูนแต่จิตใจยังคงเดิม เดิมพระเอกเป็นเจ้าแม่ หยิ่งผยองยังไงก็ยังคงเป็นแบบนั้น
ศิษย์น้องสี่แม้จะยิ่งใหญ่ในหมู่มารปีศาจอย่างไร แต่ข้างในจิตใจก็ยังเป็นศิษย์น้องที่ไม่เอาไหนของสำนักฝูเหยาคนนั้นเช่นเดิม ยังหวังว่าทุกคนจะให้อภัยและได้กลับบ้านด้วย T^T
ชอบความปากแข็งทั้งๆ ที่เอ็นดูศิษย์น้องหญิงเล็กมาก 
ทั้งๆ ที่รู้สึกผิดที่พลั้งปากพูดว่าจะเลาะกระดูกนางแต่ก็ไม่กล้าเอ่ย ได้แต่หลบหน้าไม่กล้าเข้าหา 
แต่จริงๆ เอ็นดูน้องมากกกนะ T^T

สำหรับเราฝูเหยาไม่ใช่แค่สำนัก แต่มันคือบ้านคือครอบครัว ไม่ว่าภายนอกจะเป็นยังไง แต่ข้างในคือเหนียวแน่นตัดกันไม่ขาด ไม่ทอดทิ้งกัน ... 

- nc คือรู้ว่ามีแต่ไม่บรรยาย55 ไปจินตนาการเอาเอง แต่มั่นใจว่าน้องเฉียนไม่รอดมือศิษย์พี่ใหญ่แน่ๆ
- ทุกคนรู้ว่าถ้าอยากได้อะไรจากศิษย์พี่ใหญ่ก็ต้องไปขอร้องศิษย์พี่สาม(หรือนายเอก) ก่อนนะ 55
- คนที่อยู่เบื้องหลังนี่แบบคาดไม่ถึงมากกกก....พีคในพีค