วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562

ปรปักษ์จำนน 4 เล่มจบ


ปรปักษ์จำนน 4 เล่มจบ / ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ
ผู้แปล : ถังเจวียน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
     
      " ตอนนั้นข้าตื่นตระหนกยิ่งนัก ทั้งโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด
 ข้าคิดว่าหากเจ้าทอดทิ้งข้าไปและไม่กลับมาอีกแล้วจริงๆ
เช่นนั้นก็ดี  ข้าจะได้ไม่ต้องกริ่งเกรงอันใดอีก
ข้าปรารถนาจะบุกตีเหยี่ยนโจวเมื่อใดก็ไปได้เมื่อนั้น   
อยากจะบดขยี้คนสกุลเฉียวก็ไปได้ในทันที  ......"


นี่คือยุคสมัยที่ราชวงศ์อ่อนแอบ้านเมืองกำลังจะล่มสลาย  เจ้าผู้ครองแคว้นต่างตั้งตนเป็นใหญ่หันคมดาบเข้าหากัน ด้วยหวังช่วงชิงดินแดนของอีกฝ่าย และตั้งตนเป็นเจ้าเหนือหัวองค์ใหม่เพื่อปกครองใต้หล้า   

นางเอกข้ามมิติมาอยู่ในร่างของ เสี่ยวเฉียว บุตรตรีแห่งสกุลเฉียวซึ่งมีรูปโฉมงดงามจนเป็นที่เลื่องชื่อลือชาไปไกล เพราะอยากได้ที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่ง ท่านลุงของนางจึงหมายจะส่งบุตรสาวไปผูกมิตรกับสกุลเว่ย ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเว่ย-เฉียวนั้นมีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ และด้วยภาพนิมิตในความฝันของเจ้าของร่างเดิมในชาติที่แล้ว จึงทำให้นางเอกได้รู้จุดจบของเจ้าของร่างเดิมนี้ รวมถึงทุกคนในตระกูลด้วย และเพื่อไม่ให้ทุกอย่างต้องกลับไปซ้ำรอยเดิม นางเอกจึงจำใจต้องแต่งงานกับ เว่ยเซ่า หรือเว่ยโหวแห่งสกุลเว่ย ที่เคียดแค้นชิงชังคนสกุลเฉียวเข้ากระดูกดำแทนลูกพี่ลูกน้องของตน  

เว่ยเซ่า ท่านโหวแห่งตระกูลเว่ย บุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าแห่งดินแดนทางเหนือ หน้าตาหล่อเหลาองอาจ เฉลียวฉลาดและเก่งกาจในการรบ  แต่เพราะถูกคนสกุลเฉียวหักหลัง จึงทำให้เขาต้องสูญเสียบิดาและพี่ชายไปตั้งแต่ตอนอายุสิบสอง ในขณะที่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องนอนรักษาตัวนานถึงครึ่งปี แม้หลังจากนั้นบาดแผลทางกายจะหายดี แต่ทว่าทางใจกลับไม่มีวันเป็นเหมือนเดิมได้อีกเลย ซ้ำท่านย่าที่เขาเคารพรักมากที่สุด ก็ยังตอบรับการแต่งงานของคนสกุลเฉียวนั้นอีกด้วย ...สุดท้ายเขาก็จึงต้องจำใจแต่งหญิงสกุลเฉียวที่แสนจะชิงชังมาเป็นภรรยา

พระเอกรู้ดีว่าเป้าหมายในการแต่งงานครั้งนี้คืออะไร แต่พี่แกก็หาได้สนใจไม่ อยากแต่งก็แต่งสิ เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางให้พวกสกุลเฉียวได้สมใจอยากแน่นอน ดังนั้นพระเอกจึงหมางเมินและเย็นชากับนางเอกตั้งแต่คืนวันแรกของการแต่งงานเลย  ส่วนนางเอกก็คาดเดาท่าทีของสามีได้อยู่แล้วจึงไม่รู้สึกอะไร พยายามใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะรู้ดีว่าสามีและแม่สามีเกลียดนาง รวมถึงตระกูลของนางมากขนาดไหน นางไม่วาดฝันว่าตนจะสามารถสลายความแค้นของสองตระกูลลงได้ เพียงแต่หวังว่าคนในครอบครัวที่นางรักจะไม่ต้องมีจุดจบเหมือนกับในภาพนิมิตเท่านั้นพอ

คนสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่ได้มีใจให้กัน แต่กลับต้องมาแต่งงานกันด้วยเหตุผลทางการเมือง แถมเบื้องหลังของทั้งสองตระกูลก็ยังมีความแค้นล้ำลึกต่อกันอีก ดังนั้นแต่ละก้าวของนางเอกจึงเสมือนเดินอยู่บนพรมเข็ม เพราะด้านหลังนั้นคือชีวิตของคนในบ้าน และชาวเมืองทุกคนในเหยี่ยนโจว แม้ต่อมาสามีจะเข้าหานางมากขึ้น แต่ก็เป็นแค่สัมพันธ์ทางกาย เพราะถึงที่สุดเขาก็ยังไม่คิดเปิดใจอยู่ดี  ต่อหน้ารักใคร่กล่าวคำหวานหู แต่ลับหลังกลับพยายามหาทางลอบโจมตีเมืองของนางอยู่ตลอด  เมื่อเป็นเช่นนี้...ต่อให้ใกล้ชิดกันเพียงใด แต่ในใจก็ยังเต็มไปด้วยความระแวดระวังกันอยู่ดี    
นางไม่อาจละทิ้งไม่ใยดีคนในครอบครัวของตนได้ ... 
ส่วนเขา...ก็ไม่อาจปล่อยวางความแค้นที่มีต่อตระกูลนางได้เช่นกัน  ....  


หลังอ่านจบ ...
พระ-นางไม่ได้รักกันมาก่อนแต่กลับต้องมาเป็นสามีภรรยากันด้วยความจำใจ ฝ่ายหนึ่งหวังบรรเทาความโกรธแค้น ส่วนอีกฝ่ายก็หวังจะได้ชำระสะสางความแค้นนี้ทิ้งเสียที  แต่กลายเป็นว่ายิ่งได้อยู่ร่วมกันได้เห็นตัวตนของอีกฝ่าย หัวใจของพระเอกที่เต็มไปด้วยความแค้นแต่เดิมก็กลับค่อยๆ อ่อนลงเรื่อยๆ  แม้จะพยายามปฏิเสธอยู่หลายทีแต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้ ว่าพี่แกหลงรักเมียที่เป็นคนสกุลเฉียวเข้าแล้วจริงๆ แต่ยิ่งรักก็ยิ่งกลัว ยิ่งอ่อนไหว เพราะรู้ว่าสิ่งที่เมียปรารถนานั้นตัวเองอาจจะให้ไม่ได้  จากเดิมที่เป็นคนใจร้อนโมโหร้ายอยู่แล้ว พอเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเมีย พระเอกก็ยิ่งผีเข้าผีออกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไปเลย (แถมยังขี้หึง+หื่นอีกต่างหาก 55)  แบบเมื่อเช้าเพิ่งรักใคร่กลมเกลียวพูดจาจ๊ะจ๋า  พอตกเย็นมาก็เหมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด  ทำเอาเมียกับคนอ่านตามอารมณ์พี่แกไม่ทันเลยจ้า 55+  ...พอเป็นแบบนี้เมียก็เลยไม่ค่อยวางใจเพราะเดาใจสามีไม่ค่อยออก ก็เลยต้องขอให้ทางบ้านเตรียมหาทางรับมือป้องกันตัวเองเอาไว้บ้าง หนึ่ง...เผื่อเวลามีอะไรจะได้ไม่ต้องไปขอร้องให้สามีช่วยบ่อยๆ ( เพราะไม่ค่อยเต็มใจช่วย ) สอง...เผื่อสามีอาการไบโพลาร์กำเริบเปลี่ยนใจ ก็จะได้ไม่ต้องลงเอยเหมือนในชาติที่แล้วอีก ...คือก็เข้าใจความแค้นของพี่แกนะแต่ก็เข้าใจฝั่งนางเอกด้วย  จะให้นางทอดทิ้งคนในตระกูลได้ยังไง ในเมื่อพ่อแม่-พี่น้อง ป้าสะใภ้ ลูกพี่ลูกน้องก็ดีต่อนางทุกคน คนในเมืองหรือพวกแม่ทัพก็ดี  ถึงจะแซ่เฉียวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเลวทุกคนเด้อ แต่อย่างว่าแหละปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง.....เฮ้อออ

เพราะฉะนั้นพระเอก-นางเอกเลยได้แต่ต้องใช้เวลา ใช้ความอดทนที่มีทั้งหมด พยายามถอยเท่าที่จะถอยได้เพื่อประคับประคองกันและกันไป ท่ามกลางความกลัว ความหวาดระแวง ความไม่มั่นคงทั้งหลายที่มาจากตัวพวกเขาเองและบุคคลภายนอก ... เพราะนอกจากเรื่องความรักความแค้นของทั้งคู่แล้ว ก็ยังมีเรื่องสงครามที่ต้องเผชิญอีก เยอะแยะไปหมด พระเอกเรื่องนี้จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะต้องออกไปรบอยู่บ่อยๆ ดังนั้นบางครั้งทะเลาะกันทีหนึ่งกว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ก็ต้องลากยาวเป็นเดือนๆ  จริงๆ พี่แกรักเมียมากนะแต่ปากแข็ง ส่วนเมียก็รักแหละแต่ยังไม่ค่อยเต็มร้อย เพราะกลัวสามีจะปล่อยวางความแค้นไม่ได้  กว่าจะพากันก้าวข้ามผ่านปมแต่ละปมไปได้ก็เลยนู่นหลายปีเลย .....

ปล. ชอบคู่ของลูกพี่ลูกน้องนางเอก ( ชาตินี้พี่สาวนางเอกโชคดีแล้ว ) แต่ออกไม่ค่อยเยอะหรอก  แต่จากที่อ่านๆ คิดว่าฝีมือในการรบของพี่เขยนางเอกคนนี้บางทีอาจจะเหนือกว่าพระเอกด้วยซ้ำ เป็นคนที่มีมากแถมยังสู้ได้สูสีกับพระเอก พระเอกก็เลยไม่อยากปล่อยไว้ ไม่ยอมรับคนเขาเป็นคู่เขยแถมยังแอบส่งคนไปตีเมืองเขาอีก พอนางเอกรู้เรื่อง พระเอกนี่แบบหน้าชาเลยจ้า  แต่ต้องทำเป็นเข้มเก๊กไว้ จนสุดท้ายพอเมียหนีกลับบ้านก็ทนไม่ไหวต้องตามไปง้อขอคืนดี .... และสุดท้ายก็ยอมจำนน ( เพื่อเมีย ) สมกับชื่อเรื่องเลย 55+


2 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องนี้ออก 4 เล่มรวดเดียวดีงามกว่าทยอยออก...เล่ม 4 เป็นเล่มที่ชอบพอตัว เพราะพี่แกยอมเมียแล้วจริง ๆ ทั้งที่จะไปทำสงครามก็ย้อนกลับมาสารภาพกับนางเอก หึ ๆ แกลองไม่ย้อนกลับมาสิ อิอิ สะใจสุด ๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงค่า เราว่าเรื่องนี้ที่ขายดีส่วนหนึ่งนอกจากตัวเนื้อเรื่องแล้ว
      ก็เป็นเพราะออกทีเดียวครบนี่แหละจ้า
      ชอบตอนที่พี่แกพูดเปิดใจในเล่ม 4
      เพราะยังคิดอยู่เลยว่าพระเอกจะแก้ปมในใจยังไง
      และในที่สุดพีี่แกก็ทำได้สักที ลุ้นมาตั้งนาน จนเมียจะทนไม่ได้อยู่แล้ว
      สรุป จบได้อิ่มเอมใจมากค่ะ ไม่รวบรัดรีบตัดจบด้วย ชอบๆๆ ^^

      ลบ