วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

หยกเร้นชะตา 6 เล่มจบ

 


หยกเร้นชะตา 6 เล่มจบ

ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว

ผู้แปล : อวี้

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเรื่องนี้ถูกคนจงใจอุ้มสลับตัวไปตั้งแต่ตอนเป็นทารก จากคุณหนูสายตรงสกุลฉู่ของจวนฉางซิงโหวต้องจับพลัดจับผลูกลายเป็นบุตรสาวชาวนายากจนแซ่ซู ใช้ชีวิตตกระกำลำบากถูกทุบตีด่าว่าอยู่นานถึง 13 ปีเต็ม หากไม่ใช่เพราะท่านโหวหรือพ่อแท้ๆ ของนางเอกไปพากลับมา คุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็คงต้องเป็นบุตรสาวชาวนาไปตลอดชีวิตแล้ว ...ส่วนบุตรสาวของชาวนาที่ถูกสับเปลี่ยนตัวก็ได้ใช้ชีวิตเยี่ยงคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่บนกองเงินกองทอง มีคนรับใช้+มีพ่อแม่พี่น้องรักใคร่ตามใจประดุจเจ้าหญิง แม้แต่วันที่ความจริงเปิดเผยคุณหนูตัวจริงกลับมา คุณหนูตัวปลอมก็ยังชูคอ เริด เชิด หยิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถือดีว่ามีมารดาหรือแม่แท้ๆ ของนางเอกซึ่งเป็นฮูหยินจวนโหวรักใคร่คอยปกป้อง...

นางเอกก็นึกว่าหลังได้กลับคืนฐานะเดิมกลับบ้านตัวเองชีวิตคงจะมีความสุข ที่ไหนได้ทุกข์เหมือนเดิม ไม่ได้ทุกข์กายแต่กลับทุกข์ใจ เพราะมารดาไม่รักไม่สนใจ สนแต่ลูกปลอมๆ ที่เลี้ยงมา ไม่สนิทสนมกับญาติพี่น้อง ทุกคนเมินเฉย พอคล้อยหลังก็พากันหัวเราะเยาะนินทาเรื่องที่นางมาจากชนบทอีก นางเอกไม่อาจปรับทุกข์หรือไประบายให้ใครฟังได้ จึงได้แต่ไปแอบร้องไห้อยู่คนเดียว จนวันหนึ่งพระเอกที่วิญญาณบังเอิญเข้ามาอยู่ในหยกของนางเอกก็ทนไม่ไว้ จำต้องแสดงตัวออกมาเพื่อปลอบโยนและสอนสั่งนางเอกด้วยตัวเอง

พระเอกเป็นรัชทายาท ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนวิญญาณหลุดออกมาสิงอยู่ในหยกที่นางเอกพกติดตัว พระเอกเห็นเหตุกาณ์ที่นางเอกพบเจอในจวนโหวทุกอย่าง วันหนึ่งทนไม่ไหวเลยแสดงตัวออกมา ส่วนนางเอกก็เข้าใจผิดคิดว่าพระเอกเป็นภูตที่สิงอยู่ในหยก? ...พระเอกเป็นคนสอนมารยาท+กิริยาท่าทางการวางตัวแบบคนในตระกูลใหญ่ให้นางเอก เพราะไม่มีใครในจวนบอก+สอนนางเอกเลย นางเอกต้องแอบดูแอบจำเอามาปฏิบัติอย่างผิดๆ ถูกๆ แล้วสุดท้ายก็ถูกคนหัวเราะเยาะ ...แม่แท้ๆ ก็ไม่สนใจไม่ถามถึง ในสายตามีแต่ลูกปลอมๆ 

ความจริงเรื่องสลับตัวนี่จะโทษลูกปลอมๆ ก็ไม่ได้ เพราะคนที่สลับตัว+คนต้นคิดก็คือพ่อแม่ชาวนาของลูกปลอมๆ หรือนางร้ายอะ อยากให้ลูกตัวเองสบายเลยสลับตัวเด็ก แถมทั้งๆ ที่รู้ว่านางเอกเป็นลูกใคร แต่ก็ยังกล้าใช้งานเขาเยี่ยงทาส ทุบตีเขาประหนึ่งวัวควาย หรือคิดว่าแค่ให้ข้าวให้น้ำไม่ทุบตีจนตายก็เรียกว่ามีเมตตามีบุญคุณแล้วหรือ? คือ 13 ปีที่ถูกพรากไปเนี่ยนางเอกถูกสูญเสียอะไรไปเยอะมากเลยนะ แม้สุดท้ายจะได้กลับมาแต่หลายอย่างก็ต่อไม่ติดแล้ว ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือความผูกพันของคนในครอบครัว ขณะที่ลูกปลอมๆ ได้ทุกอย่าง กระทั่งทำผิดแม่นางเอกก็ยังเข้าข้างคอยตามโอ๋ ย่าก็สนใจแต่เรื่องความรุ่งเรืองและผลประโยชน์ของจวนโหว พ่อก็ทำแต่งานเรือนหลังไม่ยุ่ง พี่ชายกับญาติแท้ๆ ก็สนิทสนมเอ็นดูลูกปลอมๆ ที่เติบโตมาด้วยกันมากกว่า ในจวนโหวแห่งนี้มีเพียงพี่สาวแท้ๆ ที่จริงใจต่อนาง แต่อีกไม่นานพี่ก็ต้องแต่งงานไปอยู่ที่อื่นแล้ว ถ้าไม่ได้เจอพระเอก นางเอกก็คงไม่เหลือใครเลย...เฮ้อ

ในเล่มแรกหลังมีพระเอกคอยบอกคอยสอนสิ่งต่างๆ ชีวิตของนางเอกก็เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ต่อให้คนในครอบครัวไม่สนใจแต่ก็ยังมีพระเอกอยู่ข้างๆ ให้คำปรึกษา จนกระทั่งจวนอ๋องในเมืองเดียวกันต้องการหาเพื่อนเรียนให้บุตรสาว ซึ่งจริงๆ นางเอกหาได้สนใจไม่ แต่ลูกปลอมๆ กับรู้สึกวิกฤตเพราะตัวเองอยากไปแต่รู้ว่าคงไม่ได้ไป เนื่องจากนางไม่ใช่คุณหนูจวนโหวจริงๆ นางเลยไปร่วมมือกับคนอื่นเพื่อเล่นงานนางเอก กะให้นางเอกถูกถอดสิทธิ์ไม่ได้ไปเหมือนกัน หาเรื่องใส่ร้ายนางเอกว่าเป็นคนฉีกสมุดกลอนตัวเอง เพราะตอนนั้นนางเอกอยู่ในห้องนั้นคนเดียว วางแผนดักไว้เสร็จสรรพ จนคนอื่นๆ รวมถึงย่าหลงเชื่อ แต่นางเอกไม่ได้ทำดังนั้นตีให้ตายก็ไม่ยอมรับหรอก

สุดท้ายนางเอก ลูกปลอมๆ กับคุณหนูอีกคนก็ถูกลงโทษ แต่ตอนถูกลงโทษมีนางเอกคนเดียวที่กล้ารับโทษเต็มๆ โดยไม่หลบหลีกไม่ร้องไห้ ส่วนคนอื่นยังไม่ทันโดนก็ร้อง หรือโดนไปทีเดียวก็ฟูมฟายจะเป็นจะตายแล้ว แถมยังมีคนมารุมล้อมคอยปลอบอีก พระเอกก็โกรธ+โมโหตัวเองที่เป็นวิญญาณเลยไม่อาจช่วยอะไรได้ ถ้าตอนนั้นเป็นคนอิพี่จะไม่ยอมให้ใครแตะนางเอกแน่นอน...

พอถึงเล่ม 2 พระเอกก็ได้กลับเข้าร่างตัวเอง นางเอกก็เคว้งไปพักที่พระเอกหายไปกะทันหัน ทว่าถึงจะเศร้าแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อปายย เพราะไม่นานนางเอกก็ถูกอิลูกปลอมๆ วางแผนร้ายใส่อีกแล้ว ทว่าคราวนี้ไม่ได้มีแต่ลูกปลอมๆ เท่านั้นที่คิดร้าย แต่ยังมีคนนั้นคนนี้มาวางแผนซ้อนแผนเล่นงานนางเอกร่วมด้วย แต่นางเอกก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครา ส่วนอิลูกปลอมๆ ถูกย่ามองแผนออกหนนี้เลยจะส่งนางไปอยู่วัด แต่จวนอ๋องดันเลือกอิลูกปลอมๆ กับนางเอกมาเป็นเพื่อนร่วมเรียนกับลูกสาว อิลูกปลอมๆ เลยรอดไม่ต้องถูกส่งไปอยู่วัด  

คือหลังจากแผนร้ายครั้งแรกของอิลูกปลอมๆ ที่จะใส่ร้ายนางเอกโป๊ะแตก นับแต่นั้นย่านางเอกก็ไม่สนใจนางอีกเลย ไม่มองเป็นลูกหลาน เป็นเพียงแค่คนที่มาอาศัยอยู่เท่านั้น เปลืองแรงจะพูดสั่งสอน จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่สนแล้ว เหลือแค่แม่นางเอกเท่านั้นที่(โคตร)รักนาง คือแรกๆ ก็เห็นใจแม่นะเพราะเลี้ยงดูมากับมือตั้ง 13 ปี มันก็ต้องผูกพันอยู่แล้ว เพราะลูกอีก 2 คนคือพี่สาวกับพี่ชายนางเอกก็ถูกแยกไปเลี้ยงที่อื่น เลยผูกพันกับลูกปลอมๆ มาก พอนางเอกกลับมาก็เหมือนถูกกดดันด้วย นั่นก็ลูกในไส้นู่นก็ลูกที่เลี้ยงมากับมือ พยายามจะไม่ลำเอียง+รักเอ็นดูเท่าๆ กัน แต่สุดท้ายก็ทำม่ายล่าย สุดท้ายนางเอกเลยถอดใจไม่เอาแม่แล้ว ไม่ต้องการความรักความห่วงใยจากแม่อีกต่อไปแล้ว แบบไม่ต้องมีก็อยู่ได้

สามเล่มแรกจะเป็นเรื่องในบ้านนางเอก การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นของพวกคุณหนูในเรือนหลัง ในเล่มสามนางเอกกำลังจะได้หมั้นหมายกับซื่อจื่นจวนอ๋อง แม้ตัวนางเอกจะไม่ได้ชื่นชอบฝ่ายชายแต่ในเมื่อนี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งทางบ้านก็เห็นด้วย นางจึงได้แต่จำใจยอมรับเส้นทางเดินนี้ ...ส่วนพระเอกเขาก็ได้เจอตัวเป็นๆ กันแล้วนะ แต่นางเอกไม่คิดว่าพี่แกคือคนเดียวกัน แล้วพระเอกก็ไม่ยอมบอกปล่อยให้นางเอกเข้าใจแบบนั้น แต่เวลานางเอกมีปัญหาพระเอกก็จะคอยแอบช่วยอยู่ลับหลังเสมอ ซื่อจื่อจวนอ๋องรู้สึกว่าพระเอกสนใจนางเอกเป็นพิเศษเลยมาพูดเตือนอ้อมๆ พระเอกเลยยอมถอยออกมา 

ทว่าหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่พ่อแม่ชาวนาของนางเอกบุกมาโวยวายที่จวนโหวในตอนที่คนของจวนอ๋องกับย่านางเอกกำลังจะตกลงเรื่องการหมั้นหมายกัน พระชายาจวนอ๋องที่ไม่ชอบนางเอกเป็นทุนเดิมเลยใช้โอกาสนี้บิดพริ้วเรื่องการแต่งงาน ยื่นขอเสนอใหม่ให้นางเอกแต่งมาเข้าเป็นชายารองแทนชายาเอก พอพระเอกรู้ข่าวที่นางเอกถูกบีบให้ต้องเป็นอนุก็โมโห เลยไปขอให้พ่อหรือฮ่องเต้ออกราชโองการ พระราชทานสมรสให้ตัวเองกับนางเอกทันที

ฮ่าๆๆ สะใจอิช้อยยิ่งนัก เพราะพระชายาจวนอ๋องนึกว่าลูกสาวตัวเองจะได้แต่งเป็นชายาของพระเอกแน่นอนแล้ว แบบมั่นมากทั้งแม่ทั้งลูกสาว เพราะไปติดสินบนคนในเมืองหลวงให้ช่วยไว้เรียบร้อยเลยมั่นใจมากกกก ลูกสาวก็ไปคุย+โม้กับคนอื่นไว้เยอะแถมยังไปมีเรื่องกับนางเอกด้วย พอรู้ว่าคนที่ได้แต่งคือนางเอกก็หน้าแตกเพล้งๆ เพราะก่อนหน้านี้ทำกับเขาไว้เยอะ55 ...แต่แอบเสียดายซื่อจื่อจวนอ๋องนะ คือพี่แกก็ดีนะ แต่ติดที่เชื่อใจที่บ้านไปหน่อย เป็นเด็กดีไปนิด สุดท้ายก็กินแห้ว ดีที่พอไม่ได้ก็ยอมปล่อยมือทันที ไม่ตามเซ้าซี้อีก

จากนั้นก็เป็นพาร์ตวังหลวง ศึกในเรือนหลังบ้านนั้นแค่น้ำจิ้ม พอแต่งงานมาเป็นสะใภ้ราชวงศ์นี่สิของจริง (แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าตอนอยู่บ้านเดิมมันกว่านะ) ...ต้องบอกก่อนว่าฮองเฮาในตอนนี้ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของพระเอก แต่เป็นน้าหรือน้องสาวแม่พระเอก แม่พระเอกเป็นฮองเฮาองค์ก่อน น้องสาวแม่แอบเป็นชู้กับพี่เขยหรือฮ่องเต้ แอบมาแซบกันตอนที่แม่พระเอกกำลังนอนป่วย พอถูกจับได้อาการแม่ก็ทรุดเนื่องจากโมโห จากที่ป่วยธรรมดาก็กลายเป็นป่วยหนัก แล้วสุดท้ายก็ตาย พระเอกที่ตอนนั้น 5 ขวบบังเอิญเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี หลังแม่ตายก็เลยห่างเหินกับพ่อและไม่ยอมเรียกฮ่องเต้ว่าเสด็จพ่ออีก แต่จะเรียกว่าฝ่าบาท ส่วนนังน้าสาวก็ได้เข้าวังมาเป็นฮองเฮาแถมยังตั้งท้องมาเรียบร้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพระเอกจะโกรธแค้นขนาดไหน หนำซ้ำครอบครัวฝั่งแม่ก็ยังพร้อมใจกันยืนอยู่ข้างน้าสาว ช่วยกันปิดบังเรื่องที่น้าสาวแอบแซบกับพี่เขยตัวเอง ไม่มีใครยืนอยู่ข้างพระเอกเลย ...

แต่อ่านๆ ไปเราว่าคนที่น่าโมโหที่สุดก็คือฮ่องเต้หรือพ่อพระเอกมากกว่า ใจกว้าง ใจอ่อน ไม่หนักแน่น ไม่เด็ดขาด คือจริงๆ แกก็ดีนะ แบบถ้าเกิดในบ้านคนธรรมดาทั่วไปก็คงจะดีกว่า เพราะนิสัยแบบนี้มันไม่เหมาะกับคนเป็นฮ่องเต้อะ คือหลายครั้งแล้วที่พระเอกเปิดโปงแผนชั่วของฮองเฮาให้พ่อได้เห็นได้รับรู้ แต่พอฮองเฮาบีบน้ำตาพล่ามถึงเรื่องอดีต พ่อก็จะใจอ่อน บอกว่าเดี๋ยวปิดประตูเคลียร์เอง ซึ่งสุดท้ายก็คือปล่อยให้เรื่องเงียบไม่ลงโทษอะไรเลย ยิ่งล่าสุดคือพูดสนับสนุนให้ฮ่องเต้นำทัพออกรบเอง ปรากฏว่ารบแพ้ ซึ่งจริงๆ ถึงฮ่องเต้จะตัดสินใจเองแต่นางก็ถือว่ามีส่วนผิดด้วยแหละ แต่เชื่อปะถ้าฮ่องเต้กลับมาก็คงไม่ทำไรนางคือเก่า ดีนะที่มีคนตัดหน้าลงมือก่อน ไม่งั้นนางคงอยู่เป็นหายนะให้กับพระนางและคนอื่นๆ ต่อไปนั่นแหละ 

แย่ทั้งผัวทั้งเมีย คนหนึ่งก็ดอกบัวขาวส่วนอีกคนก็หูเบาหลงผู้หญิง ยิ่งหลังจากที่พ่อพระเอกไปรบกลับมาคือโคตรจะแย่ แต่ก่อนยังพอทน หลังรบกลับมาคือไม่ไหวอะ ผลงานไม่มีสร้างแต่เรื่อง สงสารคนติดตามไปออกรบด้วยจริงๆ เสาหลักของบ้านเมืองทั้งนั้น พอกลับมาก็ยิ่งหูเบา ขี้ระแวง เชื่อทุกคนเว้นพระเอก ทำดีแค่ไหนก็มองไม่เห็น ยิ่งดียิ่งระแวง ขุนนางในราชสำนักคืออยากให้พระเอกขึ้นครองราชย์ใจจะขาด เพราะพ่อพระเอกไม่ค่อยเอางานเอาการ ไม่ขยัน ไม่หนักแน่นเด็ดขาดเหมือนคนลูก อยู่รอดมาได้ไงก็ไม่รู้ โชคดีแค่ไหนที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครก่อกบฏยึดบัลลังก์

แนวการเมือง การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นของสตรีทั้งในเรือนหลังและวังหลัง ผ่านชีวิตของเด็กสาวที่ถูกอุ้มสลับตัวไปตั้งแต่เกิด จากหงส์กลายเป็นห่าน กระทั่งผ่านไป 13 ปีจึงได้คืนสู่ฐานะเดิม และกลายเป็นหงส์อีกครั้ง...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากเด็กสาวชนบทที่อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็น ถูกญาติพี่น้องดูถูกเหยียดหยาม มารดาไม่ยอมรับ เป็นเสมือนคนนอกครอบครัว แต่เพราะได้กำลังใจและการสอน+ชี้แนะจากวิญญาณในจี้หยก จากเด็กสาวที่ทุกคนดูถูกดูแคลนก็ค่อยๆ มีสง่าราศีเหมือนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ ค่อยๆ เจิดจรัศกลายเป็นคนที่ทุกคนต้องจับตามองและอิจฉาริษยา ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าจนทิ้งห่างทุกคน และจากคุณหนูก็เปลี่ยนเป็นหงส์อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นคนที่ทุกคนไม่อาจล่วงเกินทั้งยังต้องเคารพนบนอบ ได้แต่งกับบุรุษที่หญิงสาวมากมายใฝ่ฝันหมายปอง และได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุรุษที่มีอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน...







วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เรื่องราวของเรากับนาง 3 เล่มจบ

 


เรื่องราวของเรากับนาง 3 เล่มจบ 

ผู้แต่ง : ทาอวี่เติง

ผู้แปล : เบบี้นาคราช

ปก      : Summer

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นักเขียนคนใหม่แกะกล่องจากมากกว่ารัก โทนเรื่องอึมๆ ครึมๆ เทาๆ แฝงปรัชญา บางช่วงอ่านแล้วแอบรู้สึกงงๆ

พระเอกเป็นราชเลขาธิการ บุตรชายคนโตของสกุลจาง สกุลที่เชิดชู+ยึดหลักของสำนักขงจื๊อ แต่ตัวพระเอกกลับยึดในหลักของสำนักนิตินิยมหรือสำนักปรัชญาที่เน้นการปกครองด้วยกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงและเด็ดขาดซะอย่างนั้น ส่งผลให้พี่แกเป็นที่รังเกียจและหวาดกลัวของคนในครอบครัว ขุนนางในราชสำนัก กระทั่งตัวฮ่องเต้เองก็ยังเกรงๆ รู้สึกหวาดกลัวพระเอก (แต่จำเป็นต้องใช้งานเขาอยู่) ส่วนนางเอกเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกคนเก็บไปเลี้ยง เป็นนักสังคีตที่ใช้ความงามความน่าสงสารหาเลี้ยงชีพและเอาชีวิตรอด ถูกหลอกใช้ให้ไปสังหารฮ่องเต้ แต่ไม่สำเร็จ ขณะหนีตายก็บังเอิญได้พบกับรถม้าของพระเอกเข้าพอดีเลยรอดมาได้ จากนั้นพระเอกก็พานางเอกกลับจวนตัวเอง

พระเอกเป็นคนเย็นชาโหดเหี้ยม จิตใจแข็งกระด้าง เหี้ยมทั้งกับตัวเองและผู้อื่น ช่วงแรกๆ นางเอกคือไม่อยากอยู่กับพระเอกเลยเพราะกลัวมาก ไม่รักหยกถนอมบุปผา เฆี่ยนจริงเจ็บจริง แต่พี่แกก็มีวัยเด็กที่น่าสงสารขื่นขม บนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายจากการถูกพ่อ(ไม่แท้)ลงโทษด้วยกฏบ้าน และจากตอนเข้าร่วมรบ ในหนังสือไม่ได้บอกชัดๆ ว่าพ่อแท้ๆ ของพระเอกเป็นใคร รู้เพียงว่าตายอย่างอนาถ และตระกูลหนึ่งในเรื่องที่ถูกพระเอกจัดการก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อพระเอกด้วย 

เคยฟังตอนที่พี่แจ่มมาเล่าเรื่องย่อในไลฟ์ที่บอกว่า 'พระเอกต้องแบกคำประณามว่าสังหารบิดาตัวเอง' ตอนนั้นก็คิดอยู่ว่าพระเอกน่าจะโดนใส่ร้าย แต่พอไปอ่านเอง... เออถึงไม่ได้ลงมือแต่ก็มีส่วนผลักดันแหละ คือเรื่องนี้ตัวละครจะออกเทาๆ อะ พระเอกก็โหดจริงๆ จนน่ากลัว ฉากแรกตอนเจอนางเอกแล้วมีทหารตามมาถึงรถม้า ทหารก็ขอตรวจสอบรถม้าเพื่อหาตัวคนร้าย พระเอกก็ให้ดู(แต่จัดฉาก) ดูเสร็จไม่พบคนอิพี่ก็ให้คนสนิทควักลูกตาทหารที่มาตรวจสอบเลยเดี๋ยวนั้น ...คือโหดแท้ โหดอะไรขนาดนั้น เขาก็ต้องทำตามหน้าที่ไหมอะเนาะ ...ต่อๆ หลังพานางเอกกลับจวนพี่แกก็สอนนางเอกอ่านเขียน พยายามเปลี่ยนนางเอกให้กลายเป็นสตรีที่เข้มแข็งมีศักดิ์ศรีไม่เหยียบย่ำตัวเอง รู้ว่าอะไรคือความละอาย และสามารถเอาตัวรอดได้ในโลกในสังคมนี้โดยที่ไม่ใช้เรือนร่างหรือความน่าสงสารมาเรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่น และหากทำผิดพี่ก็พร้อมลงโทษ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

แต่พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่ด้านบุ๋นนะ ด้านบู๊พี่แกก็ได้ สมัยหนุ่มๆ เคยจับดาบเข้าร่วมกองทัพ เคยเกือบตุยมาแล้วทว่าก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด แล้วก็ได้เพื่อนรักมาหนึ่งจากสงครามครั้งนั้น เพื่อนรักก็หลงรักน้องสาวพระเอกอย่างหัวปักหัวปำ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแม้สาวเจ้าจะไม่รักตอบก็ตาม พระเอกก็เคยเตือนว่าให้ระวังจะทำให้เสียงานเสียการใหญ่ ทว่าเพื่อนรักก็ไม่ฟัง สุดท้ายหน้าที่การงานพัง แม้แต่ชีวิตก็เกือบรักษาเอาไว้ไม่ได้... 

พระเอกเรื่องนี้มีแต่คนกลัว ขนาดฮ่องเต้ก็ยังหวาดกลัวพี่แกเลย ในตอนที่พระเอกพานางเอกเข้าวังไปรับโทษเรื่องคดีลอบปลงพระชนม์น่ะ คือพระเอกก็รู้แหละว่าใครคือคนบงการ ซึ่งพี่แกก็ใช้นางเอกเป็นหมากบีบตัวคนที่บงการออกมาจนได้รับโทษ ส่วนนางเอกในฐานะคนลงมือปกติมันก็ต้องได้รับโทษด้วยใช่เปล่า ฮ่องเต้ก็เลยมอบโทษตายให้นาง แต่พระเอกคือไม่ให้ไม่สนจะพานางเอกกลับไปเป็นสาวใช้ตัวเอง โคตรหักหน้าฮ่องเต้ ...ซึ่งจริงๆ พระเอกต้องการทดสอบขีดจำกัดของฮ่องเต้นั่นแหละว่าจะยอมถอยให้ขนาดไหน สุดท้ายฺฮ่องเต้ก็ต้องยอมให้อย่างเสียไม่ได้ ... แล้วในที่สุดพระเอกก็ก่อกบฏขึ้นเป็นฮ่องเต้ สังหารขุนนางผู้ภักดีที่ขวางทางจนเหี้ยน ส่วนนางเอกก็ถูกพาเข้าวัง เป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวในวังหลวงที่ได้อยู่ข้างกายคอยติดตามรับใช้ฮ่องเต้อย่างใกล้ชิด จะบอกว่าเป็นพระสนมก็ไม่ใช่หรือจะเป็นสาวใช้ก็ไม่เชิง

นางเอกเป็นสาวงามถูกเก็บมาเลี้ยงโดยพี่ชายที่กำลังจะตาบอด ตัวตนที่แท้จริงของพี่ชายเป็นใครเดาไม่ยากอ่านแป๊บๆ ก็รู้แล้ว แต่ไม่ว่ายังไงพี่ชายก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองคืนคนผู้นั้น ความจริงชะตาชีวิตพี่ชายก็น่าสงสารไม่แพ้กัน เคยเป็นถึงคุณชายสูงศักดิ์เกิดในวงศ์ตระกูลขุนนางเก่าแก่ มีดีทั้งรูปโฉมและสติปัญญา เป็นคุณชายที่ไม่ฝักใฝ่ในลาภยศ เพราะบ้านรวยมีตระกูลหนุนหลัง จะดีดพิณแต่งกลอนท่องเที่ยวไปเรื่อยไม่ทำงานทำการก็ไม่มีใครว่า แต่เมื่อถึงวันที่บ้านล้มครืนวงศ์ตระกูลสูญสิ้นเลือดไหลนองเป็นสายน้ำ ตอนนั้นแหละถึงได้ตระหนักถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง มีดีซะเปล่าแต่กลับไม่สามารถปกป้องวงศ์ตระกูลหรือรักษาใครในครอบครัวไว้ได้เลย หลังรอดมาได้ก็เร้นกายเก็บตัว+สร้างตัวหมากเพื่อรอวันแก้แค้น โดยไม่สนใจว่าระหว่างทางหรือในขณะที่กำลังดำเนินแผนการจะต้องสังเวยและสูญเสียชีวิตของคนบริสุทธิ์ไปมากน้อยเพียงใด

เป็นแนวการเมืองการปกครอง+สงครามการสู้รบ แฝงด้วยปรัชญา มีเลิฟไลน์ของพระนางบ้างเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้หวานนะ เพราะพระเอกเขาไม่ค่อยชอบเรื่องระหว่างชายหญิง ควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ แต่ถ้าถามว่าฝ่ายไหนตกหลุมรักเขาก่อน...ก็พระเอกอีกนั่นแหละ ส่วนนางเอกคือไม่เชื่อไม่เคยคิดเลยว่าสุดท้ายพระเอกจะมาชอบคนอย่างตัวเอง ฐานะต่ำต้อย อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาเป็นนักสังคีต วันๆ ต้องคลุกคลีอยู่กับพวกบุรุษ จึงคิดมาตลอดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับพระเอกเลยสักนิด ...มารู้ชัดก็ตอนเล่มสุดท้ายนี่แหละ แต่คนรอบข้างคนสนิทพระเอกอะดูออกนานแล้วว่าพระเอกชอบใคร แต่ไม่สนับสนุน เพราะอยากให้พระเอกแต่งกับสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะเหมาะสมกันมากกว่า แต่มีหรือคนอย่างพระเอกจะฟัง? ก็อยู่แบบไม่แต่งตั้งสนมไม่แต่งตั้งฮองเฮามันไปนี่แหละ ใช้ชีวิตแบบกลางวันทำงานในวังพอตกกลางคืนก็กลับบ้าน(จวนเก่าของพระเอก)ไปหานางเอก ใครจะต่อว่าจะยื่นฎีกายังไงฉันก็จะทำแบบนี้แหละ 

...อ่านจบแล้วรู้สึกหม่นๆ หดหู่ พระเอกเด็ดขาดมากจริงๆ จนอดเศร้าไม่ได้กับจุดจบของบางตัวละคร ยิ่งจุดจบของพี่ชายนางเอกนี่แบบโอยยย ความจริงก็เคยอ่านเจอแบบนี้จากนิยายเรื่องหนึ่งมาก่อน แล้วก็ยังสะเทือนใจไม่หายมาจนถึงทุกวันนี้🫥 ...แม้สุดท้ายพระนางจะสมหวังได้อยู่ด้วยกัน แต่พี่น้องแทบไม่เหลือ พ่อไม่แท้ตาย แม่ตัวเองก็ไม่เอารับไม่ได้ เหลือแต่นางเอกที่คงเข้าใจพระเอกที่สุดแล้ว แถมพอผ่านไปนานวัน คราวนี้ก็ถึงตาคนสนิทที่เคยติดตามที่เคยมีส่วนช่วยในการช่วงชิงบัลลังก์บ้างแล้ว เหตุเพราะอีกฝ่ายเริ่มเป็นอุปสรรคมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน (จริงๆ ก็ปกติของคนเป็นฮ่องเต้แหละ) ...ดีนะที่หนนี้พระเอกใจอ่อนยอมไว้ชีวิต(บ้างแล้ว)

ความรักหวานๆ ขมๆ ตัวละครออกเทาๆ นางเอกเข้มแข็งและสามารถปกป้องตัวเองได้อย่างที่พระเอกวาดหวัง เผลอๆ อาจจะแข็งแกร่งกว่าที่พี่แกคิดไว้ซะด้วยซ้ำ จนพระเอกแอบกลัวว่าวันหนึ่งนางเอกอาจจะทิ้งตัวเองไป...



 

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

อยากบอกว่าข้าไม่ใช่ฮูหยินใหญ่ 3 เล่มจบ

 


อยากบอกว่าข้าไม่ใช่ฮูหยินใหญ่ 3 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ซีพั่นฉา

ผู้แปล : เสี่ยวหวา

ปก : Rong Jing

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องนี้มาแนวเรียบๆ เรื่อยๆ ตามสไตล์คุณนักเขียนแต่ภายใต้ความเรียบๆ มันก็มีปมที่น่าติดตามซ่อนอยู่ 

มาพูดถึงพระเอกก่อน พระเอกเรื่องนี้เป็นใบ้ อดีตเคยเป็นคุณชายสูงศักดิ์ที่มีสตรีมากมายชื่นชมหมายปองอยากแต่งงานด้วย เป็นศูนย์รวมและจุดศูนย์กลางของเพื่อนฝูง ทว่าหลังจากพ่อแม่ตาย ปู่พระเอกที่แสนจะลำเอียงรักใคร่หลานชายคนโตอย่างพระเอกสุดๆ ก็ตัดสินใจให้หลานรักเป็นผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อแทนบุตรชายคนโตที่ล่วงลับไป และหลังจากนั้นพระเอกก็ถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บหนักเกือบตาย หลังรอดมาได้ก็กลายเป็นใบ้พูดไม่ได้แถมยังมีแผลเป็นที่แขนติดตัวไปตลอดชีวิต หนำซ้ำบรรดาศักดิ์ที่เคยเป็นของตนก็ยังถูกยกเลิกและถูกส่งต่อให้กับท่านอาที่เป็นน้องชายของพ่อแทนอีก แล้วไหนจะเรื่องที่ปู่ไม่เชื่อเรื่องที่พระเอกบอกว่าใครคือคนร้ายตัวจริง พระเอกใจสลายเลยหนีออกจากบ้านไปตัวเปล่าไม่กลับมาอีกเลยจนผ่านไป 5 ปี... หุๆ

นางเอกเป็นบุตรสาวอนุ คุณหนูสามตระกูลสวี มีท่านปู่เคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงเสนาบดี แต่พอปู่ตายตระกูลสวีก็ค่อยๆ ถดถอยเพราะไม่มีคนเก่งๆ อย่างปู่อีก ...พี่สาวคนโตของนางเอกที่เป็นบุตรสาวภรรยาเอกมีสัญญาหมั้นหมายกับพระเอกมาตั้งแต่เด็ก แต่พอพระเอกกลายเป็นใบ้และไม่มีบรรดาศักดิ์ ตัวพี่สาวกับแม่ก็อยากถอนหมั้น ตอนฝั่งบ้านเจ้าบ่าวมาคุยเรื่องงานแต่งก็ทำเป็นตกลงดิบดีแต่ลับหลังคือวางแผนหนีที่ไล่ไว้เรียบร้อย เดิมหวยไปออกที่พี่สาวคนรองของนางเอก แต่พี่คนรองไหวตัวทันแอบหนีไปก่อน สุดท้ายหวยเลยไปออกที่นางเอกแทน บุตรสาวอนุที่ไร้มารดาส่วนบิดาก็ไม่เคยสนใจ อยู่ในจวนแบบไร้ตัวตน ไม่มีใครหนุนหลังและไม่มีผู้ใดให้พึ่งพิง 

นางเอกถูกจับแต่งงานแทนพี่สาวลูกภรรยาเอก โดยที่พระเอกก็รู้ และไม่ใช่แค่พระเอกเท่านั้นที่รู้ เพราะครอบครัวท่านอารองของพระเอกก็รู้ แต่ทุกคนเลือกที่จะปล่อยเบลอ เพราะทุกฝ่ายต่างก็มีแผนการของตนอยู่ในใจ ...แต่โชคดีที่การแต่งงานนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด นางเอกอยู่ที่จวนพระเอกยังมีอิสระและมีความสุขมากกว่าตอนอยู่บ้านเดิมของตัวเองเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินเสื้อผ้า รวมถึงอดีตพี่เขยหรือสามีใบ้ผู้นี้ก็ยังหล่อเหลาและนิสัยดีกว่าที่คาดคิด แถมยังไม่มีแม่สามีหรือญาติผู้ใหญ่มาคอยกดข่มวางอำนาจใส่ และถึงจะมีคนของบ้านรองมาหาเรื่องบ้าง แต่ทุกอย่างก็มีพระเอกคอยหนุนและออกหน้าให้ ดังนั้นนานวันเข้านางเอกจึงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยหวาดกลัวระมัดระวังเหมือนอย่างช่วงแรกๆ หรือเหมือนตอนอยู่บ้านเดิมอีก

เป็นแนวการเมืองราชสำนักและเรื่องราวภายในบ้านของพระเอก ฝั่งนางเอกไม่ค่อยมีไรอะ ถึงจะเป็นลูกอนุแต่พอแต่งงานออกมาแล้วก็จบ คนที่บ้านมาก้าวก่ายอะไรไม่ได้อีก หลักๆ จะอยู่ที่เรื่องภายในบ้านพระเอกมากกว่า เป็นความแค้นระหว่างพระเอกกับอิบ้านรอง ...เพราะท่านอาของพระเอกไม่พอใจที่พ่อไม่ยกบรรดาศักดิ์ให้ตนต่อหลังจากที่พี่ชายตาย แต่กลับไปมอบให้หลานแทน เลยมองว่าพ่อลำเอียงรักแต่หลานชายคนโตซึ่งก็คือพระเอก แต่พ่อก็ลำเอียงจริงๆ แหละ55 เพราะรู้ว่าลูกตัวเองเก่งไม่เท่าหลานไง อาพระเอกแค้นเลยจ้างคนไปดักฆ่าพระเอก ซึ่งพระเอกก็รู้ว่าเป็นฝีมืออาแต่ไม่มีหลักฐาน ส่วนปู่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะยังหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้เหมือนกัน ...

หลังพระเอกหนีหายไป 5 ปีก็กลับมาเพราะปู่ป่วยหนัก แล้วก็กะจะกลับมาแก้แค้นท่านอาด้วย เวลาท่านอาวางแผนจะทำอะไรพระเอกก็จะคอยสกัดทำให้อิท่านอาชวดไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา กลายเป็นคนที่มีแต่บรรดาศักดิ์ลอยๆ ทว่ากลับไม่มีงานหรือตำแหน่งอะไรในราชสำนัก เพราะเคยมีคนไปกระซิบบอกฮ่องเต้ว่าอิท่านอาวางแผนทำร้ายหลานตัวเอง จึงทำให้ฮ่องเต้เกิดความรู้สึกไม่ดี เลยยกตำแหน่งเดิมของปู่พระเอกให้คนอื่นแทน และไม่เคยเรียกใช้งานอิท่านอา ไม่ให้ความสำคัญใดๆ เป็นท่านปั๋วที่ว่างงานไปวันๆ

ส่วนเรื่องความรักก็เรียบๆ ไม่หวือหวา เริ่มจากคนแปลกหน้า จากนั้นก็ค่อยๆ ทำความรู้จักแล้วพัฒนาความรู้สึกไปเรื่อยๆ พระเอกเป็นคนอ่อนโยน เป็นคุณชายสูงสง่า ไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตอยู่ด้วยง่ายดี ภายนอกดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่จริงๆ เป็นคนฉลาดเจ้าแผนการและในหัวก็มีแต่เรื่องวางแผนแก้แค้น...หึๆ ขนาดไม่มีตำแหน่งอะไรยังทำให้ทั้งราชสำนักปั่นป่วนได้อะคิดดู(ร้ายอยู่นะ) แต่อ่านๆ ไปจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเนื้อแท้พระเอกอะเป็นคนเผด็จการ55 ...ส่วนนางเอกก็เหมือนกระต่ายน้อยใสซื่อ เฉื่อยๆ ไม่เคยเห็นโลกกว้าง เพราะเป็นลูกอนุที่ไม่มีใครสนใจเหลียวแล นิสัยช่วงแรกๆ คือเหมือนเด็ก(ก็เพิ่ง 16 เอง) ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย ไม่เคยแม้แต่ไปกินอาหารข้างนอก แบบไม่เคยเห็นโลกภายนอก(บ้าน)จริงๆ แต่น้องก็มีความสุขได้ด้วยการอ่านหนังสือกับปลูกดอกไม้ เวลาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็สามารถเอาตัวรอดได้ เหมือนกระต่ายน้อยน่ารักแต่หากตกอยู่ในอันตรายก็กัดคนได้นะเออ!

ใช่แล้ว! นางเอกเรื่องนี้เป็นคนรักการอ่าน สิ่งที่ชอบที่สุดในชีวิตก็คือหนังสือ เวลาพระเอกพาไปร้านหนังสือหรือเอาหนังสือใหม่ๆ มาให้นางเอกจะดีใจฝุดๆ เหมือนได้เจอขุมทรัพย์ บางทีเวลาพระเอกออกไปทำธุระข้างนอกก็จะพานางเอกไปทิ้งไว้ที่ร้านหนังสือแล้วค่อยกลับมารับ แค่นี้นางเอกก็มีความสุขแล้ว แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย55 ...เดิมพระเอกตั้งใจจะเป็นแค่สามีภรรยาหลอกๆ กับนางเอก หลังทุกอย่างเรียบร้อยก็จะหาสถานที่เหมาะๆ ให้แล้วปล่อยคนไป แต่นั่นแหละ...พออยู่ไปอยู่มาได้ใกล้ชิดความคิดก็เปลี่ยน เมียคนนี้ก็นิสัยดีเรียบง่าย น้องสาวเราก็ชอบ อยู่ด้วยแล้วสบายใจดี เรือนหลังก็เงียบสงบ แล้วเรื่องอะไรพี่แกจะยอมปล่อยคนล่ะทีนี้...หึๆ

หลังจากนั้นพระเอกก็ได้เดินทางไปสืบคดีที่ต่างเมืองในฐานะผู้ติดตามของสหายที่เป็นขุนนาง เรื่องที่ท่านอ๋องคนหนึ่งถูกลอบทำร้ายระหว่างเดินทางมาแต่งงานตามสมรสพระราชทานที่เมืองหลวง คือฮ่องเต้เรื่องนี้อะอายุ 50 แล้ว ทว่ากลับยังไม่มีทายาทหรือผู้สืบทอดเลย พวกขุนนางเลยเรียกร้องให้ฮ่องเต้รับหลานตัวเองหรือท่านอ๋องคนอื่นๆ มาเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งจะมี 2 อ๋องที่เป็นตัวเต็งและมีขุนนางในราชสำนักคอยแอบสนับสนุนอยู่ลับๆ ...การมาสืบคดีครั้งนี้นอกจากจะทำให้ได้รู้เรื่องการทุจริตของขุนนางในท้องที่ พระเอกก็ยังได้พบกับเบาะแสของคนร้ายที่เคยลงมือทำร้ายตัวเองเมื่อ 6 ปีก่อนโดยไม่คาดคิดอีกด้วย 

หลังจากนั้นเรื่องที่พระเอกโกหกเอาไว้ก็โป๊ะแตกถูกนางเอกจับได้ นางเอกเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างจนได้รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งที่หมดประโยชน์แล้วจึงคิดจะจากไป จากที่เคยสดใสร่าเริงน้องก็เริ่มนิ่งเงียบ พระเอกก็รู้สึกว่าเมียแปลกๆ แต่ช่วงนั้นงานเยอะจึงไม่มีเวลามาสนใจ จนมาแอบได้ยินเมียคุยว่าจะปล่อยสาวใช้คนสนิทให้เป็นอิสระและบลาๆ พระเอกถึงได้ตื่นตัว ไม่คิดว่าเจ้ากระต่ายน้อยของตัวเองจะใจเด็ดถึงเพียงนี้ เพราะหลังๆ นางเอกก็เริ่มโตขึ้น ไม่ได้ใสซื่ออะไรขนาดนั้นแล้ว แต่ก่อนคือใสซื่อมากจริงๆ ขนาดที่คิดว่าการเข้าหอทำลูกคือการที่หญิงชายนอนเตียงเดียวกันเฉยๆ อะ ...พระเอกก็เออออประสมโรงไปด้วยอีกจนนางเอกเชื่อตามนั้นจริงๆ แต่พอน้องรู้ว่าถูกหลอกก็วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเลยนะว่าต่อไปหากหย่าแล้วจะอยู่ยังไง ยิ่งพอได้ออกหนังสือมีรายได้จากการเขียนนิยาย หาเงินเองได้ น้องก็ยิ่งมีความมั่นใจในตัวเอง

ขณะที่เรือนหลังของพระเอกกำลังอึมครึม เรื่องการเมืองก็เริ่มเดือดไม่แพ้กัน เพราะฮ่องเต้ไม่มีวี่แว่วจะเลือกทายาทเสียที ใครหลายคนจึงเริ่มนั่งไม่ติด แล้วไหนจะเรื่องมือสังหารในคราวนั้นที่สืบไปสืบมาก็ดันได้พบกับผู้อยู่เบื้องหลังที่ไม่คาดคิดอีก! ส่วนอิบ้านรองหรือท่านอาของพระเอกก็เที่ยวหว่านเงินวิ่งเต้นไปทั่วเพื่อสืบข่าว+หาเส้นสาย ทำให้ปู่พระเอกรู้สึกผิดหวังกะอิบ้านรองจนเกินจะเยียวยา เลยตัดสินใจยกทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเองทั้งหมดให้กับพระเอก พอบ้านรองรู้ก็ไม่พอใจ คือจริงๆ บ้านรองก็มีตังค์นะ เพราะปู่พระเอกเคยเป็นขุนนางที่ทำเกี่ยวกับเกลือ(เลยได้ผลประโยชน์เยอะ) ที่ปู่ยกให้พระเอกก็คือส่วนของตัวเอง ส่วนพวกกองกลางบ้านรองก็ได้ปกติ แต่บ้านรองคือไม่ยอมคิดว่าปู่ลำเอียง เลยจะงัดแผนเดิมเมื่อ 6 ปีก่อนมาใช้อีกแล้ว คือบรรดาศักดิ์ก็จะเอา ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ต้องได้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรแท้ๆ... เฮ้อ

ป.ล.รู้สึกว่าจุดจบของตัวร้ายดูง่ายไปหน่อย 

ป.ล.ตัวพี่สาวลูกภรรยาเอกกับแม่ใหญ่ของนางเอกหลังนางเอกแต่งออกมาก็ไม่ได้มีบทไรมาก โดยเฉพาะตัวแม่ นึกว่าจะร้ายและมีบทมากกว่านี้ แต่พอนางเอกแต่งออกมาก็เหมือนหมดบทแล้วเลยอะ พ่อนางเอกยิ่งไม่ต้องพูดถึง สรุปว่าพ่อนางเอกชอบออกจากจวนไปทำอะไรเนี่ย ถึงไม่ค่อยกลับมาบ้าน หรือเบื่อบ้านเฉยๆ เลยไม่อยากกลับ ...ส่วนอาสะใภ้พระเอกก็งั้นๆ ทำอะไรเรือนหลักของพระเอกไม่เคยได้ พอๆ กันทั้งสองสามีภรรยา😑 (เว้นเมื่อ 6 ปีก่อน ที่บังเอิญไปเจอนักฆ่าเก่งจริงๆ)


วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568

ชะตาม่ายเจ็ดครา ปรารถนาเพียงรักเดียว 4 เล่มจบ

 


ชะตาม่ายเจ็ดครา ปรารถนาเพียงรักเดียว 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เซี่ยวเจียเหริน

ผู้แปล : DAAL

ปก : Reine_Beammer

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ผลงานของคุณนักเขียนชายาสุดโปรดดด เรื่องนี้นางเอกเป็นบุตรสาวของจวนกั๋วกงและมีลูกพี่ลูกน้องเป็นถึงฮองเฮา แต่ด้วยหน้าตาที่สะสวยจึงชักนำภัยมาสู่ตน ทำให้พลาดตกหลุมพรางของลูกพี่ลูกน้องและต้องเข้าวังมาเป็นสนมอย่างไม่เต็มใจ ทว่ายังไม่ทันได้ถวายตัวฮ่องเต้เฒ่าก็มาชิงตายไปเสียก่อน แต่ความซวยยังไม่หมด เพราะคำสั่งเสียก่อนตายของฮ่องเต้เฒ่าจึงทำให้นางเอกต้องถูกฝังตามฮ่องเต้ไปด้วย อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนั้นนน นางเอกยังไม่อยากตายเลยไปคุกเข่าอ้อนวอนที่หน้าหยกสลักรูปพระโพธิสัตว์ วิงวอนขอให้ตนรอดพ้นจากความตายในครั้งนี้ พระโพธิสัตว์เห็นใจจึงมาชี้ทางสว่างให้ในความฝัน บอกว่าหากนางอยากรอดก็ต้องกลับไปแก้ไขชะตาตัวเองในเจ็ดชาติก่อน ต้องทำให้ตนเองรอดพ้นจากการเป็นม่าย และทำให้สามีในชาตินั้นๆ รักนางอย่างสุดหัวใจ หากทำสำเร็จไม่ใช่แค่รอด แต่ยังจะได้มีชีวิตที่มั่นคั่งและมีอำนาจอีกด้วย...โฮะๆๆ

ชาติแรกนางเอกไปอยู่ในร่างของหญิงสาวชาวบ้านที่มีหน้าตางดงามคล้ายกับตนและมีบิดาเป็นซิ่วไฉ เจ้าของร่างเก่าชอบคนรวยเหยียดคนจน เป็นคนโผงผางสู้คน ชอบเที่ยวเล่นซุกซนอยู่ไม่ติดบ้าน ต่างจากนางเอกที่เป็นหญิงสาวในห้องหอ บุตรสาวขุนนางชั้นสูงที่อ่อนโยนเรียบร้อย แทบไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลยและไม่ถนัดงานใช้แรง แต่ดีที่บ้านใหม่นี้ถึงจะไม่ร่ำรวยมั่งคั่งดังเช่นบ้านนางที่เป็นจวนกั๋วกง แต่หากเทียบกับคนอื่นๆ ในหมู่บ้านก็ยังเรียกได้ว่ามีฐานะ อีกทั้งทุกคนในบ้านก็ยังเห็นเจ้าของร่างเก่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจจึงไม่เคยบังคับให้ร่างนี้ทำงานหนักอะไรเหมือนกับเด็กสาวคนอื่นๆ ในหมู่บ้านชนบท นางเอกเลยได้ใช้ชีวิตเยี่ยงคุณหนูเหมือนเก่า+ไม่ต้องทำงานใช้แรงอะไรไปด้วย 

นางเอกตั้งใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่แต่กับปั๋วเก่าที่เป็นคุณชายเสเพลไม่เอาไหนอีก แต่ปั๋วเก่ากลับไม่ยอมปล่อยนาง พอเห็นหน้านางก็หลงใหลถูกใจอยากได้ทันที พอไม่ได้ก็วางแผนลักพาตัว แม้จะโชคดีที่มีคนมาช่วยทัน แต่ถึงกระนั้นก็ต้องแลกมาด้วยกับการที่ชื่อเสียงเสียหาย และลงท้ายด้วยการต้องแต่งกับคนที่มาช่วยซึ่งเป็นนายพรานสูงใหญ่ล่ำบึก ...การแต่งงานที่ไม่ได้มาจากความรักแต่เป็นเพราะถูกสถานการณ์บังคับ แม้นางเอกจะงดงามเพียงใดแต่พี่นายพรานก็หาได้สนใจไม่ เป็นผู้ชายคนเดียวในหมู่บ้านเลยมั้งที่ไม่ได้ชอบนางเอก เพราะพี่เขารู้นิสัยของเจ้าของร่างเก่า ไม่ชอบที่เจ้าของร่างเก่ามีนิสัยชอบดูถูก+เหยียดคนที่ต่ำกว่า ทำตัวเหมือนคุณหนูหยิบหย่งทำอะไรไม่เป็น ... 

มีภรรยาบ้านไหนที่แต่งงานมาวันแรกก็เรียกให้สามียกน้ำล้างหน้ามาให้ ทำอาหารให้กิน มีแต่บ้านนี้แหละจ้าาา มันเลยยิ่งตอกย้ำความคิดของพี่นายพรานที่ว่านางเอกทำอะไรไม่เป็น พี่แกเลยตั้งชื่อเล่นให้นางเอกอยู่ในใจเงียบๆ ว่า 'คุณหนูเจียว' 55 ... แต่ถึงนางเอกจะมีนิสัยคุณหนู แต่นางก็สวย เอ้ยๆ แต่นางก็พร้อมเรียนรู้+ปรับตัวเพื่อทำให้สามีรักนางอย่างสุดหัวใจนะ สามีสอนอะไรนางก็พร้อมเรียนรู้ เรียนดีบ้างไม่ดีบ้างแต่นางก็มีความพยายาม หากอันไหนที่มันไม่ได้ดูแล้วไม่เหมาะกับคุณหนูเจียวสามีก็ไม่เคยไปบังคับให้นางทำ (ส่วนหนึ่งคืออิพี่เขาทนเห็นเมียคนงามลำบากไม่ได้55) 

คนหนึ่งคือ(วิญญาณ)คุณหนูสูงศักดิ์ ส่วนอีกคนคือหนุ่มชาวนาชาวบ้านธรรมดาที่ต้องปากกัดตีนถีบ ถึงจะแตกต่างแต่เขาก็เข้ากันได้(ดี)นะ คนหนึ่งพยายามปรับตัวส่วนอีกคนก็พยายามเข้าใจ ไปๆ มาๆ ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีปัญหาภายในครอบครัวบ้างแต่สามีก็พร้อมเข้าข้างและยื่นฝั่งเมียเสมอ ถึงสามีชาตินี้จะเป็นพรานป่าเป็นชาวนาเลี้ยงหมูแต่พี่แกก็ซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง รักครอบครัวและเป็นผู้นำที่ดี แอบขำตอนที่นางเอกสงสัยว่าทำไมสามีถึงไม่ให้ตนดูแลการเงินในบ้านสักที มารู้ที่หลังว่าเงินมันมีน้อยแค่ 400 เหวินเอง สามีกลัวนางจะรังเกียจเลยยังไม่ให้นางดูแล แค่นั้นเอง55

ชาติที่สองสามีเป็นพ่อค้า นิสัยผิดกับสามีในชาติแรกลิบลับ กะล่อนปลิ้นปล้อน เจ้าเล่ห์ แรกๆ ออกแนวตบจูบจำเลยรัก55 ...ชาตินี้เจ้าของร่างคนเก่าเป็นคนงามขี้โรคร่างกายอ่อนแอ พ่อแม่ตายหมด เลยต้องมาอาศัยอยู่ที่บ้านคู่หมั้นตั้งแต่เด็ก เป็นคู่เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ทั้งสองบ้านทำการค้า แต่แล้ววันหนึ่งบ้านคู่หมั้นก็ตกอับเช่นกัน ดังนั้นนางเอกกับคนในบ้านของคู่หมั้นเลยต้องไปขออาศัยพึ่งพิงญาติห่างๆ ของฝั่งคู่หมั้นซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าอันดับหนึ่งที่อยู่อีกเมือง นางเอกรู้ว่าในชาติก่อนคู่หมั้นจะไปชอบคนอื่นและพยายามขอถอนหมั้นตัวเอง แล้วสุดท้ายเจ้าของร่างเก่าก็ป่วยตายอย่างมีเงื่อนงำ นางเอกสงสัยว่าคู่หมั้นอาจจะเป็นคนวางยาจึงวางตัวห่างเหินเย็นชากับเขา ตั้งใจว่าจะมองหาสามีใหม่ไม่เอาคนนี้แน่นอน ...

แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะดันไปเป็นที่ต้องตาต้องใจของท่านอาคู่หมั้นหรือก็คือเจ้าของบ้านที่ตนมาอาศัยพึ่งพิงซะได้ นอกจากจะอายุมากกว่านางเอกเป็นสิบปี นิสัยอิพี่ก็ยังเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนอีกต่างหาก แล้วคุณหนูในห้องหอใสๆ อย่างนางเอกมีหรือจะสู้พี่แกได้ ออกไปข้างนอกด้วยกันครั้งแรกก็เจออิพี่จับจูบเลย ออกตัวแรงมากอิผีเอ้ยๆๆ อิพี่🤣 ไม่ปิดบังความหื่นกระหายเลย เขาย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกแล้วก็ยังจะตามไปซื้อบ้านหลังที่เขาเช่า ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้นางเอกมาครอบครองเจรงๆ 

ตอนแรกนางเอกเกลียดอิพี่มากกก เพราะสามีชาติแรกแม้จะเป็นชาวนาดูดิบเถื่อน แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษไม่เคยบังคับฝืนใจพระเอกฝุดๆ ส่วนชาติที่สองนี่มันอะไรยังกับตัวร้าย(จับสลากได้บทพระเอกมาใช่มั้ย พูดดด!!) แต่มันไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากพี่แกแล้วไง นางเอกเลยต้องยอม แล้วก็ตั้งกฏกติกาให้พี่แกฝ่าด่าน ถ้าทำได้ถึงจะยอมนอนด้วย เช่นให้เก็บอึหมาสามวัน ทำอาหาร ท่องคัมภีร์ ประมาณนี้ 

...จริงๆ นางเอกโอเคนะถ้าอิพี่จะมาสู่ขอดีๆ นางก็จะยอมแต่งด้วย ทว่าอิพี่ก็ดันมีคู่หมั้นคู่หมายแล้วเหมือนกัน แถมฝั่งคู่หมั้นยังเป็นถึงลูกสาวเจ้าเมืองอีกต่างหาก จะเกี่ยวดองกันเพื่อผลประโยชน์ เลยถอนหมั้นยากกว่าของนางเอก ตอนแรกอิพี่เลยกะจะให้นางเอกเป็นอนุแต่นางเอกไม่ยอม จะให้เป็นภรรยาอยู่ข้างนอกนางเอกก็ไม่เอา ถ้าจะเป็นแบบนั้นนางขอไปหาผู้ใหม่ดีกว่า แต่งเป็นภรรยาคนจนยังดีกว่าแต่งเป็นอนุคนรวย ...ตลกตอนนางเอกเลี้ยงหมาแล้วเอาชื่อสมัยเด็กอิพี่มาตั้งเป็นชื่อหมาอะ คือทุกคนรู้ว่าอิพี่ไม่ชอบชื่อนี้และห้ามใครเอ่ยถึงอีก แต่นางเอกไม่กลัว เอามาตั้งเป็นชื่อหมาซะเลย55

ชาติที่สามสามีเป็นนักเชิดสิงโต ในชาตินี้เจ้าของร่างที่นางเอกต้องมาอยู่เป็นสตรีที่แต่งงานมีลูกมีสามีแล้วด้วยนะ แต่สามีตาย แล้วฝั่งสามีก็มีลูกติดอีก 2 คน ตอนสามีเก่ายังไม่ตายเจ้าของร่างเก่าก็แสร้งทำตัวเป็นคนดี ทว่าพอสามีตายนางก็เผยธาติแท้ออกมากลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายทันที ทำตัวเป็นดอกซิ่งนอกกำแพง คนในบ้านเลยไม่มีใครชอบนาง โดยเฉพาะลูกบุญธรรมของสามีเก่าก็ยิ่งเกลียดนาง ...แต่ในสามชาติแรกนี่จะเห็นได้ว่าถึงแม้สามีของนางเอกจะเป็นคนธรรมดาไม่ใช่แม่ทัพ ไม่ใช่ขุนนางที่มีตำแหน่งสูงหรือเป็นฮ่องเต้ แต่ทุกคนก็มีวิธีดูแลปกป้องคนที่ตัวเองรักและครอบครัวของตัวเองได้ ถึงจะไม่ได้จับดาบออกรบแต่ทุกคนก็เป็นวีรบุรุษได้นะ ตัวนางเอกเองก็ไม่ซู ไม่มีวรยุทธ์ ไม่ได้ฉลาดมากหรือเจ้าแผนการอะไร เป็นคุณหนูในห้องหอที่ยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง และยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ แต่นางมีรูปโฉมงดงาม(มาก) มีจริตในการออดอ้อนสามี และมีความหยิ่งทนงของคุณหนูผู้สูงศักดิ์ จากเด็กสาวใสๆ ที่เชื่อคนง่ายก็ค่อยๆ เติบโต มีสายตาในการแยกแยะคน รู้จักรุกรู้จักถอย รู้จักวางแผน และรู้จักใช้มารยาหญิงแล้ว55  ^0^ ...

ตั้งแต่ชาติที่สี่เป็นต้นไปสามีของนางเอกจะเริ่มมีตำแหน่งสูงขึ้น จนเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นทั้งเจ็ดชาตินางเอกก็ต้องย้อนกลับมาที่จุดๆ เดิมซึ่งก็คือชาติปัจจุบันที่นางกำลังจะถูกฝังตามฮ่องเต้เฒ่า จะได้รู้สักทีว่าบรรดาสามีทั้งเจ็ดที่นางแต่งด้วยในแต่ละชาตินั้นมีความเกี่ยวข้องกันไหม จะใช่จิตวิญญาณเดียวกันหรือเปล่า แล้วนางเอกจะรอดพ้นจากการถูกฝังทั้งเป็นได้ยังไง ใครจะมาช่วย? และสุดท้ายสามีในชาตินี้จะเป็นใคร บอกเลยว่าต้องไปลองอ่านจ้า ...ส่วนตัวคือชอบมาก แต่ละชาติคือเอาใจช่วยนางเอกฝุดๆ หนังสือ 4 เล่มแต่เหมือนได้อ่านเรื่องสั้น 7-8 เรื่อง บอกเลยคุ้มมากๆ ...




วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2568

วัยฝันวันเยาว์ 4 เล่มจบ

 


วัยฝันวันเยาว์ 4 เล่มจบ  

ผู้แต่ง : ปาเยวี่ยฉางอัน

ผู้แปล : 54shaonian

สำนักพิมพ์ Siam Inter Book

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

คำโปรยหลังปกบอกว่านี่ไม่ใช่นิยายรัก แต่เป็นนิยายที่จะทำให้เรารำลึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์(ที่แสนสุขและขมขื่น) ...ตอนแรกยังเดาพระเอกไม่ออกว่าคนไหน เพราะรู้สึกว่ามีเรือที่น่าลง 3 ลำ

ลำที่ 1. รุ่นพี่ที่แก่กว่า 6 ปี เหมือนจะอ่อนโยนแต่ก็ไม่ใช่ เหมือนเข้ากับคนอื่นง่ายแต่ความจริงกลับจับต้องได้ยาก เหมือนเทพเซียนสูงส่ง เป็นคนที่นางเอกมองเป็นต้นแบบ เคารพ+ไว้ใจที่จะขอคำปรึกษา 

ลำที่ 2. เพื่อนวัยเด็กที่อยู่แถวบ้าน ตอนเด็กอ่อนแอไม่สู้คน พอโตมากลับเป็นหัวโจกของโรงเรียน

ลำที่ 3. เด็กน้อยที่ตกหลุมรักนางเอกตั้งแต่แรกพบ หัวดี เรียนเก่ง บ้านมีฐานะ พยายามเข้าหาและให้ความช่วยเหลือนางเอกทุกครั้งที่มีโอกาส แต่เพราะพวกผู้ใหญ่ เด็กดีๆ สองคนเลยถูกจับแยกถูกสั่งห้ามไม่ให้เล่นด้วยกัน


เรื่องนี้จะเริ่มเล่าตั้งแต่นางเอกยังอยู่ประมาณอนุบาล จนเข้าประถมและเรียนจบชั้นม.ปลายเลย เป็นแนวชีวิตในวัยเรียน ปมปัญหาครอบครัว เส้นทางการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของวัยรุ่น รวมถึงเรื่องราวความรักในวัยเรียน

นางเอกเป็นลูกนอกสมรส พ่อกับแม่นางเอกเคยคบกันตั้งแต่สมัยเรียนแต่สุดท้ายก็เลิกกัน พ่อไปแต่งกับลูกสาวคนใหญ่คนโต ไม่รู้ว่าบอกเลิกดีๆ หรือทิ้งแม่นางเอกไปเลย แล้วรู้รึเปล่าว่าแม่นางเอกกำลังตั้งท้อง? แต่ยังไงแม่นางเอกที่กำลังท้องก็เลือกที่จะเก็บเด็กไว้และเลี้ยงลูกเอง ...ถึงจะจบไม่สวยแต่แม่นางเอกก็ไม่เคยพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับพ่อให้ลูกฟัง ไม่ยัดความโกรธเกลียดหรือปลูกฝังให้ลูกเกลียดพ่อ กลับเป็นเมียคนที่พ่อแต่ด้วยนี่สิ ไม่รู้จะโกรธเกลียดอะไรนางเอกกับแม่นักหนา แถมยังไปปลูกฝังความคิดแย่ๆ ให้เด็ก สอนลูกตัวเองให้เกลียดต่ออีก

สร้างความทุกข์ทรมานให้ทั้งกับลูกตัวเองและนางเอก สร้างรอยบาดแผลให้เด็กที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เพราะผู้หญิงที่พ่อแต่งด้วยเป็นลูกคนใหญ่คนโต นางก็ชอบเอาเรื่องแม่นางเอกไปโพนทะนาให้คนรอบตัวฟัง กลุ่มเพื่อนนางก็มีลูกเรียนโรงเรียนเดียวกับนางเอกไง บรรดาแม่ๆ ไม่อยากมีปัญหากับนาง เลยไปสั่งลูกตัวเองให้อยู่ห่างจากนางเอกห้ามเล่นด้วย ประมาณนี้

นางเอกโตมากับแม่ พอโตหน่อยแม่ก็พาย้ายไปอยู่ที่บ้านยาย เพราะปัญหาเรื่องทะเบียนเกิดนางเอกจึงไม่ได้เรียนอนุบาลแต่เข้าชั้นประถมเลย นางเอกเคยเจอกับพระเอกเมื่อตอนไปนั่งรอแม่ทำงานที่โรงเรียนอนุบาล พระเอกเห็นนางเอกหน้าไม่คุ้นแต่ก็ยังพยายามลากเขาไปเล่นด้วย จากนั้นก็สัญญากันว่าพรุ่งนี้จะกลับมาเจอกันใหม่ แต่นางเอกไม่ได้มา(มาไม่ได้ ไม่ใช่เด็กรร.นี้) จนเข้าชั้นประถมเด็กน้อยสองคนก็ได้กลับมาเจอกันอีกเพราะเรียนที่เดียวกัน พระเอกจำนางเอกได้แม่น พยายามเข้าหา+อยากเป็นเพื่อนด้วย เพื่อที่จะได้อยู่กับนางเอกนานขึ้นหน่อย พระเอกถึงขนาดโกหกที่บ้านเพื่อจะได้เดินกลับบ้านกับนางเอกสองคน ตอนโรงเรียนมีคัดตัวหาคนไปแข่งพูด พระเอกที่เป็นตัวเต็งมีโอกาสได้มากสุด(ที่บ้านแบ็กดี) ก็ขอสละสิทธิ์เพื่อให้นางเอกได้รับเลือก 

เดิมนางเอกมาโรงเรียนก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร เพราะไม่เคยเข้าเรียนอนุบาลบางอย่างเลยตามไม่ทันเพื่อน บวกกับตัวเธอเองก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีเส้นสาย ดังนั้นเด็กน้อยจึงไม่ใช่คนโปรดของคุณครูหรือเป็นจุดสนใจของเพื่อนๆ ...เดิมทีนางเอกเป็นเด็กมีจินตนาการสูง ถึงไม่มีเพื่อนเล่นในชีวิตจริงแต่เธอก็มีเพื่อนเล่นในจินตนาการมากมาย อยากสวมบทบาทเป็นใครหรืออะไรก็ได้ จะแต่งเติมโลกในจินตนาการให้จบหรือดำเนินไปแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ...ทว่าคนเราย่อมเติบโต ไม่มีใครสามารถเป็นเด็กได้ตลอดไป จากเด็กที่สดใสร่าเริงจินตนาการบรรเจิดกว้างไกล สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเองก็เริ่มเงียบๆ ไม่ร่าเริงเหมือนเก่า 

ทว่าในโรงเรียนที่เงียบเหงาแห่งนี้ยังมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญและอยากเป็นเพื่อนกับเธอมากกก เขาคอยให้กำลังใจเธอ มอบโอกาสในการแข่งขันให้เธอ เพียงหวังว่าเด็กสาวที่ตนชื่นชอบจะมีความสุขและมีรอยยิ้มเจิดจ้าอีกครั้ง โลกของเด็กๆ ช่างแสนเรียบง่าย ความสัมพันธ์ใสซื่อบริสุทธิ์ไม่มีอะไรแอบแฝง คงจะดีหากพวกเขาได้ยิ้มและเดินกลับบ้านด้วยกันเช่นนี้ตลอดไป แต่โลกมักบอกเราเสมอว่าเมื่อมีความสุขสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์ก็ต้องตามมา ...

จริงๆ มีแค่ตอนม.ต้นเองที่พระนางไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน ส่วนตอนเรียนประถมกับม.ปลายคืออยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ถ้าไม่มีเรื่องบ้าๆ พวกนั้นทั้งสองคนคงจะได้มีปฏิสัมพันธ์มีความทรงจำดีๆ ร่วมกันเยอะกว่านี้แล้ว ...หลังได้รางวัลจากการแข่งพูดนางเอกก็เริ่มมีความมั่นใจมีกิจกรรมอย่างอื่นให้ทำตามมาเรื่อยๆ ได้รับความสำคัญ+คำชมจากคุณครู เริ่มเรียนรู้วิธีที่จะคบเพื่อน ก็ถือว่ามีความสุขดี(ล่ะมั้ง) แต่พอถึงตอนที่ใกล้จะขึ้นม.ต้น นางเอกก็เหมือนถูกโลกแห่งความจริงตีแสกหน้าอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าหลายๆ อย่างที่ตนเคยภูมิใจเคยได้รับคำชมเนี่ยมันไม่มีค่าอะไรเลย เพราะมันไม่ได้ช่วยทำให้ตัวเองสอบผ่านหรือเข้าโรงเรียนดีๆ ได้ โลกของเด็กน้อยพังทลายลงอีกครั้งเหมือนหวนกลับไปเมื่อตอนเข้าป.1 ใหม่ๆ เธอเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษไม่เป็น เธอแก้โจทย์วิชาเลขไม่ได้ เธอเรียนตามเพื่อนไม่ทัน จากที่เคยได้รับคำชมจากคุณครูก็กลายเป็นถูกตำหนิถูกต่อว่า+ด้อยค่าสิ่งที่เธอเพียรพยายามมาตลอด

ความจริงมองย้อนกลับไปเมื่อเราโตขึ้นสิ่งเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเด็กน้อยอายุเท่านั้นในเวลานั้น ครู เพื่อน โรงเรียนเนี่ยมันอาจเปรียบเสมือนโลกทั้งใบของพวกเขาเลยก็ได้นะ แล้วเวลานั้นแม่นางเอกก็งานเยอะจนละเลยความรู้สึกและลืมถามไถ่เรื่องราวในชีวิตลูกไป นางเอกเครียดมากเลยไปปรึกษารุ่นพี่ที่เหมือนดั่งเทพเจ้าในใจเธอ จากนั้นก็ทำตามคำแนะนำของรุ่นพี่คือเลือกไปเรียนต่อที่อื่น ปล่อยวางทุกอย่าง ไปอยู่สถานที่ใหม่ อยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราเพื่อเริ่มต้นใหม่ หลบไปเร้นกายพักรักษาตัวฝึกฝนตัวเองแล้วค่อยกลับมาใหม่อีกครั้ง พอตัดสินใจได้ดังนั้นนางเอกเลยไม่เครียดและ

แต่มีคนที่ผิดหวังเสียใจมากอยู่คนหนึ่ง เพราะนึกว่าจะได้เรียนที่เดียวกับนางเอกต่อ อุตส่าห์หอบขนมจากเมืองนอกมาฝาก ที่ไหนได้เธอไม่อยู่แล้ว ตอนถูกแม่ว่าถูกแม่ตบหัวยังแค่ตาแดงๆ แต่พอรู้ว่านางเอกไปเรียนที่อื่นแล้วพระเอกร้องไห้เลยจ้า... พอไปเรียนที่ใหม่ผลการเรียนของนางเอกก็ดีขึ้น จากที่เคยได้อันดับท้ายๆ ของห้องตอนอยู่ที่เก่านางเอกก็ได้ที่ 1 มาครอง ก็รู้แหละว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเรียนการสอนที่โรงเรียนเดิมมันยากและเข้มข้นกว่า แบบโรงเรียนในเมืองอะเนาะ นางเอกจึงไม่ได้ชะล่าใจหรือคิดว่าตัวเองเก่งแล้วแต่อย่างใด 

มาอยู่ที่นี่นางเอกก็ได้เจอทั้งเพื่อนเก่าที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ได้พบเพื่อนใหม่ที่ดี และเพื่อนที่เหมือนทำคุณบูชาโทษ คืออีกฝ่ายเป็นเด็กมืดมนไม่มีใครคบมักถูกคนละเลย นางเอกเลยช่วยดึงช่วยดันช่วยติวจนคนเขาคะแนนดีเริ่มมีความมั่นใจและเปลี่ยนเป็นคนใหม่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งหรือขอบคุณ ทว่ากลับอิจฉาริษยาและเกลียดเธอจ้า เออเนาะ...บางทีการได้ไปเห็นไปรับรู้ด้านแย่ๆ หรือช่วงประวัติศาสตร์ดำมืดของใครสักคนนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ เผลอๆ เขาอาจจะพานเกลียดเราที่ดันไปเห็นช่วงแย่ๆ ในชีวิตเขาที่ไม่อยากให้ใครรับรู้ด้วยซ้ำ จากบุญคุณเปลี่ยนเป็นความแค้น เรากลายเป็นคนที่เขาไม่อยากเจออยากลบออกไปจากชีวิตมากที่สุด

พอใกล้จบม.3 ในที่สุดนางเอกก็สามารถสอบเข้าเรียนต่อม.ปลายโรงเรียนที่อยากเข้าได้สำเร็จ เป็นช่วงที่ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา เพราะแม่นางเอกก็ได้เจอคนดีที่กำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นแต่งงานด้วยแล้ว ครอบครัวแม่ลูกกำลังจะเปลี่ยนเป็นครอบครัวที่มีสามคนพ่อแม่ลูก แต่ไม่ทันไรชีวิตก็ต้องพบเจอกับจุดพลิกผันใหญ่อีกครั้ง และคราวนี้มันก็หนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แทบจะเปลี่ยนนางเอกให้เป็นซากศพและกลายเป็นคนไร้ความรู้สึกโดยสมบูรณ์ ...ToT 

มาพูดถึงพระเอกหน่อย พระเอกนี่เรียกได้ว่าตรงข้ามกับนางเอกเลย เป็นคนร่าเริงสดใส เพื่อนเยอะ ตั้งแต่เล็กจนโตก็มีแต่คนมารุมล้อม หล่อ หัวดี ครอบครัวอบอุ่น ต้นทุนดี ชีวิตราบรื่นจะหยิบจับทำอะไรก็เก่ง มีเรื่องเดียวที่ไม่ราบรื่นก็คือนางเอกนี่แหละ55 ...แต่ไม่ว่าจะถูกเขาเมินหรือถูกเย็นชาใส่สักกี่ครั้งกี่หนพระเอกก็สู้ จะผ่านไปกี่ปี ต่อให้มีช่วงที่ต้องห่างหายไม่ได้เจอกันพระเอกก็ไม่เคยวางมือจากนางเอกเลย ยึดติดกับนางเอกมาตั้งแต่สมัยที่ฟันแท้ยังไม่ขึ้นเลยไอ้น้อง ชอบเขามาตั้งแต่อนุบาลแล้วจ้า ตอนเด็กคือเหมือนถูกใจอยากเล่นด้วย พอโตมาถึงได้เข้าใจความรู้สึกตัวเอง จะถูกผลักไล่ไสส่งสักกี่รอบก็สู้ เป็นฝ่ายวิ่งเข้าหานางเอกก่อนตลอด เธอไม่แคร์ฉันก็ไม่สน กำหนดเป้าหมายได้แล้วก็พร้อมวิ่งเข้าชน สมัยเด็กต้องเชื่อฟังแม่เลยไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ พอเริ่มโตพระเอกจึงเริ่มวางแผนมีความหนักแน่นแบบผู้ใหญ่ ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยมือจากนางเอกอีก ...แต่นิยายจีนเนี่ยถ้าเป็นแนวรักในวัยเรียนส่วนใหญ่พระนางเขาจะไม่คบกันตอนเรียนม.ปลายนะ จะรอให้เข้ามหา'ลัยก่อนแล้วค่อยคบ เห็นมาหลายเรื่องและ ไม่สนับสนุนให้มีรักในวัยเรียนสินะ55

ป.ล. จบดีจ้า ชีวิตคือการเรียนรู้ ทุกสิ่งที่เข้ามาไม่ว่าจะผู้คน+ประสบการณ์ ไม่ว่าจะดีร้ายทุกข์หรือสุข ทุกการตัดสินใจของเรา มันก็จะทำให้เราเป็นเราในวันนี้ ไม่มีใครสามารถอยู่กับเราได้ตลอดไปทุกคนล้วนผ่านมาแล้วผ่านไป บางคนอาจอยู่กับเราและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราเพียงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ทว่าสุดท้ายก็ต้องแยกจาก ...อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงคำพูดหนึ่ง ได้พบกันคือวาสนา จากกันคือโชคชะตา หวนกลับมาคือพรหมลิขิต เหมือนบรรลุสัจธรรมยังไงไม่รู้55



วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568

พลิกบทนางร้ายให้กลายเป็นไทเฮา 4 เล่มจบ

 


พลิกบทนางร้ายให้กลายเป็นไทเฮา 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : จิ่วเยว่หลิวหั่ว

ผู้แปล : ปานระวี

ปก : Mothila

สำนักพิมพ์ ไป่เหอ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

งานของท่าน จิ่วเยว่หลิวหั่ว ที่หลายคนคงรู้จักเพราะออกในไทยมาหลายเรื่องแว้วว^^

นางเอกเรื่องนี้ไม่ได้ทะลุมิติหรือตายแล้วย้อนกลับมาเข้าร่างเดิมนะจ๊ะ แต่นางมี 'หนังสือสวรรค์ไร้อักษร' ที่ทำให้รู้ว่าที่แท้ตนก็เป็นเพียงตัวประกอบร้ายๆ ขี้อิจฉาในนิยายแล้วตอนจบก็คือตายอย่างอนาถ ส่วนนางเอกในหนังสือก็คือเพื่อนอีกคนหนึ่งที่จะได้เป็นคนรักของพระเอก ซึ่งสุดท้ายอีกฝ่ายก็จะได้ขึ้นสู่อำนาจสูงสุดและกลายเป็นไทเฮา...นางเอกก็เลยแบบยอมไม่ได้ คิดจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง มาแทนที่นางเอกในหนังสือและกลายเป็นไทเฮาแทนเขา

ทว่าไอ้หนังสือสวรรค์เนี่ยมันก็ไม่ได้บอกอะไรมาก พูดง่ายๆ คือไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมด บอกแค่คร่าวๆ พอทำให้รู้เรื่องราวล่วงหน้าได้บ้างว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้ละเอียดนัก บางทีก็มาช้าจบเรื่องไปแล้วถึงรู้ บางทีก็มาเป็นชื่อตอน นางเอกก็ต้องไปเดาเองอีกว่าเนื้อหาที่จะเกิดขึ้นประมาณไหน ซึ่งนางเอกก็มักจะตัดสินใจหรือดำเนินเรื่องผิดไปจากหนังสือทุกครั้ง และยิ่งทำให้พระเอกในหนังสือรังเกียจไม่ชอบตัวเอง แถมยังกลายเป็นส่งเสริมให้พระนางในหนังสือเขารักกันอีกด้วย55 

ลืมบอกไปว่านางเอกเป็นเหม่ยเหรินหรือสตรีในวังที่ไทเฮาส่งมาให้แก่จวนจิ้งอ๋องหรือพระเอก เดิมนางเอกเป็นลูกพ่อค้า เป็นลูกเมียเอก แต่พ่อหลงอนุ เลยทำให้นางเอกกับแม่มีชีวิตที่ไม่ดีนัก เพราะแม่นางเอกอ่อนแอไม่สู้คน จึงถูกอนุกับลูกของอนุรังแกกดขี่ ส่วนพ่อก็ให้ท้ายถือหางอนุ และสุดท้ายนางเอกก็ถูกคัดเลือกเข้าวัง ส่วนคู่หมั้นของตัวเองก็กลายเป็นสามีของลูกอนุแทน

ทว่าด้วยหน้าตาที่สะสวยมากๆๆ นางเอกกับเหม่ยเหรินอีก 9 คนที่ถูกคัดเลือกจึงถูกส่งมายังเมืองชายแดนที่พระเอกอยู่ เพื่อเป็นสายลับคอยสอดส่อง+สืบข่าวของพระเอกกลับไปให้ไทเฮา แต่หลังจากได้พบหนังสือสวรรค์นางเอกก็มีเป้าหมายใหม่ นั่นคือจับพระเอกในหนังสือแล้วทำให้ตัวเองได้กลายเป็นไทเฮาเสีย!!

พระเอกคือจิ้งอ๋อง เป็นบิดาบุญธรรมของพระเอกในหนังสือ พระเอกเป็นบุตรชายที่เกิดจากสนมรักของฮ่องเต้องค์ก่อน ทว่าฮองเฮาหรือก็คือไทเฮาในเวลานี้จงเกลียดจงชังแม่และพี่ๆ ของพระเอกเหลือหลาย หลังฮ่องเต้องค์ก่อนสิ้นพระชนม์ ไทเฮาเลยจัดการแม่กับพี่ชายพระเอกจนเรียบ เหลือรอดเพียงแค่พระเอกคนเดียวที่ถูกส่งไปยังที่ดินศักดินาตั้งแต่อายุ 14 ...พระเอกเคยมีคู่หมั้นคู่หมาย 2 คน แต่ทุกคนก็เสียชีวิตหมดก่อนแต่งงาน พระเอกรู้ว่าไทเฮาคงไม่ยอมให้ตนแต่งงานมีทายาทง่ายๆ หลังจากนั้นพระเอกเลยไม่คิดแต่งงานอีก เลือกที่จะรับบุตรชายของลูกน้องที่สละชีพเพื่อปกป้องตนมาเป็นบุตรบุญธรรมแทน ซึ่งก็คือพระเอกในหนังสือสวรรค์ของนางเอกนั่นเอง

ถึงจะบอกว่านางเอกเป็นตัวประกอบร้ายๆ แต่อ่านๆ ไปจะรู้ว่านางไม่ได้ร้ายอะไรขนาดนั้นเลย นางเอกเป็นคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง หลงใหลในลาภยศชื่อเสียง หนักไม่เอาเบาไม่สู้ รักสวยรักงาม เกลียดความลำบากรักความสบาย และรักตัวเองที่สุด ด่านางว่าโง่ได้แต่ห้ามบอกว่านางอ้วนหรือไม่สวยเด็ดขาด55 เหมือนจะร้ายแต่ก็ร้ายแบบโก๊ะๆ ไม่ใช่แบบเจ้าแผนการความคิดซับซ้อน ไม่ได้คิดจะฆ่าใคร นางนึกว่าตัวเองฉลาดแต่ความจริงอะซื่อบื้อ ดูออกง่าย ไม่ซับซ้อนอะไรเลย เป็นคนมั่น ด้านได้อายอด ...แบบถ้าข้าไม่อายซะอย่างคนอื่นก็ต้องอายแทน ถ้าข้าไม่อึดอัดคนอื่นก็ต้องเป็นฝ่ายอึดอัดแทน ถ้าข้าลำบากไม่สบาย คนอื่นก็ต้องลำบากหรือไม่สบายไปด้วย เช่นนั้นข้าถึงจะเป็นผู้ชนะ นี่แหละตรรกะมายเซ็ตของนาง55 ...

แล้วนางก็ไม่ได้ชอบหรือหลงรักซื่อจื่อที่เป็นพระเอกในหนังสือด้วย นางแค่เห็นว่าคนคนนี้คือผู้ที่จะได้รับชัยชนะในท้ายที่สุดและจะกลายเป็นฮ่องเต้ นางเลยอยากเกาะเขาเพื่อมีชีวิตที่ดีไปด้วย(ส่วนพระเอกหรือคนพ่อในหนังสือจะตายก่อน นางเอกถึงไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พระเอกไง) ให้เป็นอนุก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยไต่เต้าไปเรื่อยๆ ขอแค่ได้เป็นคนของเขาก่อนนางก็มีวิธีเบียดนางเอกในหนังสือออกไปแล้วกลายเป็นไทเฮาจนได้ล่ะหน่าา ...

แต่น่าเสียดายที่ความพยายามของนางเอกกลับส่งผลตรงกันข้ามหมด เพราะพระเอกรู้ว่านางเอกจ้องจะจับลูกชายบุญธรรมอยู่ เลยคอยสกัดนางเอกทุกครั้ง เช่นตอนพระเอกในหนังสือต้องการสาวใช้มารับใช้ในห้องหนังสือ นางเอกก็รีบเสนอตัวทันทีเลยจ้า บอกว่าตัวเองความรู้ดีสุด แบบมั่นใจมากกก55 ขณะที่คนอื่นก้มหน้าเจียมตัวไม่กล้าพูดตรงๆ แบบนางเอก แต่เพราะความตรงความมั่นแบบนี้นี่แหละเลยไปโดนใจคนพ่อหรือพระเอกเข้า สุดท้ายนางเลยได้ไปรับใช้ในห้องหนังสือคนพ่อแทน55

นางเอกคือกล้าพูดกล้าแสดงออกอะ ขณะที่นางเอกในหนังสือจะเงียบๆ เรียบร้อย ไม่คิดแย่งชิง (แต่เจ้าแผนการ) ดูเปราะบางน่าสงสาร ดูใจกว้าง เหมือนดอกบัวขาว ส่วนนางเอกคือใจแคบ อะไรถ้ามันลำบากฉันก็ไม่ทำนะ เอาตัวเองมาก่อน จะว่าไปก็ดีนะนางเลยไม่ต้องมาเครียดกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่ต้องทุกข์ใจเพราะผู้ชาย ขณะที่คนอื่นต้องมาทุกข์มานั่งเครียดเพราะเรื่องการแย่งชิงความรักความโปรดปรานจากพระเอกในหนังสือ แต่นางเอกคือไม่จ้า นางไม่เชื่อในความรักอยู่แล้ว นางแค่อยากมีชีวิตที่ดีสุขสบายไม่ลำบาก ไม่อยากอยู่ใต้เท้าหรือต้องคอยดูสีหน้าใคร จะได้กลับบ้านอย่าสง่าผ่าเผยไปจัดการพวกอนุกับบิดาที่หลงใหลอนุจนหลงลืมภรรยาเอกซะ!

ตอนแรกนางยึดกับหนังสือสวรรค์มากไปเลยมองข้ามคนพ่อไปหลายครั้ง พระเอกปฏิบัติกับนางดี+แตกต่างจากคนอื่น นางก็ยังไม่รู้ตัว ส่งสัญญาณว่าจะแต่งนางเป็นพระชายานางก็ไม่รู้ นึกว่าพระเอกจะแต่งกับคนอื่นซะงั้น พระเอกก็ได้แต่จนใจ รู้ว่านางเอกไม่หวั่นไหวหรือสนใจตัวเองก็ไม่คิดบังคับนาง แต่ช้าแต่...วันหนึ่งนางเอกดันโดนวางยาเลยทำให้ได้เสียกับพระเอกซะงั้น!

แต่พอตื่นมาพระเอกกลับไม่อยู่ (จริงๆ ไปรบ ภารกิจเร่งด่วน แต่ฝากกงกงคนสนิทให้ดูแลนางเอกแล้ว) นางเอกเลยเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกต้องการลบร่องรอยปกปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ใครรู้ ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ยาบำรุงที่ข้ารับใช้ส่งมาให้ก็ยังคิดว่านี่คือยาป้องกันการตั้งครรภ์เลย มองทุกอย่างในแง่ลบสุดๆ จากนั้นนางก็เก็บตัวไม่ออกไปไหน แต่ผ่านไปสองเดือนก็มีคนรู้เรื่องนี้จนได้ ...

หมอที่มาตรวจถูกคนซื้อตัวแล้วเลยจงใจโกหกช่วงระยะเวลาที่นางเอกตั้งครรภ์  พระเอกในหนังสือทั้งเมียเอกและอนุของพระเอกในหนังสือ ก็มารุมบีบให้นางเอกบอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก ไม่งั้นจะให้นางทำแท้ง นางเอกก็ใจแข็งไม่ยอมบอก พอถึงวันที่กำหนดเส้นตายต้องพูด บ้านคู่หมั้นเก่าของพระเอกก็ถูกเชิญให้มาร่วมวงสอบสวนด้วย แต่หัวเด็ดตีนขาดยังไงนางเอกก็ไม่พูด นางเลยได้ทีคิดจะใช้โอกาสนี้จัดการนางเอก กะจะใช้การทำแท้งนี้ทำให้นางเอกมีลูกไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต ...แต่สุดท้ายพระเอกกลับมาทัน เลยจัดการไล่แม่คู่หมั้นเก่าออกไปและประกาศว่าจะแต่งนางเอกเป็นพระชายา แม่คู่หมั้นเก่าก็เหวอเพราะนึกว่าพระเอกจะแต่งกับลูกสาวอีกคนของตัวเองมาตลอด แต่พระเอกบอกไม่ใช่โว้ย บอกไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าไม่แต่งกะลูกนางคนนั้น อย่ามโน แล้วหลังจากนี้ก็ห้ามพวกเอ็งเข้ามาเหยียบในจวนข้าอีก!

พอนางเอกรู้ว่าพระเอกจะแต่งตัวเองเป็นพระชายาจริงๆ นางก็มูฟจากพระเอกในหนังสือทันทีเลยจ้า ไม่สนใจและ ในเมื่อไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งในเรือนหลังของอีกฝ่ายแล้วก็จัดการยัดอนุให้ลูกเลี้ยงได้เต็มที่อย่างสบายใจ จากเป้าหมายเดิมที่จะเป็นอนุซื่อจื่อแต่จู่ๆ ก็ได้ข้ามขั้นมาเป็นพระชายาจวนอ๋องอยู่เหนือทุกคน ไม่สิๆ อยู่ใต้พระเอกคนเดียวนี่มันช่างเลิศจริงๆ ...ตอนแรกพระเอกยังกังวลว่าไทเฮาจะไม่ยอมให้พี่แกแต่งนางเอกง่ายๆ แต่กลายเป็นว่าราบรื่นมาก เพราะไทเฮาเข้าใจว่านางเอกจงรักภักดีกับตัวเอง100% แต่ความจริงคือนางเอกไม่ได้จงรักภักดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว(มโนกันไปเองทั้งนั้น) ก็เป็นคนสนิทไทเฮามันไม่เจ๋งเท่ากับขึ้นเป็นไทเฮาเองนิ่ จริงมะ55

ส่วนนางเอกในหนังสือหลังๆ ก็เริ่มวางแผนแย่งชิงบ้างแล้ว พอถูกเปิดโปงความผิดจะถูกลงโทษซื่อจื่อก็ออกมาปกป้อง ไม่จัดการคนของตัวเองให้เด็ดขาด จนทำให้พระเอก(พ่อบุญธรรม) ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระยะห่างของพ่อลูกที่แต่เดิมความสัมพันธ์ก็ไม่ลึกซึ้งอยู่แล้วจึงยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ บวกกับพอพระเอกมีลูกในไส้เองพระเอกในหนังสือก็เริ่มระแวง ส่วนนางเอกก็คิดอยากให้ลูกตัวเองเป็นผู้สืบทอดแทนพระเอกในหนังสือ เลยวางแผนให้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เกิดรอยร้าว หวังให้พระเอกเปลี่ยนใจ เพราะดูจากนิสัยพระเอกในหนังสือถ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้จริงนางเอกกับลูกคงไม่รอด

จบดีแฮปปี้ สุดท้ายเรื่องก็ไม่ได้เหมือนในหนังสือของนางเอกทั้งหมด ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน หรืออาจเป็นเพราะมีนางเอกเข้ามายุ่งมันเลยทำให้เรื่องราวไม่เป็นไปตามนั้น หากไม่เจอนางเอก พระเอกคงไม่คิดจะแต่งงานและคงไม่มีทายาทของตัวเองไปตลอดชีวิต ส่วนนางเอกในหนังสือก็คงไม่มีความทะเยอทะยานคิดแก่งแย่งเร็วขนาดนี้ล่ะมั้ง ... 

นางเอกนี่แหละคือผู้ชนะตัวจริง ได้นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดตามที่หวัง ชีวิตดี๊ดีมีแต่คนอิจฉาเพราะใครจะไปคิดว่าจิ้งอ๋องที่ดูเย็นชาเข้าถึงยากจะรักและดูแลเอาใจใส่เมียดีขนาดนี้ แถมยังไม่รับอนุด้วย นางเอกจะเอาแต่ใจง๊องแง๊งไม่มีเหตุผลยังไงพระเอกก็รับได้หมด ยอมเมียแทบทุกอย่าง ขนาดแม่นางเอกยังต้องถามเลยว่าปกติคุยกับพระเอกแบบนี้เหรอ (แบบดูมันดูเอาแต่ใจไม่ค่อยไว้หน้าปั๋วเท่าไร) นางเอกก็พูดอย่างไม่รู้สึกผิดว่าแบบนี้แหละ ถ้าอยู่ในบ้านหรืออยู่กันสองคนยังมากกว่านี้อีก ...ตอนแรกแม่นึกว่านิสัยเอาแต่ใจแบบนี้ของนางเอกจะหายไปหรือลดลงหลังได้แต่งงาน ที่ไหนได้หนักกว่าเดิม เหอๆ (เพราะพระเอกให้ท้าย)

ป.ล. ความจริงก็แอบสงสารพวกเหม่ยเหรินนะ ถ้าไม่ได้ถูกเลือกเข้าวังทุกคนก็คงเป็นคุณหนูอยู่ในจวนมีชีวิตเหมือนคุณหนูทั่วๆ ไปมีข้ารับใช้ล้อมรอบ แต่พอถูกส่งไปอยู่ที่จวนพระเอกสถานะก็ไม่ต่างอะไรกับสาวใช้อะ ทั้งที่หลายคนก็มาจากตระกูลดีๆ เป็นธิดาสายตรง นี่ถ้าไม่ถูกคัดเลือกก็คงได้แต่งกับคนที่มีฐานะเท่าเทียมเป็นภรรยาเอกเป็นนายหญิงของบ้านไปแล้ว ไม่ต้องมาแข่งกันเพื่อเป็นอนุแบบนี้หรอก ชีวิตถูกคนอื่นควบคุม ทำก็ตายไม่ทำก็ตาย เฮ้อออ



วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568

สมรภูมิรักแม่ทัพเคียงใจ 3 เล่มจบ

 


สมรภูมิรักแม่ทัพเคียงใจ 3 เล่มจบ

ผู้แต่ง : หลันเส้อซือ (蓝色狮)

ผู้แปล : เชาว์เหลียน + เสวี่ยฉีหลิน

ปก : Rong Jing

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

อ่านเรื่องนี้แล้วมันแบบอึนๆ รู้ว่าจะต้องมีการสูญเสียแต่ก็หยุดอ่านไม่ได้ เป็นแนวศึกสงครามการสู้รบฉ่ำๆ เลย บางตัวละครในเรื่องก็มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ ...

นางเอกในเรื่องแอบให้ความรู้สึกเหมือนฮวามู่หลาน ทั้งเรื่องนิสัย ความเข้มแข็ง และเรื่องที่ต้องออกรบแทนพ่อ(ผู้มีพระคุณ) นางเอกสูญเสียคนในครอบครัวไปหมดแล้ว ได้ครอบครัวหนึ่งที่เป็นหมอดูแลเลี้ยงดูมา 6 ปี วันหนึ่งในหมู่บ้านมีการเรียกคนไปเกณฑ์ทหารเข้ากองทัพ นางเอกไม่อยากให้ผู้มีพระคุณไปเพราะอีกฝ่ายอายุเยอะแล้ว เลยแอบหนีไปเข้าร่วมกองทัพแทนพร้อมกับพี่ชายบุญธรรม(ลูกชายผู้มีพระคุณ) 

นางเอกเป็นคนเก่งนะ วรยุทธ์ดี แรงเยอะ ยิงธนูก็แม่น แต่นางไม่อยากเป็นจุดสนใจเลยเลือกที่จะปิดบังความสามารถ หากไม่ใช่สถานกาณ์บังคับหรือเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ ก็จะไม่เผยฝีมือให้ใครเห็น ...นางเอกกับพี่ชายบุญธรรมได้เข้าไปเป็นหมอในกองทัพเพราะในกองทัพขาดหมอพอดี เลยไม่ต้องนอนรวมกับคนอื่นแต่ได้อยู่กระโจมแยกของหมอกับพี่ชายสองคน โชคดีไป ...ทว่าถึงจะบอกว่าเป็นหมอ แต่พอมาอยู่ในกองทัพก็ต้องฝึกหนักไม่ต่างจากทหารธรรมดาทั่วไปอยู่ดี ใช่ว่าจะสบายนะเออ

นางเอกเป็นคนเงียบๆ จิตใจดี ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ สุขุมเกินวัย ใครใช้ให้ทำงานอะไรก็ทำไม่เคยเกี่ยง ไม่เคยเอาเปรียบใคร เน้นทำไม่เน้นพูด ถึงจะพูดน้อยดูเย็นชาแต่ใครได้อยู่ใกล้ก็อุ่นใจ พึ่งพาฝากชีวิตไว้ได้ แข็งแกร่งกล้าหาญยิ่งกว่าบุรุษอกสามศอกซะอีก... ส่วนพระเอกเป็นแม่ทัพ เป็นหลานฮองเฮา และเป็นคนสนิทคนโปรดของฮ่องเต้ เดิมนางเอกไม่ได้อยู่ในสายตาพระเอกเลย ตอนแรกพระเอกก็เคยสงสัยในฝีมือนางเอกเลยบังคับให้นางลงสนามต่อสู้แบบสองต่อสองกับทหารในกองทัพ ทว่านางเอกไม่อยากให้ใครรู้ความสามารถเลยเลือกที่จะถูกเขาซ้อมและยอมแพ้เอง ...

นางเอกอึด ถึก ทน มากจริงๆ ทั้งเคยถูกพระเอกเตะเข้าที่ใบหน้า ถูกคนซ้อม ถูกแทงถูกฟัน ถูกไฟลวก แบบมากมายนับไม่ถ้วนจริงๆ ทั้งร่างกายมีแต่บาดแผลเพราะต้องออกรบ...นี่อ่านจนถึงกลางเล่มสองแล้วพระเอกก็ยังไม่รู้เลยนะว่านางเอกเป็นผู้หญิง ส่วนคนที่รู้ก็ช่วยกันปกปิดดีมาก(เพราะกลัวนางเอกถูกลงโทษ) 

หลังจบศึกใหญ่ในเล่ม 2 แม้นว่าจะได้รับชัยชนะกลับมาแต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของทหารมากมายเหลือเกิน พระเอกจึงได้เข้าใจคำพูดของท่านน้าที่กล่าวเอาไว้ก่อนไปรบถึงสิ่งที่จอมทัพต้องแบกรับก็ในยามนี้นี่เอง (ตอนอ่านนี่ก็ไม่มีความรู้สึกดีใจเหมือนกันนะ แม้ว่าฝั่งพระนางจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม) ดีใจกับคนที่ยังอยู่ ไว้อาลัยให้กับคนที่ต้องจากไป ... คนที่ยังอยู่ก็ทำหน้าที่และใช้ชีวิตที่เหลือกันต่อไป ใช้ชีวิตให้ดีเพื่อพวกพ้องที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ...

จากนั้นนางเอกและคนที่รอดกลับมาก็ได้รับรางวัลและบำเหน็จตามความดีความชอบ นางเอกได้เลื่อนขั้นเป็นขุนพล ติดตามพระเอกไปทำศึกอีกครา เพราะฮ่องเต้ในเรื่องกระหายสงครามเหลือเกิน สงครามจึงไม่มีทางจบลงง่ายๆ หลังกวาดล้างตรงนี้เสร็จก็ไปกวาดล้างตรงนู้นต่อ ชาวประชาทุกข์ยากทั้งจากภัยธรรมชาติและภัยสงครามที่ขูดรีดพวกเขาจนแทบหมดตัว หลายครอบครัวต้องสูญเสียบุตรชาย หลานชาย และบิดา บุรุษที่เป็นกำลังหลักสำคัญของครอบครัว... เฮ้อออ 

หลังจบศึกครั้งที่สองนางเอกเลยตั้งใจว่าจะจากไปเช่นกัน นางรับปากกับสหายต่างแดนเอาไว้ว่าจะไปปกป้องดินแดนเล็กๆ กับเขา แต่อีกใจหนึ่งก็อดรู้สึกผิดต่อพระเอกไม่ได้ แล้วไหนจะเรื่องเพศสภาพที่ไม่อาจเปิดเผย (ตอนนั้นนางเอกยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่ตนมีต่อพระเอก นางหัวช้าเรื่องความรัก) แน่นอนว่าพอพระเอกรู้ว่านางเอกกำลังจะไปก็โกรธไม่ยินยอม คือพี่แกชอบนางเอกแล้วนะ แม้เวลานั้นจะไม่รู้ความจริงและนางเอกยังอยู่สถานะผู้ชายก็ตามเถอะ แต่พระเอกก็ชอบ จะชายหรือหญิงก็ชอบ ขอแค่เป็นคนคนนี้ก็พอ นางเอกก็รู้สึกผิดที่ปิดบัง แถมเข้าใจผิดไปอีกคิดว่าพระเอกมีรสนิยมตัดแขนเสื้อ ถ้ารู้ว่าตนเป็นสตรีจะต้องผิดหวังเสียใจแน่ๆ เลย55 

แต่สุดท้ายพระเอกก็ยอมปล่อยมือให้นางเอกไป หลังนางเอกไปได้ไม่นานลูกน้องพระเอกก็บังเอิญไปเจอนางเอกที่หอนางโลมเลยมาเล่าให้พระเอกฟัง พระเอกจากที่เซื่องซึมก็ฮึดฮัดไม่พอใจ แล้วก็ตามไปหาคนที่หอนางโลมเดี๋ยวนั้นเลยจ้า จริงๆ สมัยอยู่ในกองทัพนางเอกก็เคยถูกเพื่อนลากไปเที่ยวหอนางโลมนะ พอพระเอกรู้ก็ไม่พอใจสั่งลงโทษทุกคนที่ไปหอนางโลมกับนางเอกวันนั้น แล้วก็ลากนางเอกไปต่อว่าในกระโจมแต่ไม่ได้ลงโทษนะ55(ขนาดตอนนั้นไม่รู้นะว่าเป็นผู้หญิง) ลูกน้องก็ได้แต่งงว่าทำไมต้องลงโทษ ก็นี่มันวันหยุดให้ออกไปเที่ยวข้างนอกได้ไม่ใช่รึ55

จากนั้นก็มีเรื่องให้นางเอกกับเพื่อนต้องมาอยู่ในจวนพระเอกสักระยะ พอแม่พระเอกรู้ข่าวก็ตามมาดู แล้วก็อาศัยตอนที่พระเอกไม่อยู่เชิญคนออกจากจวนไปอย่างมีมารยาท นางเอกรู้แก่ใจดีว่าแม่พระเอกไม่ต้อนรับจึงยินยอมจากไปแต่โดยดี เพียงแต่รู้สึกผิดที่ไม่อาจอยู่รอพระเอกได้ตามที่รับปากไว้เท่านั้น แน่นอนว่าจนจบเล่มสองพระเอกก็ยังไม่รู้เลยว่านางเอกเป็นผู้หญิง55 ไปรู้เอาตอนเล่มสามได้ ส่วนนางเอกก็รู้ใจตัวเองช่วงท้ายเล่มสอง แต่ก็ตระหนักดีว่าเราสองไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ ไหนจะฐานะพระเอกที่เป็นคนโปรดและเป็นเสมือนอาวุธของฮ่องเต้ บวกกับภูมิหลังของนางเอกที่ไม่อาจเปิดเผยได้ อีกอย่างคือ นางเอกไม่อยากเป็นฮูหยินแม่ทัพ มันไม่เหมาะกับนางจริงๆ หากให้นางอยู่ในเรือนเลี้ยงลูก+ดูแลจวนออกงานสังคม แบบนั้นมันเท่ากับเด็ดปีกนางชัดๆ ไม่ต่างกับอินทรีย์ที่ถูกขังอยู่ในกรงให้เป็นของเล่นของพวกชนชั้นสูงเลย ซึ่งมันไม่ใช่นางเอกอะ พระเอกก็เข้าใจแหละ เลยแบบไม่ต้องเป็นฮูหยินแม่ทัพก็ได้แต่ยังไงเจ้าก็ต้องเป็นภรรยาข้านะ  

เพราะถึงพระเอกจะเป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ แถมยังมีความดีความชอบจากศึกสงคราม แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ เพราะยังไงพี่แกก็เป็นขุนนางเป็นข้ารับใช้ของฮ่องเต้ ยังมีหลายคนที่ไม่อาจล่วงเกิน(โดยเฉพาะเชื้อพระวงศ์) ช่วงกลับฉางอันนี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่พระนางอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดแล้วมั้ง นางเอกก็ถูกองค์หญิงลูกรักฮ่องเต้พูดจาดูหมิ่น ไม่ชอบขี้หน้า เพราะนางแอบชอบพระเอก(แต่นางเอกก็ไม่ถือสา เพราะเคยเจอมาหนักกว่านี้) แม่พระเอกก็ไม่ชอบ(แต่หลังๆ ก็โอเคตามใจลูก) น้าสะใภ้พระเอกที่เป็นองค์หญิงก็คิดว่านางเอกไม่เหมาะไม่คู่ควรกับหลานตน(คิดว่าอย่างมากนางเอกก็เป็นได้แค่อนุ) ฮ่องเต้แรกๆ เหมือนไม่สนใจ แต่ก็ให้คนไปสืบภูมิหลังนางเอกจนรู้ทุกอย่าง แล้วสุดท้ายก็วางแผนกำจัด พระเอกเปรียบเสมือนตัวกลาง แม้ไม่อาจล่วงเกินอีกฝั่ง แต่ก็ไม่ยินยอมให้ใครมารังแกนางเอกได้ง่ายๆ พยายามปกป้องสุดความสามารถ อยากให้นางเอกอยู่ข้างกายตนอย่างมีความสุข ไม่จากไปไหน แต่ด้วยความที่พระเอกคือดาบในมือของฮ่องเต้ ดังนั้นมีหรือที่ฮ่องเต้จะยอมปล่อยคนไปง่ายๆ... หึๆๆ

เรียลมากอะเรื่องนี้ ฉากตอนฝึกทหาร ตอนออกรบ ตอนสู้กันในสนามรบ โลกไม่สวยเลย ทำให้เราผูกพันธ์กับตัวละครไปพร้อมๆ กับนางเอกแล้วสุดท้ายก็ฉึกๆๆ ...ทุกคนไม่ว่าสูงหรือต่ำ ไม่ว่าตำแหน่งไหนต่างก็มีความหนักใจ+ภาระหน้าที่ที่ต้องแบกรับ ตอนอ่านเรื่องอื่นพอเห็นฉากที่ฝั่งพระเอกรบชนะกลับมาเราก็รู้สึกดีใจตามไปด้วย แต่เรื่องนี้มันอึนๆ โหวงๆ ยังไงไม่รู้ นักเขียนเก่งจริงๆ ทำให้เราอินได้ขนาดนี้ เป็นสามเล่มที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากมาย อ่านจบแล้วยังอึนๆ โหวงๆ แม้สุดท้ายพระนางจะได้อยู่ด้วยกันแต่มันก็ยังรู้สึกแบบหน่วงๆ คงเพราะระหว่างทางมีหลายคนที่ต้องจากไปมั้ง ไม่จากไปเพราะสงคราม ก็จากไปด้วยเล่ห์กลการเมือง ...เฮ้อออๆๆ