วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ออกจากจวนมาไขคดี เล่ม 3-4

 


ออกจากจวนมาไขคดี เล่ม 3-4  (10 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : เหยาจี้ซาน
ผู้แปล : สนสราญ
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ต่อจากเล่มที่แล้ว นางเอกกับแม่และพี่ชาย เดินทางออกจากเมืองหลวงติดตามไปกับบ้านของท่านลุง(พี่ชายแม่) ที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ที่ต่างเมือง เพื่อไปเยี่ยมท่านยายและใช้โอกาสนี้หลบหลีกความพิโรธขององค์หญิงใหญ่ ระหว่างทางได้เจอกับกลุ่มผู้อพยพที่หนีภัยมา รวมถึงชาวบ้านที่ถูกเอารัดเอาเปรียบกดขี่มานานหลายปี ต้องใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก พยายามแค่ไหนชีวิตก็ไม่ดีขึ้น ฉากหน้าของท่านลุงนางเอกคือการพาทุกคนมาแวะพักผ่อน แต่ฉากหลังคือการสืบหาความจริงผู้ที่อยู่เบื้องหลังความลำบากของชาวบ้าน รวมไปจนถึงการโกงกินเงินทองที่ราชสำนักส่งมาบรรเทาภัยพิบัติให้แก่ประชาชน เกี่ยวพันโยงใยกับหลายหน่วยหลายฝ่าย ทั้งเบื้องล่างเบื้องบน จนทำให้นางเอกและเหล่าญาติฝ่ายสตรีที่เดินทางมาด้วยกันต้องตกเป็นเป้าถูกกลุ่มโจรตามไล่ล่าสังหาร ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ท่ามกลางผู้คุ้มกันแค่สามคน! ...แต่ๆๆๆ ด้วยความฉลาดมีไหวพริบและการวางแผนระลอกแล้วระลอกเล่าของนางเอก จึงทำให้ทุกคนปลอดภัยไม่มีใครต้องจบชีวิตลงระหว่างที่หนีตาย ...สุดยอดไหมล่ะพี่จ๋าาา โจรจากสามสิบแต่เจอนางเอกวางแผนหลอกล่อขุดหลุมพรางจนเหลือแค่หกคน! แถมต่อจากนั้นยังได้ช่วยพระเอกคิดหาวิธีเข้าไปในสถานที่ที่มีค่ายกลอำพรางตาอีกด้วยนะจ๊ะ ...เก่งอะไรเบอร์นั้น ไขคดีก็ว่าเก่งแล้ว วางแผนปราบโจรก็ยังได้ เรื่องค่ายกลก็ยังไหว แถมยังสร้างเครื่องสกัดน้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วยนะจ๊ะ (นางเอกบอกว่าตอนเกิดในชาติปัจจุบันจน ไม่มีตังค์ซื้อน้ำหอมมาใช้ เลยไปอ่านวิธีทำเครื่องสกัดน้ำมันหอมระเหย สุดยอดดด ว่าแต่...มันไม่มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นแล้วรึ) 

ส่วนตัวรู้สึกว่าเนื้อเรื่องเริ่มเจ้มจ้นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีคนอยู่เบื้องหลังคอยชักใยวางแผนทำลายนางเอกทั้งทางตรงทางอ้อมอยู่ตลอด(รวมถึงคนรอบตัวนางด้วย) อย่างเรื่องปราบกลุ่มโจรที่นางเอกเอาชนะและรอดมาได้ แต่ไม่นานก็กลับถูกคนปล่อยข่าวใส่ร้ายให้กลายเป็นเรื่องแย่ๆ ทำลายชื่อเสียงของนางเอกและสตรีทุกคนที่อยู่ที่นั่นไปซะได้ จนทำให้ญาติผู้น้องของนางเอกถูกยกเลิกการหมั้นหมาย ส่วนพวกคุณหนู สตรีสูงศักดิ์อื่นๆ ในเมืองที่นางเอกไปถึงก็พากันรังเกียจดูถูกไม่อยากคบหาสมาคมกับพวกนาง ตอนแรกนางเอกไม่รู้ แต่ไปได้ยินคนนินทาตัวเองเข้าพอดี นางเลยโผล่หน้าไปประจันกับฝ่ายนั้นตรงๆ อิฝ่ายที่นินทาถูกจับได้ก็ไม่สลด ยังเชิดหน้าพูดแซะเขาไม่หยุด คิดว่านางเอกจะหน้าบาง ต้องเป็นฝ่ายอับอายแล้วถอยไปเอง ต้องยอมรับคำประณามอย่างเงียบๆ อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวไม่กล้าสู้หน้าใครไปตลอดชีวิต

แต่นางเอกคือไม่จ้าาา ฉันไม่ได้ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องอาย ทำไมฉันต้องหลบ ยกกฏหมายของแคว้นมาฟาดกลับนิ่มๆ  ไม่โมโหไม่โวยวายแค่เตรียมฟ้องกลับอย่างเดียว ใครทำอะไรผิดก็ว่ากันไปตามกฏหมาย เอาให้ศาลตัดสินไปเลย พอใครได้ยินแบบนี้ก็อึ้งสิ ปากหุบลงทันทีไม่กล้าไปต่อ เพราะสตรีในยุคโบราณส่วนใหญ่ถือชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชีวิต รักหน้าตารักชื่อเสียงของตัวเองยิ่งชีพ หากถูกฟ้องร้องหรือมีเรื่องไปถึงโรงถึงศาลจะผิดจะถูกไม่รู้ แต่แค่ต้องเดินเข้าศาลมันก็ทำให้อับอายขายขี้หน้าจนไม่อาจออกไปพบเจอใครได้แล้ว จากที่จะทำให้นางเอกอาย เลยกลายเป็นตัวเองนั่นแหละต้องอายแทน...

ความจริงอ่านมาหลายๆ เรื่องก็พอจะรู้แล้วว่าชื่อเสียงของสตรีโดยเฉพาะสตรีในยุคโบราณนั้นสำคัญมากแค่ไหน ในเรื่องนี้ยิ่งเห็นชัด เพราะมีสตรีหลายคนในเรื่องที่ถูกทำลายชื่อเสียง หรือชื่อเสียงเสียหายจากสาเหตุต่างๆ และสุดท้ายก็ถูกบีบให้ต้องตาย หรืออยู่โดยไม่มีทางเลือกมากนักไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เช่นถูกขับไปอยู่ที่อื่น หรือไม่ก็ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน ออกไปไหนไม่ได้จนกระทั่งวันตาย หรือไม่ก็ถูกกดดันบีบให้ต้องตายทางอ้อม ...นางเอกตระหนักถึงจุดนี้ เลยอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยผู้หญิงในยุคนี้ ก็เลยขอฮ่องเต้สร้างสถานศึกษาสำหรับสตรี และขอสร้างสถานที่พำนักให้แก่สตรี เด็ก และคนชราที่ไม่มีที่ไป ที่ชื่อเสียงเสียหาย ถูกคนในครอบครัวขับไล่และบลาๆ ให้คนเหล่านี้ได้มีที่พึ่งพิง เพราะรู้ดีว่าสตรีในยุคสมัยนี้ถูกกดขี่มากขนาดไหน ต่อให้ชื่อเสียงยังดีๆ แต่ชีวิตก็ไม่ได้มีทางเลือกมากสักเท่าไร นางเอกเลยอยากสร้างสถานศึกษามอบความรู้ต่างๆ เพื่อให้ผู้หญิงในยุคนี้ได้มีทางเลือกที่มากขึ้น สามารถมีชีวิตอยู่และพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องเอาแต่อาศัยบุรุษ..

ปิดท้ายเล่มสี่ด้วยการที่นางเอกกับแม่ต้องเดินทางกลับเมืองหลวง(ซะแว้ววว) แต่เล่มนี้คดีที่พบศพในสระเริ่มมีความคืบหน้าแล้วนะ ลุ้นอยู่ว่าคนร้ายจะใช่คนเดียวกับที่เราคิดรึเปล่า อีกอย่าง เดาว่าการแต่งงานขององค์หญิงใหญ่กับราชบุตรเขยนี่คงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิดแน่ๆ ต้องมีใครทำอะไรตุกติกแน่นอน เผลอๆ เมียคนแรกของราชบุตรเขยที่ตายไปก็ไม่น่าจะป่วยตายหรอก(มั้ง) คือปมเยอะได้อีก ของเก่ายังไม่เฉลยของใหม่ก็มาอีกแล้วนะจ๊ะ แถมยังมีเรื่องพ่อนางเอกที่กลับมาแล้วอีกด้วย ... 

ป.ล.เราว่าเรื่องนี้บทของตัวละครหญิงค่อนข้างเด่นกว่าผู้ชายนะ  ถึงพระเอกมีบทเยอะขึ้นแต่ส่วนตัวเราว่ายังไงก็ยังจาง เด่นไม่พอ สู้นางเอกไม่ได้อยู่ดีอะ

ป.ล. เล่มนี้พระเอกเหมือนจะเริ่มเหมือนรู้สึกอะไรกับนางเอกแล้วน๊าาา

ป.ล. ส่วนตัวชอบนะ เนื้อเรื่องไม่หนักและก็ไม่เบาจนเกินไป มีอะไรใหม่ๆ โผล่มาให้สงสัยอยู่เรื่อยๆ ปริศนาเยอะเดาทางไม่ออก เรื่องไขคดีก็สนุก การเมืองในราชสำนักก็ซับซ้อน เรื่องในเรือนหลังก็มัน (สตรีในเรือนหลังด่ากันทีวาจาคมกริบยิ่งกว่าใบมีด ด่ากันแบบผู้ดีแต่เจ็บจี๊ดถึงทรวง 55) 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น