วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง (ภาค 2) เล่ม 6-7 (7 เล่มจบ)

 

ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง (ภาค 2) เล่ม 6-7 (7 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : อิ๋นเชียนอวี่ (銀千羽)
ผู้แปล : อวี้
สำนักพิมพ์ แจ่มใส
รีวิวยอดสตรีเป็นยากยิ่ง (ภาค 2) เล่ม 1-5 
https://marynlinsbook.blogspot.com/2022/07/2-1-5.html

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เอาอีกแว้ววๆๆ จบแบบมีภาค 3 ต่อแน่ๆ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นปริศนาและยังไม่เคลียร์ เตรียมเก็บตังคฺ์รอซื้อภาค 3 ได้เลยจ้า (เห็นว่าที่จีนก็มี 3 ภาคจบนะ)
มหากาพย์การผจญภัยของน้องฉอด โม่อีเหริน พร้อมด้วยเหล่าลูกสมุนแก๊งสัตว์วิเศษและเถาวัลย์น้อย กับภูเขาน้ำแข็งไม่ชอบพูดแต่โคตรคลั่งรักกก ไป่หลี่จิงหง (ภาค 2 ยิ่งชัดมาก คนรอบข้างกินอาหารหมาจนอิ่มไปหลายรอบ แต่พระ-นางก็ยังไม่หยุดหวานกันเล้ย 55)

ต่อจากเล่ม 5 หลังจากที่เกิดศึกบนแท่นเจ็ดดารา ขณะที่ต่อสู้และกำลังพาคนอพยพหลบหนีมาที่เรือเหาะ แต่ยังไม่ทันได้พักก็ต้องเตรียมรับมือกับศึกใหม่บนดินแดนแรกนภากันต่ออีกแล้ว ...ตระกูลไป่หลี่จับมือกับตระกูลเสวียนหมิงพร้อมด้วยคนชุดดำ ร่วมมือกันนำทัพปิดล้อมทำลายแต่ละตระกูลที่เหลือ โดยเฉพาะตระกูลเฟิ่งและภาคีผู้ฝึกตนที่ยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน ต่อจากนั้นนางเอกก็ต้องแยกกับพระเอกชั่วคราวเพื่อกลับตระกูล เหตุเพราะเปลวเพลิงสีม่วงที่ใช้บนแท่นเจ็ดดารา จึงทำให้คนตระกูลเฟิ่งอยากรีบพาตัวนางเอกกลับไปเพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวตน.. 

ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น(อีกแล้ว) แต่ถ้าไม่มีเรื่องก็คงไม่ใช่นางเอกเรื่องนี้แล้วล่ะจ้า
ไปที่ไหนก็มีแต่เรื่องจริงๆ มีทั้งที่เข้ามาหาเองและที่ตัวเองเป็นฝ่ายเข้าไปหา อ่านๆ ไปบางทีก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมนางเอกถึงฉอดเก่ง เพราะตัวละครบางตัวก็ตรรกะนิสัยแบบไม่ไหวจะเคลียร์ ...อย่างตอนที่จะกลับเข้าตระกูล ก็มีคนหมั่นไส้ไม่ยอมรับ คอยหาเรื่องมาจิกกัดและกีดกันตลอดทาง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากการที่ถูกท่านตานางเอกปฏิเสธไม่รับรัก 
เท่านี้แหละ...แต่แค่นี้ก็ทำให้อีกฝ่ายโกรธแค้นจนแปรพักตร์ได้แล้วอะ...เหอๆ

หลังยืนยันประกาศฐานะอย่างเป็นทางการและจัดการธุระเสร็จ นางเอกก็พาพี่ชายและคนติดตามมาช่วยคนในตระกูลที่กำลังจะพ่ายแพ้ศึกต่อทันที พอพลิกสถานการณ์ได้เรียบร้อยก็พากันบุกไปยังถิ่นตระกูลไป่หลี่ที่เป็นตัวตั้งตัวตีอยากก่อสงครามมันซะ...
ก็สู้กันบลาๆ สองเล่มสุดท้ายสู้กันเยอะมากกก พอตระกูลเฟิ่งได้นางเอกมา จากที่กำลังแย่ก็ค่อยๆ ฟื้นกลับขึ้นมาและเป็นฝ่ายได้เปรียบบ้างละทีนี้ ... เพราะได้นางเอกมาคนเดียวก็เหมือนได้กำลังเสริมมาเป็นพันเป็นหมื่นแล้วอะ(ไม่ได้โม้) ทั้งยาเอย สัตว์วิเศษเอย เคล็ดวิชาลับบลาๆ สารพัดอย่าง แล้วไหนจะดินแดนสมบัติแรกนภาอีก...ไม่ซูก็บร้าาาแว้ว
55
แต่ยังไม่พอจ้าา เพราะในเล่ม
7 นางจะไม่ได้เป็นแค่ประมุขหวงของตระกูลเฟิ่งเท่านั้นนาจา ...แต่จะเป็นอะไรมากกว่านั้นต้องไปอ่านเองจ้าาา 55

สู้กันดุเดือดมาก จนท้องฟ้าทะลุเป็นรูถล่มลงมาและเกิดภัยพิบัติไปทั่วดินแดน ยังกับหายนะวันสิ้นโลก กระทั่งเจ็ดมหาผู้แข็งแกร่งต้องมารวมตัวกันออกโรง ว้าววตื้นตันใจมว้ากก (กว่าจะมากานได้)...คนชุดดำก็เก่งเทพจริง ตอนอ่านก็สงสัยว่าพี่ทำไปทำไม ทีแรกก็นึกว่าพี่อยากยึดแลัวเป็นใหญ่ในดินแดนแรกนภา แต่สุดท้ายมันม่ายช่ายยย แต่พี่เล่นใหญ่มากกกก วิธีการที่ใช้มันไม่น่าให้อภัยเลย ข่อยล่ะงงจายกับนางเอกในตอนท้ายมากก ไม่โกรธและช่างมันด้วยเหตุผลง่ายๆ แบบนั้นเลยเหรอ แล้วชีวิตคนตั้งมากมายกับสิ่งที่เสียไปล่ะคนสวย
ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ (บางทีก็ไม่ค่อยโอกับนิสัยทำอะไรตามใจตัวเองของนางเอกเท่าไร บางเรื่องบางอย่างก็รู้สึกว่ามันมากไป ทั้งๆ ที่อายุสองชาติรวมกันก็ปาไป
50 แล้วนะคนสวย -_-“)   

สรุป...ก็ได้รู้สักทีนะว่าใครคือพ่อแท้ๆ ของนางเอก และแน่นวลลลไม่ว่าเรื่องใดๆ ที่แต่ก่อนไม่มีทางแก้หรือเป็นปริศนามาเนิ่นนาน แต่ขอแค่มีนางเอกเท่านั้น! ไม่ช้ามานก็จาม่ายช่ายปริศนาหรือเรื่องยากอีกต่อปายย ม่ายว่าจะเป็นเรื่องยาลูกกลอนประสานพลัง เรื่องยาแก้พิษ หรือแม้แต่เรื่องปริศนาค่ายกล ....โอ๊ยยย ทั้งเก่งทั้งโชคดีจนไม่รู้จาว่างายแล้วแม่จ๋าาา

- มีจุดที่ซึ้งคือเรื่องอินทรีคืนถิ่นอะ พอเฉลยแล้วแอบเศร้า+ซึ้งมาก T^T
-
เรื่องอาจารย์ของนางเอกยังไม่เฉลย
-
เสี่ยวทุนยังไม่ได้ออกโรง (อยากเห็นน้องสู้)
-
เป็นเรื่องที่ตัวละครเยอะมาก บทพูดและบทช่วงที่ตัวละครกำลังนึก+คิดอะไรอยู่ในใจมันก็เลยเยอะตามไปด้วย(รึเปล่า?) แบบว่ามันละเอียดยิบย่อยมาก บางจุดก็มีแต่น้ำแลดูเวิ่นเว้อไปหน่อย....
-
ขอชื่นชมคนแปล แปลพวกชื่อต่างๆ และกลอนได้เพราะมาก อย่างเช่น...ก้าวกระโดดร้อยลี้ คีรีไร้เนิน มังกรคำลน อึงอลไตรภพ ทิวาแลราตรี ดารานทีโชติช่วงนิรันดร์...เป็นต้น



วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Sweet Sunbae ..จูบนี้สีชมพู

 

Sweet Sunbae ..จูบนี้สีชมพู
ผู้แต่ง : Elize
ผู้แปล : แมวส้มขนแตก
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)

"ต่อไปนี้ผมจะดูแลรุ่นพี่อย่างเปิดเผย ชอบรุ่นพี่อย่างเปิดเผยแล้วนะครับ 
เราคบกันอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อย ฉะนั้นผมทำได้
ขอบคุณสำหรับของขวัญที่ผมอยากได้มากที่สุดในโลก
คำเรียกขานว่าแฟนของซงอาเนี่ย..."

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องราวความรักในวัยทำงานของหนุ่มสาวออฟฟิศ ที่จะทำให้เรายิ้มตามไปกับสไตล์ลูกอ้อนการจีบสาวของพระเอก แชฮยอนซึง หนุ่มรุ่นน้องรูปหล่อเฟรนลี่ พนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่ถึงปี มีสาวๆ มารุมชอบมากมาย แต่พระเอกกลับไม่สนใจใคร เพราะได้ตกหลุมรัก ยุนซังอา รุ่นพี่ในทีมเดียวกันไปนานแล้ว ทว่าในขณะที่กำลังจะไปสารภาพรักเขาก็ดันไปเห็นภาพบาดตาบาดใจที่สาวเจ้ากำลังกอดจูบกับหัวหน้าซึ่งทำงานอยู่ในทีมเดียวกันเข้าเสียก่อน รักที่เพิ่งเริ่มผลิบานจึงเป็นอันต้องสลายไปในพริบตา เมื่อได้รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ...

หลังจากนั้นพระเอกก็หอบหัวใจอันบอบช้ำไปหาพี่สาวที่เป็นเจ้าของร้านชุดแต่งงาน และก็บังเอิญ(อีกแล้ว)ได้ไปเห็นแฟนของนางเอกกำลังพาผู้หญิงอีกคนมาตัดชุดแต่งงานที่นี่พอดี...จากที่ว่าจะตัดใจพระเอกเลยเปลี่ยนกลับมาฮึดสู้ใหม่อีกครั้ง เมื่อได้รู้ว่าแฟนของนางเอกกำลังนอกใจและจับปลาสองมือ...

นางเอกแอบคบกับแฟนซึ่งเป็นหัวหน้าในที่ทำงานเดียวกันมา 3 ปีโดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่ได้บอกใคร และก็ไม่รู้เลยว่าตลอดมาที่คบๆ กันอยู่ อีกฝ่ายก็แอบนอกใจไปคบกับผู้หญิงอื่นอยู่เรื่อยๆ ทั้งยังเห็นเราเป็นของตาย เลี้ยงไว้แก้เบื่อ เพราะเห็นว่านางเอกว่าง่ายอ่อนโยน เชื่อฟังดี ...พอพระเอกเห็นว่าแฟนนางเอกยังคิดจะหลอกนางเอกต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จึงตัดสินใจพานางเอกไปที่ร้านของพี่สาวเพื่อเปิดเผยความจริงให้เห็นเองกับตา ...ตอนแรกนางเอกก็ขัดขืนไม่เชื่อ จนได้ไปเห็นเองก็แทบช็อก เสียใจจนเป็นลมล้มพับไปเลย ไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะเป็นคนแบบนี้ พระเอกเลยเสนอว่าถ้าอยากเอาคืนก็ให้ใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือได้ โดยการแกล้งทำเป็นแฟนคบกับพระเอกหลอกๆ แล้วให้ไปชิงบอกเลิกกับแฟนเก่าก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกเลิกตัวเอง เพราะแฟนเก่านางเอกเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก ถ้ารู้ว่าตนถูกสลัดทิ้งก่อนด้วยสาเหตุนี้จะต้องโกรธมากแน่นอน...

ทีแรกนางเอกไม่ตกลงเพราะไม่อยากดึงพระเอกมาเกี่ยวข้อง ยิ่งรู้ว่าพระเอกชอบตนด้วยก็ยิ่งไม่อยากให้พัวพันกันไปมากกว่านี้ อยากให้เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องในที่ทำงานเท่านั้น บวกกับไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าด้วย(โถๆๆ ห่างกัน 10 เดือนเอง) เลยพยายามหลบเลี่ยง แต่พอไปขอเลิกอิแฟนเก่าดันไม่ยอมจบ แล้วก็ตามมาเจอตอนพระ-นางอยู่ด้วยกันพอดี ก็เลยเข้าใจว่าเขาคบกัน นางเอกเลยต้องเลยตามเลย ทำเป็นว่าคบกับพระเอกอยู่จริงๆ ส่วนอิแฟนเก่าก็โกรธมากกก รู้สึกเสียหน้าที่นางเอกมาบอกเลิกตัวเองเพื่อไปคบกับคนที่เด็กกว่าที่เป็นแค่พนักงานใหม่ และมีดีแค่หน้าตา (ความจริงพระเอกทำงานเก่งและบ้านรวยมากนะ) แค้นมาก เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายชิงบอกเลิกเขาก่อน เลยตามระรานนางเอกไม่เลิก อยู่ในที่ทำงานก็ใช้เรื่องงานมากลั่นแกล้งหาเรื่องต่อว่าพระเอกต่างๆ นานา ...จนสุดท้ายคือจะย้ายพระเอกไปทำงานที่สาขาอื่นที่อยู่ต่างเมืองเลยจ้า ..

แต่ยิ่งอิแฟนเก่าทำแบบนี้พระเอกก็ยิ่งชอบ เพราะมันทำให้ตัวเองมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนางเอกมากขึ้น เข้าทางพอดี 55 ...ส่วนผู้หญิงที่ว่าจะแต่งด้วยก็ไม่เอาแล้ว ทิ้งเลย อิแฟนเก่าเลยหันมาตื๊อนางเอกแทน อยากได้นางเอกกลับคืนมา แต่ไม่ใช่เพราะรักนะ มาจากความเห็นแก่ตัวล้วนๆ เพราะอิแฟนเก่าไม่เคยรักใครจริงนอกจากตัวเองและหน้าตาเท่านั้น..เหอๆ ส่วนพระเอกนี่ไทป์หมาน้อยชัดๆ ขี้อ้อน เทพแห่งการหยอด เจอนางเอกปฏิเสธบอกปัดไปกี่หนก็ไม่แคร์ ไม่สน คอยวนเวียนเอาใจใส่อยู่ข้างๆ อย่างสม่ำเสมอ ขยันหยอด เผลอเมื่อไรก็ต้องบอกชอบ แรกๆ นางเอกยังใจแข็งมากเพราะเพิ่งเลิกกับแฟน ถูกทำมาขนาดนั้นเลยยังไม่อยากมีความรักกลัวจะซ้ำรอยเดิมอีก อีกอย่างคือไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าด้วย แถมพระเอกก็เป็นแนวปากหวานกะล่อนชอบแหย่ นางเอกเลยยิ่งมองอีกฝ่ายเป็นเด็กน้อยเข้าไปอีก (จริงๆ พระเอกก็ 27 แล้วนะ นางเอก 28 จะว่าไปก็ไม่ได้ห่างกันมาก ไม่เด็กแล้วเน้อ)  ...

ภายนอกดูเป็นแบบนั้นแต่ข้างในจริงๆ พระเอกเป็นคนที่พึ่งพาได้นะ ความคิดความอ่านโตเกินอายุ ใจเย็น เข้าใจนางเอก คอยสังเกตมองดูนางเอกตลอด หากอีกฝ่ายไม่สบายใจหรือกำลังมีเรื่องในใจก็จะรู้ทันที ไม่เคยปล่อยให้นางเอกต้องเดินหรือเผชิญปัญหาคนเดียว เป็นคนรักในอุดมคติที่มีแต่ในนิยายจริงๆๆๆๆ อบอุ่นอ่อนโยน รักเดียวใจเดียว ขี้อ้อน เทคแคร์ดี เวลามีปัญหาอะไรก็ไม่เคยทิ้ง รีบมาอยู่ข้างๆ เสมอ นางเอกโคตรโชคดี ..จะไม่ใจอ่อนตกหลุมรักพระเอกยังไงไหว 55 ....


วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ

 

Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ
ผู้แต่ง : มู่ฝูเซิง
ผู้แปล : ซิงฉาย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

พระเอก ซูเนี่ยนชิน เป็นผู้มีความบกพร่องทางสายตา (ไม่ถึงกับบอดสนิท ยังมองเห็นแสงเลือนๆ และเห็นความเคลื่อนไหวได้ในระยะ 3 ฟุต) ตอนเด็กพระเอกเคยถูกส่งไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่แม่ก็มารับกลับไปตอน 7 ขวบ พอโตมาก็ทำงานเป็นนักแต่งเพลง เป็นครูสอนอักษรเบรลล์

นางเอก ซังอู๋เยียน สาวเสียงเพี้ยน หญิงสาวผู้ร่าเริงคุยเก่ง บังเอิญได้พบพระเอกครั้งแรกในสถานีวิทยุที่ตัวเองทำงานอยู่ในตอนที่พระเอกมาให้สัมภาษณ์รายการในฐานะ อีจิน นักแต่งเพลงลึกลับซึ่งไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่ไหนมาก่อน หลังจากนั้นก็ได้พบกันอีกครั้งที่โรงเรียนผู้พิการในเขตชุมชน นางเอกเป็นนักศึกษาฝึกงาน ได้มาเป็นครูผู้ช่วยสอนที่นี่ ส่วนพระเอกก็มาสอนแทนคนอื่นชั่วคราว

พระ-นางต่างมีปมปัญหาภายในใจด้วยกันทั้งคู่ พระเอกมีปมเรื่องวัยเด็กในอดีต เรื่องครอบครัว และเรื่องที่ตนมีสายตาบกพร่อง ภายนอกพยายามไม่แสดงออก ใช้ชีวิตเหมือนกับคนปกติธรรมดา แต่ข้างในกลับเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ การดูถูกตัวเองและมีอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนไหวกว่าใครๆ ดังนั้นพระเอกจึงเป็นคนโมโหง่าย ระเบิดอารมณ์ง่าย มีความเป็นเด็กและความยึดติดสูง ออกแนวเผด็จการ โดยเฉพาะกับคนที่ตนรักและให้ความสำคัญมากๆ อย่างนางเอก กับคนอื่นพระเอกยังควบคุมตัวเองได้ แสดงออกไม่มาก แต่พอเป็นนางเอกนี่แทบไม่ปกปิดเลย ดุมากก เผด็จการสุดๆ แต่ก็เข้าใจแหละนะ...

ส่วนนางเอกที่ภายนอกดูร่าเริงคุยเก่งนั้น แต่แท้ที่จริงกลับเป็นคนขี้ขลาด เอาแต่ใจ ดื้อรั้น และมีปมในใจบางอย่างที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งจะไปเฉลยในตอนหลัง นางเอกชอบพระเอกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า พอได้เจอกันอีกเลยพยายามหาทางเข้าหา แต่พระเอกก็ไม่รับน้ำใจ ทั้งเย็นชาใส่ทั้งพยายามหลบเลี่ยง จนมีวันหนึ่งที่นางเอกไม่สบายเลยลองโทรหาพระเอกดู พระเอกก็รับสายแล้วมาหาถึงบ้าน  พอเห็นอาการนางเอกก็ตัดสินใจพาคนกลับไปดูแลที่บ้านตัวเองต่อ ผู้ช่วยพระเอกเห็นก็อึ้ง ส่วนพระเอกก็ตกใจตัวเองเหมือนกันที่พานางเอกกลับมา ทั้งยังเป็นฝ่ายดูแลเขาอีก เพราะปกติที่ผ่านมาพระเอกไม่เคยสนใจหรือยุ่งกับใครเลย...

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ตกลงคบกัน ระหว่างที่คบพระเอกก็จะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อ่อนไหวง่าย ส่วนนางเอกก็ยังเหมือนเด็กน้อย ทำอะไรไม่ค่อยรอบคอบ บางเรื่องก็ไม่ได้คิดให้ดี บางทีจึงเผลอทำร้ายจิตใจพระเอกไปโดยไม่รู้ตัว...แล้วหลังๆ นางเอกก็ได้รู้เรื่องส่วนตัวของพระเอกมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันดันมาจากปากของคนอื่นไม่ใช่ตัวพระเอกเอง นางเอกเลยนอยด์แอบเสียใจว่าทำไมพระเอกถึงไม่เคยบอกกันบ้าง แต่พอพระเอกรู้ก็ไม่พูดดีๆ แต่กลับชิงต่อว่านางเอกก่อนอีก (อยากตบปากคนปากไม่ตรงกับใจจริงๆ)...จะว่าไปก็เหมือนเด็กอารมณ์ร้อนทั้งคู่แหละ เพิ่งคบกันเลยยังเข้าใจกันไม่มาก สื่อสารกันไม่มากพอ ถ้าไม่ทะเลาะกันก็แปลกแล้ว...

ต่อมาพระเอกอยากพานางเอกไปพบพ่อ นัดกันไว้ดิบดี แต่พ่อนางเอกเกิดเข้าโรงพยาบาล นางเอกจึงต้องผิดนัดและรีบกลับบ้านก่อน แต่ก็ไม่ได้อธิบายให้ดีๆ พระเอกเลยโมโหและเข้าใจไปอีกเรื่อง แต่นางเอกก็ไม่ได้อธิบายต่อเพราะต้องรีบไป จากนั้นพ่อพระเอกก็อาการทรุดแล้วบวกกับที่ทะเลาะกับนางเอกด้วย พระเอกเลยยิ่งดิ่งข้าวปลาไม่กิน คนดูแลพระเอกจึงโทรไปขอร้องให้นางเอกรีบกลับมาดูหน่อย นางเอกก็มาทั้งๆ ที่อาการของพ่อเพิ่งดีขึ้น แต่พอมาถึงก็ได้เห็นภาพที่พระเอกกำลังกอดกับคนอื่นอยู่ แล้วพอเจอหน้าก็ยังถูกพระเอกพูดจาไม่ดีใส่อีก ต่อจากนั้นบ้านนางเอกก็เกิดเรื่อง และสุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องเลิกรากันไปแบบจบไม่สวย...

ผ่านไปเกือบ 3 ปีทั้งสองคนได้กลับมาพบกันใหม่ พระเอกเลิกเขียนเพลงแล้วเปลี่ยนมาดูแลกิจการที่บ้านอย่างเต็มตัว กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อผู้ร่ำรวยเจ้าของกิจการมากมาย ส่วนนางเอกก็เป็นนักศึกษาปริญญาโท ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่ที่บ้านเกิด ...
วันหนึ่งพระเอกมาทำงานที่เมือง
B ที่นางเอกอาศัยอยู่ ทั้งสองคนเลยได้เจอกันในตอนที่นางเอกกำลังดูตัวพอดี.. ถ้าช่วงแรกพระเอกเป็นเหมือนสายลมและพายุอ่อนๆ งั้นต่อแต่นี้พี่ก็คือพายุเฮอริเคนควบด้วยภูเขาไฟระเบิดแหละจ้าา55 ...ดุมากกก น่ากลัวมากกกแม่จ๋า แทบจะกินหัวนางเอกแล้ว แบบรักเขามากกกก มากจนกลายเป็นคลั่ง กลายเป็นการยึดติดอย่างหนึ่ง ช่วงต้นๆ พระเอกจะขี้อาย แค่ถูกนางเอกแกล้งพูด xxx%&^# ในที่คนเยอะๆ พี่ก็อายแล้ว แต่พอช่วงหลังนี่โอ้โห...จับจูบต่อหน้าคนอื่นเลยจ้า ถ้านางเอกพูดไม่หยุด พี่ก็ขู่เลยว่าถ้ายังไม่เงียบเดี๋ยวจะประกบปากต่อหน้าคนอื่นแล้วนะ (ไม่องไม่อายแล้วจ้า กลายเป็นนางเอกที่อายแทน55) แถมยังขี้หึงมากกกอีกต่างหาก เห็นนางเอกไปกินข้าวกับผู้ชายอื่น ก็โทรไปเรียกให้ออกมาไม่งั้นจะเผาร้านทิ้ง...OMG! ใครวะเนี่ย55 ยังใช่อีจินนักแต่งเพลงคนนั้นอยู่มั้ยยย 55

คือพอเลิกกัน พระเอกก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่นางเอกกับนางเอกเห็น เลยมาดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ แต่กลับไม่ดูแลตัวเอง หันมากินเหล้าสูบบุหรี่เพราะเครียดเพราะคิดถึงนางเอก จากที่โมโหฉุนเฉียวง่ายอยู่แล้ว พอนางเอกไปก็ยิ่งหนักกว่าเดิม ถ้าอยู่กับคนอื่นยังพอควบคุมตัวเอง แต่ถ้าอึกฝ่ายเป็นนางเอกเมื่อไรล่ะก็...หึหึ เลขาพระเอกก็แบบ..ที่เราเจอมานี่ยังไม่ใช่ของจริงสินะ ต้องอย่างนางเอกสิของจริง ...คือรักมาก ใส่ใจมาก เลยอ่อนไหวและมีอารมณ์กับเขามากเป็นพิเศษ ใครจะไม่สนใจพี่ก็ได้แต่นางเอกไม่ได้เด็ดขาดดด เหมือนเด็กน้อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็เกิดจากความไม่มั่นใจ ความกลัวว่าจะสูญเสียเขาไปนั่นแหละ ดีที่พอมาเจอกันรอบนี้ต่างคนก็ต่างปรับตัวและเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น เพราะสุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าตัดกันไม่ขาด ไม่ว่ายังไงก็ยังรักกันอยู่ดี...

ปีนี้แนวปัจจุบันของ with love นี่มีแต่โดนๆ ทั้งนั้น ก่อนหน้านี้เพิ่งอ่านให้รักนี้มีแต่ความหวานมา พอเจอเรื่องนี้แทบเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน55 อันนั้นหวานละมุนแบบอบอุ่นหัวใจมาก ส่วนอันนี้หวานปนขม ตอนที่ดีๆ เราก็ยิ้ม แต่พอถึงตอนที่มีปัญหาไม่เข้าใจกันมันก็หน่วงจนปวดหัวใจไปหมด แต่ก็สนุกมาก ชอบทุกรายละเอียดที่ใส่มา ทั้งเรื่องที่พระเอกบอกว่าหากเกิดพลัดหลงกันก็จะยืนรออยู่ที่เดิมไม่ต้องตกใจไป รวมถึงเรื่องนาฬิกาและ mp3 ด้วย
จริงๆ มีเยอะกว่านี้ต้องลองไปอ่านดูน๊า แปลดี สื่ออารมณ์
+ลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆ ได้ดีมากๆ ...ดีจริงๆ ที่ได้อ่าน ขอบคุณสำนักพิมพ์ที่เลือกหยิบเรื่องนี้มาแปล ^^


วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565

อุ่นหัวใจด้วยไฟรัก 2 เล่มจบ

อุ่นหัวใจด้วยไฟรัก 2 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เอ่อร์ตงทู่จื่อ (
耳东兔子)
ผู้แปล : มู่หลินเซิน
วาดปก : Sinvia
สำนักพิมพ์ อรุณ

หลินลู่เซียวตกใจ แต่ก็รู้สึกขมขื่นจนพูดไม่ออก อารมณ์แน่นค้างติดอยู่ในอก 
วิธีแสดงความรักของเธอนั้นเปิดกว้าง ปากพูดถ้อยคำหรูหราอลังการ
แต่กลับไม่ยอมบอกเขาเรื่องที่ตัวเองทำลงไปจริงๆ....
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมา เจ็บปวดมากจริงๆ
หัวใจเต้นหนึ่งครั้งก็เจ็บปวดขึ้นหนึ่งครั้ง

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวรักโรแมนติกดราม่า รักในวัยทำงาน สะท้อนภาพการทำงานและปมปัญหาครอบครัว พระเอก หลินลู่เซียว หนุ่มหล่อ มาดแมน แฮนซั่มมากกๆ นายทหารสังกัดกองกำลังดับเพลิงหรือผู้กองหลิน นิสัยสุขุมเย็นชา ดื้อรั้น ไม่ค่อยพูด(แต่พูดทีมีสะอึก) เป็นคนเถรตรงพึ่งพาได้ ส่วนนางเอก หนานซู ดาราสาวสวย หุ่นดี นักแสดงชายขอบที่ไม่ค่อยดัง มีแต่ข่าวลือเสียๆ หายๆ เป็นลูกของอดีตดาราสาวสวยชื่อดังที่ออกจากวงการไปแล้ว

พระ-นางอายุห่างกัน 8 ปี พระเอกเคยช่วยชีวิตนางเอกเอาไว้ในเหตุไฟไหม้บ้านเมื่อตอนอายุ 16  พอช่วยเสร็จนางเอกก็ขอไปอยู่ที่บ้านพระเอกสักระยะเพราะรู้สึกว่าอยู่กับพระเอกแล้วปลอดภัยดี พระเอกก็ปล่อยให้นางเอกอยู่ไป ตัวเองไม่ค่อยได้กลับบ้าน จนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าให้คนเขามาอยู่ กระทั่งวันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาพระเอกที่บ้าน นางเอกเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนพระเอก เลยรีบเก็บของย้ายออก แต่ก่อนไปไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีก็เลยเลือกให้เงินสด 10000 หยวนแทน ซึ่งทำให้พระเอกโกรธมาก เหมือนโดนหยาม...และทำให้พี่แกจดจำนางเอกได้ไม่ลืม...ผ่านไป 5 ปีทั้งสองคนก็ได้กลับมาเจอกันใหม่ คราวนี้นางเอกโตแล้วและตั้งใจว่าจะต้องตามจีบพระเอกให้สำเร็จ!

นางเอกก็หลงรักและประทับใจในตัวพระเอกมาตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น แม้จะผ่านมาหลายปีก็ยังไม่ลืม ยังชอบเหมือนเดิม พอมาคราวนี้น้องเลยรุกเต็มที่ อ่อยรัวๆ รุกบ้างถอยบ้างตามแต่โอกาส ส่วนพระเอกจริงๆ ก็หวั่นไหวมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเหมือนกัน เพียงแต่เวลานั้นนางเอกยังเด็กอยู่ ส่วนพระเอกก็ยังดูแลใครไม่ได้เพิ่งเริ่มทำงาน แถมงานของพี่ก็เป็นงานที่ต้องเสียสละ ต้องเสี่ยงอันตราย ต้องช่วยชีวิตคน เสี่ยงตลอดเวลาไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง หน้าที่ความรับผิดชอบในงานและการช่วยเหลือคนต้องมาก่อนอันดับหนึ่ง ใครจะเป็นผู้หญิงของพี่ต้องอดทน เพราะพระเอกยุ่งมากแทบไม่มีเวลาเลยจริงๆ 

จริงๆ เรื่องนี้พล็อตเดาไม่ยากนะ ไม่ได้ซับซ้อน แต่อ่านแล้วติดรวดเดียวจบแบบไม่วางเลย อ่านแล้วอินกับความรู้สึกของตัวละคร อินกับอุดมการณ์หน้าที่ความรับผิดชอบของพระเอก (มีแต่ในนิยายสินะแบบนี้)  มันมีความเรียลในเรื่องของอาชีพการงาน ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ความรักก็มีทั้งช่วงที่หวานและดราม่า ซึ่งมาทีก็ปวดใจจนแอบน้ำตาคลอ พระเอกเป็นสไตล์แบบถึงจะเย็นชาหยิ่งผยองแต่ก็กวนโอ๊ย แถมยังความรู้สึกช้า กว่าจะรู้ตัวว่าชอบนางเอกก็ทำเขาเจ็บไปหลายดอกเลย ขิงก็ราข่าก็แรงอะคู่นี้ เหมาะสมกันดี
พอตกลงคบกันแล้วก็แซบมาก
นางเอกเปิดเผยร้อนแรงดี เย็นชาเยือกเย็นกับคนนอก แต่กับพระเอกคือเหมือนลูกแมวน้อย แม้ nc จะมีนิดเดียวแล้วตัดเข้าโคม แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนและความแซบอยู่นะ...อิอิ

แต่พอหวานกันได้ไม่นานงานก็เข้า เพราะมีแอบคนเอาเรื่องที่ทั้งสองคนเป็นแฟนกันไปบอกนักข่าว หลังจากนั้นประวัติพระเอกก็ถูกขุดจนลุกลามไปถึงพ่อและน้องชาย
พอนางเอกรู้ก็เสียใจมาก รับไม่ได้ที่พระเอกต้องมาถูกคนอื่นต่อว่าแบบนั้น ที่ผ่านมาตัวเองจะโดนใครด่าว่ายังไงนางเอกไม่เคยสนใจ แต่พระเอกจะโดนแบบนี้ไม่ได้ ทว่าที่ผ่านมานางเอกปกป้องตัวเองด้วยการหนีและปิดกั้นไม่รับรู้เรื่องแย่ๆ มาตลอด จึงปกป้องคนอื่นไม่เป็น ไม่รู้จะทำไง ก็เลยขอเลิกกับพระเอกเพราะเป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องพระเอกได้ในเวลานั้น

พอเล่ม 2 ก็หน่วงเลย เข้าสู่ช่วงการงอนง้อขอคืนดี หลังจากเกิดเรื่องพระเอกถูกหน่วยงานส่งไปทำงานแถวภูเขาไกลๆ นางเอกก็ตามไปง้อแบบแทบจะทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่าง แต่พระเอกก็ไม่ใจอ่อน .. จนมีวันหนึ่งพระเอกเข้าโรงพยาบาล เพื่อนซี้พระเอกก็โทรหานางเอกบอกว่าพระเอกอาการหนักมาก นางเอกเลยรีบมาหา พอพระเอกตื่นมาเห็นนางเอกก็มาม่ากันอีกกกก จนนางเอกแทบจะถอดใจ แต่ขอเคลียร์อธิบายเหตุผลให้จบก่อนนะ...

อ่านแล้วแอบนึกถึงเรื่องคุณคือป้อมปราการของฉัน อันนั้นพระเอกก็เป็นทหารเหมือนกัน(แต่คนละสังกัด) แต่ในเรื่องคือใครจะเป็นภรรยาทหารนี่ต้องคิดดีๆ นะ เพราะพระเอกทั้งสองเรื่องยกให้ประเทศชาติและหน้าที่มาก่อนครอบครัวและคนรักนะจ๊ะ แต่ถ้าได้เป็นคนรักของพี่ก็การันตีความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว และจะไม่มีวันทรยศหักหลังแน่นอน
แต่เรื่องนี้อุปสรรคปัญหาจะเยอะกว่าเพราะนางเอกเป็นดารา แถมยังเป็นดาราที่ชื่อเสียงไม่ดี ผู้ใหญ่ฝั่งพระเอกเลยคัดค้านไม่เห็นด้วย ส่วนฝั่งนางเอกก็เจอแม่ขวางคือกัน หนักกว่าพระเอกด้วย เดี๋ยวอ่านไปท้ายๆ จะมีเฉลยปมของแม่นางเอก อ่านๆ ไปก็น้ำตาปริ่มๆ อีกแล้ว
T^T ...(สรุปนี่มันนิยายรักดราม่ารันทดชิมิ -_-)

หลังๆ นางเอกก็เริ่มเรียนรู้ที่จะใส่ใจคนอื่น รู้วิธีการปกป้องตัวเองในแบบที่ถูกต้อง กลับมาคราวนี้คือแกร่งกว่าเดิม แถมยังได้เอาคืนคนที่ปล่อยข่าวด้วย
แอบชอบความสัมพันธ์ของพระเอกกับเพื่อนๆ และคนในที่ทำงาน แม้ภายนอกพระเอกจะเย็นชาดุโหด แต่พอได้รู้จักจริงๆ กลับมีแต่คนชื่นชอบนะ เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้คนติดตามหลงใหล ทำให้คนเคารพนับถือแบบไม่รู้ตัว ในเรื่องถึงได้มีสาวๆ มาชอบพี่แกเยอะ เสน่ห์แรงแบบไม่รู้ตัว แบบไม่ต้องพยายามเลย
ส่วนนางเอกก็เพื่อนน้อยนิด เพราะโตมาแบบขาดความรักความอบอุ่น ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ต้องเผชิญและแก้ปัญหาเองโดยลำพัง ทั้งเจอคนสะกดรอยตาม เจอคนแอนตี้ด่าว่า จนกลายเป็นคนหวาดระแวงเวลามีคนเข้าหา และเป็นโรคซึมเศร้าระยะต้น เห็นยิ้มๆ เฉยๆ แต่ข้างในนี่ผ่านอะไรมาเยอะนะ พอเจอพระเอกครั้งแรกน้องถึงได้ชอบพี่แกมาก เพราะพระเอกให้ความรู้สึกปลอดภัยเหมือนเป็นเซฟโซน อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นใจไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีกแล้ว
ซึ่งเป็นสิ่งที่นางเอกไม่เคยได้จากใครเลยในชีวิต แม้แต่แม่แท้ๆ
ของตัวเองก็ตาม


วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ลำนำล่มแคว้น มัจฉาพรางประกาย 2 เล่มจบ

 

ลำนำล่มแคว้น มัจฉาพรางประกาย 2 เล่มจบ
ผู้แต่ง : สือซื่อเชวี่ย (
十四阙)
ผู้แปล : หยกน้ำแข็ง
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เป็นเรื่องที่อยู่ในเซตเดียวกับลำนำล่มแคว้น ลิขิตลายหงส์ แต่แยกอ่านได้
แค่จะมีบางเหตุการณ์ที่คาบเกี่ยวและบางตัวละครในลายหงส์มาปรากฏอยู่ในเรื่องนี้ด้วย
และอีกอย่างคือเราจะได้รู้จักและได้เห็นชีวิตของบางตัวละครที่เคยออกมาในเล่มก่อนหน้ามากขึ้น เช่น ปิงหลีหรือเซวียไฉ่ อี๋ซู และเฮ่ออี๋
เป็นต้น (สารภาพว่าตอนอ่านเจอแรกๆ เราก็ลืมไปแล้วอะ ต้องอ่านไปสักระยะหรือไปเจอบางเหตุการณ์ก่อนถึงได้...อ้อออ จำได้และ55)

เรื่องนี้จะกล่าวถึงแคว้นปี้ ส่วนนางเอกก็คือ เจียงเฉิงอวี๋ บุตรสาวคนเล็กของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย เพียบพร้อมด้วยรูปโฉม สติปัญญา กิริยามารยาทดีงามจนเป็นที่เลื่องลือ 
ตระกูลเจียงเป็น 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ของแคว้น ในตอนที่เกิดการผลัดเปลี่ยนบัลลังก์ ตระกูลเจียงวางตัวเป็นกลางไม่ได้อยู่ข้างองค์ชายพระองค์ไหน ดังนั้นพอฮ่องเต้ใหม่ขึ้นครองราชย์ ตระกูลของนางเอกจึงต้องรีบส่งพี่สาวคนโตเข้าวังไปเป็นสนมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีโดยทันที ส่วนนางเอกก็มีชีวิตอย่างสงบสุข ได้รับความรักและการปกป้องจากคนในครอบครัวอย่างเต็มที่  พออายุ 15 ก็ได้หมั้นหมายกับคนที่ตนแอบปลื้ม... ในขณะที่คุณหนูหรือชนชั้นสูงส่วนใหญ่มักไม่อาจเลือกคู่ครองเองได้ ไม่อาจได้แต่งกับคนที่ชอบ..
แต่นางเอกกลับทำได้..

ทว่าเพียงไม่นานฝันก็ต้องพังทลายลงด้วยราชโองการเพียงฉบับเดียว เมื่อฮ่องเต้มีรับสั่งให้นางเอกเข้าวังไปเป็นพระสนม ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ในนางเอกได้เติบโตอย่างแท้จริง
จากบุตรสาวคนเล็กที่ครอบครัวรักใคร่ทะนุถนอม ไม่เคยเผชิญเรื่องร้ายๆ หรือความลำบากใดๆ แต่การที่ต้องเข้ามาอยู่ในวังนี่แหละจะทำให้นางได้เห็นโลกและรู้ซึ้งถึงจิตใจคนอย่างแท้จริง ...
พอมาอยู่ในวังพี่สาวแท้ๆ ก็โกรธเคือง ฮ่องเต้ก็มีสนมที่โปรดปรานมากๆ อยู่ก่อนแล้ว ส่วนตัวนางเอกก็ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่ใช่คนทะเยอทะยานอยากไขว่คว้าหาอำนาจ ไม่ชอบเรื่องราวสกปรกโสมมใดๆ ไม่อยากเป็นคนโปรดของใคร เพียงแค่อยากได้แต่งงานและครองคู่กับคนที่ตนรักเท่านั้นเอง ...แต่ก็ไม่มีหวังแล้วนับตั้งแต่วันที่ต้องกลายมาเป็นพระสนมหรือสตรีของฮ่องเต้ ...

นางเอกจึงไปเจรจากับฮ่องเต้ ขอเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาคอยวางแผน แต่ไม่ขอเป็นพระสนมที่ต้องคอยคลอดลูกใช้ชีวิตอยู่แต่ในวัง...ฮ่องเต้เลยให้แบบทดสอบไป เพื่อดูว่านางเอกจะสามารถทำได้จริงตามที่พูดไหม เก่งพอที่จะเป็นที่ปรึกษาช่วยออกอุบายให้ได้จริงรึเปล่า..
ภารกิจแรกคือการส่งไปเป็นสายลับที่แคว้นเฉิง ในฐานะศิษย์น้องของท่านหมอ ...
ซึ่งระหว่างทางนางเอกก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้พบเจอกับคนที่เป็นทั้งมิตรและศัตรู
ได้เป็นฝ่ายช่วยเหลือและถูกคนอื่นช่วยเอาไว้ ทำให้นางได้รู้จักตนเองและโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น  เหมือนได้มองนางเอกเติบโตไปเรื่อยๆ ได้เห็นนางผิดหวัง ไม่สมปรารถนา มองดูนางเผชิญหน้ากับอำนาจ การแย่งชิง การลาจาก และการทรยศหักหลัง
... จากคุณหนูในห้องหอจนกลายมาเป็นพระสนม เป็นที่ปรึกษาของฮ่องเต้ และก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตที่แม้แต่ตัวเองก็คาดไม่ถึง...

ส่วนตัวละครชายในเรื่องก็เป็นเหมือนกับผู้ที่เข้ามาแต่งแต้มสีสัน ช่วยสร้างเส้นทางใหม่ๆ ให้กับชีวิตของนางเอก ประคับประคองช่วยให้นางได้เดินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น เปรียบเหมือนเพื่อน เหมือนอาจารย์ เหมือนที่ปรึกษาคนสนิท คอยชี้แนะ แนะนำแนวทาง เปิดมุมมองโลกใบนี้ให้กว้างขึ้น ทำให้นางได้ขัดเกลา สั่งสมประสบการณ์ จนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตนต้องการ และเส้นทางไหนที่ตนอยากจะเดิน...

นางเอกเป็นคนฉลาดใจดีมีเมตตา ไม่เสแสร้ง ถึงเรื่องนี้จะชูนางเอกเด่นแต่นางก็ไม่ได้ซูเลย ไม่ได้ฉลาดว้าวอะไรขนาดนั้น กว่าจะเปล่งประกายและเฉียบคมได้ก็ต้องผ่านการขัดเกลา สั่งสมประสบการณ์ ต้องฝ่าฟันอุปสรรค และก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายเสียก่อน  
แต่กว่าจะไปถึงวันนั้นได้ก็ต้องสูญเสียอะไรไปเยอะพอสมควรเหมือนกัน

แต่จุดหนึ่งที่เราชอบมากในตัวนางเอกเรื่องนี้คือ..ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องเลวร้ายมากขนาดไหน นางก็ยังมีความเป็นมนุษย์ มีความเห็นอกเห็นใจ และความสงสารให้กับผู้คน ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายก็พร้อมยอมทำทุกอย่างทุกทางโดยไม่สนชีวิตใครหรือสิ่งใดทั้งสิ้น...

อ่านจบแล้วบอกเลยว่าหวานน้อย แถมยังลงเรือผิดลำอีกต่างหาก..อ้ากกกส์
มีพระเอกนะเพียงแต่ไม่ใช่คนที่เราคิดอะ พระเอกดูไม่ค่อยได้ข้อง
เกี่ยวกับนางเอกเท่าไรเลย ออกน้อย แบบโผล่มาช่วยเป็นบางครั้งบางคราวเฉยๆ แต่สุดท้ายพี่แกก็คือคนที่ได้อยู่กับนางเอก งั้นก็คงเป็นพระเอกแหละนะ 55 ...
เนื้อเรื่องจะหนักไปที่การเมือง การแย่งชิงอำนาจ และแผนการความแค้นอะไรไม่รู้มากมายเต็มไปหมด พัวพันกันไปมาไม่จบไม่สิ้น (จะจบได้ก็ต่อเมื่อต้องตายกันไปทั้งสองฝ่ายล่ะมั้งนะ 55) อ่านแล้วรู้สึกว่าทุกคนน่าสงสารหมด  ไม่มีใครที่ไม่ใช่เหยื่อหรือได้รับผลกระทบจากอำนาจ หรือจากวงศ์ตระกูลของตัวเองและบลาๆ เลย  สรุปไม่มีใครที่ได้เป็นตัวเองกันสักคน ...

ป.ล. บางทีคนที่มีความสุขที่สุดในเรื่องอาจจะเป็นแม่นางเอกก็ได้นะ ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวแผนการสกปรกซับซ้อนอะไร (รึเปล่าหว่า) ได้อยู่กับคนที่รัก เป็นสามีภรรยาเดียว
ส่วนพ่อนางเอกนี่ก็เออ..อุตส่าห์วางแผนทำอะไรไปตั้งมากมายตั้งหลายปี แต่ถอนตัวไปง่ายๆ เพราะเมียป่วยอะนะ!!..แล้วจะทำไปเพื่อ? สงสารคนที่ได้รับผลจากสิ่งที่พ่อทำจริงๆ ..
แต่พ่อโชคดีอย่างคือได้แต่งกับคนที่รัก ...ไม่เหมือนคนอื่นๆ โคตรรันทด มีสักกี่คนที่สมหวัง นางเอกนี่ก็เกือบจะไม่แล้วนะ....

ป.ล. ในเรื่องตัวเอกที่อายุ 7-8 ขวบ คือได้เดินทางไปเป็นทูตที่ต่างแคว้นตั้งแต่อายุเท่านั้นแล้วอะ โคตรเก่ง ยังไม่ถึง 15 ก็ได้เป็นผู้นำตระกูล ได้เป็นขุนนางยศสูงแล้วด้วย ...
ส่วนข่อยในตอนนั้นทำอะไรนะ ยังบ้าๆ บอๆ เล่นดินเล่นทรายอยู่เลยมั้ง
55..แต่ก็เข้าใจแหละ ก็สภาพแวดล้อมสภาพสังคมในยุคนั้นมันบังคับให้ต้องรีบโตและรู้จักเอาตัวรอดอะเนอะ

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา 5 เล่มจบ

 


ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา 5 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ
ผู้แปล : พริกหอม
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ผลงานของท่านเผิงไหลเค่อผู้เขียนปรปักษ์จำนน ข้าผู้นี้วาสนาดีเกินใคร และอีกหลายเรื่อง(ไปเสิร์ชดูเน้อ) แนวคล้ายๆ ปรปักษ์จำนน แต่เรื่องนี้จะเข้มข้นและมีดีเทลเยอะกว่า การเมืองศึกสงครามจัดเต็ม พล็อตแน่น เรื่องรักก็ดีงามไม่แพ้กัน แต่เรื่องนี้เป็นฝั่งพระเอกนะที่ได้ย้อนกลับมา ส่วนนางเอกแค่ฝันถึงในชาติที่แล้วบ้างแบบนานๆ ที มาแบบเลือนๆ ลางๆ ไม่สามารถปะติดปะต่อเชื่อมโยงอะไรได้ ไม่เหมือนกับพระเอกที่จำได้หมด

นางเอก เกาลั่วเสิน บุตรสาวเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่กับเกาเฉียวหัวหน้าตระกูลเกา
ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลชนชั้นสูงอันดับต้นๆ ของแคว้น ชาติกำเนิดสูงส่ง หน้าตางดงาม เติบโตมาด้วยความรักความเอาใจใส่จากคนในครอบครัว ประหนึ่งไข่มุกบนฝ่ามือที่ได้รับการปกป้องทะนุถนอมมาอย่างดี
...ในชาติที่แล้วหลังแต่งงานได้ไม่นาน สามีของนางเอกก็ด่วนจากไปทำให้นางต้องกลายเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว และค่อยๆ สูญเสียคนในครอบครัวไปทีละคนจนไม่เหลือใคร ท่ามกลางศึกสงครามการสู้รบและราชสำนักที่ไม่มั่นคง นางเอกจึงต้องจำใจแต่งงานใหม่กับ หลี่มู่ หรือต้าซือหม่าของแคว้นในเวลานั้น บุรุษซึ่งมีอำนาจเหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ใต้คนผู้เดียว ทว่าในคืนวันเข้าหอ พระเอกกลับถูกคนกวางยาพิษจนทำให้ต้องตายไปด้วยความคับแค้นใจ ส่วนนางเอกก็ครองตัวเป็นหม้ายขอหลีกหนีจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลายไปอยู่ในอารามเต๋า กระทั่งตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงในวันที่ข้าศึกบุกเข้าเมือง...

หลังจากกล่าวถึงเรื่องราวในชาติที่แล้วจบ  ก็เปิดเรื่องด้วยนางเอกในวัย 16 บุตรสาวสกุลเกาลูกรักของบ้าน กำลังจะได้จัดพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นคู่หมายในวัยเยาว์หรือสามีเก่าในชาติที่แล้ว ทว่าในชาตินี้กลับถูกพระเอกเข้ามาแทรกแซงจึงทำให้ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป...
แต่คิดจะเป็นเขยสกุลเกาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ให้ความสำคัญกับชาติกำเนิดและชนชั้น หนทางในการ
แต่งนางเอกมาเป็นภรรยาจึงเหนื่อยยากและเต็มไปด้วยอันตรายยิ่งนัก นอกจากต้องเผชิญกับคำสบประมาทดูถูกเหยียดหยามต่างๆ นานา ก็ยังต้องเอาตัวรอดจากการถูกลอบสังหาร รวมถึงบททดสอบที่พ่อตาตั้งขึ้นอีก ...ปกติเคยอ่านเจอแต่เรื่องที่นางเอกแต่งไปแล้วต้องไปไฟท์กับบ้านสามี แต่เรื่องนี้ตรงกันข้ามเลย ...

อ่านเรื่องนี้แล้วก็แอบนึกถึงเสน่ห์รักขุนนางหญิง เพราะเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องชาติกำเนิดและฐานะวงศ์ตระกูลมาเป็นอันดับหนึ่งเหมือนกัน ชนชั้นสูงแยกไม่ยุ่งเกี่ยวกับชนชั้นสามัญหรือชนชั้นต่ำอย่างชัดเจน ใครแต่งงานกับคนศักดิ์ฐานะต่ำกว่าก็จะถูกบูลลี่โดนดูถูกไม่มีใครคบ ฮ่องเต้อ่อนแอต้องพึ่งพาตระกูลขุนนางชนชั้นสูง บ้านเมืองก็มีแต่ศึกสงคราม เพราะเป็นช่วงกลียุค ผู้คนพากันหนีภัยสงครามอพยพลงใต้ ส่วนดินแดนทางเหนือก็ถูกชนเผ่านอกด่านยึดครองไปเกือบหมด 

ทว่านอกจากสงครามภายนอกก็ยังมีสงครามภายใน ประชาชนต้องทุกข์ยากจากภัยสงครามและการก่อกบฏ แต่พวกชนชั้นสูงก็ยังคิดถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตน หากมีใครหรือตระกูลไหนจะเด่นเกินหน้าก็ต้องรีบหาทางขัดแข้งขัดขาเอาไว้ กลัวเขาจะมีผลงานโดดเด่นเกินไป บ้านเมืองถึงได้ไม่ไปไหนเพราะพวกตัวใหญ่ๆ ก็กลัวแต่ว่าตนจะเสียผลประโยชน์ พ่อนางเอกถึงยกทัพไปชิงดินแดนกลับคืนมาไม่ได้สักที เพราะโดนคนพวกนี้แหละคอยถ่วงรั้งเอาไว้ แล้วสุดท้ายก็ต้องล้มเหลวกลับมา กลายเป็นความเสียใจไปชั่วชีวิต...

หลังแต่งงานกัน นางเอกก็สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านพระเอกได้ดีเกินคาด แม้ตอนแรกจะไม่พอใจ เพราะเหมือนถูกบังคับให้ต้องแต่งกับใครไม่รู้ ต้องห่างบ้านมาไกลแสนไกลเพื่อเป็นภรรยาให้กับคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ประหนึ่งนกน้อยที่ร่วงตกลงมาสู่พื้นดิน  ดังนั้นวันแรกที่เข้าหอพระเอกจึงไม่ได้แอ้มเมียและถูกไล่ให้ไปนอนที่อื่นตามระเบียบ...แต่พี่ก็ไม่ได้เสียใจ เพราะอยากให้ภรรยาตัวน้อยเป็นเช่นนี้นี่แล ได้ใช้ชีวิตตามแต่ใจ ไม่ต้องอดทนอดกลั้นอยู่กับความทุกข์เหมือนในชาติที่ผ่านมา...นางเอกจึงอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจยิ่งกว่าตอนอยู่บ้านเดิมซะอีก เพราะครอบครัวพระเอกและคนรอบข้างมีแต่คนดีๆ นานวันเข้านางเอกจึงค่อยๆ เข้าใจและมองเห็นด้านดีของพระเอก ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันจนเกิดเป็นความรักความห่วงใยระหว่างสามีภรรยา 

ถึงเรื่องศึกสงครามการเมืองจะเยอะแต่นักเขียนก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องรัก ที่เราจะได้เห็นชัดๆ คือพัฒนาการของนางเอก จากสาวน้อยนุ่มนิ่มที่ไม่เคยเผชิญโลก ก็ค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวกล้าตัดสินใจและเข้าใจโลกมากขึ้น  ถึงจะเป็นคุณหนูในห้องหอเป็นลูกขุนนางใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เอาแต่ใจถือดีว่าตนมีฐานะสูงศักดิ์อะไรเลย เวลาอยู่กับสามีน้องจะขี้อ้อนมาก นิสัยดี เข้าอกเข้าใจคน มีอะไรก็พูดก็ถามตรงๆ ไม่เหมือนพระเอกที่เอาแต่เงียบ เวลามีอะไรไม่ชอบพูด...อย่างเรื่องเพลงที่นางเอกส่งให้คู่หมั้นเก่า อยากรู้ก็ไม่ถามตรงๆ นางเอกถามตั้งหลายทีว่ามีอะไรก็เงียบ พออธิบายแล้วก็ยังเงียบ จนนางเอกต้องเปลี่ยนจากไม้อ่อนไปเป็นไม้แข็งแทน 55  พระเอกคิดถูกแล้วแหละที่รีบแต่งน้อง ทำให้น้องไม่ต้องมีชีวิตเหมือนในชาติก่อน ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าน้องจะยังขี้อ้อนตรงไปตรงมาแบบนี้ได้อยู่อีกไหม ชอบตอนที่พระเอกพูดกับคนสนิทว่า...เป็นพันธมิตรกันไม่สำเร็จ ข้ายังทำศึกได้ วันนี้สูญเสียเมืองไป พรุ่งนี้ข้าไปช่วงชิงกลับมาได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาง ...วันหน้าท่านจะให้ข้าอยู่อย่างไร...   คนสนิทนี่อึ้งไปเลยจ้า ไม่คิดว่าพระเอกจะรักเมียลึกซึ้งขนาดนี้ ...

ในเรื่องนอกจากคู่พระ-นาง ก็มีคู่พ่อแม่ของนางเอกนี่แหละที่เด่นไม่แพ้กัน
ขอยกให้ท่านพ่อของนางเอกเป็นพระเอกอีกคนในเรื่องเลย โดยเฉพาะเล่ม
4 บทเด่นมากกก แทบจะกลบลูกเขยไปเลยจ้า...อ่านแล้วก็สงสารท่านพ่อ ตอนแรกคิดว่าพระเอกเจอมาหนักแล้วนะ มาเจอพ่อนางเอกนี่แบบ...เฮ้ออ ประสาทจะแดก พระเอกยังมีคนสนิทที่เชื่อใจได้คอยติดตาม แต่พ่อนี่นอกจากพี่น้องกับหลานชายที่สนิทจริงๆ และลูกเมียอีกสองก็ไม่มีใครแล้วนะ...ด้วยความที่เป็นหัวหน้าตระกูลและอยู่ในตำแหน่งสูง ใครๆ ต่างก็เกรงใจและเกรงกลัว กระทั่งฮ่องเต้ยังหวาดระแวง ทั้งๆ ที่ใจพ่อมุ่งหวังทำเพื่อบ้านเมืองและชาวประชา แต่พวกตระกูลใหญ่ๆ รวมถึงฮ่องเต้และอีกบลาๆ กลับหวาดระแวงกลัวว่าพ่อจะเด่นเกินหน้ามีผลงานมากเกินไป เวลาพ่อจะทำอะไรเลยต้องคอย
ขัดขวางหาทางขัดขาอยู่เสมอ รับมือกับศัตรูนอกแคว้นว่าเหนื่อยแล้ว แต่ยังไม่หนักเท่ากับศึกจากภายในแคว้นตัวเองเลย

ยิ่งเล่ม 4 ยิ่งอยากหยุมหัวพวกคนคิดร้ายคอยสร้างปัญหาทั้งหลาย ให้พ่อพักบ้างเถอะ ฮ่องเต้ก็ไม่เอาไหน ขุนนางส่วนใหญ่ก็รักแต่ตัวเอง มีเหลือดีๆ กระจึ๋งนึง เวลามีอะไรก็โยนมาให้แต่พ่อ คนเดียวแม่งแบกมันทุกเรื่อง นับถือพ่อมากกกที่ทนมาได้ ทำไม่ดีคนก็คอยจับผิดรอเหยียบซ้ำ ทำดีไปก็ถูกหวาดระแวงอีก อยู่ยากเหลือเกินชีวิต
ฉากที่ท่านพ่อคิดจะถอนตัวออกจากราชสำนักแล้วถูกฮ่องเต้ซ้อนแผนนี่โกรธมากนะ...
แบบโอ๊ยยย...ระแวงเขาแต่ก็ยังจะใช้งานเขาอีกน้อ คิดจะใช้ไปจนตายเลยเหรอ พอมารอบสองเอาอีก...ดีที่รอบนี้พ่อเด็ดขาด เพราะมีพระเอกรับช่วงต่อแล้ว พ่อเลยไม่สนแล้ว ให้พ่อได้ไปใช้ชีวิตของพ่อเถอะ สงสารมาก ถูกบีบให้ทำเพื่อตระกูล เพื่อราชสำนัก และเพื่อบ้านเมืองมาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยทำเพื่อตัวเองเลย ต้องมีปัญหากับเมียมาหลายสิบปีก็เพราะคนนอกมาวางแผนให้แตกแยกอีก พอเข้าใจกันก็ต้องแยกจาก...ปล่อยพ่อไปเถอะขอร้อง

จริงๆ ก็มีหลายเรื่องนะที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนชาติที่แล้ว แต่ก็มีบางเรื่องที่สุดท้ายยังคงซ้ำรอยเดิมอยู่ดี อย่างเรื่องศึกสงคราม การก่อกบฏ และการตายของตัวละครบางตัวที่สุดท้ายก็ไม่อาจเลี่ยงได้ ยังคงเป็นเหมือนในชาติก่อน 
ในเล่มสุดท้าย
พระ-นางได้อยู่ด้วยกันน้อยหน่อย เพราะจะเน้นไปที่ศึกสงครามการสู้รบ
จัดเต็มมาก ทั้งแผนการรบ เส้นทางรายละเอียดต่างๆ ไม่น่าเบื่อเลย ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายยังไงพระเอกก็ต้องชนะแต่ก็ลุ้นอยู่ดีนะ เพราะมีศึกเข้ามาหลายทางและมักมีเรื่องไม่คาดฝันเข้ามาแทรกอยู่ตลอด อย่างพี่น้องสกุลมู่หรงนี่...เป็นอะไรที่ตามมาหลอกหลอนจริงๆ อึด ถึก ฆ่าไม่ตายยิ่งกว่าแมลงสาบ เป็นตัวแปรที่ทำให้สถานการณ์เกิดการพลิกผันหลายครั้งหลายครา ... แล้วก็มีฮองเฮาลูกพี่ลูกน้องของนางเอก นี่ก็พลาดแล้วพลาดอีกไม่จำ ไม่ปรับปรุงตัว ทำแต่เรื่องโง่ๆ จนสุดท้ายก็นำภัยเข้ามาสู่แผ่นดินและตัวเอง...จุดจบที่เกิดนั่นก็เพราะตัวเองทำตัวเองล้วนๆ ไม่ต้องโทษใคร
ความจริงนางเป็นตัวการที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้พระเอกตายในชาติที่แล้วนะ แต่มาชาตินี้พระเอกก็ไม่ได้ทำไรนาง ไม่ยุ่ง ไม่ได้วางแผนร้ายอะไรกับนางและลูกเลย...

คือพระเอกไม่ได้กลับมาแก้แค้นใครเลยอะ แค่อยากแต่งนางเอกเป็นภรรยากับทำตามความฝันในชาติที่แล้ว คือเอาแผ่นดินกลับคืนมาและขับไล่ชนเผ่านอกด่านออกไปเท่านั้นเอง คนที่ร่วมกันวางแผนฆ่าพี่ในชาติที่แล้ว พี่ก็ไม่ได้ไปตามแก้แค้นเอาคืนอะไรเขาเลย ตอนแรกพี่ก็กะจะไม่เป็นฮ่องเต้แล้วด้วยซ้ำนะเพราะเห็นแก่หน้าเมีย แต่หลังๆ พอนางเอกได้เห็นได้ผ่านอะไรหลายๆ อย่าง บวกกับฝันถึงเรื่องในคืนวันแต่งงานเมื่อชาติก่อน น้องเลยไปบอกพระเอกเลยว่าอยากเป็นฮองเฮา ...คือสนับสนุนให้พระเอกครองบัลลังก์เลย ไม่ขวางและ เพราะไม่งั้นบ้านเมืองกับราชสำนักก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน ยึดดินแดนคืนไม่สำเร็จสักที แล้วสุดท้ายเดี๋ยวพระเอกก็เจอคนระแวงและต้องมีจุดจบเหมือนในชาติก่อนอีก ...โอเคพอ ไม่เป็นขุนนางผู้ภักดีมันและ เป็น...แทนละกัน 55 



วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Sweet Candy Fairy ให้รักนี้มีแต่ความหวาน 3 เล่มจบ

 


Sweet Candy Fairy ให้รักนี้มีแต่ความหวาน 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : ชุนเตาหาน
ผู้แปล : พิรุณเดือนสารท
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องราวความรักของ จี้รั่ง ขาโจ๋หรือหัวโจกของโรงเรียน ที่ใครๆ ต่างก็หวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้และยกให้เขาเป็นลูกพี่ใหญ่ของโรงเรียน กับ ชีอิ้ง นางฟ้าน้อยแสนสวย จิตใจดีอ่อนโยน แต่มีปัญหาบางอย่างจึงทำให้เธอพูดไม่ได้และหูไม่ได้ยิน คนหนึ่งต่อต้านสังคม เย็นชาเยียบเย็นเหมือนระเบิดเวลา พูดไม่เข้าหู ดูไม่เข้าตาก็ออกหมัดชกต่อย ส่วนอีกคนก็เรียบร้อยอ่อนหวานเหมือนเทพธิดาน้อยที่ลงมาจุติ สองคนที่แตกต่างแต่กลับเข้าคู่และกลมกลืนกันได้เป็นอย่างดี และในที่สุดโลกก็สงบสุข เมื่อพญามารถูกนางฟ้าน้อยสยบ คิดกลับตัวกลับใจบำเพ็ญเพียรเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์ไปกับเธอ...ฮิ้ววว

พระเอกเป็นอันธพาลหัวโจกของโรงเรียน ทั้งสูบบุหรี่ โดดเรียน วันๆ มีแต่เรื่องทะเลาะวิวาทต่อยตี ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา กฏมีไว้เพื่อแหก เกือบครบสูตรนักเรียนเลวโดยสมบูรณ์
ขาดแค่อย่างเดียวคือยังไม่มีรักในวัยเรียนเท่านั้น...แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตนักเรียนเกเรของพี่ก็ถูกสั่นคลอนจนค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับนางฟ้าน้อยหรือนางเอก นักเรียนใหม่ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้พลีชีพที่เพิ่งย้ายมา เพราะการตายของพ่อแม่ จึงทำให้นางเอกได้รับความสะเทือนใจอย่างหนัก ส่งผลให้เธอพูดไม่ได้ส่วนหูก็ไม่ได้ยินเสียง จิตใจบอบช้ำอย่างรุนแรงจนถึงขั้นกินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตาย แต่เมื่อช่วยกลับมาได้ นางเอกก็จำอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องราวในอดีตชาติของเธอกับพระเอกเท่านั้น

พอเห็นพระเอก นางเอกก็จำได้ทันทีว่านี่คือท่านแม่ทัพของเธอ ต่อให้ชาตินี้เขาจะเลวร้ายหรือดูไม่ดีในสายคนอื่นยังไง แต่เขาก็ยังเป็นท่านแม่ทัพของเธอไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดังนั้นในขณะที่ใครๆ พากันหลีกหนีและหวาดกลัวเขา แต่นางเอกกลับตามติดพุ่งเข้าหา พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนหวานให้เขาอยู่เสมอ แม้พระเอกจะมีท่าทีเย็นชาชอบดุว่าขับไล่ไสส่งเธอไป แต่นางเอกก็ไม่เคยถอย เจอเมื่อไรก็ส่งยิ้มวิ่งเข้าหาทุกครั้ง จนพระเอกต้านไม่ไหวสุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้คนเข้าใกล้ (จริงๆ ก็หวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วแหละแต่เก๊กอยู่) จากที่ไม่เคยยอมใครก็ต้องยอมให้นางเอกนี่แหละ..คนแรก คนเดียว และคนสุดท้าย อิอิ

ตอนอยู่โรงเรียนพระ-นางเขาไม่ได้คบกันนะ เพราะพระเอกสั่งห้ามไม่ให้มีรักในวัยเรียน ห้ามมีรักก่อนวัยอันควร (ไม่งั้นเดี๋ยวจะครบสูตรเด็กเกเร 55) คือพี่แกกลัวจะทำให้นางเอกเสื่อมเสีย เดี๋ยวคนอื่นจะมองนางเอกไม่ดี (แต่จริงๆ ไม่มีใครกล้าว่าหรอกเพราะกลัวพระเอกกันหมด) แต่การกระทำของพระเอกนี่แบบเกินเบอร์มากกก หวานมาก ไม่คบก็เหมือนคบแหละ เขารู้กันทั้งชั้นแล้วว่าชอบกัน คือนางเอกอะเป็นเด็กดีเรียนเก่งคะแนนสูง พอพระเอกชอบเขาก็เลยต้องพยายามปรับปรุงตัวหันกลับมาตั้งใจเรียน เพราะอยากให้ชื่อบนบอร์ดประกาศผลคะแนนสอบของตัวเองกับนางเอกได้อยู่ใกล้ๆ กัน ก็เลยไปขู่เอ้ยๆ ไปขอให้อันดับหนึ่งของสายชั้นมาช่วยติวให้ แต่พี่ก็ไม่ได้เรียนคนเดียวนะ ยังไปลากเหล่าลูกน้องเกเรของตัวเองให้กลับมาตั้งใจเรียนด้วย 55

อยากให้นางเอกมองเห็นแต่มุมดีๆ ของตน ทั้งที่ความจริงพระเอกเป็นยังไงนางเอกรู้หมดแหละแต่ไม่เคยเปิดโปง รับได้ทุกอย่าง พระเอกพูดอะไรก็เชื่อฟัง น่ารักว่าง่าย ใสซื่อบริสุทธิ์แต่ไม่โง่เน้อ มีคนมาจีบน้องเยอะมากแต่นางเอกก็ไม่เคยสน มองแต่พระเอกคนเดียว ส่วนพระเอกปากก็บอกว่าห้ามมีรักในวัยเรียน แต่ในใจคือเรียกเขาหวานใจๆ ทุกคำ ใครมาจีบนางเอกอิพี่ก็แผ่รังสีสังหารขู่ฟ่อๆ ลูกน้องพระเอกก็ดี๊ดีคอยคาบข่าวเรื่องนางเอกมารายงานตลอด พอรู้ว่านางเอกได้เป็นตัวแทนขึ้นไปเต้นกายบริหารบนเวทีก็เอามาบอกลูกพี่ ตอนแรกพระเอกไม่รู้เพราะไม่เคยไป แต่พอลูกน้องมาบอกรอบต่อไปพี่ก็ไปเลยทันที ไปยืนอยู่แถวหน้าสุดด้วย ยืนบังไม่ให้ใครมองเห็นสุดที่รักของตัวเอง หวงมากก ตอนมีโหวตดาวโรงเรียน อิพี่ก็ให้ลูกน้องไปถล่มโหวตคนอื่น เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความสวยของนางเอก พอรู้ว่าใครคิดจีบนางเอกก็รีบไปแสดงตัวว่าคนนี้ข้าจองทันที 55

เพื่อนในห้อง+คนรอบตัวพระนางก็กินอาหารหมากันปายย เขารู้กันหมดแหละแต่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าสร้างข่าวลือเพราะกลัวพระเอกจะลากไปซ้อม55 พระเอกก็ดีกับนางเอกโคตรๆ ปกป้องดูแลอย่างดี ตอนช่วงหน้าหนาวพอหมดคาบก็ต้องรีบวิ่งไปหานางเอกที่ห้องเรียนเพื่อเอากระติกน้ำไปเติมน้ำร้อนให้ หลังเลิกเรียนก็คอยเดินไปส่งที่ป้ายรถเมล์ นางเอกขอให้ทำอะไรก็ทำ กับคนอื่นคือเย็นชาแยกเขี้ยวใส่ แต่กับนางเอกคืออ่อนโยนนุ่มนวลสุดๆ นางเอกก็ดีจริงๆ แหละใครเห็นก็ต้องชอบ น้องเชื่อมั่นในตัวพระเอกเสมอ ไม่เคยคลางแคลงสงสัยหรือโกรธเลย หาข้อเสียน้องไม่เจอจริงๆ ก็ไม่แปลกที่พระเอกจะรักหัวปักหัวปำขนาดนี้...

เป็นรักในวัยเรียนใสๆ หวานละมุน มีทั้งมุมหวาน มุมตลก มุมเครียดและจริงจัง ดีต่อใจไปหมด เนื้อเรื่องน่ารักและดีมากๆ ทั้งเรื่องรักเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและคนในครอบครัว เรื่องการเรียนการสอบ กิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน จนไปถึงปมปัญหาของพระ-นางก็เขียนได้ดี บอกที่มาที่ไปของปมเหตุที่มันเกิดและส่งผลให้เป็นอย่างปัจจุบัน บอกเลยว่าหนักทั้งคู่ แต่ทั้งสองคนก็คอยอยู่ข้างๆ จูงมือกัน จนสุดท้ายก็สามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ คือเป็นอะไรที่ลงตัวมาก เขาเกิดมาเพื่อฮีลกันและกัน เป็นแสงสว่างให้กันจริงๆ...

ป.ล. แปลดีลื่นไหล ใช้คำได้เหมาะน่ารักมาก
ขอบคุณสนพ.ที่เอาเรื่องนี้มาแปล อ่านแล้วใจฟูมาก ดีไปหมด
^0^

ป.ล.โกรธพ่อพระเอกอะ ทำไมไปแต่งคนนั้นเข้าบ้านนะ คิดได้ไง การดูแลมันมีตั้งหลายวิธี แคร์ความรู้สึกลูกบ้างไหมเนี่ย เขาเพิ่งอายุเท่านั้นจะไปบังคับให้เขาเข้าใจคิดเหมือนตัวเองได้ยังไง ..อยากให้พูดถึงชีวิตพ่อกับคนนั้นหลังจากที่พระเอกไม่เอาแล้วต่ออีกสักหน่อยจัง อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อบ้าง

ป.ล. ตอนพิเศษเยอะจุใจมาก มีเรื่องในชาติที่แล้วด้วย ทั้งซึ้งทั้งน้ำตาซึมเลย แล้วก็มีตอนอื่นๆ อีกเยอะแยะไปหมด แต่ยังไงเราก็ยังชอบภาคปัจจุบันที่สุดอยู่ดีนะ ^^