วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ทิงทิงไม่ใช่คนน่ารักจริงๆ นะ


ทิงทิงไม่ใช่คนน่ารักจริงๆ นะ (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : น่ชิงเฟิ
ผู้แปล : นิศารัตน์
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เฉินทิง หรือทิงทิง นักศึกษาปี 2 ภาควิชาภาษาอังกฤษ เด็กหนุ่มผมลอนสีน้ำตาลที่ใครๆ ต่างก็เอ็นดู บวกกับส่วนสูง 173 ซม. ก็ยิ่งทำให้เขาดูน่ารักน่าหยิก ทั้งที่ความจริงทิงทิงออกจะเท่และคูล แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับไม่เป็นใจเอาซะเลย

พระเอก เผยอี่เหยา น้องใหม่ปีหนึ่งภาควิชาฟิสิกส์ หนุ่มสุดหล่อมาดเท่ สุดฮ็อตของมหาวิทยาลัย นิสัยเย็นชาพูดน้อย ไอคิวสูงแต่อีคิว...หึหึ  ไม่ว่าจะนั่ง จะยืน จะพูดหรือจะทำอะไรก็เท่ไปหมด ไม่มีตรงไหนที่ไม่เท่เลยให้ตายสิ ...

แม่ของพระ-นายเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนบ้าน+เพื่อนเล่นกันตั้งแต่ตอนสมัยเด็ก แต่บ้านพระเอกต้องย้ายไปเมืองนอกตามหน้าที่การงานของพ่อ เพิ่งได้กลับประเทศตอนเรียนมหาวิทยาลัย พอรู้ว่าเพื่อนย้ายกลับมา แม่นายเอกเลยให้ลูกเอาของไปให้ที่บ้าน ทั้งสองคนเลยได้เจอกันในตอนที่นายเอกกำลังใส่เสื้อยืดตัวโคร่งคลุมขาขาวเนียน
เอ้ย
! ! เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนอยู่ในห้องของพระเอกพอดี...

หลังจากนั้นพระ-นายก็ได้เจอกันอีกเรื่อยๆ เพราะแม่ๆ อยากให้ลูกๆ ของตนสนิทกัน
แรกๆ ก็ปกติไม่มีอะไรนะ นายเอกก็มองพระเอกเป็นน้องคนหนึ่ง แต่ไปๆ มาๆ พระเอกดันคิดเกินเลยชอบเขาก่อน มีสาวสวยมาสารภาพรักกี่คนไม่เคยสน ในหัวมีแต่ทิงทิงเพราะทิงทิงน่ารักมาก น่ารักเกินไปแล้ว เริ่มอยากลูบหัว อยากกอด เริ่มไม่อยากให้หนุ่มอื่นเข้าใกล้
นายเอกก็มีเอ๊ะๆ ทำไรอะ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก ไม่เคยคิดว่าพระเอกจะชอบตัวเอง (แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาลูบหัวนะเดี๋ยวเตี้ย
55) ...จนมาวันหนึ่งพระเอกทนไม่ไหวเลยลากนายเอกไปสารภาพรักซะ 55

นายเอกก็อึ้ง ไม่คิดว่าพระเอกจะชอบผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นตัวเองอีก จึงไม่ได้ตอบตกลง แต่ก็ยังไม่ได้ปฏิเสธนะ พระเอกเลยบอกงั้นขอจีบได้ไหม 55...
หลังจากนั้นก็คอยแวะเวียนไปเฝ้าเอ้ย! ไปหานายเอกตอนทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านกาแฟ
รอไปส่งนายเอกที่หอพักทุกคืน คอยซื้อนมซื้อขนมมาให้(นายเอกชอบกินพวกขนมหวาน) จากคนที่เฉยชาไม่เคยสนใจใครก็เปลี่ยนเป็นหนุ่มติดแฟน ดูแลนายเอกอย่างดี

ถึงจะไม่ค่อยพูดแต่การกระทำและสายตาที่มองนายเอกนั้นกินขาดมากกก ใครเห็นก็รู้แล้วว่าพระเอกคิดยังไงกับเขา ทีแรกนายเอกยังคิดว่าหลังจากสารภาพรักไป เดี๋ยวพระเอกคงจะคิดได้แล้วเลิกชอบเอง  แต่พระเอกกลับไม่เคยเปลี่ยนใจเลย เสมอต้นเสมอปลายตลอด....
จนสุดท้ายก็ตกลงเป็นแฟนกัน

เป็นแนว feel good รักในวัยมหาลัยไม่มีดราม่า ไม่มีเรื่องมือที่สามที่สี่ แทบไม่มีอุปสรรคอะไรเลย หนทางความรักราบรื่นมาก เพื่อนๆ ก็สนับสนุน จิ้นคู่นี้ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะคบกันอีก ส่วนพ่อแม่ของพระ-นายก็เปิดกว้างไม่ได้ว่าอะไร เคารพการตัดสินใจของลูก
พอเรียนจบนายเอกไปต่อโทที่ต่างประเทศ กลายเป็นรักทางไกลก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก
แล้วหลังจากนั้นพระเอกก็ไปเรียนต่อ(แต่อยู่คนละประเทศ) นายเอกก็ทำเรื่องตามไป
และพระเอกก็ขอแต่งงาน ได้จดทะเบียนกันที่เมืองนอก แฮปปี้ อ่านเรื่องนี้แล้วสีชมพูสุดๆ
55


วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

Alumni page ความทรงจำใต้เงารัก 2 เล่มจบ

 

Alumni page ความทรงจำใต้เงารัก 2 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : 
书海沧生 (Shuhai Cangsheng)
ผู้แปล : Anonymous_B
สำนักพิมพ์ หอมหมื่นลี้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
เป็นแนวปัจจุบัน  แต่ลักษณะการปฏิบัติของครอบครัวใหญ่ๆ ตระกูลเก่าแก่ในเรื่องนี้แทบไม่ต่างอะไรกับสมัยโบราณเลย ทั้งการแย่งชิงอำนาจตำแหน่งหน้าที่การงานของพวกผู้ชาย
รวมถึงความอิจฉาริษยาและความร้ายกาจของสตรีหลังบ้านด้วย
  

พระเอก-นางเอก และตัวละครที่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเด็ก อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชุมชนละแวกเดียวกัน ที่เป็นเขตที่อยู่อาศัยของผู้มีอำนาจทางทหารหรือพวกตระกูลเก่าแก่มีชื่อ
มีการไปมาหาสู่กันตั้งแต่รุ่นปู่ และอาจจะเกี่ยวดองกันด้วยการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์
ซึ่งในหมู่บ้านก็จะมีการจัดกิจกรรมให้แต่ละบ้านมาร่วมสนุกหรือรวมตัวกัน
มีความพยายามจับคู่ให้ลูกหลานบ้านตน กับบ้านนู้นบ้านนี้ที่มีฐานะเท่าเทียมหรือเอื้อผลประโยชน์กันได้ ..

นางเอก หร่วนหนิง มีปู่เป็นท่านนายพล ส่วนพ่อก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูล
แต่เพราะย่าที่จากไปแล้วของเธอมีฐานะต่ำต้อย อีกทั้งแม่ของเธอก็ยังเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ๆ เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้มากลากดีทรงอำนาจทั้งหลาย ครอบครัวนางเอกจึงเป็นเหมือนแกะดำ ต่อหน้าก็พูดคุยยิ้มแย้มดี แต่พอลับหลังก็แอบก่นด่าดูถูกเรื่องฐานะชาติกำเนิด แม้แต่บ้านอารองของย่าเล็ก(ภรรยาคนที่สองของปู่) ก็ยังรังเกียจและแอบดูถูกครอบครัวของเธอเสมอมา...แต่น่าเสียดายที่นางเอกกับพ่อกลับเป็นลูกชายและหลานสาวที่ปู่รักมากที่สุด ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่กัดฟันกรอดและแอบอิจฉาอยู่ในใจเท่านั้น...

เล่มแรกเปิดมาคือนางเอกกำลังเรียนมหาลัยแล้ว ดูเป็นคนนิสัยโก๊ะๆ ซุ่มซ่าม ร่าเริง
แต่กลับร้องไห้ง่าย...และยังแอบชอบเพื่อนวัยเด็กคนหนึ่งที่ชื่อว่า หลินหลิน มาตลอด
แต่พอได้เจอกันอีกครั้ง เขาคนนั้นกลับมีชื่อใหม่ว่า อวี๋ฉือ เป็นหนุ่มนักศึกษาแพทย์
ชาติตระกูลดี หน้าตาหล่อเหลาสุดแสนจะป๊อป ทั้งยังเย็นชาปากร้าย ไม่ใช่หลินหลินคนเดิมในความทรงจำของเธอที่แสนยากจน อ่อนโยนน่าแกล้ง และเตี้ยกว่าเธอครึ่งศีรษะอีกแล้ว...

นางเอกเป็นเด็กสาวหน้าตาธรรมดา ที่ภายนอกร่าเริงแต่ข้างในแทบพังทลายเกือบหมด
มิหนำซ้ำยังมีอาการป่วยที่เกิดจากยีนผิดปกติ ทำให้เป็นไบโพลาร์ ซึ่งหากมีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจหนักๆ เข้า ก็จะทำให้สูญเสียความทรงจำและจำอะไรไม่ได้ไปช่วงหนึ่ง

ส่วนพระเอกนั้นหล่อเหลางามสง่า เย็นชาพูดน้อย ตรงกันข้ามกับนางเอกลิบลับ
แต่ทั้งสองคนกลับมีวัยเด็กร่วมกันนับไม่ถ้วน ต่างผ่านเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดที่ทิ้งรอยแผลเอาไว้มากมายไม่ต่างกัน
ในวัยเด็กพระเอกคือยาจก คือเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่
ต้องอยู่ในบ้านเก่าๆ โทรมๆ ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว ไร้ตัวตนเหมือนเงาจางๆ ที่ถูกมองข้าม
ส่วนนางเอกในวัยเด็กก็เป็นเสมือนสัตว์ประหลาด อันธพาลน้อยตัวแสบ ที่เข้ามาทำให้ชีวิตของพระเอกปั่นป่วนมีสีสัน มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป ..

ในวัยเด็กเขาคือคนที่ไม่คู่ควรกับเธอ แต่พอโตขึ้นมากลับกลายเป็นเธอต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเขาแล้ว...

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ บรรยากาศอึมครึมเหมือนมีม่านหมอกตั้งแต่ต้นยันจบ
เนื้อเรื่องค่อนข้างหักมุม(หลายครั้งมาก) ช่วงที่อ่านตอนย้อนอดีตก็มีหลากฉากที่แอบน้ำตาซึม รู้สึกอึนๆ เพราะเรื่องราวมันยังไม่กระจ่าง ระหว่างที่อ่านก็จะสงสัยอยู่ตลอด แต่ก็เดาไม่ถูกสักอย่าง โดยเฉพาะความคิดจิตใจคน 55
ถึงนางเอกจะดูร่าเริงสดใส แบบสาวโก๊ะๆ แต่เราก็รู้สึกอยู่ตลอดว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ...เนื้อเรื่องจะเล่าสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ค่อยๆ เผยปมสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตพระ-นางตั้งแต่เด็ก จนมาถึงตอนที่แยกจากและได้กลับมาพบกันอีก
บอกเล่าว่าระหว่างนั้นพวกเขาต่างได้พบเจอหรือต้องเผชิญเหตุการณ์อะไรกันมาบ้าง
ที่ทำให้มีบุคลิกนิสัยแบบนี้
ซึ่งส่วนใหญ่เราว่าก็ล้วนเกิดจากผู้ใหญ่(บางคน) ทว่าเด็กๆ อย่างพระ
-นาง รวมถึงพี่น้อง
เพื่อนในวัยเด็ก(บางคน) กลับต้องมาได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่มีใครโตมาแล้วลึกๆ จิตใจไม่บิดเบี้ยวเลย 
T^T

ความจริงพระเอกเป็นหลานชายคนโตของตระกูลอวี๋ แต่ถูกย่าเอามาเลี้ยงข้างนอกด้วยเหตุผลบางอย่าง พระเอกจึงนึกว่าตัวเองไม่มีครอบครัวมีแต่ย่า จนเมื่อย่าเสียก็มีคนมารับกลับ...แต่คนที่มารับดันต้องการกำจัดพระเอก จึงทำให้พระเอกต้องมีชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นอยู่ 2 ปีเต็ม กว่าจะได้รับการช่วยเหลือกลับมาบ้านและได้เจอนางเอกอีกครั้ง 
ตอนอ่านช่วงแรกๆ เราก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าคนไหนคือพระเอกตัวจริง ตกลงคนไหนกันแน่คือหลินหลินที่นางเอกรัก เพราะพระเอกดูเย็นชาและมีท่าทีชิงชังนางเอกยังไงก็ไม่รู้  ...เหมือนมีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน ส่วนนางเอกก็ความทรงจำยังไม่ปะติดปะต่อ
เลยทำให้ยิ่งสงสัยว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้น
...เพราะบางทีพอได้เห็นท่าท่างเย็นชาไม่สนใจของพระเอกแล้ว เราก็อดปวดใจแทนนางเอกไม่ได้จริงๆ T^T (นักเขียนสับขาหลอกเก่ง)

เส้นทางความรักของพระ-นางจะว่าไปก็เหมือนถูกสวรรค์กลั่นแกล้งอะ อุปสรรคเยอะกว่าจะได้ลงเอย เพราะเจอคนมายุ่ง เข้ามาแทรก ซะจนทำให้เข้าใจผิดต้องคลาดกันอยู่นาน
ทำให้พระเอกคิดว่าคนที่นางเอกชอบไม่ใช่ตัวเอง ส่วนนางเอกก็คิดว่าตัวเองถูกพระเอกปฏิเสธมาตลอด ทั้งที่ความจริงรักและผูกพันกันมากกกก
พระเอกนี่ยอมขนาดละทิ้งตัวตนเพื่อสานฝันพ่อตาต่อ เพื่อจะได้เป็นคนที่แข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องนางเอกและจัดการคนที่ทำร้ายเธอได้ ...
เขาไม่ต้องการอำนาจเบื้องหลังตระกูลหร่วน ไม่สนใจอำนาจของตระกูลตัวเอง
เพราะเขาต้องการแค่นางเอกคนเดียวเท่านั้น จะล้มสักกี่ครั้งก็จะลุกและกลับมาใหม่
จนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จ ....

ป.ล. สิ่งที่ชอบอีกอย่างมากๆ ในเรื่อง คือกลุ่มเพื่อนรูมเมทมหาลัยทั้ง 5 คนของนางเอก เพื่อนแท้เพื่อนตาย พร้อมอยู่เคียงข้างพึ่งพาได้เสมอ ทั้งยามสุขยามทุกข์ ใครหน้าไหนก็ห้ามรังแกเพื่อนเรา มิตรภาพแน่นแฟ้นยืนยาวมาก

ป.ล. ตอนรู้ครั้งแรกว่าใครคือหลินหลินตัวจริงที่นางเอกรักนี่ อยากกระโดดตบหลินหลินอีกคนมาก แต่พออ่านถึงบทสุดท้ายได้รู้ต้นสายปลายเหตุจริงๆ ก็อ้าวว....แกนี่เองงงงตัวต้นเหตุ 55


วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

จอมมารก็อยากรู้เช่นกัน เล่ม 1

 


จอมมารก็อยากรู้เช่นกัน เล่ม 1 (3 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ซิงเซ่ออวี่อี้  (青色羽翼)
ผู้แปล : ไป๋รื่อเมิ่ง
สำนักพิมพ์ IRISBOOK

อ่านจบแล้ว(อาจมีสปอยล์)

เป็นแนวบำเพ็ญเพียร มีเทพเซียน มาร ปีศาจ ผู้บำเพ็ญเพียร มีตบะ ขั้นพลัง มรรคา
พระเอกเป็นจอมมารชื่อ เหวินเหรินเอ้อ จอมมารประมุขพรรคเสวียนยวน
วันหนึ่งบังเอิญมีหนังสือประหลาดโผล่มาอยู่ในมือ พระเอกก็งงว่ามาได้ไง เพราะพี่แกเก่งมาก ไม่มีทางที่จะมีอะไรโผล่มาโดยไม่รู้ตัว แต่พอเปิดหนังสืออ่าน พระเอกก็ได้พบว่าโลกที่ตัวเองอยู่ตอนนี้ ก็คือโลกในหนังสือนิยายเรื่อง...ร้าวรักระทม..

ซึ่งตัวพระเอกในหนังสือนิยายเล่มนี้ก็คือตัวละครชายลำดับที่สอง ผู้คลั่งรักและเอาแต่ใจ
หลงรักนางเอกในหนังสือที่อยู่ฝ่ายธรรมะอย่างหัวปักหัวปำ ยอมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อปกป้องนาง แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่เคยรักตนเลย แล้วสุดท้ายพระเอกก็ต้องตายจากการไปช่วยเหลือคนรักของนางเอก หรือพระเอกในนิยายนั่นแหละ...

พออ่านจบพระเอกก็อารายวะ! คนอย่างพี่แกเนี่ยนะ! จะรักใครมากจนถึงขนาดยอมทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้ บ้าไปแล้ว เป็นไปไม่ได้...ว่าแล้วก็ลงจากเขาไปสืบหาความจริง ไปดูหน้าตา+นิสัยใจคอของพระ-นาง ในหนังสือเลยดีกว่า 55

ส่วนนายเอก อินหานเจียง ผู้คุมกฏซ้ายของพรรคเสวียนยวน เป็นลูกน้องที่ติดตามอยู่ข้างกายพระเอก เคารพเทิดทูนและจงรักภักดีต่อพระเอกผู้เป็นนายอย่างมากกกก
นิสัยทื่อๆ เย็นชา พูดน้อย ไม่เห็นใครอยู่ในสายตานอกจากพระเอกเท่านั้น...
ซึ่งนายเอกก็คือตัวละครชายลำดับสี่
ในหนังสือนิยาย ที่หลงรักนางเอกเหมือนกัน ...
แต่ๆ ๆ พอพระเอกตาย(ในหนังสือ) ตัวละครนี้กลับเปลี่ยนเป็นคนละคน จากคนที่คอยปกป้องนางเอก(ตามคำสั่งพระเอก) ก็กลับเป็นคนร้ายที่ตามไล่ล่าสังหารนางเอกอย่างบ้าคลั่ง...
พออ่านถึงตอนนี้พระเอกก็เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายเอกถึงได้กลายเป็นแบบนี้
ไม่เข้าใจสาเหตุ...พี่แกจึงเริ่มให้ความสนใจและคอยสังเกตนายเอกมากขึ้น
จากที่ไม่เคยใส่ใจ ก็กลับมาให้ความสำคัญและคิดเผื่อนายเอก เพราะไม่ต้องการให้นายเอกมีจุดจบหรือกลายเป็นคนคลุ้มคลั่งแบบในนิยาย

อันที่จริงนางเอกในหนังสือก็คือเทพโดยกำเนิดที่เหลืออยู่เพียงองค์เดียว
ส่วนพระเอกในหนังสือก็คือเทพหลังกำเนิด (พลังจะด้อยกว่าเทพโดยกำเนิด)
ตอนที่นางเอกกำลังจะข้ามผ่านด่านเคราะห์ อิพระเอกในหนังสือซึ่งเป็นเทพอยู่ตอนนั้น
ดันโผล่มาช่วยนางเอกสกัดด่านเคราะห์พอดี เลยทำให้ต้องลงมาเกิดด้วย ทั้งสองคนจึงมีชะตาเกี่ยวข้องกัน พอลงมาเกิดในแดนมนุษย์ก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนัก และตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ

แต่อิพระเอกนิยายเนี่ยถึงจะรักนางเอกจริง แต่ก็มักมาก เจ้าชู้ ชอบทำร้ายจิตใจนางเอกต่างๆ นานา นักอ่านก็คอมเมนต์ด่า อยากให้นางเอกตาสว่าง รีบกลับสวรรค์คืนร่างเทพมาแก้แค้น ไม่ก็ลงเอยกับคนอื่นแทนไปเลย แต่นางเอกก็ยังดักดานรักแต่อิตานี่อยู่นั่นแหละ
พระรองงานดีเข้ามากี่คนก็ไม่สน ใครพูดเตือนยังไงก็ไม่แคร์ ฉันก็จะรักของฉันอยู่แบบนี้...

พระเอก(ท่านจอมมาร) เลยพยายามจะช่วยนางเอกในนิยาย เพราะถือว่าอีกฝ่ายมีบุญคุณที่ทำให้ตนรู้แจ้งในมรรคา ถือว่านางเป็นเสมือนอาจารย์คนหนึ่ง ก็เลยจะช่วยให้นางตาสว่างได้เห็นธาตุแท้ของอิพระเอกในนิยายแล้วทิ้งมันไปซะ จะได้เข้าสู่มรรคาไร้รักแล้วกลับขึ้นสวรรค์ไปเป็นเทพดังเดิม

พระเอกเลยให้ลูกน้องในพรรคไปล่อลวงอิพระเอกในนิยายตามที่ในหนังสือเคยเขียนไว้
คือในหนังสือเดิมเขียนว่าอิพระเอกในนิยายนั้นถูกฝ่ายอธรรมล่อลวง ไม่ได้สมยอม 
แต่พอพระเอกไปคุยกับลูกน้อง ลูกน้องบอกเรื่องนี้ต้องสมยอมด้วยถึงจะทำได้
พระเอกเลยเริ่มรู้ธาตุแท้ของพระเอกในนิยายและว่าจริงๆ เป็นคนยังไง

เลยหาทางแยกพระ-นางในนิยายออกจากกัน โดยการพานายเอกกับนางเอกในนิยายไปหาของวิเศษตามที่ในหนังสือเขียนเอาไว้ คือต้องบอกก่อนว่า ถ้าของวิเศษอันไหนไม่ใช่ของพระเอกแต่เป็นของคนอื่น ถึงจะรู้ตำแหน่งที่ตั้ง รู้เหตุการณ์ล่วงหน้ามาแล้ว
แต่พระเอกก็จะไม่ฉกฉวยเอาไป จะเอาแต่เฉพาะอันที่เป็นของตัวเองจริงๆ ...
เพียงแต่ไอ้ของวิเศษเนี่ย มันจะปรากฏก็ต่อเมื่อมีนางเอกในนิยายอยู่ด้วยเท่านั้นไง
ดังนั้นทุกครั้งพระเอกเลยต้องพานางไปด้วย...แต่พี่ก็ไม่ได้ทะนุถนอมคนงามเลย
อยากฟาดให้สลบก็ฟาด อยากผลักตกหน้าผาก็ผลัก
55...เพราะพระเอก(ท่านจอมมาร) ไม่ได้หลงรักนางเอกในนิยายตามที่หนังสือเคยเขียนไว้แล้ว เฉยมากกก พอรู้ว่าเหตุการณ์ไหนที่ทำให้ตนหลงรักเขา พี่ก็ไปบอกนายเอกให้มาช่วยแทน 55 ...
เรื่องราวมันเลยค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับเดิม

คนที่นางเอกในนิยายช่วยจึงกลายเป็นคนอื่น ส่วนนายเอกก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะพระเอกคอยจับตาดูและใส่ใจมากขึ้น เริ่มเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ฟังคำสั่งเป็นหุ่นอย่างเดียว (นี่แหละสิ่งที่พระเอกต้องการ)
หลังๆ พระเอกก็เริ่มสงสัยแล้วนะ ว่าทำไมนางเอกในนิยายถึงได้หลงรักอิพระเอก(คนเก่า) อย่างไม่ลืมหูลืมตาขนาดนี้ กำลังคิดว่ามีใครคอยชักใยแอบควบคุมอะไรอยู่เบื้องหลังรึเปล่า
ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ เข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดในหนังสือมากขึ้นด้วย (เริ่มมองทะลุ) 

ป.ล. ส่วนเรื่องความรักของพระ-นาย ยังไม่มีอะไร ความรู้สึกช้าด้วยกันทั้งคู่ ตอนนี้ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย

ป.ล. แปลดี จากที่อ่านดูแล้วคิดว่าเรื่องนี้น่าจะแปลยากนะเนี่ย  แต่อ่านลื่นไม่ติดขัดเลย (สำหรับเรานะ) เลือกใช้คำได้ดีเลย



วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

สักวันฉันจะบอกรักเธอ

 


สักวันฉันจะบอกรักเธอ (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : จงกงต้าเหริน
ผู้แปล : บุปผาน้ำแข็ง
สำนักพิมพ์ หยางกวง

ตอนที่เดินเข้ามา ซูชิงอวี้ก็ได้แต่คิดถึงความคิดที่ว่า
'ความรักของฉันเหมือนภูเขากับทะเล ถึงแม้จะอยู่ใกล้กันแต่ก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก ซูชิงอวี้ แอบหลงรักพี่ชายข้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก เพื่อจะได้คู่ควรกับเขา
นางเอกจึงพยายามตั้งใจเรียนจนกลายเป็นนักเรียนเรียนดี และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขาได้ แต่ในวันที่ประกาศผลสอบกลับเป็นวันที่เธอต้องเสียใจมากที่สุดในชีวิต เพราะนั่นคือวันที่เขาพาคนรักกลับมาบ้านเพื่อเปิดตัวกับครอบครัว

สวี่หมิ่นเฉิน ชายหนุ่มรูปหล่อ ไอคิวสูง ผู้ก่อตั้งบริษัทไอโปยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที
ที่มีมูลค่าทรัพย์สินกว่าหมื่นล้าน ประธานหนุ่มที่ประสบความความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
แถมยังมีแฟนสาวสุดสวย ที่เป็นสาวมั่นแสนฉลาดคอยอยู่เคียงข้างอีกด้วย
ทว่าวันหนึ่งทุกอย่างก็พังทลาย เมื่อเขาถูกแฟนสาวกับเพื่อนสนิทร่วมมือกันหักหลังใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ถูกขับออกจากบริษัท ถูกรุมประณาม ทั้งยังต้องแบกรับหนี้สินที่ไม่ได้ก่อจนสิ้นเนื้อประดาตัว จากคนที่เคยรุ่งโรจน์มีทุกอย่าง ก็กลายเป็นตกอับไม่มีเงินติดตัวเลยสักแดง...

พระ-นางเป็นเพื่อนบ้านกัน นางเอกแอบชอบพระเอกมาตั้งแต่เด็ก มักแวะเวียนไปขอให้พระเอกสอนการบ้านให้ ขอตามไปเล่นด้วย ตอนเรียนก็พยายามสอบเข้าที่เดียวกับพระเอกให้ได้ มีพระเอกเป็นไอดอล แต่พระเอกกลับจำนางเอกไม่ได้เลยสักกะนิด ...เหอๆ 
นางเอกไปเจอพระเอกตอนที่กำลังตกอับพอดี เลยขอให้อีกฝ่ายมาอยู่ด้วยกัน ทั้งสัญญาว่าต่อแต่นี้เธอจะเป็นคนเลี้ยงดูเขาเอง...พระเอกที่เพิ่งหมดสิ้นทุกอย่าง สูญเสียแรงกายแรงใจในการใช้ชีวิต คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงตอบตกลง

พอมาอยู่ด้วยกันนางเอกก็ทำทั้งงานหลัก+งานเสริม เพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสองคน ทั้งทำงานบ้าน ทำอาหาร พยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พระเอกต้องอยู่อย่างลำบากหรือรู้สึกไม่สบาย แม้สุดท้ายพระเอกจะไม่เห็นค่า มีเพียงความเย็นชาส่งกลับมาให้ แต่เธอก็ยังยินดีทำ...

นางเอกเป็นเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบ เพิ่งเริ่มทำงานในบริษัท เป็นคนนิสัยร่าเริง ความคิดเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร หน้าตาก็จัดอยู่ในระดับธรรมดา ไม่สวยไม่ขี้เหร่
แต่เด็กสาวธรรมดาอย่างเธอกลับกล้าทำเรื่องที่ผิดต่อพ่อแม่ เรื่องที่อาจเรียกได้ว่าบ้าในสายตาคนอื่นๆ นั่นคือ....เลี้ยงดูผู้ชาย(พระเอก)เอาไว้ในบ้าน...
แต่ใครใช้ให้ผู้ชายคนนั้นคือรักแรกและรักเดียวในใจเธอ คือเทพบุตร คือไอดอล
คือคนที่เธอเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไร้ข้อกังขากันล่ะ ต่อให้เขาจะร่ำรวยหรือยากจน รุ่งโรจน์หรือตกอับ เธอก็ไม่มีวันเลิกรักเขาได้อยู่ดี

ช่วงแรกหน่วงมาก เพราะมีแต่นางเอกคนเดียวที่เป็นฝ่ายทุ่ม ส่วนพระเอกก็หมดอาลัยตายอยากในชีวิตไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ใช้ชีวิตไปวันๆ สิ่งที่นางเอกทำจึงไม่ต่างจากการเอาน้ำไปเททิ้ง เติมเท่าไรก็ไม่มีวันเต็ม เพราะพระเอกไม่สนใจ ไม่รับรู้ มีแต่ความเฉยชาเย็นชาส่งกลับมาให้ แต่ถึงอย่างนั้นนางเอกก็ยังมองโลกในแง่ดี ยังยิ้มได้ เสียใจได้แป๊บๆ เดี๋ยวก็กลับมาสดใสได้อีก ไม่ต้องรอให้ใครมาปลอบมาง้อ ...
แต่อันที่จริงจะไปว่าพระเอกก็ไม่ได้ ก็คนมันไม่ได้รักอะ(ช่วงแรก) ความดีกับความรักมันเป็นคนละเรื่อง ไม่รักก็คือไม่รัก ซึ่งนางเอกก็รู้ดี จึงไม่ได้หวังว่าเขาจะอยู่กับเราตลอดไป
เพราะการที่เธอกับเขาได้อยู่ด้วยกันในเวลานี้ มันก็เป็นเหมือนกับความฝันที่เธอไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง หากเขาไม่ตกอับถูกทอดทิ้ง ดวงจันทร์ก็คงลอยอยู่บนท้องฟ้า ไม่มีทางลงมายังพื้นดินให้เธอได้สัมผัส
และสักวันเมื่อเขาคิดได้หรือพักจนหายเหนื่อยดีแล้ว ดวงจันทร์ก็คงลอยกลับขึ้นไปอยู่บนที่ของตัวเองตามเดิม ..

พอความสัมพันธ์เช่นนี้สิ้นสุดลง นางเอกก็ตัดสินใจไปเที่ยวคนเดียว แต่สถานที่ที่ไปดันมีพายุเข้า พระเอกเห็นข่าวเลยรีบโทรหา (หลังจากชีวิตพังปกติพระเอกจะไม่โทรหาใคร แม้แต่นางเอก) พอโทรไม่ติดก็ซื้อตั๋วบินไปหาถึงที่ ทั้งสองคนเลยมีโอกาสได้เปิดอกคุยกันอีกครั้ง หลังจากวันนั้นก็กลับมาอยู่ด้วยกัน แล้วพระเอกก็เริ่มกลับมาทำงานหาเงินใหม่

แต่พอฝั่งเพื่อนกับแฟนเก่ารู้ว่าพระเอกกำลังกลับมาทำงานก็คิดจะขัดขวาง
ซึ่งจริงๆ ตัวแฟนเก่าน่ะยังรักพระเอกเหมือนเดิม ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากจะดัดนิสัย
ในการทำธุรกิจบางอย่างของพระเอก เลยยอมร่วมมือกับคนอื่น ตั้งใจทำให้พระเอกสูญสิ้นทุกอย่าง เพราะคิดว่าเดี๋ยวพระเอกจะต้องกลับมาขอโอกาส ขอให้ช่วย...
..แต่สุดท้ายพระเอกก็ไม่เคยมาเลย  ตัดขาดการติดต่อทุกอย่างไปตั้งแต่วันที่โดนหักหลัง โทรมาก็บล็อกไม่รับ ไม่กลับไปแล้วโว้ยยยย...

พระเอกหนักแน่นมาก ตัดคือตัดไม่ลังเล ...พอรักนางเอกแล้วก็รักเลย มองแต่นางเอกคนเดียว ไม่มีโลเล คบกับแฟนเก่ามาหลายปีไม่เคยคิดจะแต่งงาน แต่คบกับนางเอกไม่กี่เดือนรีบพาไปจดทะเบียนเลยจ้า 55 ...พอแฟนเก่าเห็นข่าวนี้ก็ใจสลาย เพิ่งมาสำนึกเสียใจได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันผิด เพราะมันทำให้ต้องสูญเสียพระเอกไปตลอดชีวิต...
ส่วนเพื่อนสนิทพระเอกก็ทำไปเพราะอยากจะกำจัดพระเอกให้พ้นทาง แล้วก็อยากได้แฟนเขา ซึ่งสุดท้ายทั้งสองคนก็ได้รับกรรมกันไปตามระเบียบนั่นแหละนะ

จบดี จบแฮปปี้ ครึ่งแรกบีบคั้นมาก นางเอกเป็นฝ่ายคลั่งรักยอมทำทุกอย่าง แต่พอเข้าครึ่งหลังใจตรงกันแล้ว ความหวานก็จะค่อยๆ ไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  
พระ
-นางก็ช่วยกันทำงานสร้างกิจการ ต่างทำเพื่อกันและกัน นางเอกกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยเพียงหนึ่งเดียวของพระเอก เป็นคนที่เขาสูญเสียไปไม่ได้ ส่วนนางเอกก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเองจนมีความกล้ามากขึ้น เปลี่ยนจากคนที่เคยเดินตามหลังมาเป็นคนที่เดินอยู่ข้างๆ เขาได้อย่างเต็มภาคภูมิและมีความสุขจริงๆ สักที

ป.ล. การแปลโอเคนะ แต่มีพวกคำผิด คำตก คำสลับเยอะไปหน่อย ถ้าแก้ตรงนี้ได้ก็โอเลย

ป.ล. เรื่องนี้ไม่มีแบบรูปเล่มนะคะ มีแต่ E-Book



วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

แฟนคลับคนนี้มีรักมาฝาก

 

แฟนคลับคนนี้มีรักมาฝาก (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : สืออู๋
ผู้แปล : ซิงฉาย
สำนักพิมพ์ With Love by Jamsai

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เหมียวเหมี่ยว นักเขียนการ์ตูนเรื่อง ผู้กล้าบุกอาณาจักรแมว ที่กำลังโด่งดัง เจ้าของนามปากกา เหมียวไก่ฉีก เพราะนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ชอบแอบอู้ จึงทำให้เธอต้องเปิดไลฟ์สดเวลาทำงาน เพื่อจะได้ให้แฟนคลับหรือคนที่เข้ามาดูจับตามองเวลาทำงาน เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เธอเคลียร์งานจนเสร็จ

ฟางไหลหยาง แฟนคลับอันดับหนึ่งของเหมียวไก่ฉีก ชายหนุ่มรูปหล่อ ฐานะร่ำรวย
เป็นประธานบริษัทเจ้าของกิจการรถยนต์ แฟนคลับเศรษฐีที่ส่งรถเฟอร์รารี่ไปให้นักเขียนการ์ตูนในดวงใจแทนการขอบคุณ ที่ทำให้คนที่ขาดแรงบันดาลใจในการทำงานและชอบดองงานเช่นเขา ได้ทำงานเสร็จ สำเร็จลุล่วงจากการได้ดูไลฟ์สดของเธอ

จริงๆ พระเอกไม่ได้อยากมาทำงานเป็นประธานบริษัทของครอบครัวเลย แต่เพราะพี่ชายที่แสนจะสมบูรณ์เพียบพร้อมดันชิ่งไปเป็นหมอ พระเอกก็เลยต้องมาสืบทอดดูแลกิจการแทนพี่
ต้องละทิ้งอุดมการณ์ที่จะไปเป็นเชฟขนมหวาน พอมาทำงานพระเอกเลยกลายเป็นคนเงียบๆ เหมือนขาดแรงกระตุ้น เอกสารอะไรที่เลื่อนเซ็นได้ก็เลื่อน อันไหนที่ดองได้ก็ดองแบบเฉื่อยชา แต่พอได้เห็นนางเอกไลฟ์สดตอนทำงานพี่ก็เปลี่ยนไป เริ่มมีแรงใจ เลิกดองงาน เลิกผัดวันประกันพรุ่ง ส่งผลให้ผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้าน และด้วยนิสัยที่ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร พระเอกจึงส่งรถเฟอร์รารี่ไปให้นางเอกเป็นการตอบแทน....
เล่นใหญ่มากจนนางเอกตกใจ ไม่กล้ารับ ต้องขอส่งคืน แต่พระเอกก็ไม่ยอมรับคืน
สุดท้ายนางเอกเลยต้องขอเปลี่ยนเป็นรถธรรมดาที่ราคาถูกลงหน่อย พระเอกถึงได้ยอม

แต่พอได้รถมานางเอกก็ยังรู้สึกไม่ดี เลยไปปรึกษาเพื่อนๆ เพื่อนจึงแนะนำให้นางเอกเอาเงินไปชดใช้คืนเป็นค่ารถสิ แต่นางเอกไม่มีเงินก็เลยไปสมัครแอพฯ เรียกรถปาปา
แต่ขับไปขับมาเงินเก็บกลับไม่เพิ่มเพราะเธอกินเก่งมากกก (เอาเงินไปใช้กับอาหารหมด)
แถมยังโดนผู้โดยสารร้องเรียนเพราะขับรถได้ห่วยอีก
แต่นางเอกก็มองโลกในแง่ดี ไม่โกรธไม่ซี ยังเอามาเล่าให้แฟนคลับฟังขำๆ ตอนไลฟ์สดอีกด้วย 55

แล้ววันหนึ่งพระเอกก็บังเอิญได้นั่งรถที่นางเอกเป็นคนขับ แต่ตอนแรกยังไม่รู้นะว่าใคร
แต่นางเอกคุยเก่งไง พระเอกเลยเดาได้จากเรื่องที่พูดออกมา หลังจากนั้นพระเอกก็เลยเริ่มหาข้ออ้างนัดเจอนางเอก เช่นนัดขอคืนร่ม (ที่นางเอกบอกไม่ต้องเพราะมันราคาแค่
5 หยวนเอง) หรือจ้างนางเอกมาขับรถ (ทั้งๆ ที่พี่ก็เมารถที่นางเอกขับมาก แต่ก็ยังสู้ 55) เพื่อจะหาข้ออ้างพาเขาไปเที่ยว แล้วให้ลูกน้องที่บริษัทมาแกล้งแสดงเป็นเพื่อนตัวเอง 55 ...
ไปๆ มาๆ นางเอกก็เริ่มชอบพระเอก เพราะในสายตาเธอ..พระเอกคือคนที่อ่อนโยนและอบอุ่นมากกก หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วพระเอกเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดและเย็นชามาก ความอบอุ่นนี้มีไว้สำหรับนางเอกเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละ...
ส่วนพระเอกก็นึกว่าตนชอบนางเอกแบบที่แฟนคลับชอบไอดอล มาเอะๆ ใจก็ตอนที่เห็นนางเอกอยู่กับพระรอง และตอนที่นางเอกไลฟ์สดแล้วพูดชื่นชมอาหารที่พระรองทำ
55

เนื้อเรื่องเบาๆ สบายๆ ไม่ซับซ้อน ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ รู้สึกว่าบางทีเราก็ต้องอ่านอะไรแบบนี้บ้างเพื่อฮีลตัวเองอะ 55..
นางเอกเป็นคนใสซื่อโก๊ะๆ ความรู้สึกช้า มองโลกในแง่ดีแต่ก็กลัวความโดดเดี่ยว
เพราะมีอดีตที่แสนเศร้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยิ้มได้และสามารถทำให้คนที่อยู่รอบๆ ข้างยิ้มตามไปด้วยอีกต่างหาก...
พล็อตเรียบง่ายเรื่อยๆ แต่อบอุ่นหัวใจดี มีดราม่าเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย คือเรื่องที่นางเอกคิดว่าพระเอกมีแฟนแล้วเลยพยายามตัดใจ กับ
ตอนที่นางเอกถูกคนใส่ร้ายทางอินเทอร์เน็ตและกำลังดิ่ง  แต่จู่ๆ พระเอกกลับหายไปติดต่อไม่ได้ นางเอกเลยยิ่งเสียใจรู้สึกโดดเดี่ยว คิดว่าพระเอกคงไม่ได้ชอบตัวเองจริง พอพระเอกมารู้ทีหลังก็รีบทิ้งงาน ไม่หลับไม่นอนรีบและรีบกลับมาตามหาคน...เกือบทำให้นางเอกปิดประตูหัวใจใส่แล้วไหมล่ะ 55

หลังจากนั้นพี่แกก็แอบไปตามสืบหาคนที่ปล่อยข่าวใส่ร้ายจนเจอ พร้อมจัดการแก้ข่าวให้นางเอกเสร็จสรรพ แถมยังเริ่มหัดทำอาหารไปส่งให้นางเอกด้วยเพราะไม่อยากให้กินอาหารของพระรองบ่อย 55 .. ส่วนพระรองพอรู้ว่าเขารักกันก็ยินดี และเป็นฝ่ายถอยออกมาเองเงียบๆ ไม่ทำให้ใครอึดอัดลำบากใจ..

ป.ล.พระรองงานดีนะแต่ช้าไปหน่อย (มากกกเลยแหละ) เลยต้องกินแห้วไปตามระเบียบ ความจริงมีโอกาสตั้งหลายที แถมได้เจอกับนางเอกมาก่อนพระเอกตั้งนาน แต่พี่ดันไม่สารภาพตรงๆ ใจเย็นมาก พูดไม่เก่งอีกต่างหาก เลยใช้การกระทำอ้อมๆ เพื่อแสดงความรู้สึก  
แล้วคนโก๊ะๆ ความรู้สึกช้าอย่างนางเอกจะไปเข้าใจได้ยังไง แต่ดีที่พระรองก็มีเล่มแยกของตัวเองในเรื่อง รักนี้มีเชฟมาเสิร์ฟ ได้เป็นพระเอกละ ไม่ต้องแห้วแล้วนะทีนี้..อิอิ

ป.ล.ถึงพระเอกจะไม่ได้เป็นเชฟขนมตามที่ฝัน แต่สุดท้ายพี่ก็มีความสุขเพราะได้ทำขนมให้คนที่รักหรือนางเอกกินทุกวันแทน ...อิอิ 



วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ผมอยากหลบหนี

 

ผมอยากหลบหนี (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : 
หลินเพ่ย
ผู้แปล : 
ซิ่งหลัน
สำนักพิมพ์  
Narikasaii Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก เซียวเหยียนจี้หรือเซียวเหรินอวี้ หนุ่มลูกครึ่งไทยเชื้อสายจีน
มีปมเรื่องชาติกำเนิดเพราะแม่เป็นภรรยาน้อย พอแม่ตายนายเอกเลยหนีไปเรียนต่อที่ไต้หวันตัดขาดจากครอบครัวที่ไทย ในขณะที่กำลังเรียนมหาลัยด้วยความหน้าตาดี จึงทำให้ไปต้องตาพระเอกเข้า

พระเอก ฉินจวิน ทายาทผู้สืบทอดตระกูลฉิน เป็นคนโมโหง่ายอารมณ์ร้อน เป็นคุณชายเอาแต่ใจ แต่ในโลกธุรกิจคือสุภาพ คุยเก่ง วางตัวเป็น เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ พระเอกถูกใจนายเอกตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอหน้า สืบจนรู้ว่านายเอกเรียนคณะอะไร ชอบไปอ่านหนังสือที่ไหน แล้วก็ตามไปดู พอนายเอกรู้ตัวพระเอกก็ชิงสารภาพ และก็ถูกปฏิเสธ
เพราะนายเอกไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่พระเอกก็ไม่สน ใช้กำลังบีบบังคับจนได้นายเอกมาครอบครอง ทำให้นายเอกเกิดเงามืดในใจ แล้วหลังจากนั้นพี่แกก็กักขังนายเอกไว้ให้อยู่ข้างตัว กลายเป็นนกน้อยในกรงทองอย่างสมบูรณ์..

ทว่าวันหนึ่งพระเอกก็ต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แต่ก่อนแต่งก็มาบอกนายเอกก่อนนะ เห็นนายเอกเงียบๆ ไม่ว่าอะไรก็แอบเสียใจอยู่เหมือนกัน เพราะอยากให้เขาหึง (หารู้ไม่ว่าจริงๆ นายเอกกำลังวางแผนหนีจากตัวเองมาตลอด) ต่อมาพอพระเอกไปฮันนีมูน นายเอกเลยวางแผนหนีกลับไทย คิดว่าอีกฝ่ายคงตามไม่เจอ เพราะพระเอกไม่รู้ว่าจริงๆ นายเอกยังมีครอบครัวอยู่ที่ไทย คิดว่านายเอกเป็นกำพร้าไม่มีญาติที่ไหนมาตลอด พอกลับมาไทยนายเอกก็ได้เจอพี่ชายที่เป็นประธานบริษัทตระกูลเซียว พี่ชายพอได้เจอนายเอกก็ดีใจมากกก จนเราเกือบหลงคิดว่าพี่ชายคิดอะไรกับนายเอกเกินคำว่าพี่น้องอ๊ะป่าว แต่พออ่านๆ ไปไม่ใช่เลย พี่ชายนี่อยากใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ติดที่แม่ตัวเองไม่ชอบ พอโตมาได้เป็นผู้นำตระกูลเลยเปย์+ใส่ใจน้องได้เต็มที่ตามที่ใจต้องการละทีนี้

นายเอกจึงไปทำงานที่บริษัทของครอบครัวตามที่พี่ขอ ทำให้สภาพจิตใจค่อยๆ ดีขึ้น แต่ก็เหมือนยังขาดอะไรบางอย่าง ที่นายเอกก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน...หลังผ่านไป 1 ปี บริษัทบ้านนายเอกก็ได้ดีลธุรกิจกับบริษัทหนึ่งในไต้หวัน นายเอกซึ่งเป็นคนเดียวที่พูดจีนได้จึงถูกเรียกตัวให้มาช่วยพูดเจรจา แต่พอได้ยินว่าเป็นบริษัทจากไต้หวันนายเอกก็ไม่อยากยุ่งแล้ว กลัวเจอแจ็กพ็อต แต่พอได้ยินว่าเจ้าของแซ่เฉินไม่ใช่แซ่ฉินก็เลยยอมมา แต่ที่ไหนได้คนที่ฟังดันฟังมาผิด แจ็กพ็อตแตก...สุดท้ายก็ต้องเจอกับพระเอกอีกครั้งจนได้

ตอนที่สนพ.ลงตัวอย่างให้อ่าน เราก็นึกว่าเนื้อเรื่องคงหน่วงหนักมากแน่ๆ เพราะแค่บทแรกๆ ก็เจอทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายจิตใจ ทำร้ายร่างกาย แบบนึกไม่ออกเลยว่าจะให้ลงเอยกันได้ยังไง เพราะพระเอกแบบโคตรแย่อะ แต่กลายเป็นว่าก็มีแค่ตอนต้นๆ เท่านั้นที่หนัก เพราะพอได้กลับมาเจอกันหลังจากผ่านไป 1 ปี ทั้งสองคนก็เปลี่ยนไป นายเอกได้ทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง และที่สำคัญคือมีความกล้ามากขึ้น เพราะมีพี่ชายหนุนหลังคอยเป็นที่พึ่งพิง จึงทำให้อุ่นใจ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรตนก็ยังมีสถานที่ให้กลับ มีพี่ชายคอยปกป้อง ส่วนพระเอกก็ทำตัวดีขึ้น จากที่เคยเอาแต่ใจชอบบังคับก็เริ่มเปลี่ยน แต่ตอนแรกพี่แกยังเข้าใจผิดคิดว่าที่นายเอกหนีไปเป็นเพราะเรื่องแต่งงาน พอมารู้ว่าความจริงนายเอกคิดหนีมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ถูกบังคับ พระเอกก็ช็อก ไม่เคยรู้เลย นึกว่าเขาก็ต้องชอบตัวเองบ้างแหละ ที่ไหนได้เขาไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจ้า...สะอึกเลยสิทีนี้

แต่พี่แกก็ไม่ยอมแพ้นะ พยายามตื๊อเกลี้ยกล่อมจะให้นายเอกกลับไต้หวันไปกับตนให้ได้ พยายามควบคุมอารมณ์อธิบายเรื่องทุกอย่างบลาๆ แต่นายเอกก็ไม่สน ไม่กลับ..จนมีวันหนึ่งพระเอกสติหลุด หึงนายเอกกับพี่ชายจนหน้ามืดพยายามจะใช้กำลังอีกแว้วว แต่พอเห็นนายเอกตัวสั่นก็หยุด ไม่คิดว่าเขาจะกลัวมากขนาดนี้
นายเอกก็เหมือนถูกสะกิดเงามืดในใจขึ้นมา เลยรีบกลับบ้านไปเก็บของคิดจะหนี แต่ดีที่พี่ชายมาทัน นายเอกเลยระเบิดระบายความในใจ เล่าสิ่งที่พระเอกเคยทำกับตัวเองให้พี่ฟัง พี่ก็เลยไปซัดพระเอกซะหมอบ ไปๆ มาๆ นายเอกเลยเหมือนได้ปลดล็อค ปล่อยวาง หายแค้นพระเอกไปซะอย่างนั้น

ช่วงที่สองจะเป็นตอนที่กลับมาอยู่ด้วยกัน พระเอกใช้เรื่องสินค้ามีปัญหาทำให้นายเอกต้องบินมาที่ไต้หวัน แต่รอบนี้นายเอกไม่กลัวพระเอกแล้ว แต่กลายเป็นพระเอกที่กลัวแทน และกลายเป็นโรคหวาดระแวงกลัวว่าคนรักจะหนีหายไป....

ส่วนช่วงที่สามจะเล่าในมุมของพระเอก ตั้งแต่ตอนที่เจอหน้านายเอกครั้งแรกจนถึงวันที่หนี หลังจากที่นายเอกหนีไป พระเอกก็เลิกฮันนีมูนแล้วรีบบินกลับมาตามหาคนทันที พอหาไม่เจอก็เปลี่ยนเป็นคนละคน กลายเป็นคนอารมณ์ร้อนฉุนเฉียวง่าย เริ่มเศร้าซึม กระทั่งขอหย่ากับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานได้เพียง 3 เดือน ถึงจะต้องเป็นปรปักษ์กับบ้านภรรยา
หรือโดนตัดออกจากตระกูลก็ยอม ไม่สนทรัพย์สินเงินทองหรือชื่อเสียงอะไรแล้ว 
เพียงแค่อยากได้นายเอกคืนมาเท่านั้น....

ป.ล. แบ็คกราวส่วนใหญ่ของเรื่องจะอยู่ที่ประเทศไทย อาหารไทย สถานที่เที่ยวในกรุงเทพ เพราะนายเอกมีเชื้อสายไทย แถมยังพูดไทยได้คล่องปรื๋อ