กล่อมเกลา ปราชญ์หญิง (一个门客的自我修养) 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : เทียนหรูอวี้ (天如玉)
ผู้แปล : พวงหยกสำนักพิมพ์ แจ่มใส
'.. แต่กาลเวลาไม่ได้เมตตาเขาเลย จนถึงตอนนี้นางก็ยังปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดอยู่ดี
นางสามารถปฏิบัติต่อเขาได้โดยไม่มีอารมณ์อื่นมาเกี่ยวข้อง
แต่ก็เห็นเขาเป็นมหาอำมาตย์แคว้นฉีเท่านั้น
ไม่มีทางเรียกเขาว่าศิษย์พี่ด้วยน้ำเสียงเสน่หาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
นางกลายเป็นแบบที่เขาต้องการให้นางเป็น แต่เขากลับรู้สึกเสียดาย ...'
ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
อี้เจียง
หญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ หวนเจ๋อ ศิษย์สำนักกุ่ยกู่ ศิษย์น้องของอำมาตย์แห่งแคว้นฉี
กงซีอู๋ ผู้โด่งดัง นางเอกย้อนเวลากลับมาในช่วงสมัยยุคจั้นกั๋ว ซึ่งเป็นยุคที่แผ่นดินแตกแยกออกเป็นแคว้นต่างๆ ยังไม่รวมเป็นหนึ่ง เป็นยุคสมัยที่แคว้นทั้งหลายกำลังสู้รบห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด และเป็นยุคก่อนที่จิ๋นซีฮ่องเต้จะรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อนางเอกลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองฟังสิ่งที่คนอื่นเขาพูดกันไม่รู้เรื่องเลย แถมยังอ่านตัวหนังสือของที่นี่ไม่ออกอีก ทำยังไงดี เพราะเจ้าของร่างเดิมเป็นถึงเหมินเค่อชั้นสูงและยังเป็นศิษย์ของสำนักกุ่ยกู่อันโด่งดังเชียวนะ!..นางเอกก็เลยพยายามวางท่าให้ดูสูงส่งเย็นชาพูดน้อยๆ เหมือนอย่างที่พวกผู้ทรงปัญญาเขาทำกัน พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ แต่เพราะแก้ปัญหาได้ดีไปหน่อย ใครบางคนจึงไม่อยากให้นางอยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตเรื่อยๆ เอื่อยเฉื่อยอย่างเสียของ
เขาจึงยื่นมือเข้ามาก่อกวน จนทำให้ชีวิตของนางเกิดจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง...
นางเอกคิดจะใช้ชีวิตเป็นเหมินเค่อเงียบๆ
แต่พระเอกกลับไม่ยอม เพราะเสียดายความสามารถของนาง จึงพยายามขัดเกลาและเปลี่ยนให้นางเอกเป็นไปตามที่ตนหวัง และลากคนเขาเข้ามาสู่ความวุ่นวายของโลกภายนอก ทำให้นางเอกต้องกระโจนเข้าสู่วังวนของการสู้รบ และหลังจากนั้นก็แทบกู่ไม่กลับอีกเลย ... ยิ่งเมื่อนางเอกได้รู้ความจริงว่าที่ผ่านมาชีวิตของตนแทบจะอยู่ในกำมือของพระเอก และยังถูกเขาเฝ้าจับตาดูอยู่ตลอดเวลา
แม้แต่คนสนิทที่คิดว่าเป็นคนของตัวเองก็ยังเป็นคนของเขา ...เกิดเรื่องราวประดังประเดเข้ามามากมายจนเป็นเหตุให้นางตัดสินใจหนีหายและเดินทางไปทั่วแผ่นดินเพื่อหาความรู้สั่งสมประสบการณ์ จนผ่านไป 3 ปีนางเอกถึงได้ตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง เพื่อหาทางขัดขวางเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์บางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น...
นางเอกพยายามดึงแต่ละแคว้นให้มาเป็นพันธมิตรเพื่อต้านศึกของกองทัพแคว้นฉิน และก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น มหาอำมาตย์ห้าแคว้น แต่เพราะกลุ่มพันธมิตรนี้จัดตั้งขึ้นมาอย่างฉุกละหุกจึงไร้ซึ่งความสามัคคีและขาดความเชื่อใจกัน และท้ายที่สุดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แถมยังทำให้ตัวนางเอกต้องถูกตามไล่ล่าจนกลายเป็นคนไร้บ้าน ไม่อาจลงหลักปักฐานอยู่ที่ไหนได้นานๆ อีก แม้พระเอกจะคอยแอบตามช่วยเหลืออยู่ลับๆ และพยายามพานางกลับเข้ามาหลบอยู่ภายใต้ปีกของตน แต่เพราะการกระทำที่ผ่านมาก่อนหน้า จึงทำให้นางเอกไม่เชื่อใจพี่แก ไม่ว่าทำอะไรก็จะถูกคิดว่าทำไปเพื่อผลประโยชน์และมีเป้าหมายอย่างอื่นหมด แม้แต่คำพูดที่บอกว่า ‘ชอบ’ นางเอกก็ไม่เชื่ออีกแล้ว
พระเอกเรื่องนี้นอกจากจะเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ก็ยังมีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา เป็นคนฉลาด มีอุดมการณ์ และมีเป้าหมายใหญ่คือการรวมแผ่นดิน เดิมทีพี่ก็ไม่ได้สนใจในตัวศิษย์น้องคนนี้หรอก ออกจะเกลียดด้วยซ้ำ จนกระทั่งนางเอกได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แหละ พระเอกถึงได้หันกลับมามองใหม่ เพราะรู้สึกว่าศิษย์น้องเปลี่ยนไป ซึ่งนางเอกก็ถูกศิษย์พี่ที่แสนจะดูดีเพอร์เฟคดึงดูดและตกไปตามคาด
ทว่าหลังจากที่ได้รู้ความจริงทุกอย่างนางก็ตัดใจ
แน่นอนว่าศิษย์พี่ไม่มีทางยอม จึงให้คนคอยไปสืบข่าวและตามจับศิษย์น้องกลับมาอยู่ตลอด ...กว่าพระเอกจะเข้าใจว่าการชอบใครคนหนึ่ง มันแตกต่างจากการชอบหนังสือหรือหมากรุกยังไงก็ใช้เวลาอยู่หลายปีเลย
กว่าจะแฮปปี้ได้ลงเอยอยู่ด้วยกัน ก็ต่างบอบช้ำกันไปทั้งสองฝ่าย ...
เนิ้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องศึกสงคราม การชิงไหวชิงพริบ มีการทรยศหักหลังและปั่นหัวกันเป็นว่าเล่น ไม่มีมิตรหรือศัตรูที่แท้จริง มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น
หากมีผลประโยชน์ก็อ้าแขนรับ แต่พอหมดก็พร้อมถีบหัวส่งทันที ชีวิตนางเอกก็เป็นเช่นนั้นแล เข้าแคว้นนู้นออกแคว้นนี้ วันนี้เป็นขุนนางแคว้นนั้น วันถัดไปก็อาจระเห็จไปเป็นขุนนางแคว้นนี้ ไม่เคยได้อยู่รับใช้แคว้นใดแคว้นหนึ่งนานๆ เพราะหากไม่ถูกระแวงก็ต้องถูกคนหาเรื่องกำจัดก่อน มีแต่คนเห็นแก่ตัว คนที่กล้ายืนหยัดปกป้องนางจริงๆ มีน้อยนิด ส่วนใหญ่จะมีแต่ศัตรูมากกว่า .......
นางโกรธแค้นพระเอกที่พยายามควบคุมชีวิตตน แต่สุดท้ายตัวนางเองก็ควบคุมชีวิตคนอื่นและใช้ผลประโยชน์จากคนอื่นเขาเหมือนกัน หลายปีที่พยายามดิ้นรนแทบตายแต่กลับแทบเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย
สงครามก็ยังคงเกิด คนก็ยังต้องตาย แม้แต่ตัวเองก็ยังเกือบรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้...
อ่านเจอยุคนี้ทีไรแล้วเครียด แอบหดหู่นิดๆ ทุกที ... เฮ้อ (แต่สนุกนะ เรื่องนี้เราชอบมากต้องลองอ่านดู)
อ่านเจอยุคนี้ทีไรแล้วเครียด แอบหดหู่นิดๆ ทุกที ... เฮ้อ (แต่สนุกนะ เรื่องนี้เราชอบมากต้องลองอ่านดู)