วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ลำนำราตรี 2 เล่มจบ



ลำนำราตรี 2 เล่มจบ / ผู้แต่ง : จู่เวยหลิวเหนียน
ผู้แปล : อัญชลี เตยะธิติกุล
สำนักพิมพ์ อรุณ

คำโปรยหลังปก

เด็กหญิงที่ซุกซนสดใส ต้องพลัดพรากจากครอบครัวที่รัก 
ถูกจับตัวมาอยู่ในลัทธิมาร เติบโตท่ามกลาง ความทรงจําดํามืด 
ต่อสู้ดิ้นรน พิสูจน์ฝีมือกระทั่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสังหาร 
นางฝึกศาสตร์วิชาลับ ถึงขั้น ทําลายตนเอง ชีวิตนี้เป็นหรือตาย 
มีรักหรือไร้รัก ล้วนไม่ไยดี ทั้งหมดเพื่อการแก้แค้น

เด็กหนุ่มวัยสิบห้า ถูกจับตัวเข้าลัทธิมาร เจ็ดปีที่สาบสูญ 

เคี่ยวกรําให้เป็นมือสังหาร กระทั่งเป็นผู้คุ้ม กันเงาของนาง 
ยอมทําตามบัญชา คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน ชีวิตนี้ต้องอยู่รอด
เพื่อรอคอยโอกาสหลบหนี หวนคืนมาตุภูมิ

สองดวงใจมาผูกพันด้วยปณิธานที่แตกต่าง...หนึ่งผลักไส หนึ่งไล่ตาม 

นางยอมแลกทั้งชีวิต เพื่อหนี้เลือดที่รอการสะสาง 
เขายอมแลกทั้งหัวใจ เพื่อแบกรับทุกอย่างแทนนาง 
เพื่อดึงนางออกมาจากอนธกาลแห่งเงาอดีต 
และพานางกลับมาด้วยกันกับเขา


ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
จยาเยี่ย  เด็กสาวที่ถูกลัทธิมารจับตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก  
เพื่อเอาชีวิตรอดนางจึงกลายเป็นคนโหดเหี้ยม เย็นชา ไร้รัก ไร้ความรู้สึกใดๆ 
ยอมแม้กระทั่งละทิ้งตัวเองเพื่อเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวที่วางเอาไว้    
เซี่ยอวิ๋นซู เด็กหนุ่มรูปงามที่ถูกลัทธิมารลักพาตัวมาเช่นกัน ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากโหดร้ายต่างๆนานา เพียงแค่ขอให้ได้มีชีวิตรอดและกลับบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง  
ในอดีตเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่รักความยุติธรรม และตรงไปตรงมา   
แต่เพราะความประมาท จึงทำให้พลาดพลั้งถูกจับตัวมา 
และกลายเป็นหนึ่งในผู้คุ้มกันเงาของจตุรทูตแห่งลัทธิมาร  
เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อในวันวานไม่มีอีกแล้ว เพราะหนทางเดียวที่จะทำให้มีชีวิตรอดและกลับบ้านได้นั้น
มีเพียงแต่ต้องสังหารผู้คน...

ในเล่มแรกจะเป็นช่วงที่พระ-นางอยู่ในลัทธิมารโดยมีสถานะเป็นนายกับบ่าว  
พระเอกมีสถานะเป็นผู้คุ้มกันเงา มีหน้าที่คอยติดตามรับใช้และออกไปทำภารกิจตามคำสั่งนางเอก  
ซึ่งแต่ละภารกิจที่ออกไปทำก็แสนหนักหนา และเต็มไปด้วยกลอุบายต่ำช้าตามแบบฉบับของลัทธิมาร   ในช่วงแรกๆ พระเอกจึงยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เพราะเขาไม่เคยฆ่าหรือทำร้ายใครโดยไร้เหตุผลมาก่อน  แต่พอไม่ทำ นอกจากตัวเองจะต้องตายแล้ว ก็ยังพานางเอกซวยตามไปด้วยอีก  
พระเอกเลยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองและกลายเป็นเครื่องจักรสังหารอย่างแท้จริง   

พอเข้าเล่มสองก็จะเป็นช่วงที่ได้ออกจากลัทธิมาร คนทั้งคู่ต่างหมดสถานะนาย-บ่าว  
ทีนี้แหละสายเปย์จัดเต็ม  มีลูกอ้อนลูกตื๊ออะไรพระเอกก็งัดเอาออกมาใช้หมด
ขอแค่นางเอกยอมอยู่ด้วย ให้ทำอะไรพี่แกก็ยอม  
นางเอกเลยจำใจติดตามพระเอกกลับไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องมีปัญหาตามมาแน่ๆ  
ทั้งจากทางคนรอบข้าง จากคนในบ้านพระเอก และจากตัวของนางเอง  
ซึ่งจากปัญหาหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้รู้ว่า...จะธรรมมะหรืออธรรม ...ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นมารได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นมารแล้วต้องชั่ว หรืออยู่ฝ่ายธรรมมะแล้วต้องดีเสมอไป ...หึหึ
งานนี้พระเอกที่อยู่ตรงกลางเลยต้องรับบทหนัก เพราะต้องเจอแรงกดดันจากหลายฝ่ายหลายทาง  
แล้วไหนจะต้องพยายามเหนี่ยวรั้งนางเอกเอาไว้อีก  
ไม่งั้นเผลอแผล็บเดียวนางเอกก็เอาแต่จะจากไปทุกที...

ที่เราสนใจเรื่องนี้ก็เป็นเพราะตัวนางเอกที่เห็นบอกว่าเย็นชามากๆ    
กับพระเอกที่มีฐานะเหมือนองครักษ์หรือผู้ติดตามรับใช้  (เพราะส่วนมากเจอแต่พระเอกฐานะสูงกว่าหรือไม่ก็เท่าเทียมกัน)  
ซึ่งนางเอกก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งเย็นชา ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุก็เป็นเพราะนางสนและแคร์มากไง ถึงได้ต้องเย็นชาและเลือดเย็นขนาดนี้   
ส่วนไอ้ความลำบากโหดร้ายที่พระเอกได้เจอตอนอยู่ในลัทธิมารก็ยังถือว่าเล็กน้อย หากเอามาเทียบกับสิ่งที่นางเอกเจอ ที่ยังสามารถประคองสติและอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าสุดๆ แล้ว .....
( แต่บางทีก็เย็นชามากไปจนเราเซ็ง พอเห็นนางร่ำๆ อยากจะไปจากพระเอกอยู่ตลอด ก็อยากจะตะโกนบอกให้รีบๆ ไปเถอะอยู่เหมือนกัน 55+)  

พระเอกจึงเป็นเหมือนความอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลกใบนี้ของนางเอก
ทำให้ใจที่แข็งปานหินเริ่มหลอมละลาย  จนอยากจะฝากทุกอย่างเอาไว้.....
แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้  เพราะยังมีเรื่องเลวร้ายอีกมากรอนางอยู่  
เห็นไหมใช่ว่าออกจากลัทธิแล้วก็จะสุขสมหวัง ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเลย ...
บอกเลยว่ากว่าจะถึงตอนนั้น ..กว่าจะจบเรื่อง คู่นี้ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ  หึหึ.....

เรื่องนี้มีตอนพิเศษเยอะสะใจดี  ปมปริศนาอะไรก็เคลียร์ออกมาได้หมดไม่ค้าง  
สำนวนการแปลอ่านแล้วมีสะดุดเล็กน้อย..
คำศัพท์บางคำที่เลือกเอามาใช้ก็ดูหรูหราเกินไม่ค่อยเข้ากับประโยค  
( อันนี้แล้วแต่คนเน้อ บางคนอาจจะโอเคไม่เป็นไรก็ได้ .. / แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ สนพ.พัฒนาปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ เน้อ สู้ๆ )




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น