วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560

My Sunshine แสงตะวันกลางใจ


My Sunshine แสงตะวันกลางใจ / ผู้แต่ง : กู้ม่าน
สำนักพิมพ์ อรุณ

คำโปรยหลังปก
เจ็ดปี !  นานเหลือเกินที่ไม่ได้พบกัน
จ้าวโม่เซิงเพิ่งเดินทางกลับจีนหลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาหลายปี
ขณะจับจ่ายซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง
เธอก็ได้พบกับคนสองคนที่ทำให้เธอพ่ายแพ้จนต้องหนีเตลิดไปต่างประเทศ

เหออี่เชิน ... คนที่เธอรัก
เหออี่เหมย ... เพื่อนรัก

จากที่เคยคิดว่าจะต่างคนต่างอยู่  แม้ใจจะโหยหาและเจ็บปวด
แต่ท่าทีเย็นชา  วาจาเชือดเฉือนที่เขาทำกับเธอ   ทำให้เธอสงสัย
เพราะคนที่เอ่ยปากไล่ให้เธอไปไกลๆ คือเขาไม่ใช่หรือ

ความทรงจำที่สวยงามและเจ็บปวดถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
แสงตะวันที่อบอุ่นส่องสว่างในอดีตนั้นจะกลับมาเยียวยาหัวใจ
ที่บอบช้ำของคนทั้งสองได้หรือไม่ ....

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  (อาจมีสปอยลล์)
หลังจากรอคอยมา 2 เดือนกว่าๆ เรื่องที่ 2 ของกู้ม่านก็ตามหลังมาติดๆ (ノ≧∪)ノ  
( เรื่องแรกที่ออกไปแล้วคือ Boss&Me มื้อนี้มีรัก ) เรื่องนี้เนื้อหาและตัวละครจะมีความดราม่ามากกว่าเรื่องซานซาน  แต่ก็ไม่ถึงกับร้องไห้น้ำตาตกในหรอกเน้อ  
เพียงแต่พออ่านแล้วจะรู้สึกหน่วงๆ ไปกับความรู้สึกและการกระทำของตัวละครพระ-นางอะ

พระเอก เหออี่เชิน นักศึกษาคณะวิชากฏหมายเป็นหนุ่มรูปหล่อ เฉลียวฉลาด เย็นชา 
แต่ยากจนต้องส่งตัวเองเรียน  ส่วนนางเอก จ้าวโม่เซิง เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน
แต่อยู่คนละคณะ นางเอกนิสัยซุกซน เฟอะฟะซุ่มซ่าม พูดมากช่างคุย 
ชอบหาเรื่องให้พระเอกดุได้อยู่ตลอด...ในสมัยเรียนพระเอกจะเป็นคนที่ป๊อปปูล่ามากๆ 
เป็นดาวเด่นของคณะมีแต่คนรู้จัก เพราะหน้าตาหล่อแถมหัวก็ดี  
มีแต่คนมาตามจีบแต่สุดท้ายกลับมีคนเดียวที่จีบสำเร็จก็คือนางเอกนั่นเอง 
หรือพูดง่ายๆ คือนางเอกเป็นคนเดียวที่พระเอกยอมเปิดโอกาสให้
ในขณะที่คนอื่นๆ พระเอกไม่ให้โอกาสเลย
 
ทุกๆ อย่างดูเหมือนจะดี ถ้าหากไม่เกิดเรื่องบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองคนผิดใจกัน  
และนางเอกก็เลือกที่จะจากไป แต่เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับคำถามมากมายที่ถูกเก็บเอาไว้มาตลอด 7 ปี  เพราะต่างคนต่างก็คิดว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูกทิ้ง   
นางเอกยังไม่เท่าไร เพราะด้วยนิสัยที่เป็นคนความรู้สึกช้าและมองโลกในแง่ดี จึงไม่ได้โกรธเคืองอะไร แค่กลัวกับไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงมากกว่าถ้าหากได้เจอหน้ากันอีก  
ส่วนพระเอกนี่ตรงกันข้ามเพราะถึงภายนอกจะเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยพูด  
แต่เป็นคนที่ถ้ารักใครรักจริง รักแล้วก็รักเลยและก็จะรักตลอดไป  
เพราะฉะนั้นพี่แกจึงมาเต็มจ้า โกรธแรงมากๆ  7 ปีผ่านไปนี่บอกได้เลยว่าทั้งรักทั้งแค้น  
ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายยังไงเขาก็จะรอนางเอกตลอดไป แต่ก็ยังโกรธมากๆ อยู่ดี  ...
พอเจอหน้าก็ทำตัวห่างเหิน พูดจาทำร้ายจิตใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำเอานางเอกเสียใจไปไม่ถูก T^T แต่พระเอกกลับเสียใจยิ่งกว่า เพราะที่ทำไปทั้งหมดนั้นก็ทำร้ายตัวของเขาเองด้วยเช่นกัน 

สุดท้ายพระเอกก็ฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหว เพราะให้ตายเขาก็ไม่สามารถปล่อยมือจากนางเอกไปได้จริงๆ  แม้จะยังไม่เข้าใจว่า 7 ปีที่ผ่านมานั้นคืออะไรทำไม? และเพราะอะไร?  
แต่เขาก็ต้องการนางเอกมากอยู่ดี ส่วนนางเอกก็เหมือนกันเธอก็ต้องการแค่ เหออี่ เชิน ' 
คนนี้คนเดียวเท่านั้นเหมือนกัน

ปล. จบ Happy จ้า ไม่ต้องห่วงเน้อ  (*^ ・^)ノ
ปล. ของแถมในรูปมีเฉพาะรอบพิมพ์ครั้งที่ 1 นะจ๊ะ
........................................................................................................................
" เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ "
" หา " คล้ายกับโดนเธอเรียกให้ตื่น น้ำเสียงของโม่เซิงหดหู่เล็กน้อย
" ไม่มีอะไร  แค่คิดถึงเรื่องเมื่อก่อนกับเขา .. กับเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่เคยเดินเล่นด้วยกันที่นี่
ฉันหาเขาตั้งนานกว่าจะเจอ  ฉันเลยพูดกับเขาว่า ถ้ายังหาคุณไม่เจออีก 
ฉันจะปีนไปบนเวทีจัดแสดงนั่นแล้ว "
" ทำไมล่ะ " 
" เขาก็ถามแบบนี้เหมือนกัน "  โม่เซิงยิ้มเศร้าๆ  
" ฉันพูดว่า ก็ในเมื่อฉันหาคุณไม่เจอ  ทำได้แค่ยืนอยู่ในที่ที่สะดุดตาเพื่อให้คุณหาเจอไง "
อี่เชินปรากฏตัวในโทรทัศน์เพราะหวังว่าเธอดูแล้วจะไปหาเขาใช่ไหม  ครั้งนี่เปลี่ยนเป็นเขาที่ยืนอยู่ในสถานที่สะดุดตา
หรือว่า  เธอจะคิดไปเองข้างเดียวอีกแล้ว
" เป็นคนที่เธอชอบ? " เถาอี้จิงถาม
โม่เซิงไม่ได้ตอบ  เวลาผ่านไปนาน เถาอี้จิงก็เหมือนได้ยินเธอพูดว่า " .... คนที่ชอบมาก "

...........................................................................................................................
" ตอนนี้คุณยังถอยได้นะ " เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ  จึงเอ่ยขึ้นโดยไม่หันไปมอง
ถึงรู้ว่าเขามองไม่เห็น  แต่เธอยังคงส่ายหน้า  " เข้าไปกันเถอะ "
" โม่เซิง นี่คือสิ่งที่คุณเลือกเองนะ "  เขาเอ่ยเสียงเข้มลึกขึ้นเหนือหัวเธอ
" นับจากนี้ไป ถึงแม้ว่าพวกเราจะทรมานกันและกันไปทั้งชาติ ผมก็จะไม่ยอมปล่อยคุณไป "


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น