วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

จอมมารมิลืมรัก 3 เล่มจบ

 

จอมมารมิลืมรัก 3 เล่มจบ + เล่มพิเศษ

ผู้แต่ง : โม่ซีเคอ

ผู้แปล อาเหีย

สำนักพิมพ์ Minerva Book


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก ฉือมู่เหยา ตายแล้ววิญาณทะลุมิติมาอยู่ในนิยายแนวโลกบำเพ็ญเพียร มาอยู่ในร่างของศิษย์ชายเพียงหนึ่งเดียวของสำนักเหอฮวน สำนักฝ่ายมารที่บำเพ็ญเพียรด้วยการหาเตาหลอมพลังหรือผู้ฝึกตนที่มีพลังสูงกว่ามาบำเพ็ญคู่ด้วย นายเอกมาอยู่ในร่างของตัวประกอบที่จะถูกตัวร้ายของนิยายเรื่องนี้ฆ่าตายอย่างอนาถ นายเอกไม่อยากมีจุดจบแบบนั้น ทว่าสุดท้ายก็ยังหนีชะตากรรมบางอย่างที่อยู่ในหนังสือไม่พ้นอยู่ดี...

พระเอก ซีหวาย เป็นนายน้อยหรือบุตรชายเพียงคนเดียวของ ซีหลิน ประมุขสำนักมารที่ใหญ่ที่สุดในโลกบำเพ็ญเพียรนี้ นิสัยโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนเป็นผักปลา แต่มีร่างกายและคุณสมบัติในการฝึกตนยอดเยี่ยม ...พระเอกถูกตาเฒ่าสำนักโอสถจับมาขังไว้ในถ้ำและผนึกพลังทำให้หนีออกไปไม่ได้ ทางเดียวที่จะหนีออกไปได้คือต้องยอมเป็นเตาหลอมพลังให้กับนายเอก(ที่ถูกจับมาที่หลัง) ทำให้นายเอกเลื่อนขั้นถึงขั้นจี้จูได้ก่อนจึงจะทำลายอาคมที่ผนึกประตูออกไปได้ ตาเฒ่าโอสถคิดใช้นายเอกมาหยามเกียรติพระเอก ซึ่งในนิยายเดิมพระเอกจะต้องกลายเป็นเตาหลอมพลังให้ตัวละครนี้นานถึง 7 ปีอย่างไม่ยินยอม พอออกไปได้ก็คลั่ง ตามไปสังหารคน รวมถึงทำลายสำนักของนายเอกทิ้งราบคาบ เป็นตัวร้ายที่แท้ทรู 

นายเอกไม่อยากมีจุดจบแบบนั้น ไม่อยากมีอะไรกับพระเอกและไม่อยากได้พระเอกเป็นเตาหลอมด้วย ส่วนพระเอกก็ไม่ได้อยากทำกับบุรุษเหมือนกัน เลยตกลงกันว่าพอออกไปได้ก็ให้ทางใครทางมันไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก นายเอกเลยโอเคตรงใจพอดี เวลาทำนายเอกจะไม่แตะต้องส่วนอื่นบนร่างกายพระเอกเลย แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นพระเอกที่เริ่มหวั่นไหวอยากแตะต้องนายเอก อยากให้เขาจูบตัวเอง แต่ทำยังไงนายเอกก็ไม่คล้อยตามไม่หลงกล ไม่แม้แต่จะบอกชื่อจริงของตัวเองหรือให้พระเอกเห็นใบหน้าที่แท้จริง (ในถ้ำมืดพระเอกมองไม่เห็น) กระทั่งกลิ่นบนร่างกายกับน้ำเสียงก็ยังปลอม(สำนักนายเอกเก่งเรื่องพวกนี้) พระเอกเลยรู้แต่ว่านายเอกเป็นคนของสำนักนี้แต่นอกนั้นคือไม่รู้อะไรเลยจ้าา คนในสำนักนายเอกก็ไม่มีใครยอมบอก พระเอกเลยได้แต่สุ่มหาไปเองเรื่อยๆ จนผ่านไป 3 ปี ช่วงที่ตามหาคน หากเจอใครที่มีระดับขั้นพลังหรือท่าทางดูคล้ายๆ นายเอกกำลังตกอยู่ในอันตราย พระเอกก็จะรีบเข้าไปช่วยทันที จนทำให้พรรคฝ่ายธรรมะเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกกำลังกลับตัวกลับใจ55 

เวลามีงานไหนที่ฝ่ายธรรมะจัดขึ้นพระเอกก็จะไปร่วมแจมด้วย เผื่อจะได้เจอคนที่ตัวเองกำลังตามหา ...แต่จริงๆ นายเอกไม่ได้ไปไหนไกล แค่ไปสมัครเป็นลูกศิษย์พรรคฝ่ายธรรมะที่ดูแลพวกสัตว์วิญญาณแถวๆ นั้นแหละ  เป็นพรรคที่ยากจนมากกก เลยไม่ค่อยมีใครอยากมาสมัครเข้าพรรค แต่นายเอกคือชอบ ตอบโจทย์ชีวิตเลย พอเข้ามานายเอกก็กลายเป็นคนจัดการดูแลงานการทุกอย่างในพรรค เพราะพรรคนี้ไม่เคยสนใจอะไรนอกจากเลี้ยงดูสัตว์วิญญาณ พอมีนายเอกมาอยู่ด้วยทุกอย่างถึงได้เป็นระบบเริ่มมีระเบียบขึ้นมา (ก่อนทะลุมานายเอกเป็นเด็กเรียนตัวยง เก่งคำนวณ ทำอะไรเป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาไปอยู่สำนักไหนเลยมักได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแล+คุมบัญชีตลอด) 

ต่อมาพรรคใหญ่ของฝ่ายธรรมมะจัดงานหนึ่งขึ้น พระเอกคิดว่านายเอกน่าจะมาเข้าร่วมด้วยเลยตามมาร่วมแจม(อีกและ)55  ตอนแรกพระเอกจำนายเอกไม่ได้  เลยได้แต่ไล่ตรวจคุณสมบัติคนที่ใกล้เคียงแล้วตัดตัวเลือกออกไปเองเรื่อยๆ แต่พี่แกก็เริ่มเอ๊ะๆ แบบสงสัยนายเอกมั่งแล้วนะ พยายามจับสังเกตุท่าทางความเคยชินต่างๆ ของนายเอกแต่ก็ยังไม่เจอพิรุธจังๆ นายเอกก็พยายามหลบเลี่ยงพระเอก ให้ตายก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองคือคนนั้น ไม่หลุดพิรุธเลย แต่เวลาพระเอกกำลังตกอยู่ในอันตรายช่วงวิกฤตทีไรนายเอกก็จะแอบยื่นมือเข้าไปช่วยทุกที ...

สุดท้ายพระเอกก็ตัดตัวเลือกทั้งหมดทิ้งแล้วพุ่งเป้าไปที่นายเอกคนเดียว เริ่มมีอาการหึงหวงเวลาเห็นนายเอกคุยกับคนอื่น พอเห็นก็จะใช้อาคมบังคับให้นายเอกหันมามองแต่ตัวเอง คอยตามวอแวอยู่ข้างๆ เหมือนลูกหมายักษ์ (มากกก พระเอกสูง 190+ รูปร่างสูงใหญ่ ส่วนนั้นก็ใหญ่55) ใจนายเอกคือไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแล้วจริงๆ ทว่าในตอนที่พระเอกคลั่งนายเอกก็ยังแอบไปช่วยดูดพลังออกมานะ ขณะที่ทำก็ใช้อาคมปิดกั้นสัมผัสรับรู้ทุกอย่างของพระเอก ไม่ให้พระเอกรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ตอนที่นายเอกถูกเล่นงานในค่ายกล พระเอกก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของขั้นพลัง เพราะก่อนหน้านี้อิพี่เอาแต่หาคนไม่ยอมกักตัวเลื่อนขั้น พอถูกพ่อบังคับจับขังก็เอาแต่สร้างอาวุธเพื่อเตรียมไว้จับนายเอก55 หลังนายเอกออกมาได้เลยยอมกลับสำนักเพื่อไปกักตัวเลื่อนขั้น นายเอกก็ดีใจหลงนึกว่าพระเอกคงถอดใจจากตัวเองแล้ว  

ผ่านไปไม่นานนายเอกก็ต้องออกไปประมูลเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อเอากลับมาเลี้ยงสัตว์วิญญาณหายากชนิดหนึ่ง แล้วก็ได้มาเจอพระเอกกับพวกลูกน้องในงาน คนสำนักมารจะให้พระเอกขึ้นเป็นราชามาร แต่ถูกพระเอกปฏิเสธ คนฝ่ายมารก็เลยแซะว่าพระเอกคงกลับตัวกลับใจแล้วสินะ ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ไปงานของฝ่ายธรรมะแล้วช่วยเหลือคนบ่อยนิ่? พระเอกรำคาญเลยบอกงั้นเป็นก็ได้ คนที่แซะก็อึ้งๆ จะเป็นง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ? พระเอกก็เออ เป็นแล้วไงจะเอาไรอีก55 พอคุยบลาๆ กันเสร็จ พระเอกเลยถามว่าหมดเรื่องแล้วใช่มะ ถ้างั้นจะได้จับคน55... พอนายเอกกับคนสำนักเหอฮวนที่มาด้วยกันได้ยินก็รีบเผ่นเลยจ้า เพราะรู้ว่าพระเอกมาจับตัวเองแน่ๆ แต่รอบนี้พระเอกเตรียมตัวมาดีพาผู้ฝึกตนขั้นหยวนอิงในพรรคมาด้วย เพราะสำนักนายเอกขึ้นชื่อเรื่องหนีเก่ง พระเอกกลัวไล่จับไม่ทันเลยให้คนในพรรคมาช่วยอีกแรง55 

หลังจับคนได้ก็พากลับสำนักตัวเอง พระเอกนึกว่านายเอกก็คงชอบตัวเองเหมือนกันเพียงแต่กลัวพ่อพระเอกจะไม่ยอมรับ (พ่อพระเอกเป็นผู้ฝึกตนขั้นหยวนอิงที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนั้น เพราะพ่อทำพันธะสัญญากับมังกรอสรพิษด้วย) พระเอกก็ไปเคลียร์กับพ่อ แต่พ่อรับไม่ได้ที่ลูกตัวเองจะกลายเป็นเตาหลอมให้คนอื่นแถมอีกฝ่ายยังเป็นบุรุษอีก! ตอนแรกนึกว่าที่ลูกตามหาคนไปทั่วคือจะตามไปฆ่า แต่ที่ไหนได้อิลูกดันไปตกหลุมรักเขาแล้วคิดจะแต่งคนกลับมาซะงั้น พ่อโมโหมากเลยเฆี่ยนตีพระเอกอย่างหนัก พอนายเอกเห็นอาการบาดเจ็บของพระเอกก็ช่วยรักษาให้ (นายเอกทำพันธะสัญญาณกับสัตว์วิญญาณเลยทำให้มีพลังในการรักษา) พ่อพระเอกเข้ามาเห็นสภาพนายเอกหลังรักษาลูกตัวเองเสร็จก็เริ่มยอมรับความสัมพันธ์นี้อย่างเงียบๆ พอพระเอกรู้ว่านายเอกช่วยตัวเองจนได้รับผลกระทบไปด้วยก็ยิ่งซึ้ง เชื่อว่านายเอกต้องชอบตัวเองเหมือนกันแน่ๆ วันหนึ่งก็เลยลองผูกด้ายคู่รักที่นิ้วก้อยตัวเองกับนายเอก แต่ผลปรากฏว่ามีแต่ฝั่งตัวเองที่ขึ้นสีแดง ส่วนนายเอกเป็นสีขาว พระเอกเลยเข้าใจว่านายเอกไม่ได้ชอบตัวเองเลย เป็นตัวเองชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียว แอบเสียใจแต่ก็ยังไม่เลิกชอบนะ...

แต่ความจริงนายเอกน่ะชอบพระเอกแล้วเพียงแต่รู้สึกตัวช้า ตอนนายเอกติดอยู่ในหมอกพิษออกไปไม่ได้ พวกปรมาจารย์ขั้นหยวนอิงของฝ่ายธรรมะที่เคลมตัวเองว่าดีนักดีหนากลับไม่ยอมเข้ามาช่วย ทั้งๆ ที่คนที่ติดอยู่ก็มีแต่ลูกศิษย์ฝ่ายธรรมะของตัวเองทั้งนั้น ไม่ช่วยไม่พอดันกางอาคมล้อมไม่ให้คนข้างในออกมาอีกต่างหาก ...เหอๆ สุดท้ายก็มีแต่พระเอกที่ไม่กลัวตายกล้าบุกฝ่าเข้ามาคนเดียว

พระเอกเห็นนายเอกไม่กลับมาสักทีเลยมาตามหาคน  อยากรู้ว่านายเอกตั้งใจไม่กลับไปเองหรือมีสาเหตุอื่น พอพระเอกโผล่มารอบนี้นายเอกถึงได้แน่ใจว่าตนชอบพระเอกเข้าแล้วจริงๆ แต่พระเอกดันไม่เชื่อเพราะด้ายที่นิ้วนายเอกยังเป็นสีขาวอยู่ ก็เลยนึกว่านายเอกกำลังโกหก ตอนถูกพายุพัดเข้าไปในค่ายกลพระเอกจะสังหารคนทั้งหมดเพื่อให้นายเอกเป็นคนที่ได้ออกไป แต่นายเอกไม่ยอมและทำให้พระเอกพลาดโอกาสสังหารคน พระเอกเลยโมโหต่อว่านายเอก แล้วบอกว่านายเอกเสแสร้งนั่นนู่นนี่บลาๆ หาว่านายเอกไม่ได้รักตัวเองแต่ทำเป็นเสแสร้งว่ารักเพราะอยากหลอกใช้ตน นายเอกได้ฟังก็เสียใจมากกก น้ำตาไหลพราก พยายามอธิบายยังไงพระเอกก็ไม่เชื่อ(เชื่อแต่ด้ายที่ผูกนิ้ว) นายเอกเลยเงียบ ไม่พูดและ แต่พอถึงยามคับขันนายเอกก็เลือกที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อให้พระเอกรอด นั่นแหละพระเอกถึงได้เก็ตว่าตัวเองเข้าใจคนเขาผิดขนาดไหน แล้วอิพี่ก็เริ่มไล่ทำลายกำแพงค่ายกลอย่างบ้าคลั่งเพื่อตามหานายเอก...

อ่านจบแล้วคือสนุกเกินคาดมาก ไม่ได้ตลกอย่างเดียว ตอนที่จริงจังเคร่งเครียดหรือซึ้งๆ กินใจก็มี นายเอกเป็นคนใจเย็นนิ่งๆ จิตใจดี ส่วนพระเอกคือตรงข้ามทุกอย่างจ้า55 ใจร้อน เผด็จการ ปากเปราะ คลั่งรักนายเอกมากกก แทบอยากจะตัวติดกับนายเอกตลอดเวลา ต่อให้กลายเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดหรือเป็นราชามารแล้ว แต่ปณิธานอิพี่ก็ไม่เคยเปลี่ยน... นั่นคือการได้เข้าถ้ำกักตัวกับนายเอกสัก 20 ปี 55+ ไม่คิดบุกไปทำลายฝ่ายธรรมะ ไม่คิดรวมสามโลกให้เป็นหนึ่ง พี่ก็แค่อยากอยู่กับเมียเท่านั้น55 วันๆ ก็คอยตามรบเร้าให้นายเอกใช้ตัวเองเป็นเตาหลอม อยากทำหน้าที่เตาหลอม แต่นายเอกคือไม่อยากเพราะพระเอกทำทีโคตรนาน อึดมากกก55 พระเอกก็ไม่ยอม ตามหึงตามบ่นอยู่นั่นแหละ นายเอกด่านกที่เลี้ยงไว้อิพี่ก็น้อยใจ บอกว่าทำไมมีเวลาด่านกแต่ไม่มีเวลาให้ตัวเอง55 ตลกดี หึงได้แม้แต่แม่หมูที่นายเอกไปทำคลอดให้ ตบมุกกันเป็นธรรมชาติดี ในเรื่องจะมีคู่อื่นด้วย ชอบคู่ของศิษย์พี่นายเอกกับเจ้าสำนักเหอฮวนที่อยู่ในเล่มพิเศษที่สุด ชอบพระรองในเรื่องด้วย ตอนแรกก็แอบระแวงกลัวว่าพี่แกจะเปลี่ยนไปเหมือนกันนะ แต่ดีที่สุดท้ายก็ไม่เปลี่ยน...












วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567

ลางสังหารไขคดีพิศวง 7 เล่มจบ

 



ลางสังหารไขคดีพิศวง  7 เล่มจบ  

ผู้แต่ง : เหว่ยอวี๋

ผู้แปล : วนิดา ลิขิตมงคลสุข

สำนักพิมพ์ Siam Inter Book


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงนางเอกเรื่องปริศนาด่านปีศาจอวี้เหมิน (ผลงานของนักเขียนท่านนี้เหมือนกัน จริงๆ เรื่องลางสังหารออกมาก่อน แต่เราเพิ่งได้ฤกษ์อ่าน55) นางเอกเก่ง+เท่มาก อึดถึก สู้ชีวิตฝุดๆ ต่อสู้เก่ง พึ่งตัวเองได้ไม่ต้องง้อผู้ชายเลย ในเรื่องปริศนาด่านปีศาจอวี้เหมินนางเอกโตมาแบบปากกัดตีนถีบสู้ด้วยลำแข้งตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ส่วนนางเอกลางสังหารไขคดีพิศวงโตมาแบบเด็กสาวธรรมดา มีพ่อแม่รักใคร่ตามใจ เลยมีนิสัยเอาแต่ใจออกแนวคุณหนูหน่อยๆ มีความร่าเริงสดใสเหมือนเด็กสาวทั่วๆ ไป ทว่าในช่วงปีสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย จู่ๆ ชีวิตก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เหมือนร่วงตกเหว จากเด็กสาวธรรมดาที่เคยมีครอบครัวอบอุ่น มีแฟนหนุ่มแสนดี มีชีวิตที่ราบรื่นมาโดยตลอด แต่เพียงชั่วข้ามคืนเธอกลับต้องสูญเสียทุกอย่างนี้ไปแม้แต่ตัวตนของตัวเอง ต้องทิ้งชื่อแซ่ หลบซ่อนตัว หนีตาย ระหกระเหินไปทั่วพร้อมกับระฆังใบหนึ่งและคำสั่งเสียของแม่ 

นางเอกมีความสามารถในการติดต่อกับวิญญาณคนตาย แบบที่ตายไม่ดีจบไม่สวยและเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นรุนแรงผ่านระฆังที่แม่ทิ้งไว้ให้ เมื่อระฆังสั่น นางเอกก็ต้องออกเดินทางไปยังสถานที่ที่วิญญาณนั้นตายเพื่อสลายความอาฆาตแค้น? หรือทำให้วิญญาณดวงนั้นสมปรารถนา?  ...ครั้งแรกคือที่กาไน่ นางเอกต้องไปตามหาเด็กสาวที่หายสาบสูญไประหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวคนเดียว  ซึ่งที่นั่นทำให้เธอได้พบกับเจ้าของโรงแรมที่เป็นกันเองและชายหนุ่มขี้โมโห ที่จะกลายมาเป็นครอบครัว เป็นคนรัก และคนสำคัญที่สุดที่เธอยินดีจะปกป้องเขาด้วยชีวิต

พระเอก เยวี่ยเฟิง ชายหนุ่มรูปหล่อเพื่อนเยอะ เป็นที่รักของเพื่อนฝูง ประสบการณ์เยอะพึ่งพาได้ ลูกผู้ชายตัวจริง ปากร้ายแต่ใจดี มีแฟนสาวที่คบกันมา 7 ปีแต่อยู่ในช่วงระหองระแหงกำลังจะเลิก ต้องหลบมาพักใจที่กาไน่แล้วก็บังเอิญได้พบกับหญิงสาวแปลกๆ ท่าทางลึกลับเหมือนมีความลับที่ไม่อาจบอกใครได้ ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว และแถมยังชอบทำให้เขาโมโหอยู่บ่อยๆ หญิงสาวที่เขาเอ่ยปากขับไล่ เพราะกลัวว่าเธอจะทำให้คนรอบข้างของเขาต้องเดือดร้อน ...ในช่วงแรกนางเอกจะฉายเดี่ยวมาก ต่อสู้กับคนร้ายเองตามลำพังโดยที่ไม่มีใครช่วย ไม่มีเจ้าชายขี่ม้าขาว ไม่มีเพื่อน ไม่มีแม้แต่พระเอกหรือใครมาช่วยทั้งนั้น เพราะเอาจริงๆ นางเอกก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอร้องให้ใครมาช่วยตัวเองด้วยแหละเดี๋ยวจะเดือดร้อน เฮ้ออ ...โดดเดี่ยวฝุดๆ

ตอนเจอกันครั้งแรกที่กาไน่พระเอกยังไม่รู้สาเหตุ แต่รู้ว่าสิ่งที่นางเอกทำนั้นอันตราย พระเอกยังมีคนที่ต้องใส่ใจต้องห่วง จึงเอ่ยปากไล่ให้นางเอกออกไปแบบไม่แคร์ รอบสองเจอกันที่เมืองโบราณ คราวนี้รู้สาเหตุแล้ว แต่พระเอกก็ยังขอให้เธอไปแบบสุภาพเพราะสิ่งที่นางเอกกำลังเผชิญมันอันตรายเกินไปจริงๆ พระเอกยังไม่กล้าเสี่ยง เพราะเขายังมีคนรอบข้างที่ต้องเป็นห่วง แม้จะชอบนางเอกขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เขายอมสละชีวิตเพื่อเธอได้... ซึ่งนางเอกก็เข้าใจ (ส่วนคนอ่านก็ปวดใจแทน) 

ทว่า... แต่ช้าแต่สุดท้ายโชคชะตาก็ทำให้เขากับเธอต้องโคจรมาพบกันอีกจนได้ เพราะพระเอกดันไปรับรู้ความลับบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวนางเอก จึงทำให้เขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเธออีกครั้ง แผ่นดินกว้างใหญ่ โชคชะตาอันแสนโหดร้าย ผู้คนมากมายผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป แต่พระเอกกลับเป็นคนเดียวที่ยังผ่านเข้ามาและวนเวียนอยู่ในเส้นทางของนางเอกเสมอ แม้ช่วงแรกๆ จะยังไม่ได้ช่วยแบบเต็มตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่าพระเอกมักจะมาปรากฏตัวได้ถูกจังหวะทุกครั้ง ออกมาในตอนที่นางเอกกำลังเผชิญวิกฤตอยู่ในช่วงความเป็นความตายพอดี แม้ว่าสุดท้ายจะต้องแยกย้ายกันในตอนจบเรื่อง เพราะคนหนึ่งยังลังเลไม่อยากหาเรื่องลำบากใส่ตัว ส่วนอีกคนก็ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อนตามไปด้วย แต่สุดท้ายถ้าคนจะใช่ยังไงมันก็ใช่ ไม่ว่าจะเดินอ้อมอีกสักกี่หมื่นโล ห่างกันเพียงใด หรือมีเหตุผลข้ออ้างมากมายเท่าไร แต่คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน ยังไงก็หนีกันไม่พ้นหรอก...

เป็นแนวไขความจริง หลอนๆ เกี่ยวข้องกับภูตผีวิญญาณ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ นางเอกจี้ถังถัง เก่ง+เท่มาก บุตรสาวตระกูลเซิ่งผู้ครอบครองระฆังสายหนึ่ง นางเอกถูกตระกูลหนึ่งซึ่งเป็นคู่ปรับหรือคู่แค้นเก่าแก่ของตระกูลฝั่งแม่ตามไล่ล่า ทำให้ต้องระหกระเหินหลบซ่อนตัว และจำต้องฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อความอยู่รอด... ขณะที่สลายความอาฆาตแค้นนางเอกก็ต้องคอยหลบคนที่มาตามไล่ล่าไปด้วย แถมวิญญาณแต่ละดวงที่ต้องไปช่วยก็ล้วนแต่ตายอนาถแบบโหดๆ ดังนั้นวิธีสลายความแค้นก็เช่นกัน ไม่ใช่สวดส่งวิญญาณเน้อ แต่เป็นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ทำแบบไหนก็โดนแบบนั้นแหละ (ใครอ่อนไหวโปรดเตรียมใจนิดนึง) ซึ่งทุกเคสมักจะเป็นคดีที่ปิดไม่ได้หรือไม่มีการแจ้งความ ตัวคนร้ายก็โหดเอาเรื่อง กว่าจะจบแต่ละเคสนางเอกคือสาหัสมาก หวิดได้ไปโลกหน้าหลายรอบและ  

คืออ่านแล้วสงสารนางเอก อยากให้มีคนแบ่งเบาความทุกข์และร่วมเดินทางไปกับเธอจัง ไม่อยากให้เธอต้องสู้อยู่คนเดียว ... ตอนแรกก็นึกว่าตระกูลฝั่งแม่อาจจะพอพึ่งได้บ้าง แต่อ่านไปอ่านมาก็ต้องกุมขมับ อยากจะร้องเชรี่- ...ดังๆ แต่โชคดีที่สวรรค์ยังมีตาส่งพระเอกมาให้ ถึงตอนแรกพี่แกจะยังลังเล (ตรงนี้เข้าใจนะ เป็นใครก็ต้องถอย เพิ่งรู้จักกันไม่นานด้วย) แต่พอตกลงคบกันทีนี้อันตรายแค่ไหนพระเอกก็ไม่ยอมปล่อยมือแล้วจ้า จะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ก็พร้อมไปด้วย... เราชอบตอนที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันใหม่หลังจากที่คิดว่าต่างคนต่างก็ไม่อยู่แล้วมากๆ เลย ลุ้นมากเลยว่าเมื่อไรเรื่องพวกนี้จะจบลงสักที เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวนางเอกหรือพระเอกนะที่ต้องทุกข์ทรมานเกือบตาย แต่มันยังมีคนอื่นหรือคนนอกที่ต้องมาประสบเคราะห์จนตายเพราะเรื่องราวของตระกูลพวกนี้ด้วย ...โคตรน่าสงสาร ToT