วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

อย่าหยิ่งนักเลย + แด่เธอ...ด้วยรัก


อย่าหยิ่งนักเลย + แด่เธอ...ด้วยรัก (2 เล่มจบ)  / ผู้แต่ง : สุยโหวจู 随侯珠
ผู้แปล : ยินดี
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
เสิ่นซี  นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยคุรุศาสตร์เอกนาฏศิลป์ สาวสวย สดใสร่าเริง 
ที่มองโลกในแง่ดีและช่างพูด เธอมีชายหนุ่มที่แอบชอบอยู่ในใจมานานเกือบสิบปีแล้ว 
ก็คือ หลินอวี้ถัง หนุ่มหล่อ สมองดีที่มีบ้านอยู่ข้างกันและเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ 
เพราะความชอบนี้เองจึงทำให้เสิ่นซีพยายามดั้นดนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับอีกฝ่ายให้ได้ 
ถึงสุดท้ายจะพลาดแต่อย่างน้อยยังได้อยู่มหาวิทยาลัยตรงข้ามกันก็ยังดี

เหอจือโจว หนุ่มรูปหล่อ บ้านรวย ไอคิวสูงคณะวิศวะ แต่นิสัยเย็นชาเข้าถึงยากมาก 
เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของหลินอวี้ถัง และเป็นคนที่ทุกคนให้ความเคารพยำเกรง
และพร้อมใจกันเรียกว่า ท่านเทพ  เพราะความหัวดีบวกกับหน้าตาหล่อเหลา
จึงไม่แปลกที่เหอจือโจวจะเป็นชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทุกคนในมหาลัย 
ต่อให้หน้าตาเย็นชาไม่แคร์ใครก็ยังเป็นที่ชื่นชอบและป๊อปปูล่ามากๆ อยู่ดี

แต่แล้ววันหนึ่งคนสองคนที่แตกต่างและไม่มีอะไรเหมือนกันเลย 
ก็กลับต้องมาสลับร่างและทำเรื่องใกล้ชิดสนิทสนมกันยิ่งกว่าใคร 
เด็กกากอย่างเสิ่นซีต้องมาใช้ชีวิตในร่างของท่านเทพเหอที่สุดแสนจะเย็นชาและเพอร์เฟค 
ส่วนเด็กเทพหัวดีอย่างเหอจือโจวก็ต้องมาอยู่ในร่างของเด็กสาวสมองทึบจอมโก๊ะ
ที่รักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ
เรื่องราวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาพร้อมความเฮฮาชุลมุนวุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น  …

นางเอกเรื่องนี้เป็นคนมองโลกในแง่ดี คิดอะไรเรียบง่ายไม่ซับซ้อน 
ขนาดต้องมาอยู่ในร่างของผู้ชายก็ยังปรับตัวใช้ชีวิตได้อย่างชิลๆ 
ตอนเป็นผู้หญิงก็เป็นแฟนสาวที่น่ารักช่างเอาใจใส่ ขี้อ้อน 
พอมาอยู่ในร่างผู้ชายก็พร้อมจะเป็นแฟนหนุ่มมาดแมนแฮนซั่มที่ปกป้องดูแลอีกฝ่ายได้
ขนาดทำให้คนอย่างพระเอกหวั่นไหวได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ (ต้องไปลองอ่านเองเน้อ55+)  
ถึงจะไม่ค่อยฉลาดแต่เมื่อเจอปัญหาก็สามารถเอาตัวรอดและแก้ไขสถานการณ์จนทำให้คนอ่านอย่างเราหัวเราะได้ทุกครั้ง  ผิดกับพระเอกที่หน้าดำคร่ำเครียดเกือบจะโมโหตายอยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้เห็นความสบายๆ และวิธีแก้ปัญหาของนางเอก 

" จือโจว คุณช่วยอธิบายวิธีแก้โจทย์ข้อนี้ทีเถอะ "
เหอจือโจวถูกขานชื่อแล้ว เสิ่นซียืนขึ้น สมองที่เดิมทีสะลึมสะลืออยากนอนพลันปลอดโปร่งทันที 
เธอมองโจทย์ในพาวเวอร์พอยต์ แค่เครื่องหมายเธอยังไม่เข้าใจเลย
    ... เสิ่นซีกลอกตาไปมา ตั้งใจจะบอกว่าเธอตอบไม่ได้ แต่พอเห็นสายตาที่เฝ้ารอและมีเมตตา
ของศาสตราจารย์หวังกลับทนไม่ได้ เธอบอกศาสตราจารย์หวังเสียงใส
" หัวข้อนี้ผมได้ถกกับหลินอวี้ถังแล้ว ความคิดของพวกเราตรงกัน เมื่อครู่หลินอวี้ถังบอกผมว่าเขาอยากลุกขึ้นตอบมาก ดังนั้นอาจารย์ให้หลินอวี้ถังตอบเถอะครับ .. "
ศาสตราจารย์หวัง " ตกลง หลินอวี้ถัง คุณตอบสิ! "
..............................................................................................
" ฉันมาแล้ว "
เหอจือโจวมาแล้วเหรอ เสิ่นซีรีบออกจากหอพักทันที เธอมองซ้ายมองขวาก็หาเหอจือโจวไม่เจอ
เธอโทรหาเขา " นายมาแล้ว ตกลงนายอยู่ไหนกันแน่เนี่ย "
เหอจือโจวรับสายแต่ไม่พูดจา ผ่านไปครู่ใหญ่ค่อยพูดว่า " ฉันเอง วันนั้นของเดือนเธอมาแล้ว "

(จริงๆ ถ้าได้เห็นครอบครัวนางเอกแล้วก็ไม่แปลกใจหรอกรู้เลยว่านิสัยเหมือนใคร55+)  
เพราะการสลับร่างนี้เองจึงทำให้คนทั้งคู่ต้องคอยปรึกษาหารือและมีเรื่องใกล้ชิดกัน  
ประกอบกับเรื่องของพระรองก็ยิ่งทำให้ความสนิทสนมนั้นเพิ่มมากขึ้น  
พระเอกต้องกลายเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจและกลายเป็นแฟนหลอกๆ ของนางเอก จนท้ายที่สุดก็เริ่มหวั่นไหวไม่อาจห้ามใจไม่ให้ตกหลุมรักอีกฝ่ายได้ ...

เป็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวตอนช่วงมหาลัยจนถึงวัยทำงาน 
ออกแนวสดใสน่ารักกุ๊กกิ๊ก เนื้อเรื่องอาจดูธรรมดาแต่ก็สนุก ตลกฮา ไม่เครียด 
บอกเล่าความสัมพันธ์ของพระ-นางตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน เริ่มคบหา จนเรียนจบไปถึงขั้นสุดท้ายเลย 
ไม่มีดราม่า ไม่มีเรื่องมือที่สาม จะมีก็แค่เพื่อนขี้อิจฉาบางคนของนางเอกเท่านั้น 
มีอุปสรรคเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หนักหนาอะไร เป็นเรื่องทั่วๆ ไปในชีวิต 
เหมือนเป็นแบบทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นาง ว่าจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรค
และจับมือจูงกันไปได้จนถึงขั้นแต่งงานไหม ในเล่มแรกจะจบลงตรงที่ทั้งสองตกลงคบกัน  
แต่หลังจากนั้นไม่นานพระเอกก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศซะก่อน
พอเล่มสองก็จะเริ่มเข้าสู่รักทางไกลวัยทำงาน ต้องพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ สังคมใหม่ๆ 
ความตลกอาจไม่เท่าเล่มแรกเพราะเริ่มเข้าสู่ชีวิตจริง วัยทำงาน ที่ตามมาด้วยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียนหรือเพื่อนเท่านั้น 
ฝั่งพระเอกไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเป็นคนวางแผนในชีวิตชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร
จะมีก็แค่เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวนิดหน่อยเท่านั้น  
ส่วนใหญ่จะหนักไปทางฝั่งนางเอกมากกว่า เพราะนิสัยเหมือนเด็กและเป้าหมายในชีวิตยังไม่ชัดเจน ก็เลยต้องค้นหาตัวเองว่าสรุปแล้วอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร 
โดยมีพระเอกเป็นกำลังใจคอยให้ความสนับสนุน  
ซึ่งระหว่างทางก็อาจจะมีความไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกันบ้าง ต้องคอยปรับจูนเข้าหากันอยู่เรื่อยๆ
ตามประสาคนที่เป็นแฟนกันนั่นแหละเนาะ จริงๆ ก็ไม่ต้องลุ้นอะไร ไม่มีอะไรให้ลุ้นมาก
เพราะเดาได้ไม่ยากอยู่แล้วว่าจะจบแบบไหน  แค่รอดูว่าเวลามีปัญหาพระ-นางจะช่วยกันแก้ยังไง
แต่ก็ไม่ยากหรอกถ้ามีแฟนแบบพระเอกน่ะนะ ที่ทั้งหล่อรวย ฉลาดและเปย์หนัก 55+... 


ปล. จริงๆ การสลับร่างจะไม่เกิดถ้าพระรองไม่ทำให้นางเอกเสียใจ+คิดมาก
จนต้องออกไปยืนแถวดาดฟ้าเรือแล้วพลัดตกลงไปในน้ำ  
จริงๆ พระเอกก็อาจจะไม่ใช่เหอจือโจว ถ้าพระรองไม่ทำอะไรคลุมเครือไม่ชัดเจน
จนทำให้นางเอกผิดหวัง (พระรองงานดีอยู่นะ) ตอนอ่านช่วงแรกนี่โกรธพระรองมาก
แล้วตอนลงตัวอย่างให้อ่านสำนักพิมพ์ก็ตัดจบแต่ละตอนได้ลงแดงมาก ...
พออ่านไปจนจบถึงได้รู้ว่าจริงๆ พระรองน่ะรักนางเอกมากนะ 
แต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครรู้เลยว่าคุณพี่น่ะรักนางเอกแบบคนรัก 
คือทุกคน..ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่นางเอกหรือพ่อแม่พระรอง ก็คิดว่ารักนางเอกแบบน้องสาวหมด 
เพื่อนร่วมห้องที่เห็นก็ยังคิดเลยว่าสถานะสองคนนี้ไม่ชัดเจน 
คือนางเอกน่ะชัด เห็นก็รู้เลยว่าชอบเขามากขนาดไหน แต่ของพระรองนี่ไม่รู้ว่าคิดยังไง  
จนนางเอกสลับร่างแล้วได้มาอยู่ร่วมห้อง แล้วได้เห็นท่าทางเวลาที่อีกฝ่ายคุยกับเพื่อนสนิทนี่แหละ
ถึงเริ่มตัดใจ ขนาดเราอ่านแล้วยังโกรธเลย แล้วนางเอกจะขนาดไหนชอบเขามาตั้งนาน
ถ้าไม่ได้ชอบก็บอกมาสิจะได้ไม่ยุ่ง นี่เหมือนกั๊กไว้อะ 
ไม่เหมือนพระเอกที่ไม่เคยให้ความหวังใคร ไม่เข้าใกล้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่สนใจไม่คุยเล่น 
จัดการปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิงได้ดีมาก 
แต่พระรองนี่ดีกับทุกคนเลย ไม่ได้ดีกับนางเอกแค่คนเดียว 
จนวันที่โดนบอกเลิก ถึงได้พูดว่านางเอกเป็นแฟนตัวเอง  
แต่ที่ผ่านมานี่เงียบตลอดไม่เคยพูดแบบชัดๆ หรือบอกใครเลยว่านี่แฟนฉัน  
แล้วพอเกิดปัญหาคุณพี่ก็ใจเย็น+นิ่งเหลือเกิน แบบไม่ค่อยพยายามอะไรเลยอะ 
ถ้ารักก็ควรจะพยายามตื๊อหรืออธิบายอะไรหน่อยไหม คนเขาจะได้ไม่เข้าใจผิด
พระเอกนี่ถึงจะเย็นชาไม่เห็นหัวใคร แต่พอรักใครแล้วก็เต็มที่ไม่ปิดนะ 
พูดชัดเจนทำอะไรชัดเจน ...ก็สมควรแล้วแหละที่จะเสียนางเอกไป 

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Expected Love ปรารถนาของหัวใจ


Expected Love ปรารถนาของหัวใจ / ผู้แต่ง Lanlin
ผู้แปล แมวน้ำสีรุ้ง
สำนักพิมพ์ Angpao Books

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
สวีเหยี่ยน  นักร้อง นายแบบ ไอดอลหนุ่มที่กำลังโด่งดัง ผู้มีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าตา 
เงินทองและฐานะชาติตระกูล หยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จ ชีวิตไม่เคยเจอกับคำว่าล้มเหลว  
ช่างตรงข้ามกับ เหยียนเข่อ ชายหนุ่มวัย 30 ที่หน้าตาธรรมดาแถมยังดูหดหู่เศร้าซึมตลอดเวลา
เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้เหยียนเข่อต้องพลาดโอกาสในการออกอัลบั้ม 
ทั้งยังสูญเสียน้องชายที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวไปด้วยอย่างน่าสงสาร  
เพื่อหาเงินชดใช้หนี้สินของน้องชาย กับค่าผิดสัญญาให้กับทางค่ายเพลง  
เหยียนเข่อที่ไร้ซึ่งหนทาง จึงต้องขายร่างกายให้กับคนในวงการด้วยความจำใจ

นายเอกเป็นผู้ช่วยของพระเอก คอยจัดการดูแลรับใช้พี่แกทุกอย่าง 
ไม่ว่าพระเอกจะอารมณ์ร้ายหรือด่าว่าอะไรก็ไม่หือไม่อือ ก้มหน้าทำงานที่ได้รับมอบหมายลูกเดียว 
ส่วนพระเอกนั้นเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็มีคนเอามาประเคนให้ถึงที่  
ไม่ต้องคอยประจบเอาใจหรือดูสีหน้าใคร ต่อให้ชักสีหน้าไม่พอใจ ทำนิสัยแย่แค่ไหน
ก็ยังมีคน
พินอบพิเทาอยากเข้าหาอยู่ดี...ชีวิตดี๊ดี  
เดิมทีพระเอกไม่ได้สนใจหรือแยแสนายเอกเลย แต่เพราะความนิ่งเงียบ ไม่สนโลก
ไม่สนว่าคนอื่นจะพูดว่าตัวเองยังไง แม้จะทำตามคำสั่งเป็นอย่างดีแต่ในใจกลับไม่ได้
แคร์พระเอกเหมือนคนอื่นๆ เลยสักนิด  นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พี่แกสนใจในตัวอีกฝ่าย 

แต่ความสนใจก็มาพร้อมกับการดูถูก ยิ่งได้รู้อดีตของอีกฝ่ายพระเอกก็ยิ่งรังเกียจเหยียดหยาม 
หาเรื่องให้นายเอกดีใจมีความหวัง แต่พออารมณ์เสียไม่พอใจก็ดับทุกอย่างลงอย่างง่ายดาย  
ทำให้คนเขาดีใจเก้อและผิดหวังซ้ำไปซ้ำมา นายเอกที่เพิ่งแย้มยิ้มมีความสุขได้ไม่ทันไร พอเจอแบบนี้ก็ต้องถอยกลับเข้ากระดองไปแล้วปิดกั้นตัวเองอีกครั้ง  กลับไปเป็นคนเดิมที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา 
ถามคำตอบคำและปฏิบัติตามคำสั่งเหมือนหุ่นยนต์ ...
พระเอกที่ไม่เคยแคร์ใคร คิดว่าตัวเองไม่เป็นไร ก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิม 
แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวและเจ็บปวดใจเมื่อนายเอกไม่เข้ามาหา 
และถอยห่างจากตัวเองไปเรื่อยๆ ...

เรื่องนี้อ่านแล้วอยากเข้าไปเบิ๊ดกะโหลกพระเอกสักทีสองที ทำไมปากร้ายแบบนี้  
รู้อยู่ว่าชีวิตนายเอกแทบไม่เหลืออะไรแล้วก็ยังไปทำร้ายจิตใจเขา 
คือนายเอกน่ะมีความฝันอยู่อย่างหนึ่งที่อยากจะทำให้ได้ ก็คือออกอัลบั้ม (เหมือนทำความฝันของน้องชายที่เสียไปให้เป็นจริงด้วย) แต่มันก็ยากมากสำหรับคนที่อายุขึ้นเลขสาม
แถมหน้าตาไม่ได้สดใหม่หล่อระเบิด ทั้งยังไม่มีแบ็คอัพอะไรเลย  
ผิดกับพระเอกที่อยากทำอะไรก็ได้ทำง่ายๆ แถมยังประสบความสำเร็จอีกด้วย  
พอพระเอกรู้ความฝันของนายเอก ก็ไปบอกว่าถ้ายอมนอนด้วยก็จะช่วยเรื่องออกเทป 
นายเอกก็ยอม แต่พอเขายอมอิพี่ก็โกรธไม่พอใจ บอกว่าโง่เหรอพูดล้อเล่นก็เชื่อด้วย  
นายเอกก็อึ้งสิอับอายสุดๆ เพราะเดิมทีตัวเองก็ไม่ใช่เกย์ ไม่ได้อยากทำอยู่แล้ว 
แต่เพราะชีวิตมันล้มเหลวมาตลอด โอกาสก็ไม่มีกว่าจะได้อะไรมาสักอย่างก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นหลายสิบเท่า แต่พอท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้อีก เป็นแบบนี้มาตลอดผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า 
จนเลิกคาดหวังเพราะจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป...


แต่นายเอกก็แสนดีเข้าใจโลกใครทำอะไรก็ไม่โกรธ 
เพราะชีวิตเจอเรื่องหนักหนามาเยอะปลงแล้ว 
ก็พยายามหาทางทำตามความฝันของตัวเองต่อไป 
โดยมีพระเอกที่รู้สึกผิด(และแอบชอบเขา)คอยให้ความช่วยเหลือ ช่วยให้ได้ร้องเพลง ได้ออกทีวี 
แล้วก็หลอกให้มาอยู่บ้านเป็นแม่บ้านคอยดูแลทั้งตัวเองและบ้านไปพร้อมๆ กันเลย...โอ๊ยยเจ้าเล่ห์  
ปากก็บอกว่าไม่สนคนแก่ไม่ชอบ มีตัวเลือกเยอะแยะไม่มีทางชอบแบบนี้หรอก 
แต่การกระทำน่ะคนละเรื่องเหมือนหมาป่าจ้องลูกแกะ..นายเอกบอกไม่ๆ ผมไม่ใช่เกย์ 
พระเอกก็จ้าๆ รู้แล้ว แล้วก็จับกดติดกำแพงตลอด ...เหอๆ (อิพี่เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ)  
แต่ในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดีไปได้สวยก็ดันเกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ ...
และหนนี้ก็ทำให้นายเอกหมดแรงแล้วจริงๆ ......


วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 5 (5 เล่มจบ)



ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 5 (5 เล่มจบ) / ผู้แต่ง : อวี่จิ่วฮวา
ผู้แปล : เม่นน้อย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1-2
https://marynlinsbook.blogspot.com/2019/04/1-2.html
ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 3
https://marynlinsbook.blogspot.com/2019/05/3.html

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
อ่านมาจนถึงเล่มสุดท้ายนี่บอกเลยว่ารออยู่เรื่องเดียวคือ เมื่อไหร่จะหย่า? .. 
วางแผนลักพาตัวก็แล้ว หลบไปอยู่อารามชีก็แล้ว จนถึงขนาดแกล้งตายแต่ก็ยัง..ยังไม่ได้หย่าอีก  
นางเอกอยากหย่าใจจะขาดแต่พระเอกก็ไม่ยอม 
พยายามโน้มน้าวหาทางเปลี่ยนใจหาทางแก้ไขทุกอย่างแต่ก็ไม่สำเร็จ 
เพราะติดอยู่เรื่องเดียว คือกฏของตระกูลที่ห้ามไม่ให้ลูกอนุเป็นภรรยาเอก 
ยอมใช้แผนทรมานตัวเอง ยอมไม่รับตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไป แต่ก็คว้าน้ำเหลวหมด...เฮ้อ  
ส่วนย่าพระเอกก็เจ้าเล่ห์เห็นแก่ตัวรู้มาตลอดว่านางเอกเป็นลุกอนุ 
แต่ก็อยากเก็บคนเขาไว้ จะแบบไหนก็ได้ แต่ให้ไปจากตระกูลเซียวไม่ได้เด็ดขาด 
จะเก็บเอาไว้ตามคำทำนายของพระที่บอกว่านางเอกนั้นเป็นดาวอุปถัมป์
เป็นดาวนำโชคของตระกูล ...

แต่พอมาถึงเล่ม 5 ผ่านไปไม่กี่หน้าปรากฏว่าได้หย่าแล้วจ้า ...เอ้าเฮ!!!  
เมื่อความลับเรื่องร้านยากับตัวตนที่แท้จริงของนางเอกถูกเปิดเผย 
พระเอกก็ยอมเขียนหนังสือหย่าให้อย่างรวดเร็วด้วยความรวดร้าวทันที 
ท่ามกลางมรสุมคลื่นลมมากมายที่กำลังโหมซัดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการป่วยของตัวเอง 
การแย่งชิงบัลลังก์ของรัชทายาทที่ถูกดึงให้เข้าไปเกี่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ 
แล้วไหนจะเรื่องโรคระบาด เรื่องอาการป่วยของไทเฮาอีก บลาๆ 
เยอะจนไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถเคลียร์ได้หมดและจบภายในเล่มเดียว 
( แล้วทำไมทีกับหนังสือหย่าใบเดียวมันถึงได้นานขนาดนั้น ..ห๊า 55+ ) 
แน่นอนว่ากว่าจะจบพระเอกก็สะบักสะบอมถูกแทงไปหลายแผลแล้ว 
เพราะฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการบัลลังก์นั้นก็กัดไม่ปล่อยซะเหลือเกิน  
ถึงตระกูลพระเอกจะเป็นตระกูลชั้นสูงมีเงินทองร่ำรวยยังไงแต่ก็เป็นแค่พ่อค้า 
พอมาเจอกับอีกฝ่ายที่เป็นเชื้อพระวงศ์มีอำนาจเต็มเปี่ยม ก็เลยเล่นเอาเกือบตายอยู่เหมือนกัน

ส่วนนางเอกหลังจากหย่าแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆ รักพระเอกมากเหมือนกัน ลืมไม่ได้ 
คิดถึงเขา ( แล้วที่ผ่านมาคืออีหยังฟะ 55 ) 
พอออกมาชีวิตก็ใช่ว่าจะสุขสบาย เพราะยังมีอุปสรรคอีกมากมายรอคุณอยู่ 
เนื่องจากเกิดโรคระบาดฮ่องเต้จึงมีพระราชโองการให้เซียนปรุงยาเดินทางเพื่อไปรักษาโรค  
แล้วไหนจะอาการป่วยของไทเฮาที่ยังไม่หาย อีกฝั่งก็เลยต้องการตัวเซียนปรุงยาเหมือนกัน 
แบบป๊อปปูล่ามากมีแต่คนอยากได้ตัว แต่เพราะเป็นสตรีนางเอกจึงไม่อาจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้ 
ต่อให้ถูกจับถูกคาดคั้นยังไงก็ต้องปฏิเสธว่าตัวเองไม่ใช่เซียนปรุงยา (ไม่งั้นตายสถานเดียว) 
ก็เลยต้องรักษาแบบหลบๆ ซ่อนๆ ต่อไป ...
จนกระทั่งจบเรื่องนอกจากบ้านพระเอกกับฝั่งรัชทายาท+ฮ่องเต้แล้ว 
นอกนั้นก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่านางเอกคือเซียนปรุงยา โฮะๆ

อ่านจบแล้วส่วนตัวคือชอบเล่ม 1-3 ที่สุด หลังจากนั้นคือเริ่มวนอยู่แต่กับเรื่องจะหย่าไม่หย่า 
แถมมีอะไรก็ไม่พูดจาชอบมโนคิดกันไปเอง คือเข้าใจว่าทั้งสองคนต่างก็ทำเพื่ออีกฝ่ายนี่แหละ 
นางเอกไม่อยากให้พระเอกกลายเป็นลูกอกตัญญู และไม่อยากอยู่ในบ้านที่มีกฎแบบนี้เลยเลือกที่จะไป ส่วนพระเอกก็พยายามหาทางออกให้กับทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายมันก็ไม่ตอบโจทย์ใครเลย 
ไม่ว่าจะทางไหนก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น ...
จะว่าไปคนที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องนี้อาจจะเป็นพระเอกก็ได้นะ
เพราะต้องถูกขนาบอยู่ตรงกลาง นั่นก็พ่อแม่นี่ก็เมีย เฮ้อออ ... 
และแน่นอนว่าพอนางเอกออกจากบ้านไปมันก็มีเรื่องตามมาอีกเยอะแยะ 
เดี๋ยวคนหนึ่งถูกจับ เดี๋ยวอีกคนป่วย เดี๋ยวคนหนึ่งเกิดเรื่อง เดี๋ยวที่บ้านอีกคนก็มีเรื่อง 
แล้วต่างคนก็ต่างหาทางช่วยกันไปมา สุดท้ายก็ต้องมาวนเวียนพัวพันกันอยู่แบบเนี่ย 
แล้วจะตัดขาดกันได้ยังไง มีแต่จะยิ่งเพิ่มพูนล่ะสิไม่ว่า ...  
แต่ไอ้กฏตระกูลก็ยังตามมาหลอกหลอนทำให้ไม่ได้ลงเอยกันสักที  
แล้วแบบ...ไม่มีใครทำอะไรกับไอ้กฎตระกูลนี้ได้เลยนะ 
ไม่มีใครกล้าแตะหรือเปลี่ยนแปลงกฎตระกูลข้อนี้เลยเว้ยเฮ้ยยย .. what!!  
ก็ได้แต่รอกันไปเรื่อยๆ (อะไรของพวกเอ็ง) ... ดีนะที่สุดท้ายรัชทายาทเข้ามายุ่ง
ทุกอย่างเลยคลี่คลาย  ไม่งั้นแบบนี้รอไปจนแก่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกจ้า 55+

ส่วนตัวร้ายก็แค่มาช่วยเพิ่มอุปสรรคให้พระ-นางเฉยๆ เพราะนี่คือนิยายรัก 
ดังนั้นอย่าไปหวังว่าตัวร้ายจะเก่งมากหรือฉลาดเป็นกรด  
เรื่องการเมืองแย่งชิงบัลลังก์ก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนมาช่วยยืดเรื่องให้ดูมีซัมติงยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่เนื้อเรื่องก็ไปโฟกัสอยู่ที่อุปสรรคความรักของพระ-นาง 
เรื่องในบ้านพระเอกและการก่อร่างสร้างตัวขยายกิจการร้านยาของนางเอกนั่นแหละจ้า 55 ...


ปล. สาวใช้ในเรื่องก็ไม่ค่อยเหมือนสาวใช้ ชอบพูดแทรกต่อปากต่อคำ ชักสีหน้า+ทำหน้าบึ้งใส่คนที่มีฐานะสูงกว่า แถมยังชอบคิดแทนลงมือทำโดยไม่ขออนุญาตเจ้านายก่อนอีก 
.. ..สรุปนี่สาวใช้หรือเจ้านายจ๊าาา 55+