วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หงส์คืนจันทร์



หงส์คืนจันทร์ เล่มเดียวจบ  / ผู้แต่ง : เยวี่ยหวาส่าหรง
ผู้แปล : Heroine
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
นางคือหงส์เหนือใครในแผ่นดิน...
แต่ชั่วข้ามคืนกลับกลายเป็นเพียงอี๋เหนียงรองของบุรุษขี้โรคผู้หนึ่ง...

เมื่อหกปีก่อน ‘เซิ่งเสวี่ย’ จำต้องละทิ้งคนรัก ละทิ้งตัวตนเดิม
แล้วสวมรอยเป็นพี่สาวคอยเลี้ยงดูยุวกษัตริย์ ให้เขาได้นั่งบนบัลลังก์มังกร
แต่ก็ยังไม่แคล้วถูกคนก่อกบฎ นางจึงนำลัญจกรหยกและตราหงส์หนีออกมา
เพื่อไม่ให้ ‘ตงเยวี่ยอ๋อง’สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้ได้สมปรารถนา!

ทว่า เพียงเพราะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวที่หนีไปของผู้อื่น
นางก็กลายเป็นเจ้าสาวปัดเป่าเคราะห์ให้กับเจ้าบ่าวขี้โรค ‘หวาอวิ้นเฟิง’
เพียงพบกันวันแรกอาการเลือดพร่องของเขาก็กำเริบเสียแล้ว
ทั้งมารดาของเขายังสั่งให้นางห้ามเหยียบย่างออกจากเรือนไม่ต่างจากหญิงหม้าย!

ยิ่งอยู่ในคฤหาสน์สกุลหวานานวันเข้านางก็ยิ่งค้นพบความลับมากมาย
ทั้งผู้คนที่มากเล่ห์ การแก่งแย่งชิงดี การลอบทำร้าย และเส้นทางลับ
หรือว่านางยังไม่ทันได้กลับเข้าวังก็ต้องเอาชีวิตตนเองมาทิ้งไว้ที่นี่แล้วกันแน่!
















ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
            เซิ่งเสวี่ย นางเอกของเรื่องต้องเข้าวังและกลายมาเป็นไทเฮาตั้งแต่อายุยังน้อย
เพื่อดูแลลูกชายของพี่สาวที่ด่วนจากไป    และเมื่อตงเยวี่ยอ๋องก่อกบฏนางจึงต้องหนีออกนอกวัง
พร้อมกับนำลัญจกรหยกและตราหงส์ติดตัวมาด้วย    
แต่หนีไปหนีมาอีท่าไหนก็ไม่รู้ถึงได้กลายมาเป็นอนุของพ่อค้าขี้โรค หวาอวิ๋นเฟิง ซะได้

อ่านเรื่องนี้จบแล้วก็ต้องกลับไปอ่านคำโปรยที่เคยลงเอาไว้ใหม่อีกรอบ 
แล้วก็นึกในใจว่านี่มันเรื่องเดียวกันเปล่าว๊า 
** เรื่องราวความรัก ความแค้นของเหล่าสตรี ความเข้มข้นในรั้ววัง! *** 
อะไรคือความเข้มข้นในรั้ววัง อะไรคือความแค้นของเหล่าสตรี ไหนๆ อยู่ไหน คุณหลอกดาวววว 
( กระซิกๆ ๆ )  เหตุการณ์ในเรื่องส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านที่นางเอกหลงไปเป็นอนุ  
มีตอนอยู่ในวังหน่อยนึงแค่ต้นเรื่องกับตอนท้าย  ไอ้ความแค้นของเหล่าสตรีที่เราคิดว่าต้องเกี่ยวกับสนมนางในที่อยู่ในวังหลังแน่ๆ  แต่เอาจริงๆ ไม่ใช่นะฮ้าเป็นบรรดาเมียๆ ที่อยู่ในบ้านของพระเอกต่างหากฮ่ะ 
            ใครที่หวังจะได้อ่านเรื่องการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเรื่องราวในรั้วในวังอันนี้ไม่มีนะฮ้าๆ ๆ ๆ    
เปิดเรื่องมาปมดูใหญ่มาก  นางเอกดูเก่งดูฉลาดมากอายุแค่นี้ก็ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้
ให้ดูแลรัชทายาทน้อยแล้ว  แต่พอเข้าไปอยู่บ้านพระเอกสกิลทักษะต่างๆ ที่เคยโม้ไว้ก็ดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด  ถ้าไม่คอยย้ำเป็นระยะๆ ว่านางเป็นถึงไทเฮาก็เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย  
ส่วนไอเรื่องที่ต้องเอาตราหงส์หรือลัญจกรหยกไปขอความช่วยเหลือ 
เพื่อกลับมาปราบกบฏนี่ก็กลายเป็นเรื่องรองไปเลยจ้า 55+....

มันเหมือนมากกว่ารักเล่มบางที่เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นมาหน่อยนึง  
แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เจ้มจ้นอะไรเลย  พระเอกก็ใช้ได้คุ้มมาก คนเดียวเหมามันทุกบท....
ทั้งที่จริงๆ ตำแหน่งพี่แกก็สูงอยู่นะ 
แต่ทำไมแลดูเหมือนมีเวลาว่างมากมาย 55+ ...
สรุปคือมันเป็นเรื่องของคนรักเก่าที่มาทวงของคืนน่ะจ้าไม่มีไรมาก 
เอาไว้อ่านคลายเครียดแก้ขัด  สบายๆ  อย่าได้จริงจังไป........จบ


วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ 4 เล่มจบ


ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ 4 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : จวงจวง
สำนักพิมพ์ Hongsamut

คำโปรยหลังปก

ในยุคที่ผ้าไหมมีค่ามากกว่าทอง
ใครมีความสามารถในการผสมสีและทอผ้า
คือบุคคลที่ใต้หล้าช่วงชิงกันมากที่สุด

ทว่าน่าเสียดาย ...

เด็กสาวที่เติบโตมาพร้อมกับอัจฉริยะภาพด้านการผสมสีอย่าง "จี้อิงอิง"
กลับไม่ได้รับโอกาสได้ต่อยอดสิ่งที่นับเป็นพรสวรรค์อันล้ำเลิศของตน 
นางเป็นบุตรสาวของโรงย้อมผ้าเล็กๆ ที่แสนจะเคร่งครัดในระเบียบประเพณี
โรงย้อมผ้าที่สืบทอดสูตรลับของผ้าไหมหายากสีหนึ่งมานานบร้อยปี

จากรุ่นสู่รุ่น  จากบุตรชายสู่บุตรชาย ...


กฏของบ้านมีอยู่ว่า  สูตรลับร้อยปีนี้จะสืบทอดเฉพาะทายาทชายเท่านั้น

มิยอมให้ตกแก่บุตรสาว  เพราะบุตรสาวเป็นเพียงคนนอกที่วันหนึ่งต้องแต่งออก
สูตรลับร้อยปีนี้สามารถส่งต่อไปยังสะใภ้ได้แต่ไม่อาจถ่ายทอดให้แก่ลูกเขย
เพราะลูกเขยเป็นเพียงคนนอกที่ถูกแต่งเข้า
ดังนั้น  นางจึงถูกห้ามเรียนรู้ รับรู้  หรือแม้กระทั่งก้าวเท้าเข้าไปในโรงทอผ้าของตระกูลตัวเอง

แต่ชะตากรรมของคนเรา  ฟ้าลิขิตเอาไว้แล้ว...เพชรก็คือเพชร

ต่อให้เอาโคลนทั้งหีบมาสาดใส่ ก็ยังเปล่งประกายเจิดจ้าอยู่วันยังค่ำ
ใต้หล้านี้จะหาใครมากลบรัศมีของเพชรแท้ได้หรอกหรือ?

 ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )

นางเอก จี้อิงอิง บุตรสาวคนรองของบ้านตระกูลจี้ ซึ่งเป็นตระกูลที่ทำกิจการโรงย้อมผ้า ตระกูลจี้มีสูตรลับประจำตระกูล แต่น่าเสียดายที่สูตรนี้จะตกทอดแก่บุตรชายและลูกสะใภ้เท่านั้น แม้นางเอกจะฉลาดเฉลียวมีความสามารถมากกว่าพี่ชายสักแค่ไหน แต่เพราะว่าเป็นลูกสาว จึงทำให้ไม่อาจเรียนรู้สูตรลับนี้ของตระกูลได้อยู่ดี 

นางเอกมีคนรักที่ผูกพันกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ แต่เพราะความแตกต่างของฐานะ จึงทำให้เขากับนางไม่อาจครองคู่อยู่ร่วมกันได้ นางเอกเสียใจมากแต่ก็เข้าใจเหตุผล จึงไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองและยอมตัดใจแต่โดยดี ทว่าอีกฝ่ายกลับดึงดันไม่ยอมเลิกรา จากคุณชายใสๆ สุภาพอ่อนโยน จึงกลายมาเป็นคุณชายขี้วีนโมโหร้ายและเจ้าคิดเจ้าแค้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ถึงนางเอกจะไม่ได้รับการถ่ายทอดสูตรลับของตระกูล แต่นางก็มีความสามารถในการผสมสี รวมถึงการแยกแยะสีที่ไม่ธรรมดา แต่ความสามารถที่ไม่ธรรมดานี้กลับชักนำเรื่องไม่ดีต่างๆ มากมายให้เข้ามาสู่ตัวนางและคนในครอบครัว ทำให้นางเอกเป็นที่ต้องการตัวของใครหลายๆ คน จนทำให้ที่บ้านเดือนร้อน ทำให้คนรอบข้างมีภัย กระทั่งตัวนางเองก็เกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งอยู่หลายครา...

พระเอกเรื่องนี้ก็มาจากตระกูลพ่อค้าเหมือนกัน แต่เพราะเป็นลูกอนุเลยถูกเลี้ยงดูมาแบบสปอยล์ตามใจ เพื่อไม่ให้สามารถสืบทอดกิจการของที่บ้าน หรือเก่งจนกลายมาเป็นคู่แข่งกับลูกเมียหลวงได้  ช่วงแรกพระเอกเลยดูเหมือนคุณชายเจ้าสำราญ ไม่เอาไหน ใจร้อน เวลานางเอกเกิดเรื่องอะไรก็ช่วยไม่ค่อยได้และมาไม่เคยทัน ผิดกับพระรองที่โตกว่าและมีฐานะสูงกว่า เวลานางเอกเกิดเรื่องก็เป็นพี่แกนี่แหละที่โผล่มาช่วยไว้ได้เกือบทุกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ต่อให้ดีแค่ไหนแต่บทก็ไม่มีทางพลิก เพราะเรื่องนี้พระรองทำเรื่องเลวร้ายกับบ้านนางเอกเอาไว้เยอะ คู่นี้เลยเหมือนถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าต้องไร้วาสนาไม่มีทางลงเอยกันได้อย่างแน่นอน

เรื่องราวในเรื่องจะเกี่ยวข้องกับการทอผ้าไหม ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ต้องมีเรื่องผ้าไหมเข้ามาเกี่ยวข้อง กระทั่งเหตุผลที่แคว้นอื่นยกทัพมาทำสงครามก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องนี้เลย เพราะนี่คือยุคสมัยที่ผ้าไหมมีค่ามากกว่าทองคำ

ในเรื่องนี้เห็นได้ชัดอยู่อย่างคือ...ต่อให้คุณค้าขายจนร่ำรวยมีเงินทองมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่ใช่ขุนนางหรือไม่มีญาติพี่น้องที่เป็นขุนนางคอยเป็นแบ็กอัพอยู่เบื้องหลัง..คุณก็จะถูกดูหมิ่นเหยียดหยามอยู่วันยังค่ำ(เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพระเอกส่วนใหญ่ถึงมักเป็นฮ่องเต้ เป็นอ๋องหรือเป็นแม่ทัพกัน)..เพราะในสมัยโบราณอาชีพพ่อค้าถือเป็นอาชีพที่มีศักดิ์ศรีน้อยที่สุดในบรรดาทั้ง 4 ชนชั้นเลย...  

เรื่องนี้สำหรับเราอ่านได้เรื่อยๆ นะคะ  ใน 2 เล่มแรกจะเป็นช่วงที่พระ-นางได้พบเจอเรื่องราวและมรสุมในชีวิตมากมายที่ทำให้เติบโต จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาตลอด แต่อยู่ดีๆ ทุกอย่างก็มาพลิกกลับในชั่วข้ามคืน พระเอกยังไม่เท่าไร แต่นางเอกนี่สาหัสมาก ตั้งแต่เลิกกับคนรักเก่ากราฟชีวิตก็ดิ่งลงเหวเจอแต่เรื่องร้ายๆ ตลอด กว่าจะผ่านแต่ละเรื่องไปได้ก็แทบจะกระอักเลือดตาย เพราะพระเอกก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ด้วย55+ ถึงต่อมาจะเก่งขึ้นแต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ค่อยได้อยู่ดี 55 (ถูกพระรองแย่งบทเจ้าชายขี่ม้าขาวไปบ่อยมาก)
พอมาถึง 2 เล่มสุดท้ายที่เข้าสู่ช่วงสงคราม หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย นางเอกก็เริ่มคิดและมองเห็นอะไรเยอะขึ้น แต่น่าเศร้าที่พี่ชายและแม่ของนางกลับไม่ได้ฉลาดขึ้นสักเท่าไรเลย ยังคงมองโลกในแง่ดี ประหนึ่งว่าโลกนี้คงไม่มีเรื่องเลวร้ายใดๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ได้เจอเรื่องคอขาดบาดตายกันมาตั้งขนาดนั้นแล้ว
ก็น่าจะคิดได้และมีเซ้นท์กันบ้าง 
แต่นี่อะไรยังคิดจะใช้ชีวิตชิวๆ กันต่อไป 
สุดท้ายเป็นไงล่ะแม่...เฮ้อออ



วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

อาจารย์ ..เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน 4 เล่มจบ


อาจารย์ ..เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน 4 เล่มจบ / ผู้แต่ง : Na Zhi Hu Li
ผู้แปล : กู่ฉิน
สำนักพิมพ์ Happy Banana

คำโปรยหลังปก

เสียวเสี่ยวพาเวินซู่ที่บาดเจ็บสาหัสมุ่งหน้าไปตระกูลเสินหนงเพื่อขอรับการรักษา
ทว่าผู้นำตระกูลเสินหนงกลับเปลี่ยนมือเสียแล้ว  
เสียวเสี่ยวใช้ประโยชน์จากเหลียนเจาพาคนทั้งหมดหนีรอด
แต่ก็ทำร้ายจิตใจของเขา  ทำให้เส้นทางรักของเสี่ยวเสี่ยวขรุขระขึ้นทุกที

ขณะเดียวกันพวกอิ๋นเซียวตัดสินใจหลอกล่อสือมี่มาสังหาร
สกุลเหลียนซึ่งรับพระบัญชาให้ร่วมมือกับสำนักเสินเซียวย่อมถูกม้วนเข้าสู่เรื่องนี้
เสียวเสี่ยวที่ถูกกระหนาบอยู่ตรงกลางต้องลำบากใจทั้งชึ้นทั้งล่อง
ท่ามกลางเหตุการณ์ชุลมุน ทุกคนพบว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนร้ายของเว่ยฉี่ เพื่อชิงเก้าราชาเทพศาตรา
ขณะเดียวกันเว่ยฉี่ก็ใช้อุบสยขนได้ขึ้นเป็นเจ้าป้อมผู้กล้า
ไม่เพียงบีบให้สือเล่อเอ๋อร์เจ้าเมืองไท่ผิงแต่งงานกับตน
ยังจับมือกับเวินจิ้งทำลายสำนักต่างๆ หมายช่วงชิงเก้าราชาเทพศาตราที่เหลือ

เผชิยหน้ากับสถานการณ์ที่พลิกผันในชั่วข้ามคืน คนทั้งหมดตัดสินใจเป็นพันธมิตรกัน
ทว่าการหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่สามารถทำให้ทุกคนยอมไว้หน้าสามส่วน
ยามนี้คงมีเพียงคนผู้เดียว ...

เสียวเสี่ยวมองแล้วมองอีก คิดแล้วคิดอีก  ในที่สุดก้เข้าใจเหตุผลข้อหนึ่ง ...
ที่แท้การเป็นประมุขยุทธภาพมิใช้อาศัยวรยุทธ์หรือสติปัญญา
ทว่าต้อง ... อาศัยเส้นสาย!

รีวิว  อาจารย์ ..เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน เล่ม 1
http://marynlinsbook.blogspot.com/2017/11/1.html

รีวิว  อาจารย์ ..เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน เล่ม 2
http://marynlinsbook.blogspot.com/2018/02/2.html


ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )


มาถึงสองเล่มสุดท้ายขอบอกเลยว่าสนุกมาก  อะไรจริงอะไรเท็จก็จะค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็นกันตั้งแต่เล่ม 3 นี่แหละ..อ่านแล้วไม่เบื่อเลย ถึงตัวละครจะเยอะแต่ก็จัดสรรบทได้อย่างคุ้มค่าทุกตัว  
นักเขียนสามารถคลี่คลายปริศนาทุกอย่างออกมาได้อย่างหมดจดและลงตัวในเล่มสุดท้ายพอดี  
ไม่มีการรวบรัดตัดตอนหรือรีบยัดทุกอย่างออกมาตู้มเดียว เพื่อให้จบๆ ไป  
เพราะตลอดทางทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายออกมาเอง อย่างถูกจังหวะและเวลา

เพราะเรื่องของเก้าราชาเทพศาตราจึงทำให้นางเอกถูกหมายหัว ถูกตามล่าจากราชสำนัก  
และเมื่อสำนักเสินเซียวกับเทพธนูสกุลเหลียนร่วมมือกัน  
แล้วเด็กสาวที่มีแค่วรยุทธ์แมวสามขาอย่างนางจะทำอะไรได้นอกจากหนีๆ ๆ ๆ แล้วก็หนี  
แต่ไม่ว่าจะหนีไปทางไหน ก็มักจะมีคนให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด  
จนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน  
หลายๆ คนไม่ว่าจะแค้นเคืองกันมาแต่ชาติปางไหน แต่พอมาอยู่ตรงหน้านางเอก ก็จะยอมไว้หน้าลงให้กันแต่โดยดี  ...นี่จึงเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างของนางเอกเรื่องนี้ คือไม่ต้องมีวรยุทธ์สูงส่ง 
ไม่ต้องใช้กำลังหรือฉลาดเป็นกรด แต่ก็สามารถทำให้พวกตัวเก่งๆ ในยุทธภพสามัคคีปรองดองกันได้ 55+  

ตั้งแต่เล่ม 3 จะรู้สึกหน่วงอยู่หน่อยๆ เพราะความสัมพันธ์ที่กำลังไปได้ดีของพระ-นาง 
ต้องมีอันมาหยุดชะงักเนื่องจากจุดยืนที่แตกต่างกัน 
และตัวนางเอกเองก็ไม่อาจทนปิดบังความจริงกับพระเอกได้อีกต่อไป  
...นางก็แค่อยากจะล่อลวงคุณชายดีๆ ที่มีชาติตระกูลดีงามสักคน  
เผื่อภายภาคหน้าจะได้มีกินมีใช้ ได้กินฟรีดื่มฟรีกับเขาบ้าง ... 
แต่จนใจที่คุณชายคนนี้กลับดีงามเหลือเกินนนนน 
จนทำให้นางไม่อาจหลอกลวงเขาได้อีกต่อไปแล้ว ...เฮ้อ 

ส่วนพระเอกก็แน่นอนว่าเป็นคนที่เราเล็งไว้ ( ดีใจจริงๆ ที่ลงเรือไม่ผิดลำ 55+ ) ... 
2 เล่มแรกพระเอกจะยังไม่ค่อยเก่ง แต่พอเล่ม 3 พี่แกก็จะเก่งแบบก้าวกระโดดทันที 
( เพราะอะไรต้องลองไปอ่านน๊า ) ตอนแรกเรายังกังวล กลัวว่าพี่แกจะปกป้องนางเอกไม่ได้
เพราะนางเอกเหมือนตัวซวยอ่ะ ไปที่ไหนก็มีแต่เรื่อง แถมวรยุทธ์ก็ไม่ดี 
ถ้าพระเอกไม่เก่งคงแย่เลย  ...แต่พี่แกก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ในที่สุดออร่าพระเอกก็เปล่งประกาย  
ถึงจะไม่ได้เก่งที่สุดแบบยอดคน เพราะในเรื่องยังมีคนที่เก่งกว่า 
แต่เมื่อรวมกับนิสัยที่หนักแน่นมั่นคง จิตใจแน่วแน่ที่ไม่เคยไม่โลเลในจุดยืน รวมถึงหลายๆ อย่าง  
ก็สมแล้วที่นางเอกจะมีใจให้  
แม้จะมีใครอีกหลายคนที่เก่งกว่า และดูจะเข้ากันได้ดีกับนิสัยรักอิสรเสรีของนาง  
แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้นางเอกรู้สึกอบอุ่นใจและเชื่อใจได้มากเท่ากับพระเอกเลย 
พระเอกเรื่องนี้เป็นคนที่ดีงามทั้งภายนอกและภายในจริงๆ  ปรบมือให้เลย.... แปะๆ ๆ

ในเล่มสุดท้ายนี้เราจะได้รู้ความลับของเก้าราชาเทพศาตรา และเบื้องหลังต่างๆ รวมถึงที่ไปที่มา
ในการกระทำของแต่ละคน  มีทั้งสุข เศร้า ซึ้ง หดหู่ใจ คละเคล้ากันไปตามแต่ละเรื่องราว 
...บางคนก็โชคดีที่ยังกลับตัวได้  แต่บางคนก็ฉุดไม่อยู่แล้ว ก็รับกรรมกันไปนะจ๊ะ...จบ

..........................................................................................................

        ' เสียวเสี่ยวดิ้นไม่หลุด  เงาหลังของเหลียนเจาที่อยู่เบื้องหน้าพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา  
ชั่วขณะนั้น  ทุกภาพเหตุการณ์ในอดีตพลันประดังขึ้นมาในคราวเดียว
ยามแรกพบหน้าโรงเตี๊ยม  ... ฉากชวนหัวยามที่นางร่วงจากหลังคาลงมาในห้องของเขา
...ในคฤหาสน์จีอวี่ นางกับเขาเป็นคนรับใช้และบุกตะลุยตำหนักใต้ดินด้วยกัน
 ..ในจวนสกุลเหลียน  เขาอุ้มแมวถามนางว่าชอบกินอะไร 
... บนทะเลตงไห่  เขานำทัพมาเพียงเพื่อปล่อยให้นางหนีไป  
ทั้งหมดนี้แจ่มชัดราวกับปรากฏอยู่ตรงหน้า  เร่งเร้าหัวใจของนางประดุจมีดกรีดเฉือน ...... '