วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

จิ่วฉงจื่อ 8 เล่มจบ

 


จิ่วฉงจื่อ 8 เล่มจบ
ผู้แต่ง : จือจือ
ผู้แปล : ยูมิน
สำนักพิมพ์ Princess

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

งานของท่านจือจือไม่ผิดหวังจริงๆ เรื่องนี้ญาติเยอะมากกก ทั้งฝั่งนางเอก ฝั่งพระเอก ฝั่งญาติที่เกี่ยวดอง เยอะแยะมากมายแต่ก็สนุกมากก

นางเอก โต้วเจา คุณหนูสี่สกุลโต้วที่ตายแล้วได้ย้อนกลับมาอยู่ในร่างตัวเองเมื่อตอนสมัยเด็ก ชาติก่อนพ่อมีเมียใหม่ แม่ก็ตาย นางเอกเลยถูกส่งไปให้ย่าเลี้ยงที่หมู่บ้านชาวนา พอโตถึงได้กลับมาอยู่กับพ่อ ทว่านางเอกก็ไม่เคยรู้สึกว่าที่นั่นเป็นบ้านเลย พี่น้องคนละแม่รังเกียจดูถูก ตัวแม่เลี้ยงก็ไม่ชอบและอยากจะแย่งการแต่งงานของนางเอกไปให้บุตรสาวของตัวเอง แต่สุดท้ายนางเอกก็ได้แต่งงานกับคู่หมั้นคู่หมายที่แม่แท้ๆ เคยจัดเตรียมไว้ให้สำเร็จจนได้ แต่พอแต่งไปก็เหนื่อยอีก เพราะสามีไม่เอาไหน ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีแต่บรรดาศักดิ์ทว่าข้างในกลับกลวงโบ๋ แม่สามีก็หัวอ่อน ทั้งบ้านเชื่อฟังแต่ลูกสาวคนโตที่แต่งงานออกไปแล้ว แม้ในที่สุดนางเอกจะได้อำนาจในการดูแลจวนกลับคืนมาและเขี่ยพี่สาวสามีออกไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่ลูกเต้าหมางเมินไม่สนิทสนมด้วย เพราะงานเยอะเลยทำให้ไม่มีเวลาดูแลลูก ปั๋วก็ลอยชายกินบุญเก่าไปวันๆ ลูกก็เลยหันไปสนิทกับแม่นมแทน นี่จึงกลายเป็นปมในใจนางเอก พอได้ย้อนกลับมาใหม่และแต่งงานมีลูกอีก คราวนี้นางเอกเลยขอเลี้ยงลูก+ให้นมลูกเอง

ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้นางเอกจะรู้เหตุการณ์หลายๆ อย่างล่วงหน้าแต่ก็ใช่ว่าจะเข้าไปยุ่งหรือเปลี่ยนแปลงได้ทุกเรื่องนะ หลายๆ เรื่องก็ยังคงเกิดขึ้นเหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะไม่ได้แย่หรือดีเหมือนในชาติที่แล้ว ...อย่างเช่นการตายของแม่ นางเอกพยายามแล้วแต่ด้วยความที่ยังเด็กมาก บวกกับนิสัยท่านแม่ ผลสุดท้ายจึงไม่อาจยับยั้งได้ แต่นางเอกก็ไม่ได้ถูกส่งไปที่หมู่บ้านชาวนาอีก และได้รู้ว่าจริงๆ ลุงกับป้า(ญาติฝั่งแม่)รักและห่วงตัวเองมากขนาดไหน ไม่ต้องเข้าใจผิดและเหินห่างกันเหมือนในชาติก่อนอีก แถมชาตินี้อนุพ่อนางเอกก็ไม่ได้ถูกยกขึ้นเป็นภรรยาเอกง่ายๆ และไม่ได้มีลูกชายด้วย 

หลังแม่นางเอกตาย พ่อก็รู้สึกผิดมากกกกเลยไม่ยุ่งกับอนุอีก แม้ตอนหลังบ้านอนุจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งแต่พ่อก็ไม่ได้คิดจะยกนางขึ้นเป็นภรรยาเอก แต่เสนอให้เลิกกัน ให้นางกลับบ้านและแต่งงานใหม่เสีย ส่วนลูกที่เกิดมาพ่อนางเอกจะเลี้ยงเอง แต่อนุไม่ยอม ฝั่งพี่สะใภ้อนุก็มาปลุกปั่นต่อว่าก่อกวนไปจนถึงบ้านผู้หญิงที่พ่อนางเอกจะแต่งงานใหม่ด้วย แล้วบวกกับเจอเรื่องการเมืองบีบเพราะพ่ออนุดันได้คืนตำแหน่ง(ตอนแรกถูกลงโทษปลดและเนรเทศ) สุดท้ายก็เลยต้องยกอนุขึ้นเป็นภรรยาเอกแทน แต่พ่อก็บอกก่อนว่าถ้าจะเป็นก็ให้ได้แค่ฐานะและอยู่แบบให้เกียรติกันเท่านั้นนะ ...ส่วนนางเอกก็ถูกส่งไปอยู่ที่สกุลโต้วฝั่งตะวันออก ให้ป้าสะใภ้หกและสตรีที่นั่นดูแล ป้าสะใภ้ก็รักและเอ็นดูนางเอกเหมือนลูกแท้ๆ ชาตินี้นางเอกเลยสนิทสนมกับป้าสะใภ้หกที่สุด

แต่ก่อนที่พ่อนางเอกจะแต่งภรรยาเอกใหม่ได้ ตามกฏหมายคือต้องได้รับหนังสือยินยอมจากบ้านฝั่งภรรยาคนเก่าก่อน ลุงนางเอก(พี่ชายแม่)เลยทำข้อตกลงว่าถ้าจะแต่งใหม่ก็ต้องยกทรัพย์สินของตระกูลโต้วฝั่งตะวันตกให้นางเอกก่อนครึ่งหนึ่ง และห้ามตระกูลโต้วกับตระกูลแม่เลี้ยงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของนางเอก ตอนแรกพ่อของแม่เลี้ยงเสนอว่าจะช่วยลุงนางเอกเรื่องหน้าที่การงานแลกกับเรื่องให้ลูกสาวได้ขึ้นเป็นภรรยาเอก แต่ลุงนางเอกไม่เอา วางแผนจะเอานางเอกไปเลี้ยงเองด้วยซ้ำ แต่ฝั่งพ่อนางเอกไม่ยอม ส่วนนางเอกก็ไม่ไปแต่จะขออยู่สู้เผชิญหน้าเพื่อรักษาสิ่งของของแม่และสิทธิ์ที่ตัวเองควรจะได้รับอยู่ที่นี่

พอเริ่มโต นางเอกก็ไปตามหาคนรับใช้ที่เคยติดตามรับใช้ตนเมื่อชาติที่แล้วกลับมาคืนทีละคน เริ่มสะสมกำลังของตัวเอง เพราะนางเอกมีเงินเยอะ แม้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งในตอนนี้ญาติจะดูแลให้อยู่ แต่ก็ยังได้เบี้ยรายเดือนและมีเงินใช้เยอะกว่าหลายๆ คนอยู่ดี เพราะเรื่องทรัพย์สินนี่แหละเลยทำให้มีคนหมายตาอยากได้นางเอกไปเป็นภรรยา ส่วนคนสกุลโต้วฝั่งตะวันออกแม้จะเคยรับปากไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับการแต่งงานของนางเอกแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ตัวดีเลย ซึ่งนางเอกก็รู้แหละ เลยวางแผนหาทางหลบหลีกแบบเนียนๆ โดยไม่ให้ใครรู้มาตลอด... ชาตินี้นางเอกเสน่ห์แรงมากมีแต่คนมาชอบ ตอนแรกก็เกือบจะโดนคนวางแผนมัดมือชกให้แต่งเพราะหวังทรัพย์สิน แต่ชาตินี้นางเอกไม่ใช่สาวน้อยแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะ เลยมีสติรับมือวางแผนโต้กลับได้อย่างเฉียบ คนทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ญาติของแม่เลี้ยงนั่นแหละ...หึหึ หลังจากเหตุการณ์นี้นางเอกเลยจ้างผู้คุ้มกันของตัวเองเอาไว้เลยจ้า หาคนของตัวเองไว้ใช้งาน ทั้งสาวใช้ เถ้าแก่ร้าน ที่ปรึกษา ผู้คุ้มกัน ค่อยๆ สร้างขุมกำลังของตัวเองขึ้นมา พอมีคนของตัวเองทีนี้จะทำอะไรก็สะดวกขึ้นเยอะ


พระเอก ซ่งโม่ ซื่อจื่อจวนอิงกั๋วกง... เป็นพระเอกที่น่าสงสารมากก หน้าตาดี เก่ง ฉลาด ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ชาติกำเนิดสูงส่ง มารดาก็มาจากตระกูลแม่ทัพเลื่องชื่อ เห็นแววดีมาตั้งแต่เด็ก ย่าเลยยกสินส่วนตัวของตัวเองทั้งหมดให้พระเอกที่เป็นหลาน(ข้ามหน้าข้ามตาพ่อที่เป็นลูกชายแท้ๆ เลย) ส่วนปู่ก็ทิ้งกำลังคนที่คัดสรรมาอย่างดีเอาไว้ให้เพื่อให้คอยช่วยเหลือหลานในยามที่ตนจากไป 

ชาติก่อนบ้านลุงพระเอก(พี่ชายแม่) ถูกใส่ร้าย ตระกูลฝั่งแม่ล่มสลายแทบไม่เหลือรอดสักคน หลังจากนั้นแม่พระเอกก็ตาย พระเอกก็โดนขับออกจากตระกูล ถูกทอดทิ้ง ต่อมาราชสำนักเกิดการเปลี่ยนแปลงมีการก่อกบฏ พระเอกเป็นคนลงมือสังหารรัชทายาท จากนั้นก็สังหารบิดาและน้องชายของตัวเองทิ้งโดยไม่ทราบสาเหตุ เลยทำให้ผู้คนหวาดกลัวในความอำมหิตนี้และพากันรุมประณามสาปส่งพระเอก... 

ชาติก่อนนางเอกเคยเจอพระเอกแค่ครั้งเดียวหลังจากแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ชาตินี้ได้มาเจอกันตอนนางเอก 14 พระเอก 13 ในหมู่บ้านชาวนาของนางเอก พระเอกมาด้วยเรื่องบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้ แต่ที่ปรึกษาของพระเอกดันจำที่ปรึกษาของนางเอกได้ก็เลยเป็นเรื่อง สองฝ่ายเกือบได้ปะทะกัน นางเอกอาศัยความทรงจำจากชาติก่อนจึงพอเดาได้ว่าพระเอกไปทำอะไรมา และรู้ว่าฝ่ายตัวเองต้องถูกเก็บเพื่อรักษาความลับแน่ๆ ก็เลยพยายามเอาตัวรอด หาทางเจรจาต่อรองกับพระเอกและแนะนำเรื่องบางอย่างกับพระเอกไป จนทำให้ตระกูลของลุงพระเอกไม่ต้องตายหมดเหมือนในชาติที่แล้วอีก พระเอกเลยเริ่มรู้สึกดีๆ กับนางเอก 

จนมาถึงตอนที่แม่พระเอกเสีย ตอนแรกนางเอกคิดว่าถ้าตระกูลลุงพระเอกไม่ล่มสลายเหมือนชาติก่อนแม่พระเอกก็คงไม่อาการป่วยทรุดจนจากไปอีก แต่สุดท้ายแม่พระเอกก็ยังไม่รอดเหมือนเดิม นางเอกเลยกังวลว่าชะตาชีวิตพระเอกจะวนลูปเดิม บวกกับมีคนของพระเอกส่งข่าวมาขอให้ช่วยพอดี นางเอกเลยรู้สึกทะแม่งๆ แบบมันต้องมีอะไรแน่ๆ ในเมื่อเรื่องบ้านลุงพระเอกจบไปแล้วแต่ทำไมคนของพระเอกยังถูกตามเก็บอีกล่ะ ก็เลยส่งคนของตัวเองไปดู ก็ไปเจอพระเอกในสภาพเกือบขิตถูกพ่อโบยแล้วจับขังเอาไว้ คือถ้านางเอกไม่ส่งคนไปดูแล้วช่วยออกมาพระเอกคงได้เดินซ้ำรอยเดิมแน่ๆ คือนางเอกรวมถึงที่ปรึกษาของนางเอกก็พากันตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าพ่อพระเอกจะทำแบบนี้กับพระเอกที่เป็นลูกแท้ๆ ไม่มีใครรู้สาเหตุเพราะคนที่รู้ตายหมดแล้ว พวกคนรับใช้เก่าแก่ก็ถูกอิพ่อกำจัดทิ้งหมด

 ...เป็นอีกปมหนึ่งที่ทำให้อยากรู้มากๆ ว่าทำไมพ่อพระเอกจู่ๆ ถึงได้เกลียดและอยากฆ่าพระเอกขนาดนั้น  เพราะขนาดเสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเองเลยแล้วพ่อพระเอกเรื่องนี้มันอาร๊ายยย ลูกดี+เก่ง+กตัญญูขนาดนี้ แถมลูกแท้ๆ ด้วยนะ จู่ๆ พลิกหน้ามือเป็นหลังเท้ายังกับศัตรูคู่แค้น คืออารายงงมากก ญาติๆ ฝั่งพ่อก็ไม่มีใครช่วยพูดสักคน พออิพ่อบอกจะเปิดศาลบรรพชนเพื่อขับพระเอกออกจากตระกูลก็พากันเงียบ พ่อพระเอกว่าไงก็ว่าตามนั้น ต่อมาพอพระเอกมีอำนาจได้ดีเลยไม่เอาญาติฝั่งพ่อสักคน ไม่จัดงานรวมญาติ ไม่ไปมาหาสู่อีก ...ไปมาหาสู่และช่วยแต่ญาติฝั่งนางเอกเท่านั้น

หลังรอดจากเหตุการณ์นี้มาได้พระเอกกับพ่อก็เป็นปรปักษ์กันอย่างชัดเจน ต่อหน้าคนนอกทำเหมือนไม่มีอะไรแต่ลับหลังอิพ่อก็พยายามสกัดหาทางเล่นงานลูกทุกทาง พระเอกก็เสียใจจนด้านชา พยายามตามสืบว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางทีเศร้าๆ กลุ้มใจก็แอบออกนอกเมืองมาขอพบนางเอกบ้าง แต่นางเอกไม่ค่อยอยากไปเจอ เพราะจำได้ว่าชาติก่อนพระเอกโหดขนาดไหนเลยไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก พระเอกก็แอบไปสืบเรื่องของนางเอกและคอยแอบช่วยเหลืออยู่เงียบๆ พอรู้ว่านางเอกมีคู่หมั้นแล้วก็ยังคิดจะสนับสนุนช่วยเหลือคู่หมั้นนางเอกให้เจริญก้าวหน้าอีก...

ใครชอบพราวพร่างบุปผาตระการหรือชอบงานของนักเขียนท่านนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้ จะเล่าตั้งแต่นางเอกเด็กๆ จนถึงวัยออกเรือนได้แต่งงานและกลายเป็นแม่คนเลย เป็นแนวหลังบ้านสายสัมพันธ์ต่างๆ มีเรื่องการเมืองและการก่อกบฏ แต่หลักๆ ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวสายสัมพันธ์ของคนในตระกูล ญาติพี่น้อง ญาติที่เกี่ยวดอง รวมถึงบ่าวไพร่และอีกมากมาย ตระกูลไหนหากพี่น้องรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวและมีคนเก่งๆ ก็พากันเจริญอยู่ยาว แม้จะมีคนไม่เอาไหนบ้างแต่ถ้าช่วยๆ กันประคับประคองกันไปยังไงก็รอด แต่มันต้องมีคนเก่งคนที่มองการณ์ไกลอ่านสถานการณ์ออกหรือคนที่เป็นผู้นำได้อยู่ในตระกูลด้วยนะ ไม่งั้นก็อาจจะล่มไม่เจริญก้าวหน้าเหมือนอย่างตระกูลคู่หมั้นเก่าของนางเอกอะ ได้แต่กินบุญเก่าสมบัติเก่าไปเรื่อยๆ

เพราะชาตินี้สามีเก่าไม่ได้แต่งกับนางเอกแล้วไง เลยไม่มีคนเก่งๆ มาดูแลบ้านและคอยหาเงินเข้าจวนให้ เมียที่แต่งในชาตินี้ก็เอาแต่ตามหึงหวงอย่างเดียวไม่สนใจอย่างอื่นเลย ตัวเองก็ไม่เอาไหนไม่แสวงหาหนทางก้าวหน้า สุดท้ายก็ค่อยๆ เสื่อมถอยกลายเป็นตระกูลตกอับอย่างแท้จริง ส่วนตระกูลแม่เลี้ยงนางเอกชาตินี้ก็ไม่ได้เจริญมากหรือมีอำนาจเหมือนในชาติก่อนอีก เพราะถูกลูกสาวหรือแม่เลี้ยงนางเอกถ่วงเอาไว้ เวลาคนพ่อจะได้เลื่อนตำแหน่งก็ถูกคนเอาเรื่องความประพฤติ+ชื่อเสียงของบุตรสาวหรือแม่เลี้ยงนางเอกมาสกัดไว้ ชาตินี้พ่อของแม่เลี้ยงเลยไม่ได้ย้ายกลับมาเมืองหลวงอีกเลย แถมแม่เลี้ยงก็สร้างเรื่องสร้างราวบ่อย ทำแต่เรื่องวิบัติจนถูกส่งกลับตระกูลเดิม ถูกตระกูลตัวเองต่อว่า+ชิงชัง แม่ที่เคยเข้าข้างก็เลิกเข้าข้าง ลูกสาวก็ทอดทิ้ง นางเอกไม่ต้องทำไรเลย นางทำตัวเองทั้งนั้น รวมถึงน้องสาวคนละแม่หรือลูกแม่เลี้ยงด้วย นึกว่านางจะเปลี่ยนได้เพราะชาตินี้ได้ไท่ฟูเหรินของตระกูลโต้วฝั่งตะวันออกเลี้ยงดูตอนเด็ก พอโตพ่อก็ส่งมาให้นางเอกซึ่งเป็นพี่สาวอบรมขัดเกลา แต่นางก็ยังเหมือนเก่า เอาแต่ใจ ขี้อิจฉาริษยา ชอบโวยวาย ชาติก่อนชีวิตนางดีกว่านางเอกตั้งเยอะ มีพ่อ แม่ น้องชายอยู่ข้างกายตั้งแต่เล็กจนโต แถมบ้านฝั่งแม่ก็มีอำนาจ แต่ชีวิตก็ยังล้มเหลว แล้วชาตินี้ไม่ได้มีเท่าในชาติก่อน แถมนิสัยยังมาเป็นแบบนี้... คือจะไปเหลือ เฮ้ออ

เล่ม 5 พระนางได้แต่งกันแล้ว พระเอกรู้ว่าพ่อไม่มีทางหาสตรีดีๆ มาให้ตัวเอง จะต้องหาคนหัวอ่อนควบคุมง่ายมาแน่ๆ ก็เลยวางแผนให้พ่อเข้าใจว่านางเอกเป็นคนไม่ดีถูกตระกูลทอดทิ้ง ไม่ถูกกับแม่เลี้ยง ไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ จนพ่อหลงกลแล้วไปสู่ขอให้55 แต่พอเห็นขบวนสินสอดกับญาตินางเอกเลยเริ่มตะหงิดๆ ก็เลยส่งคนไปสืบใหม่55 ...พ่อพระเอกก็ทำตัวเหมือนสตรีในเรือนหลังที่ขี้อิจฉาริษยาพยายามเล่นแง่ไม่ยอมมอบอำนาจในการดูแลจวนให้นางเอกที่เป็นลูกสะใภ้ แถมพอตัวเองไม่อยู่ก็ยังหักหน้าโดยการไปเรียกให้พี่สะใภ้หรือป้าพระเอกมาดูแลจวนแทนอีก แต่พระนางก็ไม่สนใจ สุดท้ายในจวนมีเหตุเพลิงไหม้ ป้ากลัวตัวเองมีความผิดเลยรีบมอบอำนาจคืนให้นางเอกแล้วเผ่นกลับบ้านตัวเองไปเลยจ้าาา... เข็ดแล้ว

คือชาติก่อน หลังพระเอกถูกขับออกจากตระกูลฮ่องเต้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องพระเอกอีก แต่ชาตินี้ตรงข้าม เพราะพระเอกยังเป็นคนโปรดของฮ่องเต้เหมือนเดิม หน้าที่การงานก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ แถมได้ภรรยาดีด้วย ทำอะไรก็สำเร็จลุล่วงเพราะมีนางเอกช่วยคิดและเป็นที่พึ่งทางใจไม่ต้องเดียวดายดำดิ่งจนกู่ไม่กลับเหมือนในชาติที่แล้วอีก นางเอกก็พยายามสืบหาความจริงว่าทำไมชาติก่อนพระเอกถึงได้สังหารพ่อกับน้องชายตัวเองทิ้ง โดยอาศัยเรื่องราวที่ได้ยินหรือรู้มาจากในชาติก่อนค่อยๆ ปะติดปะต่อจนไปพบเบาะแสใหญ่... 

พอเฉลยแล้วอึ้งมาก พ่อพระเอกคือสุดๆ จุก พูดไม่ออก ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งอึ้ง น้องชายก็เสียแรงที่แม่พระเอกรัก+ประคบประหงม ทำไมไม่เหมือนพี่ชายแต่ดันไปเหมือนพ่อเหมือนแม่...ซะงั้น รู้ความจริงแทนที่จะบอกพี่ ตอนแรกก็เข้าใจนะว่าเวลานั้นยังเด็กคงกลัว แต่พอพี่ชายมีอำนาจแล้วทำไมไม่พูด แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าใจและว่าที่แท้ก็เป็นกมลสันดานนี่เอง เลือดพ่อ+แม่แรง พ่อแม่เป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้นแหละ(มั้ง) พ่อพระเอกนี่แบบสุดๆ อ่อนแอขี้ขลาด หูเบา คิดเล็กคิดน้อยสุดๆ แถมยังเจ้าคิดเจ้าแค้น ปู่กับย่าพระเอกคงดูออกแหละเลยข้ามหัวลูกชายมาฝากทุกอย่างไว้ที่หลานแทน จนจะตายก็ยังไม่สำนึก ยังนึกว่าคนอื่นผิดตัวเองถูกอยู่ 

หลังพระนางแต่งกัน นอกจากเรื่องในบ้านก็จะเริ่มมีเรื่องการแย่งชิงอำนาจและการก่อกบฏเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ชาติที่แล้วตอนก่อกบฏพระเอกเป็นคนยิงธนูสังหารรัชทายาท ทำให้ถูกคนประณามและต้องแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ ชาตินี้นางเอกเลยต้องหาทางกันพระเอกรวมถึงคนรอบตัวที่สำคัญออกมา พยายามบอกเป็นนัยๆ ทำให้พระเอกเริ่มสงสัยอ๋องเหลียว ตอนแรกพระนางกะจะวางตัวเป็นกลางไม่เลือกฝ่ายไหน แต่เพราะเหตุบางอย่างเลยทำให้พระเอกต้องตัดสินใจเลือกฝ่าย...

รายละเอียดเยอะมาก เราอาจรีวิวได้ไม่ครบนะคะแต่ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มาก มีตัวละครหลายตัวเลยที่ชอบ อย่างท่านพี่จี้หรือจี้หย่ง55 เราว่าเป็นตัวละครที่นิสัยแปลกดี เก่ง อัจฉริยะ ชาติตระกูลดี หยิ่ง ไม่เห็นหัวใคร ขี้เบื่อ ปากร้าย เรื่องผิดก็ทำให้กลายเป็นถูกได้ล้วนอยู่ที่มุมมองของตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เพราะฉลาด+เก่งมาก(แต่พี่แกฉลาด+เก่งจริงๆ) ผู้ใหญ่ในตระกูลยังเอาไม่ค่อยอยู่ บางทีต้องให้นางเอกมาชี้แนะ+ด่าเรียกสติถึงได้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย เป็นอีกคนที่ชอบนางเอกแต่พอพยายามแล้วไม่ได้ก็ปล่อยมือ ไม่รำพึงรำพันเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อีก กลายมาเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมอย่างสง่าผ่าเผย เป็นคนเดียว(ในจำนวนคนที่มาสู่ขอนางเอก) ที่นางเอกไม่หลบเลี่ยง มาหาเมื่อไรก็ออกมาพบหน้า เราชอบความไม่แคร์ใครของพี่จี้มาก มาหาพระเอกแต่พระเอกไม่ยอมพบ ได้!งั้นไปหานางเอกแทนแล้วกัน ไม่แคร์อยู่แล้วจ้าาาา55 สุดท้ายพระเอกก็ต้องออกมาพบ เป็นคนเดียวที่กล้าว่า+เหน็บแนมพระเอกทั้งต่อหน้าและลับหลัง ใครๆ อาจจะกลัวพระเอกแต่พี่จี้ไม่กลัวนะจ๊ะ...อิอิ พอรู้ว่านางเอกเลือกข้างไหนพี่แกก็ย้ายฝั่งตามทันที(จริงๆ จะเลือกอีกฝั่ง) กลัวฝั่งตัวเองจะชนะแล้วเดี๋ยวบ้านนางเอกจะติดคุกกันหมด เลยย้ายมาฝั่งเดียวกับนางเอกซะ(เหตุผลง่ายๆ 55) เป็นตัวละครที่ไม่ค่อยคบหาสหายไม่ผูกมิตรกับใคร แต่หน้าที่การงานไม่เคยดรอปมีแต่พุ่งทะยาน(หนึ่งในหมื่นจริงๆ) คนอื่นต้องหาสหายหาพรรคพวกเอาไว้ แต่พี่จี้คือไม่จ้า55 (ก็คนมันเก่ง)

ป.ล.พระเอกเรื่องนี้คือลูกเขยแห่งชาติ เอาอกเอาใจ+ออกหน้าแทนพ่อตาตลอด คิดเผื่อนางเอกทุกอย่าง ชาตินี้นางเอกโชคดีมาก พระเอกเป็นสามีและเป็นพ่อที่ดี แถมยังเป็นลูกเขยที่ดีคอยเอาใจใส่บ้านภรรยาสุดๆ ตระกูลโต้วฝั่งตะวันออกก็วางใจไม่กล้าเข้ามายุ่งมากเหมือนเมื่อก่อนอีก เพราะรู้ว่าพ่อนางเอกได้ลูกเขยดี มีลูกเขยคอยปกป้องแล้ว

ป.ล. แปลดี แต่อาจมีงงๆ ตรงคำเรียกว่าลูกหมิง ลูกจือ ลูกหยวนหน่อย แต่โดยรวมเราว่าแปลดีเลย ไม่มีสะดุด สนุกมากกก





วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567

ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 3-6 (6 เล่มจบ)

 

ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 3-6 (6 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว (九月流火)
ผู้แปล : เม่นน้อย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

กว่าจะได้กลับมาอ่านต่อยาวนานเหลือเกิน55 พระเอกก็ยังคงหน้าหนาลูกเล่นแพรวพราวหน้าไม่อายเหมือนเดิม เรื่องกลับดำให้เป็นขาว กลับผิดให้เป็นถูกไว้ใจพี่ลู่ได้ค่ะ...

เล่มสามจะเป็นการเดินทางออกจากเมืองหลวง พระเอก พระสนมนางใน รวมถึงขุนนางและผู้ติดตามอีกมากมายต้องยกขบวนตามเสด็จติดตามฮ่องเต้กลับบ้านเดิม ระหว่างนั้นก็มีทั้งเรื่องไฟไหม้ เรื่องคดีคนหาย จนนำไปสู่การพบเหมืองทองที่ถูกปกปิด สรุปไม่ว่าจะไปที่ไหนที่แน่ๆ คือต้องมีเรื่องและมีคดีให้พระนางได้ตามสืบทุกครั้ง พระเอกก็เริ่มรุกนางเอกหนักขึ้น (ไม่อยากเป็นพี่ชายแว้วว) กำลังวางแผนเรื่องแต่งงาน พร้อมๆ กับหลอกกินเต้าหู้นางเอกทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนพระรองแม้จะรู้แล้วว่าน้องสาวบุญธรรมตัวเองอยู่กับพระเอก แต่มันก็...สายไปเสียแล้ว 

เล่ม 4 ความทรงจำนางเอกกลับคืน แต่มาวันไหนไม่มา ดันมาวันที่เข้าพิธีแต่งงานกันพอดีด้วยนะ55 พอรู้ว่าตัวเองถูกหลอก นางเอกก็ขอให้ทุกอย่างเป็นโมฆะ จากนี้ทางใครทางมัน จะย้ายออกไปอยู่อื่นไม่ขอเกี่ยวข้องกันอีก แต่มีหรือที่อิพี่ลู่จะยอม ต่อหน้าก็ทำเป็นรับปากแต่ในใจลอบวางแผนเอาไว้เสร็จสรรพ ให้ตายก็ไม่มีวันปล่อยคน ต่อให้นางเอกจะฉลาดมีไหวพริบหรืออ่านสีหน้าคนเก่งแค่ไหน แต่เมื่อมาเจอคนเจ้าเล่ห์หน้ามึนอย่างพระเอกก็ต้องจอด ตามไม่ทัน55 สุดท้ายทุกอย่างก็อยู่ในแผนการที่พระเอกวางไว้ หนีไปไหนไม่พ้น ...ส่วนพระรองก็กินแห้วตั้งแต่ต้นจนจบ พลาดแล้วพลาดเลย สิ่งที่เสียไปแล้วไม่มีวันหวนคืน ดีที่สุดท้ายพี่แกก็ตระหนักได้ ไม่ดึงดันต่อ ได้แต่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ มองคนเขารักกันอย่างเจ็บๆ (แม้แต่ตอนพิเศษตอนสุดท้ายพี่ก็ยังไม่สมหวังเล้ยยย น่าฉงฉาน คนไม่ใช่คู่ยังไงก็ไม่ใช่คู่สินะ)

หลังรู้ความจริงนางเอกจะย้ายออก แต่พระเอกก็อ้างเหตุผลบลาๆ เพื่อให้นางเอกยอมอยู่ในบ้านที่ตัวเองซื้อไว้ให้ (บอกเลยยย อย่าคิดเถียงกับพระเอกเรื่องนี้ เหตุผลดีแค่ไหนก็สู้ความหน้าหนาของพี่แกไม่ได้ กลับดำเป็นขาว หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้หมด55) จากนั้นก็มีเรื่องฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์  พระเอกเห็นว่าเกี่ยวกับตำหนักในตัวเองเป็นบุรุษคงไม่สะดวก เลยใช้ข้ออ้างนี้ไปขอให้ฮ่องเต้เรียกนางเอกเข้าวังมาช่วยสืบคดี คนในวังเห็นความสามารถนางเอก รู้ว่าแค่คำพูดเดียวของนางก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของตัวเองได้ก็เกิดหวาดกลัว หากไม่ได้สืบคดีก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรือเข้าไปพูดคุยกับนางเอกเลย แต่ฮ่องเต้กลับชื่นชอบความสามารถนี้ มองว่าสะดวกดีเหมือนเครื่องจับเท็จ

หลังออกจากวังทั้งสองคนก็กลับมาคืนดีกัน(เร็วมากเดือนเดียวเอง)  ตอนแรกพระเอกขอโอกาสแก้ตัว ตกลงกันว่าจะให้เวลานางเอกสามเดือนเพื่อพิจารณาใหม่แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะอยู่หรือจะไป (แต่จริงๆ พระเอกมีทางเลือกให้แค่ทางเดียวคือนางเอกต้องอยู่ข้างกายตัวเองเท่านั้น ไม่มีความคิดจะปล่อยคนไปแต่แรกอยู่แล้ว ทำเป็นพูดจามีเหตุผลไปงั้นแหละ สตอมาก55) พอคนกลับมาสิ่งแรกที่พระเอกทำก็คือเข้าหอจ้าาา ตอนเขาโกรธต้องแอ๊บทำเป็นสุภาพบุรุษมานาน พอเคลียร์กันได้อิพี่จัดเต็มทบต้นทบดอกไม่ขาดแต่เกินได้55 (เรื่องนี้เข้าหอกันบ่อย พระเอกขยันมาก แต่ไม่บรรยายมาก ให้ไปจินตนาการกันเอาเอง55) 

เนื้อเรื่องอยู่ในยุคของฮ่องเต้เจียจิ้ง หนึ่งในฮ่องเต้ของราชวงศ์หมิง (ปู่ของฮ่องเต้ว่านลี่ในหวังทงองครักษ์เสื้อแพร) ดังนั้นบางเหตุการณ์และบางตัวละครในเรื่องจึงเคยเกิดขึ้นและมีตัวตนอยู่จริง เช่น แม่ทัพชีจี้กวง อวี๋ต้าโหยว และมหาอำมาตย์จางจวีเจิ้ง ...พระเอกเป็นองครักษ์เสื้อแพร เป็นมือขวาคนสนิทที่ฮ่องเต้ไว้วางใจและได้ทำงานใกล้ชิดฮ่องเต้มากที่สุด มีหน้าที่คอยสอดส่องจับผิดขุนนาง รับฟังคำสั่งโดยตรงจากฮ่องเต้เพียงผู้เดียว ชื่อเสียงฉาวโฉ่ มีแต่คนสาปส่ง เป็นที่รังเกียจของขุนนางน้อยใหญ่ในราชสำนัก อายุยังน้อยแต่ก้าวหน้าเร็วตำแหน่งสูง ซ้้ำยังเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ จึงเป็นธรรมดาที่พวกขุนนางจะไม่ชอบและอิจฉาริษยาพี่แก แต่ก็ได้แค่นั้น เพราะสุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรือสามารถสั่นคลอนตำแหน่งพระเอกได้ ใครอยากฟ้องร้องก็ฟ้องร้องไปเลยพี่ไม่แคร์  

แต่พระเอกก็เก่งจริงมีความสามารถจริงๆ เหมาะสมกับตำแหน่งแล้วแหละ ที่นางเอกได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยสงบสุข ไปสืบคดีในวังได้อย่างราบรื่นไม่ถูกเจ้านายตำหนักในเก็บซะก่อนก็เพราะทุกคนกลัวไม่กล้าหาเรื่องพระเอกนี่แหละ แต่พระเอกก็ไม่เคยใช้อำนาจในมือไปกลั่นแกล้งหรือทำร้ายใครส่งเดชนะ ...ส่วนฮ่องเต้ก็สมกับที่เป็นฮ่องเต้ ถึงจะลุ่มหลงในลัทธิเต๋าแต่ก็ฉลาดล้ำลึก มองการณ์ไกล ขี้ระแวง ถึงไม่ไว้ใจใครแต่ก็รู้จักวิธีใช้คน ไม่ได้เลือกหรือตัดสินจากความดีเลวแต่มองที่ผลประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก ในคดีที่พระนางช่วยกันสืบหลายครั้งที่แม้จะเจอตัวผู้ทำกระทำผิดแล้วแต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เลือกที่จะป่าวประกาศหรือลงโทษเดี๋ยวนั้น แต่เลือกที่จะเก็บเอาไว้ก่อน รอพลาดซ้ำอีกทีหรือมีอะไรมากระตุ้นก็ค่อยลงมือจัดการทีเดียว 

ในเรื่องนี้นอกจากเรื่องความรัก ก็มีเรื่องการเมืองการแย่งชิงอำนาจ และการไขคดีนี่แหละที่พลาดไม่ได้ น่าติดตาม พระเอกมีหน้าที่สืบและตามหาความจริงมาให้ฮ่องเต้ ส่วนจะเอาผิดลงโทษหรือไม่ก็แล้วแต่เบื้องบนตัดสินใจ พระเอกไม่ยุ่งไม่ก้าวล่วง มองขาดมาก เข้าใจความคิดของฮ่องเต้ แต่ก็ไม่ทำตัวอวดฉลาด จะได้เห็นวิธีการใช้อำนาจ การใช้คน การต่อสู้ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างดี โดยเฉพาะตอนเกิดสงครามในช่วงเล่มสุดท้าย และตอนไปปราบโจรสลัดวอโคว่

อ่านแล้วได้แต่ถอนหายใจยาวๆ กว่าจะปราบสำเร็จการเมืองเยอะมาก  เกี่ยวพันโยงใยกับอำนาจและผลประโยชน์ของหลายฝ่ายหลายกลุ่ม รู้ทั้งรู้แต่ก็ทำไรไม่ได้ เพราะพวกขุนนางในท้องที่สมรู้ร่วมคิดรวมหัวช่วยกันปกปิด แถมยังมีพวกตำแหน่งสูงๆ ในเมืองหลวงคอยช่วยอยู่เบื้องหลังอีกต่างหาก สงสารก็แต่ขุนนางน้ำดีที่ตั้งใจทำงานและชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ที่ต้องรับกรรม สุดท้ายฮ่องเต้เลยต้องส่งพระเอกไปจัดการ ส่งพระรองที่เป็นแม่ทัพและเป็นชนชั้นสูงซึ่งเป็นขุมกำลังใหญ่อีกขั้วหนึ่งลงไปควบคุม ...ช่วงสองเล่มหลังการเมืองเจ้มจ้นมากขึ้น จะได้เห็นอุบายของพวกขุนนางในราชสำนักที่พยายามจะกำจัดฝ่ายตรงข้าม พลาดปุ๊บซ้ำปั๊บ จ้องแต่จะถวายฎีการ้องเรียน พวกแม่ทัพที่กำลังรบติดพันถ้าไม่มีคนช่วยพูดหรือถูกร้องเรียนมากๆ เข้าก็ต้องถูกเรียกตัวกลับมากะทันหัน แผนการรบที่กำลังจะสำเร็จหรือวางไว้ก็เป็นอันพังไม่อาจสานต่อ มันก็จะวนๆ อยู่แบบนี้แหละ บ้านเมืองเลยไม่ไปไหนสักที 

ป.ล. เราชอบพระรองเรื่องนี้อยู่อย่าง แม้เรื่องความรัก เรื่องในเรือนหลังของตัวเองจะล้มเหลว แต่พี่แกก็ไม่เคยผิดต่อชาติบ้านเมืองหรือแผ่นดินตัวเองนะ ทำหน้าที่จนถึงที่สุด... เอาจริงๆ ก็เข้าใจพี่แกอยู่ว่าทำไมต้องเลือกแต่งงานทางการเมือง เพราะแม้จะเป็นท่านโหวตระกูลแม่ทัพแต่ก็ยังใหม่อยู่ ไม่ได้มีอำนาจมาก  คนในตระกูลก็ไม่มีใครโดดเด่นหรือพึ่งได้ พอได้เกี่ยวดองกับตระกูลใหญ่ๆ ที่มีอำนาจหรือมีสายสัมพันธ์อะไรแบบนี้ เวลาตัวเองไปรบมันก็มีคนช่วยพูดช่วยแย้งต่อหน้าฮ่องเต้ให้ ได้มีโอกาสแสดงฝีมือไม่ต้องรอนาน ก้าวหน้าเร็ว และมีคนคอยส่งข่าวไปบอกให้รู้ล่วงหน้าเวลาเกิดเรื่อง จะได้ไม่ตกข่าวและมีเวลาเตรียมพร้อมรับมือ ...เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนยัดข้อหา รบอยู่ดีๆ คือต้องกลับมาและ อ่านแล้วก็แอบเจ็บใจแทนพี่แกตอนท้ายสุด ...T^T

ป.ล. ส่วนเมียพระรองก็น่าเห็นใจไม่แพ้กัน ได้แต่งกับคนที่เรารักแต่เขาไม่รักเรา สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างทุกข์ตรม เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งของตระกูลที่มีไว้เพื่อใช้เกี่ยวดองอำนาจ หมดประโยชน์เมื่อไรก็มีคนพร้อมแทนที่คุณเสมอ สามีไม่รัก ครอบครัวก็ไม่สนใจ มีประโยชน์เมื่อไรถึงจะสน...