วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งฉางอัน 3 เล่มจบ




หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งฉางอัน 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง :  Fa Da De Lei Xian (ฟาต๋าเตอะเล่ยเซี่ยน)
ผู้แปล : เบบี้นาคราช
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เสิ่นเจิน คุณหนูสามแห่งจวนอวิ๋นหยางโหว นางมีพี่สาว 2 คน น้องชาย 1 คน แต่ละคนล้วนหน้าตาดี โดยเฉพาะบุตรสาวคนที่สามหรือตัวนางเอกนั้นยิ่งหน้าตาดีที่สุด ถึงขนาดได้รับการขนามนามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองฉางอันเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่บุตรสาวบ้านนี้หน้าตาดีมากจนเกินไป มันจึงกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ถูกคนอิจฉาริษยาและสุดท้ายก็นำภัยมาสู่ตนเอง

เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งท่านเสิ่นคนพ่อก็ถูกจับเข้าคุก จวนสกุลเสิ่นถูกยึดและริบทรัพย์ หนำซ้ำยังมีหนี้ก้อนโตโผล่ออกมา นางเอกซึ่งเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้ออกเรือน จึงต้องกลายมาเป็นเสาหลักของบ้านไปโดยปริยาย เมื่อสกุลเสิ่นตกอับญาติมิตรก็หนีหาย ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือหรืออยากคบหานางที่เป็นบุตรสาวขุนนางต้องโทษอีกต่อไป ทว่าในขณะที่กำลังสิ้นหวังจนตรอก ลู่เยี่ยน ซื่อจื่อแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงก็โผล่เข้ามาให้ความช่วยเหลือและยอมจ่ายหนี้ก้อนโตให้ โดยแลกกับการที่นางต้องกลายเป็นภรรยาลับของเขา

พระเอกมีฐานะเป็นถึงหลานชายคนโปรดของฮ่องเต้ และเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่ เป็นคนเก่ง ฉลาด เอาการเอางานและมีความสามารถจริง จึงได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ยิ่งกว่าบรรดาองค์ชายเสียอีก ...แต่เดิมพระเอกไม่เคยสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน กับนางเอกตอนแรกก็เฉยๆ แม้ว่าน้องจะสวยมากก็ตาม แต่เพราะความฝันประหลาด บวกกับอาการเจ็บหัวใจที่จะกำเริบทุกครั้งเมื่อนางเอกหลั่งน้ำตา ด้วยความอยากไขปริศนา พี่จึงรับนางมาไว้ใต้ปีกและคอยปกป้องคุ้มครองสกุลเสิ่นแบบลับๆ คิดว่าหากชมเรือนร่างงดงามนี้จนพอใจเมื่อไร สักวันพี่ก็จะปล่อยน้องไปพร้อมกับเงินก้อนโต...แต่พอได้อยู่ร่วมกันนานวันเข้า บวกกับความฝันที่ทำให้พี่เห็นเรื่องราวในอดีตที่ต้องพลัดพรากไม่สมหวัง พระเอกก็รู้แล้วว่า ชาตินี้ตนคงไม่อาจปล่อยนางเอกให้หลุดมือไปได้อีก...ชาตินี้เขาจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาเอกอย่างสมเกียรติให้ได้ จะต้องปกป้องคุ้มครองนางและจัดการกับภัยอันตรายทั้งหลายที่คิดจะมาแยกพวกเขาทั้งสองคนออกจากกันให้สิ้น

เป็นเรื่องม้ามืดที่มาแรงแซงทุกโค้งส่งท้ายปีจริงๆ ดีงามทั้งเนื้อเรื่องและการแปล เล่าผ่านมุมมองของตัวละครชายหรือพระเอก ซึ่งพระเอกจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าหรือก็คือเรื่องราวในชาติก่อนจากความฝัน แต่ไม่ได้มาแบบทีเดียวตู้มนะ มาแบบเป็นระยะๆ ทีแรกก็ฝันเห็นตอนตัวเองใกล้ตาย ขณะที่ใกล้ตายก็กำถุงหอมของนางเอกเอาไว้ไม่ยอมปล่อยและคิดถึงคนจนกระทั่งหมดลมหายใจ พอตื่นมาพระเอกก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ คนอย่างตนเองน่ะหรือจะหมกมุ่นในรักและเป็นได้ถึงขนาดนั้น จะต้องถูกเครื่องหอมในร้านของนางเอกทำตุกติกแน่ๆ ..พี่จึงสั่งให้ลูกน้องไปค้นร้านนางเอก แม้สุดท้ายจะไม่พบอะไร แต่พระเอกก็ได้รู้แล้วว่าอาการเจ็บหัวใจของตนนี้มีสาเหตุมาจากสิ่งใด...อิอิ

พระเอกมาแนวดุโหด ดุก่อนแล้วค่อยมาโอ๋ทีหลัง พอเห็นนางเอกตาแดงๆ น้ำตาเริ่มปริ่มๆ
ก็ต้องยอมแล้ว ไม่งั้นตัวเองคงได้ปวดใจตายก่อนแน่ๆ (จะเจ็บหัวใจตายจริงๆ)
นางเอกก็น่ารัก ขี้อ้อน ปรับตัวเก่ง ไม่ได้เอาแต่ใจ รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะใดก็ยอมรับแต่โดยดี แต่ตอนแรกอาจจะยังกลัวๆ อยู่ เพราะพระเอกโหดและชอบพูดแทงใจดำ แต่ไปๆ มาๆ เมื่อน้องได้เห็นสิ่งที่พระเอกคอยทำให้ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องตัวเอง รวมไปถึงน้องชายและคนรับใช้ที่สนิท จนถึงพี่สาวและพ่อ น้องจึงเริ่มรู้สึกดีกับพระเอก ค่อยๆ หายกลัว ทั้งยังเจียมเนื้อเจียมตัวสำนึกในบุญคุณและฐานะ(ภรรยาลับ) ของตนอยู่เสมอ...กระซิกๆ

แต่ความจริงคือชาตินี้พระเอกเขาได้ความฝันช่วย เลยรู้ว่าเรื่องไหนที่เคยทำให้นางเอกเสียใจ มาชาตินี้พี่ก็ไม่(ค่อย)ทำแล้ว รู้จากความฝันว่านางเอกจะต้องมาขอร้องเรื่องอะไร พี่ก็ทำให้เลย ไม่บ่ายเบี่ยงปากหนักเหมือนชาติก่อน บางเรื่องไม่ต้องบอกก็ทำให้เอง...ในชาตินี้นางเอกเลยขี้เล่นร่าเริงกว่าชาติที่แล้ว มีอะไรก็กล้าบอกพระเอกมากขึ้น ส่วนพระเอกก็ตั้งใจไว้แล้วว่าคราวนี้จะต้องแต่งน้องเป็นภรรยาเอกให้ได้ จึงเริ่มปูทางขจัดขวากหนามไปเรื่อยๆ ต่างจากชาติก่อนที่จับพลัดจับผลูมาช่วยเพราะเพื่อนสนิทขอ ก็ช่วยแค่นางเอกกับน้องชาย แต่ไม่ได้ช่วยไปถึงพี่กับพ่อ และไม่ได้คิดจะแต่งน้องเป็นภรรยา แต่พอพี่คิดทุกอย่างก็สายไปหมดแล้ว ตกหลุมพรางแผนของตัวร้ายจนเจ็บหนักใกล้ตาย  แถมตัวร้ายยังกลายเป็นฝั่งที่มีอำนาจขึ้นมา นางเอกไม่อยากทำให้พระเอกเดือดร้อนเลยเลือกที่จะจากไป พระเอกก็เข้าใจผิดคิดว่าน้องมีใจให้พระรองถึงได้ยอมไปกับเขา...จนวันตายก็ยังไม่รู้ความจริงเลย เฮ้อออ

เราว่าบางทีถ้าพระเอกไม่ได้ฝันเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนก็อาจจะแย่เหมือนกันนะ เพราะฝั่งตัวร้ายก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยเลย...โดยเฉพาะฮองเฮานี่แหละ ตัวแม่ลาสบอสที่แท้ทรู 55 ...กลัวว่าถ้าลูกสาวบ้านนี้ได้แต่งกับคนมีอำนาจแล้วจะกลายมาเป็นกำลังเสริมให้รัชทายาท บวกกับอิจฉาที่ตัวเลือกลูกเขยบ้านนี้มีแต่คนเจ๋งๆ ด้วยแหละ เพราะขนาดหลานสาวตระกูลตัวเองก็ยังไม่มีตัวเลือกลูกเขยที่ดีเท่านี้เลย...หึหึ

อ่านจบแล้วน่าจะเรียกว่าสามใบเถาตระกูลเสิ่นมากกว่านะ 55  เพราะชีวิตของทั้งสามสาวต่างมีสตอรี่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย  คนโตเยือกเย็นใจเด็ดสมกับเป็นพี่ใหญ่ คนรองก็เจ้าเล่ห์ซุกซนตรงไปตรงมา ส่วนคนที่สามหรือนางเอกก็นุ่มนวลอ่อนโยน ขี้อ้อน แลดูนุ่มนิ่ม ....
คู่พี่ใหญ่จัดว่าแซบ  ส่วนคู่พี่รองก็ซาบซึ้งตรึงใจ...แต่คู่พี่ใหญ่นี่อาจจะมาแรงแซงคู่หลักหน่อย
เพราะใต้เท้าโจวแซบมาก อุบายในการจีบสาวเหนือชั้นยิ่ง แอบหลงรักสาวเจ้ามาตั้งนานแล้ว (น่าจะทัชใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอตอนเหตุการณ์นั้น) แต่พอสอบติดได้เป็นจ้วงหยวน สาวเจ้าก็ดันแต่งงานกับคนอื่นไปเสียแล้ว อกหักเรียบร้อย ตอนแรกก็ตัดใจ หวังว่าผู้ชายคนนั้นจะดีกับนางตลอดไป แต่พอตระกูลเสิ่นตกต่ำ สามีของสาวเจ้ากลับรับทั้งเมียรองและอนุ สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับนางในดวงใจพี่ บวกกับได้เห็นรอยเขียวช้ำนั้น ความอดทนของคุณพี่จึงหมดลงทันที ได้เวลาสวมบทตัวร้าย ไม่อาจหวนคืนสู่ภาพลักษณ์วิญญูชนผู้เยือกเย็น (เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวเจ้า)ได้อีกแล้ว 
55..ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งท่านตุลาการใหญ่แห่งศาลต้าหลี่จะใช้หน้าที่ในทางที่มิชอบเพื่อสตรีที่ตนหลงรัก... พอทุกอย่างสำเร็จ พี่ใหญ่ก็คิดจะใช้ร่างกายตอบแทนบุญคุณ แต่พี่โจวไม่เอา จะขอให้นางแต่งงานมาเป็นภรรยาของตนเท่านั้น ...แต่สุดท้ายก็ถูกพี่ใหญ่ xxx%%## ...555

มาถึงคู่พี่รองถึงจะออกมาตอนเล่ม 3 บทไม่มาก แต่ก็ทำเราซึ้ง คู่นี้น่าสงสารเพราะถูกอุบายของตัวร้ายทำให้แยกจากกัน ทั้งที่รักกันมากกก รักกันมาตั้งแต่เด็ก T^T เพราะพ่อของ 3 สาวอยู่ฝั่งเดียวกับรัชทายาท ฮองเฮาเลยกลัวว่าถ้า 3 สาวบ้านนี้ได้แต่งงานกับตระกูลที่มีอำนาจแล้วเดี๋ยวจะกลายมาเป็นกำลังให้กับรัชทายาท เดี๋ยวฝั่งลูกชายตัวเองจะสู้ไม่ได้ เลยตั้งใจวางแผนทำลายการแต่งงานของลูกสาวบ้านนี้ เริ่มตั้งแต่คนโต โดยสั่งให้คนไปจัดฉากผลักพี่คนโตตกน้ำแล้วให้บัณฑิตที่ชาติตระกูลต่ำต้อยลงไปช่วย ...ส่วนคนรองก็จัดฉากให้องค์ชายของชนเผ่านอกด่านมาเห็นแล้วถูกใจขอตัวไปเป็นภรรยาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ 
มีฉากตอนที่พี่รองกลับมาเมืองหลวงแล้วได้เจอกับพี่สุยคนรักเก่า พอพี่รองรู้ว่าพี่สุยยืนอยู่ข้างหลังก็ไม่กล้าหันกลับไป ปวดใจมากก พอได้หันไปสบตากันแวบหนึ่ง ก็ต้องรีบเบนออกจากกันแล้วแสร้งไปมองอย่างอื่นทันที ก็
Move on แล้วแหละ แต่คือไม่ลืมกันชั่วชีวิต ลืมไม่ลง ได้แต่เก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ขอให้อีกฝ่ายได้มีชีวิตที่ปลอดภัยและมีความสุขก็เพียงพอ ฉากสั้นๆ แต่ทำเราน้ำตาซึมเลย...โฮๆ ๆ

สรุปชาตินี้พระเอกก็ทำลายแผนร้ายของอีกฝั่งได้หมด ช่วยให้พ่อนางเอกได้ออกจากคุกและกลับมาสร้างผลงานจนตระกูลกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แต่เรื่องพ่อนี่ต้องยกความดีความชอบให้พี่โจวด้วยนะ อิอิ...ต่อจากนั้นพระเอกก็ไปขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้  แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่าพระเอกคือคนที่คอยแอบช่วยตระกูลนางเอกอยู่ เป็นคนจัดการส่งคนไปซ้อมหลานชายฮองเฮาที่คิดไม่ดีกับนางเอก ตอนที่สั่งโบยคุณหนูใหญ่ที่ใส่ร้ายนางเอก พระเอกก็ตั้งใจโบยจริงๆ แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อมโยงไปถึงพระเอก ก็มีแอบสงสัยบ้างแต่ก็ไม่เชื่อ เพราะตระกูลของพระ-นางไม่เคยไปมาหาสู่กันมาก่อน เลยคิดว่าไม่มีความสนิทสนมหรือความเกี่ยวข้องใดๆ ที่พระเอกจะต้องมายุ่ง

มารู้ตอนที่ในวังจัดงานแล้วนางเอกต้องไปร่วมด้วย แล้วคนที่เคยแอบชอบพระเอกจำกลิ่นหอมที่อยู่บนตัวนางเอกได้ แบบเอ้ย! นี่มันกลิ่นเดียวกับที่เคยได้กลิ่นจากตัวพระเอกเลย (กลิ่นหอมนี้นางเอกปรุงเอง) จึงไปบอกฮองเฮา ฮองเฮาเลยวางแผนให้คนผลักนางเอกตกน้ำ(อีกแว้ววว)..แต่รอบนี้พระเอกตามมาทัน เลยจับนางเอกกระโดดลงน้ำพร้อมกับตัวเองซะเลย ...พอฮองเฮากับพวกผู้หญิงรู้ข่าวว่าใครเป็นคนลงไปช่วยนางเอกก็หน้าซีดกันหมด..เสียดายเพราะมีแต่คนอยากดองกับบ้านพระเอก 55

ตอนพิเศษอิ่มเอมมากกกก คู่พี่ใหญ่-พี่รองมาแรง โดยเฉพาะใต้เท้าโจวนี่มาแรงแซงทุกคนเลยจ้า ...ทั้งชาติที่สองที่สาม แต่ชาติที่สามนี่มาแบบจำเรื่องในชาติแรกได้ ชาตินี้พี่โจวเลยจัดการทำลายแผนการของตัวร้ายได้ตั้งแต่ต้น แถมยังช่วยให้พี่รองไม่ต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปไกล ชาตินี้พี่สุยเลยได้แต่งานกับพี่รองสมดังใจ ปลื้มปริ่ม ...
สรุปชาตินี้คือสมหวังทุกคน ดีต่อใจมากกก



วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564

มหาวิทยาลัยซอมบี้ 4 เล่มจบ

 

มหาวิทยาลัยซอมบี้ 4 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
Yan Liang Yu
ผู้แปล : 
Jpolly Wu
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ซ่งเฝ่ย นักศึกษาคณะประวัติศาสตร์ สาขาการจัดการท่องเที่ยว ที่เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มสุดหล่อ ชีเหยียน แห่งคณะชีววิทยาศาสตร์ไปได้ไม่นาน ก็ต้องมาเจอเงาแค้นของแฟนเก่าตามหลอกหลอน โดยการใช้อภิสิทธิ์ในการเป็นสมาชิกสภานักศึกษาตรวจตราห้องพักและยึดเครื่องใช้ไฟฟ้า(ที่ผิดกฏ) ของตนไปอย่างหน้าตาเฉยและบลาๆ...หารู้ไม่ว่าที่พระเอกทำไปทั้งหมดก็เพื่อเรียกร้องความสนใจและอยากจะกลับมาคืนดีกับนายเอกเท่านั้นเอง..
เมื่อตัดสินใจว่าจะขอกลับมาคืนดีอย่างจริงจัง พระเอกจึงนัดกินข้าวกับนายเอกหลังสอบเสร็จ  แต่ยังไม่ทันได้กินก็ดันมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นซะก่อน เมื่อมีนักศึกษาเกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งไล่กัดคนไปทั่ว
เพียงไม่นานทั่วทั้งมหาลัยก็มีแต่เสียงกรีดร้องและความโกลาหล ทั้งยังเต็มไปด้วยคนบาดเจ็บและคนตายที่ลุกขึ้นมาวิ่งไล่กัดคนเหมือนซอมบี้

เป็นเรื่องการต่อสู้เอาชีวิตรอดในช่วงที่ไวรัสซอมบี้ระบาดของเด็กมหาลัยที่กำลังอยู่ในช่วงสอบพอดี จะได้เห็นพัฒนาการ+การเอาตัวรอดของกลุ่มพระ-นาย ได้เห็นความดำมืดและความบ้าคลั่งของจิตใจคนในยามที่จนตรอกและสิ้นหวัง....แต่ใครบ้างจะไม่คลุ้มคลั่งเพราะ...
1.สัญญาณเครือข่ายทุกอย่างถูกตัด ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารอะไรได้เลย
2.
ไม่มีอาหาร นี่แหละจุดสำคัญที่ทำให้คนบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
เลือกว่าจะตายด้วยซอมบี้หรืออดอาหารตายเอง ...คนที่เคยปกติดีๆ จึงถูกบีบให้ป่าเถื่อนต้องทำเรื่องที่เลวร้ายเพื่อแย่งอาหารมาต่อชีวิต ส่วนคนที่ไม่มีทั้งอาหารหรือหมดหวังก็อาจเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมจำนนมารวมกลุ่มกันเพื่อเอาชีวิตรอด

อย่างกลุ่มของพระ-นาย(ห้องเกรียงไกลไม่ย่อท้อ) ตอนแรกกลุ่มมีนี้ 4 คนเริ่มสตาร์ตกันที่ห้องพักนายเอก แล้วเก็บตกได้ 1 คนจากหอพักข้างๆ พอไปที่มินิมาร์ทก็ได้สาวงามของมหาลัยมาเป็นพวกอีก 1 ...ตอนแรกนึกว่าคงจะสบายเพราะที่นี่อาหารเยอะ แต่ไม่นานฝันก็ต้องสลาย เพราะดันมีเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นนักศึกษาวิชาพละเพิ่มมาอีกเป็นโขยง
แล้วกลุ่มนี้นิสัยไม่ดี กลุ่มพระ-นายไม่อยากมีปัญหา เลยขอถอนตัวเป็นฝ่ายไปเอง...
ก็หนีๆ ซอมบี้ไปจนถึงห้องสมุด แล้วก็ได้สมาชิกใหม่มาเพิ่มอีก
2 ดีที่หนึ่งในนั้นเป็นรูมเมทห้องของนายเอก ส่วนอีกคนพระเอกก็รู้จัก คนที่เหลือเลยพากันโล่งใจ ไม่ต้องกลัวจะซ้ำรอยเดิมเหมือนก่อนหน้าแว้วว

จากนั้นก็ย้ายกันไปที่โรงอาหาร ...แต่ไม่ใช่ไปแบบไม่มีแผนนะ
ต้องบอกก่อนว่าเวลาจะเคลื่อนย้ายไปไหนแต่ละที จะมีการเตรียมความพร้อมอย่างดี
ทั้งวางแผนเส้นทาง ฉีดน้ำหอมเพื่อดับกลิ่นคน ใช้เสียงเพลงเป็นตัวล่อ มีทัพหน้าทัพหลัง
ใครเป็นฝ่ายบุกฝ่ายเสริม ..พอมาถึงโรงอาหารก็ได้เจอกับเพื่อนกลุ่มใหม่อีก
6 คน..
อันนี้ก็โชคดีหน่อยเพราะมีแต่คนดีๆ เลยเข้าขากันได้

ก็มีอะไรมาให้ลุ้นเป็นระยะๆ อย่างเช่นเวลาย้ายฐานก็ลุ้นดีว่าจะเอาตัวรอดกันยังไง
จะมีอะไรพลิกมั้ย แต่จริงๆ ก็มีพลิกตลอดแหละ เพราะซอมบี้ก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหมือนกัน อย่างแผนบางอย่างที่เคยใช้หลอกล่อซอมบี้ได้ แต่พอใช้หลายๆ ครั้งเข้าก็เริ่มจะไม่ได้แล้ว เพราะซอมบี้เองก็เริ่มมีการเลียนแบบมนุษย์เช่นกัน เช่นคอยรอดักซุ่มโจมตี หรือพอเจอมนุษย์ก็ส่งเสียงร้องเรียกพวกให้เข้ามา

ส่วนพาร์ทความรักของพระ-นายตอนแรกก็นึกว่าคงจะคืนดีกันได้ง่ายๆ แต่ที่ไหนได้ดันไม่
แค่ครั้งแรกพระเอกก็ถูกนายเอกปฏิเสธแล้ว คือพระเอกอะเป็นคนจริงจัง มีวินัย ทำอะไรมีแบบแผน ขณะที่นายเอกเป็นคนสบายๆ
ดูเหมือนขาดความมุ่งมั่น พระเอกก็เลยชอบอบรมอยากให้นายเอกจริงจังกับชีวิต แต่นอกจากจะสอนแล้ว คำพูดของพี่แกก็ยังแฝงนัยดูถูกด้วย สุดท้ายนายเอกก็ทนไม่ไหว จนต้องขอเลิก

หลังจากที่ถูกปฏิเสธก็ได้เพื่อนสนิทนายเอกชี้ทาง ช่วยบอกจุดที่พระเอกต้องปรับปรุงแก้ไขถ้ายังอยากกลับไปคบนายเอกต่อ บวกกับได้เห็นนายเอกในมุมอื่นที่ตนไม่เคยรู้มาก่อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ถึงได้รู้ว่าความจริงนายเอกก็เก่งมีความสามารถนะ เช่นรู้เรื่องแผนที่สถานที่ตั้งของตึกและอาคารในมหาลัยเป็นอย่างดี (เพราะคณะนายเอกมีการจัดทัวร์พาชมมหาลัยทุกอาทิตย์) ทำให้รู้ว่าตรงไหนเป็นมุมอับเป็นสถานที่โล่ง ตรงไหนเป็นทางลัด
ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้รอดเหมือนกันนะ 
แถมยังมีทักษะในการพูดการชักจูง สามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ พอเห็นแบบนี้พระเอกเลยเข้าใจในความผิดพลาดและสิ่งที่ตัวเองต้องแก้ไขแล้ว

ตอนแรกคิดว่าถ้าเป็นแนวซอมบี้ก็คงต้องเครียด แบบลุ้นตลอดทั้งเรื่องแน่ๆ
ซึ่งพออ่านแล้วก็ลุ้นอยู่ แต่ไม่ได้เครียดหรือกดดันอะไรขนาดนั้น ตัวละครยังสามารถตบมุกสนุกสนานเฮฮากันได้อยู่เรื่อยๆ ขนาดช่วงเวลาจริงจังก็ยังมีการเล่นมุกจังหวะโบ๊ะบ๊ะกันได้อยู่เลย จนบางทีเราก็แอบเสียวแทน กลัวจะโดนซอมบี้กัดกันซะก่อน 55..

หลักๆ ก็เป็นการเอาตัวรอดและหาอาหาร อาวุธที่ใช้ก็เป็นสิ่งของที่ประยุกต์หรือหาได้จากสิ่งรอบๆ ตัว เช่นตะเกียบเหล็ก มีดพับ กระทะอะไรแบบนี้ ตัวละครเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีพลังวิเศษหรืออาวุธพิเศษอะไร อาศัยสติ การวางแผน และความร่วมมือร่วมใจของคนในกลุ่มล้วนๆ ...ตอนแรกที่เชื้อเริ่มระบาดใหม่ๆ ก็จะสติแตกกัน แต่พอตั้งสติได้และสังเกตเห็นว่าต้องแทงตรงไหนซอมบี้ถึงจะลุกไม่ขึ้นอีก ทุกคนก็เริ่มมีความกล้ามากขึ้น
ก้าวแรกคือกล้าที่จะออกจากห้อง และค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่กับที่ไม่ออกไปไหน และรอความช่วยเหลือมากกว่า แต่กลุ่มพระ-นายคือแอดแวนเจอร์มากก ทั้งไปหาวิทยุ ไปเอายา ไปหาของที่จุดรับพัสดุ ไปเอารถที่ลานจอดรถ ดีนะที่มีแต่คนดีๆ อยู่ในกลุ่ม ไม่มีการแตกคอ 
ไม่ทิ้งกัน ไม่งั้นได้ตายแน่ .... แต่นี่คือยังคุยเล่นหยอกกันได้เกือบทุกสถานการณ์ คุยกันจนบางทีเราก็แยกไม่ออกว่าใครกำลังพูด? บทสนทนาเยอะจนบางทีก็รู้สึกแอบเวิ่นอยู่หน่อยๆ

สุดท้ายก็ตัดสินใจออกนอกมหาลัยเพราะหลังๆ โรงอาหารคนเริ่มมากันเยอะ
ในตอนที่ออกมาระหว่างทางก็ยังเก็บตกคนได้เพิ่มมาอีก
 ...แต่มีคนหนึ่งไม่เคยออกไปสู้กับซอมบี้มาก่อน พอเจอสถานการณ์จริงเลยลน ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายพระ-นายเลยต้องแยกกันเพื่อไปช่วยคนนี้ แล้วพอนายเอกไม่อยู่ พระเอกก็เริ่มรนไม่สงบนิ่งเหมือนเคย 
เพื่อนในกลุ่มเลยวอร์ขอให้กลับมารวมกลุ่มกันโดยเร็วที่สุด อย่าแยกกันเลย เพราะพอนายเอกไม่อยู่พระเอกก็ร้อนรน ทุกคนเลยรู้สึกไม่ปลอดภัยไปด้วย 55..

ตอนออกไปข้างนอกก็มีอุปสรรคบ้าง(ไม่บ้างหรอก มากกกเลยเกือบตาย) แต่ก็รอดพลิกหนีกันมาได้ (ถ้าเป็นคนปกติคงตายไปแล้วว ไม่น่ารอดตั้งแต่ตอนเข้าไปหารถและ55)
ได้เจอคนขับรถบรรทุกใจดีที่แบ่งอาหารแห้งให้ และได้เจอกับมนุษย์ป้าที่หาที่หลบได้เก๋มาก
แถมตอนเข้าตึกยังได้เจอเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันอีกด้วย (ชิวจริงๆ)
เหมือนคนที่รอดก็เริ่มปรับตัวใช้ชีวิตกันได้ระดับหนึ่งอะนะ รู้ว่าต้องใช้ชีวิตกันยังไงถึงจะรอด เช่นตอนกลางวันก็อยู่ในบ้าน ค่อยออกมาตอนกลางคืน (ตอนกลางคืนซอมบี้จะเคลื่อนไหวช้า) ส่วนเรื่องอาหารก็จะมีเครื่องบินของทหารมาหย่อนทิ้งไว้ให้ตามจุดสำคัญ

แต่ตอนย้ายไปฐานที่มั่นสุดท้ายก็มีเรื่องมาให้ระทึกกันอีกรอบ55 ...ลุ้นจนเหงื่อตกว่าจะถอยหรือสู้ตาย ซวยจริงๆ 55...จบดี แต่ไม่รู้ว่าเชื้อดีมาจากไหนหรือเกิดจากอะไร หาต้นตอไม่ได้
แต่ในที่สุดก็สามารถกวาดล้างซอมบี้และจำกัดการแพร่เชื้อได้จนหมด
กลุ่มเกรียงไกรไม่ย่อท้อและทุกคนที่ยังรอดก็ได้กลับบ้าน หลังจากนั้นก็ได้กลับมาใช้ชีวิตกันปกติ มหาลัยกลับมาเปิดอีกครั้ง และมีการจัดงานพิธีรำลึกให้กับผู้ที่จากไป...จบจ้า



วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก

 


Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก  2 เล่มจบ
ผู้แต่ง : โม่ซี 
ผู้แปล : เฉี่ยวหลิงชิงซิ่ว 
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ลู่ซิงเฉิง บ.ก.สุดหล่อแห่งนิตยสารแฟชั่นชื่อดังชิก นิสัยโหด เก่ง ขี้โมโห ชอบเพาะศัตรูไปทั่ว แถมยังปากร้ายไม่ไว้หน้าใครและไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา ...
ส่วนนางเอก ถงเสี่ยวโยว เป็นหญิงสาวที่มีความฝันว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์ มีหน้าตาธรรมดา
นิสัยใสซื่อโก๊ะๆ เป็นคนมีพรสวรรค์แต่กลับขาดความมั่นใจ ทำงานมาหลายปีจึงยังไม่ได้เป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดังสักกะที แถมยังเป็นคนดวงซวยสุดๆ อีกต่างหาก...

นางเอกถูกบังคับให้ไปเป็นตัวแทนของนิตยสารลงแข่งในรายการเรียลลิตี้แฟชั่นโชว์ทางทีวี แล้วก็พ่ายแพ้กลับมาด้วยคะแนนศูนย์ 5 ตัวอย่างหมดรูป ต่อจากนั้นก็ถูกเรียกให้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยพระเอก ต้องพบเจอกับความปากร้าย คำดูถูกต่างๆ นานาของพี่แก
แถมพอรู้ว่าเธอเป็นคนดวงซวย พระเอกก็ยังเอาจุดนี้ของนางเอกไปใช้จัดการกับศัตรูอีกด้วย ทำให้นางเอกเจ็บช้ำน้ำใจจนต้องไปกินเหล้าย้อมใจ แล้วก็เผลอจูบกับพระเอกด้วยความบังเอิญ..

พอจูบกันทั้งสองคนก็สลับโชคชะตา นางเอกกลายเป็นคนดวงดี ส่วนพระเอกก็กลายเป็นคนดวงซวยแทน ดวงซวยทันตาเห็น พอตื่นเช้าขึ้นมายอดขายนิตยสารก็ตกฮวบ เงินที่ฝากคนไปลงทุนก็สูญ เจอคนใส่ร้ายขุดข่าวเสียๆ หายๆ มารุมและถูกปลดออกจากงาน นอกจากเงินจะหมดก็ยังมาถูกรถชนจนต้องเข้าโรงพยาบาลซ้ำอีกต่างหาก ...
ส่วนฝั่งนางเอกก็รุ่งเอาๆ
จับสลากลุ้นโชคก็ได้รางวัลใหญ่ งานที่เคยออกแบบไว้ก็ถูกคนเอาไปลงจนเป็นที่รู้จักขึ้นมาและมีนิตยสารชื่อดังมาเชิญให้ไปทำงานด้วยกัน ตรงกันข้ามกับพระเอกไปเลย 55

แต่ด้วยความที่นางเอกเราเป็นคนจิตใจดีมาก พอรู้ว่าพระเอกบาดเจ็บและไม่มีใครดูแล บวกกับความรู้สึกผิด ก็เลยตามไปดูแลพร้อมกับทำอาหารไปให้กิน แล้วพระเอกก็ดันถูกใจรสมือของเธอ ก็เลยพยายามหาข้ออ้างให้นางเอกมาดูแลและส่งอาหารให้ทั้งเช้าและเย็น 
นางเอกก็แสนดีเต็มใจทำ แถมยังเอาข่าวเรื่องการแข่งขันทำชุดที่ดาราหญิงชื่อดังจะใส่ขึ้นโชว์ในงานรับรางวัลมาบอกอีกด้วย  ไม่กั๊กเลย หวังดีอยากให้พระเอกเข้าร่วม พระเอกก็เลยเข้าร่วมเพราะหวังจะใช้โอกาสนี้คว้าชัยชนะและกลับมาปังอีกครั้ง

นางเอกเป็นคนดีมากเลย พอรู้ว่าตัวเองสลับโชคกับพระเอกด้วยการจูบ ก็คิดแต่จะรีบกลับไปจูบกับพระเอกใหม่เพื่อสลับโชคคืน แต่พระเอกกลับไม่เชื่อว่าที่ผ่านมาทุกอย่างเป็นเพราะความดวงดีของตน ถ้าต้องพึ่งโชคพึ่งดวง งั้นก็หมายความว่าที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพราะดวงดีไม่ได้มาจากความสามารถเหรอ บ้าไปแล้ว... แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะหลังจากจูบกันครั้งที่สองเสร็จ พระเอกก็โชคดีขึ้นมาทันที เงินที่เคยลงทุนไว้ก็กลับมาทำกำไร ชุดที่ออกแบบให้ดาราก็ได้รับการรับเลือก ได้กลับมาผงาดหวนคืนสู่วงการอีกครั้ง.. 

พระเอกเรื่องนี้เป็นคนเย็นชาปากร้าย ชอบพูดจาจิกกัด ไม่เห็นหัวใคร แต่ลึกๆ ข้างในกลับกลัวความโดดเดี่ยวและโหยหาความเป็นครอบครัว ถึงจะหลงตัวเอง ชอบดูถูกคนอื่น แต่พระเอกก็เก่งจริง มีความสามารถจริง มองเรื่องแฟชั่นขาดและมีพรสวรรค์ในการออกแบบเสื้อผ้า แต่เพราะปมในอดีต พระเอกจึงไม่คิดจะเป็นดีไซน์เนอร์อีก หากไม่ตกอับดวงซวยจนไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็คงไม่ทำ
สปอยล์ .....พระเอกมีปมเรื่องครอบครัว เนื่องจากตอนแม่เสียชีวิตได้ไม่นาน(ไม่กี่วัน) พ่อก็แต่งงานใหม่ แถมยังบอกให้พระเอกกับพี่สาวเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่ แต่พี่สาวพระเอกไม่ยอม เลยพาพระเอกออกมาใช้ชีวิตตามลำพังก้นสองคนพี่น้อง มีพี่สาวอยู่ที่ไหนพระเอกก็อยู่ที่นั่น ไม่ว่าพี่จะไปเดทกับแฟนหรือทำอะไรก็จะพาพระเอกที่อายุ 8 ขวบไปด้วยเสมอ

แต่พอพระเอกอายุ 20 พี่สาวก็มาจากไปอีกคน หนำซ้ำยังถูกพี่เขยกับหลานชายตัดขาดไม่นับญาติกันอีก พระเอกก็เลยเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เสียใจแค่ไหนก็บอกใครไม่ได้
เมื่อต้องพบกับการสูญเสียคนที่รักไปถึงสองครั้งสองครา พระเอกจึงกลายเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ที่เย็นชาปากร้ายชอบทำเป็นหยิ่ง ก็เพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงในใจเท่านั้น

ส่วนนางเอกนั้นถึงจะโชคร้าย แต่ก็ยังมีเพื่อนและครอบครัวที่อบอุ่นคอยอยู่เคียงข้าง
ดังนั้นในขณะที่นางเอกกำลังอิจฉาพระเอกที่เก่งและประสบความสำเร็จ ตัวพระเอกเองก็กำลังอิจฉานางเอกที่มีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้างเหมิอนกัน

พาร์ตความรักเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ตกหลุมรักกันทันที ความรู้สึกค่อยๆ ก่อตัวในตอนที่พระเอกตกอับ นางเอกได้เห็นพระเอกอีกมุม ส่วนพระเอกก็ได้เห็นความจริงใจที่นางเอกมีให้ในตอนที่ตนไม่เหลือใครและชีวิตย่ำแย่ แต่พี่ก็ยังปากหนักไม่กล้าพูด กลัวเสียฟอร์ม จึงได้แต่ใช้วิธีอื่นมาแสดงให้เห็นถึงความรักที่ตนมีต่อนางเอกแทน...
พระ-นางเหมือนขั้วคนละด้าน คนหนึ่งขาดความรัก ส่วนอีกคนก็ได้รับความรักจากครอบครัวเต็มเปี่ยม คนหนึ่งขาดความมั่นใจ ส่วนอีกคนก็ทั้งมั่นทั้งหลงตัวเองสุดๆ 
คนหนึ่งโชคร้ายแต่อีกคนกลับโชคดีเวอร์ พอมาจับคู่กัน มันเลยเหมือนได้เอาส่วนที่ตัวเองมีมาเติมในส่วนที่อีกคนขาด เมื่อโชคร้ายของนางเอกมาเจอกับโชคดีของพระเอก มันจึงลงตัวพอดี

นอกจากเรื่องรัก+เรื่องงานก็มีปมเรื่องครอบครัวพระเอกนี่แหละที่น่าสนใจและหนัก
พอคบกันแล้วนางเอกจึงอยากจะให้พระเอกได้รู้ความจริงเรื่องพ่อเพื่อปลดล็อค
จะได้หายข้องใจว่าทำไมพ่อถึงเลือกแต่งงานใหม่เร็วแบบนั้น แค่อยากให้ได้รู้เหตุผลของพ่อ แต่เรื่องจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัยนั้นไม่ยุ่ง
ตอนที่เฉลยปมนี้เราเห็นด้วยนะที่พระเอกจะคิดว่า
พ่อตัวเองนั้นเป็นสามีที่ดีแต่เป็นพ่อที่แย่ เข้าใจว่าพยายามทำเพื่อภรรยาแต่ว่า...
ลองไปถามภรรยาเก่าก่อนดีไหมว่าต้องการบทสรุปแบบนี้หรือเปล่า...