วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

ล่อลวงแม่ทัพไม่มาเยือน + เฝ้าเรือนแม่ทัพไม่เหลียวแล



ล่อลวงแม่ทัพไม่มาเยือน ชุดกระตุกหนวดแม่ทัพ / ผู้แต่ง : ไช่เสี่ยวเชวี่ย
ผู้แปล : พวงหยก
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
       เล่มแรกจะเป็นเรื่องของสองพี่น้องตะกูลอวี้ที่มาเปิดร้านขายอาหารริมทางอยู่ที่ชายแดน  
นางเอกเป็นพี่สาวคนโตที่มีฝีมือในการทำครัว  ทุกคนที่เคยมากินอาหารที่ร้านต่างก็ชื่นชอบในรสชาติอาหารที่นางทำ เว้นก็แต่ท่านแม่ทัพใหญ่ เยียนชิงหลาง 
ทุกครั้งที่มากินอาหารหากไม่ติอันนู้นก็ต้องบ่นอันนี้  จนทำให้นางเอกไม่ชอบขี้หน้า  
ไม่อยากให้ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้นี้มาที่ร้านอีกเลย ...
ทว่าก็ได้แต่คิดเพราะท่านแม่ทัพดูเหมือนจะชอบกลั่นแกล้งนางเป็นพิเศษ 
เลยต้องแวะเวียนมาที่ร้านของนางทุกๆ 2-3 วัน ...

      เล่มนี้พระเอกเขาแอบชอบนางเอกมาตั้งนานแล้วเน้อ  แต่เพราะไม่เคยจีบผู้หญิงและไม่เคยชอบใครมาก่อน วิธีแต่ละอย่างที่พี่แกสรรหามาใช้กับนางเอกก็เลยมักจะได้ผลตรงกันข้ามทุกที  
ส่วนนางเอกก็เป็นพวกสมองช้าไม่เข้าใจสิ่งที่พระเอกจะสื่อ เลยคิดว่าพระเอกคงไม่ชอบหน้า
ถึงได้ชอบมาหาเรื่องตัวเอง 55+...สุดท้ายพระเอกทนไม่ไหวเลยใช้วิธีแบบทหารซะเลย  
หลอกเอาตัวคนมาอยู่ใกล้ๆ ก่อนแล้วค่อยๆ รุก  55+
เพราะนางเอกทั้งหัวช้าและความรู้สึกช้าจริงๆ  คือคนทั้งกองทัพทั้งจวนนี่รู้กันหมดแล้วนะ
ว่าพระเอกคิดยังไงกับนางเอก เหลือแต่นางนี่แหละที่ยังไม่รู้ 55

      นางเอกทั้ง 4 คนของทั้ง 4 เล่ม จะมีปมเรื่องชาติกำเนิดที่ต้องปกปิดเป็นความลับ  
เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องกบฏเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว  เหตุการณ์วุ่นวายในครั้งนั้นทำให้ 4 ตระกูลใหญ่
ถูกฆ่าล้าง และมีเพียงทายาทเท่านั้นที่แอบหลบหนีออกมาได้   
ซึ่งแต่ละคนที่รอดก็จะมีของบางอย่างติดตัวมาด้วย  
และถ้าหากนำของเหล่านั้นมารวมกันได้ ก็จะทำให้ความจริงที่ถูกปิดตายปรากฏขึ้น
...เพราะฉะนั้น 4 เล่มนี้ก็จะข้องเกี่ยวกันด้วยประการฉะนี้แลเอย 

.....................................................................................................


เฝ้าเรือนแม่ทัพไม่เหลียวแล ชุดกระตุกหนวดแม่ทัพ / ผู้แต่ง : ไช่เสี่ยวเชวี่ย
ผู้แปล : เจ้าเยวี่ย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
        เล่มนี้เป็นเล่มที่แค่ได้อ่านตัวอย่างก็มีความอยากตบพระเอกมากกกก  
อารมณ์ผิดกับเล่มแรกลิบลับเพราะเล่มนี้แค่บทแรกก็หน่วงแล้ว  
นางเอกเป็นเด็กกำพร้าที่พระเอกเคยช่วยไว้และถูกขุนนางคนหนึ่งรับเป็นลูกบุญธรรม  
นางก็หลงรักพระเอกมาตั้งแต่เด็กเลย เห็นพี่แกเป็นดั่งท้องฟ้าเป็นทุกสิ่งอย่าง  
พยายามทำดีเอาใจใส่พระเอกทุกอย่าง  
แต่พระเอกกลับไม่รู้ตัว นึกว่าตัวเองคิดกับนางเอกแบบแค่น้องสาว  ...ดราม่ามันจึงบังเกิด หึหึ

        พอได้แต่งงานกับนางเอก ...พระเอกจึงมีความรู้สึกเหมือนถูกหลอกถูกบังคับ 
และคิดว่าที่นางเอกมาทำดีด้วยตั้งแต่เล็กจนโตนั้นเป็นเพราะอยากจับพี่แก 
อยากได้ตำแหน่งฮูหยินท่านแม่ทัพ ...หึหึ  

        ชีวิตหลังแต่งงานของนางเอกที่ยังไม่ทันจะข้ามวัน  ยังไม่ทันได้เข้าหอ  
ก็ถูกอีตาแม่ทัพนี่บึ่งหนีไปชายแดนแล้วทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวถึง 3 ปีซะแล้ว  
แต่นางก็ยังเป็นศรีทนได้ไม่บ่นไม่ว่าสักคำ ระหว่างที่พระเอกไม่อยู่บ้านก็ตั้งหน้าตั้งตาดูแลบ้าน 
และปรนนิบัติพ่อแม่สามีอย่างดีไม่มีตกหล่น  เป็นลูกสะใภ้ตัวอย่างแห่งปีเลยทีเดียว ....
แต่ต่อให้ดีเลิศประเสริฐศรีแค่ไหน อีตาท่านแม่ทัพก็ไม่เห็นค่าเพราะอคติมันบังตา  
เมียทำอะไรก็คิดว่าเป็นแผนการหมด  แถมยังตอกหน้าเมียด้วยการพาผู้หญิงอื่นกลับมา
จากชายแดนอีกด้วย ...เหอๆ ๆ

        ครึ่งแรกเราจะสงสารนางเอกมาก ยิ่งตอนที่นางคิดว่าการจะทำดีกับใครสักคนหนึ่ง 
ทำไมมันถึงได้เหนื่อยและซับซ้อนขนาดนี้ก็ยิ่งเห็นใจ  ทำไปเท่าไรก็เหมือนเทลงน้ำ  ทำอะไรก็ไม่ถูกใจดูขวางหูขวางตาไปหมด และเมื่อนางได้รู้เหตุผลที่พระเอกรังเกียจตัวเองก็ตาสว่างทันที  
จัดการเคลียร์ทุกอย่างแล้วก็ไปเลยจ้า ....( สะใจมากบอกเลย )

        แต่ไม่ใช่ว่าพอนางเอกไปแล้วพระเอกก็จะรู้ใจตัวเองเลยนะ ...ไม่จ้าาาาา  
อิพี่ก็ยังไม่รู้ตัวว่าคิดยังไงกับเขากันแน่ ยังหาเหตุผลมากลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองอยู่  
พอกำลังจะคิดออกก็เจอคนมาทำให้ไขว้เขวอีก  ก็เลยบื้อๆ งงๆ ต่อไป ...
แต่ก็ยังตามหาเมียไปด้วยนะ 55+ ( ถึงจะยังงงไม่เข้าใจแต่การกระทำนี่ไปแล้วจ้า )  ... 
ส่วนนางเอกนั้นก็ใจเด็ดมากแถมยังฉลาดด้วยจ้า  ไม่ได้อ่อนแอหงิมๆ เหมือนตอนที่ยังอยู่ในจวนน๊า 
กลายเป็นอิพระเอกนี่แหละที่ต้องกระอักเลือดเพราะเมียไปแล้วไปลับไม่กลับมา 
...แล้วไม่ใช่พอมาง้อปุ๊บก็คืนดีปั๊บน๊า  อันนี้พูดยังไงก็ไม่สนทำเอาพระเอกสะอึกกลับไปเลย  
และกว่าจะได้สมหวังก็นู่นเกือบจบเล่มพอดี ... สะใจเรายิ่งนัก อิอิ


    " หลังจากฉลองปีใหม่ ข้าจะแต่งเหยาเอ๋อร์เป็นภรรยารอง ไม่ว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม "
    " ท่านพี่อี้เหริน " นางตัวสั่นเทา เบิกตากว้างทันทีพร้อมกับใบหน้าถอดสี
    " หยุดพูด! " เขาตะคอกออกมาด้วยความโกรธเคือง
    " อย่าเรียกข้าเช่นนี้อีก ข้าไม่ใช่พี่ชายเจ้า ......เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเสียใจเพียงใดที่พาเจ้ากลับมาที่นี่ "
ราวกับโลกทั้งโลกพลันเงียบสงัดในชั่วพริบตา
ฟู่เหลียงเฉินมองเขาด้วยความนิ่งอึ้ง น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่นั้นค่อยๆ แห้งเหือดไป

..................................................

    " เจ้าไปซะ "
    " ท่านพ่อ! "  เขาใบหน้าซีดเผือกมองบิดาด้วยความหวาดหวั่นสั่นเทา
    " ข้ากับแม่เจ้าเคยบังคับฝืนใจเจ้ามาครั้งหนึ่งแล้ว  แต่ผลแห่งความขมขื่นนั้นกลับเป็น
เฉินเอ๋อร์ที่ต้องลิ้มรส "
    " เด็กคนนั้นมีอะไรผิดนักหรือ หากจะบอกว่าผิดจริง เช่นนั้นความผิดที่ใหญ่หลวงของนางก็คือไม่ควรพบเจอกับเจ้าในตอนอายุห้าขวบ  และรักเจ้าอย่างโง่งม  ทั้งยังอยากจะใช้ทั้งชีวิตตนเองตอบแทนเจ้า ... นั่นเป็นสิ่งที่นางต้องการจะมอบให้ แต่กลับเห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ต้องการ "
ใบหน้าของเซียวอี้เหรินไร้สีเลือดไปโดยสมบูรณ์  เขาจ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยใจสั่นรัวราวกับอยู่ในฝันที่ไม่อาจตื่น  .....