วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

รัชทายาทแพ้ใจ + ชายาสลับรัก


รัชทายาทแพ้ใจ + ชายาสลับรัก / ผู้แต่ง : อูหลิง
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก 'รัชทายาทแพ้ใจ'
        เขาถูกทำร้ายจนหมดสติ ...ถึงจะยังมีลมหายใจ
แต่ไม่รู้เหตุใดวิญญาณของเขา  ถึงไม่สามารถกลับเข้าร่างได้สักที
ซ้ำยังสูญเสียความทรงจำ  
ผู้มีพระคุณที่เก็บเขามารักษาถึงขั้นต้องตาม 'เซียนน้อย' ผู้หนึ่งงมาช่วยเหลือ
ไม่ง่ายเลยกว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ในที่สุด
       ทว่าฟื้นขึ้นมาแล้วอย่างไร
ทุกครั้งที่เขานอนหลับใหลวิญญาณก็มักจะออกจากร่างเสมอ
เซียนน้อยแนะนำว่าต้องรีบ 'ประคองวิญญาณ'
ด้วยการ 'เสริมพลังหยาง'  
       ต้องอยู่ใกล้ชิดสตรีที่มีธาตุหยางอย่างสมบูรณ์เป็นเวลาสี่สิบเก้าวัน
ต้องอยู่ใกล้ชิดสตรีเขาไม่มีปัญหา  แต่เหตุใดสตรีผู้นั้น
ต้องเป็นเซียนน้อยที่กล้าทำกิริยาไร้มารยาทกับเขา
ทั้งยังขี้กลั่นแกล้งและนอนดิ้นด้วย!
        อดทน .. เขาจะต้องอดทนให้พ้นสี่สิบเก้าวัน
แล้วจะรีบจากไปเพื่อสืบหาฐานะและชาติกำเนิดของตนเอง
รวมทั้งผู้ที่ปองร้ายเขาสักที!

คำโปรยหลังปก 'ชายาสลับรัก'
        'จูอวี่อิน'  พิการมาตั้งแต่เด็ก
นางใฝ่ฝันมาตลอดชีวิตว่าสักวันหนึ่ง
จะสามารถท่องไปทั่วหล้าด้วยสองขาของตัวเอง
แต่นางไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ ...
         จู่ๆวิญญาณของนางกลับได้มาอยู่ในร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง
หญิงสาวที่สองขาสามารถเดินได้
ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นถึงพระชายาขององค์ชายสาม 'เหวินเหรินเสวียนซวี่'
         การมาอยู่ในร่างผู้อื่นเป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกยิ่ง
แต่การที่ผู้นั้นมีสามีแล้วทำให้นางตื่นตระหนกยิ่งกว่า
แม้ครั้งแรกที่ได้พบหน้าเขา  ท่าทีกระด้าง  เย็นชา
และไร้เยื่อใยที่เขามีต่อนางจะทำให้นางสงบใจได้
แต่เหตุไฉนยิ่งนานวันเขากลับมีท่าทีสนใจ
และหาทางใกล้ชิดนางมากขึ้นเช่นนี้เล่า
         เรื่องนี้ไม่เป็นการดีต่อใจแล้วจริงๆ...
นางต้องรักษาระยะห่างกับเขาไว้
เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากร่างนี้ไป
จะได้ไม่ต้องรู้สึกอาลัยอาวรณ์โดยไม่จำเป็น

ความรู้สึกหลังอ่านจบ  (อาจมีสปอยล์)
แนะนำว่าควรอ่านรัชทายาทแพ้ใจก่อน แล้วตามด้วยชายาสลับรักนะจ๊า    
เพราะ 2 เรื่องนี้พระเอกเขาเป็นพี่น้องกันเน้อ หนังสือเป็นเล่มเดียวจบ เล่มบางไม่หนามาก 
อ่านสบายๆ เนื้อเรื่องเบาๆ ไม่เครียด ปมในเรื่องเคลียร์ง่าย ตัวร้ายก็แล้วแต่โชคชะตา จับได้ก็จับ  
จับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร 55+ (เราไม่ได้กล่าว พ่อพระเอกเขากล่าวเอาไว้ 55+)                                                                                                                               
รัชทายาทแพ้ใจ  ก็ตามชื่อเรื่องเลยจ้า พระเอกนั้นเป็นรัชทายาที่มีชายาเอกอยู่แล้ว  
แต่ชีวิตแต่งงานก็ระหองระแหง  แต่งกันด้วยการเมืองเลยไม่ได้รักกัน ...
วันหนึ่งพระเอกโดนลอบทำร้าย พอฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ แถมเวลาหลับวิญญาณยังชอบหลุดออกจากร่างอีก 55+ ...ส่วนวิธีแก้ก็คือต้องอยู่ร่วมกับสตรีที่มีพลังหยางธาตุหยางเป็นเวลา 49 วัน
แบบห้ามห่างกันด้วยนะ  ส่วนสตรีที่มีพลังหยางธาตุหยางจะเป็นไผไปได้ล่ะ ก็ต้องนางเอกน่ะเซ่  
ถานอู๋ซวง นางเอกเป็นเด็กกำพร้า หาเลี้ยงชีพด้วยการขจัดทุกข์รักษาโรคให้คน 
(ออกแนวต้มตุ๋นหน่อยๆ) นิสัยแก่นแก้ว ตอนเริ่มแรกพระ-นางเลยไม่ค่อยชอบหน้ากัน
เพราะนิสัยไปคนละทาง  แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆ เข้าก็เริ่มเกิดเป็นความรัก 
อุปสรรคอะไรก็บ่ยั่นผ่านได้สบายไม่มีไรมาก ไม่ว่าจะเป็นการสืบหาฐานะของพระเอก แล้วหาตัวคนร้าย  เรื่องฐานะของนางเอกที่ไม่คู่ควรกับพระเอก หรือความบาดหมางระหว่างพระเอกกับน้องชาย..นี่ก็จิ๊บๆ  พระเอกเรื่องนี้ถึงจะโดนวางแผนฆ่าจนเกือบตายหลายที แต่คุณพี่ก็ยังใจกว้างนะ  
ไม่เอาเรื่องตัวการเบื้องหลังอะไรเล๊ย (อยากจะถามเหลือเกินว่าทำผิดขนาดนี้นี่ไม่ต้องประหาร 9 ชั่วโคตรรึ! ) ใจดีจริงๆ พ่อคุณ 55+

ชายาสลับรัก  นางเอก จูอวี่อิน พิการมาตั้งแต่เด็ก เดินไม่ได้ วันๆ จึงได้แต่เก็บตัวอยู่ในบ้าน  
นางมีความฝันง่ายๆ ว่า สักวันหนึ่งจะได้เดินด้วยสองขาของตัวเอง .... 
แล้ววันหนึ่งความฝันนั้นก็เป็นจริง เมื่อนางป่วยหนักจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
แล้วไปสิงอยู่ในร่างของชายาองค์ชายสาม เหวินเหรินเสวียนซวี่   …
พระเอกพอเห็นเมียฟื้นขึ้นมาก็เริ่มกลับมาสนใจ จากแต่เดิมที่เอือมระอาไม่อยากจะแลก็เริ่มตามติด
และสั่งให้คนจับตามอง เพราะเมียนิสัยเปลี่ยน (ตามสไตล์ 55+)   ....
ส่วนนางเอกนั้นก็รู้ดีว่าตนไม่ใช่ตัวจริง แถมไม่รู้ด้วยว่าวันไหนยมทูตจะมารับตัวไป
ก็เลยพยายามเว้นระยะห่างกับพระเอก  ไม่เข้าใกล้พยายามเลี่ยง ........ 
แต่ไฉนเลยพี่แกจะยอม เพราะเมียที่นิสัยเปลี่ยนไปนี่แหละใช่เลย  ถูกใจป๋าเลย  
ยิ่งเธอถอยฉันก็ยิ่งรุก .... แม้นางเอกจะคิดว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรกับพระเอกที่เป็นถึงท่านอ๋อง
ทั้งด้วยฐานะและสภาพร่างกาย  แต่พระเอกก็ไม่แคร์ รุกๆ ๆ ๆ 


วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

เทียบท้าปฐพี



เทียบท้าปฐพี 3 เล่มจบ / ผู้แต่ง : เฉี่ยซื่อเทียนเซีย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

คำโปรยหลังปก
ท่ามกลางกลียุค
ข้างกระดานหมากที่เวิ้งว้างเพียงร้างรอ  ณ ยอดเขาชังหมังมีอักษรสลักไว้
' หมากจนบนชังหมัง เว้นอาสน์ร้างว่างรอรา  ฟ้าใหม่เหล่าผู้กล้า เทียบฤธาชิงปฐพี '

ยอดบุรุษมากมายวาดหวังจะกำปฐพีไว้ในมือ
ไม่ว่าจะเป็นเฮยเฟิงซีผู้ทีท่วงทีสูงส่ง  กิตติศัพท์ลือเลื่อง  เล่ห์กลลึกล้ำ
หวงเฉาผู้อหังการ  สูงศักดิ์และหยิ่งทระนง
เฟิงหลันซีผู้เก็บคมงำประกาย  งามสง่าดุจกล้วยไม้ในหุบเขาลึก
กระทั่งจอมยุทธ์หญิงไป๋เฟิงซีที่ท่องเที่ยวยืนหยัดเพียงลำพังไปทั่วแดน
ท่าทีผ่อนคลายไม่แยแสยังถูกม้วนเข้าไปสู่วังวนของการแย่งชิง

ทว่ากระดานหมากบนยอดเขาต้องการเพียงสอง
ยอดคนผู้ครองโลกหล้าต้องการเพียงหนึ่ง
พวกเขาจะจบหมากกระดานสำคัญนี้อย่างไร
ใครจะเป็นผู้เทียบฤธาท้าชิงปฐพี
และสุดท้ายใครจะเป็นผู้กุมผืนหล้าไว้ในฝ่ามือ!

ความรู้สึกหลังอ่านจบ ( อาจมีสปอยล์ )
เทียบท้าปฐพีเนื้อเรื่องเข้มข้น แนวสงครามการสู้รบ แย่งเมืองชิงบัลลังก์ ....
เนื้อเรื่องกล่าวถึงจักรวรรดิต้าตงที่มีฮ่องเต้ปกครองและแบ่งดินแดนเป็น 7 แคว้น ให้อ๋องทั้ง 7 คนครอบครองดูแล แต่เมื่อเวลาผ่านไปจากรุ่งเรืองก็กลายเป็นเสื่อมถอย 
ฮ่องเต้อ่อนแอโง่เขลาเบาปัญญาลง  ไม่ฉลาดปราดเปรื่องเข้มแข็งดังเช่นวันวาน  
ทำให้ขุนนางเอาใจออกหาก  ราษฎรทุกข์ยาก แผ่นดินระส่ำระส่าย ร
อคอยวันที่สงครามจะปะทุ  ... 
เมื่อสงครามบังเกิด  บ้านเมืองเข้าสู่กลียุค ก่อให้เกิดผู้มีความสามารถเหนือคน  
แม้ต่างฝ่ายจะมุ่งหวังในสิ่งเดียวกัน ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ 
เพราะโอรสสวรรค์มีได้เพียงหนึ่งมิใช่สอง...   
เรื่องนี้สำหรับเราไม่มีใครดีและเลว ไม่มีตัวละครไหนที่ทำให้เราเกลียดหรือรู้สึกไม่ชอบ
เพราะทุกคนต่างก็มีเหตุผลในสิ่งที่ทำ  ทุกคนต่างก็จงรักภักดีต่อแผ่นดินและเจ้านาย  
ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ปกป้องบ้านเกิดของตัวเอง  จะโทษก็ต้องโทษที่อยู่กันคนละฝั่งเท่านั้น

ไป๋เฟิงเฮยซี  หนึ่งสตรีอาภรณ์ขาวและหนึ่งบุรุษอาภรณ์ดำ สองจอมยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งยุทธภพที่ได้รับการขนานนามร่วมกัน มิตรภาพของคนทั้งคู่ดำรงอยู่มาสิบกว่าปี  คบหากันดั่งสหายผู้รู้ใจท่องเที่ยวช่วยเหลือกันไปในยุทธภพ  ยามพบหน้าก็ไม่มีใครเคยเอ่ยถามถึงเบื้องหลังที่ไปที่มาของแต่ละฝ่าย จะนับว่าใกล้ชิดก็ไม่ใช่จะแปลกหน้าก็ไม่เชิง เพราะทั้งที่อยู่ใกล้เพียงตรงหน้า แต่แท้จริงกลับถูกกั้นกลางด้วยระยะห่างนับหมื่นลี้  

ไป๋เฟิงซี จอมยุทธ์หญิงผู้มีวรยุทธ์สูงส่ง+เสน่ห์แรง ใครเห็นก็ต้องชอบ มักสวมใส่อาภรณ์สีขาวไปมาไร้ร่องรอย รักในอิสรเสรี แต่ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกินมาก... ยามโลดแล่นอยู่ในยุทธภพ นางเปิดเผยจริงใจเป็นกันเอง เห็นคนถูกรังแกเมื่อไรก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอยู่ตลอด ส่วนพระเอกนั้นตรงกันข้าม เหมือนขาวกับดำ เป็นคนฉลาดล้ำลึก 
ทว่าข้างในกลับเต็มไปด้วยกลอุบายและแผนการมากมายร้อยแปด ภายใต้รูปโฉมหล่อเหลางามสง่า ความสุภาพอ่อนโยนที่อบอุ่นเหมือนแสงจันทร์นั้นก็คือ...ความ
โหดเหี้ยมเด็ดขาดที่ไม่มีใครคาดถึง ในโลกใบนี้คงไม่มีใครรู้จักพระเอกดีเท่ากับนางเอก และคงไม่มีใครรู้จักนางเอกดีเท่ากับพระเอกเช่นกัน ... 
สองคนที่ต่างกันถึงเพียงนี้ จะอยู่ร่วมกันได้ยังไง? จะเดินไปด้วยกันได้ไกลแค่ไหน? 
ยาวนานหรือไม่? ในเมื่อสิ่งพระเอกต้องการคือแผ่นดินและอำนาจ ส่วนสิ่งที่นางเอกต้องการก็คืออิสระ การได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกแห่งหน และปรารถนาเพียงคนรักเดียวใจเดียวไม่แบ่งใจเป็นสอง ไม่ขอใช้สามีร่วมกับผู้ใด   

มื่อมีบุรุษผู้หนึ่งถามนางว่า 
  ‘หากวันหนึ่งเขาเป็นฮ่องเต้  นางยินดีจะเป็นฮองเฮาของเขาไหม   
นางถามเขากลับไป 
  ‘แล้วเขาจะรักนางมีนางเพียงคนเดียวหรือไม่                    
เขาครุ่นคิดแล้วตอบกลับว่า 
   ‘แม้เขาจะมีสตรีหลายคน  แต่จะมีนางเพียงคนเดียวที่เป็นภรรยาของเขาเท่านั้น


พระ-นางต่างเป็นคนสำคัญของยุคสมัย มีความสามารถเหนือคนทั่วไป และมีภาระหน้าที่ที่ต้องแบกรับอย่างหนักหนาสาหัส  เมื่อเข้าสู่สงครามนางเอกเลือกยืนข้างฝั่งพระเอก จับมือเป็นพันธมิตรคอยช่วยเหลือกันภายใต้ความระแวดระวัง ต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกัน คอยหวาดระแวงกันทุกฝีก้าว และรอยร้าวก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นไม่อาจประสาน 
เมื่อฝ่ายหนึ่งถูกโจมตี แต่อีกฝ่ายกลับยกทัพมาช่วยไม่ทัน และทำให้ฝ่ายนั้นต้องสูญเสียทหารคนสนิทไปอย่างโหดร้าย  ทว่าถึงรอยร้าวนี้ใกล้จะแตกเต็มทีแต่ก็จนใจ เนื่องจากไม่มีใครยอมเปิดปากพูดอธิบาย  เพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว่า...มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ในใจของนางเอกนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายนับไม่ถ้วน และท้ายที่สุดเมื่อนางถูกทำร้ายใกล้ตาย พระเอกถึงได้กระจ่างว่าสิ่งสำคัญ ...สิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุดคืออะไร...

เนื้อเรื่องหนักหน่วงพอควร บีบอารมณ์เป็นระยะๆ ภาษาสวยมากและมีบทกลอนเยอะพอสมควร มีคำศัพท์หลายคำที่ไม่ค่อยคุ้น จึงทำให้ต้องพยายามตั้งใจอ่าน 
ในเล่มแรกจะกล่าวถึงการตามล่าหาป้ายขั้วกาฬที่หายสาปสูญไป  ซึ่งกล่าวกันว่าหากใครได้ครอบครองคนผู้นั้นก็จะได้เป็นฮ่องเต้  มีคนมากมายที่ต้องบาดเจ็บล้มตายเพราะป้ายนี้ แต่พอรู้ว่าใครได้ไปก็ไม่เห็นจะมีคนตามไปแย่งชิงอีกเลย เงียบไปเลยแฮะ ??? ??  ตกลงมันสำคัญจริงๆ เหรอเนี่ย เห็นพากันไปตายตั้งเยอะแยะ แล้วสุดท้ายก็สู้กันด้วยกำลังคนและสติปัญญากันอยู่ดี ...
ตัวละครมีแต่คนเก่งๆ แต่ที่เก่ง+โดดเด่นที่สุดแน่นอนก็คือพระ-นาง และผู้นำของอีกฝ่าย ถึงจะมี 7 แคว้นแต่ที่เก่งกาจจริงๆ ก็มีแค่ตัวละครหลัก 4 คน  แต่ส่วนตัวเราว่าในเรื่องพระเอกเก่งสุดนะ เพราะมีเล่ห์เหลี่ยมและอุบายล้ำลึกกว่าใครเขา ...พระ-นาง มีบุคลิกและความสามารถที่ใครเห็นก็ตกหลุมรักได้ง่าย  มีแต่คนมารุมชอบ(แต่เราไม่ชอบ...เราชอบแม่ทัพโจวกับเหล่าขุนพลของนางเอก 55+ ) ตอนที่อ่านเราเสียน้ำตาให้กับท่านแม่ทัพอิ๋งโจวและบทพิเศษของหลางหวา T^T

ไป๋หลางหวา  เด็กสาวไร้เดียงสา อ่อนต่อโลกไม่เคยออกไปเผชิญโลกภายนอก ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วหลงคิดว่าตัวเองเก่งกาจมากความสามารถยิ่งกว่าใคร แต่ฝันอันงดงามไม่นานก็ต้องสลาย เมื่อบ้านเมืองพังพินาศจนเหลือเพียงนางกับข้ารับใช้สองคน... เมื่อออกไปเผชิญโลกภายนอกและใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีถึงได้รู้ว่าการใช้ชีวิตแบบอิสรเสรีนั้นไม่ใช่ง่ายดายอย่างที่ใจคิด โลกภายนอกช่างแสนโหดร้ายทารุณ ทำให้นางสูญเสียความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปจนหมดสิ้น ใช้ชีวิตที่เหลือเหมือนคนตาย ส่วนหัวใจก็เหี่ยวแห้งเหมือนคนชรา ...
แต่ท้ายที่สุดสวรรค์ก็ยังใจดีส่งคนที่รักและถนอมนางจากใจจริงมาให้ ถึงจะไม่นานแต่ก็ทำให้นางยิ้มได้อีกครั้ง และหลับไหลไปในอ้อมกอดของบุรุษที่รักทะนุถนอมนางด้วยใจจริง

“ หลางหวาข้าจะพาเจ้าไป  ปกป้องเจ้า  รักถนอมเจ้าไปชั่วชีวิต  ไม่จากไม่ทอดทิ้ง “                
“ ดี “  
คนในอ้อมกอดเผยยิ้มบางๆ ทว่าอิ่มเอม น้ำตาหยดหนึ่งไหลจากดวงตา ผ่านจมูกเรื่อยไปถึงปาก

แม่ทัพใหญ่แห่งต้าตง จักรวรรดิต้าตงเมืองหลวงที่ประทับของฮ่องเต้ซึ่งควรจะล่มสลายไปนานแล้วหากไม่มีสกุลตงคอยปกป้องรักษา  ถึงปู่แกจะรู้ว่าฮ่องเต้ไม่เอาไหน แต่เขาก็จงรักภักดีต่อฮ่องเต้ซึ่งเป็นนายเหนือหัวเพียงผู้เดียว ปู่เป็นแม่ทัพที่เก่งมาก  แม้จะรู้ว่าสุดท้ายก็ต้องแพ้แต่เมื่อเป็นคำสั่งปู่ก็ยินดีทำตาม  ในสายตาปู่ตัวอ๋องทั้ง 3 คน  ซีอวิ๋นจู่กง  หลันซีกงจื่อ หวงเฉากงจื่อ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถแห่งยุค แต่สำหรับปู่ก็แค่ขุนนางขบถ เพราะปู่มีนายเดียวเท่านั้นคือ ฮ่องเต้  

แม่ทัพอิ๋งโจว ออกมาไม่มาก ไม่กี่ตอนแต่เอาใจข่อยไปโลดๆ ออกมากี่ทีก็ทำให้เราน้ำตาซึม ...ถ้าเรื่องนี้พระเอกไม่ใช่ ... เราจะเชียร์คนนี้แล  

................................................................................................


" ข้ามาเพื่อถามอีกครั้งก่อนท่านไปเขาเทียนจือ  ท่านยินดีแต่งกับข้าหรือไม่ "
" ในเมื่อท่านพูดจริง  เช่นนั้นข้าก็ขอถามท่านอย่างจริงจังสักคำ  
หากข้าแต่งเป็นภรรยาของท่าน  เช่นนั้นท่านก็ห้ามรับผู้อื่นเป็นภรรยาอีก  
ชั่วชีวิตมีข้าได้เพียงผู้เดียว  ท่านยินยอมหรือไม่ "
" ...ไม่ว่าข้าจะมีสตรีมากแค่ไหน  แต่ภรรยาของข้ามีเพียงท่าน และภายภาคหน้า
หากข้าได้เป็นฮ่องเต้  ตำแหน่งของฮองเฮาก็จะเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน "

.................................................................................................

' ...มือของทั้งสองคนจูงไว้ด้วยกันตลอด  ฝ่ามือร้อนผ่าวอยู่ตลอด  
ฝืนมองกันเป็นครั้งคราว 
สายตาสบกันเป็นบางครั้ง  ส่งยิ้มบางเบาแก่กันเป็นบางหน  
...คล้ายกับสามารถเดินเช่นนี้ไปได้ตลอด
ทว่า ...หนทางมีจุดเริ่มต้นก็ต้องมีจุดสิ้นสุด '