วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สแกนหัวใจให้เจอรัก 4 เล่มจบ


สแกนหัวใจให้เจอรัก 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : หงจิ่ว

ผู้แปล : พิรุณเดือนสารท

สำนักพิมพ์ With Love

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

อีกเรื่องของหงจิ่ว เรื่องนี้อยู่ในจักรวาลเดียวกับเรื่องน้ำกับไฟผลสุดท้ายคือรัก และดีไซน์รักคุณนักออกแบบ 

นางเอกชื่อ เหยาจยา เป็นลูกสาวคนเล็กของเจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าคุนอวี่ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าเจ้าใหญ่ที่สุดของประเทศ นิสัยดื้อดึงหัวรั้น มีความขบถชอบต่อต้าน(พ่อแม่) ไม่ยอมคน แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่น เวลาเห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่นิ่งดูดาย ตรงข้ามกับพระเอก เมิ่งซิงเจ๋อ ประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าน้องใหม่ที่เย็นชาขี้เก๊ก หลงตัวเอง รักความสบาย ผลประโยชน์ของตัวเองต้องมาก่อนและไม่ชอบช่วยเหลือคน 

คนหนึ่งเป็นคุณหนูลูกเจ้าของบริษัท ส่วนอีกคนก็เป็นคุณชายใหญ่เจ้าของบริษัทเครื่องไฟฟ้าน้องใหม่ที่กำลังบุกตีตลาด แต่ด้วยเหตุผลบางประการจึงทำให้ทั้งคู่ต้องปิดบังตัวตนและเข้ามาทำงานในแผนกสัมพันธ์หรือ call center ของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าคุนอวี่ ถ้าเปรียบกับห่วงโซ่อาหารนี่ก็คงเป็นห่วงโซ่อาหารที่อยู่ต่ำสุด เพราะเป็นแผนกที่คนมองข้ามไม่ให้ความสำคัญ แต่กลับเป็นด่านหน้าที่ต้องคอยรับมือและรองรับอารมณ์ของลูกค้าก่อนที่จะส่งต่อไปให้แผนกอื่นๆ 

พระนางเรื่องนี้ออกแนวคู่กัด เจอหน้ากันทีไรไม่เคยพูดกันดีๆ ต้องได้จิกกัดกันก่อนถึงจะมีความสุข พระเอกก็ปากแจ๋ว เปิดปากทีแทบทำให้คนอยากกระอักเลือดตาย แต่นางเอกก็ใช่ย่อย จิกมาก็จิกกลับไม่โกง หล่อแค่ไหนก็ไม่มีผลต่อการด่า มวยถูกคู่จริงๆ สองคนนี้55 ...ตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตากันและ เพราะนางเอกไปวิจารณ์รูปโลโก้บริษัทพระเอกว่าไม่สวยเลยทำให้พี่แก(คนออกแบบ)ไม่พอใจ จบดอกแรกไปก็ได้มาเจอกันอีกตอนสมัครงานแผนก call center ขิงกันไปมาว่าใครจะได้ที่หนึ่งในการสอบ สุดท้ายก็โหล่รั้งท้ายทั้งคู่ แถมพอได้ทำงานก็ยังต้องมานั่งข้างกันอีก...โถๆๆ อะไรจะซวยขนาดนั้น คือเป็นพระนางที่ไม่ถูกขี้หน้ากันสุดๆ แต่สวรรค์ก็ช่างเป็นใจ(หรืออยากจับคู่) เลยทำให้สองคนนี้ต้องมาเจอและอยู่ใกล้ๆ กันอยู่ร่ำไป เจอกันที่ทำงานตอนกลางวันไม่พอ ตกเย็นก็ยังต้องมาเจอกันที่หอพักพนักงานต่ออีก55 

ตลกมาก คือนางเอกย้ายมาอยู่หอพักเพราะมึนตึงกับพ่อแม่ กลับไปบ้านก็ไม่เจอใครเลยรู้สึกเหงา ก็เลยย้ายมาอยู่หอพักพนักงานดีกว่า แต่ของพระเอกย้ายมาเพราะบ้านอยู่ไกลจากที่ทำงานเลยทำให้มาเข้างานสาย ซึ่งถ้าสายอีกจะถูกประเมินไม่ให้ผ่านและจะถูกไล่ออก(ต้องแพ้พนันเพื่อนสนิท) พี่แกเลยจำใจต้องย้ายมาอยู่หอพัก แต่ก่อนหน้านั้นเปรี้ยวไง ไปขิงนางเอกไว้เยอะ บอกว่าให้ตายตัวเองก็ไม่มีทางย้ายเข้าไปอยู่ที่แบบนั้นหรอกบลาๆ แต่สุดท้ายเป้นไง ก็กลืนน้ำลายตัวเองสิจ๊ะ55 

พอย้ายเข้าไปก็อดได้ห้องที่ดีที่สุด ต้องใช้ห้องน้ำรวมร่วมกับคนอื่น55 เพราะนางเอกมาก่อนเลยเลือกเอาห้องที่ดีที่สุดและมีห้องน้ำในตัวไปแล้ว พอพระเอกรู้ก็พยายามใช้เงินฟาดหัว(นิสัยคุณชายกำเริบ)เพื่อให้นางเอกแลกห้อง ตอนแรกนางเอกไม่แลก แต่พอดีเพื่อนสนิทโน้ตบุ๊กเสียหาร้านซ่อมไม่ได้ พระเอกแอบได้ยินเขาคุยกันเลยยื่นข้อเสนอว่าจะซ่อมโน้ตบุ๊กให้แต่ขอแลกกับการเปลี่ยนห้องนะ สุดท้ายนางเอกเลยต้องยอม ...คือพระเอกอะนิสัยคุณชายมากกก บ้านรวย กินหรูอยู่สบายมาแต่เด็ก พ่อแม่เลี้ยงแบบตามใจ(ซึ่งตรงจุดนี้มีสาเหตุอยู่ต้องไปลองอ่านน๊า) ไม่เคยหยิบจับทำไรเอง ขนาดของหล่นยังไม่เก็บ พอมาอยู่หอพักกับคนอื่นอิพี่ก็ยังติดหรู(ลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสวมบทบาทเป็นพนักงาน call center ตัวเล็กๆ) สั่งของหรูๆ อย่างโคมไฟอิตาลี เก้าอี้นวดไฟฟ้าและนั่นนู่นนี่มาลงห้อง อาหารก็ออกไปกินข้างนอก แต่ลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองเอาเงินไปลงกับบริษัทหมดแล้ว กำลังเข้าสู่สถานะยาจก ทุกคนเลยคิดว่าพระเอกจนแต่ไม่เจียม55 แล้วอิพี่ก็ยังไปนัดสาวๆ กินข้าวอีกนะ(จะหลอกถามข้อมูลบริษัท) คราวนี้ก็ไม่มีตังค์น่ะสิ แต่อิพี่ก็ยังไม่ละความพยายาม แก้ปัญหาด้วยการไปยืมตังค์นางเอก โอ๊ยยย ทั้งปากแจ๋วทั้งหน้าหนา พอนางเอกไม่ให้ก็บอกว่าที่ไม่ให้เพราะหึงที่ตัวเองไปกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นใช่มั้ย? ชอบตัวเองล่ะสิ? แล้วนางเอกก็เป็นประเภทแบบบอกซ้ายไปขวาบอกขวาไปซ้าย พระเอกก็จับจุดนางออก รู้ว่าพูดยังไงนางเอกถึงจะยอม ตลกมากคู่นี้ ชอบเวลาเขาเถียงกันฮาดี

สุดท้ายนางเอกก็ให้ไป 250 หยวน(ทุกครั้ง) ส่วนพระเอกก็โวยวายบอกแค่นี้จะไปพออะไรบลาๆ เอากะพี่แกสิจนแล้วยังติดหรูอีกน้อ55+ สุดท้ายก็ต้องพาสาวไปเลี้ยงพิซซ่า(หรูกว่านี้ไม่ได้ตังค์ไม่พอ เพื่อนสนิทก็ไม่ให้ยืม55) สาวก็นึกว่าจะได้กินอาหารหรูๆ หรืออย่างน้อยก็ต้องได้คุยเรื่องรักโรแมนติกบ้างแหละ แบบนึกว่าพระเอกจะจีบอะ แต่พระเอกคือคุย+ถามแต่เรื่องงาน หลังจากนั้นเลยไม่มีใครยอมไปกินกับพี่แกอีก รอบเดียวพอ ...คนที่ทำงานรวมทั้งนางเอกก็นึกว่าพระเอกชอบผู้หญิงขาวสวยรวย(ก็พระเอกชอบพูดแบบนี้) เลยไม่สงสัยว่าพระเอกกำลังแอบสืบข้อมูลในบริษัท แต่นึกว่ากำลังหาทางลัดจีบผู้หญิงโปรไฟล์ดีๆ อยู่55 แล้วพระเอกก็ไปว่าเรื่องที่นางเอกไม่มีแฟน นางเอกก็เลยไปหาคนมาแสดงเป็นแฟนปลอมๆ เพื่อเอาชนะ พระเอกก็เจ็บจี๊ดไม่คิดว่านางเอกจะมีแฟนจริง คือไม่รู้ตัวว่าชอบเขาแล้วแต่ปากแจ๋วไปงั้น พอเห็นเขามีแฟนก็ได้แต่แอบเจ็บแอบหึง

พอรู้ตัวว่าชอบเขาแล้วก็ต้องพยายามหักห้ามใจ กลืนน้ำลายตัวเองสุดๆ เพราะเคยว่าเขาเอาไว้เยอะ พอได้ยินนางเอกเอ่ยถึงแฟนหรือไปไหนกับแฟนปลอมๆ พระเอกก็จะปวดใจ ทว่าก็ยังปากเสียชอบจิกกัดเขาเหมือนเดิมตลอด จริงๆ อ่านไปก็คิดนะว่าจะรักกันยังไงคู่นี้เพราะพระเอกปากเสียมาก55 ตอนนางเอก(มีธุระ)ต้องออกไปข้างนอกกับแฟนปลอมๆ พระเอกก็จะแอบหึง+ห่วงไม่ยอมนอน ต้องรอจนกว่าจะได้เห็นนางเอกกลับมาที่หอพักก่อนถึงจะนอนหลับได้อย่างสบายใจ55 ไปๆ มาๆ จากที่ไม่เคยยอมใครก็เริ่มยอมลงให้นางเอก(คนเดียว) นี่แหละ

ความจริงพระนางเรื่องนี้ต่างก็มีปมในใจบางอย่างนะ นางเอกมีปมเรื่องครอบครัวคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน พ่อแม่ไม่รัก รักแต่พี่สาว(ที่ป่วย) ก็เลยชอบต่อต้านพูดจาประชดประชันยั่วโมโหพ่อ ส่วนพระเอกมีปมบางอย่างในวัยเด็ก จึงทำให้กลัวความมืด กลัวหมา และกลัวมด และเพราะปมนั้นแหละเลยทำให้พระเอกกลายเป็นคนไม่ชอบช่วยเหลือใคร เห็นแก่ตัว ...แต่พอได้มาทำงานในแผนกนี้ วันๆ ต้องเจอและรับมือกับปัญหาต่างๆ จากลูกค้าที่โทรเข้ามามากมายสารพัดทั้งหนักทั้งเบา แล้วไหนจะปัญหาของเพื่อนร่วมงานรอบตัวอีก แต่เพราะสิ่งเหล่านี้แหละจึงทำให้นิสัยของพระนางค่อยๆ ถูกขัดเกลาตามไปด้วย ต่างคนต่างได้ช่วยคลายปมปัญหาในใจของแต่ละฝ่ายโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเปลี่ยนจากคู่กัดกลายมาเป็นคู่รักได้ในที่สุด...ฮิ้ววว

ยังคงเป็นแนวรักในวัยทำงานเหมือนสองเรื่องก่อนหน้า แต่เรื่องนี้จะมีปัญหาของคนรอบข้าง ปัญหาการทุจริตในบริษัทที่นางเอกต้องตามสืบพ่วงเข้ามาด้วย และตามด้วยปัญหาหัวใจของคนหัวดื้อ+ปากแข็งสองคน ที่ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยุ่ง55 ...แต่ไม่มีดราม่าหนักอะไรหรอก เพราะถึงนางเอกจะดูดื้อชอบต่อต้านแต่ที่สุดแล้วก็เป็นคนมีเหตุผล ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ปากร้ายแต่ใจดี เช่น ถึงจะเคยถูกเพื่อนร่วมงานคนนี้หาเรื่องหรือเล่นงานลับหลัง แต่พอถึงคราวที่อีกฝ่ายมีปัญหานางเอกก็พร้อมยื่นมือเข้าช่วยโดยไม่ลังเล หรืออย่างตอนที่มีลูกค้าโทรมาร้องเรียนช่างในบริษัท นางเอกก็จะไม่ส่งเรื่องไปเดี๋ยวนั้น แต่จะไปลองถามสาเหตุจากช่างคนนั้นก่อน ถ้าไม่ใช่แบบที่ลูกค้าพูดเป็นการเข้าใจผิด นางเอกก็จะช่วยเป็นตัวกลางสื่อสารให้จนทำให้ลูกค้ายกเลิกไม่ร้องเรียน ส่วนพระเอกก็เหมือนได้รับอิทธิพลจากนางเอกไปด้วยส่วนหนึ่ง จึงทำให้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ดีทิ้งไป อาจไม่ได้ใจดีถึงขั้นนางเอก แต่เวลาเห็นใครมีปัญหาพี่แกก็ไม่ได้เย็นชาหรือนิ่งเฉยขนาดนั้นแล้ว เริ่มละทิ้งนิสัยจู้จี้จุกจิก อยู่ยากกินยาก นอนยาก ทำอะไรต้องเนี้ยบ มาเป็นอยู่ง่ายกินง่าย ไม่(ค่อย)เรื่องมาก หัดทำไรเอง แม้จะยังปากแจ๋ว หลงตัวเอง แต่ก็ไม่ได้น่าหมั่นไส้เท่าเมื่อก่อน(แล้วมั้ง) อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัยหรือต้องปกป้องนางเอก พระเอกก็จะพุ่งตัวออกไปก่อนคนแรกทันทีเลย

ในเล่มของตัวเองคือจบแฮปปี้ จบถึงตอนกำลังจะไปจดทะเบียนสมรส จริงๆ จะไม่เป็นไรเลยถ้าไม่ได้ไปเจอเรื่องของคู่นี้ต่อในเรื่องดีไซน์รักคุณนักออกแบบเล่ม 4 อะ แล้วคือแบบโผล่มาก็สถานะหย่าร้างเลย what??? เกิดไรขึ้นหลังจากแต่งงานกันเนี่ย งงมากพี่จ๋า ตอนแรกนึกว่าจะมีเฉลยในเล่มสแกนหัวใจแต่ไม่มีเน้อ บอกเลยว่าค้างมาก อยากรู้เลยว่าทำไมเขาถึงหย่ากันแล้วพระเอกก็ออกไปตั้งบริษัทใหม่ด้วย คือในเรื่องสแกนหัวใจเล่มสุดท้ายบริษัทพระเอกกำลังจะถูกบริษัทนางเอกซื้อควบไปรวมกิจการ เนื่องจากถูกบริษัทที่ให้บริการช่องทางการขายของออนไลน์บนเน็ตยกเลิกสัญญา ไม่ให้สินค้าของบริษัทพระเอกวางขาย เพราะบริษัทนี้อยากซื้อบริษัทพระเอกแต่พี่แกไม่ขาย พ่อนางเอกเลยยื่นขอเสนอขอซื้อแล้วแบบให้ขอเสนอที่ดีกว่า(มาก) ตอนแรกพระเอกจะไม่ขายเพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องกลายเป็นลูกน้องนางเอกหรือทำอะไรต้องผ่านความเห็นของคนอื่นด้วย กลัวว่าถ้าวันหนึ่งเลิกกันแล้วบริษัทจะเป็นไงต่อ พ่อพระเอกเลยบอกว่าไม่ต้องกลัว ถ้ามีวันนั้นก็แค่ให้ออกมาตั้งบริษัทใหม่เพราะพระเอกเก่งอยู่แล้วต้องสร้างใหม่ได้แน่นอน ...(พ่อพูดเป็นลางนะเนี่ย สรุปหลังแต่งเลิกกันจริง🤣) ไม่รู้ว่าทั้งคู่เจอมรสุมหรือปัญหาอะไรจนทำให้เดินไปถึงจุดๆ นั้น ทำให้เราสงสัยเลยอะ แต่ในเรื่องดีไซน์ดูก็รู้นะว่าพระเอกยังรักนางเอกอยู่ เหมือนวางแผนให้บริษัทใหม่ตัวเองถูกนางเอกซื้อไปอีกครั้งด้วยซ้ำแต่ต้องให้คนอื่น(นางเอกดีไซน์)ออกหน้าพูดแทน แต่มันคาใจอะอยากรู้ว่าหลังแต่งมีอะไรเกิดขึ้น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น